Share

ตัวละครสำคัญ

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-08 12:45:38

4

ตัวละครสำคัญ

เดิมทีโจวจี้หยวนไม่อยากให้นางไปแต่เมื่อน้องสาวออดอ้อนมีหรือพี่ชายคนนี้จะทนได้ สุดท้ายก็ยอมให้นางไปแต่โดยดี หากไม่ต้องไปตรวจดูการค้าอื่น เขาคงตามไปไม่ให้นางคาดสายตาเป็นแน่

เช้าวันต่อมาโจวเจียวเจียวตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางจัดแจงล้างหน้าล้างตา เลือกอาภรณ์สีอ่อนงดงามแต่ไม่โดดเด่น งานพิธีวันนี้เป็นงานปักปิ่นของบุตรสาวตระกูลเฉียน หากแต่งสีฉูดฉาดจนเกินไปเกรงว่านางจะกลายเป็นผู้ที่โดดเด่นเสียเอง

เมื่อเสี่ยวมั่วมาถึงจึงพบว่าคุณหนูของตนแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงหวีแต่งผมเท่านั้น นางจึงเข้าไปช่วยเหลือ ผมหนาดกดำยาวสลวยครึ่งหนึ่งถูกเกล้าขึ้นไปเป็นมวยอยู่กลางศีรษะ ผมอีกครึ่งที่ปล่อยไว้ถูกมัดปลายด้วยผ้าสีแดงสด

ปิ่นหยกขาวและปิ่นไข่มุกถูกปักลงไปบนมวยผม แม้ไม่ได้โดดเด่นแต่งดงามไม่น้อยเลย

“เสร็จแล้วเจ้าค่ะคุณหนู”

“เช่นนั้น เจ้าไปหยิบกล่องไม้บนเตียงข้ามาด้วย” สาวใช้ทำตามอย่างว่าง่ายแต่ก็ไม่ลืมเอ่ยถามความสงสัยภายในออกไป

“สิ่งใดหรือเจ้าค่ะ”

“วันนี้เป็นพิธีปักปิ่น ข้าย่อมต้องมอบของขวัญให้นางให้สมฐานะบุตรีสกุลโจว ไม่เช่นนั้นก็เสียแรงที่คนเหล่านั้นส่งเทียบเชิญให้แล้ว” นางรู้ดีว่าน้อยคนนักจะชื่นชอบโจวเจียวเจียว แต่ที่ยังเชื้อเชิญนางล้วนเป็นเพราะสกุลโจวร่ำรวยผูกมิตรไว้ย่อมไม่เสียประโยชน์

ดีไม่ดีหากบุตรสาวได้แต่งกับโจวจี้หยวนนั่นคงยิ่งกว่าโชคดี

“เหตุใดคุณหนูจึงกล่าวเช่นนั้น คุณหนูแสนดีเช่นนี้ผู้ใดบ้างไม่อยากคบค้าด้วย”

“ฮ่า ๆ นอกจากท่านพี่ท่านพ่อท่านแม่ก็คงมีแต่เจ้ากระมังที่คิดว่าข้าแสนดี” ในนิยายก็เป็นเช่นนี้เสี่ยวมั่วซื่อสัตย์ภักดีต่อโจวเจียวเจียวกระทั่งถึงวาระสุดท้าย ยังตายเพื่อปกป้องนางจากเงื้อมมือคนของมู่หลินเฟิง

ไม่เข้าใจเลยสักนิด ทำไมพระเอกของเรื่องจึงหูเบาและงมงายแบบนี้ คงเป็นเพราะนางกร่นด่านิยายเรื่องนี้มากกระมัง ถึงได้เข้ามาเป็นตัวร้ายที่นางสงสารที่สุด

ในนิยายนั้นโจวเจียวเจียวไม่ใช่นางร้ายโดยนิสัยเป็นเพียงสตรีที่เอาแต่ใจ ทว่ากลับถูกคุณหนูอันดับหนึ่งอย่างสืออีหรานปั่นหัวจนเกิดความคิดร้ายกาจชั่วครู่ วางแผนทำร้ายสืออีหราน แต่โจวเจียวเจียวนั้นไม่ได้ฉลาดเช่นสืออีหรานสุดท้ายถูกนางตลบหลังวางแผนลวงให้นางไปทำร้าย

