วีด้าออกมาพร้อมกับเหยือกน้ำใบใหญ่และแก้วครบจำนวนของเพื่อนพี่ชาย เธอวางมันลงบนโต๊ะก่อนจะหันมาทางเจฟฟ์
“วีเตรียมของไว้นิดหน่อย เดี๋ยวเอาออกมาให้นะคะ”
“ไม่ได้ทำครัวเละใช่ไหม พี่ไม่อยากลุกขึ้นมาเก็บตอนเช้านะ” เจฟฟ์เอี่ยวหน้ามาล้อน้องสาว และเสียงหัวเราะเบา ๆ ก็หลุดออกมาเมื่อเธอย่นจมูกรั้น ๆ ตอบกลับคำพูดของตน
“งั้นเดี๋ยวกูไปดูวี” ไลก้าผุดลุกจากที่นั่งก่อนที่วีด้าจะเดินฝ่าความมืดกลับเข้าไปในตัวบ้านอีกครั้ง
“ให้ฉันไปดีกว่าไหม นายนั่งดื่มกับพวกนี้ดีกว่า” ซอลเมื่อเห็นว่าควรเป็นตัวเองมากกว่าที่ต้องไปช่วยน้องสาวเจฟฟ์ ทว่ากลับถูกรั้งเอาไว้ด้วยเจ้าของบ้าน
“ไม่ต้องหรอกให้ไอ้ก้านั่นแหละไป มันรู้จักที่นี่ดีหลับตาเดินยังได้เลย”
“ทีกับไอ้ก้ามึงไม่หวงน้องบ้างวะ” สิ้นคำวิกเตอร์ก็แทบหลบเท้าของเจฟฟ์ไม่ทัน
“ไอ้ที่อยู่ในมือน่ะยัดเข้าไป เดี๋ยวจะไม่ได้กินดีอะมึง กวนประสาท”
“โหดแต่กับกูนี่แหละ อย่าให้ต้องไปเรียนบ้างแล้วกัน รับรองว่าความไวเหนือชั้นกว่ามึงแน่”
“อย่าดีแต่พูด สี่ปีแล้วไม่เห็นจะมีอะไรคืบหน้านอกจากตีนเอาไว้เหยียบเกียร์มึงน่ะ”
วิกเตอร์หมดคำจะแก้ตัว เพราะนอกจากความเร็วของฝีเท้าในการเหยียบคันเร่งแล้ว นอกนั้นก็เทียบอะไรเจฟฟ์ไม่ได้เลย อาเชอร์และซอลยิ้มขำ รวมกลุ่มกันเมื่อไหร่วิกเตอร์เป็นต้องโดนคนแรกก็เพราะความปากไวของเขานี่แหละ
ส่วนอชิระนั้นถึงจะยิ้มให้กับเหตุการณ์ตรงหน้าก็จริง ทว่าในหัวนั้นมีเรื่องหนึ่งรบกวนอยู่ตลอด!
ห้องครัว
วีด้าตักอาหารที่ตัวเองทำไว้ก่อนพี่ชายจะมาถึงเป็นเมนูง่าย ๆ ไม่ได้ยุ่งยากอะไรสองอย่างใส่จาน ยังใจเต้นไม่หายเรื่องหนีเขาไปดูแข่งรถที่ YOLO
“ทีหลังอย่าแอบไปที่นั่นอีกนะวี”
“ว้าย! พี่ก้า ทำอะไรของพี่เนี่ย วีเกือบทำจานยำตกแตกเลยเห็นไหม”
เสียงถอนหายใจดังมาจากเจ้าของร่างเล็กพรูใหญ่ คิ้วโก่งสวยเปลี่ยนเป็นขมวดยุ่งก่อนจะหันมาทางกายสูงยืนพิงบาร์ด้านข้าง
“เมื่อกี้พี่ว่าอะไรนะคะ” พอเรียกสติตัวเองกลับมาได้ถึงได้ถามถึงคำพูดของเขา
“อย่าไปโยโลตามลำพังแบบนั้นอีก” ทิ้งมือที่กอดกันอยู่ตรงหน้าอกลงขนาบลำตัว แล้วเดินเข้ามาหาคนอ้าปากค้างดวงตาที่โตอยู่แล้วก็แทบจะถลนออกมา
หึ!
