Share

บทที่ 12 เว่ยฮูหยิน

Penulis: sanvittayam
last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-18 11:50:52

บทที่ 12 เว่ยฮูหยิน

หลังจากเสร็จงาน ฟานเทียนเผยนั่งมองชายที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องเขยของตนด้วยความแปลกใจ เนื่องจากความสามารถที่อาเฟยมีนั้นมันเกินคำว่าอดีตชายตัดฟืน

“ข้าถามเจ้าสักเล็กน้อยเถอะว่า เจ้าไม่คิดที่จะสืบหาเรื่องราวความเป็นมาของตัวเองหรือไง ความสามารถของเจ้าที่ข้าพบเจอกับตัวเอง เจ้าไม่น่าจะเป็นชายตัดฟืน”

“แล้วอย่างไร ต่อให้ตัวข้าจะใช่ชายตัดฟืนหรือไม่ มันสำคัญด้วยหรือขอรับ”

อาเฟยมองออกไปนอกห้องสายตาเขาอยู่บนถนนที่มีผู้คนพลุกพล่าน

“ตระกูลฟ่านของเราแม้จะไม่มองฐานะของเจ้าก็ตามที แต่ตัวเจ้าเองควรจะสืบหาความเป็นมาฐานะของเจ้า ไม่แน่ว่าเจ้าอาจจะเคยเป็นคุณชายที่ไหนสักแห่ง ถึงตอนนั้นฮวาเอ๋อร์ของพวกเราจะได้ไม่น้อยหน้าผู้ใด”

“เมื่อถึงเวลานั้น ฮวาเอ๋อร์จะต้องไม่น้อยหน้าผู้ใด ข้าสัญญาขอรับ”

อาเฟยสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเมื่อถึงเวลานั้น เขาจะต้องตามหาอดีตของตนเองเช่นกัน เพื่อไม่ให้ภรรยารักต้องน้อยหน้าผู้ใด

ฟ่านเทียนเผยเมื่อได้รับคำตอบกลับมาเช่นนี้จึงไม่พูดอะไรอีก แต่ข้าเชื่อว่าชายตรงหน้าที่ชื่ออาเฟยย่อมทำได้อย่างที่กล่าว

ตำหนักองค์ชายสาม

หลังจากกลับมาถึงตำหนัก องค์ชายสามจึงอยู่ในห้องทรงงานโดยมีองครักษ์คนสนิทอยู่ด้วย หลังจากที่แยกตัวจากฟ่านเทียนเผยและอาเฟย เหมือนมีบางอย่างที่ติดอยู่ในใจของเขาไม่น้อย

“เจ้าคิดว่าอาเฟยคือบ่าวตัดฟืนอย่างที่มีข่าวจริงหรือ”

“กระหม่อมไม่แน่ใจพ่ะย่ะค่ะ แต่แววตาของอาเฟยไม่คล้ายกับบ่าวทั่วไป กระหม่อมคิดว่าเบื้องหลังของอาเฟยย่อมต้องไม่ธรรมดา อาจจะเป็นคุณชายมาจากต่างแคว้น ถ้าหากเป็นคุณชายจวนใดในแคว้นหลานย่อมต้องมีข่าวการหายตัวลูกหลานตระกูลนั้น แต่นี่กลับไม่มีข่าวการหายสาบสูญของผู้ใดเลย”

องครักษ์คนสนิทตอบกลับตามความคิดของตน แต่แล้วกลับมีเสียงขันทีดังเข้ามา

“เสียนเฟยเสด็จ”

เสียงขันทีหน้าตำหนักส่งเสียงเข้ามาเมื่อมู่เสียนเฟยมาเยือนตำหนักขององค์ชายสาม ทำให้พระองค์และองครักษ์รีบรุดเดินออกมาต้อนรับเสียนเฟยที่มาเยือน

“เสด็จแม่ มีเรื่องอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ มาหาลูกถึงที่ตำหนัก”

