Share

ป่วยจนเลอะเลือน

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-08 12:45:24

2

ป่วยจนเลอะเลือน

ห้าวันหลังจากเทศกาลโคมไฟ หญิงสาวลืมตาขึ้นเมื่อผู้คนในห้องออกไปจนหมดก่อน จึงลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงอุ่น เพราะเหตุใดนางจึงมาอยู่ที่นี่ได้เล่า ไม่มีเหตุผลรองรับเอาเสียเลย ซ้ำยังต้องมาอยู่ในร่างนางร้ายสุดแสนอาภัพผู้นี้อีก

จะกล่าวว่านางเป็นนางร้ายก็ร้ายไม่เท่านางร้ายคนอื่น ๆ หรือแม้แต่นางเอกของเรื่องยังร้ายเสียกว่า นางร้ายเพราะนางมักถูกมอบบทนางร้ายให้มากกว่าจะแสดงเอง นอกจากนี้สุดท้ายยังต้องตายเพราะพระเอกสุดที่รักของนางอีกต่างหาก

ก่อนตายนางก็เป็นคนดีมาตลอดเหตุใดพอได้มีโอกาสใช้ชีวิตจึงทำให้นางมีโชคชะตาเช่นนี้กันเล่า

“ขอบคุณสวรรค์ที่มอบบทตัวละครที่สุดแสนจะโชคดีคนนี้ให้ เฮ้อ เอาไงต่อดีไอ้พิม” หญิงสาวพึมพำกับตนเอง นางอ่านหนังสือมามากส่วนใหญ่ผู้ที่มาเป็นนางร้ายหรือตัวประกอบหากทำตัวโจ่งแจ้งไปจะกลายเป็นที่สนใจ สุดท้ายกลายเป็นตัวดำเนินเรื่องทั้งนั้น

นางควรทำอย่างไรดี นางไม่อยากมีส่วนในนิยายเรื่องนี้แล้วยิ่งไม่อยากตายอย่างอนาถภายใต้คมดาบของบุรุษใจคอโหดเหี้ยม หลอกใช้สตรีเช่นมู่หลินเฟิง

คิดไปก็พลันปวดหัวไปสงสัยนางจะไข้ขึ้นเสียแล้ว คงเพราะร่างกายบอบบางของโจวเจียวเจียวนี่กระมัง ทำให้ตอนนี้ในหัวนางไม่มีสิ่งใดอยู่เลย

หญิงสาวรู้เพียงอย่างเดียวนางไม่อยากเป็นนางร้าย ไหน ๆ ก็ร่ำรวยเช่นนี้แล้ว นางขอเป็นแค่ตัวประกอบที่ร่ำรวย…

ตกลงปลงใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปแล้วก็เอนตัวลงนอนบนเตียง พลางยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาพาดไว้บนเข่าอีกข้าง ซ้ำยังกระดิกเท้าอย่างสบายใจ เพราะที่นี่คือตระกูลโจวนางจึงไม่ต้องกลัวว่าผู้อื่นจะสงสัยในตัวนาง

โจวเจียวเจียวบุตรสาวคนเดียวที่บิดามารดารักและทะนุถนอนยิ่งกว่าไข่ในหิน ไม่ว่านางต้องการสิ่งใดก็ล้วนถูกหามาให้จนได้ มีเพียงมู่หลินเฟิงที่นางพึงใจแต่ไม่มีทางได้มา

“คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ” เสี่ยวมั่วสาวใช้คนสนิทถามด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าดีใจ นางวางถาดใส่ถ้วยยาไว้บนโต๊ะแล้วยกถ้วยยามาให้หญิงสาวบนเตียงกิน

“เสี่ยวมั่ว” ในร่างเก่านี้ไม่มีความทรงจำใดหลงเหลือ นางอาศัยจำจากในหนังสือนิยายที่อ่านมาเท่านั้น นิยายเล่าถึงสาวใช้เพียงคนเดียวของโจวเจียวเจียวนั่นคือเสี่ยวมั่ว

แต่นางไม่รู้เลยว่าตระกูลโจวมีสาวใช้กี่คน...