เรียวนิ้วสวยแตะปลายคางมนให้กลีบปากปิดเข้าหากันดังเดิมก่อนที่จะมีตัวแมลงอะไรสักอย่างบินเข้าไปอยู่ภายในท้องคนตัวแสบเสียก่อน
วีด้าสะดุ้ง ไม่เพราะสัมผัสจากไลก้าแต่ทว่าไม่คิดจะถูกจับได้ เรื่องนี้จะรู้ไปถึงหูพี่ชายเธอหรือยัง?
“พี่ได้บอกพี่เจฟฟ์ไหม” เสียงเป็นกังวลเปล่งออกมาแผ่วเบา
โป้ก⁓
“โอ๊ย⁓ เจ็บนะพี่ก้า” มือเล็กยกขึ้นทาบความร้อนที่พึ่งถูกนิ้วแข็งดีดเข้าให้ ถึงไม่ได้เจ็บอะไรมากแต่ก็ขอแสดงก่อนเพื่อเรียกร้องความสงสาร
“แทนที่จะกลัวว่าตัวเองจะเป็นอันตรายไหม มากกว่าพี่ชายเธอจะรู้หรือเปล่านะวีด้า ทำแบบนี้รู้ไหมว่าผิด?” คนตัวสูงตวัดสายตาลง เอ่ยเสียงเย็นเยียบตำหนิการกระทำของคนตรงหน้า ถึงแม้จะใจอ่อนยวบทันทีเมื่อเห็นดวงตาคู่สวยสั่นไหว
“รู้ค่ะ” ยอมรับผิดเสียงอ่อย
“พี่เจฟฟ์รู้ไหม” นี่สิสำคัญกว่าขืนรู้เธอตายแน่
“ครั้งหน้ารู้แน่” จะใจแข็งให้เธอได้สักเท่าไหร่ กายสูงผ่อนความแข็งกระด้างของตัวเองลง จากนั้นก็ก้าวไปยืดชิดวีด้ามากขึ้น
“อย่านะคะ วีไม่ทำอีกแล้วพี่ก้าอย่าบอกพี่เจฟฟ์เลยนะ นะ ๆ สาบานเลย” เงยหน้าขึ้นส่งสายตาอ้อนวอนพลางยกฝ่ามือเล็กสาบานเสียงกระตือรือร้น
ไลก้ากลั้นยิ้มจนหน้าแทบเป็นตะคิว เขากระแอมไอหลังจากที่เห็นว่าขู่จอมแสบได้สำเร็จ
“อืม...พี่ไม่บอกมันก็ได้ แต่วีต้องสัญญากับพี่ว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”
“สัญญาค่ะ”
“ดีมาก หรือถ้าอยากไปจริง ๆ ก็บอกไอ้เจฟฟ์มันตรง ๆ”
“ขอพี่เจฟฟ์ก็ไม่ให้ไปอยู่ดี” ตอบเสียงเบา
“ลองดูหรือยัง”
วีด้าส่ายหน้าแทนคำตอบ
“คิดไปเอง มันไม่ได้ใจร้ายกับเธอขนาดนั้น” เขารู้ดีกว่าใครเพราะอะไรเพื่อนถึงไม่อยากให้น้องสาวพาตัวเองไปอยู่ในวงล้อมพวกนั้น
“จริงเหรอคะ”
“หึ ก็ลองถามดูเองสิ เจฟฟ์มันเป็นพี่ชายเธอนะ”
“อ้าว!” สุดท้ายก็มาจบอยู่ที่เธออยู่ดีไม่ใช่หรือไง แล้วจะพูดให้ดีใจเพื่อ!!
