“แก!!” เสียงหวานร้องขึ้นมาดังลั่นเมื่อเธอสัมผัสได้ถึงน้ำอุ่นร้อนจำนวนมากที่พุ่งเข้ามาในท้องน้อยของเธอ
“ไม่ต้องห่วงหรอก เธอไม่มีโอกาสได้ท้องลูกของฉันหรอกเพราะเดี๋ยวพอฉันเอาเสร็จเธอก็ต้องตายแล้ว” ชายหนุ่มกระซิบข้างหูหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
ราฟาเอลกดแช่แก่นกายใหญ่เอาไว้ไม่นานสักเท่าไหร่ เขาก็ค่อยๆ ดึงแท่งเอ็นออกมาจากถ้ำสีกุหลาบช้าๆ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปดึงรั้งกระโปรงยาวที่หญิงสาวนอนทับอยู่มาเช็ดแท่งลำลึงค์ใหญ่อย่างลวกๆ ก่อนที่เขาจะก้าวลงจากที่นอนและลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“หึ!” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มมุมปากด้วยสีหน้าเยาะเย้ย เมื่อเขาได้เห็นสภาพของหญิงสาวแบบเต็มตา เลือดสีแดงสดผสมกับน้ำกามเหนียวข้นไหลเยิ้มออกมาจากร่องสวาทสาวเปียกที่นอนเป็นวงกว้าง
หญิงสาวนอนหอบหายใจรวยรินพลางจ้องมองมาเฟียคนที่ย่ำยีความบริสุทธิ์ของเธอไปจนไม่เหลือชิ้นดีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและจงเกลียดจงชังชายหนุ่มเป็นอย่างมาก
มือแกร่งกอบกุมตัวตนของตัวเองแล้วยัดกลับเข้าไปในกางเกงเนื้อดี ราฟาเอลดึงรั้งกางเกงขึ้นมาพร้อมกับรูดซิปจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มหันหลังกลับและเดินออกจากห้องไปทันที
เอวามองตามหลังของชายหนุ่มด้วยความแค้นที่สุ่มอยู่ภายในใจของหญิงสาวอย่างเต็มเปี่ยม จนกระทั่งประตูห้องปิดสนิทลง เอวาจึงรีบมองสำรวจรอบๆ ห้องอีกครั้งพลางครุ่นคิดหาวิธีที่จะหนีออกไปจากที่นี้ให้ได้
ใบหน้าหวานผงกหัวขึ้นมาดูร่องรอยบนร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเอง น้ำเหนียวข้นปนกับเลือดสีแดงสดยังคงไหลปริ่มออกมาจากรูเล็กที่ฉีกขาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ตอกย้ำเธอได้เป็นอย่างดีว่ามันเพิ่งเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเธอไป
ราฟาเอลเดินออกมาจากห้องด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ลูกากับบอดี้การ์ดอีกสี่คนยืนเฝ้าหน้าห้องเอาไว้ด้วยความเป็นห่วง เมื่อลูกาเห็นเจ้านายของเขาเดินออกมาจากห้องนั้น ลูกาจึงปรี่เข้ามาหามาเฟียหนุ่มทันที
“ไปตามหมอมา” เสียงทุ้มทรงหลังของราฟาเอลเอ่ยสั่งลูกน้อง
“นายครับ…แผลของนาย” คนสนิทเห็นแผลที่ต้นขาของเจ้านายมีเลือดไหลซึมทะลุผ้าก๊อซสีขาวออกมา
“ช่างมันเถอะ ลูเซียนอยู่ไหน”
“จับผู้หญิงอีกคนเอาไว้อยู่อีกฝั่งของตึกครับ” ลูกาตอบกลับเจ้านาย
“ไปตามมันมาหาฉันที่ห้องทำงาน”
“ครับนาย”
ราฟาเอลสาวเท้าก้าวยาวๆ ตรงไปยังห้องทำงานทันที ในระหว่างทางชายหนุ่มเอาแต่คิดถึงภาพของผู้หญิงคนนั้นที่ถูกเขากระทำย่ำยี ไม่ใช่ว่าเขาสงสารหรือเห็นใจเธอหรอกนะ แต่เขายังอยากสนุกกับเธอต่อมากกว่านี้
