ราฟาเอลยกโทรศัพท์ที่แนบหูอยู่ออกทันที เมื่อเขาเอ่ยกับปลายสายเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มเก็บโทรศัพท์ลงไปในกระเป๋ากางเกงเช่นเดิม ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือขึ้นมาปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกทีละเม็ด
“จะทำอะไร” เสียงหวานที่แข็งกระด้างของเอวาเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับแววตาดุดันที่มองชายหนุ่มด้วยความระแวดระวังอยู่ตลอดเวลา
“สภาพยับเยินขนาดนั้น ใครจะไปเอาลง” พูดจบ ราฟาเอลก็ถอดเสื้อเชิ้ตออกแล้วโยนใส่ร่างเล็กที่นั่งมองเขาด้วยสายตาดุดันอยู่
“คลุมเอาไว้”
“ไม่แหกตาดูหรือไงว่าฉันถูกมัดอยู่” เอวาตอบกลับไปทันที ดวงตากลมโตเผลอตัวสำรวจร่างกำยำสมบูรณ์แบบเปลือยเปล่าท่อนบนอยู่ชั่วครู่ รอยสักลายงูตัวใหญ่ตรงอกข้างขวาดูดุดันและน่าเกรงขามเหมือนกับเขา
“อย่ามาปากดีกับฉัน” ราฟาเอลตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ก่อนที่เขาจะก้าวมาหยิบเสื้อเชิ้ตที่โยนให้เธอขึ้นมาแล้วห่มเอาไว้ที่ไหล่ของหญิงสาวเพื่อปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าของเธอ ชายหนุ่มเอาแขนเสื้อมัดเกี่ยวไว้ที่ลำคอระหง ด้วยขนาดตัวที่ต่างกันมากทำให้เสื้อที่ชายหนุ่มใส่พอดีตัวกลับกลายเป็นเหมือนมินิเดรสสำหรับหญิงสาว
“จำเอาไว้ให้ดีว่าถ้าเธอคิดจะเล่นตุกติกขึ้นมาเมื่อไหร่ละก็…ฉันฆ่าผู้หญิงคนนั้นแน่” เสียงทุ้มบอกกล่าวหญิงสาวอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความหนักแน่นมั่นคง มือหนาเคลื่อนมาดึงรั้งผ้าห่มที่หญิงสาวนั่งทับอยู่เล็กน้อยขึ้นมาห่มให้เธออีกชั้นหนึ่ง
“ไม่เชื่อก็ลองดู”
“ฉันรับข้อเสนอของแกแล้ว…ปล่อยเธอไป” เอวาเอ่ย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากทำแบบนี้สักเท่าไหร่นัก แต่เธอก็ไม่ได้มีทางเลือกเลยจริงๆ เธอต้องให้น้องของตัวเองปลอดภัยก่อนแล้วเธอค่อยมาหาทางเอาทีหลัง
“อาทิตย์หนึ่ง” ราฟาเอลพูดขึ้นมาพลางมองหน้าหญิงสาว
“หมายความว่าไง” ใบหน้าสวยคมขมวดคิ้วถามกลับไป
“ถ้าฉันมั่นใจแล้วว่าเธอจะไม่หนีหรือไล่ฆ่าฉันอีก ฉันจะปล่อยผู้หญิงคนนั้นไป”
สิ้นเสียงมาเฟียหนุ่ม ทั้งสองคนมองตากันเหมือนต้องการหาคำตอบจากสายตาของกันและกัน พวกเขาต่างคนต่างก็ไม่ไว้ใจกัน
ซึ่งในขณะนั่นเอง ประตูห้องก็ถูกเปิดแง้มออกอย่างช้าๆ เอวาตวัดสายตาไปมองก็พบว่าเป็นชายแก่ใส่แว่นคนหนึ่งกับบอดี้การ์ดชุดดำอีกสองคนที่เดินเข้ามา ในมือของชายแก่มีกระเป๋าสีดำสนิทใบหนึ่งถือติดเข้ามาในห้องด้วย
ชายแก่ใส่แว่นตาหนาเดินมาวางกระเป๋าลงบนที่นอนตรงปลายเท้าของเอวา ก่อนที่เขาจะเปิดกระเป๋าออกและหยิบกล่องบางอย่างออกมา ชายแก่หยิบเข็มฉีดยาที่บรรจุตัวยาไว้แล้วออกมาจากกล่องนั้น
