INICIAR SESIÓNบทที่ 5 นางมารร้าย
“เด็กบ้านี่” อินทิราคลี่ยิ้ม กอดตอบเด็กหนุ่มที่รักเสมือนน้องชาย ลูบหลังเขาเบา ๆ ไปมา “รู้ได้ยังไงว่าพี่จะกลับวันนี้”
“ผมติดต่อพี่ไม่ได้ ก็เลยไปถามพี่แก้วที่บริษัทมาครับ” เขาไม่ได้บอกหญิงสาวว่าต้องไปถึงสามวันติด ๆ ถึงได้เจอเธอ และคราวนี้เขาก็ถือโอกาสขอเบอร์โทรศัพท์มือถือของเธอไว้เรียบร้อยแล้ว
“สนิทกับเขามากนักเหรอถึงกล้าไปหา” ต่อว่าชายหนุ่มหลังจากผละจากอ้อมกอด เดินออกไปขึ้นรถด้วยกัน
“ไม่สนิทแต่ก็เคยคุยกันนี่ครับ แต่ตอนนี้ผมกับพี่แก้วเริ่มสนิทกันแล้วนะ” ชินวุฒิคุยอวด
“เหรออออ.. แล้วนี่ตั้งใจมารับพี่ หรือว่าไปเที่ยวกับเพื่อนเสร็จแล้วค่อยเลยมา”
“ไม่ได้เที่ยวนะครับ ปอออกจากบ้านตอนเที่ยงคืนครึ่ง มาถึงนี่ตอนตีหนึ่งกว่า ๆ ก็มาดื่มกาแฟรอพี่นี่แหละครับ ผมจะไปเที่ยวได้ยังไงก็ในเมื่อพี่ป่านไม่ชอบคนเที่ยว” อะไรที่เธอไม่ชอบ เขาก็ไม่เคยคิดจะทำบ่อย ๆ ให้เธอไม่พอใจ
“พี่ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบคนเที่ยว แต่พี่อยากให้เราสนใจเรื่องการเรียนให้มาก ๆ ก่อนในตอนนี้ เวลาเที่ยวของปอยังมีอีกเยอะ เมื่อเริ่มทำงานหาเงินใช้เองได้ค่อยเที่ยว”
“ครับผม” ชายหนุ่มยิ้มรับหน้าทะเล้น ตื้นตันใจกับความห่วงใยที่หญิงสาวมีให้ เอื้อมมือข้างที่ว่างจากการลากกระเป๋าไปจูงมือเธอ พาเดินไปยังที่จอดรถ...
อินทิรามองเบอร์โทรศัพท์สายในที่โทรเข้ามา คลี่ยิ้มเล็กน้อยแล้วจึงยกหูโทรศัพท์ขึ้นมากรอกเสียงทักทาย
“สวัสดีค่ะพี่ชาลี”
(ดีจ้ะ เดินทางเหนื่อยไหมป่าน)
“ก็เอาเรื่องอยู่ค่ะ ทั้งร้อนทั้งเหนื่อย”
(ป่านจ๊ะ คุณยัสซันเชิญให้มาพบที่ห้องตอนเก้าโมงนะ เอารายละเอียดเรื่องงานทั้งหมดมาด้วย)
“ทำไมต้องเรียกด้วยคะพี่ชาลี ในเมื่อเรื่องนี้ต้องเข้าที่ประชุมอยู่แล้วในช่วงบ่ายนี้” หญิงสาวชักสีหน้าทันทีที่ปลายสายพูดจบ
(ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ)
“ค่ะ” อินทิรารับคำก่อนจะวางสาย
ก๊อก ๆ ๆ
อินทิราเคาะประตูให้สัญญาณ หลังจากได้รับการตอบรับจากเลขาหน้าห้องเรียบร้อยแล้ว
“ตรงเวลาดีนี่” ยัสซันกล่าวกับหญิงสาวที่เดินเข้ามาด้วยท่าทางมาดมั่น สายตาบ่งบอกความไม่พอใจ
“ฉันเป็นคนตรงต่อเวลาเสมอค่ะ”
“เชิญนั่ง”
อินทิรานั่งลงบนเก้าอี้หนังหน้าโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม วางแฟ้มงานลง “ต้องการพบฉันเรื่องอะไรคะ”
