Home / โรแมนติก / ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก / บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง07-08

Share

บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง07-08

Author: r.mustang
last update Last Updated: 2025-12-13 21:47:50

“ฮือ พ่อขา นางเหนื่อยแล้วค่ะ นางไม่อยากจะสู้แล้ว เขาไม่เคยมองนางในแง่ดีเลย มีแต่กล่าวหานาง เขาคงเกลียดนางมาก เขาคงไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีนางเป็นเมีย ฮือ...นางผิดหรือคะ ที่ทำเพื่อช่วยครอบครัว” น้ำตายังคงไหลริน หัวใจดวงน้อยมีแต่รอยแผล และมันคงยากที่จะเยียวยา

รามันไม่ได้ใส่ใจคนที่วิ่งร้องไห้ไป เขาเดินตรงไปสะสางงานต่อ พอได้เวลาอาหารค่ำก็กลับมา ก่อนจะยกคิ้วขึ้นสูงเมื่อไม่เห็นเมียตีทะเบียน ไหล่หนายกขึ้นสูงอย่างไม่ใส่ใจ คิดว่าหญิงสาวคงเรียกร้องความสนใจ อยากให้ง้อ แต่คนอย่างเขาไม่คิดที่จะง้อใคร ยิ่งเป็นเมียคนนี้ด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีทาง

ป้าน้อยอยากจะเอ่ยถามถึงสาเหตุที่ช้องนางไม่ยอมมากินข้าว แถมพอหล่อนไปตามก็ต้องตกใจ เพราะดวงตาสวยบวมช้ำ ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา แต่ก็ไม่กล้าจะเอ่ยถามเพราะมันเป็นเรื่องของเจ้านาย

“มีอะไรหรือเปล่าครับป้าน้อย” เมื่อเห็นว่าป้าน้อยทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ยอมพูดออกมา เสียงเข้มจึงต้องเอ่ยถาม

“ทะเลาะอะไรกันคะ ทำไมหนูนางร้องไห้ไม่ยอมมากินข้าว”

“ป้าอย่าไปสนใจเลยครับ นิสัยเด็กแบบนั้น” ว่าแต่เจ้าหล่อน โดยไม่ดูตัวเองเลย รามันน่ะนิสัยเด็กยิ่งกว่าช้องนางเสียอีก

“นิสัยเด็กอะไรกันคะ ร้องไห้ซะขนาดนั้น” ป้าน้อยพยายามถามต่อ

“นิสัยเด็กสิครับ แค่ผมไม่ให้ไปงานวัดก็ร้องไห้ออกมาแล้ว ไม่รู้ว่าจะไปทำไม โตป่านนี้แล้วยังอยากจะไปเที่ยวงานวัดอยู่อีก” เขาบอกอย่างไม่ใส่ใจ

“โธ่คุณรามัน ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ ป้ายังอยากจะไปเลย ไม่พาเธอไปหน่อยล่ะคะ สงสารเธอ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ป้ายังไม่เคยเห็นคุณพาเธอไปไหนเลย ในเมื่อเธออยากจะไปก็พาไปเถอะค่ะ”

“แต่ผมว่ามันไร้สาระครับ”

“โธ่คุณรามัน ทำไมไม่เข้าใจนิสัยผู้หญิงบ้างคะ ผู้หญิงเราถึงจะโตแค่ไหน พอมีงานวัดก็อยากไปกันทั้งนั้น ถ้าคุณไม่พาไป เดี๋ยวป้าจะพาไปเอง ไปทั้งที่มันไม่ค่อยไหวนี่ล่ะคะ” นางบอกพร้อมสะบัดหน้าหนี

“อย่าพูดแบบนี้สิครับ ผมจะให้ป้าพาไปได้ยังไง ป้ายิ่งไม่สบายอยู่ เดี๋ยวผมพาไปเองครับ” พูดจบก็พ่นลมหายใจร้อนๆ ออกมา คาดโทษหญิงสาวเอาไว้ หล่อนชอบทำให้เขาวุ่นวาย จากนั้นเดินตรงไปยังห้องนอนของเจ้าหล่อน แต่พอเคาะก็ไม่มีเสียงตอบกลับ แถมยังไม่ยอมเปิดประตูให้ เท้าหนาจึงก้าวปึงปังไปคว้ากุญแจสำรองด้วยความโมโห

