ธนัชชามองมือตัวเองอาการตกใจเมื่อสักครู่เริ่มจะดีขึ้น นี่เธอเป็นลมไปเพราะแพ้ท้องหรอกหรือ นี่ลูกของเธอมาอยู่ในท้องเธอแล้วใช่ไหม ธนัชชาก้มมองหน้าท้องแบนราบของตัวเอง ก่อนจะมองหน้าท้องของอาริตา “ใคร... ท้อง แทนงง” ธนินท์เห็นใบหน้าลูกสาวซีดเซียวตกใจ เขายิ่งเจ็บปวดหัวใจ คิดว่าลูกสาวไม่อยากเก็บเด็กไว้ ธนัชชายังเรียนไม่จบคงยังไม่พร้อม “ไม่เป็นไรนะ ถ้าแทนตัดสินใจยังไง พ่อก็ตามใจหนูทุกอย่าง เอาออกก่อน..” ธนินท์กำลังจะพูดแต่กลับได้ยิน “ตัดสินใจอะไรครับ นั้นลูกของผม” เรื่องแรกยังไม่หายตกใจ แค่คราวนี้ร่างเล็กคือตกใจมากกว่าเดิม เจ้าสมุทรมรอยู่ที่นี่ได้ยังไง ไหนว่าเขาไปคุยงานที่ญี่ปุ่น แต่ประโยคสุดท้ายลูกเขากับใคร เขาพูดกับเธอหรอ “ขอเวลาส่วนตัว ผมขอคุยกับแม่ของลูกสองคน เรามีเรื่องต้องคุยกัน “ เจ้าสมุทรรีบตรงดิ่งมาที่โรงพยายาบาลภายใน 30 นาที เขาตื่นเต้นจนดีแลนด์ก็นั่งไม่ติดไปด้วยเช่นกัน ธนินท์จำเป็นต้องถอยออกมาด้วยความไม่เต็มใจ รวมทั้งธาวินท์ด้วย เจ้าสมุทรนั่งลงบนเตียง ก่อนที่แขนหนาจะยกร่างเล็กมานั่งบนตัก พร้อมด้วย
เจ้าสมุทรจรดปลายปากกาเซ็นชื่อทำสัญญาให้มันจบภายในไม่กี่วินาที ยิ่งเจ้าสมุทรจ้องใบหน้าเขาไม่วางตา เหงื่อไคลจึงหลั่งไหลออกมาเต็มหลัง ทั้งที่แอร์เย็นเฉียบมือหนายื่นสัญญาให้คู่ค้า ที่แทบจะร้องไห้กว่าจะนัดเจ้าสมุทรได้นั้นยากเย็นแสนเข็ญ แถมได้สัญญาระยะยาว 5 ปียิ่งดีใจขอบคุณไม่หยุด “มึงควรบอกกูว่า แทนแพ้ท้อง ก่อนที่มึง จะร่ายยาวเรื่องเธอเป็นลม” เจ้าสมุทรหยุดเดิน แล้วยกขาเตะหน้าแข้งของดีแลนด์อย่างแรงด้วยความโมโห “โอ้ย! เจ้านายครับผมเจ็บนะ” ดีแลนด์ร้องใคร่ควรไม่หยุด แต่ต้องรีบเดินก่อนที่เจ้าสมุทรจะย้อนกลับมา เตะหน้าแข้งเขาอีกครั้ง ธนัชชาหลับไปเกือบชั่วโมง ก่อนที่ปลายฟ้าจะมาปลุกร่างเล็กขึ้นมาแต่งหน้าทำผม เพื่อจะได้เตรียมตัวเข้าฉาก นักแสดงร่วมถ่ายเร็จแล้วเรียบร้อย เหลือตัวหลักนั้นคือธนัชชา ธนัชชาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมึนศรีษะ จนต้องใช้แขนเรียวพยุงตัวเองไว้ พอได้กลิ่นน้ำหอมในฉาก ร่างเล็กเริ่มหายใจไม่ออกหน้ามืดตาลาย จนแขนขาอ่อนแรงก้าวขาไม่ออก แขนขาหมดแรงก้าวเดิน ร่างบางทรุดฮวบเป็นลมลงไปที่พื้น แต่บังเอิญช่างกล้องที่เดินตามหลังร่างเล