“ผมอยากรู้ว่าธุรกิจของผมเป็นยังไงบ้าง คุณทำสำเร็จหรือทำพัง”
ดวงตากลมโตที่กรีดอายไลเนอร์เส้นบาง ๆ เพื่อสร้างความโดดเด่นเหลือบมองชายหนุ่มอย่างดุดัน “อยากจะให้มันพังไหมล่ะคะ ฉันจะได้โทรไปยกเลิกข้อตกลงทั้งหมดกับทางนั้น”
“แสดงว่าคุณทำมันสำเร็จ”
“ฉันคงไม่กล้ารับเงินเดือนเป็นแสนถ้าไม่มีความสามารถพอ เลิกดูถูกกันซะที” คุยกับผู้ชายคนนี้ทีไรเธอต้องอารมณ์เสียทุกที
“ผมก็แค่อยากรู้ว่าค่าจ้างที่จ่ายไปให้คุณมันคุ้มค่าพอหรือเปล่า”
“คุณได้คำตอบที่พอใจแล้วฉันขอตัวนะคะ”
“คุณยังไม่ได้คุยรายละเอียดอื่น ๆ ให้ผมฟังเลยนะ” ยัสซันแย้งออกไป เมื่อเธอกำลังจะเปิดประตู
มือเรียวที่จับประตูปล่อยลงข้างกาย ระงับอารมณ์ด้วยการสูดหายใจลึก ๆ เข้าปอด เขาจงใจกวนประสาทเธอ ไม่งั้นจะให้เธอเดินห่างออกมาจนจะออกจากห้องอยู่แล้วค่อยพูดทำไม เธอหันกลับไปมองเขา ชักสีหน้าไม่พอใจใส่
“ฉันจะพูดทีเดียวในห้องประชุมตอนบ่ายนี้ค่ะ”
“แต่ผมจะให้คุณพูดเดี๋ยวนี้”
“เวลาทำงานของฉันมีค่าดั่งทองคำ ฉันจะไม่เสียเวลากับเรื่องเดียวกันสองรอบแน่ ทนอยากเอาไว้ก่อนก็แล้วกันนะคะท่านประธาน”
ปัง!
“คุณมันนางมารร้ายชัด ๆ ผมเป็นเจ้านายคุณนะ คุณต้องทำตามคำสั่งผมสิ” ยัสซันตบโต๊ะด้วยความโมโห ต่อว่าเธอเสียงดังแต่ก็ไร้ประโยชน์ เพราะเธอออกไปจากห้องตั้งแต่ตอนที่เธอพูดจบ...
วารีฉีกยิ้มอ่อนโยน เมื่อเห็นหญิงสาวที่ตัวเองพึงพอใจในการทำงานกำลังเดินมาทางตน พยักหน้ารับไหว้เมื่อเธอแสดงความเคารพ
“อารมณ์ไม่ดีหรือจ๊ะหนูป่าน”
“เปล่าค่ะ แค่มีปัญหาเรื่องงานเล็กน้อยเท่านั้น” อินทิรารีบปฏิเสธ ถึงแม้จะโมโหซีอีโอคนใหม่ แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับคนอื่น เธอต้องแยกแยะอารมณ์
“เที่ยงนี้ไปทานข้าวด้วยกันนะหนู ฉันต้องไปทำธุระที่อื่นในช่วงบ่ายคงไม่ได้ร่วมประชุมด้วย ก็เลยอยากรู้ว่าการเจรจากับทางดูไบเป็นอย่างไรบ้าง” นางให้เหตุผลกับหญิงสาว
“ได้ค่ะท่าน ที่ไหนดีคะ” ปกติเธอจะกินที่โรงอาหารเป็นหลัก แต่ครั้งนี้คงไม่ใช่
“ลงไปรอฉันที่ประชาสัมพันธ์ตอนสิบเอ็ดโมงครึ่งก็แล้วกันจ้ะ ไม่ต้องขับรถไปเองหรอก”
“ค่ะ ป่านขอตัวไปทำงานต่อนะคะท่าน”
“เชิญจ้ะ อย่าลืมนัดมื้อเที่ยงของเรานะ” วารีย้ำกับหญิงสาวอีกครั้ง
“ค่ะ” อินทิราโค้งศีรษะขณะรับคำพร้อมกับคลี่ยิ้มละมุน แล้วเดินแยกจากไป
