Masuk"ไม่!!!ได้โปรดนะรีนนะ ข้าวจะไม่ยุ่งอะไรกับรีนอีกเลย"
"ใช่ๆพวกเราจะไม่ยุ่งอะไรกับรีนอีกเลย ปล่อยเราไปเถอะนะ" สองเสียงร้องประสาน หวาดกลัวจนเนื้อตัวสั่นระริก บอดี้การ์ดชุดดำเข้าควบคุมล็อคตัวแน่นติดพนักเก้าอี้ เมื่อหญิงสาวตรงหน้ารับอาวุธมีดจากชายหนุ่มร่างสง่า นำมาถือควงเล่นเป็นภาพชวนหวาดเสียว ทุกคนพอทราบดีว่าเธอคือทายาทมาเฟียรุ่นใหญ่ แต่ใครจะนึกว่าภาพลักษณ์สาวนักดีไซเนอร์ ดันดึงพันธุกรรมถ่ายทอดเสมือนทั้งหมด "ฉันปล่อยไปอยู่แล้วไม่ต้องห่วงนะแต่...." มารีนลากเสียงยาว ชวนคนฟังหัวใจแทบหยุดเต้น ลุ้นความคิดของเธอปานเสี่ยงทาย อยากได้หนทางที่ดีกระทั่งลืมผลการกระทำตัวเอง "แต่อะไรรีนว่ามาเลย" ข้าวฟ่างฉีกยิ้มกว้าง ในตอนมีหนทางเอาชีวิตรอดออกไป พยักหน้าให้เพื่อนสาวประเภทสองอดทนรอ "นั่นสิว่ามาเลย เราทำได้ทุกอย่าง" ปริ่มช่วยพูดตามกัน พยามหว่านล้อมขอเมตตา แล้วเป็นจังหวะเดียวกับชายชุดดำช่วยกันยกโต๊ะ นำมาวางไว้ตรงหน้าแก่ผู้ร้ายทั้งสอง ซายน์กระตุกยิ้มมุมปาก มองดูลูกกระต่ายตัวน้อยเลียนแบบสัญชาตญาณของราชสีห์ ทิ้งกายตรงที่นั่งมุมมืดเผยแสงไฟปลายมวนบุหรี่สลัว "อยากรู้ใช่ไหมล่ะว่าแต่อะไร" น้ำเสียงหวานบอกราบเรียบ กระตุ้นการอยากมีชีวิตรอดผู้กระทำผิด "......" ทุกคนพยักหน้าพร้อมเพียง กระพริบตาปริบเรียกความเวทนา "ต้องตัดนิ้วชั่วก่อนไง เก็ทไหมอีพวกโง่!!!" ท่าทางดุจนางพญาพิโรธหนัก ขยับใบหน้าสวยแดงช้ำจ้องดวงตาสองคู่อย่างเอาจริง มารีนสะบัดหน้าสั่งลูกน้องจับมือของสองคนวางราบบนโต๊ะ มีร่องรอยคราบเลือดแห้งกระจาย บ่งบอกว่าพวกเขาไม่ได้โดนเป็นรายแรก กดบังคับให้ห้านิ้วกลางแยกจากกัน "กรี๊ดดม่ายย/อย่ายยย" เสียงกรีดร้องแผดสนั่น จู่ๆหนทางรอดดับพังทลาย ดีดดิ้นหวังหลุดพันธนาการ แต่พละกำลังย่อมน้อยกว่าคนจับกุม ใบหน้าทั้งสองซีดเผือกหยาดน้ำตาไหลอาบแก้ม "ช่วยไม่ได้นะ นิ้วชั่วๆพวกนี้อยากตบฉันก่อนเอง" มือบางจับด้ามอาวุธ ใช้ปลายแหลมปักกระแทกคาบนโต๊ะไม้ แกล้งกดน้ำหนักอีกหน่อย เฉียดฉิวปลายนิ้วไปนิดเดียว "กรีดดดได้โปรดรีน..