เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของราฟาเอลบ่งบอกว่าชายหนุ่มได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปเรียบร้อยแล้ว ดวงตากลมโตหลุบต่ำมองหน้าท้องแกร่งของราฟาเอลอย่างเหม่อลอย เอวาไม่ได้ลุกหนีชายหนุ่มในระหว่างที่เขานอนหลับและกกกอดเธออยู่ แต่เธอปล่อยให้ตัวเองได้นอนครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านไปในช่วงนี้ จนกระทั่งเวลาผ่านพ้นไป…
เอวาไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปนานสักแค่ไหน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เสียงของกัปตันดังขึ้นมาเพื่อเป็นสัญญาณบอกพวกเธอว่าเครื่องบินกำลังจะลงจอดที่สนามบินในอิตาลี เธอจึงหลุดออกจากภวังค์ความคิดทันที
ราฟาเอลค่อยๆ เปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นมาช้าๆ เพราะเสียงของกัปตันปลุกให้เขาตื่น นัยน์ตาสีฟ้าครามคมกริบปรับโฟกัสอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่วงแขนแกร่งที่สอดใต้ลำคอระหงอยู่จะค่อยๆ ดึงออกมา
“คาดเข็มขัด” ชายหนุ่มบอกกล่าวหญิงสาวพร้อมกับเอื้อมมือไปปรับเบาะขึ้นในท่านั่งเหมือนเดิม เอวาจับเข็มขัดนิรภัยมาคาดเอาไว้ทันทีที่เบาะปรับนั่งเรียบร้อยแล้ว ราฟาเอลเองก็เช่นกัน จากนั้นเครื่องบินส่วนตัวลำใหญ่ก็บินต่ำและลงมาจอดสนิทลงบนลานจอดอย่างช้าๆ
เหล่าบอดี้การ์ดเดินมาหาราฟาเอลกับเอวา ก่อนที่พวกเขาทุกคนจะลงมาจากเครื่องบินทันที เอวามองดูขบวนรถยนต์สีดำหลายคันที่จอดเรียงรายรอรับราฟาเอลอยู่ด้วยความสงสัย แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป ราฟาเอลเดินขึ้นไปนั่งบนรถคันที่สองของขบวน และแน่นอนว่าเอวาต้องนั่งข้างเขาตลอดอยู่แล้ว ตั้งแต่ที่เธอมาอยู่กับเขา ราฟาเอลก็ให้หญิงสาวนั่งรถข้างเขามาตลอด แล้วมันก็เป็นแบบนี้ไปโดยปริยายแบบที่เธอไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลย
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง ขบวนรถหรูคันสีดำสนิทขับเคลื่อนมาจนถึงหน้าคฤหาสน์ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ประตูรั้วบานใหญ่เปิดออกอัตโนมัติอย่างช้าๆ ก่อนที่ขบวนรถยนต์สุดหรูจะขับเคลื่อนเข้ามาในคฤหาสน์ที่ใหญ่โตดูคล้ายคลึงพระราชวัง
คฤหาสน์หลังนี้ดูใหญ่โตพอๆ กับคฤหาสน์ของราฟาเอล ด้านหน้าของคฤหาสน์เองก็มีน้ำพุกับรูปปั้นอสูรไทฟอนขนาดใหญ่อยู่ เป็นวงเวียนให้รถวนเข้าออกก่อนจะถึงตัวคฤหาสน์
ราฟาเอลกับเอวาลงมาจากรถทันที เมื่อรถยนต์จอดสนิทลง และตามมาด้วยเหล่าบรรดาบอดี้การ์ดของราฟาเอลที่ลงมาจากรถ ก่อนที่เหล่าบรรดาบอดี้การ์ดร่างใหญ่จะเดินไปยืนตัวตรงอยู่รอเจ้านายอยู่ตรงหน้าประตูของคฤหาสน์ มีเพียงแค่ราฟาเอล เอวา และลูกาเพียงเท่านั้นที่เดินเข้าไปด้านใน
“ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์คาร์ดินัล” เสียงทุ้มมีเสน่ห์ของคามิลโลเอ่ยขึ้นมา ชายหนุ่มผู้มีนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มและดูไม่แข็งกร้าวสักเท่าไหร่ เขายืนรอรับเพื่อนอยู่ตรงหน้าประตูของคฤหาสน์
“ลูเซียนมาถึงหรือยัง” ราฟาเอลถามออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“ถึงแล้ว…มันรออยู่ในห้องประชุมกับไอ้วินเซนต์แล้ว” คามิลโลตอบกลับ เขาปรายตามองหญิงสาวหน้านิ่งเรียบและแววตาดุดันที่อยู่ข้างกายราฟาเอลเล็กน้อย
“เข้าไปข้างในกันเถอะ พวกมันรออยู่” คามิลโลพูดต่อ ราฟาเอลจึงพยักหน้าให้เขาอย่างแผ่วเบา
จากนั้นคามิลโลก็ใช้สองมือล้วงกระเป๋าและหันหลังก้าวเดินเข้าไปภายในคฤหาสน์อย่างช้าๆ ราฟาเอลจึงเดินตามเพื่อนเข้าไปพร้อมกับเอวาและลูกาที่เดินตามหลังเขามาติดๆ
พวกเขาเดินมาถึงห้องทำงานของคามิลโลในเวลาต่อมา ราฟาเอลกับคามิลโลเข้าไปในห้องทำงานทันที ส่วนลูกากับเอวาก็ยืนรออยู่หน้าห้องโดยมีบอดี้การ์ดของเจ้าของคฤหาสน์และผู้ติดตามของทุกคนยืนอยู่หน้าประตูด้วย ทำให้ในตอนนี้หน้าประตูห้องทำงานมีเหล่าบรรดาชายชุดดำร่างใหญ่ยืนรอเจ้านายอยู่เป็นสิบๆ ชีวิต มีเพียงเอวาที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้น
เวลาผ่านพ้นไปเรื่อยๆ เอวายืนรอชายหนุ่มอยู่หน้าห้องอย่างมั่นคงและไม่เอ่ยปากบ่นออกมาเลยสักคำ จนชายร่างใหญ่หลายคนนึกชื่นชมกับความแข็งแรงและอดทนของผู้หญิงใบหน้าสวยสดคนนี้ เพราะในยุคสมัยนี้ผู้หญิงที่สวยงามส่วนใหญ่ก็จะบอบบางอ่อนแอ แต่ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ได้เหมือนผู้หญิงทั่วไปเลยสักนิด
ซึ่งในระหว่างที่เหล่าบอดี้การ์ดกำลังยืนรอเจ้านายของพวกเขาอยู่นั่นเอง เสียงดังโวยวายก็ดังขึ้นมาจากที่ไหนสักแห่งที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขาเท่าไหร่นัก
“แกเป็นบ้าอะไร! ทำไมไม่ให้ฉันพาลูกไปเที่ยว!” เสียงของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความโมโหและเกรี้ยวกราดดังขึ้นมา
“มันเป็นคำสั่งของท่านคามิลค่ะ” ส่วนอีกเสียงหนึ่งก็เป็นเหมือนเสียงของผู้หญิงที่อ่อนแอและไม่สู้คนสักเท่าไหร่
เสียงสนทนาของผู้หญิงสองคนดังลั่นมาเข้าโสตประสาทของเอวา ซึ่งมันไม่ได้ดูเหมือนการพูดคุยกันแบบปกติ แต่เหมือนเป็นการทะเลาะกันหรืออีกฝ่ายโดนดุด่าเสียมากกว่า
“แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร! คิดว่าตัวเองมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน! ฮะ!”
เพียะ!!