“มาอ้าวอะไร อยากได้อะไรก็ต้องทำด้วยตัวเองสิ พี่ยกจานนี้ออกไปนะ มีแค่นี้ใช่ไหม” ไลก้าหยิบจานยำและไก่ทอดขึ้นมาแล้วก้าวออกมาจากห้องครัว ยิ้มมุมปากยกขึ้นเมื่อพ้นใบหน้าบูดบึ้ง
“นึกว่าจะรอด สุดท้ายก็ถูกบ่นอยู่ดี เฮ้อ...ทำไงได้แกอยากมีพี่ชายโหดทำไมกัน” ว่าแล้วก็หันไปสนใจสิ่งที่ทำค้างเอาไว้ก่อนไลก้าจะเข้ามา จากนั้นถึงได้ตามเขาออกไป
เวลา 23:17 นาฬิกา
เจฟฟ์หันไปเห็นน้องสาวนั่งปิดปากหาวพอดี ตอนแรกไม่อยากให้เธอนั่งร่วมวงด้วยเลยสักนิด ติดที่ซอลขอไว้ ทั้งสองถึงได้คุยกันจนถูกคอ อาจเป็นเพราะว่าเรียนคณะเดียวกันถึงแม้จะคนละสาขาก็เถอะ แต่ก็เป็นซอลหรอกเขาถึงได้ยอม
“ง่วงก็ขึ้นไปนอน ของพวกนี้เดี๋ยวพี่เก็บเอง”
“อุ๊ย! พี่ลืมดูเวลาไปเลย วีไปนอนก่อนก็ได้นะ เอาไว้เราค่อยเจอกันที่มอ” ซอลบอกกับน้องสาวเพื่อนทันทีเมื่อยกนาฬิกาข้อมือของตัวเองขึ้นมาดู ปกติไม่ค่อยได้สนิทกับใครมากนักที่มหา’ลัยแต่เพราะวีด้าทั้งน่ารักแล้วก็มีนิสัยคล้าย ๆ กันจึงรั้งเอาไว้จนดึก
“ก็ได้ค่ะ วีเก็บที่หมดแล้วเอาไปไว้ในครัว แล้วพี่ก็อย่าอยู่ดึกนักมีเรียนเช้าเหมือนกัน” บอกกับพี่ชายแล้วหันมาบอกลาซอลและคนอื่น ๆ กระทั่งสะดุดกับคนสุดท้าย
พี่อชิ! ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองไหม ตั้งแต่มานั่งตรงนี้บ่อยครั้งเห็นว่าเขามักจะเหลือบหางตามาทางเธอและพี่ซอลตลอด อย่าบอกนะว่าพี่อชิแอบชอบพี่ซอลน่ะ! แต่ตอนเดินเข้ามาพี่อาเชอร์โอบเอวพี่ซอลเข้ามานี่น่า?
‘เป็นรักสามเศร้างั้นเหรอ?’