มาเฟียหนุ่มมาถึงห้องทำงานของตัวเองในเวลาต่อมา ร่างกำยำทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่ตรงโต๊ะทำงาน เขามองบาดแผลที่ต้นขาของตัวเองด้วยความรู้สึกที่แปลกใหม่ เขาทั้งรู้สึกโมโหและรู้สึกถูกใจหญิงสาวที่กล้าต่อกรกับเขาในเวลาเดียวกัน
เวลาผ่านไปไม่นานสักเท่าไหร่ ประตูห้องทำงานของเขาก็ถูกเปิดออกจากกว้างพร้อมกับร่างของลูเซียโน่ที่เดินเข้ามาในห้องอย่างช้าๆ
ราฟาเอลปรายตามองเพื่อนเล็กน้อยแล้วเขาก็พบว่าลูเซียโน่เองก็มีสภาพที่ยับเยินไม่ต่างจากเขาสักเท่าไหร่นัก แต่ต่างกันตรงที่ว่าลูเซียโน่ได้แผลตรงหน้าผาก ส่วนเขาได้แผลที่ต้นขา ทั้งสองคนเนื้อตัวมีแต่ร่องรอยของการต่อสู้และเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง
“แสบใช่ย่อยเลยดิ” ราฟาเอลเอ่ยขึ้นมาในขณะที่ลูเซียโน่กำลังเดินตรงมายังโต๊ะทำงานของเขา
“มึงก็ไม่ต่างจากกูเลย เลือดไหลจะหมดตัวอยู่แล้วมั้ง” ลูเซียนมองไปที่บาดแผลตรงต้นขาของราฟาเอลพลางตอบกลับ ใบหน้าของเขามีเลือดไหลเยิ้มออกมาตามกรอบหน้าเล็กน้อยเพราะเขาใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเลือดออกไปบ้างแล้วก่อนที่เขาจะเดินมาที่ห้องทำงาน
“มึงไปทำแผลก่อนเถอะ แล้วค่อยกลับมาคุยกัน”
“เออ งั้นกูไปทำแผลก่อน” สิ้นเสียงลูเซียโน่ เขาหันหลังกลับไปและเดินออกไปจากห้องทำงานทันที
เวลาผ่านพ้นไปหลายชั่วโมง เอวาไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่เธอทำได้เพียงแค่นั่งใช้ความคิดพิจารณาถึงสถานการณ์และหาหนทางหนีออกไป จนกระทั่งประตูห้องถูกเปิดแง้มออกมา หญิงสาวจึงได้สติขึ้นมา เรียวขาเล็กหุบขาเข้าหากันทันทีโดยอัตโนมัติ
“พร้อมจะตายหรือยัง” เสียงทุ้มทรงพลังของราฟาเอลเอ่ยออกมาพร้อมกับร่างกำยำที่เดินเข้ามาภายในห้องอย่างช้าๆ ดวงตาคมกริบมองร่างเปลือยเปล่าที่มีรอยแดงเป็นจ้ำๆ เต็มตัวด้วยความรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
“ฉันพร้อมตั้งนานแล้ว” เสียงหวานตอบกลับไปอย่างแข็งกระด้าง
“หึ!” ชายหนุ่มใช้สองมือล้วงกระเป๋าค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้หญิงสาวมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่เขาจะย่อตัวนั่งลงตรงปลายเตียง
“รู้อะไรไหม…ยิ่งฉันเห็นว่าเธออยากตายมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งไม่อยากจะฆ่าเธอง่ายๆ”
“ฝีมือเธอก็เก่งใช้ได้เลยนะ” ชายหนุ่มมองจ้องไปที่ดวงตาของหญิงสาว แน่นอนว่าเธอก็ไม่คิดที่จะหลบสายตาชายหนุ่มเช่นกัน
“มาอยู่กับฉัน” ราฟาเอลครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่สักพักใหญ่ๆ เขารู้สึกถูกอกถูกใจหญิงสาวอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่” หญิงสาวตอบกลับทันทีโดยที่เธอไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมากมาย
“คิดไว้แล้วว่าเธอต้องตอบแบบนี้” ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย คนพยศแบบนี้ไม่มีทางที่จะยอมเขาง่ายๆ หรอก ชายหนุ่มล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนที่เขาจะหันหน้าจอกลับมาให้เอวาดูอย่างช้าๆ
เอวามองจ้องหน้าจอโทรศัพท์ของชายหนุ่ม ดวงตากลมโตที่เคยแข็งกร้าวกลับสั่นไหวอย่างง่ายดายจนชายหนุ่มสังเกตเห็นอาการของเธอ
“ปล่อยเธอ” เสียงหวานบอกกล่าวชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย
“ดูเป็นห่วงผู้หญิงคนนี้มากเลยนะ เป็นอะไรกันล่ะ” สิ่งที่มาเฟียหนุ่มให้หญิงสาวดูอยู่ก็คือรูปของผู้หญิงอีกคนที่พวกเขาจับได้ก่อน
“เพื่อนสนิท คู่หู หรือพี่น้อง” เสียงทุ้มเอ่ยถามต่อด้วยน้ำเสียงที่ราวกับว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าหญิงสาว
“ไม่ใช่เรื่องของแก” เอวากัดฟันกรอด ภาพที่อยู่ตรงหน้าของเธอทำให้หัวใจดวงน้อยที่แข็งแกร่งสั่นวูบและรู้สึกหน่วงในใจ อัญญาถูกมัดติดไว้กับเก้าอี้ไม้เช่นเดียวกับเธอในตอนแรก แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือรอยแดงจ้ำที่ลำคอระหงของน้องสาวเธอที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าอัญญาก็ถูกกระทำไม่ต่างจากเอวา
“อยากให้ฉันปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปไหมล่ะ”
“จะเอาอะไรก็พูดมา” เอวาพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ ต่อให้เธอจะอยากฆ่าเขามากแค่ไหนก็ตาม
“ฉลาดดี…มาอยู่กับฉัน แล้วฉันจะยอมปล่อยผู้หญิงคนนี้ไป”
“แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่านายจะยอมทำตามที่พูด”
“ตอนนี้เธอมีทางเลือกอื่นด้วยหรือไง” สิ้นเสียงของราฟาเอล หญิงสาวครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง
“ว่าไงแม่นักฆ่าคนสวย” ชายหนุ่มเอ่ยถามอีกครั้ง
“ฉันไม่ใช่นักฆ่า”
“หึ! เลือกมา!” ใบหน้าหล่อเหลากระตุกยิ้มชั่วร้าย
“ได้! ฉันจะยอมรับข้อเสนอของแก” นี่คงเป็นวิธีเดียวที่เธอจะช่วยน้องสาวของตัวเองให้รอดพ้นไปได้ แล้วเธอค่อยมาคิดหาทางหนีทีหลังก็แล้วกัน
“ฉลาดเลือกดี” ราฟาเอลยกยิ้มอย่างชั่วร้าย เมื่อเขาได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้ว มือหนาหันโทรศัพท์กลับมาและกดโทรออกหาใครบางคนทันที
ชายหนุ่มยกโทรศัพท์แนบหูอยู่ชั่วครู่ เวลาผ่านไปไม่นานสักเท่าไหร่ ปลายสายกดรับสายและมาเฟียหนุ่มก็เอ่ยสั่งออกไปทั้งๆ ที่ดวงตาคมกริบก็ยังคงจับจ้องกับนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มอย่างไม่ละสายตา
“ปล่อยตัวเธอไป”
หนึ่งปีผ่านไปร่างอรชรของอดีตสปายสาวสวมชุดเดรสสั้นสีครีมสายเดี่ยวกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องโถงใหญ่ ในช่วงเวลาบ่ายกว่าเป็นเวลาที่ลูกชายของเขา โรลองด์ เด็กชายวัยหกเดือนกว่ากำลังหลับใหลอยู่ จึงทำให้ภายในคฤหาสน์ของราฟาเอลเงียบสงัดในช่วงเวลานี้ ในขณะที่เอวากำลังอ่านหนังสืออยู่ พี่เลี้ยงของลูกชายเธอก็ค่อยๆ เดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่อย่างช้าๆ เอวาจึงผละสายตาออกจากหนังสือและช้อนดวงตากลมโตขึ้นไปมองหน้าพี่เลี้ยงอย่างช้าๆ“มาดามค่ะ คุณชายตื่นแล้วค่ะ” พี่เลี้ยงที่ดูอายุประมาณสามสิบนิดๆ เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนอบน้อม“ฝากไปอุ้มเขามาให้หน่อยได้ไหมคะ” เอวาตอบกลับไปอย่างสุภาพ ต่อให้เธอจะเข้ามาเป็นมาดามในคฤหาสน์หลังนี้ได้เป็นปีแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยปฏิบัติกับสาวใช้หรือบอดี้การ์ดไม่ดีเลยสักคน เพราะเธอไม่เคยลืมว่าตัวเองเป็นใครมาก่อน“ค่ะมาดาม” พี่เลี้ยงตอบกลับพลางก้มศีรษะให้มาดามหนึ่งครั้ง ก่อนที่เธอจะหันหลังเดินออกไปจากห้องโถงทันทีหลังจากที่พี่เลี้ยงเดินออกไปจากห้องแล้ว ชายหนุ่มร่างกำยำสง่างามหรือก็คือราฟาเอลนั่นเอง มาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาในห้องโถงทันที“กลับมาไวจัง” เอวาเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
หลังจากพิธีวิวาห์ของมาเฟียหนุ่มกับอดีตสปายสาวจบลง พวกเขาก็เปลี่ยนชุดและตรงมายังเรือสำราญเพื่อพาหญิงสาวมาฮันนีมูนต่อทันที ราฟาเอลโอบไหล่บางของภรรยาป้ายแดงที่สวมชุดเดรสสั้นสีขาวดูเรียบหรู เขาพาเอวาเดินขึ้นไปยังเรือสำราญส่วนตัวของตัวเองอย่างช้าๆ จนกระทั่งคู่สามีขึ้นมาบนเรือสำราญเรียบร้อยแล้ว เรือสำราญค่อยแล่นออกจากท่าเรือขนาดใหญ่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ราฟาเอลต้องการความเป็นส่วนตัว ชายหนุ่มจึงให้เหล่าบรรดาบอดี้การ์ดของเขานั่งเรือสำราญอีกลำหนึ่งตามเขามา เพื่อดูแลความปลอดภัยให้เขากับภรรยา“ชอบไหม” ชายหนุ่มพาเอวาเดินมาตรงหัวเรือพลางเอ่ยถามหญิงสาวที่เขากำลังโอบไหล่บางของเธออยู่ “ฉันชอบ” เจ้าสาวป้ายแดงตอบพร้อมกับพยักหน้าให้ชายหนุ่มเบาๆ ลมทะเลพัดผ่านร่างกายพวกเขาไป ยิ่งทำให้คู่บ่าวสาวรู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้น“ไม่ต้องห่วงเรื่องน้องสาวของเธอนะ ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เลย” ราฟาเอลหันมาจับไหล่หญิงสาวเอาไว้ทั้งสองข้างและจ้องมองเข้าไปในดวงตากลมโตเพื่อแสดงออกทางสายตาให้เธอได้รับรู้ “ขอบคุณมากๆ เลย ฉันไม่รู้จะขอบคุณยังไงเลย” เอวาส่งยิ้มให้สามี “เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม” ราฟาเอลตอบกลับด้