เสียงของหญิงสาวทั้งสองคนดูรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และตามมาด้วยบางอย่างที่เอวารู้ดีว่ามันคือเสียงอะไร เธอไม่อยากจะเชื่อว่าทำไมบอดี้การ์ดภายในบ้านนี้ถึงไม่มีใครเข้าไปช่วยเธอเลยสักคน หญิงสาวทนไม่ไหวจริงๆ ที่ต้องมาได้ยินหรือรับรู้เรื่องอะไรแบบนี้ เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้จริงๆ ในวินาทีนั่นเอง…เอวาตัดสินใจก้าวเดินไปตามเสียงของหญิงสาวทั้งสองคนอย่างฉับพลัน
“คุณอันนา! จะไปไหนครับ!” ลูกาเอ่ยขึ้นมาด้วยความงุนงง ก่อนที่เขาจะรีบก้าวเดินตามเอวาไปทันที
เอวาเดินตามทางเดินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเธอเห็นภาพตรงหน้าที่มีผู้หญิงสองคนกำลังยืนประจันหน้ากันอยู่ โดยมีเหล่าบรรดาคนใช้ยืนอยู่ด้วยสามคนกับเด็กชายหน้าตาน่ารักอีกคนหนึ่งที่มีสาวใช้นั่งประคองร่างเล็กของเด็กสาวเอาไว้อยู่
“เป็นแค่พี่เลี้ยงแต่กล้ามาปีกกล้าขาแข็งกับฉันเหรอ…หรือว่าเธอเป็นมากกว่าพี่เลี้ยงล่ะ”
เสียงแหลมของสาวชุดรัดรูปสีดำตะคอกใส่หญิงสาวในชุดเดรสสั้นสีขาวที่ยืนเอามือจับอังแก้มเนียนของตัวเองเอาไว้ เนื่องจากเธอโดนตบจนใบหน้าของเธอเป็นรอยมือแดง
“ไม่ได้จริงๆ ค่ะ ท่านคามิลสั่งเอาไว้ค่ะ” เจ้าขา หญิงสาวชุดเดรสสั้นสีขาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม
“อีนี่!!” สาวชุดรัดรูปสีดำตั้งท่าจะง้างมือขึ้นมาตบเจ้าขาอีกรอบ ทว่าสาวใช้ที่ดูมีอายุมากกว่าคนอื่นก็เดินมาขวางเธอเอาไว้
“พอเถอะค่ะคุณอลิซาเบธ” เสียงของสาวใช้บอกกล่าวหญิงสาวชุดดำที่ชื่ออลิซาเบธด้วยน้ำเสียงแหบพร่าตามประสาคนแก่
“อย่ามายุ่งกับฉัน อีพวกขี้ข้า!” แต่อลิซาเบธกลับผลักไสคนแก่ออกไปอย่างแรงโดยที่ไม่ได้สนใจว่าเธอจะล้มหรือเจ็บตัวหรือเปล่า
ในจังหวะนั่นเอง เอวาเดินมาถึงตัวของสาวใช้พอดิบพอดี สปายสาวรับร่างอวบอ้วนเล็กน้อยของคนแก่เอาไว้ได้ ทุกคนมองมาที่เอวาเป็นตาเดียวกันทันที เนื่องจากการปรากฏตัวที่กะทันหันของเธอ
เอวาประคองสาวใช้ให้ยืนตัวตรงได้ตามปกติ ก่อนที่เธอจะมุ่งไปผลักร่างของอลิซาเบธเต็มแรง จนร่างอวบอิ่มของหญิงสาวที่นิสัยไม่ดีคนนั้นได้ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างแรง
ผลัวะ! ตุบ!