ยิ้มแห้งส่งให้อชิระหลังจากที่ตัดสินไปแล้วว่าคงเป็นอย่างที่ตัวเองคิด น่าเห็นใจพี่เขาอยู่นะแอบชอบแฟนเพื่อนตัวเองคงลำบากใจสุด ๆ แต่พี่ซอลก็สวยมากจริง ๆ ไม่แปลกหากว่าพี่อชิจะคิดแบบนั้น
“ปวดท้องว่ะ เข้าห้องน้ำหน่อยนะเจฟฟ์” คล้อยหลังวีด้าไปไม่นานอชิระก็วางแก้วเหล้าในมือลง ดันตัวขึ้นก่อนจะเอ่ยขออนุญาตเจ้าของบ้าน
“ไปดิ เลยห้องครัวไปหน่อยนะ”
“อืม” ตอบรับแค่นั้นอชิระก็เร่งฝีเท้าเข้าไปในตัวบ้าน
วีด้าเช็ดมือหลังจากล้างจานพวกนั้นเสร็จ เป็นครั้งแรกที่ได้คุยกับเพื่อนพี่ชาย เพราะนอกจากพี่ก้าแล้วก็ไม่เคยได้เจอกันซึ่ง ๆ หน้าอย่างนี้ นอกจากผ่านนักศึกษาคนอื่นหรือไม่ก็เพื่อนในห้องที่มักจะหวีดพวกเขากัน
อีกอย่างคณะของเธอกับเขาอยู่ห่างกันมาก หากไม่จงใจจริง ๆ ไม่มีทางเจอกันที่นั่น
เมื่อมองดูแล้วไม่มีอะไรต้องเก็บอีกก็เลยจะขึ้นไปนอนเพราะมีเรียนเก้าโมง ทว่ายังไม่พ้นประตูก็ถูกขวางด้วยร่างสูงของเพื่อนพี่ชายเสียก่อน
“พี่อชิ!”
“ชู่ว์” นิ้วชี้ยกขึ้นป้องปากตัวเองส่งสัญญาณให้น้องสาวเพื่อนอย่าเอ็ดไป
วีด้าก้าวถอยหลังเมื่อกายสูงสืบเท้าเข้ามาใกล้ จะไม่ทำอย่างนี้เลยถ้าสายตาคมดุคู่นี้ไม่มองเหมือนกับว่าเธอเป็นของกิน!
“อ๊ะ ทำอะไรของพี่คะ?”
พี่อชิดันไหล่เธอชิดกับผนังห้องครัว แขนใหญ่ยันกับพื้นแข็งรวดเร็วเมื่อเธอกำลังจะโยกตัวหลบจากการบุกมาอย่างอุกอาจ
ระแวงว่าพี่เจฟฟ์จะเข้ามาเห็นหรือเปล่า เลยกลายเป็นว่าตอนนี้เราสองคนกำลังยืนประจันหน้ากันอยู่ในระยะใกล้ และมันใกล้มาก ๆ จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนเป่ารดใบหน้า กลิ่นบุหรี่เย็นซึ่งไม่รู้ว่ามันคือยี่ห้ออะไรบวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์ผสมคละเคล้านชวนให้หัวใจเต้นแรงผิดปกติ
มิหนำซ้ำเขายังยื่นหน้าเข้ามาใกล้...
“จะหลบทำไม?”
‘จะไม่ให้เธอหลบได้ยังไง อีกนิดเดียวปากพี่เขาก็จะแตะปากเธอแล้ว!’
หัวใจเจ้ากรรมนี้ก็เต้นแรงเหลือเกินเบาลงหน่อยก็ได้ไหม?วีด้ายกมือดันหน้าท้องของกายสูง สัมผัสแรกก็ทำให้สั่นเทาไปทั้งตัว
พี่อชิเนื้อตรงนี้แน่นมากเรียกได้ว่าฟิตเปรี้ยะ เธอไม่ได้ตั้งใจจะลวนลามเขาแต่อย่างใด แต่หากไม่ทำแบบนี้เราก็แทบจะแนบชิดเป็นปาท่องโก๋
“ขะ ขยับออกไปหน่อยได้ไหมคะ” กลั้นลมหายใจสุดฤทธิ์ จนรู้สึกว่าตัวเองจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว
แทนที่อชิระจะทำอย่างที่น้องสาวเพื่อนบอกแต่เขากลับโน้มใบหน้าเข้าใกล้คนตัวเล็กมากขึ้นไปอีก ยิ่งได้เห็นว่าวีด้ากัดริมฝีปากตัวเองแน่นเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอก็เปล่งออกมาให้ได้ยิน แล้วยังจงใจเป่าลมผ่านผิวขาวตรงซอกคอของเธอ เป็นผลให้ไหล่เล็กหดเข้าหาตัว คนที่หลบหน้าหนีก็เลยหันกลับมา...
