แชร์

กลวิธี

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-08 12:45:30

3

กลวิธี

“เจียวเจียว เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง” เสียงฝีเท้าย่ำรวดเร็วเรียกให้นางฟื้นจากภวังค์ความคิด ลืมตามองไปทางประตูห้อง ตัวยังไม่ถึงแต่น้ำเสียงห่วงใยนี้กลับมาถึงเร็วยิ่งนัก

หญิงสาวยกมือขึ้นนวดคลึงขมับตนเองแผ่วเบา มีเรื่องให้นางต้องใช้ความคิดอีกแล้ว จากนี้นางควรแสร้งเป็นโจวเจียวเจียวให้สมบูรณ์ไม่เช่นนั้นคงมีเรื่องให้ปวดหัวไม่เว้นวัน

“ท่านพี่ เหตุใดโหวกเหวกเช่นนี้” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลดังเช่นโจวเจียวเจียวคนก่อน แม้เอาแต่ใจแต่นางไม่เคยหยาบคายกับพี่ชายเพียงคนเดียวเลยสักครั้ง

กลับกันมักออดอ้อนจนสุดท้ายก็ได้สิ่งที่ต้องการ แต่วิธีการเช่นนั้นใช้ไม่ได้กับมู่หลินเฟิง

“เสี่ยวมั่วกล่าวว่าเจ้าต้องการกระดาษและพู่กัน”

“เป็นเช่นนั้น เจียวเจียวเพียงอยากหาสิ่งใดทำเท่านั้น เหตุใดท่านพี่จึงต้องกระวนกระวายเช่นนี้”

“เจ้าป่วยหนักหรือ เหตุใดจึงอยากได้ของที่มองแล้วทำตนเองเวียนหัวเล่า”

“ตอนนี้เจียวเจียวไม่รู้สึกเช่นนั้นแล้ว ท่านอย่าได้กังวล ข้าหายดีแล้ว” ผู้ฟังขมวดคิ้วจนหว่างคิ้วย่นลง แม้จะไม่เชื่อว่านางหายแล้ว แต่เท่าที่มองเห็นน้องสาวก็ไม่เป็นอันใดอย่างนางกล่าวจริง ๆ

เขายกมือแตะหน้าผากนาง ดูว่ายังมีอาการตัวร้อนเหมือนสองสามวันก่อนอยู่หรือไม่

“ไม่มีไข้แล้วจริง ๆ เช่นนั้นพี่ก็หมดห่วง นอกจากนี้เจ้ายังต้องการสิ่งใดอีกหรือไม่” โจวจี้หยวนกล่าวพลางหันไปรับของจากไป๋อวี่บ่าวคนสนิท วางมันไว้บนเตียง ก่อนจะส่งยิ้มเอ็นดูให้หญิงสาวตรงหน้า

“ไม่แล้วเจ้าค่ะ ท่านพี่ไปทำงานเถอะ อย่ามัวแต่สนใจข้า เพียงเท่านี้ท่านพี่ก็มีงานยุ่งมากพอแล้ว” นางกล่าวพลางส่งยิ้มไร้เดียงสาให้ผู้เป็นพี่ชาย โจวจี้หยวนดีใจจนน้ำตาเกือบไหล นึกเอ็นดูนางในใจขึ้นมา นางคงโตแล้วกระมังจึงได้รู้ความเช่นนี้

เดิมทีโจวจี้หยวนก็รักเอ็นดูน้องสาวผู้นี้อยู่แล้ว ในชีวิตนี้แทบจะนับครั้งได้เลยว่าเคยดุนางกี่หน พอนางรู้ความแววตาใสซื่อเช่นนี้จึงยิ่งน่าเอ็นดูมากขึ้น

หากเป็นเมื่อก่อนนางคงถามว่ามู่หลินเฟิงมาเยี่ยมนางหรือไม่เป็นอย่างแรก แต่พูดคุยกันอยู่นานนางไม่ถามถึงสหายเขาเลยแม้ครึ่งคำ

“เจียวเจียวของพี่รู้ความยิ่งนัก เช่นนั้นหากต้องการสิ่งใดให้เสี่ยวมั่วไปแจ้งพี่จะให้คนจัดหาให้เจ้า ช่วงนี้ก็พักผ่อนให้ดีเถอะ”