มู่หลินเฟิงเองก็หูหนวกตาบอดไม่สนใจฟังคำของโจวเจียวเจียว สั่งคนโบยเสี่ยวมั่วเค้นความจริงจนตายคาไม้โบย แต่เสี่ยวมั่วไม่ปริปากบอกเขาเลยสักคำ กระทั่งสุดท้ายเขาฆ่านางตายด้วยคำพูดไม่กี่คำ

ช่างเป็นนางร้ายที่โง่งม อาภัพรัก หลงผิด และน่าสงสารยิ่งนัก...

“คุณหนูของเสี่ยวมั่วดีที่สุดเจ้าค่ะ” สาวใช้ตัวน้อยยิ้มกว้างพลางเข้ามาช่วยประคองแขนผู้เป็นนาย ทั้งสองเดินออกจากประตูใหญ่จวน ขึ้นรถม้าซึ่งจัดรอนางไว้ได้สักพักแล้ว

“คุณหนูระวังนะเจ้าคะ” สตรีในอาภัพสีเขียวอ่อนราวปีกจักจั่นพยักหน้ายิ้มเบาบางส่งให้ ก้าวเท้าขึ้นไปบนรถเทียมม้าอย่างระวังตามคำเตือนของสาวใช้คนสนิท

เสี่ยวมั่วตามขึ้นไปนั่งข้างกายคนบังคับรถม้า แต่ถูกผู้เป็นนายเรียกให้เข้าไปอยู่ด้วยกันด้านใน แม้โจวเจียวเจียวจะไม่ใช่เจ้านายที่แย่แต่อย่างไรนางก็เป็นนาย ยังคงมีเส้นกั้นที่ไม่อาจล้ำตรึงไว้

เดินทางไปไหนนางก็มักจะนั่งด้านนอกตัวรถม้า แต่ยามนี้โจวเจียวเจียวไม่ใช่คนเดิมจึงเรียกให้นางเข้าไปนั่งด้วย เรื่องเล็ก ๆ เช่นนี้คงไม่มีผู้ใดสนนางจึงไม่ระแวดระวัง

รถม้าวิ่งมาเกือบสองเค่อจึงจอดหน้าประตูใหญ่ตระกูลเฉียน เมื่อสองนายบ่าวลงจากรถม้า คนขับบังคับรถม้าไปจอดที่ตรอกด้านข้างของประตูจวน

“คุณหนูโจว” ยังไม่ทันที่สองนายบ่าวจะก้าวเท้าข้ามธรณีประตูบ้านตระกูลเฉียน ก็มีเสียงใสร้องเรียกนางจากทางด้านหลัง หญิงสาวหัวใจเต้นรัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ต่อให้หันกลับไปนางก็ไม่รู้ว่าผู้ใดกันแน่ที่เรียกนาง ยามหันกลับไปจึงส่งยิ้มเจือนให้หวังให้อีกฝ่ายเอ่ยสิ่งใดขึ้นมาก่อน นางจะได้ทบทวนได้ว่าแท้จริงสตรีตรงหน้าเป็นตัวละครใดในบทนิยาย

“ไม่คิดคุณหนูจะมา เดิมทีคิดว่าคุณหนูยังไม่หายจืออวิ๋นจึงไม่กล้าไปรบกวนที่บ้าน ทำได้เพียงส่งของบำรุงไปเท่านั้น ขอคุณหนูอย่าได้โกรธเคือง” หญิงสาวตรงหน้าว่าพลางยอบกายขอโทษจากใจจริง โจวเจียวเจียวยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีหลังรู้ว่าอีกฝ่ายคือผู้ใด

หว่านจืออวิ๋นคือบุตรสาวตระกูลหว่านแก่กว่านางเพียงหนึ่งปี แต่เพราะบิดานางเคยได้รับการช่วยเหลือจากตระกูลโจว นางจึงไม่ต่างจากสาวรับใช้อีกคนของโจวเจียวเจียว