วารีมองตามหลังอินทิราไม่วางตา ถึงแม้จะเห็นเพียงด้านหลัง นางก็ยอมรับอย่างไม่มีข้อแม้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีบุคลิกดีเยี่ยม ตั้งแต่ทรงผมจรดร้องเท้าเลยทีเดียว ข่าวล่าสุดที่นางได้รับจากเพื่อนที่เป็นล่ามที่ไปทำงานประเทศดูไบด้วยกันกับเธอ บอกว่าเธอทำเอาบรรดาเศรษฐีอาหรับเพ้อถึงเลยทีเดียว
ซึ่งนางก็คิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะหนุ่มอาหรับส่วนใหญ่จะชอบผู้หญิงหุ่นดี ผิวขาวใสอมชมพูแบบหญิงสาวนี่แหละ เนื่องจากผู้หญิงทางแถบนั้นจะมีผิวสีคล้ำ รูปร่างค่อนข้างสูงใหญ่หรือเจ้าเนื้อซะส่วนมาก สาวเอเชียผิวขาว รูปร่างสมส่วนจึงได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ
“สวัสดีครับท่านประธาน”
วารีหันไปตามเสียงทักทุ้มนุ่มหู เมื่อเห็นว่าเป็นเชื้อญาติ ซึ่งรับหน้าที่เป็นเสมือนมือขวาให้ลูกชายของตนก็คลี่ยิ้มให้
“ไม่ต้องเรียกเต็มยศแบบนั้นก็ได้ชาลี เรียกพี่วารีก็พอแล้ว”
“ในบริษัทกฎสำคัญกว่าญาติพี่น้องครับท่านประธาน” ชาลีตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม
ห้าปีผ่านไป “คุยเรื่องงานกันไปแล้ว ตอนนี้เราจะขอคุยเรื่องครอบครัวของคุณยัสซันบ้างนะครับ คุณยัสซันเจอกับภรรยาที่ไหน แล้วประทับใจอะไรในตัวเธอถึงได้ขอแต่งงาน ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยครับ” “ผมเจอเธอครั้งแรกที่หน้าบริษัทครับ เธอสวยสะดุดใจผมมากแต่ผมก็ไม่ได้แสดงออก และเธอก็ไม่ชอบผมเอาซะเลย เมื่อก่อนเธอร้ายกับผมมาก แต่เธอยิ่งร้ายผมก็ยิ่งรัก รุกจนเธอใจอ่อนยอมรับรัก ผมก็เลยขอเธอแต่งงาน” “เป็นที่รู้กันทั่วในกลุ่มไฮโซว่าคุณรักภรรยามาก คุณจะต้องพาเธอออกงานด้วยตลอดจริงไหมครับ” “ถ้าเขาไม่เห็นเขาก็คงไม่พูดกันหรอกครับ” ยัสซันตอบพร้อมกับหัวเราะในลำคอ หันไปมองภรรยาที่กำลังยุ่งอยู่กับการเลือกชุด “กว่าผมจะได้เธอมาเป็นภรรยา ผมต้องผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมาย ผมจะไม่รักเธอมากได้ยังไงล่ะครับ”
“พ่อบอกว่าการอยู่ไฟจะทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว และจะทำให้เรามีสุขภาพแข็งแรงด้วยค่ะ” “ภูมิปัญญาชาวบ้านของคนไทย เชื่อถือได้ในหลาย ๆ เรื่องนะหนูป่าน” เรย์มองด์เห็นดีเห็นงามด้วย “ค่ะคุณพ่อ” “คุณพ่อตายังแอบกระซิบบอกผมด้วยนะครับ” “บอกอะไรเหรอคะ” อินทิราถามสามีด้วยความอยากรู้ “บอกให้ผมรีบปั้นหลานให้ท่านสักครึ่งโหล” พูดจบก็ยิ้มบานแฉ่ง “พูดอะไรแบบนั้นคะ” เธอตีแขนสามี ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย “ผมพูดจริง ๆ นะครับป่าน ไม่เชื่อก็โทรไปถามคุณพ่อท่านดูสิครับ” ยัสซันยืนยันด้วยท่าท