ขอร้อง" ข้าวฟ่างแทบสติแตก ส่ายหน้าไปมาไร้ทิศทาง กรีดร้องตัวสั่นเทา หมดสภาพนางแบบสาว "มารีนนะ กราบแล้วอย่าทำเลย ถ้าจะทำก็ตัดนิ้วอีข้าวคนเดียวมันคือคนต้นคิด" จากบทเพื่อนสนิทผันแปรทรยศ สาวไส้ถึงผู้ริเริ่ม ในเมื่อเขาเองแค่สนองอารมณ์เพราะอิจฉาแค่นั้น เหตุใดต้องรับโทษถึงขั้นพิการ "อีปริม!อีเพื่อนเวร มึงน่ะบอกกูว่าเล่นหน้ามันก่อนไง" "มึงนั่นแหละอีข้าว มึงบอกเองว่าจะทำให้ลูคัสลืมมารีน มึงถึงหลอกมอมเหล้ามันก่อนต่างหาก" เมื่อผู้ร้ายทั้งสองเริ่มถกเถียง ความลับต่างๆทยอยรั่วไหล ด้วยปากผู้กระทำเสียเอง ใบหน้าสวยกระตุกยิ้มร้าย การแย่งมีชีวิตอยู่ของบุคคลน่าสังเวท ตวัดอาวุธมีดดีดขึ้นควงเล่น แม้ใจดวงน้อยอ่อนเอนช่วงประโยคสำคัญ "อีปริ่ม!!!มึงหยุดเดี๋ยวนี้ อีเพื่อนชั่วมึงบอกมันทำไม" ข้าวฟ่างหันกระซิบบอก พยามเตือนสติคนสมรู้ร่วมคิด แผนการณ์ผ่านมาได้สำเร็จ บัดนี้นายแบบหนุ่มออกตัวให้สถานะ "มึงนั่นแหละอีชั่ว!!จะพากูตายอยู่แล้ว คัสมันรักมารี.."ปั้ง!!! ไม่ทันที่ถ้อยคำจะเอื้อนเอ่ยบอกความหมาย กระสุนปืนลั่นไกผ่านระหว่างกลางศรีษะของข้าวฟ่างกับปริ่ม ทั้งสองสะดุ้งกอดกันกลม นึกว่าหมดสิ้นชะตากรรมหลับตาปี๋กลัวมืดมน "จะเสียเวลาฟังอีพวกหนอนแมลงวันตอมทำไม" ซายน์โยนกระบอกปืนส่งให้วินรับช่วงต่อ เดินตรงปรี่หาหญิงสาว ด้วยใบหน้าสากไม่สบอารมณ์ นัยน์ตาคมเดือดสับเฉื่อนผู้ร้าย หากกระทำต่อเขาคงปลิดชีพทิ้งตั้งแต่วันเกิดเหตุ "แค่ตัดนิ้วมันจะพอจริงๆน่ะเหรอ" คำพูดข่มขู่ของมารีน ทว่าใบหน้าเจื่อนเกิดความรู้สึกสงสาร ถ้าบุคคลตรงหน้ากลายเป็นผู้พิการตลอดชีวิต แค่รอยช้ำเล็กน้อยแลกกับบทเรียนที่สองคนนี้ได้รับ ถือว่ามากเพียงพอแล้ว ส่อแววตาอ่อนยวบให้ชายหนุ่มช่วยพิจารณา ไม่ได้เหลียวมองอีกฝ่ายรอฟัง ต่างปล่อยน้ำตาแย่งกันขัดขืน หมายมุ่งคว้าแขนร่างอรชรอ้อนวอน "งั้นฉันส่งให้ไปบำเรอในบ่อนเอาไหม" บทลงโทษทรมานยิ่งกว่าตกขุมนรก เพราะรู้ดีว่านักพนันต่างเชื้อชาติเสพติดเซ็กส์ขั้นรุนแรง แต่ยอมจ่ายค่าใช้บริการไม่อั้น แต่ก็ยังมีสาวนางแบบหุ่นดี แวะเวียนหารายได้เสริม "........" เธอมองดูหน้าเพื่อนร่วมรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกันครั้งสุดท้าย ก่อนจับด้ามอาวุธมีดแน่นเกร็ง จนซายน์ยอมโบกมือลูกน้องถอยห่าง เหลือเพียงไม่กี่คนรอล็อคตัวไว้ "แกตบฉันด้วยมือขวา ฉะนั้นเอาเลือดชั่วมันออกไถ่โทษแล้วกันเนอะอีควาย!"กริบ! "กรี๊ดดดดดด" ปริ่มกรีดร้องสุดเสียง ปลายคมมีดเฉื่อนฝ่ามือเป็นทางยาว เลือดสีแดงกระเซ็นเลอะ สั่นระรัวกลัวบาดแผล ข่มขู่อีกคนด้านข้างส่ายหน้าปานเสียสติ "ไม่นะ!รีนนะ ข้าวจะไม่ยุ่งแล้ว...กรี๊ดดดด"กริบ! เธอไม่เสียเวลาเอ่ยบอกอีกแล้ว ตวัดปลายแหลมนิดเดียว สร้างรอยยาวน่าหวาดกลัวเฉียบพลัน หยาดเลือดสาดกระจาย ฝ่ายได้รับผลกรรมหมดสติแน่นิ่ง "ช่วยไม่ได้...รอบหน้าฉันจะตัดมือพวกแกเองอีข้าวเน่า!" คนบอกโยนอาวุธทิ้งต่อหน้าปริ่ม กดดันข่มขู่ให้สุดทาง แล้วโบกมือสั่งบอดี้การ์ดเคลียร์จัดการต่อ "โหดได้ลุงชาร์คของจริง" คนตัวสูงพูดขึ้น คว้าลำคอระหงโอบแนบแผงอกกว้าง พาก้าวเดินกลับขึ้นรถสปอร์ตคันหรู "แล้วนายล่ะ ทะลึ่งได้ใคร" เธอไม่ทันได้เอื้อมคาดเข็มขัดนิรภัยดี ซายน์กลับโน้มตัวจัดการให้ทั้งหมด~ก้อนเนื้อข้างซ้ายพลอยสั่นไหว การปฎิบัติต่อกันเล็กๆน้อยๆ ราวใส่ใจคนสำคัญ ก่อความรู้สึกตีตื้นผ่านผิวหน้าสวยอมแดง~ "ไม่รู้นะ แต่พอได้เปิดซิงเธอแล้ว ก็อยากกระแทกแมร่งทุกเวลาเลยเรื่องจริง" เขาหลงลืมการสงวนท่าทีต่อสตรีข้างกายตั้งแต่เมื่อไหร่มิอาจรู้ ฝ่ามือหนากดลดอุณหภูมิเย็บเฉียบ ดับเลือดร้อนกายชายแล่นพล่าน "ลูกตาคนไม่ใช่ปลากัดจ้องจะผลิตไข่อย่างเดียว" "ช่วยไม่ได้...ความเงี่ยนมันอยู่ในสายเลือด" "อื้อ...อ่อยย..ก่อน.." คนตัวสูงไม่รอช้า โน้มท้ายทอยเล็กเข้าหา ปิดปากจูบแนบแน่น ส่งลิ้นสากพุ่งจู่โจมทักทาย..........................
"ไม่!!!ได้โปรดนะรีนนะ ข้าวจะไม่ยุ่งอะไรกับรีนอีกเลย""ใช่ๆพวกเราจะไม่ยุ่งอะไรกับรีนอีกเลย ปล่อยเราไปเถอะนะ" สองเสียงร้องประสาน หวาดกลัวจนเนื้อตัวสั่นระริก บอดี้การ์ดชุดดำเข้าควบคุมล็อคตัวแน่นติดพนักเก้าอี้ เมื่อหญิงสาวตรงหน้ารับอาวุธมีดจากชายหนุ่มร่างสง่า นำมาถือควงเล่นเป็นภาพชวนหวาดเสียว ทุกคนพอทราบดีว่าเธอคือทายาทมาเฟียรุ่นใหญ่ แต่ใครจะนึกว่าภาพลักษณ์สาวนักดีไซเนอร์ ดันดึงพันธุกรรมถ่ายทอดเสมือนทั้งหมด"ฉันปล่อยไปอยู่แล้วไม่ต้องห่วงนะแต่...." มารีนลากเสียงยาว ชวนคนฟังหัวใจแทบหยุดเต้น ลุ้นความคิดของเธอปานเสี่ยงทาย อยากได้หนทางที่ดีกระทั่งลืมผลการกระทำตัวเอง"แต่อะไรรีนว่ามาเลย" ข้าวฟ่างฉีกยิ้มกว้าง ในตอนมีหนทางเอาชีวิตรอดออกไป