“กรี้ดดด!” เสียงกรี้ดร้องโอยครวญของอลิซาเบธดังขึ้นมาทันที
“แกเป็นใคร!” มือบางลูบก้นตัวเองด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่เธอจะตะโกนใส่หน้าเอวาต่อ
“ทำไม..พอโดนทำบ้างรู้สึกยังไงล่ะ” เอวาตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“เป็นอะไรไหม” สปายสาวหันไปเอ่ยถามเจ้าขากับสาวใช้ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนยวบลงมาเล็กน้อย
“ไม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ” เจ้าขาตอบกลับอย่างอ่อนหวาน
“เกิดอะไรขึ้น” เสียงของคามิลโลดังขึ้นมา ทุกคนจึงหันขวับไปตามเสียงของชายหนุ่มทันที
คามิลโลเดินตรงมายังจุดเกิดเหตุพร้อมกับเทพบุตรทั้งสามคน พวกเขาทั้งสี่คนดูหล่อเหลาราวกับว่าแต่ละคนนั้นหลุดออกมาจากเทพนิยาย ราฟาเอลมองตรงไปที่เอวาด้วยสายตานิ่งเรียบ
“ผู้หญิงคนนี้! มันผลักฉัน!” อลิซาเบธเอ่ยฟ้องคามิลโลอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เธอจะพยายามดันตัวเองลุกขึ้นยืน
“ทำอะไรของเธอ…ไปทำร้ายคนอื่นทำไม” ราฟาเอลหันมาต่อว่าเอวาทันที
“แม่ตบพี่เจ้าขาก่อนครับ พี่สาวคนสวยเลยมาช่วยพี่เจ้าขากับคุณอาเรียเอาไว้ครับ” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กชายที่ยืนอยู่กับสาวใช้บอกกล่าวกับทุกคนด้วยน้ำเสียงที่ดังฟังชัด จนอลิซาเบธหน้าเจื่อนลงไป
“อลิซาเบธ” คามิลโลหันไปมองหน้าเจ้าขาที่มีรอยมือแดงอย่างชัดเจน ชายหนุ่มขบกรามแน่นด้วยความเดือดดาลที่เริ่มปะทุขึ้นมาภายในกายแกร่ง
“พาคนของมึงกลับไปก่อนเถอะ เรื่องในคฤหาสน์ของกู เดี๋ยวกูจัดการเอง” คามิลโลหันมาบอกกล่าวกับราฟาเอล
“อือ…กลับ!” ราฟาเอลตอบกลับเพื่อน ก่อนที่เขาจะหันมาออกคำสั่งกับเอวาเสียงดัง เอวาเงียบใส่ชายหนุ่มพร้อมกับตั้งท่าจะก้าวเดิน
“ขอบคุณนะคะ” ทว่ามือเล็กของเจ้าขาก็เอื้อมมาคว้าข้อมือของเอวาเอาไว้เสียก่อน เจ้าขาเอ่ยพลางส่งยิ้มหวาน
เอวามองที่มือเล็กของเจ้าขา ก่อนที่เธอจะเลื่อนสายตาไปมองหน้าหญิงสาวคนที่จับมือเธออยู่ เอวาส่งยิ้มบางๆ กลับไปให้เจ้าขาเช่นกัน และรอยยิ้มของเอวาก็ดูสดใสและเต็มไปด้วยความอ่อนโยนอย่างที่ราฟาเอลไม่เคยเห็นมาก่อน
ราฟาเอลไม่สามารถละสายตาไปได้ ชายหนุ่มเหมือนต้องมนต์สะกดไปชั่วขณะ ทำไมเวลาอยู่กับเขาถึงเอาแต่ทำหน้านิ่งหรือบึ้งตึงตลอดเวลา ทำไมเธอไม่ยิ้มแบบนี้ให้เขาบ้างล่ะ เธอรู้ตัวบ้างไหมนะว่าเวลาตัวเองยิ้มแล้วมันดูเหมือนโลกนี้สดใสขึ้นมาทันทีเลย
“ไอ้ราฟาเอล!” เสียงของวินเซนต์ปลุกให้ราฟาเอลหลุดออกมาจากภวังค์
“อะไร” ราฟาเอลตอบกลับไปอย่างหงุดหงิด
“กูถามว่าจะไปผับกับกูต่อไหม…หรือมึงจะกลับเลย”
“เดี๋ยวกูกลับเพนท์เฮาส์”
“เดี๋ยวกูบินกลับเลย…ไปล่ะ!” ลูเซียโน่บอกกล่าวเพื่อนๆ ก่อนที่เขาจะเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
“ขอโทษแทนคนของกูด้วย” ราฟาเอลเอ่ยกับคามิลโลอีกครั้ง