“แม่ไม่มีอันใดหรอก แม่เพียงแค่อยากมาเยี่ยมเจ้าแล้วนำภาพวาดของคุณหนูจวนต่าง ๆ ที่เหมาะกับเจ้ามาให้ดู เรื่องนี้ฝ่าบาทเห็นสมควรแล้ว แต่แม่เกรงว่าจะเกิดปัญหาขึ้นน่ะสิ เจ้าก็รู้ว่าองค์ชายรองยังไม่ได้สมรส เรื่องของพระองค์กับคุณหนูเหอก็จบไปแล้ว”

มู่เสียนเฟยกล่าว นางพยายามเลือกคุณหนูที่ไม่มีฐานอำนาจใด ๆ ให้กับบุตรชายคนนี้ หากนางเลือกตระกูลที่มีอำนาจขึ้นมา กลัวว่านางและบุตรชายจะอยู่อย่างไม่สงบ ตัวของนางเองบ้านเดิมก็ไม่มีอำนาจเช่นกัน

“เสด็จแม่อย่ากังวลเลยพ่ะย่ะค่ะ วันนี้ลูกไปเจอกับเทียนเผย เจ้านั่นมากับอาเฟยสามีของคุณหนูเหอ ลูกคิดว่าหากเสด็จพี่รู้ฐานะที่แท้จริงของนางคงได้กระอักเลือด และไม่แน่ว่าอาจจะแย่งชิงนางกลับไป”

มู่เสียนเฟยเมื่อได้ยินคำพูดของบุตรชายจึงทำหน้าแปลกใจ

“ลูกหมายความว่าอย่างไร ฐานะของคุณหนูเหอคืออะไร”

“นางคือนายหญิงแห่งหอประมูลและหอขายข่าวมู่ตานพ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่ เสด็จแม่คิดว่าหากเรื่องนี้เข้าถึงหูเสด็จพี่ เสด็จพี่ยังคงนิ่งเฉยได้หรือไม่”

“ที่เจ้ากล่าวมาคือเรื่องจริงหรือ”

สีหน้าของเสียนเฟยตกใจไม่น้อยเมื่อรู้เบื้องหลังของเหอหลันฮวา

“จริงพ่ะย่ะค่ะ เรื่องนี้อาเฟยยอมรับกับกระหม่อมด้วยตนเอง”

องค์ชายสามตอบรับด้วยท่าทีสบาย แตกต่างจากมู่เสียเฟยที่ในตอนนี้คิ้วของนางแทบจะชนกัน

“แม่กลับไม่คิดเช่นนั้น ต่อให้องค์ชายรองต้องการนางกลับมา ตามกฎมณเฑียรยังไงนางไม่อาจมาอยู่ในตำแหน่งของพระชายาได้ และด้วยนิสัยของนาง นางย่อมไม่ยินยอม”

“ลูกคิดว่าคนที่ไม่ยอมคืออาเฟย กลิ่นอายของเขาไม่ใช่กลิ่นอายของบ่าวตัดฟืนและไม่ใช่กลิ่นอายของชาวบ้านธรรมดา เมื่อไหร่ที่ความทรงจำของอาเฟยกลับมาเราคงจะได้รู้คำตอบขอรับ”

หลานหยางคุนกล่าวกับมู่เสียนเฟยอย่างไม่ปิดบัง แม้ว่าทั้งสองจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่ทั้งคู่รักกันยิ่งกว่าแม่ลูกที่แท้จริงเสียอีก

“เอาเถอะ แม่ดีใจที่หลันฮวาแต่งงาน แม้ว่าจะไม่ได้นางมาเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ แต่มารดาของนางกับแม่เคยเป็นสหายกันมาก่อน แม่ย่อมต้องรู้สึกดีหากนางได้สามีที่ดี”

