"คนเขียนบทมักเขียนบทให้ตอนสุดท้าย นางเอกนั้นสมหวังกับพระเอก และรักกันจนนิรันดร์ แล้วนางร้ายล่ะพวกเธอทำผิดอะไร ความจริงเธออาจมาก่อนและรักกันดีกับพระเอกอยู่ก่อนหน้าแล้วด้วยซ้ำ ทำไมพวกเธอถึงไม่ได้สมหวังกับพระเอกล่ะน่าเบื่อจริงๆ"
ใบหน้าหวานสวมแว่นสายตากรอบสีชมพู ยิ่งทำให้ใบหน้าเล็กนั้น น่ารักน่าทะนุถนอมมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว ธนัชชากำลังนั่งอ่านบท เรื่องที่สามที่ผู้จัดได้นำบทมาให้เธออ่าน บทนางร้ายเป็นการแจ้งเกิดเกิดในวงการในฐานะอาชีพนักแสดงของเธอ "มันเป็นแค่ละครหนึ่งเรื่อง ที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกให้คนดู เราจะไปอินกับมันทำไมน้องแทน" "แทนแค่สงสัยแค่นั้นเอง คนเขียนก็แปลกมักให้บทนางร้ายเป็นคนไม่ดีตลอดเลย" วันนี้ธนัชชาสวมเสื้อยืดสีขาวตัวโต พร้อมด้วยกางเกงยีนส์ขาสั้นตัวโปรดที่เธอชอบใส่มันเป็นประจำ ถุงที่วางด้านข้างเป็นชุดราตรี ที่คืนนี้เธอจะต้องไปงานเลี้ยงปิดกล้องละครที่กำลังออนแอร์ ด้วยเรตติ้งที่สูงมากจนเธอนั่นตกใจ รองเท้าส้นสูงที่อยู่ในกล่องใบโต ธนัชชาถูกปลายฟ้าบังคับให้เอาคู่นี้มา ทั้งที่เป็นคู่ที่เธอไม่เคยเฉียดเข้าไปใกล้เลย เพราะความสูงสองนิ้วพอจบงานที ขาเธอทั้งสองข้างนั้นปวดจนเธอแทบจะร้องไห้ ธนัชชามีรูปร่างบอบบางสมส่วน เธอหยิบชุดไหนมาสวมใส่ มันจะเป็นกระแสเป็นที่พูดถึงตลอดเวลา เธอจึงกลายเป็นลูกรักของสไตลิสต์และช่างแต่งหน้าไปโดยปริยาย เธอมักเลือกใส่เสื้อยืดตัวโตฟรีไซซ์ กางเกงขาสั้นโชว์เรียวขาสวย แต่หน้าผมไม่แต่งปล่อยให้มันยุ่งจนฟู ปลายฟ้าตกใจจึงรีบจับยัยตัวแสบมาแต่งหน้าทำผมให้มันเข้าที่เข้าทางสักนิด ตั้งแต่เด็กจนโตธนัชชาจำหน้าพ่อและแม่ไม่ได้ ถึงเธอจะเคยใคร่สงสัยอยากรู้อยู่ช่วงวัยหนึ่ง เธอเคยเสียใจที่ไม่มีใครต้องการเธอเลย ทั้งพ่อและแม่ไม่ได้รู้สึกดีใจที่มีเธอเกิดมาบนโลกใบนี้ แต่ความเสียใจนั้นถูกเติมเต็มความรักจนเต็ม จากยายและน้านิอร ที่ทำให้เธอไม่รู้สึกต้องการคนเป็นพ่อและแม่ ยายมักบอกเธอเสมอว่าเธอคือของขวัญพิเศษที่พระเจ้ามอบให้กับยาย ขอแค่เธอเป็นเด็กดี น่ารัก ยายกับน้านิอรก็ดีใจแล้ว ยายเป็นคนดูแลเธอมาตั้งแต่แรกคลอด พอแม่เธอคลอดเธอเสร็จ ก็เอามาให้ยายกับน้านิอรเลี้ยง ตอนเช้า-เย็น