LOGIN"ไหนว่าช่วงนี้คุณยุ่งไงคะ"
ซินเจียถามผู้ชายที่แวะมาหาเธอที่บริษัทพร้อมกับดอกไม้ช่อโตที่เธอเห็นแล้วไม่ได้รู้สึกดีใจหรืออยากได้เลยสักนิดเดียว
"พอดีวันนี้ผมแวะมาคุยงานกับคุณโจวที่บริษัท Y เอนเตอร์เทนเม้นต์แล้วบังเอิญเห็นดอกไม้ที่คุณชอบพอดีก็เลยคิดถึงน่ะครับ"
ถ้าเป็นแต่ก่อนเธอได้ยินคำพูดหวานๆ ของเจิ้งหลุนก็คงไม่พ้นยิ้มอย่างเขินอาย เอาหน้าซุกดอกไม้เพื่อซ่อนแก้มแดงๆ ที่ผ่านมาเธอรักเขาด้วยหัวใจ มีไม่มี ไม่สนใจ ช่วยกันเก็บ ช่วยกันสร้างได้ และไม่เคยทำตัวงอแง งี่เง่า หรือเป็นภาระให้เขาต้องลำบากใจเลยสักครั้ง
"คุยเสร็จรึยังคะ"
ริมฝีปากบางสวยฉีกยิ้มหวาน ต่างจากแววตาที่สวนทางอย่างสิ้นเชิง ซินเจียยื่นมือออกไปรับช่อดอกไม้มากอดเอาไว้ เธอแสร้งทำเหมือนดีใจ แต่ความเป็นจริงแล้วช่อดอกไม้สวยๆ ที่ได้มาจากผู้ชายเลวๆ ไม่ต่างอะไรกับขยะเน่าๆ ที่เธออยากโยนทิ้งไปเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
"เสร็จแล้วครับ"
"ดีเลย ฉันมีของจะให้คุณพอดี"
ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลเป็นประกายวาววับ ก่อนจะคว้าข้อมือของเขาให้เดินตามเธอมาที่รถ ท่าทีที่ดูปกติทำให้เจิ้งหลุนแปลกใจจนคิ้วขมวดเข้าหากัน คนนินทาทั่วบริษัทขนาดนั้น แต่ทำไมเธอถึงยังทำตัวปกติได้ขนาดนี้
"ซินเจีย"
"คะ"
เสียงหวานตอบรับเมื่อถูกเรียกชื่อ ท่าทีที่เหมือนไม่ระแคะระคายอะไร ทำให้เจิ้งหลุนเริ่มลังเลว่าควรจะนิ่งๆ ไปเลยดีไหม หรือควรแก้ตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะเมื่อคืนเหมยลี่โทรมาร้องโวยวายว่าโดนแอบแซ่บเล่นงานด้วยการใบ้ชื่อของเธอ
"เอ่อ...ไม่มีอะไรครับ"
ท่าทางของซินเจียทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจกลืนคำพูดแก้ตัวลงคอ และส่งยิ้มให้เธอแทน ในเมื่อซินเจียยังทำตัวปกติ เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะร้อนตัว ดวงตาคมมองแผ่นหลังบอบบางที่ก้มๆ เงยๆ หยิบของบางอย่างในรถออกมา
"หลับตาก่อนค่ะ"
เสียงหวานสั่งเมื่อหันมาเผชิญหน้ากัน แต่สองแขนกลับไขว้หลังเหมือนเธอกำลังซ่อนบางอย่างเอาไว้
"คุณทำผมตื่นเต้นนะ"
ชายหนุ่มไม่ได้พูดเล่น เขาพูดจริง ทุกครั้งที่ซินเจียแสดงท่าทีกะตือรือร้นอย่างนี้ เธอมักจะมีอะไรดีๆ มาเซอไพรส์เขาเสมอ
"หลับตาและยื่นมือมาค่ะ"
เจิ้งหลุนทำตามคำสั่งแต่โดยดี เขาหลับตาและยื่นมือมาให้คนตัวเล็กตรงหน้าที่พูดชมเบาๆ ว่า "ดีมากค่ะ" ความเย็นที่สัมผัสตรงข้อมือทำให้มุมปากหยักยกยิ้มออกมาจางๆ ถึงจะหลับตาแต่สมองกำลังประมวลผลว่าสิ่งที่ได้มาคืออะไร
ถ้าไม่ใช่ทอง...
ก็คงไม่พ้นนาฬิกา!