“เจ้าค่ะ คุณหนูมีสิ่งใดจะสั่งเสี่ยวมั่วหรือเจ้าคะ แต่จะมีสิ่งใดก็กินยาก่อนเถิดเจ้าค่ะ คุณชายเป็นห่วงคุณหนูมากหากยังไม่หายอีกเกรงว่าต้องเกณฑ์หมอทั่วเมืองแล้วกระมัง” ยาคือสิ่งที่นางเกลียดที่สุด ตลอดชีวิตกินแต่ยาเม็ดต้องมากินยาต้มเช่นนี้ ทำใจไม่ได้จริง ๆ

“ไม่กินไม่ได้หรือ”

“แต่คุณหนูถูกน้ำเย็น จนเป็นไข้หวัดหากไม่หายในเร็ววันนายท่านและฮูหยินต้องเร่งกลับมาแน่เลยเจ้าค่ะ” โจวเจียวเจียวชั่งใจอยู่สักครู่ก่อนจะยกถ้วยยาตรงหน้ามาดื่มรวดเดียวหมด

“อ๊าก ขม”

“นี่ผลไม้แห้งแก้ขมเจ้าค่ะ” มือเล็กรีบเอื้อมไปหยิบผลไม้แห้งรสเปรี้ยวมาใส่ปาก ตั้งแต่สาวใช้เสี่ยวมั่วยังกล่าวไม่จบดี แม้จะช่วยได้ไม่มากก็ยังพอกลบรสฝาดติดลิ้นได้บ้าง

“ข้าตกน้ำได้อย่างไร”

“คุณหนูจำไม่ได้หรือเจ้าคะ” เสี่ยวมั่วเอียงคอถามอย่างสงสัยพลางยกมือขึ้นไปแตะหน้าผากผู้เป็นนายด้วยความเป็นห่วง กลัวว่านางจะไข้ขึ้นจนเลอะเลือนไป

คุณหนูของนางเกลียดสืออีหรานยิ่งกว่าสิ่งใดไม่มีทางลืมว่าถูกนางดึงให้ตกน้ำ แม้นางจะยืนยันว่าคุณหนูไม่ได้ทำแต่คุณชายมู่ก็ไม่เชื่อ เพราะสาวใช้ของสืออีหรานเองก็ยืนยัน ว่าคุณหนูของนางจงใจผลักคุณหนูสือให้ตกน้ำ

“แม่ดอกบัวขาว ฉันคิดถูกจริง ๆ ที่ไม่ชอบนิยายเรื่องนี้ ทั้งพระเอกทั้งนางเอก แทนที่จะชื่อว่าบุพเพรักอันดับหนึ่ง เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็นคู่รักผ่านรกเถอะ”

“คุณหนูหมายถึงสิ่งใดหรือเจ้าคะ”

“ช่างเถอะ ไม่มีสิ่งใดหรอก” นางกล่าวตัดบทพลางครุ่นคิดอีกครา โชคดีที่หลังเรียนจบนางเลือกเรียนภาษาจีนเพื่ออ่านนิยายและดูซีรีส์ หากไม่แล้วนางคงได้แสร้งเป็นใบ้แทน

“เสี่ยวมั่ว หากระดาษกับพู่กันให้ข้าที” สาวใช้ตัวน้อยเบิกดวงตาเล็กเรียวจนกว้าง ตื่นตกใจราวเห็นพุทธองค์ผุดขึ้นตรงหน้า คุณหนูของนางไม่ชอบที่จะขีดเขียนเพราะกลัวนิ้วมือเปรอะเปื้อน

โจวเจียวเจียวเห็นสาวใช้ตนเองมีท่าทางประหลาด พลันนึกขึ้นมาได้ว่าโจวเจียวเจียวผู้นั้นไม่ชื่นชอบ แต่อย่างไรเสี่ยวมั่วก็เป็นสาวใช้ของนาง ปล่อยให้นางสงสัยไปก็ไม่เป็นอันใดจึงไม่คิดจะแก้ไขความเข้าใจผิดใด

“คุณหนูรอสักครู่ เสี่ยวมั่วจะไปขอจากคุณชายมาให้เจ้าค่ะ”

“อืม” เสี่ยวมั่วยืนขึ้นยอบกายแล้วเดินจากไป ทิ้งให้สตรีในอารมณ์สีเหลืองอ่อนนอนพิงหัวเตียงอยู่ลำพัง

