คบกันมาเกือบสองเดือน มิลลิไม่เคยเห็นรอยยิ้มของเขาจริง ๆ มีเพียงเธอที่มีความสุขกับเรื่องของเรา แต่เขากลับยังไม่ลืมผู้หญิงคนนั้น เธอรีบเอาโทรศัพท์ไปวางเอาไว้ที่เดิม แล้วฝืนลุกขึ้น พาร่างกายมานั่งอยู่ตรงโซฟา ปลดปล่อยความเสียใจของตัวเองออกมาให้มากที่สุด
ติ้ง เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้นรัว ๆ คงจะเป็นเพื่อนสนิทของเธอส่งข้อความมาหา เพราะตั้งแต่ออกจากมหาลัย เธอก็บอกกับเพื่อนว่าจะนัดเคลียร์กับยีนส์ แต่จนป่านนี้ยังไม่ได้กลับคอนโด ปลายฝน: มิลลิตกลงเป็นยังไงบ้าง คาเทียร์: อีมิล มึงกลับหรือเปล่า คาเทียร์: ตอบกูบ้างดิว่ะ ปลายฝน: อย่าให้กูเป็นห่วง คาเทียร์: มึงเงียบแบบนี้กูใจคอไม่ดีเลย และอีกหลายข้อความ เป็นข้อความที่ส่งจากแชทกลุ่มสามคนของพวกเธอ มิลลิเลยกดส่งไปเพียงหนึ่งข้อความให้เพื่อนสบายใจว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ มิลลิ: กูไม่เป็นไร เสียงฝีเท้าดังขึ้นด้านหลัง แต่เธอก็ไม่ได้หันไปมอง เพราะรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเจ้าของห้อง “ตื่นมาทำไม?” “ฉันหิว” “แล้วทำไมไม่สั่งล่ะ นั่งอยู่แบบนี้จะได้กินหรือไง” เธอเหยียดยิ้มออกมาด้วยความขมขื่น ไม่ได้คาดหวังคำพูดดี ๆ จากเขาอยู่แล้ว เพราะเธอเองก็ไม่ได้คิดจะพูดดีกับเขาเหมือนกัน แต่แบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ ยังไงเธอก็ต้องกิน ชีวิตต้องดำเนินต่อไป เมื่อคิดได้แบบนั้น ก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมากดสั่งอาหารทันที ก่อนจะนั่งเงียบเหมือนเดิม ส่วนเขาก็ทิ้งตัวลงนั่งข้างกัน กดรีโมทเปิดทีวีดู ทำตัวเหมือนปกติ ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร กว่าอาหารจะมาส่งก็ปาเข้าไปห้าทุ่มกว่า แต่เพราะความหิว มิลลิเลยจัดการกินเรียบทุกอย่าง หมดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเตรียมตัวลุกขึ้น เพื่อไปอาบน้ำ แต่ทว่าเสียงทุ้มกลับเรียกเธอไว้เสียก่อน “จะไปไหน?” ยีนส์นั่งมองอาการผิดปกติของเธออยู่นาน เขาไม่ได้คิดไปเองว่ามีบางอย่างแปลกไป มันก็ดีอยู่หรอกที่เธอไม่ได้จ้องแต่จะด่าเขาอย่างเดียว แต่นี่เธอเงียบไปเลย และใบหน้าก็ดูเศร้าผิดปกติ “ไปอาบน้ำค่ะ หรือว่าพี่จะไปส่งฉันกลับคอนโด” “ไม่ คืนนี้เธอต้องนอนที่นี่”เธอคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ แค่ถามลองใจเท่านั้น จากนั้นก็เดินเข้าห้องนอนไปทันที นั่นไง...เธอแปลกไปจริง ๆ เช้าต่อมา ยีนส์เป็นคนขับรถของมิลลิมากับเธอที่มหาลัย เพราะเมื่อวานเขาจอดรถทิ้งไว้ที่นี่ เมื่อรถจอดสนิทดี คนตัวเล็กก็เตรียมลงจากรถ ตลอดการเดินทางมานี่ เขาไม่ได้ยินเสียงพูดของเธอเลย “เธอเป็นอะไร?”นัยน์ตาคมหรี่มองเธออย่างจับผิด มันเต็มไปด้วยคำถามว่าอาการที่เธอเป็นอยู่คืออะไร ทำไมเธอถึงดูเงียบไปผิดปกติ “เปล่าค่ะ” “ฉันว่าไม่ใช่ เป็นอะไรบอกมาเลยดีกว่า” “ฉันต้องรีบไปเรียน ขอกุญแจรถด้วยค่ะ” เธอลงจากรถทันที ยืนรอให้เขาล็อครถให้เรียบร้อย ก่อนจะแบมือขอกุญแจรถคืน โดยไม่มองหน้าเขา เมื่อเขาส่งให้ เธอก็เดินจากไปทันที ทิ้งให้เขายืนมองเธอเดินไปจนสุดสายตา เมื่อเธอเดินเข้าตึกคณะไปแล้ว เขาก็เดินตรงไปยังตึกคณะของเขาบ้าง เมื่อเจอหน้าเพื่อนสนิทสองคน ที่มองเขาอย่างสงสัย ก่อนจะเป็นตะวันที่เอ่ยถามออกมาอย่างเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้ “เมื่อวานรถมึงจอดที่นี่ มึงไปไหนกับใครมาไอ้ยีนส์” ตอนนี้สายตาสองคู่จับจ้องเขาไม่วางตา ราวกับเป็นตำรวจซักฟอกผู้ต้องหาก็ไม่ปาน แต่เขาเองก็ไม่มีเรื่องปิดบังเพื่อนอยู่แล้ว “ไปกับมิลลิมา” “เหี้ย!!! ไปไหนว่ะ” “ไปขอโทษเขาเหมือนที่พวกมึงบอกไงว่ะ” “ขอโทษ…อย่ามาโกหกไอ้ยีนส์ ขอโทษอิท่าไหนมึงถึงมามหาลัยพร้อมน้องเขาได้ว่ะ” คีรินเป็นคนเหตุการณ์ทุกอย่าง เพราะเขาเองก็เพิ่งจะมาถึงมหาลัยเหมือนกัน เขาเห็นยีนส์กับมิลลิมาพร้อมกันด้วยรถของฝ่ายหญิง “หึ ก็หลายท่าอยู่” “สัด!!!