หนึ่งเดือนต่อมา เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งมาถึงวันที่ราฟาเอลกับเอวาต้องเข้าพิธีวิวาห์ด้วยกัน ทุกอย่างถูกจัดขึ้นมาอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น งานแต่งงานสุดแสนใหญ่โตหรูหราถูกจัดขึ้นภายในสวนของคฤหาสน์ของราฟาเอล ทุกอย่างถูกจัดเตรียมเอาไว้อย่างเรียบร้อย ดอกกุหลาบสีขาวกับสีชมพูประดับไปทุกพื้นที่ของงานในวันนี้ แขกเหรื่อและนักธุรกิจในวงการสีเทาต่างพากันมาแสดงความยินดีกับมาเฟียหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่ หญิงสาวภายในงานสวมชุดราตรียาวสีชมพูอ่อนๆ กับผู้ชายที่สวมชุดทักซิโด้หรือชุดสูทสีดำ ราฟาเอลสวมชุดทักซิโด้ดูหล่อเหลาที่สุดในงานวันนี้ เขาทั้งดูสง่างาม สุขุมและน่าหลงใหล ชายหนุ่มยืนอยู่หน้าแท่นพิธีกับบาทหลวงเพื่อรอว่าที่เจ้าสาวของเขา ดวงตาคมกริบดุดันมองไปรอบๆ งานแต่งของตัวเอง เหล่าบรรดากลุ่มเพื่อนกับพ่อแม่ของเขานั่งอยู่แถวหน้าสุดกำลังจ้องมองมาที่ราฟาเอลอยู่มาเฟียหนุ่มยืนรอว่าที่เจ้าสาวของเขาอยู่สักพักหนึ่ง แต่เขากลับรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเหลือเกิน เขาอยากจะเห็นเจ้าสาวแสนสวยของเขาเต็มที่แล้วไม่นานสักเท่าไหร่ ร่างอรชรของอดีตสปายสาวที่สวมชุดสีขาวสะอาดตา ท่อนบนชุดเจ้าสาวเป็นเกาะอกและถูกปร
หลังจากที่ชายหญิงคุยกับเข้าใจเรียบร้อยแล้ว ราฟาเอลพาหญิงสาวกลับขึ้นมายังชั้นแรกของตัวอาคาร และทันทีที่ประตูของลิฟต์เปิดออกมา พวกเขาก็เดินออกมาจากลิฟต์กันอย่างช้าๆ “นายท่านคะ!” ร่างของหญิงสาวชุดดำรัดรูปปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหันพร้อมกับเดินปรี่เข้ามาหาราฟาเอลอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนรู้กันเป็นอย่างดีว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ราฟาเอลมองชาร์ลอตต์สลับกับหันมามองว่าที่เจ้าสาวของเขาที่กำลังมองชาร์ลอตต์ด้วยสายตานิ่งเรียบ แต่ทว่ามันกลัวดูน่ากลัวสำหรับเขายิ่งนัก “ชาร์ลอตต์คิดถึงจังเลยค่ะ นายท่านหายไปตั้งนาน” ไม่พูดเปล่า ชาร์ลอตต์พยายามที่จะเข้ามาคล้องแขนชายหนุ่มเอาไว้ ราฟาเอลจึงถอยหลังหลบเธอไปหนึ่งก้าว “อย่ามาโดนตัวฉัน” เสียงทุ้มของราฟาเอลบอกกล่าวชาร์ลอตต์ด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมจนสาวชุดดำสัมผัสได้“ทะ..ทำไมล่ะคะ” ยังไม่ทันที่ราฟาเอลจะได้ตอบกลับอะไรออกไป เอวาก็ก้าวเดินออกไปจากตรงนั้นทันที เธอไม่จำเป็นต้องมาทนฟังสองคนนั้นคุยกัน ภาพความทรงจำเก่าๆ ที่ราฟาเอลเคยกอดรัดนัวเนียกับผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าของเธอฉายขึ้นมาในสมองของเอวาอีกครั้ง“อันนา! อันนา!” เสียงทุ้มตะโกนเรียกหญิงสาวเอาไว้ แต่อดีตสปา