"ลืมตาได้ยังครับ"
"ได้แล้วค่ะ"
ดวงตาคมของชายหนุ่มกะพริบขึ้นลงทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่หญิงสาวให้มา มันเป็นนาฬิกาที่เขาอยากได้มานาน เป็นแบรนด์ดังที่ใครใส่แล้วก็อยากอวด อยากโชว์
"ชอบไหมคะ"
"ชอบมากเลยครับ"
ความตื่นเต้น ความดีใจ ทำให้เขาคว้าคนตัวเล็กมากอดไว้แนบอกทันที ความสงสัยที่มีตอนนี้มลายหายวับไปกับตา การที่ซินเจียยังทำตัวปกตินั่นก็แสดงว่าเธอรักเขา รักชนิดหัวปักหัวปำ ข่าวลือบ้าๆ บอๆ พวกนั้นไม่ได้มีผลกับเธอ
"ราคามันแพงมากเลยนะ"
ชายหนุ่มพูดไปก็มองนาฬิกาไป
"พอดีฉันได้กำไรหุ้นมานิดหน่อยน่ะคะ"
หญิงสาวตอบพร้อมกับโชว์กราฟหุ้นในโทรศัพท์ของตัวเองให้ชายหนุ่มดู ถึงเขาจะเล่นหุ้นไม่เป็น แต่ทว่าไอ้เส้นสีเขียวๆ กับสัญลักษณ์ (+) ที่ยาวติดกันเป็นพรืดก็ทำให้เขารู้ว่าเธอพูดจริง และกำไรนิดๆ หน่อยๆ ที่ว่านั้นถึงขั้นซื้อนาฬิกาแพงๆ ได้เนี่ยไม่ธรรมดา ความโลภที่มีติดตัวมาทำให้เขาอยากรู้รายละเอียดทันที
"คุณเล่นหุ้นด้วยเหรอครับ"
"เพิ่งเริ่มเล่นเองค่ะ"
หญิงสาวตอบยิ้มๆ ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้าในกระเป๋าสะพายไหล่ดังเดิม
"วันนี้ฉันได้กำไรมาเยอะ ฉันว่าเราไปเดินช็อปปิ้งกันดีไหม ฉันอยากซื้อเสื้อให้คุณด้วย"
"ไปสิครับ"
ชายหนุ่มรีบตอบรับทันที เพราะเสื้อที่ซินเจียซื้อให้มักจะราคาแพงและตามใจคนใส่อย่างเขาเสมอ
"เอาเสื้อตัวนี้ค่ะ"
"เอากางเกงตัวนั้นด้วย"
"เข็มขัดอันนี้สวยดี ฉันว่าเหมาะกับคุณ"
เงินที่ถูกรูดออกจากบัตรรัวๆ ไม่ได้มีผลกับคนตัวเล็กที่เดินเลือกเสื้อผ้าราคาแพงด้วยท่าทีสบายใจ ปกติซินเจียก็ซื้อให้นะ แต่วันนี้มันมากกว่าปกติถึงสามเท่า
"เดี๋ยวฉันขอรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ"
ซินเจียกระซิบบอกแฟนหนุ่มที่กำลังเลือกเสื้อผ้าในราว พอเธอบอกว่าเลือกได้ทุกอย่างตามใจ เจิ้งหลุนก็จัดหนัก จัดเต็ม คำว่าเกรงใจไม่มีหลุดออกมาให้ได้ยิน มีแต่คำว่า...