ยีนส์ มึงแม่งเอาอีกแล้วเหรอว่ะ” “ทำไมเขายอมมึง ทั้งที่มึงทำเขาถึงขนาดนั้น” ยีนส์ไม่ตอบ เขาไม่คิดตอบคำถามนี้อยู่แล้ว เรื่องคลิปวิดีโอนั่น เขาก็ไม่ได้คิดจะปล่อยออกไปจริง ๆ อย่างปากว่า ถึงเธอไม่ยอมเขา คนแบบเขาก็ไม่คิดทำแบบนั้นเด็ดขาด แต่เพราะอยากได้เธอเหมือนเดิม เลยต้องเอาคลิปมาขู่ให้เธอยอม “มึงรู้ใช่ไหม ว่าต่อไปเรื่องของมึงกับน้องเขาจะยากมากกว่าเดิม ต่อให้มึงมีใจหรือรักน้องเขาจริง ๆ คิดว่าพี่ชายเขาจะยอมรับมึงเหรอว่ะ” “กูรู้” “ตกลงมึงชอบน้องเขาจริง ๆ เหรอว่ะ สัดยีนส์เอ๊ย!!! เจองานยากแล้วมึง” ตะวันพูดออกมาอย่างเหนื่อยใจ หากว่ายีนส์รักมิลลิขึ้นมาจริง ๆ เขาแทบมองไม่เห็นหนทางที่เพื่อนเขาจะสมหวังได้เลย บอกได้คำเดียวว่าไม่มีทางเลยดีกว่า คณะบริหาร “ตกลงมึงกับพี่เขานี่ยังไงกัน” หลังจากเดินมาหาเพื่อนสองคน มิลลิก็ถูกเพื่อนสองคนสัมภาษณ์ทันที “เขามีคลิปกู” “คลิป? คลิปอะไรว่ะ”ปลายฝนถามอย่างสงสัย แต่คาเทียร์ที่เข้าใจตั้งแต่แรก ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ “มึงรักพี่เขาขนาดยอมให้เขาถ่ายคลิปเลยเหรออีมิลลิ มึงบ้าไปแล้วเหรอ” คาเทียร์โวยวายเสียงดังทันที เพราะประโยคนี้คนไม่ได้โง่อย่างปลายฝนก็เข้าใจแล้วเหมือนกัน แต่เธอกลับเข้าใจเพื่อนมากกว่า เลยเอื้อมมือไปกุมมือเพื่อนไว้ “กูเข้าใจมึงนะมิลลิ ส่วนมึงอีเทียร์ลองมีความรักก่อน มึงถึงจะเข้าใจทุกอย่าง เวลาเรารักใคร มันจะทำให้เราโง่จนทำเรื่องที่เวลาปกติเราจะไม่ทำ ได้ทั้งนั้นแหละ” “…..” “แล้วมึงไม่ต้องยอมพี่เขาแบบนี้ไปตลอดเหรอ” “จนกว่าเขาจะเบื่อกูล่ะมั้ง แต่ช่างเถอะ กูทำใจยอมรับได้แล้ว ก็แค่กลับไปเอากับคนเคย ๆ จะไปยากอะไร ยิ่งเขาทำแบบนี้แหละ ความเกลียดของกูจะได้มากขึ้น ไม่ต้องรู้สึกผิดแทนพี่กูอีก” “เวลาแค่สองวัน มันไม่ใช่ง่าย ๆ ที่มึงจะลืมเรื่องคน ๆ หนึ่ง ยิ่งมึงรักเขาโดยไม่เผื่อใจแบบนี้ มันต้องใช้เวลา แต่กูอยากให้มึงพยายามนะ กูจะเป็นกำลังใจให้มึง” น้ำตาหยดลงมาอีกครั้ง ตอนนี้เธอเองก็กำลังพยายามอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน ยิ่งต้องกลับไปอยู่แบบนี้กับเขา การทำใจมันยิ่งยากขึ้นไปอีก ไม่รู้ว่าที่เขาทำแบบนี้กับเธอ เขาทำไปเพื่ออะไร เขาสะใจหรือยังไง ที่ผ่านมาเธอยังชดใช้ให้เขาไม่พอเหรอ เป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวเธอและยังหาคำตอบไม่ได้ มันวนเวียนอยู่อย่างนั้น จนเธอไม่เป็นอันเรียน และอาเจียนข้าวเที่ยงออกมาจนหมดเพราะความเครียด “อาการมึงไม่ดีเลยมิลลิ ไปหาหมอดีกว่า” มิลลิเดินออกจากห้องน้ำมาตรงอ่างล่างหน้า มีเพื่อนสองคนยืนมองอยู่อย่างเป็นห่วง“กูไม่เป็นไรมาก กูอยากนอนพักหน่อยได้ไหม” ปลายฝนกับคาเทียร์พาเธอมานอนที่ห้องพยาบาลของมหาลัย คุณหมอที่อยู่ประจำห้องตรวจอาการแล้วบอกว่าเกิดจากความเครียดลงกระเพาะ ร่างกายเลยแสดงปฏิกริยาออกมา เลยให้นอนพักที่ห้องพยาบาลจนถึงตอนเย็น ถึงตอนเย็นเพื่อนสองคนก็มารับเธอกลับ เป็นเวลาที่เธอตื่นนอนพอดี ร่างกายก็รู้สึกดีขึ้นมาก “หน้ามึงยังซีดอยู่เลย กลับไปนอนพักเยอะ ๆ นะ” มิลลิตัดสินใจทิ้งรถไว้ที่นี่เพราะไม่มีแรงขับรถกลับ เธอกลับคอนโดกับคาเทียร์ ระหว่างทางเสียงโทรศัพท์ของเธอดังตลอดเวลา ดังจนคนขับต้องหันมามอง “พี่ยีนส์ใช่ไหม” เธอพยักหน้าเบา ๆ แต่ก็ไม่ได้คิดจะรับสาย วันนี้เธอไม่อยากเจอเขา ร่างกายเธอไม่มีแรงจริง ๆ ขืนเจอกันวันนี้ เธออาจตายได้เลย เพราะเขาเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง คิดจะทำอะไรกับเธอก็ได้ โดยไม่สนใจว่าร่างกายเธอจะไหวหรือเปล่า ก็แน่สิ เขาไม่ได้รักเธอนี่ เลยไม่ต้องทะนุถนอมเธอ เหมือนใครคนนั้นของเขา “เห้อ กูเห็นมึงเป็นแบบนี้ แล้วกลัวความรักไปเลยว่ะ” “มึงจะกลัวทำไม มึงคงไม่เจออย่างกูหรอก” “โชคดีที่กูยังไม่มีความรู้สึกแบบนั้นกับใคร” “ที่จริงความรักมันดีมากนะมึง มันทำให้เรามีความสุข ทำให้เราเป็นตัวของตัวเอง มันไม่ได้แย่ไปหมดทุกอย่าง หากเราเลือกจำแต่สิ่งดี ๆ เราก็ไม่ต้องทุกข์กับความรักหรอก หากกูหลุดพ้นจากตรงนี้ได้ กูก็ยังมองความรักในแง่ดีอยู่นะ เวลารักมีความสุข เวลาทุกข์เจ็บเจียนตาย”มิลลินอนซมอยู่ที่ห้องสองวันเต็ม โชคดีที่ตรงกับเสาร์อาทิตย์พอดีเลยไม่ต้องขาดเรียน และเธอก็ไม่กลับบ้านเพราะบอกแม่ว่าต้องทำรายงานกับเพื่อน แม่กับพ่อเองก็ไม่ได้สงสัยอะไร เธออยากจะไปเจอท่านตอนที่สภาพจิตใจเธอพร้อมกว่านี้ ส่วนพี่โซลรายนั้นก็ยังเอาแต่โทษตัวเองอยู่ ขนาดเธอบอกไปแล้วว่าไม่เป็นไร เธอเองก็ดีขึ้นมาก แค่ป่วยนิดหน่อยก็ยังไม่เชื่อ จะมานอนเฝ้าเธอที่คอนโด แต่เธอห้ามไว้ บอกว่าอยากพักรักษาใจคนเดียวก่อน หากเธอพร้อมเมื่อไหร่ เธอจะกลับไปเป็นคนเดิมให้เร็วที่สุด ติ้ง เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ในตอนเย็นวันอาทิตย์ ก่อนหน้านี้เธอก็แค่ตอบข้อความยีนส์ไปว่าไม่สบาย ขอนอนพักผ่อน ดูเหมือนเขาจะเข้าใจ ไม่ได้เซ้าซี่อะไรเธอ แต่เมื่อวานเธอไม่ได้ตอบและรับโทรศัพท์เขาเลย คงจะส่งข้อความมาขู่เธออีกแน่ที่หายไปแบบนี้ ยีนส์: ทำไม่ไม่รับโทรศัพท์ ยีนส์: ข้อความเธอก็ไม่อ่าน ยีนส์: ที่บอกไม่สบาย โกหกใช่ไหม ยีนส์: เธอกำลังหนีฉันอยู่หรือเปล่า ยีนส์: รู้ใช่ไหม ทำแบบนี้ไม่มีประโยชน์ ยีนส์: ลงมาฉันรอเธออยู่ที่ด้านล่างคอนโด ยีนส์: ให้เวลาสิบนาที ยีนส์: อย่าให้ฉันต้องขึ้นไปตามเธอนะ ยีนส์: อยากลองดี
07.30 น. มิลลิตื่นเพราะเสียงนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ที่เธอตั้งเอาไว้ มือบางควานหามันมาปิดเสียง แต่ทว่าเคลื่อนไหวได้ลำบากเพราะแขนแกร่งที่ทับตัวเธออยู่ “เรียนกี่โมง?”เสียงทุ้มงัวเงียถาม ตายังปิดสนิท “สิบโมงค่ะ แต่ฉันไม่ได้เอาชุดนักศึกษามา ต้องกลับไปเปลี่ยนก่อน” ยีนส์จำใจต้องลุกขึ้น จากที่นอนทั้งที่เขามีเรียนบ่าย มือหนายกมือยีผมตัวเองแรง ๆ เพื่อเรียกสติ ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาไม่นานเขาก็อาบน้ำ แต่งตัวเรียบร้อย ออกมาหาเธอที่นั่งรออยู่ตรงโซฟา“ไปสิ” คนตัวสูงเร่งความเร็วรถมากกว่าปกติ มาถึงคอนโดเธอตอนแปดโมงครึ่ง เมื่อเธอเตรียมตัวจะลงจากรถ เสียงทุ้มก็เรียกเธอไว้ก่อน“ฉันจะรอตรงนี้” เขารู้ว่าเธอจอดรถไว้ที่มหาลัย เขาเลยจะไปส่งเธอ แต่คนตัวเล็กปฏิเสธเสียงแข็งทันที “ไม่ค่ะ ฉันจะไปกับเพื่อน” “อย่าดื้อได้ไหม หรืออยากให้ฉันขึ้นไปรอข้างบน” เขาทำทีจะลงจากรถจริงอย่างปากว่า แต่คนตัวเล็กก็ดักทางเสียก่อน เลยต้องนั่งรอในรถเหมือนเดิม หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดูเฟซบุ๊คฆ่าเวลาระหว่างรอ แต่ทว่าเขาก็เห็นข้อความของจูเน่ถูกส่งเข้ามาตอนค่ำเมื่อวาน เขาจำได้ดีว่าไม่เคยเปิดอ่านข้อความของเธอมาก่อน แต่เห
“เรามีเรื่องต้องคุยกันค่ะ” มิลลิพูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นเดินออกจากโรงอาหารทันที เธอเดินออกไปรอเขาตรงหลังอาคารเรียนที่ไม่ค่อยมีนักศึกษาพลุกพล่านเท่าไหร่ ยืนรอไม่นานคนตัวสูงก็เดินมาหาเธอ ด้วยใบหน้าเรียบเฉย “พี่ทำแบบนี้ทำไม ฉันบอกแล้วว่าห้ามให้คนอื่นรู้” “คนอื่นที่ว่า คือไอ้ผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า” “ถ้าใช่แล้วทำไมคะ พี่มีสิทธิ์อะไรในตัวฉันกัน อย่าลืมสิว่าถ้าพี่ไม่มีคลิปนั่น ฉันไม่มีวันจะอยู่กับพี่ตอนนี้แน่” คำพูดของเธอกระแทกใจเขาอย่างจัง มันรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปหมด มือหนากำเข้าหากันแน่น จากที่ตั้งใจว่าจะมาคุยกันดี ๆ กลายเป็นเธอมาทำให้เขาโมโหอีกแล้ว “เธอถามหาสิทธิ์ในตัวเธอจากฉันเหรอ ต้องให้ฉันทบทวนให้เธอฟังหรือเปล่า ว่าฉันมีสิทธิ์อะไรบ้าง” “อย่ามาพูดทุเรศแถวนี้นะ แล้วก็จำไว้ด้วยว่า สมัยนี้แค่เอากันเขาไม่นับว่าเป็นแฟนหรือเป็นผัวเมียหรอก” “มิลลิ!!!”