“ฉันจะกลับญี่ปุ่นให้เร็วที่สุด” เคียวโกะพูดแทรกขึ้น รู้แล้วว่าอินทิราน่ากลัวแค่ไหน เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สมควรต่อกรด้วยสักนิด ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า“ถ้าอย่างนั้นฉันก็หมดเรื่องจะคุยกับพวกเธอแล้ว ฉันกลับล่ะนะ อ้อ! แล้วอย่าคิดบิดพลิ้วล่ะ อย่าลืมว่าฉันกำความลับของพวกเธอไว้มากแค่ไหนด้วย” พูดจบก็เกาะแขนเพื่อนรักเดินออกไป“ป่าน เธอเจ๋งมาก” ปัทมาชื่นชมเพื่อนรักเมื่อกลับมานั่งอยู่ในรถด้วยกันแล้ว“ถ้ามีผู้หญิงมายุ่งกับพี่ชาลี แก้วก็จะเป็นแบบป่านนี่แหละ”“แก้วคงไม่กล้าแบบป่านหรอก คงเอาแต่กอดเข่าร้องไห้อยู่ในห้องคนเดียว” ปัทมาตอบกลับด้วยความมั่นใจ“เมื่อเวลานั้นมาถึงแก้วจะเปลี่ยนความคิดทันที” อินทิราบอกกับเพื่อนรักพร้อมรอยยิ้ม “แก้วไปส่งป่านที่บริษัทหน่อยสิ แล้วค่อยกลับไปพักผ่อนต่อ”“พอหมดธุระก็เฉดหัวส่งเลยนะคุณเพื่อน” ปัทมาประชดเพื่อนรัก“ป่านอยากให้แก้วพักผ่อนต่างหาก วันนี้ลากมาด้วยก็เกรงใจจะแย่”“แก้วจะแกล้งเชื่อก็แล้วกันนะ&rdq
แผ่นหลังขาวอมชมพูนวลเนียนไร้ที่ติของภรรยาทำให้ยัสซันอดใจไม่ไหว ต้องแนบหน้าลงไปคลอเคลียพิสูจน์ความหอมจนทั่ว ลามไปจนถึงสะโพกกลมกลึงและต้นขาเรียวยาว แล้วจึงวกกลับมาตามทางเดิม หยุดอยู่ที่ซอกคอระหง ขยับกายให้แนบชิดกับเธอแล้วจึงสอดใส่ความเป็นชายเข้าไปในกายเธออย่างนุ่มนวลเรียวขายาวของอินทิรากระหวัดเกี่ยวต้นขาแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของสามี เพื่อเปิดทางให้เขานำความสุขเข้ามาวิ่งพล่านอยู่ในตัวเธอได้สะดวก สอดมือข้างหนึ่งประสานกับเขาเพื่อใช้ยึดเหนี่ยว มืออีกข้างลูบหน้าท้องโหนกนูนเอาไว้คล้ายปลอบประโลมไม่ให้ลูกน้อยตกใจ คอยรับจังหวะรักอย่างสม่ำเสมอแต่ไม่รีบร้อน สะสมความสุขไปด้วยกันจนถึงฝั่งฝันหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอินทิราพาปัทมาเดินเข้าไปในร้านอาหารของโรงแรมชื่อดังย่านสุวรรณภูมิด้วยมาดดั่งนางพญา กวาดสายตามองหาตำแหน่งตามที่ได้รับรายงาน“อยู่นั่นไงแก้ว” เมื่อเห็นเป้าหมายแล้วจึงจูงมือเพื่อนสาวเดินเข้าไปหาอย่างไม่ลังเล“ใจเย็น ๆ นะป่าน” ปัทมาที่ถูกชวนมาเป็นเพื่อนหลังจากเพิ่งกลับจากฮันนีมูนเพียงคืนเดียวเตือนเพื่อนรัก“รู้แ