“อะไร” เอวาขมวดคิ้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย
บอดี้การ์ดสองคนเดินเข้ามาจับล็อกแขนหญิงสาวเอาไว้ ชายแก่ยกเข็มขึ้นมาแล้วแทงเข้าที่ต้นแขนของเอวาทันที
“แกฉีดอะไรให้ฉัน” เสียงหวานเอ่ยถามอย่างแข็งกระด้าง
“ยาคุม” ราฟาเอลตอบกลับสั้นๆ เขาเล่นปล่อยใส่เธอเต็มที่ขนาดนั้น เขาก็ต้องป้องกันเอาไว้ก่อนดีกว่ามาตามแก้ปัญหาทีหลัง
ชายแก่ใช้เวลาฉีดยาให้เอวาไม่นานสักเท่าไหร่ คุณหมอประจำคฤหาสน์ของราฟาเอลก็เก็บอุปกรณ์และปิดกล่องสีดำไว้เหมือนเดิม เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นบอดี้การ์ดทั้งสองคนก็ปล่อยมือออกจากหญิงสาวทันที
“แก้มัดเธอ” ราฟาเอลออกคำสั่งกับลูกน้อง
“ครับนาย”
“อย่าคิดจะตุกติก ไม่งั้นฉันให้คนรุมโทรมผู้หญิงคนนั้นแน่” มาเฟียหนุ่มไม่ได้ขู่แต่เขาพูดจริง ถ้าเกิดแม่นักฆ่าสาวคิดจะหนีไปหรือฆ่าเขาอีก เขาจะให้ลูกน้องทุกคนไปรุมย่ำยีผู้หญิงคนนั้นอย่างแน่นอน
บอดี้การ์ดตัวใหญ่ทั้งสองคนช่วยกันแก้มัดให้เอวาอย่างระวังตัว กลิ่นเลือดคละคลุ้งตีขึ้นมาแต่ชายฉกรรจ์ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา พวกเขารู้ดีว่าสิ่งสำคัญในการทำงานกับราฟาเอลคือต้องรู้ว่าอะไรควรพูดและอะไรที่ไม่ควรพูด พวกเขาต้องทำตัวเหมือนไม่รู้ไม่เห็นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“ลุกขึ้น” เสียงทุ้มของมาเฟียหนุ่มเอ่ยขึ้นมาทันทีที่ลูกน้องของเขาปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระเรียบร้อยแล้ว บอดี้การ์ดทั้งสองยืนประกบเจ้านายด้วยความเป็นห่วง
เอวาดึงรั้งผ้าห่มขึ้นมาปกปิดร่างกายของตัวเองให้มิดชิดกว่าเดิม ก่อนที่มือบางจะเคลื่อนเข้าใต้ผ้าห่มและจับแขนเสื้อที่ราฟาเอลผูกไว้ที่คอของเธอออก จากนั้นเธอก็พลิกมันกลับมาสวมใส่ให้เรียบร้อยแบบที่คนปกติเขาใส่กัน
ดวงตากลมโตจับจ้องมองไปที่ราฟาเอลด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ทว่ามาเฟียหน้าตาหล่อเหลากลับส่งยิ้มมุมปากกลับมาอย่างยียวนกวนประสาท ตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าม้าพยศตัวนี้แล้ว
สปายสาวค่อยๆ ก้าวขาลงมาจากเตียงอย่างช้าๆ เอวาพยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้และไม่อยากแสดงออกให้ใครหน้าไหนได้รับรู้ทั้งนั้น จนกระทั่งเธอฝืนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ความเจ็บแปลบแล่นเข้ามาเล่นงานเธออีกครั้ง จนร่างเล็กเซและล้มลงไปนั่งบนที่นอนเหมือนเดิม คิ้วสวยขมวดพร้อมกับเรียวปากเล็กเม้มปากเอาไว้แน่น
“หึ” ชายหนุ่มยืนมองสปายสาวพลางยิ้มอย่างสะใจ บอดี้การ์ดทั้งสองคนปรี่เข้ามาเพื่อจะจับหญิงสาวให้ลุกขึ้น ทว่าเสียงหวานก็ตะคอกใส่พวกเขาทันที
“ไม่ต้องมาจับฉัน!!”