มู่เสียนเฟยนางยังคงเสียใจที่สหายเพียงคนเดียวของนางตายไปก่อนวัยอันควร จากนั้นนางจึงคุยกับหลานหยางหลงเพียงชั่วครู่จึงกลับตำหนักของตนเอง

เหอหลันฮวาใช้เวลาอยู่ที่จวนตระกูลฟ่านจนถึงยามเซิน (15.00 – 16.59 น.) เมื่ออาเฟยกลับมา ทั้งสองจึงอยู่ร่วมทานมื้อเย็นก่อนจะกลับจวนของตนเอง

“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะท่านพี่ ไปดูงานกับพี่รองฟ่าน”

เหอหลันฮวาเอ่ยถามสามีหลังจากที่ทั้งคู่เตรียมจะเข้านอน

“วันนี้ข้าพบกับองค์ชายสาม และเกริ่นให้พระองค์ทราบเรื่องหอขายข่าว ฮวาเอ๋อร์ไม่โกรธข้าใช่หรือไม่”

“ไม่โกรธหรอกเจ้าค่ะ ข้าจะโกรธท่านพี่ทำไม ในเมื่อองค์ชายสามเป็นสหายกับพี่รองฟ่าน และตัวขององค์ชายสามไม่ได้เป็นอันตรายกับเราสองคน”

นางไม่สนใจว่าท่านพี่ของนางจะบอกกล่าวเรื่องนี้กับผู้ใด นางรู้ดีว่านี่คือเกราะคุ้มกันนางและสามีเป็นอย่างดี

จากนั้นอาเฟยยังคงบอกเล่าเรื่องราวในวันนี้ให้ฟังอย่างไม่ปิดบัง เมื่อพูดคุยกันเสร็จสิ้น ทั้งสองจึงล้มตัวนอนภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันด้วยใจที่อบอุ่น

วันต่อมาหลังจากทานมื้อเช้าเหอหลันฮวาจึงพาอาเฟยมาที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเตี๊ยมที่ใหญ่พอควร สามารถเทียบเท่ากับของตระกูลฟ่านได้เลย แต่ไม่คิดว่าการมาของนางครั้งนี้กลับต้องพบหน้าคนที่ไม่อยากเจออย่างองค์ชายรองหลานหมิงฮ่าว

“ไม่พบกันนานเจ้าสบายดีหรือไม่ฮวาเอ๋อร์”

“หม่อมฉันคิดว่าพระองค์ไม่ควรที่จะเรียกสตรีที่แต่งงานแล้วเช่นนั้นนะเพคะ”

เหอหลันฮวาแบ่งแยกสถานะชัดเจน และมองหลานหมิงเย่วอย่างไม่ชอบใจ

ใบหน้าของหลานหมิงฮ่าวเจื่อนไปเล็กน้อย แต่กลับมาเป็นปกติด้วยความรวดเร็ว

“แล้วเจ้าจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าเช่นไร ในเมื่อสามีของเจ้าเป็นเพียงบ่าวที่ไม่มีชื่อแซ่”

“เว่ย เรียกนางว่าเว่ยฮูหยิน”

แต่แล้วอยู่ ๆ อาเฟยกลับพูดแซ่เว่ยออกมา ซึ่งชายหนุ่มไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องเอ่ยแซ่นี้ แต่เขากลับมีความเชื่อมั่นว่าเขานั้นแซ่เว่ย ทำให้องครักษ์แซ่จื่อทั้งสี่คนที่เดินตามเข้ามายืนนิ่งค้างและมองหน้ากันด้วยแววตาประหลาดใจ

“ท่านพี่ ท่านจำชื่อแซ่ตัวเองได้แล้วหรือเจ้าคะ”

เหอหลันฮวาไม่สนใจผู้ใดอีก นางจับมืออาเฟยด้วยความดีใจ

“ข้ายังจำไม่ได้ แต่ข้ามั่นใจว่าแซ่เว่ยคือแซ่ของข้า”

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ท่านจำได้แค่นี้ก็ดีมากแล้ว”