โจวเจียวเจียวคนเดิมเอาแต่ใจมากบางคราจึงดุด่าหว่านจืออวิ๋นและเสี่ยวมั่วบ้าง แต่ไม่เคยลงไม้ลงมือและยังให้หว่านจืออวิ๋นเรียกตนเองว่าคุณหนูโจวอีกด้วย

ในนิยายหว่านจืออวิ๋นผู้นี้ก็ซื่อสัตย์และหวังดีกับโจวเจียวเจียวไม่ต่างจากสาวใช้เสี่ยวมั่ว แต่สุดท้ายก็ถูกเขียนให้ลี้หนีหายไปเพราะไม่ใช่ตัวละครสำคัญ

มีสองสิ่งที่ตัวละครนี้มอบให้นิยายคือความจริงใจที่มีต่อนางร้ายโจวเจียวเจียว และความรักซื่อตรงไม่หวังสิ่งใดที่มีให้แก่หลินซีพระรองในบทนิยาย

“พี่จืออวิ๋น ท่านเพิ่งมาหรือ เช่นนั้นเข้าไปกับข้าเถิด” หญิงสาวยิ้มกว้างพลางเดินเข้าไปคล้องแขนสตรีใบหน้าหวานหยดตรงหน้า ท่ามกลางสีหน้างุนงงสงสัยของหว่านจืออวิ๋น โจวเจียวเจียวไหนเลยจะเคยเรียกนางดีเช่นนี้

ให้เกียรติที่สุดก็คงเป็นการเรียกชื่อแซ่กระมัง แต่โจวเจียวเจียวตรงหน้ากลับให้เกียรติเรียกนางว่าพี่จืออวิ๋น แปลกประหลาดนัก

นางจะไม่ทำตัวแปลกไปจากเดิมนักเพราะไม่ต้องการให้บุรุษคนใดมาสนใจตนเอง กลัวว่าสุดท้ายจะพบชะตากรรมเลวร้ายเหมือนนิยายมากมายที่เคยได้อ่าน

แต่กับหว่านจืออวิ๋นนางมิใช่บุรุษจะรู้สึกว่านางแปลกไปก็ไม่เป็นอันใด

“คุณหนูโจว เชิญทางนี้เจ้าค่ะ” สาวใช้สกุลเฉียนเห็นนางก็เร่งเข้ามาต้อนรับ พาไปนั่งยังที่จัดพิธี สมัญญาร่ำรวยเหลือกินเหลือใช้ของสกุลโจวนั้นล่วงรู้กันทั่วเมือง ไม่เว้นแม้แต่บ่าวไพร่

“ไปเถอะ” โจวเจียวเจียวยื่นเหรียญเงินให้สาวใช้ผู้นั้นเป็นการให้รางวัลที่ เป็นธุระพานางมานั่งที่โต๊ะ เพราะร่ำรวยนางจึงมิใช่คนตระหนี่เมื่อมีผู้ใดทำสิ่งที่ดีให้นางก็มักจะตอบแทนเป็นเงินหรือของเล็กน้อย

“ขอบคุณคุณหนูโจวเจ้าค่ะ” สาวใช้ผู้นั้นหญิงกว้างโค้งตัวคำนับนางอยู่หลายคราจึงผละออกไป เสี่ยวมั่วยืนอยู่ด้านหลังเผื่อให้ผู้เป็นนายคอยเรียกใช้ มีเพียงโจวเจียวเจียวและหว่านจืออวิ๋นที่นั่งรอพิธีอยู่

“พี่จืออวิ๋นต่อไปนี้ท่านก็เรียกข้าว่าเจียวเจียวเถอะ อย่างไรเสียท่านก็เกิดก่อนข้า” หว่านจืออวิ๋นไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดขึ้นมา ภายในสับสนพลางคิดไปว่าคุณหนูโจวคงเลอะเลือนไปเพราะจมน้ำในคืนนั้นเป็นแน่