“อวดเก่ง” ราฟาเอลเอ่ยปากต่อว่าเอวา ก่อนที่เขาจะใช้สองมือล้วงกระเป๋าแล้วหันหลังเดินนำออกไปจากห้องก่อนด้วยร่างกำยำท่อนบนเปลือยเปล่า คุณหมอประจำคฤหาสน์เองก็รีบเดินตามราฟาเอลออกไปทันที
เอวาพยายามยันกายลุกขึ้นยืนอีกครั้งด้วยความยากลำบาก เธอฝืนทนกับความเจ็บปวดและลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ หญิงสาวยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่เพราะเธอก้าวขาไม่ออก ความเจ็บตรงกลางกายมันทั้งแสบคัน จุกหน่วงและปวดหนึบจนแทบจะขาดใจแต่เธอก็ต้องอดทนให้ได้มากที่สุด
“เดินตามเจ้านายไปครับ อย่าให้ท่านรอนาน” หนึ่งในบอดี้การ์ดเอ่ยขึ้นมา
“ฉันอยากเข้าห้องน้ำ” เอวาบอกกล่าวกับพวกเขาเพราะน้ำเหนียวข้นปนเลือดสีแดงที่กำลังไหลเยิ้มออกมาจากร่องสาวและไหลลงมาตามเรียวขาสวยจนหญิงสาวต้องหุบขาเอาไว้
“คุณต้องไปขอเจ้านายเอง”
สิ้นเสียงชายชุดดำ เอวาถอนหายใจออกด้วยความเบื่อหน่าย จากนั้นหญิงสาวก็เริ่มก้าวเท้าเดินออกมาจากห้องด้วยความยากลำบาก ทุกจังหวะที่เธอเดินไปในแต่ละก้าวนั้นมีแต่ความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
เอวาเดินออกจากห้องมาแล้วเธอก็พบกับราฟาเอลยืนอยู่หน้าห้อง ชายหนุ่มกำลังรับเสื้อเชิ้ตสีดำตัวใหม่จากบอดี้การ์ดมาสวมใส่อย่างลวกๆ
“ฉันอยากเข้าห้องน้ำ” เสียงหวานแข็งกระด้างบอกกล่าวกับชายหนุ่ม
ราฟาเอลหลุบสายตามองต่ำลงไปที่เรียวขาสวยที่พยายามหนีบกันเอาไว้อยู่ชั่วครู่ ชายหนุ่มไม่ได้ตอบกลับอะไรหญิงสาว จากนั้นเขาก็หันหน้าหนีหญิงสาวและสาวเท้าเดินตรงไปทันที
และก็เป็นอีกครั้งที่เอวาถอนหายใจออกแรงเพราะหงุดหงิดกับผู้ชายพวกนี้ ก่อนที่เธอจะเดินตามราฟาเอลไปอย่างช้าๆ คนสนิทของมาเฟียหนุ่มกับบอดี้การ์ดรีบเดินตามเอวามาอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งราฟาเอลเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องสีน้ำตาลห้องหนึ่ง มือหนาเอื้อมไปเปิดประตูและแทรกกายเข้าไปในห้องนั้นช้าๆ เอวาจึงชะเง้อหน้าเข้าไปมองภายในห้องนั้น ทว่าเธอก็ยังไม่ได้ถือโอกาสสำรวจเลยด้วยซ้ำ เสียงทุ้มทรงพลังก็พูดขึ้นมาก่อน
“จะเข้าไหมห้องน้ำเนี่ย” ราฟาเอลหันกลับมาเอ่ยกับเอวา
เอวามองสำรวจห้องนั้นอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามา เมื่อเอวาเดินเข้ามาในห้องนี้ เธอก็พบว่าที่นี่คือห้องน้ำที่มีอยู่ทั้งหมดสามห้อง แต่ป้ายหน้าห้องกลับติดเอาไว้ว่า…คนนอกห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต ซึ่งเอวาคาดว่าที่นี่อาจจะเป็นห้องน้ำของพนักงานอย่างแน่นอน
