LOGINรถคันหรูจอดนิ่งที่หน้ารั้วสูงของคฤหาสน์หลังใหญ่ ใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่าเจ้าของคฤหาสน์หรูหราในย่านที่ดินราคาแพงหลังนี้คือท่านรัฐมนตรี ‘นพดล อนันต์เดโช’ บุคคลผู้ซึ่งมีอำนาจและทรงอิทธิพลคนหนึ่งของประเทศ
“จอดตรงนี้แหละ แล้วนายก็ลงไปได้แล้ว”
พอถึงหน้าบ้านหญิงสาวก็แผดเสียงออกคำสั่งให้ชายหนุ่มลงจากรถ
เจ้าขุนนั่งนิ่งไม่มีทีท่าว่าจะยอมทำตามที่เธอสั่ง ดวงตาคมกริบไล่สำรวจคนข้าง ๆ ก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้หญิงสาว เพ่งตามองเธอราวกับมีเรื่องอยากจะพูด
“อะไรอีก”
ดาริณแว้ดเสียงใส่พลางโยกหน้าถอยหนี แผ่นหลังบอบบางชนกับประตูรถอย่างจนมุม
“ที่เธอวางยาไอ้ทิวเขาเมื่อคืน เพราะเธอรักมันมากจนอยากได้มันเป็นผัว หรือเป็นเพราะพ่อของเธอบังคับให้จับมันให้ได้กันแน่”
“นายอย่ามาใส่ร้ายคุณพ่อฉันนะ”
“ฉันรู้นะว่าตอนนี้ครอบครัวเธอกำลังมีปัญหา แล้วบริษัทที่พี่ชายเธอบริหารอยู่ก็กำลังขาดทุนมหาศาล ที่ท่านรัฐมนตรีอยากได้ไอ้ทิวเขามาเป็นลูกเขยเพราะหวังฮั้วโครงการก่อสร้าง...ใช่ไหม”
นัยน์ตาของคนถูกเค้นสั่นระริก เธอรู้สึกโกรธเคืองคนถามเป็นอย่างมาก แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าทุกประโยคที่ออกจากปากของชายหนุ่มคือเรื่องจริงแต่เธอก็ไม่ชอบให้ใครมาว่าพ่อของเธอเสีย ๆ หาย ๆ
“นายอย่าทำมาเป็นแสนรู้ไปหมดทุกอย่าง และอีกอย่างครอบครัวของฉันจะมีปัญหาหรือไม่มีปัญหามันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย”
“ดาริณ!”
เรียกชื่อหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดพร้อมทั้งขบกรามแน่น มือหนาเอื้อมไปบีบคางมนอย่างหมดความอดทน
“ฉันไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้ เสียแรงที่...”
คำพูดของเขากลืนหายไปกับบรรยากาศน่าอึดอัด นัยน์ตาคมพลันสั่นขณะจดจ้องคนตรงหน้า
“เสียแรงที่อะไร”
เอียงคอมองหน้าเขาแล้วเอ่ยถามประสานสบตาขณะรอฟังอีกฝ่ายพูดให้จบ
ขณะนั้นรถที่เจ้าขุนสั่งให้ลูกน้องขับตามมารับก็ขับมาจอดเทียบข้างพอดี ชายหนุ่มละความสนใจจากหญิงสาวแล้วเปิดประตูลงจากรถทันที
ดาริณทำหน้าสงสัย อยากเรียกให้เขากลับมาพูดให้จบแต่คนขี้โมโหก็ขับรถออกไปเสียก่อน
“ไอ้บ้าเอ๊ย! จู่ ๆ ก็มาทำให้อยากรู้แต่ก็ไม่พูดให้จบ”
บ่นกระปอดกระแปดให้กับคนที่ทิ้งคำพูดให้เธอค้างคาใจ ก่อนจะย้ายมานั่งฝั่งคนขับแล้วขับรถเข้าบ้านของตัวเอง
@บ้านอนันต์เดโช