ยีนส์ตะโกนออกมาด้วยความโมโห นี่เธอจงใจยั่วประสาทให้เขาทำรุนแรงกับเธอหรือไง ทำไมเธอถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ “ทำไมคะ รับไม่ได้เหรอ” “เธอกำลังทำให้ฉันหมดความอดทนกับเธอ หรือเธออยากโดนเอาตอนนี้” “เอาสิ!!! อยากเอาก็เอา ยังไงฉันก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้
“พี่โซล หยุด”มิลลิรีบเดินไปขวางระหว่างพี่ชายเธอที่ยกเท้ากำลังจะถีบซ้ำเขาที่อกแกร่งของยีนส์ แต่โดนคาเตอร์จับให้ถอยออกมาก่อน เลยได้แต่ยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นมองคนเป็นพี่ชายที่สาดหมัดใส่ใบหน้าของยีนส์นับสิบหมัด ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ! “ฮืก ฮือ พี่เตอร์ไปห้ามพี่โซลหน่อยสิคะ” เสียงร้องโหยหวนของมิลลิยังดังไม่หยุด ก่อนที่เธอจะถูกคาเทียร์กับปลายฝนพาออกจากห้องน้ำไป แม้ว่าจะออกแรงขัดขืนแต่ก็สู้แรงเพื่อนสองคนไม่ได้ “สัดยีนส์!!! มึงมายุ่งกับน้องกูอีกทำไม” มือหนาของโซลจับคอเสื้อของยีนส์ขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยรอยบวมช้ำ มีเลือดออกตรงมุมปากทั้งสองข้าง แต่ทว่าเจ้าตัวกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บ ยังคงมองหน้าอดีตเพื่อนสนิทอย่างท้าทาย “มึงต้องการอะไรจากน้องกูอีก” “หึ กูต้องการเมียกูคืน” “เหี้ยยีนส์ ใครเมียมึง อย่ามาพูดหมา ๆ มึงมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย มึงทำน้องกูเสียใจ” ผลัวะ!!! หมัดขวาของโซลซัดเข้าที่แก้มซ้ายของยีนส์อีกครั้ง “ไอ้พวกเหี้ย มึงปล่อยเพื่อนกูก่อน” ตะวันกับคีรินที่รีบวิ่งมาจากคณะเพราะมีรุ่นน้องไปบอกว่ายีนส์มีเรื่องกับโซลอยู่ที่ห้องน้ำหลังตึกบริหาร เข้ามาถึงก็ผลักโซลหงายหลังไป ก่อนที่จะย
“มิลอยากตอบคำถามพี่ก่อนค่ะ” “แต่พี่อยากบอกก่อนว่า พี่รักมิล” เธออยากจะกรี๊ดออกมาดัง ๆ ด้วยความเขิน ไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดออกมาต่อหน้าพี่ชายเธอขนาดนี้ คนอะไรปกติดูเย็นชาแต่กลับมีมุมแบบนี้ด้วย เธอไม่อยากเชื่อเลย “แล้วถ้าคำตอบของมิลคือไม่ให้อภัยพี่ล่ะคะ พี่จะเสียใจหรือเปล่า” ใบหน้าหล่อเหลาหุบยิ้มลงทันที แต่เขาก็เตรียมใจมาระดับหนึ่งแล้ว เพราะเขาเองก็ทำกับเธอไว้เยอะเหมือนกัน ไม่แปลกใจเลยหากเธอจะไม่ให้อภัยเขา “พี่ก็จะยอมรับความจริง และปล่อยมิลไป” นี่คือสิ่งที่เขาคิดจริง ๆ หากเธอไม่ให้อภัยเขาก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะรั้งเธอไว้กับตัวเอง มิลลิเดินเข้าไปใกล้เขามากขึ้น เธอยกมือขึ้นสัมผัสตรงแก้มเขา ลูบไล้ไปมาเบา ๆ และเผยรอยยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนตัวสูงใจกระตุก เธอกำลังทำให้เขาคลั่งเธอ “มิลให้อภัยพี่ค่ะ”แค่ประโยคนี้จริง ๆ ที่เขาต้องการจะได้ยิน ร่างหน้าดึงเธอเข้ามากอดทันที โดยไม่สนใจโซลที่ยืนมองอยู่ แต่ทว่ากอดได้แค่แปบเดียวก็ต้องผละออกจากกันเพราะแรงดึงของคนที่ทนมองภาพบาดตาไม่ไหว “กูยังไม่อนุญาติให้มึงทำอะไรน้องกู อย่าได้ใจไปไอ้ยีนส์” “มึงก็ได้ยิน ว่าน้องมึงให้อภัยกูแล้ว” “ใช่ ก