นางกล่าวกับสามีด้วยรอยยิ้มและความอ่อนโยน ก่อนจะหันมาพูดกับหลานหมิงฮ่าวด้วยน้ำเสียงที่ห่างเหิน

“เช่นนั้นหม่อมฉันรบกวนองค์ชายเรียกขานหม่อมฉันให้ถูกต้องด้วยนะเพคะ ท่านพี่ของหม่อมฉันแซ่เว่ย หม่อมฉันย่อมต้องเป็นเว่ยฮูหยินเช่นกัน จื่อโหวเจ้าไปจ้างช่างให้ทำป้ายประตูจวนเป็นจวนเว่ยด้วยล่ะ”

ในเมื่อท่านพี่ของนางจำแซ่ของตัวเองได้แล้ว นางควรจะมีชื่อจวนเสียที

“ขอรับฮูหยิน”

จื่อโหวรับคำก่อนจะรีบเดินออกมาหน้าโรงเตี๊ยม แล้วแจ้งให้คนจัดการแทน ในโรงเตี๊ยมมีองค์ชายรองอยู่ด้วย เขาไม่มั่นใจในความปลอดภัยของนายท่านและฮูหยิน ก่อนจะรีบเดินเข้าไปด้านใน

“กระหม่อมและฮูหยินต้องขอตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ เราทั้งสองต้องการความเป็นส่วนตัว”

อาเฟยเลือกที่จะกล่าวเพราะไม่ต้องการให้เหอหลันฮวาอยู่ใกล้ชายตรงหน้า เขาไว้ใจฮูหยินของตนแต่กลับไม่ไว้ใจองค์ชายรองหลานหมิงฮ่าว

เหล่าองครักษ์เตรียมที่จะเดินหน้าเข้ามา และสี่พี่น้องแซ่จื่อเตรียมป้องกันเจ้านายทั้งสองเช่นกัน

หลานหมิงฮ่าวยกมือห้ามคนของตน และปล่อยให้สองสามีภรรยาเดินขึ้นไปชั้นสองและเข้าห้องส่วนตัวไป

ภายในใจของชายหนุ่มเกิดความไม่ยินยอมเมื่อเห็นภาพของสองสามีภรรยารักใคร่กันตรงหน้า คล้ายกับว่าภาพนี้ควรจะเป็นตนเองที่ยืนอยู่ข้างนาง ก่อนจะเดินกลับออกมาจากโรงเตี๊ยมด้วยความรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอมีชีวิตที่สงบสุข   บทส่งท้าย ชีวิตที่สงบอย่างที่ต้องการ

    บทส่งท้าย ชีวิตที่สงบอย่างที่ต้องการเว่ยเฟยหลงพาภรรยาและบุตรชายทั้งสองกลับมาถึงเมืองหลวงของแคว้นเว่ย เขาก็ได้รับพระราชทานให้ไปอยู่ที่ตำหนักบูรพา ฮ่องเต้และฮองเฮาเสด็จมารับหลานทั้งสองและได้เจอลูกสะใภ้ ด้วยความเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่มาก่อน กิริยาของเหอหลันฮวาก็เพียบพร้อม ไม่มีใครกล้ามาตำหนินางได้ผู้เป็นใหญ่ทั้งสองรักและหลงหลานชายเป็นอย่างมาก ฮ่องเต้ประกาศราชโองการสละราชสมบัติ ให้เว่ยเฟยหลงขึ้นครองราชย์ต่อจากเขา จากที่ฮองเฮาเตรียมจัดงานแต่งตั้งพระชายาเอกขององค์รัชทายาท กลับกลายมาเป็นงานเฉลิมฉลองขึ้นครองราชย์ของเว่ยเฟยหลงเหอหลันฮวาถูกแต่งตั้งเป็นฮองเฮา บุตรชายทั้งสองได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์ชาย อดีตฮ่องเต้และอดีตฮองเฮา ยังคงอาศัยอยู่ที่เมืองหลวง มีตำหนักเป็นของตนเอง สิ่งที่ทั้งสองโปรดปรานในตอนนี้คือการเลี้ยงดูหลานทั้งสองในตอนนี้ เหอหลันฮวากำลังนั่งสนทนากับพี่ชายอยู่ตำหนักของนาง“พี่รองคิดดีแล้วหรือ?”นางกล่าวถามพี่ชายอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ หลังจากที่เหอซือเหวินบอกกล่าวกับนางเรื่องที่เขาต้องการจะลาออกจากราชการมาอยู่ใกล้นาง เพื่อปกป้องนางและหลานน้อยทั้งสอง เหอหลันฮวารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอมีชีวิตที่สงบสุข   บทที่ 64 กบฏแคว้นหลาน