ร่างเล็กเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ด้วยท่าทางละล้าละลัง ยังไม่ทันได้พักหายใจหายคอคนที่นั่งรอเธอมาทั้งคืนก็กุลีกุจอเข้ามาหา
ท่านรัฐมนตรีมีใบหน้ายิ้มแย้มแถมยังไม่ตำหนิติเตียนที่ลูกสาวคนสวยไม่กลับบ้านทั้งคืน
“เป็นยังไงบ้างดาริณลูกพ่อ สำเร็จไหม”
คนอายุเยอะกว่าเอ่ยถามขณะไล่สำรวจลูกสาวตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า มุมปากที่มีริ้วรอยยกยิ้มด้วยความปลาบปลื้มใจเมื่อเห็นร่องรอยแดงจ้ำบนลำคอของบุตรสาว
แววตาสั่นเครือสบตากับผู้เป็นพ่อแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่ หัวใจดวงน้อยสั่นระรัวราวกับมีคนตีกลองอยู่ด้านใน
เธอไม่กล้าสารภาพออกไปตามตรงว่าเรื่องเมื่อคืนเกิดความผิดพลาดอย่างมหันต์
ท่านรัฐมนตรียิ้มแฉ่ง ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบศีรษะของบุตรสาว เมื่อเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนเขาจึงพูดขึ้นว่า
“สมแล้วที่เป็นลูกรักของพ่อ ลูกสาวพ่อไม่เคยทำให้พ่อผิดหวังจริง ๆ”
ฝ่ามือหนาดึงรั้งศีรษะลูกสาวมาสวมกอดจากนั้นก็เอ่ยอีกว่า
“ลูกกลับมาเหนื่อย ๆ พ่อว่าขึ้นไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะ”
ใบหน้าอิดโรยพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ทิ้งร่างกายลงบนเตียงกว้างแล้วครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ดวงตาสั่นเครือมีน้ำตาไหลรินออกมาราวกับสายธารขณะคิดถึงสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป
ใช่อยู่ที่เธออยากได้ อยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าของหัวใจของเพื่อนสนิทอย่างทิวเขา แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเจ้าตัวไม่เคยเหลียวแลเธอเลยสักนิด ความจริงเธอก็คิดจะตัดใจจากเขาแล้วด้วยซ้ำ
แต่เมื่อผู้เป็นพ่อยื่นคำขาดมาว่าถ้าไม่สามารถมัดใจทิวเขาได้เธอก็ต้องยอมแต่งงานกับคนที่พ่อเลือกให้ หญิงสาวจำต้องทำในสิ่งที่เลวร้าย นั่นคือการวางยาปลุกเซ็กส์ชายหนุ่มเพื่อเรียกร้องให้เขารับผิดชอบ แต่มันดันผิดแผนเมื่อคนที่มารับเคราะห์คือเจ้าขุน
ดาริณร้องไห้สะอึกสะอื้นเมื่อนึกถึงคำพูดของเจ้าขุนขึ้นมา
มันก็จริงอย่างที่เขาว่าทุกอย่าง เธอมันหน้าไม่อายและเห็นแก่ตัว
อีกด้าน
หลังกลับจากบ้านของดาริณเจ้าขุนก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังแถบชานเมืองซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดปทุมธานี
รถคันหรูขับเข้าไปในซอกซอยที่ค่อนข้างลึกลับซับซ้อน น้อยคนนักที่จะใช้เส้นทางนี้สัญจรเนื่องจากค่อนข้างเปลี่ยวและอันตราย เมื่อก่อนเคยมีข่าวเตือนภัยว่าถนนเส้นนี้มีคนถูกโจรดักปล้น บางข่าวก็บอกว่ามีคนเคยถูกนำมาเผานั่งยางตายทั้งเป็น แต่สำหรับเจ้าขุนเขาคุ้นชินกับเส้นทางนี้เป็นอย่างดี
รถซูเปอร์คาร์คันงามขับเข้าไปจอดในบริเวณโรงงานแห่งหนึ่งซึ่งเป็นเพียงโรงงานขนาดเล็กที่ดูภายนอกสุดแสนจะธรรมดาแทบไม่มีความโดดเด่นหรือน่าสนใจ แต่ใครจะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วสถานที่แห่งนี้มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ด้านใน
บริเวณภายนอกตลอดแนวรั้วของโรงงานติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นตรงบริเวณกำแพงยังมีคนยืนเฝ้ายามและเดินตรวจตราอยู่ตลอดเวลาจึงเป็นเรื่องยากที่คนแปลกหน้าจะเข้าออกยังสถานที่แห่งนี้ก่อนได้รับอนุญาต
ร่างสูงลงจากรถแล้วเดินเข้าไปตรงประตูด้านหน้าอาคารซึ่งมีลักษณะคล้ายกับประตูออฟฟิศ โดยที่นี่จะมีทางเข้าออกแค่สองทาง จุดแรกคือประตูด้านหน้าที่เจ้าขุนกำลังใช้งานอยู่ตอนนี้ซึ่งมีไว้ให้คนส่วนใหญ่ใช้เดินผ่านเข้าออกในยามปกติ ส่วนอีกจุดคือทางเข้าออกด้านหลังทว่าจุดนั้นจะถูกใช้งานในยามฉุกเฉินเท่านั้น
“สวัสดีครับนายน้อย”
ชายฉกรรจ์ผู้ซึ่งทำหน้าที่คอยตรวจตราอยู่ตรงหน้าประตูโค้งศีรษะทำความเคารพผู้ที่เดินผ่าน ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของอาคารโดยมีลูกน้องคนหนึ่งซึ่งตามเขามาจากเพ้นท์เฮ้าส์เดินตามหลัง
เขาเดินเข้าไปยังห้องที่ถูกจัดตกแต่งเป็นห้องทำงานมีโต๊ะคอมพิวเตอร์และตู้เก็บเอกสารตั้งเรียงรายอยู่รอบข้าง
หลังนั่งลงบนเก้าอี้เขาก็เอ่ยปากสั่งลูกน้องที่ตามมาด้วย
“ไปเรียกคุณจรณมาหน่อย”
“ครับ”
นั่งรอเพียงไม่นานคนที่เขาให้ไปตามก็เดินเข้ามาในห้อง ร่างสูงของคนอายุสามสิบต้น ๆ เดินค้อมตัวเข้าใกล้โต๊ะทำงานของคนอายุน้อยกว่า ก่อนจะวางสมุดบัญชีไว้บนโต๊ะพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“สรุปบัญชีของเดือนที่แล้วครับ”
“ผมไม่อยากอ่าน ช่วยสรุปให้ผมฟังที”
ชายหนุ่มพูดด้วยถ้อยคำราบเรียบทว่าน้ำเสียงกลับดูทรงพลังจนน่ากลัว
'จรณ' กลืนน้ำลายลำบาก จากนั้นก็เริ่มอธิบายถึงสิ่งที่คนเป็นนายต้องการทราบ
“เดือนที่แล้วบ่อนของเรามีรายได้ทั้งหมดสองร้อยห้าสิบล้านบาท เป็นเงินรายได้จากนักพนันหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท ส่วนที่เหลือมาจากดอกเบี้ยเงินกู้ครับ”