“ว่าไงไงไอ้เสือ” สายตาคมดุมองนิ่งสำรวจตรวจตรา มองดูเด็กสาวที่เดินมากับหลานชายคนโตของเขา การแต่งตัวเหมือนเด็กกะโปโลนั้น เรียกสายตาเรียบนิ่ง ที่เย็นเฉียบให้จ้องมอง เอริคมองดูแฟนของหลายชายของเขา ที่ถ้าไม่รู้มาก่อนแฟนของหลานชายอายุ 23 ปี เอริคคงคิดว่ายังไม่พ้นวัยเด็กด้วยซ้ำ เด็กคนนี้หรอจะเอาหลานชายที่แสนดื้อรั้นและเอาแต่ใจอย่างเจ้าสมุทรอยู่หมัด คริสโตเฟอร์ก็ยืนอยู่กับคนเป็นพ่อตัวเอง เขาทำตัวเหมือนผู้ชมคนที่หนึ่ง “คุณเอริค ให้เกียรติมารอรับแขกขนาดนี้เลย” เจ้าสมุทรเดินไปกอดเอริค ด้วยความคิดถึง ปู่ของเขาอายุ 65 ปี แต่เพราะดูแลตัวเองอย่างดี จึงทำให้ดูไม่แก่มาก เอริคจ้องมองใบหน้าเล็กของธนัชชา จนร่างเล็กยืนเก้ๆกังๆไม่รู้จะยืนตรงไหน “ปู่เลิกแกล้งเมียผมได้แล้ว เห็นไหมเธอจะร้องไห้แล้ว” เจ้าสมุทรดึงแขนเล็กมาใกล้เอริค ก่อนที่ปู่ของเขาจะยืนจ้องหน้านิ่งขรึม จนธนัชชารู้สึกประหม่าไม่กล้าสบตามอง “อายุเท่าไหร่แล้ว หวังว่าแอสตันมัน ไม่ได้บังคับขืนใจหนูใช่ไหม” ความอ่อนโยนของผู้หญิงตรงหน้า คงเรียกอาการอยากปกป้องของหลานชายเขาพุ่งขึ้
เจ้าสมุทรพาธนัชชามาเยี่ยมนิชาดาที่โรงพยาบาล ตอนนี้ร่างเล็กนั่งคุยกับมารดาไม่หยุด ทั้งที่ก่อนหน้ากว่าเขาจะปลุกเธอให้ลุกขึ้นมาล้างหน้า ออกมาหามารดาของเธอ นั้นยากเย็นแสนเข็ญ ตอนนี้ที่แคลิฟอร์เนียกำลังจะเข้าฤดูหนาว เจ้าสมุทรกลัวที่สุดว่าร่างเล็กจะไม่สบาย การผ่าตัดเล็กเอาแท่งยาคุมกำเนิดที่ใต้แขนออกให้เธอนั้น มีร่าได้จัดการนัดอาจารย์หมอไว้แล้วเรียบร้อย “หนูผอมไปหรือเปล่าลูกน้องแทน ก่อนที่แม่จะมาอเมริกา ทำไมเราอ้วนกว่านี้” นิชาดาลูบตามตัวของลูกสาว ที่ตอนนี้ร่างเล็กกำลังนั่งปลอกผลไม้ให้เธออยู่ “ก็หนูอยากทำงาน แต่คุณเจ้าห้ามเยอะไปหมด” เจ้าสมุทรเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินคนตัวเล็กพูดถึงเขา ดวงตากลมโตคู่นั้นแอบชำเลืองมองดูเขา แต่ดันสบตาเข้ากับสายตาคมดุของเขาเข้าพอดี นิชาดาเผลอหลุดหัวเราะออกมาจนเผลอไอตามมา “คุณแม่อย่าออกแรงเยอะ เดี๋ยวก็โดนลุงหมอดุอีกนะคะ” มือเล็กวางองุ่นไว้บนจานให้มารดาอย่างรักและเป็นห่วง ถึงเธอจะเคยโกรธ และไม่เข้าใจนิชาดาว่าทำไมถึงไม่กลับมาหาเธอเลยตอนเด็กๆ แต่พอเอาเข้าจริงแล้วนะ