เสี่ยวมั่วเดินออกจากเรือนข้างก้าวเท้าอย่างเร่งรีบไปที่ห้องหนังสือของโจวจี้หยวน นางต้องรายงานเรื่องนี้ให้ผู้เป็นนายอีกคนของคฤหาสน์ให้รับรู้

คุณหนูของนางต้องป่วยเป็นแน่ ไม่เช่นนั้นคงไม่แปลกไปมากเช่นนี้

ตั้งแต่ที่นางปฏิเสธมู่หลินเฟิงก่อนนี้ ผู้คนก็เอาแต่คิดว่าคุณหนูของบ้านป่วยไข้จนเลอะเลือน

ยามนี้โจวจี้หยวนเองก็กำลังเร่งหาหมอฝีมือฉกาจเพื่อให้มาดูอาการน้องสาวตนเอง

“คุณชายขอรับ เสี่ยวมั่วขอพบขอรับ” ไป๋อวี่ บ่าวรับใช้คนสนิทของโจวจี้หยวนเข้าไปกล่าวรายงาน เมื่อเสี่ยวมั่วมาถึงหน้าห้องตำรา โจวจี้หยวนเงยหน้าจากรายการบัญชีรับเงินจ่ายเงินของร้านค้าตระกูลโจวที่มีอยู่ทั่วเทียนเผิง

“ให้นางเข้ามา” ครู่หนึ่งสาวใช้ร่างเล็กก็เร่งฝีเท้ามายืนอยู่เบื้องหน้า ประสานมือยอบกายคารวะคุณชายคนเดียวของตระกูลโจว

“คารวะคุณชาย”

“เจียวเจียวเป็นอันใด”

“คุณหนูต้องการกระดาษและพู่กันเจ้าค่ะ” โจวจี้หยวนถลึงลุกจากที่นั่งทันทีที่ได้ยินสาวใช้กล่าว แทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าน้องสาวที่เคยเอ่ยว่ามองแท่นฝนหมึกแล้วเวียนหัว จะร้องขอกระดาษและพู่กันเสียเอง

“เห็นทีเจียวเจียวคงป่วยหนักกระมัง ไป๋อวี่รีบให้คนตามหมอเดี๋ยวนี้ ไปข้าจะไปดูเจียวเจียวเอง”

น้ำเสียงร้อนรน อีกทั้งท่าทางเร่งรีบของโจวจี้หยวนบ่งบอกว่าเป็นห่วงน้องสาวเพียงคนเดียวมากเพียงใด เขาเชื่อสนิทใจว่าน้องสาวป่วยหนักเพราะตกน้ำในงานเทศกาลโคมไฟหลายวันก่อน

แต่ก็ไม่ลืมหยิบสิ่งของที่น้องสาวต้องการตามไปด้วย เขาอยากรู้นักว่าน้องสาวอยากได้สิ่งของเหล่านี้ไปทำอันใด

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ ฤกษ์ดี [จบ]

    ฤกษ์ดีงานวิวาห์สองงานถูกจัดขึ้นพร้อมกัน เป็นเหตุให้เรื่องนี้ร่ำลือไปทั่วเมืองเทียนเผิง สองตระกูลขุนนางสำคัญวิวาห์บุตรสาวจากตระกูลคหบดีชื่อดัง งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นที่โรงเตี้ยมมีชื่อแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของตระกูลโจวอีกเช่นกันทั้งสองไม่ได้คิดจะแต่งวันเดียวกัน แต่ฤกษ์ดีวันนี้กลับมีเพียงห้าปีครั้ง หลินซีเองก็ไม่อยากรอ มู่หลินเฟิงก็ไม่อยากรอ ยิ่งมีบุตรปีนี้จะเกื้อหนุนครอบครัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งสตรีทั้งสองยังกลัวจะไม่ได้ไปร่วมดื่มอวยพรให้อีกฝ่ายเมื่อเลือกไม่ได้จึงตกลงแต่งพร้อมกัน มู่หลินเฟิงและหลินซียังคงปะทะฝีปากกันบ่อย ๆ แต่ทุกครั้งก็ถูกว่าที่ภรรยาตำหนิจนหน้าบูดกันไปทุกทีหากงานจัดในบ้าน เจ้าสาวย่อมไม่มีหน้าที่มาต้อนรับ แต่งานวิวาห์นี้กลับจัดในโรงเตี้ยมใหญ่โต เจ้าสาวทั้งสองจึงสวมผ้าคลุมหน้าพูดคุยกับผู้มาร่วมยินดีด้วยได้ กระทั่งมีชายสูงศักดิ์ผู้หนึ่งเดินเข้ามาคารวะสุรากับโจวเจียวเจียว“