    บทที่ 64 กบฏแคว้นหลานหลังจากที่เหอหลันฮวาคลอดบุตรชายทั้งสองครบสามเดือน เว่ยเฟยหลงก็ตัดสินใจพานางและบุตรชายกลับไปที่แคว้นเว่ย เนื่องจากทางฮ่องเต้และฮองเฮาเร่งรัดมาเพื่ออยากเจอหน้าหลานชายทั้งสองและก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นในแคว้นหลาน ฮ่องเต้สวรรคตเนื่องจากฝีมือขององค์ชายรองเป็นผู้กระทำ องค์ชายรองต้องการแต่งตั้งตนเองเป็นฮ่องเต้ แต่เพราะไม่มีราชโองการแต่งตั้ง และตอนนี้เขากำลังหาตราประทับของฮ่องเต้จึงยื้อเวลาเอาไว้หลานหยางคุนให้เว่ยเฟยหลงพาทุกคนกลับแคว้นเว่ยไป เพื่อความปลอดภัย เหตุการณ์ในครั้งนี้เหอหลันฮวาคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าต้องเกิดขึ้นสักวัน นางจึงวางแผนไว้ล่วงหน้า พร้อมกับเตรียมการตั้งรับ“องค์ชายสาม ท่านพาคนบุกเข้าไปในวังหลวงเถิด”เหอหลันฮวาที่นั่งฟังองครักษ์ขององค์ชายสามรายงานเสร็จ นางก็หันไปกล่าวกับองค์ชายสามที่นั่งกำหมัดอยู่ด้วยดวงตาแดงก่ำ“เขากำเริบเสิบสานยิ่งนัก” หลานหยางคุนกัดฟันเอ่ยขึ้นด้วยความเคียดแค้น“พวกท่านควรกลับไปก่อน” เขาเป็นห่วงความปลอดภัยของทุกคนในที่นี้ เพราะกลัวว่าจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะหลานทั้งสองที่เพิ่งลืมตาดูโลก จึงเร่งให้เว่ยเฟยหลงพาภรรยาและบุตรกลับไปก่อน“ข้าจะออ

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอมีชีวิตที่สงบสุข   บทที่ 63 รับภรรยากลับบ้าน