ก่อนที่ร่างเล็กจะผุดลุกขึ้นแล้วดิ้นออกจากอ้อมกอดเขา ก็ว่าอยู่ทำไมทุกครั้งที่มองหน้าเจ้าสมุทร เธอถึงรู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน ตั้งแต่เจอดวงตาคู่นี้ครั้งแรกแล้ว ถ้างั้นเธอจะกล้าขอความช่วยเหลือจากเขาหรือไง “จำได้ แล้วใช่ไหม” เจ้าสมุทรเผลอยิ้มออกมา ก่อนที่จะจ้องดวงตาคู่สวยคู่นี้นิ่ง ร่างเล็กโผล่เข้ากอดเขาเต็มแรง แขนเรียวเล็กกอดคอเขาแน่น “ทำไมคุณไม่บอกหนู.. หนูคิดว่า... คิดว่าคุณตายไปแล้ว คุณรู้ไหมหนูกลับไปพร้อมกลับยายแล้วเอาขนมกลับมาให้คุณ แล้วเจอเลือดเต็มไปหมด…คิดว่าคุณตายแล้ว.. อื้ออ” คืออะไรนี่เธอร้องไห้เลยหรอ เจ้าสมุทรจึงดึงร่างเล็กมากอดแล้วเพิ่มแรงรัดร่างเล็กแน่นกว่าเดิม พร้อมทั้งโยกตัวไปมาเหมือนเด็กน้อย เพื่อให้เธอหายเศร้าใจ “แต่ฉันกลับมาหาเราอีกครั้ง คนแถวนั้นบอกว่าเราย้ายบ้านไปแล้ว ตอนนั้นมาดามแพรพิชชาถึงขนาด จะรับเรามาเป็นลูกสาวบุญธรรมด้วยซ้ำ เกือบแล้ว... เกือบได้เป็นน้องสาวก่อนเป็นเมีย” ธนัชชาเผลอยกมือตีแขนเขาแรงด้วยความมันเขี้ยว อารมณ์อย่างนี้ยังมาเล่นอีก ตอนนั้นยายเธอเสียพอดี น้านิอรจึงรับเธอไปดูแลต่
“ถ้า.. งั้นหนู..” ธนัชชาไม่กล้าพูดออกมาว่า เธอไม่คุมกำเนิดแล้วก็ได้ ถ้าเขามาช่วงนี้และหลังเรียนจบ 1 ปี ที่เธอเคยวางแผนว่าจะพักก่อนที่จะต่อปริญญาโท ถ้าเขามาก็ดี “ไม่ต้องเครียด เรามานอนพักกันไม่ต้องพับแล้วผ้า อีกห้องมีแต่เสื้อผ้าเราฉันเตรียมไว้จนหมดแล้ว” เจ้าสมุทรได้แจ้งมีร่าโทรไปนัดอาจารย์หมอ เรื่องการผ่าตัดเอายาคุมที่ฝังอยู่ต้นแขนเล็กออก เขาเคยจะพาเธอไปเอาออกตั้งแต่รู้ความจริง แต่แพลนที่วางไว้คงต้องพับเก็บ เมื่อร่างเล็กยังไม่พร้อมเจ้าสมุทรก็ไม่อยากบีบบังคับเธอ “ถ้าอย่างนั้นเราไปโรงพยาบาลกัน” เจ้าสมุทรก็ยังคงนิ่งเขาเข้าใจ ในสิ่งที่เธอบอก ผ่านไปเกือบสามนาที ที่เจ้าสมุทรพยายามรักษาสีหน้าให้นิ่ง เพราะความตื่นเต้นมากเกินไป จึงดีดตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วมองใบหน้าเล็ก ก่อนที่จะก้มลงจูบที่เปลือกตาเธออย่างแผ่วเบา แล้วลามมาที่ปลายจมูกเล็กอย่างรักใคร่ “ไม่เจ็บหรอกฉันสัญญา มีร่านัดอาจารย์หมอให้แล้ว” ธนัชชาจ้องหน้าคนตัวโตนิ่ง ก่อนที่จะทำปากยื่นออกมา ทุกอย่างดูเตรียมพร้อม นี่เขารู้อยู่แล้วใช่ไหมว่