ธนัชชาจะไปขายของที่ตลาดพร้อมยาย พอตอนเธอ 9 ขวบ ยายป่วยหนักและเสียชีวิต ตอนนั้นธนัชชาน้อยนอนร้องไห้เป็นวัน หลังจากทำงานศพยายเสร็จ น้านิอรจึงพาเธอย้ายของจากบ้านหลังเดิม ไปอยู่ใกล้ที่ทำงานพร้อมโรงเรียนใหม่ นิอรออกมารับหลานสาว เจอเจ้านายสาวกำลังถูกรถชน เธอจึงได้ผลักเจ้านายออกจากรัศมีรถที่วิ่งมาด้วยความเร็ว รถยนต์คันนั้นจึงพุ่งชนเธออย่างแรง นิอรนอนรักษาตัวร่วมเดือน เธอบาดเจ็บอย่างหนักขาทั้งสองข้างเดินไม่ได้ ทุกเดือนต้องไปหาหมอเพื่อทำกายภาพบำบัด สายป่านคือเจ้านายของนิอร มองว่าลูกน้องได้ช่วยชีวิตของตัวเองไว้ เธอจึงรับดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลรวมทั้ง รวมทั้งผ่อนบ้านให้ลูกน้องและหลานสาวอยู่ด้วยกัน สายป่านอยากมีลูกมาก แต่เธอไม่มีทั้งที่เธอไม่ได้ป้องกันเลย สายป่านจึงรับเด็กหญิงธนัชชาเป็นลูกสาวบุญธรรม โดยชอบธรรมทางกฎหมาย แต่เวลาผ่านมาได้ไม่นานหลังจากนั้น ครอบครัวของแม่บุญธรรมของเธอ ก็ถูกฟ้องล้มละลาย ตอนเธอเรียนจบไฮสคูลพอดี สายป่านให้ความรักเธอเหมือนเธอเป็นลูกสาวจริงๆ ของท่าน จ่ายค่าเทอมราคาแพงหลายแสนบาทต่อปี ให้เธอได้เรียนโรงเรียนดีๆ แต่เธอเสพสุขได้ไม่นาน ชีวิตเธอก็ตกจากวิมานในอากาศ พอจบไฮสคูลธนัชชาก็ทำงานทุกอย่างที่สามารถทำได้ เธอทำงานตามห้าง ร้านอาหาร จนมีคนมาติดต่อเธอไปถ่ายแบบ เดินแบบ ตัวประกอบและพริตตี้ จับงานพริตตี้ได้ประมาณหนึ่งปี เธอก็ถูกแมวมองที่เจอเธอในห้างชักชวนเธอเข้าวงการ โดยแคสบทนางร้ายหน้าสวย ที่ละครกำลังจะออนแอร์อยู่ตอนนี้ ละครเรื่องนี้เธอพึ่งรับเป็นเรื่องแรก ผลตอบรับดีเกินคาด สาวน้อยหน้าหวานมีผลตอบรับขึ้นมาอย่างเท่าตัว เพียงแค่ออนแอร์ไปแค่ 4 ตอนเท่านั้น จากที่เซ็นสัญญาฉบับชั่วคราว เมื่อวานก็เซ็นสัญญาฉบับใหม่เป็นระยะเวลา 2 ปี "น้องแทนไปคนเดียวได้จริงๆนะ" ปลายฟ้าโทรถามเด็กในความดูแล เธอพึ่งได้ดูแลเด็กคนนี้ได้ไม่นาน ธนัชชาเป็นเด็กน่ารักที่โลกส่วนตัวค่อนข้างสูง นิ่งเงียบไม่ค่อยพูด แต่สาวน้อยกลับสามารถแสดงหน้ากล้องจนถูกผู้กำกับชม นึกว่าเป็นดาราที่อยู่ในวงการมาไม่ต่ำกว่า 5 ปี "แทนไม่เป็นไร หนูดูแลตัวเองได้ พี่ปลายดูแลคุณป้าเถอะค่ะ" แม่ของปลายฟ้าเป็นลมเพราะความดันขึ้น จนต้องได้นอนที่โรงพยาบาล