“วีบอกวะ...อื้อ” เสียงสั่นกำลังจะเอ่ยย้ำก็หายไปพร้อมกับเรียวปากร้อนที่ปิดลงมา!
วีด้าคล้ายคนถูกกระชากวิญญาณออกจากร่างอย่างรวดเร็วให้มาอยู่อีกโลกที่ไม่รู้จัก เรียวปากหยักขยับขบเม้มจากนุ่มนวลค่อย ๆ ร้อนแรงเพิ่มระดับตามอารมณ์ เสียงหายใจกระเส่ารุนแรง ลิ้นเปียกแฉะแตะขอบปากนุ่มของเธอไล้เลียจากอีกมุมไปอีกมุมเรียกร้องต้องการรุกล้ำเข้ามาด้านใน ทั้งที่รู้อย่างนั้นควรจะต่อต้านแต่กลับโอนอ่อนคล้อยตาม เปิดปากให้ความอุ่นซ่านแทรกสอดล่วงล้ำเข้ามาหยอกเย้าปลายลิ้นของตัวเองได้อย่างง่ายดายอชิระรั้งท้ายทอยเล็กขยับเข้ามาใกล้ เบี่ยงใบหน้าในองศาที่สามารถตักตวงเอาความหวานจากกลีบปากอุ่นอย่างเต็มที่ ทุกอณูภายในความอุ่นชื้นมีทั้งตื่นกลัวและอยากค้นหา เป็นจูบไม่ประสาแต่กลับทำให้เขาไม่อยากหยุด ท่อนแขนใหญ่คว้าเอวคอดเข้าแนบชิดกายแกร่ง จงใจบดเบียดตัวเองเข้าหาความนุ่มจากเรือนร่างเล็ก แรงเสียดสีของร่างกายทำให้เขาอยากทำมากกว่าแค่จูบ มันอยากมากกว่าแค่ได้สอดลิ้นตวัดพันกัน มือที่อยู่เหนือเอวลูบไล้ผ่านผิวนุ่มลงมาสะโพกสวย“อื้อ...”วีด้าประท้วง ทั้งจูบดูดดื่มทั้งสัมผัสเร่าร้อนจนร่างกายของเธอไร้เรี่ยวแรง ลมหายใจค่อย ๆ แผ่วลงอึก⁓ อชิระผละริมฝีปากร้อนจัดออกจากคนที่กำลังทรงตัวได้ยาก ระยะห่างของใบหน้ายัง
วีด้าออกมาพร้อมกับเหยือกน้ำใบใหญ่และแก้วครบจำนวนของเพื่อนพี่ชาย เธอวางมันลงบนโต๊ะก่อนจะหันมาทางเจฟฟ์“วีเตรียมของไว้นิดหน่อย เดี๋ยวเอาออกมาให้นะคะ” “ไม่ได้ทำครัวเละใช่ไหม พี่ไม่อยากลุกขึ้นมาเก็บตอนเช้านะ” เจฟฟ์เอี่ยวหน้ามาล้อน้องสาว และเสียงหัวเราะเบา ๆ ก็หลุดออกมาเมื่อเธอย่นจมูกรั้น ๆ ตอบกลับคำพูดของตน “งั้นเดี๋ยวกูไปดูวี” ไลก้าผุดลุกจากที่นั่งก่อนที่วีด้าจะเดินฝ่าความมืดกลับเข้าไปในตัวบ้านอีกครั้ง “ให้ฉันไปดีกว่าไหม นายนั่งดื่มกับพวกนี้ดีกว่า” ซอลเมื่อเห็นว่าควรเป็นตัวเองมากกว่าที่ต้องไปช่วยน้องสาวเจฟฟ์ ทว่ากลับถูกรั้งเอาไว้ด้วยเจ้าของบ้าน“ไม่ต้องหรอกให้ไอ้ก้านั่นแหละไป มันรู้จักที่นี่ดีหลับตาเดินยังได้เลย” “ทีกับไอ้ก้ามึงไม่หวงน้องบ้างวะ” สิ้นคำวิกเตอร์ก็แทบหลบเท้าของเจฟฟ์ไม่ทัน “ไอ้ที่อยู่ในมือน่ะยัดเข้าไป เดี๋ยวจะไม่ได้กินดีอะมึง กวนประสาท”“โหดแต่กับกูนี่แหละ อย่าให้ต้องไปเรียนบ้างแล้วกัน รับรองว่าความไวเหนือชั้นกว่ามึงแน่” “อย่าดีแต่พูด สี่ปีแล้วไม่เห็นจะมีอะไรคืบหน้านอกจากตีนเอาไว้เหยียบเกียร์มึงน่ะ” วิกเตอร์หมดคำจะแก้ตัว เพราะนอกจากความเร็วของฝีเท้าในการเหยียบคันเร่งแ
“ก็บ้านมึงใกล้สุดไหมล่ะ” อาเชอร์หันมาตอบ“ไม่ได้” ค้านหัวชนฝา ไม่จำเป็นไม่อยากให้พวกมันไปที่บ้าน น้องสาวเขาอยู่ที่นั่นด้วย เกิดพวกนี้ไปรบกวนเธอทำไง อุตส่าห์หลีกเลี่ยงมาได้ตั้งสี่ปี“มึงก็น่าจะรู้นะอาร์ นอกจากไอ้ก้าแล้วมีใครได้เข้าไปเหยียบบ้านมันบ้าง ขนาดอยู่มหา’ลัยเดียวกันยังไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าน้องมันชัด ๆ สักที!”วิกเตอร์เหลือบตามองคนหวงน้องสาวอย่างเจฟฟ์ตาเขม็ง รู้แค่ชื่อกับคณะที่เรียนนี่ก็นับว่าบุญพวกเขาแล้วมั้ง “ก็ใครใช้ให้พวกมึงแต่ละคนทำตัวดี ๆ กันทั้งนั้น ในฐานะเพื่อนกูยอมรับว่าพวกมึงพึ่งพาได้ แต่สำหรับน้องกูพวกมึงก็ผู้ชายเลวคนหนึ่ง โอเคนะ” คิ้วหนายกขึ้นแสดงถึงการแบ่งเขตระหว่างความสัมพันธ์ของกลุ่มตัวเองอย่างเด่นชัด แน่นอนว่าในฐานะเพื่อนนั้นทุกคนดีชิบหาย แต่หากเป็นเรื่องผู้หญิงละก็...ขอกันน้องสาวออกห่าง ๆ เป็นดีที่สุด“แต่กูเพื่อนมึงนะ พูดซะเสียเลย” วิกเตอร์ไม่ยอมรับคำใส่ร้าย ในกลุ่มถ้าจะมีใครสักคนได้บทบาทนั้นก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ“มองหน้ากูทำไม หล่อจนละสายตาไม่ได้เลยใช่ไหม?” อชิระเข้าใจความหมายของสายตาวิกเตอร์ แต่แล้วยังไง เขาไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนสักครั้งผู้หญิงพวกนั้นเข
@สนามแข่ง YOLOดวงตาหวานกลมโตสีพีนัททอดมองรถแลมโบกินี่สีควันบุหรี่ สัญลักษณ์รูปสิงห์ผงาดด้านข้างสุดเท่ ทะยานมาด้วยความเร็วเหนือคู่แข่งคนอื่น ๆ 5...4...3...2...1 เยส!“กรี๊ด...