"ไปดูร้านนั้นต่อไหมครับ"
"ผมว่าสูทร้านนี้สวยดี"
"รองเท้าผมพื้นเริ่มสึกแล้ว"
มันเป็นการบอกใบ้กรายๆ และเธอก็โดนความรักบังตาและโง่ซื้อให้เป็นประจำ
"อุ้ย! หุ้นขึ้นอีกแล้วเหรอ โชคดีจังเลยที่ฉันซื้อหุ้นตัวที่เธอแนะนำ ถ้าเธอมีหุ้นตัวไหนเด็ดๆ บอกฉันอีกนะ ฉันจะซื้อตามให้หมด"
ทุกคำพูด ทุกการกระทำ ซินเจียจงใจทำให้เจิ้งหลุนเห็นเต็มๆ แน่นอนว่าไม่ได้มีสายเข้าจริงๆ เธอก็แค่มโนว่ามีคนโทรมา เดินห่างออกมานิดๆ แต่อยู่ในระยะสายตา แสร้งทำทีเป็นว่ากำลังเอ็นจอยกับงานอดิเรกใหม่แบบคนรวยๆ
"ใครโทรมาครับ"
คนที่หูกระดิกเมื่อได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ เอ่ยถาม
"เพื่อนค่ะ"
"ผมรู้จักไหม"
"ไม่ค่ะ พอดีฉันเองก็เพิ่งรู้จักตอนไปติดต่องานที่เมืองนอก เขารวยมากเลยนะคะ แรกๆ ก็ทำงานเป็นมนุษย์กินเงินเดือน ศึกษาหุ้นเพราะความสนใจ แต่ช่วงหลังๆ ฉันเห็นเขาโพสต์รูปทำงานน้อยลง ฉันก็เลยส่งข้อความไปถามดู ถึงได้รู้ว่าลาออกจากงาน และมาเทรดหุ้นเก็งกำไรอย่างเดียว"
ซินเจียเล่าเรื่องที่เธอแต่งขึ้นมาให้เจิ้งหลุนฟังได้อย่างไหลลื่น สีหน้าและแววตาที่ดูสนใจมากๆ ของแฟนหนุ่ม ทำให้มุมปากสวยลอบยิ้มออกมา ก่อนจะพูดเสริมต่อว่า
"เพื่อนก็เลยชวนให้ฉันลองเล่นหุ้นดู ตอนแรกๆ ฉันก็ไม่สนใจ แต่เพื่อนบอกว่ามีหุ้นตัวดีๆ แนะนำ รับประกันว่าต้องได้กำไร นู่น นี่ นั่น พอโดนชวนมากๆ ก็เลยลองดู"
"แล้วยังไงต่อครับ"
"ฉันก็แค่ซื้อหุ้นตัวที่เพื่อนแนะนำ แล้วคุณรู้อะไรไหมคะ อาทิตย์ที่ผ่านมาหุ้นตัวนี้มันทำกำไรให้ฉันได้มากกว่าเงินเดือนของฉันตั้งสองเท่าเลย"
คำพูดเหล่านั้นดูไม่เกินจริงเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับสิ่งของแพงๆ ที่หญิงสาวซื้อให้ในวันนี้ ความโลภที่มีทำให้เขาตาลุกวาว ขนาดซินเจียไม่มีเวลา ซื้อหุ้นทิ้งไว้ขำๆ แต่ผลของมันคือทำกำไรให้เธอมากกว่าเงินเดือนถึงสองเท่า แค่ฟังเขาก็แอบร้อง 'ว้าว' ในใจ แล้วมีหรือคนฉลาดๆ อย่างเขาจะปล่อยโอกาสดีๆ ให้หลุดมือ
"ซินเจีย..."
"คะ"
หญิงสาวที่พูดโกหกได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุดเงยหน้าขึ้นมามองแฟนหนุ่มที่น่าจะกำลังเข้าใกล้หลุมพรางที่เธอขุดไว้ ท่าทางของเขาดูสนใจ และใช่ค่ะ! เขาตกหลุมพรางของฉันเข้าอย่างจัง
"ผมก็อยากลองบ้าง..."
คำพูดของเขาทำให้ซินเจียแอบยิ้มในใจ ก่อนจะตอบด้วยสีหน้าและแววตาที่ดูไม่ค่อยอยากแนะนำให้เขาเล่นสักเท่าไหร่เลย
"แต่คุณมีเงินลงทุนเหรอคะ"
หญิงสาวหยั่งเชิงถาม คำพูดของเธอคล้ายคนเป็นห่วงเป็นใย แต่นั่นกลับทำให้คนที่ชอบทำหน้าใหญ่โชว์พาวอย่างเจิ้งหลุนไม่สบอารมณ์
"ผมมีเงินเก็บ"
"แต่ฉันว่า..."
หญิงสาวไม่ทันจะได้พูดห้ามต่อ คนที่โดนความโลภเข้าครอบงำก็พูดตัดบทแทรกขึ้นมา
"คุณสอนผมหน่อยนะ"
มือหนายื่นมากอบกุมมือเรียวบาง แววตาอ้อนวอน แน่นอนอยู่แล้วว่าเธอต้องตอบ 'ตกลง' ซึ่งคนเห็นแก่ตัวอย่างเจิ้งหลุน รักสบายเป็นหลัก คงไม่มานั่งถ่างตาไม่ได้หลับไม่ได้นอนติดตามข่าวสารของหุ้นที่ขึ้นๆ ลงๆ แน่
เจิ้งหลุน...