“อือ” คามิลโลขานรับในลำคอพร้อมกับพยักหน้าในเพื่อน เขาไม่ได้โกรธเคืองอะไรคนของราฟาเอล แต่เขากำลังครุ่นคิดหาวิธีจัดการกับเรื่องภายในบ้านของเขาเองอยู่
“กลับ!” ราฟาเอลพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ้มทรงพลัง ก่อนที่เขาจะเดินนำออกไปจากตรงนั้น เอวาปรายตามองเจ้าขาเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะหันไปและเดินตามราฟาเอลออกไปอย่างช้าๆ
หนึ่งปีผ่านไปร่างอรชรของอดีตสปายสาวสวมชุดเดรสสั้นสีครีมสายเดี่ยวกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องโถงใหญ่ ในช่วงเวลาบ่ายกว่าเป็นเวลาที่ลูกชายของเขา โรลองด์ เด็กชายวัยหกเดือนกว่ากำลังหลับใหลอยู่ จึงทำให้ภายในคฤหาสน์ของราฟาเอลเงียบสงัดในช่วงเวลานี้ ในขณะที่เอวากำลังอ่านหนังสืออยู่ พี่เลี้ยงของลูกชายเธอก็ค่อยๆ เดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่อย่างช้าๆ เอวาจึงผละสายตาออกจากหนังสือและช้อนดวงตากลมโตขึ้นไปมองหน้าพี่เลี้ยงอย่างช้าๆ“มาดามค่ะ คุณชายตื่นแล้วค่ะ” พี่เลี้ยงที่ดูอายุประมาณสามสิบนิดๆ เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนอบน้อม“ฝากไปอุ้มเขามาให้หน่อยได้ไหมคะ” เอวาตอบกลับไปอย่างสุภาพ ต่อให้เธอจะเข้ามาเป็นมาดามในคฤหาสน์หลังนี้ได้เป็นปีแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยปฏิบัติกับสาวใช้หรือบอดี้การ์ดไม่ดีเลยสักคน เพราะเธอไม่เคยลืมว่าตัวเองเป็นใครมาก่อน“ค่ะมาดาม” พี่เลี้ยงตอบกลับพลางก้มศีรษะให้มาดามหนึ่งครั้ง ก่อนที่เธอจะหันหลังเดินออกไปจากห้องโถงทันทีหลังจากที่พี่เลี้ยงเดินออกไปจากห้องแล้ว ชายหนุ่มร่างกำยำสง่างามหรือก็คือราฟาเอลนั่นเอง มาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาในห้องโถงทันที“กลับมาไวจัง” เอวาเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
หลังจากพิธีวิวาห์ของมาเฟียหนุ่มกับอดีตสปายสาวจบลง พวกเขาก็เปลี่ยนชุดและตรงมายังเรือสำราญเพื่อพาหญิงสาวมาฮันนีมูนต่อทันที ราฟาเอลโอบไหล่บางของภรรยาป้ายแดงที่สวมชุดเดรสสั้นสีขาวดูเรียบหรู เขาพาเอวาเดินขึ้นไปยังเรือสำราญส่วนตัวของตัวเองอย่างช้าๆ จนกระทั่งคู่สามีขึ้นมาบนเรือสำราญเรียบร้อยแล้ว เรือสำราญค่อยแล่นออกจากท่าเรือขนาดใหญ่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ราฟาเอลต้องการความเป็นส่วนตัว ชายหนุ่มจึงให้เหล่าบรรดาบอดี้การ์ดของเขานั่งเรือสำราญอีกลำหนึ่งตามเขามา เพื่อดูแลความปลอดภัยให้เขากับภรรยา“ชอบไหม” ชายหนุ่มพาเอวาเดินมาตรงหัวเรือพลางเอ่ยถามหญิงสาวที่เขากำลังโอบไหล่บางของเธออยู่ “ฉันชอบ” เจ้าสาวป้ายแดงตอบพร้อมกับพยักหน้าให้ชายหนุ่มเบาๆ ลมทะเลพัดผ่านร่างกายพวกเขาไป ยิ่งทำให้คู่บ่าวสาวรู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้น“ไม่ต้องห่วงเรื่องน้องสาวของเธอนะ ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เลย” ราฟาเอลหันมาจับไหล่หญิงสาวเอาไว้ทั้งสองข้างและจ้องมองเข้าไปในดวงตากลมโตเพื่อแสดงออกทางสายตาให้เธอได้รับรู้ “ขอบคุณมากๆ เลย ฉันไม่รู้จะขอบคุณยังไงเลย” เอวาส่งยิ้มให้สามี “เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม” ราฟาเอลตอบกลับด้