พยักหน้าให้เพื่อนสาวประเภทสองอดทนรอ"นั่นสิว่ามาเลย เราทำได้ทุกอย่าง" ปริ่มช่วยพูดตามกัน พยามหว่านล้อมขอเมตตา แล้วเป็นจังหวะเดียวกับชายชุดดำช่วยกันยกโต๊ะ นำมาวางไว้ตรงหน้าแก่ผู้ร้ายทั้งสอง ซายน์กระตุกยิ้มมุมปาก มองดูลูกกระต่ายตัวน้อยเลียนแบบสัญชาตญาณของราชสีห์ ทิ้งกายตรงที่นั่งมุมมืดเผยแสงไฟปลายมวนบุหรี่สลัว"อยากรู้ใช่ไหมล่ะว่าแต่อะไร" น้ำเสียงหวานบอกราบ
ผับSK"พวกไอคินไปไหน" ซายน์เอ่ยถามทันที เมื่อมาถึงโซนวีไอพีกลับไม่มีใครนอกจากฮาเกนเท่านั้น ค่ำคืนนี้ใบหน้าเขาดูจริงจัง ราวโกรธแค้นยามพี่สาวถูกรังแก ยิ่งต้องเก็บกลั้นอารมณ์ไม่อยากแพร่งพรายให้บุพการีรู้ บนโต๊ะมีเพียงขวดเหล้าคู่น้ำแข็งเปล่าเท่านั้น บ่งบอกสถานะการณ์ตึงเครียดมากกว่าผ่อนคลาย ร่างสูงรีบนั่งฝั่งตรงข้าม เทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กระดกเพรียว ปลดกระดุมเสื้อต่ำราวกล้ามท้อง"อุ้มสำเร็จแล้วใช่ไหม" คำถามราบเรียบฉายแวงอำมหิตผ่านน้ำเสียงขุ่น ซายน์รีบหนีแอบออกจากบ้าน หลังหญิงสาวรับประทานยาแก้อักเสบ พ่วงฤทธิ์นอนหลับสนิท มีบอดี้การ์ดร่ายล้อมสถานที่พักอาศัย"อยู่หลังบ่อน ไม่ให้ผมปิดปากมันซะเลยล่ะ" ตอนลูกน้องส่งผู้ที่ทำร้ายพี่สาวเข้าโกดังลับ คนอย่างเขาย่อมจัดบทลงโทษสถานแรกให้ผู้เยือน ฮาเกนกระตุกยิ้มเยือกเย็น พลางนึกถึงสาวประเภทสองกรีดร้องปางตาย โดนทรมานมัดลำตัวติดชะงักเก้าอี้เก่าๆ ส่วนนางแบบสาวหวาดกลัวจนสลบแน่นิ่ง "ตายเร็วจะไปสนุกอะไร เหล้าแมร่งรสชาติดีนะ" ระหว่างรุ่นพี่กระดกแก้วดื่ม เขาไม่มีทางรู้ตัวเลยว่าได้เปิดเผยร่องรอยพิษสวาทตรงบ่ากว้าง อีกฝ่ายต่างเก็บรายละเอียดดีเยี่ยม รวมถึงสัดส
@ บ้านซายน์ หลังบังคับคนตัวสูงด้วยการอยากกลับบ้านพักผ่อน ทั้งที่เขาจะตามเอาเรื่องพวกคนร้าย ยังไม่ทันเห็นหน้าในภาพวงจรปิดสักเสี้ยวเดียว คนตัวเล็กรีบชิ่งขึ้นรถโบกไล่ยามผู้หวังดี"ถามจริงๆเหอะ แทนที่จะทำแผลก่อน นี่เธอดันกลัวหน้าไม่สวยเนี้ยนะ" เขาก็ตกใจอยู่เหมือนกัน ตอนมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่คนบาดเจ็บถามหานั่นคือกระเป๋าครีมบำรุงในรถตัวเอง เขาเร่งจัดการใช้วินลูกน้องคนสนิทเตรียมสถานที่ส่วนตัว ให้เธอมีหน้าที่แค่ขึ้นบ้านไปอาบน้ำ รอทานข้าวมื้อค่ำพร้อมอุปกรณ์ทำแผลเท่านั้น"ตากแดดทั้งวันหน้าไม่ดำก็ให้รู้ไปสิ" ร่างอรชรในชุดนักศึกษาก้าวเท้าขึ้นบรรไดอ้อยอิ่ง ชะโงกหาสัตว์สี่เท้า แทบเป็นเพื่อนคนนึงยามเหงา เวลาเจ้าของบ้านไม่อยู่"เธอจะเอาอะไร" เขาไม่ใช่พระเอกดั่งในละคร ถึงเดาความประสงค์นางเอกทุกบทบาทได้ดี"ไลล่าลูกสาวฉันล่ะ" "ทีงี้เรียกลูกสาวได้เต็มปาก""คนถามดีๆนะซายน์!""ลูกน้องฉันพามันไปเดินเล่นอยู่ หัดใจเย็นหน่อยดิ" พอเข้าห้องพื้นที่ส่วนตัวได้ ร่างอรชรล้มนอนแผ่หราบนเตียงกว้าง สูดกลิ่นน้ำหอมชายติดผ้าปู ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าไร้กังวล ชนิดดั่งสารเสพติดคุ้นเคย พลางหยิบโทรศัพท์มือถือกดต่อสายหาบุ
"เจอสักทีนะอีรีน!" ข้าวฟ่างรีบออกจากมุมมืด ใช้เพื่อนสาวประเภทสองวิ่งดักหน้าไม่ให้มีหนทางหลบหนี"ก็ฉันไง ตาฟาดเห็นเป็นตานีเหรอ" ปากจัดแจ่มแจ้งไม่ได้เกรงกลัวอะไร มารีนกดดีดกุญแจรถหรูหวังว่าปลายแหลมพอช่วยเป็นอาวุธ เผื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายกระทันหัน "ปากดีอย่างนี้ โดนกรีดหน่อยเป็นไง" ปริ่มเพื่อนสนิทข้าวฟ่าง ชูมีดคัตเตอร์สะท้อนความคมกริบ ผ่านแสงไฟสปอร์ตไลท์ คาดว่าแค่ผ่านสัมผัสคงบาดลึกถึงชั้นเนื้อเยื่อผิว"อย่าหมาหมู่ดิ...อีควาย!" นอกจากกุญแจรถในมือ เธอยังมองหาสิ่งของรอบตัว รวบรวมสติของการฝึกป้องกันตัวชั้นสูง เพ่งเล็งคู่กรณีไม่ยอมความให้เสียศักดิ์ศรีหญิงมาดมั่น"เอามันเลยปริ่ม มันกล้าด่าปริ่มก่อน" ข้าวฟ่างเริ่มส่งเสียงยัวยุ กลางมือต้อนให้มารีนก้าวถอยหลัง"อยากโง่โดนอีข้าวเน่าหรอกใช้ก็เข้ามาอีโง่!""มึงเละแน่อีรีน!" ปริ่มวิ่งเข้ากระชากผมยาวสลวย แรงมหาศาลทำเธอเชิดตามกักเก็บอาการเจ็บ แต่สองมือบางรั้งข้อมือถือมีดไว้ พลางจับปลายกุญแจกระแทกใส่ลูกกระเดือกอีกฝ่าย"อึก!!!" ถึงแรงไม่มากไปกว่าปริ่ม แต่ก็กระทบลึกหลอดลม เขารีบกุมลำคอคล้ายหายใจติดขัด ปล่อยมีคัตเตอร์ล่วงหล่นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้"อีรีน!กล้