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ อารมณ์ดี

    ตอนพิเศษอารมณ์ดีหลังถูกสตรีในใจปฏิเสธชัดเจน หลินซีรู้สึกว่าตนเองต้องเสียใจมากเป็นแน่ ทว่าเรื่องราวไม่เป็นเช่นนั้น เขารู้สึกราวยกภูเขาออกจากอกเสียมากกว่า ร่างสูงโปร่งที่มีใบหน้างดงามราวอิสตรีเดินเอื่อยไปเรื่อย ๆ บนถนนเส้นหลักของตลาดฝั่งประจิมแม้จะมีใบหน้างดงามจนหาที่เปรียบได้ยากและเป็นที่ชื่นชอบของสตรีมากมาย แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าก่อกวนเพราะตระกูลนักรบเช่นเขาไหนเลยจะรู้จักรักหยกถนอมบุปผาได้เฉิงเชียงที่เดินอยู่ด้านหลังขยับขึ้นมากระซิบชายหนุ่มแผ่วเบา“คุณชายนั่นแม่นางจืออวิ๋นขอรับ” หว่านจืออวิ๋นเป็นสตรีที่งดงามราวเทพธิดาไม่ต่างสืออีหราน ต่างกันเพียงนางไม่ใช่บุตรสาวตระกูลขุนนาง หากแต่เป็นบุตรสาวพ่อค้ายามนี้ไร้ซึ่งเงาของสืออีหราน นางจึงเป็นที่เลื่องลือมากยิ่งขึ้น มีบรรดาบุตรชายขุนนางหลายคนมาทำความรู้จัก บางคนต้อ

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   พิมดาว

    47พิมดาวจวนตระกูลมู่เงียบเชียบราวกับจวนร้างแต่ยังมีเสียงเล็ดลอดออกมาทำให้รู้ว่าแท้จริงที่นี่มิได้ร้างผู้คน สตรีวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนเตียงสีหน้าเศร้าหมองไม่น้อย นางชี้หน้าผู้เป็นสามีต่อว่าเขาแต่ตนเองกับร่ำ ๆ จะร้องไห้บุตรชายนางไปทำงานต่างเมืองสองเดือนแล้ว แม้มีจดหมายแต่ราวกับไม่มี จดหมายนั้นหาใช่บุตรชายนางเขียน หากบุตรชายนางยังอยู่ดีเหตุใดจึงไม่เขียนจดหมายมาเอง“ท่านโกหกข้า ลูกข้าอยู่ที่ใด ฮือ...” อี้ฮูหยินกล่าวไปร่ำไห้ไป จดหมายสองฉบับที่ส่งมา ลายมือแทบไม่ต่างจากบุตรชายแต่นางที่เฝ้ามองบุตรชายเติบใหญ่ มีหรือไม่สามารถจำได้ลายมือบนจดหมายถูกปลอมแปลงขึ้น แล้วเหตุใดต้องปลอมหากไม่ใช่เพราะบุตรชายนาง...“ฮูหยินเจ้าใจเย็น ๆ เสียก่อน เฟิงเอ๋อร์ยังอยู่ดี”“อยู่ดีหร