หญิงสาวถอนหายใจด้วยความอาทร เหตุใดสตรีผู้นี้จึงโชคร้ายเช่นนี้

หว่านจืออวิ๋นเองก็อยู่ในคืนนั้น นางรู้ดีว่าสืออีหรานเป็นคนเช่นไร แต่กล่าวไปก็ไม่มีผู้ใดเชื่อเพราะในสายตาผู้คน สืออีหรานเป็นสตรีที่เพียบพร้อมทั้งฐานะ หน้าตา ปัญญา

แม้หว่านจืออวิ๋นจะงดงามแต่เมื่อเทียบฐานะกับสืออีหรานยังด้อยกว่ามาก เช่นนี้มู่หลินเฟิงผู้โง่งมจึงไม่เชื่อที่หว่านจืออวิ๋นยืนยัน

“คุณหนูยังมีไข้สูงอยู่หรือ”

“ท่านคิดว่าข้าเลอะเลือนใช่หรือไม่ เช่นนั้นก็ช่างเถอะ ถือว่าคำพูดข้ามันไร้ความหมายก็ไม่เป็นอันใด” อยู่ ๆ ก็ถูกหญิงสาวอ่อนกว่าโกรธเข้า หว่านจืออวิ๋นจึงรีบกล่าวขอโทษขอโพยและทำตามอย่างว่าง่าย

โจวเจียวเจียวไม่ใช่สตรีที่งดงามเฉียบขาดดังสืออีหราน และยิ่งไม่หวานหยดย้อยเช่นหว่านจืออวิ๋น แต่นางกลับน่ารักน่าเอ็นดู ยามออดอ้อนด้วยดวงตาสุกใสกลมโตราวดาราจึงยากจะต้านทาน

“เจียวเจียว พี่ขอโทษ เจ้าอย่าโกรธได้หรือไม่” หว่านจืออวิ๋นพยายามขอโทษนางด้วยการหยิบขนมบนโต๊ะมาป้อน รินน้ำชาให้ แต่ยังถูกโจวเจียวเจียวแสร้งโกรธต่อไป

นางไม่สนใจว่าผู้ใดจะเห็นเพราะวันนี้มู่หลินเฟิงไม่มา นางจึงคิดว่าสามารถเป็นตัวของตนเองได้เต็มที่

แต่นางไม่รู้ว่ายามนี้นางเองอยู่ในสายตาตัวละครสำคัญอีกตัวหนึ่งอยู่เช่นกัน...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ ฤกษ์ดี [จบ]

    ฤกษ์ดีงานวิวาห์สองงานถูกจัดขึ้นพร้อมกัน เป็นเหตุให้เรื่องนี้ร่ำลือไปทั่วเมืองเทียนเผิง สองตระกูลขุนนางสำคัญวิวาห์บุตรสาวจากตระกูลคหบดีชื่อดัง งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นที่โรงเตี้ยมมีชื่อแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของตระกูลโจวอีกเช่นกันทั้งสองไม่ได้คิดจะแต่งวันเดียวกัน แต่ฤกษ์ดีวันนี้กลับมีเพียงห้าปีครั้ง หลินซีเองก็ไม่อยากรอ มู่หลินเฟิงก็ไม่อยากรอ ยิ่งมีบุตรปีนี้จะเกื้อหนุนครอบครัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งสตรีทั้งสองยังกลัวจะไม่ได้ไปร่วมดื่มอวยพรให้อีกฝ่ายเมื่อเลือกไม่ได้จึงตกลงแต่งพร้อมกัน มู่หลินเฟิงและหลินซียังคงปะทะฝีปากกันบ่อย ๆ แต่ทุกครั้งก็ถูกว่าที่ภรรยาตำหนิจนหน้าบูดกันไปทุกทีหากงานจัดในบ้าน เจ้าสาวย่อมไม่มีหน้าที่มาต้อนรับ แต่งานวิวาห์นี้กลับจัดในโรงเตี้ยมใหญ่โต เจ้าสาวทั้งสองจึงสวมผ้าคลุมหน้าพูดคุยกับผู้มาร่วมยินดีด้วยได้ กระทั่งมีชายสูงศักดิ์ผู้หนึ่งเดินเข้ามาคารวะสุรากับโจวเจียวเจียว“