ทั้งที่ตอนแรกผู้จัดการสาวก็จะมากับเธอด้วย ร่างเล็กเดินเข้ามาในคลับชื่อดังใจกลางกรุง ผู้คนมากหน้าหลายตาเดินเข้ามาสถานที่เดียวกันกับเธอ แต่โซนประตูเข้าและทางเข้าด้วยความเป็นโซนวีไอพี จึงแยกออกจากทางเข้าของนักท่องราตรีปกติ วันนี้มีผู้กำกับ นักแสดง และทีมสปอนเซอร์หลักของละครเรื่องนี้ มาเลี้ยงฉลองหลังจากเรตติ้งสูงเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ธนัชชาสูง 165 เซนติเมตร รูปร่างสมส่วนกำลังดีผิวขาวเนียนละเอียด ยิ่งอยู่ในชุดสีดำยิ่งทำให้โดดเด่นที่สุด ร่างเล็กเดินเข้ามาในร้านพร้อมเพื่อนๆ นักแสดง แต่ออร่าที่จับบนตัวเธอนั้นเรียกสายตาคนให้จับจ้องมองเธอไม่วางตา ธนัชชาไม่ชอบสายตาแบบนี้ แต่เธอก็ทำเหมือนมองไม่เห็น ในตอนนี้เธอไม่กล้าปฎิเสธได้ว่านักแสดงเป็นอาชีพที่ทำเงินได้มากและเร็วที่สุด "แทนขอโทษนะคะที่มาช้า" มือเรียวสวยยกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่มาในงานปาร์ตี้ในวันนี้ ทั้งคนที่เธอรู้จักและไม่รู้จัก "หนูแทนนั่งก่อนสิเชิญๆ" สปอนเซอร์รายหนึ่งพูดขึ้น สปอนเซอร์รายนี้เป็นเจ้าของบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังที่กำลังยอดฮิตในตอนนี้ สายตาหวานเยิ้มที่ส่งให้ทำให้ธนัชชารู้สึกอึดอัด "พอเจอตัวจริงน้องแทนสวยมากนะครับ พี่พีระ นราบดี ยินดีที่ได้รู้จักครับ" ความสุภาพที่อีกคนที่หยิบยื่นใย พร้อมทั้งเว้นช่องว่างให้ ทำให้ธนัชชารู้สึกผ่อนคลายลงมาก ตั้งแต่ที่เธอเดินเข้างานมา "น้องแทน นี่คือคุณพีระ ลูกชายของคุณพิพัฒน์ ที่พึ่งเข้ามานั่งตำแหน่งผู้จัดการช่วยคุณพิพัฒน์"พิพัฒน์คือเจ้าพ่อสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีอำนาจมากที่สุดในตอนนี้ ด้วยความเป็นเจ้าของช่องหลักที่มีละครดังหลายเรื่อง ทั้งมีธุรกิจสื่อโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ อาริตาเป็นเพื่อนในวงการที่ธนัชชาสนิทมากที่สุด อาริตาเป็นนางเอกเรื่องนี้ อาริตา หรือริต้ามีอายุมากกว่าเธอหนึ่งปี โต๊ะที่เธอนั่งมีนักแสดงนั่งอยู่เพียงไม่กี่คน พีระจึงเลือกมานั่งร่วมโต๊ะด้วย เธอดื่มไปสองแก้ว ด้วยรสชาติที่หวานละมุนติดลิ้น ทำให้เธอเผลอยกขึ้นดื่มจนติดลม จนอาการมึนหัวตามมาถึงรู้สึกตัว “แทนพอแล้วค่ะคุณพีระ”ธนัชชามองมือตัวเองอาการตกใจเมื่อสักครู่เริ่มจะดีขึ้น