    บทที่ 63 รับภรรยากลับบ้านราชสำนักออกมาประกาศความผิดของตระกูลไช่ ตระกูลหม่า ตระกูลจงอย่างชัดเจน และยังมีการแห่นักโทษก่อนประหารเพื่อไม่ให้คนรุ่นหลังหลังเอาเป็นเยี่ยงอย่าง หลังจากประหารนักโทษเสร็จสิ้น ก็มีการประกาศแต่งตั้งองค์รัชทายาทขึ้นมาอีกครั้งสงครามกลางเมืองที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป ไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก ไม่นานชาวเมืองก็กลับมาค้าขาย และบรรยากาศที่ครึกครื้นก็กลับมาองค์ชายสามที่ตอนนี้กลายเป็นคุณชายเว่ย และไช่ฮูหยิน อดีตเสียนเฟยก็ได้เดินทางไปที่แดนเหนือ เพื่อปกครองเมืองหน้าด่านเล็ก ๆ ตามราชโองการของฮ่องเต้เมื่อทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี เว่ยเฟยหลงก็ขอพระราชทานอนุญาตเดินทางไปที่แคว้นหลาน เพื่อไปรับเหอหลันฮวามาที่แคว้นเว่ยทางด้านฮองเฮาก็เตรียมตัวที่จะจัดงานแต่งตั้งชายาเอกของโอรสด้วยความตื่นเต้น ยิ่งรู้ว่าเหอหลันฮวากำลังตั้งครรภ์ ผู้ที่กำลังจะเป็นปู่ย่าก็รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนักเนื่องจากอยากเจอหน้าหลานโดยเร็วเว่ยเฟยหลงและเว่ยอิ้งเหมยออกเดินทางจากแคว้นเว่ยมาที่แคว้นหลานก็ใช้เวลาหลายวัน และเมื่อมาถึงจวน เขาก็พบว่าตอนนี้ทั้งจวนกำลังตกอยู่ในความโกลาหล จนเขาเห็นแล้วก็ตกใจ รีบคว้าคอบ่าวคนหนึ่ง

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอมีชีวิตที่สงบสุข   บทที่ 62 ลงโทษ

    บทที่ 62 ลงโทษเมื่อดาบขององค์ชายสามกระทบพื้น ทุกคนก็รู้ในทันทีว่าศึกในครานี้ที่เพิ่งจะเริ่มต้น ฝ่ายองค์ชายสามได้แพ้พ่ายแล้ว“องค์ชาย!!” แม่ทัพฝ่ายเสนาบดีไช่เห็นดังนั้นก็จะเข้ามาหาเพื่อเกลี้ยกล่อมให้เขายอมแพ้“จับกุมตัวให้หมด ใครขัดขืน ฆ่า!!!”แต่เว่ยเฟยหลงไม่ยอมให้ใครได้ขยับตัว เขาออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด ผู้ใต้บังคับบัญชาก็รีบทำตามจับกุมเหล่ากบฏ หากมีใครกล้าขัดขืนก็ฆ่าได้ในทันทีเว่ยเฟยหลงละสายตาจากทหารเหล่านั้น หันมามองน้องชายที่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมในตอนนี้อยู่“เจ้าตามข้ามาเถิด”เขาบังคับม้าให้นำไปที่ประตูเมือง องค์ชายสามเงยหน้าขึ้นเห็นแผ่นหลังที่องอาจของพี่ชายที่ควบม้านำหน้าเขาไปเดิมทีเขานึกว่าพี่ชายจะสั่งให้คนมาจับตัวเขาเสียอีก แต่พอคิดว่าพี่ชายไม่มีความแค้นอันใดกับเขา เว่ยหนิงเฉิงก็รีบควบม้าตามเว่ยเฟยหลงไปทันที“เสด็จพี่” เขาเรียกองค์รัชทายาทเอาไว้ด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล“???” ทำให้เว่ยเฟยหลงหันมามองเขาอย่างตั้งคำถาม“เสด็จแม่ของข้า”“นางกระทำสิ่งใดไว้ ก็ต้องได้รับโทษ ข้าไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจ เจ้าไปร้องขอเสด็จพ่อเถิด”เว่ยเฟยหลงย่อมรู้ว่าเว่ยหนิงเฉิงอยากจะร้องขอสิ่งใด เพียงแต่เ

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอมีชีวิตที่สงบสุข   บทที่ 61 ศึกพี่น้อง