"แหละแล้วก็ถึงแก่เวลาที่เหมาะสม กรรมการจะเริ่มประกาศคะแนนนับบัดนี้" พิธีกรบนเวทีพูดใส่ไมค์โครโฟน ดึงความเงียบเพื่อให้ทุกคนรับฟัง เฝ้ารอใจจดใจจ่อ ระหว่างนั้นดวงตากลมเหลือบเห็น พื้นที่ติดขอบเวทีมีข้าวฟ่างส่งดอกไม้ให้นายแบบ ประมาณประกาศสถานะตัวเอง ท่ามกลางแฟนคลับคนอื่นเบะปากราวหมั่นไส้"รางวัลรองชนะเลิศอับดับที่สองของความคิดสร้างสรรค์คือ...คณะสื่อสารมวลชนครับ" แล้วเสียงตบมือก็ดังลั่น ตามด้วยเหล่านักศึกษากรีดร้อง แม้แต่ผู้เข้าแข่งขันคณะอื่นยังตบมือยินดีชื่นชม"ยัยรีนใจฉันเต้นแรงมากเลย เราจะได้รางวัลไหมอะแก" เยลลี่บีบมือเพื่อนสาวแน่นตึง ค่อนข้างลุ้นคะแนนกันหนักหน่วง เสียงลมใจแทบหยุดตามจังหวะพิธีกรป่าวประกาศ"ได้ไม่ได้ก็เอาสักอย่างแหละ ตอนนี้ใครจะกล้าขึ้นไปรับรางวัลก่อน" ถึงเธอจะเป็นตัวเกร็งในคณะ หากได้รับรางวัลต้องขึ้นบนเวที ใครจะกล้ายืนข้างกรรมการใบหน้าราวเฒ่าหัวงูผ่านชุดเครื่องแบบจัดเต็ม ยิ่งใหญ่กว่าอธิบดีมหาวิทยาลัย"กลัวคนเยอะน่ะสิไม่ว่า" ซายน์พูดเชิงท้าทาย นัยน์ตาคมสะท้อนเปลวไฟ ยามกระทบแสงอ่อนช่วงเย็น ยิ่งผู้คนเยอะยิ่งเบียดเสียดร่างอรชร ใช้ลิ้นสากดุนกระพุ้งแก้มข่มขู่"นายท้าผิดคนแล
"นั่นสิจะพลาดทำไม" ไม่ใช่เสียงของบุคคลแถวนี้ ทว่าเป็นของผู้มาเยือนตึกคณะคนใหม่ นั่นคือมารีนเอง มือบางยังกำเสื้อช็อปสีเลือดหมูแน่น ช่วงอากาศร้อนๆไม่แพ้ข้างในใจระอุกว่า พอชายหนุ่มบอกว่าต้องรีบใช้ เธอก็วานช่างแต่งกายบวกกับเพื่อนสาวดูแลงานต่อ หากอาจารย์คณะเขาเอ็ดดุ จะได้ไม่เสียเวลาอธิบาย แม้รู้ทั้งรู้มหาวิทยาลัยเกือบทั้งหมดจะเกรงใจตระกูลมาเฟียก็ตาม"อ้าว...น้องรีนเอง แล้วนั่นเสื้อช็อปใครว่ะ" คิริวที่เล็งเธอดั่งเป้าหมาย ส่งขนมจีบตั้งแต่สมัยปีหนึ่ง รีบจ้ำอ้าวมาระยะใกล้ ก้มหมายสำรวจป้ายชื่อบุคคลต้องสงสัย"ฝากไปให้เพื่อนด้วย เสียเวลาชะมัด" แต่เธอดันโยนให้อีกฝ่ายรับเสียก่อนทักทาย ชายหนุ่มถือวิสาสะจับเสื้ออ่านชื่อเอา หน้าสวยหงุดหงิดเห็นได้ชัด หมุนตัวเตรียมเดินกลับไปลานเวทีหมับ!!!"รีบกลับไปหาไอเวรเหรอ มานี่สิช่วยดูป้ายหน่อยไหนว่าเก่งออกแบบ" ซายน์ไม่รีรอคว้าข้อมือเล็ก พร้อมดึงเสื้อชอปในมือเพื่อน นัยน์ตาคมกึ่งบังคับสั่งเธอนั่งลงเก้าอี้ตรงกองป้ายมหึมา แล้วนำผ้าบางๆไว้ตกแต่งประดับซุ้ม ปิดชายกระโปรงตัวสั้นร่นขึ้นดูขัดใจ ส่วนเนยถอยหลังเล็กน้อย ส่งสายตาขอความเห็นให้ต้ากับคิริวช่วยชี้แจง ผู้หญิง