ถ้าคุณคิดจะรวยทางลัด
ทางนี้ล่ะเหมาะสมกับคุณที่สุดแล้ว!
[ห้องแชทบริษัท X]รถอย่างหรูเลยเขามีเจ้าของหรือยังบอกมานะว่า...แฟนใคร?ถัดจากเรื่องดอกไม้ ก็เป็นเรื่องรถหรูราคาแพงที่จอดอยู่หน้าบริษัท เห็นจอดอยู่นาน ไม่รู้มาทำธุระ หรือว่ามารับใคร ถ้าเป็นลุงแก่ๆ หัวล้านๆ คงไม่เป็นประเด็นอะไร แต่ที่ทุกคนให้ความสนใจเพราะเจ้าของรถที่เดินลงมาหน้าตาหล่อไม่น้อยไปกว่าดาราเลยเขามีเจ้าของแล้วว้าย~ เธอตกข่าวนะจ๊ะฟาดด้วยรูปซะเลย!มุมปากสวยได้รูปยิ้มจางๆ เมื่อเห็นรูปของตัวเองที่กำลังเดินขึ้นรถคันหรูไป แน่นอนว่ามุมมันได้ และรูปแอบถ่ายของเธอก็ดูดีซะด้วย@เหมยลี่ แฟนเธอเหรอ?@เหมยลี่ ไปหามาจากไหน?@เหมยลี่ ผู้หล่อและรวยมาก!!!ข้อความที่แท็กมายิ่งทำให้เหมยลี่ได้ใจ ยิ่งคนพูดถึงมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งคิดว่าผู้ชายที่แย่งมาได้คือของดี และจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาขอเธอแต่งงาน หญิงสาวคิดพลางส่งรอยยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม คนที่มันคลิ้กกัน แค่มองตาก็เข้าใจ ไม่ต้องพูดอะไรมากมาย ภาษากายก็สื่อถึงกัน "หิวไหมคะ""หิวครับ หิวมาก"ดวงตาคมเข้มมองหญิงสาวด้วยแววตากรุ้มกริ่มแฝงความนัย เสน่ห์ของเธอมันชวนให้ร่างกายเขาร้อนรุ่มจริงๆ"คุณอยากกินอะไรคะ""ให้ผมเลือกเหรอครับ""ค่ะ"ห
[ห้องแชทบริษัท X]สองคนนี้เขาเป็นแฟนกันเหรอ??เรื่องจริงใช่ไหม???ฉันได้ยินเต็มสองรูหูเห็นดอกไม้ไหม...ช่อใหญ่เว่อร์อย่างที่รู้กันดีว่าเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ที่เกิดขึ้นในบริษัท ใครคบใคร ใครเลิกใคร เป็นเรื่องที่ชวนให้เผือกอยากเสือกมากที่สุด พอมีคนจุดประเด็นปุ๊บ คนอื่นก็แห่ตามมาเมาท์ในแชทปั๊บ และถึงบางคนจะไม่ได้เห็นด้วยตา แต่อย่าลืมสิว่าโซเชี่ยลมันไว รูปแอบถง แอบถ่าย มีให้เห็นกันตรึมถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวฉันฟาดด้วยรูป(เพิ่มรูปภาพ)ไม่นะ ฉันไม่พร้อมจะอกหักคบกันตอนไหน ทำไมฉันไม่รู้ข่าวพวกนี้ต้องมีคนเชื่อ และไม่เชื่อผสมปนกันไป แต่พอมีรูปภาพจากมือดีมายืนยัน จากไม่เชื่อก็เริ่มเอนเอียง และคล้อยตามภาพที่เห็นว่า เออ! มีมูลมิน่าล่ะ ไม่เคยเห็นผู้ชายคบใครที่แท้เขามีตัวจริงโอ้ย! ฉันอิจจฉาแรงซินเจียโชคดีสุดๆ ไปเลยห้องแชทในกลุ่มบริษัทพูดถึงเรื่องนี้ทั้งวัน ซึ่งผลลัพธ์เป็นไปตามที่อี้เทียนต้องการ ข่าวลือก่อนหน้านั้นโดนกลบชนิดที่ว่าไม่มีคนขุดคุ้ยหรือพูดถึงอีกต่อไป และข่าวลือใหม่ที่กำลังเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์นั้นก็ทำเอาเขายิ้มไม่หุบเลย คู่รักคู่ใหม่ของบริษัทยินดีด้วยนะทำงานเก่งทั้งคู่เขาเหมาะสมกันอยู