เมื่อประตูคอนโดเปิดออก ยีนส์ก็ผลักคนตัวเล็กติดผนังทันที แววตาคมเต็มไปด้วยเปลวเพลิง ร่างกายเครียดเกร็งไปหมดทุกส่วน บางอย่างที่แข็งขืนอยู่นาน ยิ่งทวีความต้องการมากขึ้น ริมฝีปากหนาก้มลงจูบดูดดื่มกับริมฝีปากอวบอิ่ม ส่งลิ้นร้อนเข้าไปกวาดต้อน เกี่ยวพันกับลิ้นเล็ก รสจูบแผดเผาร่างกายมิลลิจนร้อนรุ่มไปหมด ใจเต้นเสียงดังโครมคราม มันแตกต่างจากจูบทุกครั้งที่ผ่านมา นอกจากความเร่าร้อนแล้ว ยังเต็มไปด้วยความดุดัน ลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร มือเล็กยกขึ้นเกี่ยวคอแกร่ง เมื่อถูกความกระสันเสียวเล่นงานไม่หยุด จนร่างกายอ่อนปวกเปียกยืนทรงตัวแทบไม่ได้ มือหนาของคนตัวสูงยกขึ้นบีบสะโพกสวยอย่างจงใจ เขาค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้ง ของคนตัวเล็ก ก่อนจะมาเจอกับก้อนกลมด้านหน้าสองลูก ที่เขาออกแรงบีบเค้นมากกว่าปกติ ริมฝีปากก็ยังดูดดึงกันอยู่อย่างนั้น “อืม”เสียงทุ้มครางออกมาอย่างถูกใจ ก่อนจะผละริมฝีปากออกไป“พี่เจ็บจังเลยครับ” “ให้มิลทำยังไงคะ”รอยยิ้มกรุ่มกริ่มที่ส่งมา ทำให้เธอเขินอาย หน้าแดงก่ำ ช่วงริมฝีปากไม่สามารถหุบยิ้มได้ “มิลอยากทำยังไงกับพี่ครับ” “มิลอยากทำแผลให้พี่ค่ะ”ยีนส์กรอกตามอ
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! เสียงตอกอัดเข้าออกรุนแรงอย่างดิบเถื่อน จนร่างเล็กโยกโคลงตามแรงกระแทกนั้น เธอต้องเอามือขึ้นเกาะบ่าเขาไว้ เล็บจิกเกร็งตรงผิวเนื้อเขาจนเลือดซิบ ใบหน้าสวยเหยเก หลับตาคราญครางเสียงดังด้วยความเสียวซ่าน ทุกจังหวะการกระแทกที่เพิ่มระดับความแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามความกระสันที่พุ่งสูงขึ้น เหงื่อเม็ดโตผุดพลายบนใบหน้าหล่อเหลา กรามหนาขบเข้าหากันแน่นทุกครั้งที่ร่องรักของเธอตอดรัดเอ็นร้อนของเขาแรง ๆ รัว ๆ “อ๊าสส ตอดแรง พี่เสียวหัวมากเลยครับ” เสียงทุ้มครางกระเส่า พร้อมคำพูดหวานหู ที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน ยิ่งมาพูดเวลานี้ ยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านขึ้นถึงขีดสุด ร่างหนายังคงขยับโยกไปมาอย่างไม่ลดระดับความแรง มือหนาเอื้อมไปบีบเค้นอกอวบของเธอไปด้วย “มิลไม่ไหวแล้วค่ะ อื้อ~ อ๊าสส” มิลลิสะบัดหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่าน ร้องครางเสียงดัง ก่อนที่เธอจะกระตุกตัวเกร็งปลดปล่อยออกมาทันที “อร้ายย”เมื่อเห็นเธอเสร็จแล้ว ยีนส์ก็เร่งความเร็วถึงขีดสุด กระแทกเข้าออกถี่ ๆ แรง ๆ ก่อนที่เขาจะแตกพร่า ฉีดอัดน้ำรักเข้าไปในร่องรักของมิลลิจนหมด “อึก อ๊าส”ครวญครางออกมาอย่างสุขสม ยีนส์แช่เอ็นร้อนเอาไว้ ไม่ได้ถอดอ
ยีนส์ทำสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เขาเดินลงมาส่งเธออย่างไม่เต็มใจ เมื่อเห็นสีหน้ายียวนของไอ้เพื่อนเวร เขาก็ชักสีหน้าใส่มันทันที “ทำไมมึงทำหน้าบูดแบบนั้นล่ะว่ะ” โซลแซวด้วยรอยยิ้มขบขัน เขารู้ว่ามันไม่เต็มใจจะให้น้องสาวเขากลับ ยอมรับว่าที่มารับมิลลิ ก็เพราะเขาอยากแกล้งมันโดยตรง หมั่นไส้มันที่เคยทำกับน้องเขา แล้วมาดี๊ด๊าเมื่อน้องเขาให้อภัยมันง่าย ๆ “ไอ้เวร มึงเอาคืนกูที่น้องมึงให้อภัยกูใช่ไหม” “ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!”โซลหัวเราะเสียงดัง ไม่อยากเชื่อว่ามันจะอ่านใจเขาออกขนาดนี้ “สัด!!! กูขอแช่งให้มึงโดนบ้างเวลามึงมีความรัก มึงคอยดู” “แม่ง!!! แช่งเป็นเด็ก ๆ แต่กูคงไม่มีวันนั้นว่ะ ขอโทษด้วยนะ เพราะคนอย่างกูไม่รักใครง่าย ๆ เหมือนมึงหรอก” มิลลิยืนมองพี่ชายกับแฟนยืนเถียงกันแบบเด็ก ๆ แล้วก็ส่ายหัวออกมา ดูท่าว่าเธอจะต้องเจอแบบนี้ไปตลอด เพราะสองคนนี้ดูเป็นคนไม่ยอมใครทั้งคู่ “ไปได้แล้วค่ะ”เธอตัดบทก่อนจะขึ้นไปรอบนรถคนเป็นพี่ชาย มองเห็นสองคนยังยืนเถียงกันต่อ จนเธอต้องเปิดกระจกตะโกนเรียกพี่ชายให้ขึ้นรถได้แล้ว “เตรียมจะบอกพ่อกับแม่เมื่อไหร่” ระหว่างที่นั่งบนรถ พี่ชายก็ถามเธอถึงเรื่องนี้ แต่ก็เป็นเ