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ขอเพียงท่านฟื้น

    46ขอเพียงท่านฟื้นปลายวสันต์ลมโชยพัดผ่านกิ่งไม้ใบไม้เสียดสีกันฟังราวกับกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจีให้ความสดชื่นไม่น้อย เพียงแต่ที่นี่คือเรือนข้างในคฤหาสน์หลังใหญ่สกุลโจว ร่างสูงโปร่งบนเตียงก็ยังคงหลับตาอยู่เช่นเดิมหญิงสาวใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมดำสนิทที่ถูกลมพัดของมู่หลินเฟิงออกจากใบหน้า“สองเดือนแล้วที่ท่านปล่อยให้ข้าพูดคุยเพียงลำพัง ยังไม่ทันได้หมั้นหมายก็ทิ้งให้ข้ากังวลเช้าเย็นเช่นนี้ คิดว่าข้ายังจะอยากแต่งกับท่านอีกหรือคุณชายมู่” บ่นไปก็เช็ดตัวเขาไป นางทำจนเคยชินไปเสียแล้ว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนนางจึงเช็ดเนื้อเช็ดตัวของเขาทั้งเช้าและเย็นเดิมทีนางคิดว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาภายในหนึ่งเดือน เพราะก่อนนี้เขาตอบสนองนางด้วยการขยับนิ้ว แต่ก็เพียงแค่ครั้งเดียว ดูเหมือนอี้ฮูหยินเองก็เริ่มสงสัยแล้วเหมือนกันว่าบุตรชายไม่ได

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ข้ายังรออยู่

    45ข้ายังรออยู่ตระกูลสือที่รุ่งเรืองในอดีต ยามนี้จบสิ้นแล้วทั้งตระกูล ประตูใหญ่จวนสือที่เคยรุ่งโรจน์บรรดาขุนนางน้อยใหญ่ตบเท้าเข้ามาทำความรู้จัก บัดนี้มีเพียงเศษใบไม้ปลิดปลิว เวิ้งว้างวังเวง ประตูปิดสนิทถูกแปะทับด้วยกระดาษสีแดงแผ่นยาวในตลาดมีประกาศความผิดติดไว้ให้ผู้คนรับรู้ ตระกูลสือกำเริบเสิบสาน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย สตรีสกุลสือไร้คุณธรรมบงการลอบทำร้ายผู้อื่น ต้องโทษทั้งตระกูล ยึดทรัพย์ยึดจวน ริบคืนบรรดาศักดิ์ทั้งหมดสือจินเฉิงถูกโบยห้าสิบครั้ง เนรเทศไปชายแดน สืออีหรานถูกโบยสามสิบครั้งถูกกรีดใบหน้าด้านขวาว่าไร้คุณธรรม เกรงว่าชั่วชีวิตนี้นางคงไม่อาจผูกสมัครรักผู้ใดได้อีก ส่วนมารดาของนางถูกโบยยี่สิบครั้งฐานเป็นมารดาที่สั่งสอนบุตรสาวไร้คุณธรรมเมื่อได้ยินเรื่องนี้โจวเจียวเจียวไม่ได้มีท่าทางยินดียินร้ายใดต่อเรื่องที่ได้ย

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ท่านต้องฟื้น

    44ท่านต้องฟื้นจวนแม่ทัพหลินมู่หลินเฟิงถูกพากลับมายังจวนตระกูลหลิน เพราะอยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งหมอของตระกูลหลินเชี่ยวชาญชำนาญบาดแผลเช่นนี้มากกว่า ร่างโชกเลือดถูกยกเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง สาวใช้สองสามคนช่วยท่านหมออยู่ภายใน ผ่านไปเกือบสองเค่อจึงยกเอาอ่างไม้ออกมา เปลี่ยนเป็นน้ำร้อนแล้วเข้าไปอีกโจวเจียวเจียวเดินวนไปวนมา ร้อนใจนักไม่รู้คนโง่ผู้นั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง มีดปักคาไว้ไม่รู้ถูกส่วนสำคัญบ้างหรือไม่เหตุใดคน ๆ นั้นจึงโง่เช่นนี้ การช่วยคนต้องช่วยโดยไม่ให้ตนเองเป็นอันตรายไปด้วย นี่อันใดกันทำตนเองบาดเจ็บคาบเกี่ยวชีวิต คิดแล้วยิ่งขุ่นเคืองเป็นถึงจอหงวนสิ้นคิดนักหญิงสาวทำได้เพียงต่อว่าเขาในใจ นางต่อว่าเขาจนลืมไปกระมังว่าตนเองก็ตายเพราะช่วยผู้อื่น“ท่านหมอ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ร่างเล็กปรี่เข้าไปถาม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status