ผู้ใหญ่ทั้งสามคนนิ่งเงียบและหันมองหน้ากันอยู่สักพักหนึ่ง จนเอวาเริ่มรู้สึกไม่ดีขึ้นมาเรื่อยๆ ใบหน้าสวยคมและมือเล็กของหญิงสาวเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ราฟาเอลเหลือบตามามองหญิงสาวข้างกาย เมื่อเห็นว่าใบหน้าหวานเริ่มซีดเผือด มือแกร่งจึงเลื่อนลงไปกอบกุมมือเล็กเอาไว้แน่น เอวาจึงหันมาสบตากับชายหนุ่มทันที นัยน์ตาคมเข้มดุดันจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตเพื่อเป็นการบอกหญิงสาวเป็นนัยว่าเขาอยู่ข้างๆ เธอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่ยอมปล่อยมือเธอเด็ดขาด“ผมไม่ได้มาขออนุญาตหรืออะไรทั้งนั้น ผมแค่พาว่าที่เจ้าสาวของผมมาแนะนำตัวให้ครอบครัวได้รู้จัก” ราฟาเอลหันกลับมามองหน้าพ่อแม่พลางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นคงและเด็ดเดี่ยวโรดอลฟ์ผู้อาวุโสที่สุดของบ้านเดินมาหาราฟาเอลกับเอวา ชายแก่หยุดอยู่ตรงหน้าชายหญิงทั้งสองคน ก่อนที่เขาจะมองหน้าราฟาเอลกับเอวาสลับกัน ชายแก่ถอนหายใจออกมาเบาๆ“ไปคุยกันต่อที่ห้องอาหาร” โรดอลฟ์เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบสิ้นเสียงโรดอลฟ์ ชายแก่ก็ปลีกตัวเดินไปยังห้องอาหารก่อนคนอื่นอย่างช้าๆ พ่อกับแม่ของราฟาเอลมองหน้ากันเล็กน้อย ซึ่งชายหนุ่มกับหญิงสาวเองก็เช่นกันราฟาเอลรู้จ
หลังจากที่ราฟาเอลกับเพื่อนๆ ประชุมกันจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว มาเฟียหนุ่มก็รีบกลับมายังคฤหาสน์ของตัวเองทันที ร่างกำยำสมบูรณ์แบบลงมาจากรถยนต์คันหรู และตามมาด้วยลูกาที่ลงจากรถฝั่งคนขับตามราฟาเอลมา ชายหนุ่มกลับมาถึงบ้านในช่วงสี่ทุ่มของวัน“กลับมาแล้วเหรอครับนายท่าน” อองโซที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูทักทายเจ้านายเหมือนดั่งเช่นทุกครั้ง“อันนาล่ะ” ราฟาเอลเอ่ยถามถึงว่าที่เจ้าสาวของเขาทันที “หลับแล้วค่ะท่าน ดิฉันทำอาหารให้ทานเรียบร้อย แล้วมาดามก็ขึ้นไปนอนค่ะ แต่ดูเหมือนอาหารจะไม่ค่อยถูกปากมาดามสักเท่าไหร่นะคะ” เสียงของสาวใช้ที่ยืนอยู่ตรงด้านหลังของอองโซก้าวขามาข้างหน้าพลางตอบกลับเจ้านาย“พรุ่งนี้ให้เชฟไทยที่ฝีมือดีที่สุดมาทำอาหารไทยให้เธอ อันนาชอบทานอาหารไทย” ราฟาเอลบอกกล่าวกับสาวใช้“ได้ค่ะ” สาวใช้ชุดดำก้มศีรษะให้เจ้านายอย่างนอบน้อม ราฟาเอลไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาต่อ เมื่อเขาสั่งสาวใช้เรียบร้อยแล้ว มาเฟียหนุ่มก็ก้าวเดินไปยังในคฤหาสน์และตรงไปยังชั้นสองทันที ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าห้องนอนของตัวเองออกมาอย่างเบามือที่สุดเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะหลับอยู่ แล้วเขาจะรบกวนการนอนของเธอ ดวงตาคมกริบมองไปยังบนเตียงใหญ่ เ