หลังจากบทรักตอนเที่ยงจบลง ท้องของมิลลิก็ส่งเสียงประท้วงเสียงดัง ตอนแรกคนตัวสูงอยากจะต่อรอบกับเธอด้วยซ้ำ เพราะบรรยากาศที่เป็นใจ ถึงจะร้อนไปหน่อย แต่มีความตื่นเต้นจากการทำรักเอาท์ดอร์ครั้งแรก แต่ทว่าคนตัวเล็กขอพักกินข้าวก่อน "ประจำเดือนมิลมาอยู่หรือเปล่า” ยีนส์ต้องถามภรรยาเรื่องนี้ เพราะหลังจากเธอเรียนจบก็ไม่ได้กินยาคุมอีก แต่ผ่านมาเกือบสามเดือน ทำไมเธอถึงยังไม่ท้องสักที ทั้งที่เขาขยันทำการบ้านกับเธอแทบตาย งัดกลเม็ดทุกอย่างมาใช้หมดแล้ว แต่ทว่ายังไร้วี่แวว “ที่จริงประจำเดือนมิลก็มาไม่ปกติอยู่แล้ว แต่เพื่อความสบายใจของพี่ มิลจะตรวจหลังจากเรากลับนะคะ” “เมื่อวานพ่อตาบอกว่าพี่ไม่มีน้ำยา”มิลลิหัวเราะออกมา เมื่อนึกถึงคำพูดของพ่อที่บ่นเธออยู่ทุกวันว่าเมื่อไหร่จะมีหลานให้ท่านสักที “หรือพี่จะไม่มีน้ำยาอย่างพ่อตาว่าจริง ๆ”เขายังคงคิดมากเรื่องนี้อยู่ ก็เขาอยากมีลูก พ่อกับแม่ของเขาก็อยากมีหลานหลาย ๆ คน “พี่อย่าคิดมากสิคะ มิลเพิ่งปล่อยได้แค่สองเดือนกว่า ๆ เอง ใครจะไปรู้ตอนนี้มิลอาจจะท้องแล้วก็ได้” “งั้นเราไปซื้อที่ตรวจมาตรวจเลยได้ไหม พี่อยากรู้ตอนนี้เลย มิลก็รู้ว่าพี่อยากมีลูกขนาดไหน” สุดท้าย
หลังจากงานแต่งจบลง ยีนส์และมิลลิก็รีบไปสนามบินทันที ทั้งคู่จะไปฮันนีมูนกันที่มัลดิฟส์ เป็นเจ้าสาวที่จองตั๋วเครื่องบินและที่พักเองหมดทุกอย่าง กำหนดการเที่ยวทุกอย่างใช้เวลา4วัน3คืน “มิลตื่นเต้นอยากเห็นทะเลใจจะขาดแล้วค่ะ”มิลลิเดินควงแขนสามีหนุ่มหล่อ เพื่อไปยังรถตู้ของโรงแรมที่เธอจองเอาไว้ แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาตีสี่กว่าแล้ว อีกทั้งยังเหนื่อยกับงานแต่ง แต่เธอกลับไม่รู้สึกง่วงสักนิด เพราะทะเลที่นี่ เธอใฝ่ฝันจะมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว “พี่อยากให้มิลพักหน่อยนะ”ยีนส์พูดไปตามที่คิด เพราะตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนถึงตอนนี้ เขายังไม่เห็นเธอหลับเลย ทั้งที่ต้องตื่นตั้งแต่ตีสามเพื่อแต่งหน้า ทำผม ไหนจะยุ่งกับงานแต่งทั้งวัน เสร็จจากงานก็เที่ยงคืน ก็รีบมาสนามบินทันที เป็นเขาเสียอีกที่รู้สึกอ่อนเพลียมาก “ถึงที่พักแล้วค่อยนอนก็ได้ค่ะ สามีของมิลเหนื่อยแล้วเหรอคะ” “พี่ยอมแพ้มิล” รถตู้ของที่พักเข้ามาจอดตรงส่วนของโรงแรม แต่มิลลิจองเป็นที่พักติดทะเลไว้ เลยต้องใช้เวลาเดินไปอีก ขนาดว่าตอนนี้ตีห้า แต่ก็ยังมองเห็นความสวยงามของทะเล พนักงานของโรงแรมพาเดินไปตามสะพานไม้ที่พาไปยังที่พักเป็นหลังที่สร้างอยู่ในทะเล ก่อนที่จะหย
ยีนส์ขับรถหรูเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ เพื่อส่งมิลลิลงก่อน ส่วนเขาก็ขับไปจอดในลานจอดรถ ก่อนจะเดินลงมาหาเธอที่ยืนรออยู่ พร้อมกับว่าที่พ่อตา ว่าที่แม่ยาย และพี่ชายสองคนของเธอ คนตัวสูงยอมรับว่าประหม่ามาก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับว่ากลัวอะไรขนาดนั้น เขาเองก็เป็นลูกผู้ชายมากพอ ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้อยู่แล้ว เพราะงั้นไม่ว่าจะโดนอะไรเขาก็พร้อมจะยอมรับ ขอแค่อย่างเดียวอย่าให้เขาเลิกคบกับมิลลิ เพราะเป็นเรื่องเดียวที่เขาจะไม่ยอม “สวัสดีครับ”ยีนส์ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง และพี่ชายคนโตของมิลลิด้วยท่าทางปกติ ผิดกับสายตาของว่าที่พ่อตา ที่ดูเหมือนจะไม่พอใจเขามาก ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เพียงแต่สบัดหน้าหนีเขา ไม่รับไหว้เขาเหมือนอย่างแม่ของเธอ “เข้าบ้านกันดีกว่า มิลพาพี่เขาเข้ามาเร็วลูก” มิลลิจับมือของเขา เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกัน ตรงที่พ่อกับแม่นั่งรออยู่คือห้องรับแขกของบ้าน ยีนส์ทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกับพ่อแม่ของมิลลิทันที ทุกสายตาจับจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียว จากตอนแรกที่ไม่รู้สึกอะไร เจอแบบนี้เขาเองก็ต้องกุมมือเข้าหากันเพื่อลดอาการประหม่าของตัวเองตอนนี้ “เรื่องที่ผ่านมา แม่จะไม่พูดถึงมันนะ แต่หลังจากนี้