หญิงสาวก้าวเดินเข้าไปในห้องน้ำห้องแรก มือบางกำลังจะเอื้อมไปปิดประตู แต่ราฟาเอลก็เอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“เปิดประตูไว้”
“รู้ไหมว่าแกมันเป็นคนที่โรคจิตมาก” หญิงสาวมองจับจ้องไปที่ใบหน้าชายหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัว
“รู้สิ! อย่าลีลา ฉันมีธุระต้องไปทำต่อ”
เอวากำมัดเอาไว้แน่นด้วยความเดือดดาลภายในใจ แต่เธอก็ยังทำอะไรไม่ได้ในตอนนี้ หญิงสาวค่อยๆ นั่งลงบนชักโครกพร้อมกับถลกเสื้อเชิ้ตตัวยาวขึ้นมาเล็กน้อย เธอพยายามจะปิดกลางกายสาวเอาไว้ให้มิดชิดที่สุด
มือบางรีบเอื้อมไปหยิบที่ฉีดก้นมาฉีดล้างทำความสะอาดกลางกายและเรียวขาสวยของเธออย่างรวดเร็ว สายน้ำที่ไหลออกมาจากที่ฉีดก้นยิ่งทำให้ร่องสวาทแสบคันมากยิ่งขึ้น แต่เอวาก็อดทนและฝืนล้างต่อไปจนกลางกายสาวกลับมาสะอาดอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าการกระทำของหญิงสาวตกอยู่ในสายตาของราฟาเอลตลอดเวลา
เวลาผ่านพ้นไป เมื่อเอวาชำระล้างปากถ้ำสีกุหลาบของเธอจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ราฟาเอลกับหญิงสาวก็ออกมาจากห้องน้ำทันที
พวกเขาก้าวเดินออกมาจากคฤหาสน์หลังเล็กและตรงไปยังรถคันหรูสีดำเงาที่จอดเรียงรายกันอยู่ประมาณห้าคัน เอวาเดินตามราฟาเอลมาติดๆ จนกระทั่งพวกเขาขึ้นรถยนต์มูลค่าหลายล้านที่จอดอยู่คันแรกมาด้วยกัน
หลังจากนั้นรถคันที่ราฟาเอลกับเอวากำลังนั่งอยู่ก็ขับเคลื่อนออกไปอย่างช้าๆ และตามมาด้วยรถคันหรูอีกสี่คันที่ขับตามมาเป็นขบวน ราฟาเอลหันหน้ามามองหญิงสาวเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกน่าค้นหา
“ยินดีต้อนรับสู่โลกของฉัน แม่สาวนักฆ่า”
หนึ่งปีผ่านไปร่างอรชรของอดีตสปายสาวสวมชุดเดรสสั้นสีครีมสายเดี่ยวกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องโถงใหญ่ ในช่วงเวลาบ่ายกว่าเป็นเวลาที่ลูกชายของเขา โรลองด์ เด็กชายวัยหกเดือนกว่ากำลังหลับใหลอยู่ จึงทำให้ภายในคฤหาสน์ของราฟาเอลเงียบสงัดในช่วงเวลานี้ ในขณะที่เอวากำลังอ่านหนังสืออยู่ พี่เลี้ยงของลูกชายเธอก็ค่อยๆ เดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่อย่างช้าๆ เอวาจึงผละสายตาออกจากหนังสือและช้อนดวงตากลมโตขึ้นไปมองหน้าพี่เลี้ยงอย่างช้าๆ“มาดามค่ะ คุณชายตื่นแล้วค่ะ” พี่เลี้ยงที่ดูอายุประมาณสามสิบนิดๆ เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนอบน้อม“ฝากไปอุ้มเขามาให้หน่อยได้ไหมคะ” เอวาตอบกลับไปอย่างสุภาพ ต่อให้เธอจะเข้ามาเป็นมาดามในคฤหาสน์หลังนี้ได้เป็นปีแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยปฏิบัติกับสาวใช้หรือบอดี้การ์ดไม่ดีเลยสักคน เพราะเธอไม่เคยลืมว่าตัวเองเป็นใครมาก่อน“ค่ะมาดาม” พี่เลี้ยงตอบกลับพลางก้มศีรษะให้มาดามหนึ่งครั้ง ก่อนที่เธอจะหันหลังเดินออกไปจากห้องโถงทันทีหลังจากที่พี่เลี้ยงเดินออกไปจากห้องแล้ว ชายหนุ่มร่างกำยำสง่างามหรือก็คือราฟาเอลนั่นเอง มาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาในห้องโถงทันที“กลับมาไวจัง” เอวาเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
หลังจากพิธีวิวาห์ของมาเฟียหนุ่มกับอดีตสปายสาวจบลง พวกเขาก็เปลี่ยนชุดและตรงมายังเรือสำราญเพื่อพาหญิงสาวมาฮันนีมูนต่อทันที ราฟาเอลโอบไหล่บางของภรรยาป้ายแดงที่สวมชุดเดรสสั้นสีขาวดูเรียบหรู เขาพาเอวาเดินขึ้นไปยังเรือสำราญส่วนตัวของตัวเองอย่างช้าๆ จนกระทั่งคู่สามีขึ้นมาบนเรือสำราญเรียบร้อยแล้ว เรือสำราญค่อยแล่นออกจากท่าเรือขนาดใหญ่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ราฟาเอลต้องการความเป็นส่วนตัว ชายหนุ่มจึงให้เหล่าบรรดาบอดี้การ์ดของเขานั่งเรือสำราญอีกลำหนึ่งตามเขามา เพื่อดูแลความปลอดภัยให้เขากับภรรยา“ชอบไหม” ชายหนุ่มพาเอวาเดินมาตรงหัวเรือพลางเอ่ยถามหญิงสาวที่เขากำลังโอบไหล่บางของเธออยู่ “ฉันชอบ” เจ้าสาวป้ายแดงตอบพร้อมกับพยักหน้าให้ชายหนุ่มเบาๆ ลมทะเลพัดผ่านร่างกายพวกเขาไป ยิ่งทำให้คู่บ่าวสาวรู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้น“ไม่ต้องห่วงเรื่องน้องสาวของเธอนะ ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เลย” ราฟาเอลหันมาจับไหล่หญิงสาวเอาไว้ทั้งสองข้างและจ้องมองเข้าไปในดวงตากลมโตเพื่อแสดงออกทางสายตาให้เธอได้รับรู้ “ขอบคุณมากๆ เลย ฉันไม่รู้จะขอบคุณยังไงเลย” เอวาส่งยิ้มให้สามี “เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม” ราฟาเอลตอบกลับด้
หนึ่งเดือนต่อมา เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งมาถึงวันที่ราฟาเอลกับเอวาต้องเข้าพิธีวิวาห์ด้วยกัน ทุกอย่างถูกจัดขึ้นมาอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น งานแต่งงานสุดแสนใหญ่โตหรูหราถูกจัดขึ้นภายในสวนของคฤหาสน์ของราฟาเอล ทุกอย่างถูกจัดเตรียมเอาไว้อย่างเรียบร้อย ดอกกุหลาบสีขาวกับสีชมพูประดับไปทุกพื้นที่ของงานในวันนี้ แขกเหรื่อและนักธุรกิจในวงการสีเทาต่างพากันมาแสดงความยินดีกับมาเฟียหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่ หญิงสาวภายในงานสวมชุดราตรียาวสีชมพูอ่อนๆ กับผู้ชายที่สวมชุดทักซิโด้หรือชุดสูทสีดำ ราฟาเอลสวมชุดทักซิโด้ดูหล่อเหลาที่สุดในงานวันนี้ เขาทั้งดูสง่างาม สุขุมและน่าหลงใหล ชายหนุ่มยืนอยู่หน้าแท่นพิธีกับบาทหลวงเพื่อรอว่าที่เจ้าสาวของเขา ดวงตาคมกริบดุดันมองไปรอบๆ งานแต่งของตัวเอง เหล่าบรรดากลุ่มเพื่อนกับพ่อแม่ของเขานั่งอยู่แถวหน้าสุดกำลังจ้องมองมาที่ราฟาเอลอยู่มาเฟียหนุ่มยืนรอว่าที่เจ้าสาวของเขาอยู่สักพักหนึ่ง แต่เขากลับรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเหลือเกิน เขาอยากจะเห็นเจ้าสาวแสนสวยของเขาเต็มที่แล้วไม่นานสักเท่าไหร่ ร่างอรชรของอดีตสปายสาวที่สวมชุดสีขาวสะอาดตา ท่อนบนชุดเจ้าสาวเป็นเกาะอกและถูกปร
หลังจากที่ชายหญิงคุยกับเข้าใจเรียบร้อยแล้ว ราฟาเอลพาหญิงสาวกลับขึ้นมายังชั้นแรกของตัวอาคาร และทันทีที่ประตูของลิฟต์เปิดออกมา พวกเขาก็เดินออกมาจากลิฟต์กันอย่างช้าๆ “นายท่านคะ!” ร่างของหญิงสาวชุดดำรัดรูปปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหันพร้อมกับเดินปรี่เข้ามาหาราฟาเอลอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนรู้กันเป็นอย่างดีว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ราฟาเอลมองชาร์ลอตต์สลับกับหันมามองว่าที่เจ้าสาวของเขาที่กำลังมองชาร์ลอตต์ด้วยสายตานิ่งเรียบ แต่ทว่ามันกลัวดูน่ากลัวสำหรับเขายิ่งนัก “ชาร์ลอตต์คิดถึงจังเลยค่ะ นายท่านหายไปตั้งนาน” ไม่พูดเปล่า ชาร์ลอตต์พยายามที่จะเข้ามาคล้องแขนชายหนุ่มเอาไว้ ราฟาเอลจึงถอยหลังหลบเธอไปหนึ่งก้าว “อย่ามาโดนตัวฉัน” เสียงทุ้มของราฟาเอลบอกกล่าวชาร์ลอตต์ด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมจนสาวชุดดำสัมผัสได้“ทะ..ทำไมล่ะคะ” ยังไม่ทันที่ราฟาเอลจะได้ตอบกลับอะไรออกไป เอวาก็ก้าวเดินออกไปจากตรงนั้นทันที เธอไม่จำเป็นต้องมาทนฟังสองคนนั้นคุยกัน ภาพความทรงจำเก่าๆ ที่ราฟาเอลเคยกอดรัดนัวเนียกับผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าของเธอฉายขึ้นมาในสมองของเอวาอีกครั้ง“อันนา! อันนา!” เสียงทุ้มตะโกนเรียกหญิงสาวเอาไว้ แต่อดีตสปา