นี่เธอเป็นลมไปเพราะแพ้ท้องหรอกหรือ นี่ลูกของเธอมาอยู่ในท้องเธอแล้วใช่ไหม ธนัชชาก้มมองหน้าท้องแบนราบของตัวเอง ก่อนจะมองหน้าท้องของอาริตา “ใคร... ท้อง แทนงง” ธนินท์เห็นใบหน้าลูกสาวซีดเซียวตกใจ เขายิ่งเจ็บปวดหัวใจ คิดว่าลูกสาวไม่อยากเก็บเด็กไว้ ธนัชชายังเรียนไม่จบคงยังไม่พร้อม “ไม่เป็นไรนะ ถ้าแทนตัดสินใจยังไง พ่อก็ตามใจหนูทุกอย่าง เอาออกก่อน..” ธนินท์กำลังจะพูดแต่กลับได้ยิน “ตัดสินใจอะไรครับ นั้นลูกของผม” เรื่องแรกยังไม่หายตกใจ แค่คราวนี้ร่างเล็กคือตกใจมากกว่าเดิม เจ้าสมุทรมรอยู่ที่นี่ได้ยังไง ไหนว่าเขาไปคุยงานที่ญี่ปุ่น แต่ประโยคสุดท้ายลูกเขากับใคร เขาพูดกับเธอหรอ “ขอเวลาส่วนตัว ผมขอคุยกับแม่ของลูกสองคน เรามีเรื่องต้องคุยกัน “ เจ้าสมุทรรีบตรงดิ่งมาที่โรงพยายาบาลภายใน 30 นาที เขาตื่นเต้นจนดีแลนด์ก็นั่งไม่ติดไปด้วยเช่นกัน ธนินท์จำเป็นต้องถอยออกมาด้วยความไม่เต็มใจ รวมทั้งธาวินท์ด้วย เจ้าสมุทรนั่งลงบนเตียง ก่อนที่แขนหนาจะยกร่างเล็กมานั่งบนตัก พร้อมด้วย
เจ้าสมุทรจรดปลายปากกาเซ็นชื่อทำสัญญาให้มันจบภายในไม่กี่วินาที ยิ่งเจ้าสมุทรจ้องใบหน้าเขาไม่วางตา เหงื่อไคลจึงหลั่งไหลออกมาเต็มหลัง ทั้งที่แอร์เย็นเฉียบมือหนายื่นสัญญาให้คู่ค้า ที่แทบจะร้องไห้กว่าจะนัดเจ้าสมุทรได้นั้นยากเย็นแสนเข็ญ แถมได้สัญญาระยะยาว 5 ปียิ่งดีใจขอบคุณไม่หยุด “มึงควรบอกกูว่า แทนแพ้ท้อง ก่อนที่มึง จะร่ายยาวเรื่องเธอเป็นลม” เจ้าสมุทรหยุดเดิน แล้วยกขาเตะหน้าแข้งของดีแลนด์อย่างแรงด้วยความโมโห “โอ้ย! เจ้านายครับผมเจ็บนะ” ดีแลนด์ร้องใคร่ควรไม่หยุด แต่ต้องรีบเดินก่อนที่เจ้าสมุทรจะย้อนกลับมา เตะหน้าแข้งเขาอีกครั้ง ธนัชชาหลับไปเกือบชั่วโมง ก่อนที่ปลายฟ้าจะมาปลุกร่างเล็กขึ้นมาแต่งหน้าทำผม เพื่อจะได้เตรียมตัวเข้าฉาก นักแสดงร่วมถ่ายเร็จแล้วเรียบร้อย เหลือตัวหลักนั้นคือธนัชชา ธนัชชาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมึนศรีษะ จนต้องใช้แขนเรียวพยุงตัวเองไว้ พอได้กลิ่นน้ำหอมในฉาก ร่างเล็กเริ่มหายใจไม่ออกหน้ามืดตาลาย จนแขนขาอ่อนแรงก้าวขาไม่ออก แขนขาหมดแรงก้าวเดิน ร่างบางทรุดฮวบเป็นลมลงไปที่พื้น แต่บังเอิญช่างกล้องที่เดินตามหลังร่างเล