“แบบวันนี้ คือแม่พี่ชอบมิลหรือเปล่าคะ”มิลลิถามขึ้นตอนที่กลับมาถึงคอนโดของยีนส์แล้ว “ใช้คำว่าถูกใจเลยดีกว่า” เขาไม่ได้อวยเธอเกินจริง แต่การที่แม่เอ่ยปากชวนเธอไปชิมขนมที่ร้าน มันเป็นสัญญาณว่าแม่เขาถูกใจเธอมาก “แต่มิลก็อยากจะตีพี่เหลือเกิน รู้ว่ามิลชอบกินขนม ยังไม่บอกมิลอีกว่าแม่พี่เปิดร้านขนม” เธอทำหน้างอนเขาและทิ้งตัวนั่งลงตรงโซฟา โดยยีนส์ก็เดินเข้ามากอดเธอ ยกตัวเธอขึ้นนั่งบนตักของเขา ก่อนที่จะกดริมฝีปากลงไปบนกลีบปากนุ่มของเธอเบา ๆ “พี่กลัวมิลจะไม่อยากเจอแม่พี่ต่างหาก อีกอย่างตอนนั้นพี่ก็ยังไม่รู้ใจตัวเองด้วย หลังจากนี้พี่จะพาไปจนมิลเบื่อเลยดีไหมครับ” “ดีค่ะ มิลอยากเปิดร้านขนมมาตั้งนานแล้ว” “เรียนบริหารแต่ไปเปิดร้านขนมเหรอ” “ความชอบกับความฝันมันต่างกันค่ะ มิลเรียนบริหารเพราะเห็นพี่ชายคนโตเรียนค่ะ อีกอย่างเรียนจบมิลก็ต้องไปทำงานกับบริษัทของพ่อ” “แล้วไอ้โซลล่ะ มันเรียนวิศวะเครื่องยนต์นะ” “พ่อมีบริษัทผลิตยานยนต์ค่ะ พี่โซลตามพ่อไปทำงานตั้งแต่เด็ก ๆ เลยอยากเป็นอย่างพ่อ” “นี่พี่ตกถังข้าวสารเหรอเนี๊ยะ ต่อไปมิลต้องเลี้ยงพี่ด้วยนะ” “พี่รวยกว่ามิลอีกนะคะ เป็นลูกคนเดียวด้วย พี่นั่น
“พี่ไม่แปลกใจเลย ทำไมพี่ชายมิลถึงหวงมิลนัก” “ใช่ค่ะ เราห่างกันคนละปีกว่า ๆ เอง คลอดปุ๊บ แม่ก็ท้องปั๊บเลย” “อาทิตย์หน้าไปกินข้าวบ้านพี่บ้างสิ พี่อยากให้แม่กับพ่อพี่ได้รู้จักว่าที่ลูกสะใภ้” “พี่เคยพาแฟนเก่าเข้าบ้านหรือเปล่าคะ” ที่ถามไม่ใช่ว่าเพราะเธอโกรธหรอก เธอเองก็ทำใจเรื่องใจอดีตเขาได้แล้ว เพียงแต่ถามเพื่อจะได้ทำตัวถูกเวลาเจอหน้าพ่อกับแม่ของเขา “ไม่เคย ตอนนั้นพี่เพิ่งเรียนปีหนึ่งเองนะ ยังไม่คิดเรื่องนี้เลย” “….” “แต่ตอนนี้พี่คิดแล้วนะ พี่เป็นคนรักคนยากนะมิล ถ้าพี่รักแล้ว พี่ก็อยากจะคบกับเขาให้นานที่สุด” ยิ่งเขาพูด เธอก็ยิ่งเขินหน้าแดงจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็ไม่อยากจะคิดหรอกว่าเธอโชคดีแค่ไหน ที่ได้เป็นคนนั้นในใจเขา เรื่องของความรัก มันไม่ใช่อีกฝ่ายต้องเป็นฝ่ายโชคดีอย่างเดียว แต่มันคือการที่คนสองคนโชคดีทั้งคู่ต่างหากที่ได้มาเจอกัน ตอนนี้อยากจะบอกแฟนเก่าของเขาเหลือเกินว่าขอบคุณนะคะ ที่ทิ้งเขามาจนเจอกับเธอ 21.30 น. บรรยากาศในผับสุดหรูของพายุ ที่มีศักดิ์เป็นลุงของมิลลิ เธอไม่ค่อยได้มาที่นี่ นอกจากว่าจะมาพี่ชายหรือคนเป็นพ่อ เวลามีงานฉลองอะไร ครอบครัวของเธอมักจะเลือกมาฉลองกันที่นี่
“กว่าครอบครัวมิลจะยอมรับพี่ กระดูกพี่ไม่หักไปก่อนเหรอ” “หักไม่ได้คะ มิลไม่ยอมหรอก ว่าแต่….” “แต่อะไร?” “ว่าแต่มีตรงไหนให้พ่อมิลทำพี่ได้อีกบ้างค่ะ หน้าโดนแล้ว ขาโดนแล้ว งั้นหลังได้ไหมคะ” “มิลลิ”เสียงทุ้มเรียกชื่อเธออย่างไม่เชื่อ ตอนแรกเขาก็คิดว่าเธอพูดเล่น แต่ทำไมท่าทางเธอตอนนี้ถึงดูจริงจังขนาดนี้ “คิก คิก มิลพูดเล่นค่ะ เหลือด่านสุดท้ายแล้วนะคะ” มิลลิเข้าไปออดอ้อนแฟนหนุ่ม ตอนนี้ที่พวกเธอนั่งอยู่ท่ามกลางสายตาของเพื่อนสนิทมิลลิสองคน ตรงใต้ตึกคณะบริหาร ทำให้เพื่อนสองคนนั่งมองเธอด้วยสายตาหมั่นไส้ “งั้นมิลก็ต้องปลอบใจพี่ด้วยนะ ดูสิ”เขาเอียงหน้าให้เธอดูรอยแผลตรงมุมปาก คนตัวเล็กหันซ้าย หันขวา ก่อนจะกดริมฝีปากลงไปเบา ๆ อย่างเอาใจ “แหวะ!!! อีมิล กูจะอ้วก” คาเทียร์มองบนทนความคลั่งรักของคู่นี้ไม่ไหว ต้องทำท่าอ้วกออกมา โดยมีปลายฝนนั่งหัวเราะอยู่ข้าง ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่สนใจพวกเธอสักนิด ยังคงนั่งออดอ้อนกันอยู่แบบนั้น ราวกับว่าโลกนี้มีเพียงสองเรา “ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ยีนส์จะเป็นคนคลั่งรักขนาดนี้”ปลายฝนพูดขึ้นขณะเดินไปเรียนวิชาช่วงเช้า “ไม่ใช่แค่พี่ยีนส์หรอก อีเพื่อนตัวดีของเราก็น้อยห