“เจ้าค่ะ เช่นนั้นท่านพี่กลับไปทำงานเถิด ข้าจะนอนพักอีกสักหน่อย”

“ได้ เช่นนั้นเจ้าพักเถอะ เย็นนี้พี่จะให้คนนำยาบำรุงมาให้”

“เจ้าค่ะ” โจวเจียวเจียวรับคำจากนั้นแสร้งนอนลงบนเตียง โจวจี้หยวนจึงดึงผ้าขึ้นมาห่มคลุมให้นางไว้ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

ตระกูลโจวมีทายาทเพียงสองคนหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรี บุตรชายมากความรู้เฉลียวฉลาด หากฝักใฝ่การสอบขุนนางภายหน้าต้องเป็นขุนนางสำคัญ แต่โจวจี้หยวนนั้นไม่ต้องการทำงานภายใต้การควบคุมของราชสำนัก กลับชอบการค้าจึงเป็นผู้สืบทอดการค้าแทบทั้งหมดของตระกูลโจวที่มีอยู่ทั่วเมือง

โจวเจียวเจียว บุตรสาวเพียงคนเดียวที่คนทั้งตระกูลพากันรักเอาใจ แม้จะดื้อรั้นไปบ้างแต่นางกลับเป็นคนตรงไปตรงมา ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่เสแสร้ง แต่น่าแปลกที่หลายคนไม่ชอบนาง รวมถึงมู่หลินเฟิงสหายของพี่สาว

ไม่ชอบยังพอเข้าใจแต่บางคราเขากลับทำท่าราวกับเกลียดนาง ทั้งที่เมื่อก่อนเขารักตามใจนางไม่ต่างจากโจวจี้หยวน อาจมากกว่าเสียด้วย โจวเจียวเจียวเองทำดีต่อเขาเสมอ กระนั้นนางก็ไม่ยอมแพ้หวังว่าสักวันจะชนะนางในใจเขาได้

โจวเจียวเจียวไม่ชอบวาดเขียน ไม่ชอบทำการค้าตรวจบัญชี โจวจี้หยวนก็ไม่เคยบังคับปล่อยให้นางได้ใช้ชีวิตอย่างที่อยากทำ งานร้านค้าของตระกูลตนเองรับทำเองทั้งหมด ไว้รอให้นางถูกใจบุรุษคนใดค่อยให้สินเดิมมากหน่อยนางจะได้ไม่ลำบากไปตลอดชีวิต

ส่วนบิดาและมารดายามนี้ลงใต้ไปเยี่ยมบ้านเก่ามารดาซ้ำยังไปตกลงเรื่องการค้า มอบหมายให้บุตรชายดูแลบุตรสาวอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลโจว

โชคดีที่ก่อนนี้นางไม่เป็นอันใดมากไม่เช่นนั้นไม่รู้เลยว่าจะรายงานกับบิดามารดาอย่างไร

ลับหลังโจวจี้หยวน หญิงสาวที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงก็ลุกขึ้นนั่ง ชะเง้อคอมองดูจนแน่ใจว่าเขาไปแล้วจริง ๆ จึงยกแท่นฝนหมึก กระดาษและพู่กันไปยังโต๊ะริมหน้าต่าง

“คุณหนูจะทำสิ่งใดหรือเจ้าคะ”

“หาอะไรทำแก้เบื่อ เสี่ยวมั่วเจ้ามานี่ฝนหมึกให้ข้าที” นางเอ่ยพลางกวักมือเรียกสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างเตียงให้มายังริมหน้าต่าง เด็กสาวผู้นั้นเดินตามมาอย่างว่าง่าย รับแท่นหมึกในมือผู้เป็นนายมาถือเอาไว้

“เจ้าฝนข้าจะเขียน” เสี่ยวมั่วพยักหน้าย่อตัวนั่งลงบนพื้นข้าง ๆ โต๊ะ ฝนหมึกให้โจวเจียวเจียวเขียนสิ่งแปลกตาลงกระดาษเนื้อดีที่โจวจี้หยวนนำมาส่งให้เมื่อครู่