[มีข้อความเข้า]ไห่ถาง : มึงอย่าลืมเอารถมาคืนด้วยนะเจิ้งหลุน : เออๆ กูไม่ลืมหรอกเจิ้งหลุนพิมพ์ข้อความตอบกลับเพื่อนที่ให้เขายืมรถมาใช้สองวัน แลกเปลี่ยนกับการแนะนำสาวๆ สวยๆ ให้สักคน [มีข้อความเข้า] พรุ่งนี้ครบกำหนดเช่านาฬิกา ถ้าคืนช้าทางร้านจะขออนุญาติปรับวันละสี่ร้อยหยวนข้อความแจ้งเตือนส่งมาจากร้านเช่าของแบรนด์เนมที่เจิ้งหลุนใช้บริการประจำ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสูท เข็มขัด จนไปถึงรองเท้าหนัง เขาเช่ามาแล้วนับไม่ถ้วน ซึ่งล่าสุดที่ได้มาก็เป็นนาฬิกาที่เตะตาเขาเข้าอย่างจัง ถึงจะต้องวางมัดจำแพงกว่าทุกครั้ง เขาก็ยอม"แม่งเอ้ย! ทำอย่างกับว่ากูจะไม่คืน"ชายหนุ่มสบถเมื่อเห็นข้อความ เขาทิ้งตัวลงนั่งในห้องขนาดเล็กที่ไม่เหมาะจะอยู่กันสองคน ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลที่เขาไม่เคยพาผู้หญิงมานอนด้วยสักครั้งเดียว ผู้หญิงที่เขาเคยคบๆ มาถ้าไม่สวยมาก ก็ต้องรวยมาก แต่ถ้าหากไม่มีทั้งสองอย่าง ไม่มีทางที่เขาจะเดินหน้าจีบ'สวยไหม'เจิ้งหลุนถามลงไปในไลน์กลุ่มเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งมีนิสัยชอบอวด ชอบโชว์เหมือนกัน 'แม่ง! ได้กินแต่ของดี''หาอย่างนี้ให้กูสักคน''เอามันส์ไหมวะ'นิสัยชอบอวดของเจิ้งหลุนไม่เคยแก้ได้ เวล
[เหมยลี่โพสต์อินสทา]@ผู้ชายชวนมาดื่มเบาๆ แคปชั่นมาพร้อมกับภาพข้อมือของผู้ชายที่กำลังจับมือเธอ ถึงจะไม่เห็นหน้า แต่ก็จงใจถ่ายให้เห็นนาฬิกาแบรนด์หรูที่กำลังเป็นกระแสใน 'ทิ้กท็อก' ถ้าใครใส่เขาก็ว่ารวย ร้วย รวย และบังเอิญผู้ชายที่เธอมาดื่มด้วยดันมีซะด้วยสิ!ใครอ่ะเหมยลี่?แค่เห็นข้อมือก็รู้ว่ารวยหาให้ฉันด้วยสักหนึ่งคน!ข้อความแซวของเพื่อนๆ ทำให้เหมยลี่ผุดรอยยิ้มที่เหนือกว่าออกมา ก่อนจะพิมพ์ตอบไปแบบไม่ค่อยอยากอวดเท่าไหร่ว่า...คนในความลับ🙊ปากบอกว่าคนในความลับ แต่แคปชั่นและภาพที่จงใจโพสต์ลงก็บอกให้รู้แล้วว่าลับถึงขั้นไหน เหมยลี่ที่อยากจะเอาชนะซินเจียสุดใจ เธอไม่ยอมหยุดแค่ดื่มเหล้าแล้วแยกย้ายกันไปนอน"เหล้าแรงจังเลยค่ะ""ไหวไหมครับ""เหมยลี่เมาแล้วแน่เลย"หญิงสาวพูดเสียงยานคาง แสร้งทำเป็นซบหน้าตรงแผ่นอกกว้าง ก่อนจะส่งสายตาหวานเหมือนหญิงสาวที่ไม่ประสา รอยยิ้มที่ส่งมามันยั่วยวนจนเจิ้งหลุนอดใจไม่ไหว ก้มลงประกบอย่างดูดดื่มจนแทบลืมหายใจ และมือเรียวก็ลูบไล้แถวต้นขาของเขาเบาๆ"ผมจะทนไม่ไหวเอานะครับ"ชายหนุ่มกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูของหญิงสาวที่แสร้งทำเป็นเมา แต่มือกลับเลื้อยเก่งปลุกเร้าอารมณ