“ว่าไงไงไอ้เสือ” สายตาคมดุมองนิ่งสำรวจตรวจตรา มองดูเด็กสาวที่เดินมากับหลานชายคนโตของเขา การแต่งตัวเหมือนเด็กกะโปโลนั้น เรียกสายตาเรียบนิ่ง ที่เย็นเฉียบให้จ้องมอง เอริคมองดูแฟนของหลายชายของเขา ที่ถ้าไม่รู้มาก่อนแฟนของหลานชายอายุ 23 ปี เอริคคงคิดว่ายังไม่พ้นวัยเด็กด้วยซ้ำ เด็กคนนี้หรอจะเอาหลานชายที่แสนดื้อรั้นและเอาแต่ใจอย่างเจ้าสมุทรอยู่หมัด คริสโตเฟอร์ก็ยืนอยู่กับคนเป็นพ่อตัวเอง เขาทำตัวเหมือนผู้ชมคนที่หนึ่ง “คุณเอริค ให้เกียรติมารอรับแขกขนาดนี้เลย” เจ้าสมุทรเดินไปกอดเอริค ด้วยความคิดถึง ปู่ของเขาอายุ 65 ปี แต่เพราะดูแลตัวเองอย่างดี จึงทำให้ดูไม่แก่มาก เอริคจ้องมองใบหน้าเล็กของธนัชชา จนร่างเล็กยืนเก้ๆกังๆไม่รู้จะยืนตรงไหน “ปู่เลิกแกล้งเมียผมได้แล้ว เห็นไหมเธอจะร้องไห้แล้ว” เจ้าสมุทรดึงแขนเล็กมาใกล้เอริค ก่อนที่ปู่ของเขาจะยืนจ้องหน้านิ่งขรึม จนธนัชชารู้สึกประหม่าไม่กล้าสบตามอง “อายุเท่าไหร่แล้ว หวังว่าแอสตันมัน ไม่ได้บังคับขืนใจหนูใช่ไหม” ความอ่อนโยนของผู้หญิงตรงหน้า คงเรียกอาการอยากปกป้องของหลานชายเขาพุ่งขึ้
เจ้าสมุทรพาธนัชชามาเยี่ยมนิชาดาที่โรงพยาบาล ตอนนี้ร่างเล็กนั่งคุยกับมารดาไม่หยุด ทั้งที่ก่อนหน้ากว่าเขาจะปลุกเธอให้ลุกขึ้นมาล้างหน้า ออกมาหามารดาของเธอ นั้นยากเย็นแสนเข็ญ ตอนนี้ที่แคลิฟอร์เนียกำลังจะเข้าฤดูหนาว เจ้าสมุทรกลัวที่สุดว่าร่างเล็กจะไม่สบาย การผ่าตัดเล็กเอาแท่งยาคุมกำเนิดที่ใต้แขนออกให้เธอนั้น มีร่าได้จัดการนัดอาจารย์หมอไว้แล้วเรียบร้อย “หนูผอมไปหรือเปล่าลูกน้องแทน ก่อนที่แม่จะมาอเมริกา ทำไมเราอ้วนกว่านี้” นิชาดาลูบตามตัวของลูกสาว ที่ตอนนี้ร่างเล็กกำลังนั่งปลอกผลไม้ให้เธออยู่ “ก็หนูอยากทำงาน แต่คุณเจ้าห้ามเยอะไปหมด” เจ้าสมุทรเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินคนตัวเล็กพูดถึงเขา ดวงตากลมโตคู่นั้นแอบชำเลืองมองดูเขา แต่ดันสบตาเข้ากับสายตาคมดุของเขาเข้าพอดี นิชาดาเผลอหลุดหัวเราะออกมาจนเผลอไอตามมา “คุณแม่อย่าออกแรงเยอะ เดี๋ยวก็โดนลุงหมอดุอีกนะคะ” มือเล็กวางองุ่นไว้บนจานให้มารดาอย่างรักและเป็นห่วง ถึงเธอจะเคยโกรธ และไม่เข้าใจนิชาดาว่าทำไมถึงไม่กลับมาหาเธอเลยตอนเด็กๆ แต่พอเอาเข้าจริงแล้วนะ