“คุณหนูท่านเขียนสิ่งใดเจ้าคะ เหตุใดไม่คุ้นตาเลย” เด็กสาวเอียงคอมองอักษรบนกระดาษที่ผู้เป็นนายเขียนไว้ แม้นางจะไม่รู้หนังสือแต่อักษรบางตัวนางคุ้นเคย แต่อักษรบนกระดาษของผู้เป็นนายนางไม่คุ้นชินแม้แต่น้อย

หากนางอยากรอดชีวิตไม่จบชีวิตดังเช่นในนิยายที่เคยอ่าน นางควรเตรียมพร้อมทุกอย่างไม่ให้หลุดรอดแม้แต่อย่างเดียว

สิ่งแรกที่นางไม่ควรทำคือการเขียนบันทึกต่าง ๆ หากมีผู้ใดพบเข้าจะเป็นภัยต่อตนเอง แต่หากไม่บันทึกนางจะจำมันได้อย่างไรเล่าว่าควรดำเนินการเช่นใดบ้าง

เมื่อคิดเช่นนี้โจวเจียวเจียวจึงเขียนภาษาที่ไม่มีผู้ใดเข้าใจลงไปบนกระดาษเนื้อดีบนโต๊ะ มุมปากยกยิ้มพอใจกับความคิดของตนเอง

วิธีหนีการเป็นนางร้าย เพื่อเป็นตัวประกอบ

ข้อแรก อย่าทำตัวฉลาดเกินจากนิสัยเดิมของตัวละคร

หญิงสาวเขียนได้เพียงสองบรรทัดก็มีสาวใช้มาพบ ในมือถือเทียบเชิญมาด้วย เทียบเชิญจากตระกูลเฉียนเพื่อเชิญนางเข้าร่วมงานปักปิ่นของบุตรสาวคนรอง แม้โจวเจียวเจียวจะเอาแต่ใจแต่ตระกูลโจวนั้นร่ำรวยเป็นที่ต้อนรับ อีกทั้งพี่ชายยังไม่แต่งงาน เช่นนี้จึงมีคนต้องการผูกมิตรด้วยมากมาย

หญิงสาวเงยหน้าจากกระดาษเพื่อมองสาวใช้ที่เพิ่งเดินเข้ามา

เสี่ยวมั่วเดินไปรับเทียบเชิญมาให้ผู้เป็นนายโดยไม่ต้องรอคำสั่ง

เทียบเชิญจากตระกูลเฉียนกระมัง โจวเจียวเจียวคิดในใจ นางจำได้ว่าอีกไม่กี่วันโจวเจียวเจียวก็มีเรื่องทะเลาะกับสืออีหรานในงานปักปิ่นนี้ เช่นนั้นอย่างไรนางก็คงต้องไป

อีกทั้งนางมีเรื่องต้องทำในพิธีปักปิ่นนี้ด้วยเช่นกัน...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ ฤกษ์ดี [จบ]

    ฤกษ์ดีงานวิวาห์สองงานถูกจัดขึ้นพร้อมกัน เป็นเหตุให้เรื่องนี้ร่ำลือไปทั่วเมืองเทียนเผิง สองตระกูลขุนนางสำคัญวิวาห์บุตรสาวจากตระกูลคหบดีชื่อดัง งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นที่โรงเตี้ยมมีชื่อแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของตระกูลโจวอีกเช่นกันทั้งสองไม่ได้คิดจะแต่งวันเดียวกัน แต่ฤกษ์ดีวันนี้กลับมีเพียงห้าปีครั้ง หลินซีเองก็ไม่อยากรอ มู่หลินเฟิงก็ไม่อยากรอ ยิ่งมีบุตรปีนี้จะเกื้อหนุนครอบครัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งสตรีทั้งสองยังกลัวจะไม่ได้ไปร่วมดื่มอวยพรให้อีกฝ่ายเมื่อเลือกไม่ได้จึงตกลงแต่งพร้อมกัน มู่หลินเฟิงและหลินซียังคงปะทะฝีปากกันบ่อย ๆ แต่ทุกครั้งก็ถูกว่าที่ภรรยาตำหนิจนหน้าบูดกันไปทุกทีหากงานจัดในบ้าน เจ้าสาวย่อมไม่มีหน้าที่มาต้อนรับ แต่งานวิวาห์นี้กลับจัดในโรงเตี้ยมใหญ่โต เจ้าสาวทั้งสองจึงสวมผ้าคลุมหน้าพูดคุยกับผู้มาร่วมยินดีด้วยได้ กระทั่งมีชายสูงศักดิ์ผู้หนึ่งเดินเข้ามาคารวะสุรากับโจวเจียวเจียว“