คนฟังยกยิ้มพึงพอใจ หลังฟังลูกน้องกล่าวรายงานเรื่องรายได้ที่เติบโตขึ้นมากจนน่าเหลือเชื่อ ก่อนรอยยิ้มนั้นจะเลือนหายไปอย่างฉับพลันเมื่อฟังประโยคต่อจากนั้น
“แต่ก็ยังมีเรื่องที่ติดปัญหาอยู่ครับ”
หลังเสร็จงานจากบ่อนเจ้าขุนก็ขับรถกลับเพ้นท์เฮ้าส์ ร่างสูงเหยียดกายนอนราบบนโซฟาตัวยาว แขนแกร่งข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมาวางพาดบนหน้าผาก ดวงตาเพ่งมองเพดานอย่างเลื่อนลอย จู่ ๆ ภาพเมื่อคืนก็ฉายขึ้นมาในหัว พอมีเวลาได้คิดทบทวนเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าความจริงแล้วเมื่อคืนมันคือครั้งแรกของดาริณ ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะผ่านผู้ชายมาอย่างโชกโชนเสียอีก ขณะกำลังนอนคิดถึงเรื่องเมื่อคืนหัวสมองก็พลันคิดเลยเถิดไปถึงความเร่าร้อนที่เกิดขึ้น เรือนร่างอรชรที่ไม่ว่าจะมองส่วนไหนก็ดูสวยไปหมดมันตราตรึงหัวใจชะมัด จู่ ๆ คนหน้านิ่งก็คลี่ยิ้มอย่างไม่รู้ตัว ครืด! ครืด! เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขัดจังหวะความคิด ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบมากดรับสาย “ครับน้าอร” [ฮัลโหลหลานรัก เป็นไงบ้างจ๊ะไม่ได้เจอกันตั้งนานคิดถึงจังเลย] “ผมก็คิดถึงน้าอรเหมือนกันครับ” [ไม่ต้องมาทำเป็นปากหวาน คิดถึงน้าแต่ไม่เห็นโทรมาหาน้าบ้างเลย ดูซิมีแต่น้าโทรหาอยู่ฝ่ายเดียว] “โธ่! ก็ช่วงนี้เรียนหนักนี่นา ไหนจะต้องดูแลงานที่บ่อนแทนแดเนียลอีก” [อย่าทำเป็นเอาชื
“เรื่องอะไร” “เรื่องคุณดาวิทย์ ลูกชายคนโตของท่านรัฐมนตรีนพดลครับ” “ติดปัญหาอะไร” “ตอนนี้คุณดาวิทย์อยากกู้เงินเพิ่มครับ” “ก็ให้กู้ไป” “แต่หนี้เก่ายังค้างอยู่เลยนะครับ แม้แต่ดอกเบี้ยก็ยังไม่คืนสักบาท จนตอนนี้ดอกเบี้ยที่ค้างอยู่จะเท่าเงินต้นที่ยืมไปแล้วครับ” “ของเก่ายังเหลืออยู่เท่าไหร่” “รวมดอกเบี้ยตอนนี้ก็สิบห้าล้านแล้วครับ” คิ้วเข้มขมวดมุ่นเป็นกังวล คนที่พวกเขากำลังพูดถึงเป็นลูกชายคนโตของท่านรัฐมนตรีนพดล หรือก็คือพี่ชายแท้ ๆ ของดาริณ ‘ดาวิทย์’ เพิ่งมาเป็นลูกค้าของบ่อนเมื่อประมาณหกเดือนก่อน ตอนแรกเจ้าขุนก็ไม่รู้หรอกว่าเขาคือพี่ชายของดาริณ เพราะปกติไม่ค่อยได้ลงไปสุงสิงกับลูกค้าด้านล่าง มาทีไรก็นั่งอยู่แต่ที่โต๊ะทำงานแล้วดูกิจกรรมทุกอย่างของบ่อนผ่านกล้องวงจรปิด เขาเพิ่งรู้ว่าดาวิทย์เข้ามาใช้บริการที่บ่อนเมื่อเดือนที่แล้วตอนที่เจ้าตัวเอาชื่อผู้เป็นพ่อมาอวดอ้างเพื่อขอกู้ยืมเงินห้าล้านไปต่อทุน ผ่านมายังไม่ถึงเดือน จากหนี้ห้าล้านบาทตอนนี้กลายเป็นสิบห้าล้านบาทไปแล้ว เจ้าขุนพ