คำสารภาพรักเมื่อกี้ทำซินเจียตั้งตัวไม่ทัน เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าอี้เทียนแอบชอบเธอ หญิงสาวมองใบหน้าหล่อเหลาที่เพิ่งขอจีบเธอไป ท่าทางเขาดูเขินอาย ไม่ต่างอะไรจากเธอชอบเธอตอนไหน...ชอบเธอตั้งแต่เมื่อไหร่... มันเป็นคำถามที่ผุดขึ้นในใจ ทำไมผู้ชายที่เป็นจุดสนใจของสาวๆ ทุกคนในบริษัทอย่างเขาถึงได้มาชอบผู้หญิงที่ดูธรรมดาและไม่โดดเด่นอะไรอย่างเธอ"คุณล้อฉันเล่นรึเปล่าคะ"ซินเจียเอ่ยถามผู้ชายที่ยังคงสบตากับเธอ ใบหน้าของเขาดูจริงจัง และน้ำเสียงที่ตอบกลับมานั้นก็เกินกว่าจะคิดว่าเป็นการล้อกันเล่นขำๆ อย่างที่เธอถามไป"ผมไม่ได้ล้อเล่นครับ"ความเขินอายที่แฝงในดวงตาคมคู่นั้นของเขาเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าทุกสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง ถึงแม้ใบหน้าหล่อเหลาจะดูนิ่ง แต่ใบหูทั้งสองข้างกลับแดงจนสังเกตุได้ เมื่ออีกฝ่ายเปิดเผยความในใจ แล้วเธอล่ะควรตอบเขากลับไปว่าอย่างไรดี"คือฉัน..."คำตอบไม่ทันได้หลุดออกมาจากริมฝีปากบาง เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขัดจังหวะขึ้นมาพอดี"คุณรับโทรศัพท์ก่อนก็ได้ครับ""เอ่อ...ค่ะ"เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้เร่งเร้าเอาคำตอบ เธอจึงเปิดกระเป๋าหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา พอเห็นชื่อของใครโทรมา
"มึงอยู่เฉยไม่ได้แล้วนะ"อาเฉินสะกิดบอกอี้เทียนเมื่อได้ยินสาวๆ ในแผนกเมาท์กันถึงเรื่องช่อดอกไม้ที่ส่งตรงถึงหน้าแผนกพัฒนา ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ แต่พอได้ยินว่าช่อดอกไม้ระบุชื่อใคร เขาก็ทนอยู่เฉยไม่ไหว ใส่เกียร์หมารีบคาบข่าวมาบอกเพื่อนทันที และด้วยความที่หวังดีไง ก็เลยใส่ไฟหวังกระตุ้นให้เพื่อนตื่นตัว"หมาคาบไปแดกแน่มึง""ถ้ามัวแต่ช้าได้แดกแห้วแทนแน่ๆ""กูสมน้ำหน้ารอได้ไหม"ถึงคำพูดจะกดดัน แต่เขาก็หวังดีกับไอ้อี้เทียนจริงๆ ถ้ามันยังมัวแต่ช้า ไม่เริ่มจีบจริงจัง ความหล่อของมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร ผู้หญิงเขาชอบผู้ชายที่เอาใจ แต่ไอ้อี้เทียนกลับขี้อายไม่ออกตัวสักที ถ้ายังปล่อยไว้อย่างนี้ แม่ง! มีแววแดกแห้วสูงมากเพื่อนกู"ข่าวจริงป่ะวะ"คนที่วางแผนจะสารภาพความในใจถึงกับต้องถามซ้ำอีกที "ข่าวมั่วมั้ง""ไอ้เฉินอย่ากวนตีน!"จากที่คิดว่าจะค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ ไม่รีบร้อนจีบอีกฝ่ายจนเกินไป ตอนนี้เขากลับอยู่นิ่งเหมือนเดิมไม่ไหว เพราะอยู่ๆ ก็มีผู้ชายที่มองเห็นเสน่ห์ในตัวของซินเจียเหมือนกัน ที่สำคัญผู้ชายคนนั้นรุกแรง ต่างจากเขาที่เอาแต่มองและยังไม่เริ่มต้นจีบเลย "กูเพิ่งไปดูปฏิทินมา วันนี้เป็นวันดี ถ้ามึงไ