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ อารมณ์ดี

    ตอนพิเศษอารมณ์ดีหลังถูกสตรีในใจปฏิเสธชัดเจน หลินซีรู้สึกว่าตนเองต้องเสียใจมากเป็นแน่ ทว่าเรื่องราวไม่เป็นเช่นนั้น เขารู้สึกราวยกภูเขาออกจากอกเสียมากกว่า ร่างสูงโปร่งที่มีใบหน้างดงามราวอิสตรีเดินเอื่อยไปเรื่อย ๆ บนถนนเส้นหลักของตลาดฝั่งประจิมแม้จะมีใบหน้างดงามจนหาที่เปรียบได้ยากและเป็นที่ชื่นชอบของสตรีมากมาย แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าก่อกวนเพราะตระกูลนักรบเช่นเขาไหนเลยจะรู้จักรักหยกถนอมบุปผาได้เฉิงเชียงที่เดินอยู่ด้านหลังขยับขึ้นมากระซิบชายหนุ่มแผ่วเบา“คุณชายนั่นแม่นางจืออวิ๋นขอรับ” หว่านจืออวิ๋นเป็นสตรีที่งดงามราวเทพธิดาไม่ต่างสืออีหราน ต่างกันเพียงนางไม่ใช่บุตรสาวตระกูลขุนนาง หากแต่เป็นบุตรสาวพ่อค้ายามนี้ไร้ซึ่งเงาของสืออีหราน นางจึงเป็นที่เลื่องลือมากยิ่งขึ้น มีบรรดาบุตรชายขุนนางหลายคนมาทำความรู้จัก บางคนต้อ

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   พิมดาว

    47พิมดาวจวนตระกูลมู่เงียบเชียบราวกับจวนร้างแต่ยังมีเสียงเล็ดลอดออกมาทำให้รู้ว่าแท้จริงที่นี่มิได้ร้างผู้คน สตรีวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนเตียงสีหน้าเศร้าหมองไม่น้อย นางชี้หน้าผู้เป็นสามีต่อว่าเขาแต่ตนเองกับร่ำ ๆ จะร้องไห้บุตรชายนางไปทำงานต่างเมืองสองเดือนแล้ว แม้มีจดหมายแต่ราวกับไม่มี จดหมายนั้นหาใช่บุตรชายนางเขียน หากบุตรชายนางยังอยู่ดีเหตุใดจึงไม่เขียนจดหมายมาเอง“ท่านโกหกข้า ลูกข้าอยู่ที่ใด ฮือ...” อี้ฮูหยินกล่าวไปร่ำไห้ไป จดหมายสองฉบับที่ส่งมา ลายมือแทบไม่ต่างจากบุตรชายแต่นางที่เฝ้ามองบุตรชายเติบใหญ่ มีหรือไม่สามารถจำได้ลายมือบนจดหมายถูกปลอมแปลงขึ้น แล้วเหตุใดต้องปลอมหากไม่ใช่เพราะบุตรชายนาง...“ฮูหยินเจ้าใจเย็น ๆ เสียก่อน เฟิงเอ๋อร์ยังอยู่ดี”“อยู่ดีหร