หนึ่งเดือนต่อมา เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งมาถึงวันที่ราฟาเอลกับเอวาต้องเข้าพิธีวิวาห์ด้วยกัน ทุกอย่างถูกจัดขึ้นมาอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น งานแต่งงานสุดแสนใหญ่โตหรูหราถูกจัดขึ้นภายในสวนของคฤหาสน์ของราฟาเอล ทุกอย่างถูกจัดเตรียมเอาไว้อย่างเรียบร้อย ดอกกุหลาบสีขาวกับสีชมพูประดับไปทุกพื้นที่ของงานในวันนี้ แขกเหรื่อและนักธุรกิจในวงการสีเทาต่างพากันมาแสดงความยินดีกับมาเฟียหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่ หญิงสาวภายในงานสวมชุดราตรียาวสีชมพูอ่อนๆ กับผู้ชายที่สวมชุดทักซิโด้หรือชุดสูทสีดำ ราฟาเอลสวมชุดทักซิโด้ดูหล่อเหลาที่สุดในงานวันนี้ เขาทั้งดูสง่างาม สุขุมและน่าหลงใหล ชายหนุ่มยืนอยู่หน้าแท่นพิธีกับบาทหลวงเพื่อรอว่าที่เจ้าสาวของเขา ดวงตาคมกริบดุดันมองไปรอบๆ งานแต่งของตัวเอง เหล่าบรรดากลุ่มเพื่อนกับพ่อแม่ของเขานั่งอยู่แถวหน้าสุดกำลังจ้องมองมาที่ราฟาเอลอยู่มาเฟียหนุ่มยืนรอว่าที่เจ้าสาวของเขาอยู่สักพักหนึ่ง แต่เขากลับรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเหลือเกิน เขาอยากจะเห็นเจ้าสาวแสนสวยของเขาเต็มที่แล้วไม่นานสักเท่าไหร่ ร่างอรชรของอดีตสปายสาวที่สวมชุดสีขาวสะอาดตา ท่อนบนชุดเจ้าสาวเป็นเกาะอกและถูกปร
หลังจากที่ชายหญิงคุยกับเข้าใจเรียบร้อยแล้ว ราฟาเอลพาหญิงสาวกลับขึ้นมายังชั้นแรกของตัวอาคาร และทันทีที่ประตูของลิฟต์เปิดออกมา พวกเขาก็เดินออกมาจากลิฟต์กันอย่างช้าๆ “นายท่านคะ!” ร่างของหญิงสาวชุดดำรัดรูปปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหันพร้อมกับเดินปรี่เข้ามาหาราฟาเอลอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนรู้กันเป็นอย่างดีว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ราฟาเอลมองชาร์ลอตต์สลับกับหันมามองว่าที่เจ้าสาวของเขาที่กำลังมองชาร์ลอตต์ด้วยสายตานิ่งเรียบ แต่ทว่ามันกลัวดูน่ากลัวสำหรับเขายิ่งนัก “ชาร์ลอตต์คิดถึงจังเลยค่ะ นายท่านหายไปตั้งนาน” ไม่พูดเปล่า ชาร์ลอตต์พยายามที่จะเข้ามาคล้องแขนชายหนุ่มเอาไว้ ราฟาเอลจึงถอยหลังหลบเธอไปหนึ่งก้าว “อย่ามาโดนตัวฉัน” เสียงทุ้มของราฟาเอลบอกกล่าวชาร์ลอตต์ด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมจนสาวชุดดำสัมผัสได้“ทะ..ทำไมล่ะคะ” ยังไม่ทันที่ราฟาเอลจะได้ตอบกลับอะไรออกไป เอวาก็ก้าวเดินออกไปจากตรงนั้นทันที เธอไม่จำเป็นต้องมาทนฟังสองคนนั้นคุยกัน ภาพความทรงจำเก่าๆ ที่ราฟาเอลเคยกอดรัดนัวเนียกับผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าของเธอฉายขึ้นมาในสมองของเอวาอีกครั้ง“อันนา! อันนา!” เสียงทุ้มตะโกนเรียกหญิงสาวเอาไว้ แต่อดีตสปา