รถคันหรูจอดนิ่งที่หน้ารั้วสูงของคฤหาสน์หลังใหญ่ ใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่าเจ้าของคฤหาสน์หรูหราในย่านที่ดินราคาแพงหลังนี้คือท่านรัฐมนตรี ‘นพดล อนันต์เดโช’ บุคคลผู้ซึ่งมีอำนาจและทรงอิทธิพลคนหนึ่งของประเทศ “จอดตรงนี้แหละ แล้วนายก็ลงไปได้แล้ว” พอถึงหน้าบ้านหญิงสาวก็แผดเสียงออกคำสั่งให้ชายหนุ่มลงจากรถ เจ้าขุนนั่งนิ่งไม่มีทีท่าว่าจะยอมทำตามที่เธอสั่ง ดวงตาคมกริบไล่สำรวจคนข้าง ๆ ก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้หญิงสาว เพ่งตามองเธอราวกับมีเรื่องอยากจะพูด “อะไรอีก” ดาริณแว้ดเสียงใส่พลางโยกหน้าถอยหนี แผ่นหลังบอบบางชนกับประตูรถอย่างจนมุม “ที่เธอวางยาไอ้ทิวเขาเมื่อคืน เพราะเธอรักมันมากจนอยากได้มันเป็นผัว หรือเป็นเพราะพ่อของเธอบังคับให้จับมันให้ได้กันแน่” “นายอย่ามาใส่ร้ายคุณพ่อฉันนะ” “ฉันรู้นะว่าตอนนี้ครอบครัวเธอกำลังมีปัญหา แล้วบริษัทที่พี่ชายเธอบริหารอยู่ก็กำลังขาดทุนมหาศาล ที่ท่านรัฐมนตรีอยากได้ไอ้ทิวเขามาเป็นลูกเขยเพราะหวังฮั้วโครงการก่อสร้าง...ใช่ไหม” นัยน์ตาของคนถูกเค้นสั่นระริก เธอรู้สึกโกรธเคืองคนถามเป็นอย่างมาก แม้จ
เช้าวันต่อมา แสงแดดอ่อนโยนยามเช้าเล็ดลอดเข้ามาทางหน้าต่างห้องนอน ร่างเล็กค่อย ๆ ลืมตาตื่นจากภวังค์แห่งฝัน ก่อนจะลุกพรวดขึ้นนั่งเมื่อภาพเมื่อคืนมันแวบเข้ามาในหัวสมอง “โอ๊ย!” เธอรู้สึกเจ็บหน่วงตรงกลางหว่างขาขึ้นมาเพียงเพราะขยับร่างกายอย่างฉับพลัน “ตื่นแล้วเหรอ” ชายหนุ่มยืนอยู่มุมห้องที่เป็นกระจกใสซึ่งตรงนั้นสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกล นัยน์ตาคมไล่สำรวจร่างเล็กแล้วลอบยิ้ม ก่อนจะนั่งลงตรงโซฟาทรงโมเดิร์นซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ กัน เรียวขายาวขยับเป็นท่านั่งไขว่ห้าง จากนั้นเขาก็ยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบอย่างสบายใจ ทั้งสบายใจแล้วก็สบายตัวเลยล่ะ เพราะเมื่อคืนเขาได้ปลดปล่อยไปหลายน้ำ ดาริณช้อนตามองคนร้ายกาจที่กระทำรุนแรงกับเธอทั้งคืนราวกับสัตว์ป่าหิวโหย เธอตั้งท่าจะลุกจากเตียงนอนแต่ต้องหยุดชะงักกลางคันเมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองยังเปลือยกายล่อนจ้อน หญิงสาวกระชับผ้าห่มคลุมตัวจากนั้นก็เอ่ยเสียงแข็ง “ฉันจะกลับบ้าน” “ใครห้าม” ไม่มีใครห้ามแต่จะให้เธอเดินแก้ผ้าไปรึไงกัน หญิงสาวทำท่าทางฮึ