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ อารมณ์ดี

    ตอนพิเศษอารมณ์ดีหลังถูกสตรีในใจปฏิเสธชัดเจน หลินซีรู้สึกว่าตนเองต้องเสียใจมากเป็นแน่ ทว่าเรื่องราวไม่เป็นเช่นนั้น เขารู้สึกราวยกภูเขาออกจากอกเสียมากกว่า ร่างสูงโปร่งที่มีใบหน้างดงามราวอิสตรีเดินเอื่อยไปเรื่อย ๆ บนถนนเส้นหลักของตลาดฝั่งประจิมแม้จะมีใบหน้างดงามจนหาที่เปรียบได้ยากและเป็นที่ชื่นชอบของสตรีมากมาย แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าก่อกวนเพราะตระกูลนักรบเช่นเขาไหนเลยจะรู้จักรักหยกถนอมบุปผาได้เฉิงเชียงที่เดินอยู่ด้านหลังขยับขึ้นมากระซิบชายหนุ่มแผ่วเบา“คุณชายนั่นแม่นางจืออวิ๋นขอรับ” หว่านจืออวิ๋นเป็นสตรีที่งดงามราวเทพธิดาไม่ต่างสืออีหราน ต่างกันเพียงนางไม่ใช่บุตรสาวตระกูลขุนนาง หากแต่เป็นบุตรสาวพ่อค้ายามนี้ไร้ซึ่งเงาของสืออีหราน นางจึงเป็นที่เลื่องลือมากยิ่งขึ้น มีบรรดาบุตรชายขุนนางหลายคนมาทำความรู้จัก บางคนต้อ

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   พิมดาว

    47พิมดาวจวนตระกูลมู่เงียบเชียบราวกับจวนร้างแต่ยังมีเสียงเล็ดลอดออกมาทำให้รู้ว่าแท้จริงที่นี่มิได้ร้างผู้คน สตรีวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนเตียงสีหน้าเศร้าหมองไม่น้อย นางชี้หน้าผู้เป็นสามีต่อว่าเขาแต่ตนเองกับร่ำ ๆ จะร้องไห้บุตรชายนางไปทำงานต่างเมืองสองเดือนแล้ว แม้มีจดหมายแต่ราวกับไม่มี จดหมายนั้นหาใช่บุตรชายนางเขียน หากบุตรชายนางยังอยู่ดีเหตุใดจึงไม่เขียนจดหมายมาเอง“ท่านโกหกข้า ลูกข้าอยู่ที่ใด ฮือ...” อี้ฮูหยินกล่าวไปร่ำไห้ไป จดหมายสองฉบับที่ส่งมา ลายมือแทบไม่ต่างจากบุตรชายแต่นางที่เฝ้ามองบุตรชายเติบใหญ่ มีหรือไม่สามารถจำได้ลายมือบนจดหมายถูกปลอมแปลงขึ้น แล้วเหตุใดต้องปลอมหากไม่ใช่เพราะบุตรชายนาง...“ฮูหยินเจ้าใจเย็น ๆ เสียก่อน เฟิงเอ๋อร์ยังอยู่ดี”“อยู่ดีหร