ผู้ใหญ่ทั้งสามคนนิ่งเงียบและหันมองหน้ากันอยู่สักพักหนึ่ง จนเอวาเริ่มรู้สึกไม่ดีขึ้นมาเรื่อยๆ ใบหน้าสวยคมและมือเล็กของหญิงสาวเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ราฟาเอลเหลือบตามามองหญิงสาวข้างกาย เมื่อเห็นว่าใบหน้าหวานเริ่มซีดเผือด มือแกร่งจึงเลื่อนลงไปกอบกุมมือเล็กเอาไว้แน่น เอวาจึงหันมาสบตากับชายหนุ่มทันที นัยน์ตาคมเข้มดุดันจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตเพื่อเป็นการบอกหญิงสาวเป็นนัยว่าเขาอยู่ข้างๆ เธอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่ยอมปล่อยมือเธอเด็ดขาด“ผมไม่ได้มาขออนุญาตหรืออะไรทั้งนั้น ผมแค่พาว่าที่เจ้าสาวของผมมาแนะนำตัวให้ครอบครัวได้รู้จัก” ราฟาเอลหันกลับมามองหน้าพ่อแม่พลางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นคงและเด็ดเดี่ยวโรดอลฟ์ผู้อาวุโสที่สุดของบ้านเดินมาหาราฟาเอลกับเอวา ชายแก่หยุดอยู่ตรงหน้าชายหญิงทั้งสองคน ก่อนที่เขาจะมองหน้าราฟาเอลกับเอวาสลับกัน ชายแก่ถอนหายใจออกมาเบาๆ“ไปคุยกันต่อที่ห้องอาหาร” โรดอลฟ์เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบสิ้นเสียงโรดอลฟ์ ชายแก่ก็ปลีกตัวเดินไปยังห้องอาหารก่อนคนอื่นอย่างช้าๆ พ่อกับแม่ของราฟาเอลมองหน้ากันเล็กน้อย ซึ่งชายหนุ่มกับหญิงสาวเองก็เช่นกันราฟาเอลรู้จ
หลังจากที่ราฟาเอลกับเพื่อนๆ ประชุมกันจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว มาเฟียหนุ่มก็รีบกลับมายังคฤหาสน์ของตัวเองทันที ร่างกำยำสมบูรณ์แบบลงมาจากรถยนต์คันหรู และตามมาด้วยลูกาที่ลงจากรถฝั่งคนขับตามราฟาเอลมา ชายหนุ่มกลับมาถึงบ้านในช่วงสี่ทุ่มของวัน“กลับมาแล้วเหรอครับนายท่าน” อองโซที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูทักทายเจ้านายเหมือนดั่งเช่นทุกครั้ง“อันนาล่ะ” ราฟาเอลเอ่ยถามถึงว่าที่เจ้าสาวของเขาทันที “หลับแล้วค่ะท่าน ดิฉันทำอาหารให้ทานเรียบร้อย แล้วมาดามก็ขึ้นไปนอนค่ะ แต่ดูเหมือนอาหารจะไม่ค่อยถูกปากมาดามสักเท่าไหร่นะคะ” เสียงของสาวใช้ที่ยืนอยู่ตรงด้านหลังของอองโซก้าวขามาข้างหน้าพลางตอบกลับเจ้านาย“พรุ่งนี้ให้เชฟไทยที่ฝีมือดีที่สุดมาทำอาหารไทยให้เธอ อันนาชอบทานอาหารไทย” ราฟาเอลบอกกล่าวกับสาวใช้“ได้ค่ะ” สาวใช้ชุดดำก้มศีรษะให้เจ้านายอย่างนอบน้อม ราฟาเอลไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาต่อ เมื่อเขาสั่งสาวใช้เรียบร้อยแล้ว มาเฟียหนุ่มก็ก้าวเดินไปยังในคฤหาสน์และตรงไปยังชั้นสองทันที ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าห้องนอนของตัวเองออกมาอย่างเบามือที่สุดเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะหลับอยู่ แล้วเขาจะรบกวนการนอนของเธอ ดวงตาคมกริบมองไปยังบนเตียงใหญ่ เ