“ป่านถึงบอกให้คุณคอยดูไงคะ ป่านจะส่งเธอออกนอกประเทศในไม่ช้านี้แหละ ป่านคิดว่าป่านรู้ตัวคนบงการด้วยค่ะ ป่านคงต้องสั่งสอนเธออีกสักหน่อย ขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้คงคลอดลูกไม่สงบ”โอ้ว! ภรรยาของเขานี่น่ากลัวจริง ๆ ถ้าเขามีเมียน้อยคงถูกเธอจับได้ตั้งแต่วันแรกเลยกระมัง“คุณไม่โกรธป่านใช่ไหมคะ ถ้าป่านจะตามสืบเรื่องนี้”“ทำไมต้องถามผมแบบนั้นด้วยล่ะครับ คุณทำเหมือนผมยังรักเธออยู่อย่างนั้นแหละ” เขารู้สึกแปลก ๆ กับคำถามของเธอ“ก็แค่คิด”“เลิกคิดเรื่องนั้นไปเลยนะคุณป่าน ผมรักผู้หญิงได้แค่ครั้งละหนึ่งคนเท่านั้น และตอนนี้คนที่ผมรักก็คือคุณคนเดียว แต่ผมก็หวังว่าคุณจะไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหานะครับ” เขาแย้งและเตือนด้วยความเป็นห่วง“ถ้าใช้อารมณ์เป็นใหญ่ความรุนแรงก็เกิดขึ้นแน่นอน แต่ป่านเป็นคนมีสติค่ะ ป่านจึงใช้สติแก้ปัญหา คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ป่านจะแก้ปัญหาเรื่องนี้เอง คุณไม่ต้องเข้ามายุ่งเด็ดขาด ไม่งั้นป่านจะคิดว่าคุณยังมีใจให้เธอ” เธอขู่เพราะไม่อยากให้เขามาก้าวก่าย เรื่องแบบนี้ผู้หญ
“นั่นสิคะ” วารีก็สงสัยไม่ต่างจากสามี แต่ก็ไม่คิดจะเข้าไปยุ่งในตอนนี้ ให้พวกเขาปรับความเข้าใจกันเองก่อนดีกว่า ถ้าไม่ได้ผลแล้วค่อยยื่นมือเข้าไปช่วย“หวังว่าเธอจะหายงอนก่อนที่เรากลับมานะ” เรย์มองด์พูดยิ้ม ๆ“เราไปเป็นอาทิตย์เลยนะคะที่รัก” วารีค้อนใส่สามี “เดี๋ยวก็หายแล้วค่ะ คนท้องก็อารมณ์แปรปรวนง่ายแบบนี้แหละ”“หวังว่าเธอจะหายงอนก่อนเราออกเดินทางนะ” เรย์มองด์เปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ จึงเห็นรอยยิ้มพอใจของภรรยา…อินทิราถอดเสื้อคลุมเดินลงสระน้ำทันทีที่เหลือบไปเห็นสามีกำลังเดินมา ลอยคอเล่นอยู่ในน้ำหันหน้าไปทางตรงข้ามกับที่เขายืน“อยากว่ายน้ำทำไมไม่บอกผมล่ะครับที่รัก ผมจะได้มาว่ายเป็นเพื่อน” คำถามของเขาไร้การตอบรับโดยสิ้นเชิง เหมือนกำลังพูดอยู่กับอากาศ“ขนมปังกับนมได้แล้วค่ะคุณป่าน” สาวใช้คนเดิมบอกนายหญิง“วางไว้ตรงนั้นแหละจ้ะ เดี๋ยวฉันขึ้นไปกินเอง ขอบใจนะ”“แป้งไปทำงานบ้านก่อนนะคะคุณป่าน” สาวใช้ขออนุญาตเมื่อเห็นสามีของเธอมาคอยดูแลอยู่ใกล้ ๆ แล้ว“เธอไปแล้วใครจะดูแลฉันล่ะ เจ้านายของเธอต้องไปทำงานแล้ว” อิน