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ขอเพียงท่านฟื้น

    46ขอเพียงท่านฟื้นปลายวสันต์ลมโชยพัดผ่านกิ่งไม้ใบไม้เสียดสีกันฟังราวกับกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจีให้ความสดชื่นไม่น้อย เพียงแต่ที่นี่คือเรือนข้างในคฤหาสน์หลังใหญ่สกุลโจว ร่างสูงโปร่งบนเตียงก็ยังคงหลับตาอยู่เช่นเดิมหญิงสาวใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมดำสนิทที่ถูกลมพัดของมู่หลินเฟิงออกจากใบหน้า“สองเดือนแล้วที่ท่านปล่อยให้ข้าพูดคุยเพียงลำพัง ยังไม่ทันได้หมั้นหมายก็ทิ้งให้ข้ากังวลเช้าเย็นเช่นนี้ คิดว่าข้ายังจะอยากแต่งกับท่านอีกหรือคุณชายมู่” บ่นไปก็เช็ดตัวเขาไป นางทำจนเคยชินไปเสียแล้ว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนนางจึงเช็ดเนื้อเช็ดตัวของเขาทั้งเช้าและเย็นเดิมทีนางคิดว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาภายในหนึ่งเดือน เพราะก่อนนี้เขาตอบสนองนางด้วยการขยับนิ้ว แต่ก็เพียงแค่ครั้งเดียว ดูเหมือนอี้ฮูหยินเองก็เริ่มสงสัยแล้วเหมือนกันว่าบุตรชายไม่ได

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ข้ายังรออยู่

    45ข้ายังรออยู่ตระกูลสือที่รุ่งเรืองในอดีต ยามนี้จบสิ้นแล้วทั้งตระกูล ประตูใหญ่จวนสือที่เคยรุ่งโรจน์บรรดาขุนนางน้อยใหญ่ตบเท้าเข้ามาทำความรู้จัก บัดนี้มีเพียงเศษใบไม้ปลิดปลิว เวิ้งว้างวังเวง ประตูปิดสนิทถูกแปะทับด้วยกระดาษสีแดงแผ่นยาวในตลาดมีประกาศความผิดติดไว้ให้ผู้คนรับรู้ ตระกูลสือกำเริบเสิบสาน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย สตรีสกุลสือไร้คุณธรรมบงการลอบทำร้ายผู้อื่น ต้องโทษทั้งตระกูล ยึดทรัพย์ยึดจวน ริบคืนบรรดาศักดิ์ทั้งหมดสือจินเฉิงถูกโบยห้าสิบครั้ง เนรเทศไปชายแดน สืออีหรานถูกโบยสามสิบครั้งถูกกรีดใบหน้าด้านขวาว่าไร้คุณธรรม เกรงว่าชั่วชีวิตนี้นางคงไม่อาจผูกสมัครรักผู้ใดได้อีก ส่วนมารดาของนางถูกโบยยี่สิบครั้งฐานเป็นมารดาที่สั่งสอนบุตรสาวไร้คุณธรรมเมื่อได้ยินเรื่องนี้โจวเจียวเจียวไม่ได้มีท่าทางยินดียินร้ายใดต่อเรื่องที่ได้ย

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ท่านต้องฟื้น

    44ท่านต้องฟื้นจวนแม่ทัพหลินมู่หลินเฟิงถูกพากลับมายังจวนตระกูลหลิน เพราะอยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งหมอของตระกูลหลินเชี่ยวชาญชำนาญบาดแผลเช่นนี้มากกว่า ร่างโชกเลือดถูกยกเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง สาวใช้สองสามคนช่วยท่านหมออยู่ภายใน ผ่านไปเกือบสองเค่อจึงยกเอาอ่างไม้ออกมา เปลี่ยนเป็นน้ำร้อนแล้วเข้าไปอีกโจวเจียวเจียวเดินวนไปวนมา ร้อนใจนักไม่รู้คนโง่ผู้นั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง มีดปักคาไว้ไม่รู้ถูกส่วนสำคัญบ้างหรือไม่เหตุใดคน ๆ นั้นจึงโง่เช่นนี้ การช่วยคนต้องช่วยโดยไม่ให้ตนเองเป็นอันตรายไปด้วย นี่อันใดกันทำตนเองบาดเจ็บคาบเกี่ยวชีวิต คิดแล้วยิ่งขุ่นเคืองเป็นถึงจอหงวนสิ้นคิดนักหญิงสาวทำได้เพียงต่อว่าเขาในใจ นางต่อว่าเขาจนลืมไปกระมังว่าตนเองก็ตายเพราะช่วยผู้อื่น“ท่านหมอ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ร่างเล็กปรี่เข้าไปถาม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status