ยีนส์ทำสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เขาเดินลงมาส่งเธออย่างไม่เต็มใจ เมื่อเห็นสีหน้ายียวนของไอ้เพื่อนเวร เขาก็ชักสีหน้าใส่มันทันที “ทำไมมึงทำหน้าบูดแบบนั้นล่ะว่ะ” โซลแซวด้วยรอยยิ้มขบขัน เขารู้ว่ามันไม่เต็มใจจะให้น้องสาวเขากลับ ยอมรับว่าที่มารับมิลลิ ก็เพราะเขาอยากแกล้งมันโดยตรง หมั่นไส้มันที่เคยทำกับน้องเขา แล้วมาดี๊ด๊าเมื่อน้องเขาให้อภัยมันง่าย ๆ “ไอ้เวร มึงเอาคืนกูที่น้องมึงให้อภัยกูใช่ไหม” “ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!”โซลหัวเราะเสียงดัง ไม่อยากเชื่อว่ามันจะอ่านใจเขาออกขนาดนี้ “สัด!!! กูขอแช่งให้มึงโดนบ้างเวลามึงมีความรัก มึงคอยดู” “แม่ง!!! แช่งเป็นเด็ก ๆ แต่กูคงไม่มีวันนั้นว่ะ ขอโทษด้วยนะ เพราะคนอย่างกูไม่รักใครง่าย ๆ เหมือนมึงหรอก” มิลลิยืนมองพี่ชายกับแฟนยืนเถียงกันแบบเด็ก ๆ แล้วก็ส่ายหัวออกมา ดูท่าว่าเธอจะต้องเจอแบบนี้ไปตลอด เพราะสองคนนี้ดูเป็นคนไม่ยอมใครทั้งคู่ “ไปได้แล้วค่ะ”เธอตัดบทก่อนจะขึ้นไปรอบนรถคนเป็นพี่ชาย มองเห็นสองคนยังยืนเถียงกันต่อ จนเธอต้องเปิดกระจกตะโกนเรียกพี่ชายให้ขึ้นรถได้แล้ว “เตรียมจะบอกพ่อกับแม่เมื่อไหร่” ระหว่างที่นั่งบนรถ พี่ชายก็ถามเธอถึงเรื่องนี้ แต่ก็เป็นเ
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! เสียงตอกอัดเข้าออกรุนแรงอย่างดิบเถื่อน จนร่างเล็กโยกโคลงตามแรงกระแทกนั้น เธอต้องเอามือขึ้นเกาะบ่าเขาไว้ เล็บจิกเกร็งตรงผิวเนื้อเขาจนเลือดซิบ ใบหน้าสวยเหยเก หลับตาคราญครางเสียงดังด้วยความเสียวซ่าน ทุกจังหวะการกระแทกที่เพิ่มระดับความแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามความกระสันที่พุ่งสูงขึ้น เหงื่อเม็ดโตผุดพลายบนใบหน้าหล่อเหลา กรามหนาขบเข้าหากันแน่นทุกครั้งที่ร่องรักของเธอตอดรัดเอ็นร้อนของเขาแรง ๆ รัว ๆ “อ๊าสส ตอดแรง พี่เสียวหัวมากเลยครับ” เสียงทุ้มครางกระเส่า พร้อมคำพูดหวานหู ที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน ยิ่งมาพูดเวลานี้ ยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านขึ้นถึงขีดสุด ร่างหนายังคงขยับโยกไปมาอย่างไม่ลดระดับความแรง มือหนาเอื้อมไปบีบเค้นอกอวบของเธอไปด้วย “มิลไม่ไหวแล้วค่ะ อื้อ~ อ๊าสส” มิลลิสะบัดหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่าน ร้องครางเสียงดัง ก่อนที่เธอจะกระตุกตัวเกร็งปลดปล่อยออกมาทันที “อร้ายย”เมื่อเห็นเธอเสร็จแล้ว ยีนส์ก็เร่งความเร็วถึงขีดสุด กระแทกเข้าออกถี่ ๆ แรง ๆ ก่อนที่เขาจะแตกพร่า ฉีดอัดน้ำรักเข้าไปในร่องรักของมิลลิจนหมด “อึก อ๊าส”ครวญครางออกมาอย่างสุขสม ยีนส์แช่เอ็นร้อนเอาไว้ ไม่ได้ถอดอ
เมื่อประตูคอนโดเปิดออก ยีนส์ก็ผลักคนตัวเล็กติดผนังทันที แววตาคมเต็มไปด้วยเปลวเพลิง ร่างกายเครียดเกร็งไปหมดทุกส่วน บางอย่างที่แข็งขืนอยู่นาน ยิ่งทวีความต้องการมากขึ้น ริมฝีปากหนาก้มลงจูบดูดดื่มกับริมฝีปากอวบอิ่ม ส่งลิ้นร้อนเข้าไปกวาดต้อน เกี่ยวพันกับลิ้นเล็ก รสจูบแผดเผาร่างกายมิลลิจนร้อนรุ่มไปหมด ใจเต้นเสียงดังโครมคราม มันแตกต่างจากจูบทุกครั้งที่ผ่านมา นอกจากความเร่าร้อนแล้ว ยังเต็มไปด้วยความดุดัน ลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร มือเล็กยกขึ้นเกี่ยวคอแกร่ง เมื่อถูกความกระสันเสียวเล่นงานไม่หยุด จนร่างกายอ่อนปวกเปียกยืนทรงตัวแทบไม่ได้ มือหนาของคนตัวสูงยกขึ้นบีบสะโพกสวยอย่างจงใจ เขาค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้ง ของคนตัวเล็ก ก่อนจะมาเจอกับก้อนกลมด้านหน้าสองลูก ที่เขาออกแรงบีบเค้นมากกว่าปกติ ริมฝีปากก็ยังดูดดึงกันอยู่อย่างนั้น “อืม”เสียงทุ้มครางออกมาอย่างถูกใจ ก่อนจะผละริมฝีปากออกไป“พี่เจ็บจังเลยครับ” “ให้มิลทำยังไงคะ”รอยยิ้มกรุ่มกริ่มที่ส่งมา ทำให้เธอเขินอาย หน้าแดงก่ำ ช่วงริมฝีปากไม่สามารถหุบยิ้มได้ “มิลอยากทำยังไงกับพี่ครับ” “มิลอยากทำแผลให้พี่ค่ะ”ยีนส์กรอกตามอ