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ขอเพียงท่านฟื้น

    46ขอเพียงท่านฟื้นปลายวสันต์ลมโชยพัดผ่านกิ่งไม้ใบไม้เสียดสีกันฟังราวกับกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจีให้ความสดชื่นไม่น้อย เพียงแต่ที่นี่คือเรือนข้างในคฤหาสน์หลังใหญ่สกุลโจว ร่างสูงโปร่งบนเตียงก็ยังคงหลับตาอยู่เช่นเดิมหญิงสาวใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมดำสนิทที่ถูกลมพัดของมู่หลินเฟิงออกจากใบหน้า“สองเดือนแล้วที่ท่านปล่อยให้ข้าพูดคุยเพียงลำพัง ยังไม่ทันได้หมั้นหมายก็ทิ้งให้ข้ากังวลเช้าเย็นเช่นนี้ คิดว่าข้ายังจะอยากแต่งกับท่านอีกหรือคุณชายมู่” บ่นไปก็เช็ดตัวเขาไป นางทำจนเคยชินไปเสียแล้ว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนนางจึงเช็ดเนื้อเช็ดตัวของเขาทั้งเช้าและเย็นเดิมทีนางคิดว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาภายในหนึ่งเดือน เพราะก่อนนี้เขาตอบสนองนางด้วยการขยับนิ้ว แต่ก็เพียงแค่ครั้งเดียว ดูเหมือนอี้ฮูหยินเองก็เริ่มสงสัยแล้วเหมือนกันว่าบุตรชายไม่ได

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ข้ายังรออยู่

    45ข้ายังรออยู่ตระกูลสือที่รุ่งเรืองในอดีต ยามนี้จบสิ้นแล้วทั้งตระกูล ประตูใหญ่จวนสือที่เคยรุ่งโรจน์บรรดาขุนนางน้อยใหญ่ตบเท้าเข้ามาทำความรู้จัก บัดนี้มีเพียงเศษใบไม้ปลิดปลิว เวิ้งว้างวังเวง ประตูปิดสนิทถูกแปะทับด้วยกระดาษสีแดงแผ่นยาวในตลาดมีประกาศความผิดติดไว้ให้ผู้คนรับรู้ ตระกูลสือกำเริบเสิบสาน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย สตรีสกุลสือไร้คุณธรรมบงการลอบทำร้ายผู้อื่น ต้องโทษทั้งตระกูล ยึดทรัพย์ยึดจวน ริบคืนบรรดาศักดิ์ทั้งหมดสือจินเฉิงถูกโบยห้าสิบครั้ง เนรเทศไปชายแดน สืออีหรานถูกโบยสามสิบครั้งถูกกรีดใบหน้าด้านขวาว่าไร้คุณธรรม เกรงว่าชั่วชีวิตนี้นางคงไม่อาจผูกสมัครรักผู้ใดได้อีก ส่วนมารดาของนางถูกโบยยี่สิบครั้งฐานเป็นมารดาที่สั่งสอนบุตรสาวไร้คุณธรรมเมื่อได้ยินเรื่องนี้โจวเจียวเจียวไม่ได้มีท่าทางยินดียินร้ายใดต่อเรื่องที่ได้ย

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ท่านต้องฟื้น

    44ท่านต้องฟื้นจวนแม่ทัพหลินมู่หลินเฟิงถูกพากลับมายังจวนตระกูลหลิน เพราะอยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งหมอของตระกูลหลินเชี่ยวชาญชำนาญบาดแผลเช่นนี้มากกว่า ร่างโชกเลือดถูกยกเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง สาวใช้สองสามคนช่วยท่านหมออยู่ภายใน ผ่านไปเกือบสองเค่อจึงยกเอาอ่างไม้ออกมา เปลี่ยนเป็นน้ำร้อนแล้วเข้าไปอีกโจวเจียวเจียวเดินวนไปวนมา ร้อนใจนักไม่รู้คนโง่ผู้นั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง มีดปักคาไว้ไม่รู้ถูกส่วนสำคัญบ้างหรือไม่เหตุใดคน ๆ นั้นจึงโง่เช่นนี้ การช่วยคนต้องช่วยโดยไม่ให้ตนเองเป็นอันตรายไปด้วย นี่อันใดกันทำตนเองบาดเจ็บคาบเกี่ยวชีวิต คิดแล้วยิ่งขุ่นเคืองเป็นถึงจอหงวนสิ้นคิดนักหญิงสาวทำได้เพียงต่อว่าเขาในใจ นางต่อว่าเขาจนลืมไปกระมังว่าตนเองก็ตายเพราะช่วยผู้อื่น“ท่านหมอ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ร่างเล็กปรี่เข้าไปถาม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status