ผู้ใหญ่ทั้งสามคนนิ่งเงียบและหันมองหน้ากันอยู่สักพักหนึ่ง จนเอวาเริ่มรู้สึกไม่ดีขึ้นมาเรื่อยๆ ใบหน้าสวยคมและมือเล็กของหญิงสาวเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ราฟาเอลเหลือบตามามองหญิงสาวข้างกาย เมื่อเห็นว่าใบหน้าหวานเริ่มซีดเผือด มือแกร่งจึงเลื่อนลงไปกอบกุมมือเล็กเอาไว้แน่น เอวาจึงหันมาสบตากับชายหนุ่มทันที นัยน์ตาคมเข้มดุดันจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตเพื่อเป็นการบอกหญิงสาวเป็นนัยว่าเขาอยู่ข้างๆ เธอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่ยอมปล่อยมือเธอเด็ดขาด“ผมไม่ได้มาขออนุญาตหรืออะไรทั้งนั้น ผมแค่พาว่าที่เจ้าสาวของผมมาแนะนำตัวให้ครอบครัวได้รู้จัก” ราฟาเอลหันกลับมามองหน้าพ่อแม่พลางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นคงและเด็ดเดี่ยวโรดอลฟ์ผู้อาวุโสที่สุดของบ้านเดินมาหาราฟาเอลกับเอวา ชายแก่หยุดอยู่ตรงหน้าชายหญิงทั้งสองคน ก่อนที่เขาจะมองหน้าราฟาเอลกับเอวาสลับกัน ชายแก่ถอนหายใจออกมาเบาๆ“ไปคุยกันต่อที่ห้องอาหาร” โรดอลฟ์เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบสิ้นเสียงโรดอลฟ์ ชายแก่ก็ปลีกตัวเดินไปยังห้องอาหารก่อนคนอื่นอย่างช้าๆ พ่อกับแม่ของราฟาเอลมองหน้ากันเล็กน้อย ซึ่งชายหนุ่มกับหญิงสาวเองก็เช่นกันราฟาเอลรู้จ
หลังจากที่ราฟาเอลกับเพื่อนๆ ประชุมกันจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว มาเฟียหนุ่มก็รีบกลับมายังคฤหาสน์ของตัวเองทันที ร่างกำยำสมบูรณ์แบบลงมาจากรถยนต์คันหรู และตามมาด้วยลูกาที่ลงจากรถฝั่งคนขับตามราฟาเอลมา ชายหนุ่มกลับมาถึงบ้านในช่วงสี่ทุ่มของวัน“กลับมาแล้วเหรอครับนายท่าน” อองโซที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูทักทายเจ้านายเหมือนดั่งเช่นทุกครั้ง“อันนาล่ะ” ราฟาเอลเอ่ยถามถึงว่าที่เจ้าสาวของเขาทันที “หลับแล้วค่ะท่าน ดิฉันทำอาหารให้ทานเรียบร้อย แล้วมาดามก็ขึ้นไปนอนค่ะ แต่ดูเหมือนอาหารจะไม่ค่อยถูกปากมาดามสักเท่าไหร่นะคะ” เสียงของสาวใช้ที่ยืนอยู่ตรงด้านหลังของอองโซก้าวขามาข้างหน้าพลางตอบกลับเจ้านาย“พรุ่งนี้ให้เชฟไทยที่ฝีมือดีที่สุดมาทำอาหารไทยให้เธอ อันนาชอบทานอาหารไทย” ราฟาเอลบอกกล่าวกับสาวใช้“ได้ค่ะ” สาวใช้ชุดดำก้มศีรษะให้เจ้านายอย่างนอบน้อม ราฟาเอลไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาต่อ เมื่อเขาสั่งสาวใช้เรียบร้อยแล้ว มาเฟียหนุ่มก็ก้าวเดินไปยังในคฤหาสน์และตรงไปยังชั้นสองทันที ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าห้องนอนของตัวเองออกมาอย่างเบามือที่สุดเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะหลับอยู่ แล้วเขาจะรบกวนการนอนของเธอ ดวงตาคมกริบมองไปยังบนเตียงใหญ่ เ