มือหนาประคองตัวตนที่ตั้งผงาดด้วยฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กส์แล้วชักรูดสองสามครั้ง ดวงตาคมกริบเพ่งพิศเรือนร่างสวยด้วยความลุ่มหลง ดาริณสวยไปหมดทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นสองเต้าอวบนูนขนาดเต็มไม้เต็มมือ หรือผิวกายขาวผุดผ่องและร่องรูเนียนกริบสีชมพู ชายหนุ่มรู้สึกคอแห้งผากกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ เห็นแล้วอยากดูดเลียร่องรักของดาริณให้สาแก่ใจเอาให้เธอร้องครวญครางเสียงหลงไม่เป็นภาษา แต่ก็ติดตรงที่ตอนนี้อารมณ์มันพลุ่งพล่านเกินกว่าจะมัวมาเสียเวลาทำอย่างอื่น ตอนนี้ขอเอาก่อนละกัน เรื่องอื่นเอาไว้ค่อยหาโอกาสทำทีหลัง เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงบ้วนน้ำลายลงบนฝ่ามือของตัวเอง จากนั้นก็เอาไปถูชโลมบนเอ็นแท่งใหญ่ จ่อปลายเอ็นไว้ตรงปากทางร่องกลีบที่ยังปิดสนิทแล้วถูไถเพิ่มความกระสันเสียวให้เธอ “นายช่วยอ่อนโยนกับฉันหน่อยนะ” ทำเป็นมาร้องขอความอ่อนโยนทั้งที่เธอมันกร้านโลกซะขนาดนี้ เจ้าขุนแค่นหัวเราะอย่างนึกดูถูกในตัวหญิงสาว อ่อนโยนบ้าบออะไรเขาไม่เคยอ่อนโยนกับใคร นอกจากไม่ตอบเจ้าขุนยังส่งลำเอ็นเข้าไปในร่องรักทันที เรื่องแบบนี้ไม่มีใครเขาประนีประนอมกันหรอก ไม่อย่างนั้
‘ข่าววงในเขาลือกันว่าลูกสาวคนสวยของท่านรัฐมนตรีคนดังตอนนี้กำลังกุ๊กกิ๊กอยู่กับหนุ่มนักศึกษาคณะที่มีเกียร์ห้อยคอ บอกเลยว่าหนุ่มหล่อคนนี้ดีกรีไม่ธรรมดา เป็นถึงลูกชายของเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่ของประเทศ เห็นโปรไฟล์แล้วรับรองว่าท่านรัฐมนตรียอมไฟเขียวให้แน่นอน แถมแหล่งข่าวยังบอกอีกด้วยว่าหลังเรียนจบทั้งคู่เตรียมบินลัดฟ้าไปเรียนต่อที่ต่างประเทศด้วยกัน เห็นแล้วมันหนึบหนับหัวใจเสียจริง นี่แหละนะที่เขาเรียกว่าคู่สร้างคู่สมของแท้’ จู่ ๆ ก็มีข่าวการคบหาดูใจกันระหว่างคนสองคนซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน ด้านหนึ่งคือ ‘ดาริกา อนันต์เดโช’ หรือ ‘ดาริณ’ ลูกสาวคนสวยของท่านรัฐมนตรีคนดังผู้ซึ่งกุมอำนาจหลายฝ่ายในรัฐบาล อีกด้านคือ ‘อนาวัฒน์ เตมรไพศาล’ หรือ ‘ทิวเขา’ ทายาทเพียงคนเดียวของอาณาจักรธาดากรุปกลุ่มบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศ ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งคู่เหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยกทั้งที่แท้จริงแล้ว ทั้งคู่เป็นเพียงเพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเท่านั้น อีกอย่างทางฝ่ายชายก็มีคนรักอยู่แล้วด้วย แต่ไม่รู้ทำไมข่าวโค