    บทที่ 61 ศึกพี่น้ององค์ชายสามกลับมาถึงตำหนักของตนเอง ก็เข้าไปขลุกตัวอยู่ในห้องหนังสือ เขาขบคิดอย่างหนักถึงความต้องการของตนเองในเวลานี้บัลลังก์นั่นเขาไม่ได้ต้องการ และเขาก็ไม่ได้มีความแค้นกับองค์รัชทายาท อีกฝั่งคือพี่ชาย ส่วนอีกฝั่งคือมารดาผู้ให้กำเนิด และท่านตา ที่คอยสนับสนุนเขาเสมอมา ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาย่อมรู้ว่ามารดาและท่านตากระทำสิ่งใดลงไปบ้างแต่เพราะมองว่าพวกเขาทำเพื่อให้เขามีชีวิตรอด และมีความมั่นคงในชีวิต จึงยอมปิดตาข้างหนึ่งมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ไม่รู้ว่าเหตุใด เขาจึงไม่อยากกระทำตามที่มารดาและท่านตาสั่งให้ทำเลยสักนิด“องค์ชาย” องครักษ์ที่เดินตามเว่ยหนิงเฉิงเข้ามาเห็นเจ้านายมีสีหน้าที่คิดไม่ตก และนั่งเหม่อลอยอยู่นาน จึงร้องเรียกด้วยความเป็นห่วง“ข้าจะทำเช่นไรดี” เว่ยหนิงเฉิงพึมพำขึ้นเสียงเบา แต่สำหรับคนที่ฝึกวรยุทธ์ย่อมได้ยินเพียงองครักษ์เช่นเขาจะสามารถให้คำแนะนำองค์ชายที่ได้รับคำสั่งจากเสียนเฟยมาแล้วได้อย่างไร ถ้าเกิดเขากล่าวอันใดที่ขัดพระทัย จะไม่เป็นการฆ่าตนเองหรอกหรืออีกทั้งเรื่องนี้ล้วนแต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจขององค์ชายทั้งสิ้นเว่ยหนิงเฉิงไม่ได้สนใจใคร เขาเพียงแค่พึม

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอมีชีวิตที่สงบสุข   บทที่ 60 หลังชนฝา

    บทที่ 60 หลังชนฝาข่าวการกลับมาขององค์รัชทายาท ทำให้ตระกูลไช่ และเสียนเฟยเริ่มร้อนตัวถึงการกระทำของตนเองไช่เสียนเฟยเมื่อทราบเช่นนั้น นางแทบจะทรุดลงอีกครั้ง เรื่องมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าองค์รัชทายาทตายไปแล้วหรอกหรือ แล้วนี่เขายกทัพมาประชิดเมืองหลวงได้ทำไมคนของสกุลไช่ถึงไม่รู้เรื่องกันล่ะ หรือสายข่าวของท่านพ่อจะมีปัญหา“ท่านพ่อไม่ใช่สกุลไช่หละหลวมหรอกหรือ ทำให้คนพวกนั้นมาประชิดเมืองหลวงได้ แล้วคนของเราล่ะเจ้าคะ ทำไมถึงไม่มีใครส่งข่าว พี่ใหญ่เช่นกัน ท่านบอกว่าจะให้บุตรสาวของท่านตีสนิทกับคุณชายเหวินคนดูแลหอมู่ตาน หรือว่าบุตรสาวของท่านไม่มีความสามารถ”นางหันไปกล่าวกับบิดาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ออกแนวจะตำหนิที่เขาไม่รอบคอบ อีกทั้งแผนการง่าย ๆ เรื่องให้สาวงามไปล่อลวงคุณชายเหวิน เรื่องแค่นี้เขายังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางอดไม่ได้ที่จะมองเขาอย่างดูแคลน“พระสนมกล่าวเช่นนั้นก็มิถูกนะพ่ะย่ะค่ะ มีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าคุณชายเหวินมีสัญญาหมั้นหมายกับบุตรีของอดีตแม่ทัพจง เรื่องนี้สกุลจงมิอาจก้าวก่ายได้เช่นกัน”เสนาบดีไช่ส่งสายตาบุตรสาว ที่ตนส่งเข้าวังหลวงด้วยตนเอง อีกทั้งยังหนุนหลังนางจนได้ตำแหน่งเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status