ชนะแล้ว ชนะแล้ว เย้ ๆ” ร่างอรชรภายใต้ชุดทะมัดทะแมงกระโดดจนตัวลอยอยู่ข้างสนามโซน vip ก่อนจะหันมาหาอีกคนที่มีท่าทีไม่ต่างกันเลยสักนิดYOLO คือหัวใจของหนุ่มวิศวะทั้งห้า เป็นมิตรภาพอันเหนียวแน่นจนก่อเกิดสนามแข่งแห่งนี้ และสัญญาลักษณ์ของพวกเขาก็คือสิงห์สีทอง แก๊ก⁓ร่างสูงก้าวออกมาจากรถสีควันบุหรี่ ในอ้อมแขนกอดหมวกนิรภัยอันโปรดไว้แน่น ย่างเท้าด้วยความมั่นคงมายังกลุ่มเพื่อนสนิทระบายยิ้มมุมปากอันทรงเสน่ห์ในสายตาสาว ๆ ทว่าแท้จริงแล้ว เขาโคตรร้าย!“ไอ้อชิมันหายหัวไปไหน? ถ้ากูไม่ได้เอาลูกรักมาวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น เชี้ยเอ๊ย” วิกเตอร์ กล่าวอย่างหัวเสียพลางส่งหมวกให้กับคนดูแลเอาไปเก็บ จากนั้นเจ้าตัวถึงได้ทิ้งตัวลงนั่งเบาะนุ่มอย่างแรงเจฟฟ์ พ่นเสียงหัวเราะในลำคอ ร่างกำยำอิงเคาน์เตอร์บาร์ เบี่ยงหน้ามาหาคนเอ่ยกระแทกเสียงแข็งถามหาเพื่อนอีกคน “ก็ชนะไปแล้ว มึงยังจะหัวเสียทำไมวะ” ยกวิสกี้ในมือขึ้นดื่มพลางปรายตาไปทางคนประสานงานภาย
"พี่ฉันอยู่เธอไม่ต้องกลัว" อชิตารีบขัด จากนั้นก็กระตุกแขนไลลา รายนั้นพอถูกดึงก็รีบลุก"เดี๋ยวฉันมา พี่อชิระก็อยู่ พอพี่เจฟฟ์มาจะได้ไม่ห่วง" ไลลาหันกลับมาบอกเพื่อนนั่งตัวตรงอยู่กับที่ ก่อนจะหันไปยิ้มให้อชิระที่มองมาทางตนและน้องสาวด้วยยิ้มมุมปาก'ยิ้มหล่อชะมัด'วีด้ามองเพื่อนทั้งสองเปิดประตู อยากจะรั้งหรือไม่ก็วิ่งตามออกไปแต่ก็กลัวพวกนั้นจะสงสัยว่าทำไมถึงต้องกลัวที่อยู่ห้องนี้ จึงปิดปากเงียบแล้วปล่อยให้อชิตาและไลลาปิดประตูลง"ทำไม! อยู่กับพี่มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ" โน้มตัวเท้าแขนคร่อมวีด้าไม่ต่างกับว่าเขากำลังโอบกอดเธอไว้ด้วยวงแขนใหญ่ สายตาคมจับจ้องลงลึกเข้าไปในดวงตาสวยเต็มไปความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะคาดเดา........"พี่อชิ!" เสียงเปล่งออกมาจากกลีบปากบวมเจ่อเรียกเจ้าของร่างกำยำคร่อมอยู่เหนือเรือนกายไม่เต็มเสียง เมื่อความนุ่มของแผ่นหลังที่แนบชิดไม่ใช่พนักของมันแต่เป็นพื้นราบยาวของโซฟาแทนเธอปล่อยใจไปกับเขาแม้แต่ตัวเองนอนราบลงกับโซฟาตั้งแต่ตอนไหนยังไม่รู้?"พี่ชอบวี เป็นของพี่เถอะนะ" เขาชอบทุกอย่างที่เป็นวีด้า เธอทำให้เขากระหาย อยากครอบครอง ไม่สนใจว่าครั้งหนึ่งเพื่อนได้ลั่นวาจาเอาไ