ก่อนที่ร่างเล็กจะผุดลุกขึ้นแล้วดิ้นออกจากอ้อมกอดเขา ก็ว่าอยู่ทำไมทุกครั้งที่มองหน้าเจ้าสมุทร เธอถึงรู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน ตั้งแต่เจอดวงตาคู่นี้ครั้งแรกแล้ว ถ้างั้นเธอจะกล้าขอความช่วยเหลือจากเขาหรือไง “จำได้ แล้วใช่ไหม” เจ้าสมุทรเผลอยิ้มออกมา ก่อนที่จะจ้องดวงตาคู่สวยคู่นี้นิ่ง ร่างเล็กโผล่เข้ากอดเขาเต็มแรง แขนเรียวเล็กกอดคอเขาแน่น “ทำไมคุณไม่บอกหนู.. หนูคิดว่า... คิดว่าคุณตายไปแล้ว คุณรู้ไหมหนูกลับไปพร้อมกลับยายแล้วเอาขนมกลับมาให้คุณ แล้วเจอเลือดเต็มไปหมด…คิดว่าคุณตายแล้ว.. อื้ออ” คืออะไรนี่เธอร้องไห้เลยหรอ เจ้าสมุทรจึงดึงร่างเล็กมากอดแล้วเพิ่มแรงรัดร่างเล็กแน่นกว่าเดิม พร้อมทั้งโยกตัวไปมาเหมือนเด็กน้อย เพื่อให้เธอหายเศร้าใจ “แต่ฉันกลับมาหาเราอีกครั้ง คนแถวนั้นบอกว่าเราย้ายบ้านไปแล้ว ตอนนั้นมาดามแพรพิชชาถึงขนาด จะรับเรามาเป็นลูกสาวบุญธรรมด้วยซ้ำ เกือบแล้ว... เกือบได้เป็นน้องสาวก่อนเป็นเมีย” ธนัชชาเผลอยกมือตีแขนเขาแรงด้วยความมันเขี้ยว อารมณ์อย่างนี้ยังมาเล่นอีก ตอนนั้นยายเธอเสียพอดี น้านิอรจึงรับเธอไปดูแลต่
“ถ้า.. งั้นหนู..” ธนัชชาไม่กล้าพูดออกมาว่า เธอไม่คุมกำเนิดแล้วก็ได้ ถ้าเขามาช่วงนี้และหลังเรียนจบ 1 ปี ที่เธอเคยวางแผนว่าจะพักก่อนที่จะต่อปริญญาโท ถ้าเขามาก็ดี “ไม่ต้องเครียด เรามานอนพักกันไม่ต้องพับแล้วผ้า อีกห้องมีแต่เสื้อผ้าเราฉันเตรียมไว้จนหมดแล้ว” เจ้าสมุทรได้แจ้งมีร่าโทรไปนัดอาจารย์หมอ เรื่องการผ่าตัดเอายาคุมที่ฝังอยู่ต้นแขนเล็กออก เขาเคยจะพาเธอไปเอาออกตั้งแต่รู้ความจริง แต่แพลนที่วางไว้คงต้องพับเก็บ เมื่อร่างเล็กยังไม่พร้อมเจ้าสมุทรก็ไม่อยากบีบบังคับเธอ “ถ้าอย่างนั้นเราไปโรงพยาบาลกัน” เจ้าสมุทรก็ยังคงนิ่งเขาเข้าใจ ในสิ่งที่เธอบอก ผ่านไปเกือบสามนาที ที่เจ้าสมุทรพยายามรักษาสีหน้าให้นิ่ง เพราะความตื่นเต้นมากเกินไป จึงดีดตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วมองใบหน้าเล็ก ก่อนที่จะก้มลงจูบที่เปลือกตาเธออย่างแผ่วเบา แล้วลามมาที่ปลายจมูกเล็กอย่างรักใคร่ “ไม่เจ็บหรอกฉันสัญญา มีร่านัดอาจารย์หมอให้แล้ว” ธนัชชาจ้องหน้าคนตัวโตนิ่ง ก่อนที่จะทำปากยื่นออกมา ทุกอย่างดูเตรียมพร้อม นี่เขารู้อยู่แล้วใช่ไหมว่