พอไขกุญแจเข้ามา ก็พบว่าเมียตีทะเบียนยังคงร้องไห้ไม่หยุด แถมยังหันมามองด้วยสายตาตัดพ้อ แววตานั้นช่างเศร้า ทำให้หัวใจแกร่งนั้นหวั่นไหว ต้องละสายตาไม่มอง เพราะกลัวว่าจะใจอ่อน น้ำตาของผู้หญิงนี่ละที่ทำให้เขาเจ็บเจียนตาย เขาไม่อยากจะพบเจอกับความทรมานเช่นนั้นอีกแล้ว รามันสัญญากับตัวเองเอาไว้แล้วว่าต่อไปนี้จะไม่มีวันใจอ่อนกับน้ำตาอันเสแสร้งเหล่านั้นอีก

ชายหนุ่มเดินเข้าไปกระชากตัวของคนนั่งกอดเข่าร้องไห้ให้ลุกขึ้น แต่ก็ได้รับการต่อต้าน ช้องนางผลักไสคนที่ฉุดกระชาก ทั้งตบทั้งตี ดีดดิ้น จนกรามหนาขบเข้าหากัน แล้วกระชากแรงๆ ให้เดินตาม คนช้ำยังไม่เลิกต่อต้าน แถมยังต่อต้านมากขึ้น รามันจึงจัดการช้อนร่างเล็กขึ้น

“ว้าย!! ปล่อยนางนะ ฮืออ...ปล่อยสิ จะพานางไปไหน” เธอยังคงออกแรงดิ้นและทุบตีคนอุ้ม แต่ทว่าแรงน้อยนิดก็ไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านแต่อย่างใด

คนถูกถามไม่ได้ปริปากบอกออกมาว่าจะพาไปไหน ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาเดินไปยังรถจี๊ปคู่ใจ พอถึงก็โยนเจ้าหล่อนลงบนเบาะข้างคนขับ คนต่อต้านก็ยังไม่เลิกพยศ พลันจะขยับก้าวลงจากรถ แต่ก็โดนมือหนาคว้าตัวไว้แล้วยัดให้กลับมานั่งตามเดิม แถมยังส่งสายดุๆ มาให้

หัวใจดวงน้อยมีแต่ความเจ็บช้ำน้อยใจไม่เกรงกลัวสายตาคมสักนิด หล่อนเมินเฉยต่อสายตาคู่นี้ ทำท่าจะลงจากรถอีกครั้ง ในเมื่อไม่ยอมบอกว่าจะพาไปไหน หล่อนก็จะไม่มีวันยอมไปกับเขา จะขัดขืนเต็มที่ คราวนี้จะไม่ยอมเขาอีกแล้ว

“หยุดดิ้น ช้องนาง ฉันบอกให้หยุด” ทั้งส่งสายดุให้ก็แล้ว พร่ำบอกก็แล้ว ไม่มีทีท่าของคนพยศจะยอม รามันกัดฟันกรอด โมโหที่หญิงสาวเริ่มออกลายดื้อ ต้องตะคอกบอกหนที่สอง

“บอกให้อยู่เฉยๆ ได้! ไม่หยุดใช่ไหม” พลันก้มลงไปปิดปากคนดื้อ สั่งสอนที่ไม่เชื่อฟัง

คนถูกจู่โจมหยุดชะงัก ตกใจไม่น้อยที่โดนจูบ เรี่ยวแรงนั้นถูกเขากลืนกินเข้าไปหมด ทำได้เพียงส่งเสียงขัด แต่มันก็กลับหายไปในลำคอ

“อือๆๆ”

ฝ่ายรามันที่ปราบอาการพยศด้วยการจูบ ก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันว่าทำไมร่างกายมันถึงสั่งให้ทำแบบนี้ ทั้งๆ ที่ประกาศปาวๆ ว่าจะไม่แตะเนื้อต้องตัวของเจ้าหล่อน ขนาดตอนนี้ยังไม่คิดจะผละออกจากริมฝีปากนี้ มันช่างตรึงใจ หอมหวาน อยากจะครอบครองทั้งตัว

ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะไม่ตอบโต้กลับมา แต่รสจูบนี้ก็สร้างความพอใจให้คนตัวโตไม่น้อย เพราะยิ่งจูบก็ยิ่งอยากลิ้มลองให้มากกว่านี้ แต่ไม่นานก็จำเป็นต้องผละออกห่าง กลัวว่าช้องนางจะขาดอากาศหายใจ

พอผละออกห่างแล้วเจอดวงตาใสแป๋วซึ่งมองมาอย่างไม่เข้าใจ รามันก็ทำฟอร์มดุใส่ แต่ใบหน้าแดงก่ำไม่ต่างจากคนถูกจูบ

“ทีหลังอย่าดื้อกับฉันอีก ถ้าไม่อยากจะเจอหนักกว่านี้” พูดจบก็เดินไปยังเบาะคนขับ ก่อนรถคันโตจะพุ่งทะยานไปยังงานวัดในหมู่บ้าน

ช้องนางหน้าแดงระเรื่อ เอาแต่ก้มหน้า ไม่กล้ามอง ทำไมร่างกายหล่อนถึงไม่เคยขัดขืนการกระทำของเขาเลยสักครั้ง ทำไมร่างกายนี้ถึงเต็มใจร่วมมือไปกับเขา ที่สำคัญทำไมเขาถึงจูบเธอ ทำไมกัน!!

รามันหงุดหงิดตัวเองไม่น้อยที่ดันไปจูบเจ้าหล่อนอีกแล้ว ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงห้ามใจไม่อยู่ หรือว่าเขาจะติดบ่วงรักของหญิงสาวแล้ว ไม่น่า!! ไม่มีทาง เขาไม่มีทางรักช้องนาง ชายหนุ่มพยายามปฏิเสธกับตัวเอง ไม่อยากยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเป็นอยู่ในตอนนี้

ไม่นานดวงตาคมสวยก็เบิกกว้างเพราะตัวรถกำลังเลี้ยวเข้ามาในบริเวณงานวัดที่ถูกจัดขึ้น ซึ่งหล่อนนั้นเรียกร้องอยากจะมา พลันหันไปมองคนพามา

รามันทำเป็นไม่สนใจสายตาคู่หม่น เท้าหนาก้าวลงจากรถ ตรงไปกระชากร่างเล็กให้ลงมา ดึงให้เดินตามเข้ามาในงานวัด ฝ่ายช้องนางก็คลี่ยิ้มก่อนจะค่อนขอดในใจ คนอะไรฟอร์มจัดเสียจริง จะบอกกันหน่อยก็ไม่ได้ว่าจะพามา

“อยากจะไปทำอะไรก็ไปสิ ให้เวลาหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นนั้นนะ” เสียงเข้มเอ่ยพร้อมกับปล่อยข้อมือสวย

เจ้าหล่อนส่งยิ้มหวานให้เป็นการขอบคุณ เดินมุ่งตรงไปยังอุโบสถ ไหว้พระขอพรให้ครอบครัวมีแต่ความสุข ขอให้ผู้เป็นพ่อหายป่วยไวๆ ขอให้พระคุ้มครองน้องสาวและน้องชายทั้งสองคน

มือทั้งสองพนมก้มลงกราบ แล้วเอ่ยขอพรตามที่ตนประสงค์ จากนั้นก็เดินไปชมบรรยากาศรอบๆ งาน มาหยุดอยู่หน้าชิงช้าสวรรค์ พลางนึกถึงคนเป็นน้องอย่างนุชนารถ ที่เวลาเธอพามาเที่ยวงานวัดทีไรต้องร้องขอให้พาขึ้นชิงช้าสวรรค์ทุกครั้ง

“ขึ้นไหมจ๊ะคุณ ยี่สิบบาทเองนะ” คนขายตั๋วเชิญชวน

ช้องนางส่ายหน้าตอบ หล่อนไม่มีเงินติดตัวมาจะให้ขึ้นไปได้อย่างไร ถึงแม้ว่าใจอยากจะขึ้นไปนั่งก็ตาม

“ไม่ล่ะจ้ะ” แต่ไม่ทันจะพูดจบ ข้อมือสวยก็ถูกกระชากให้เดินไปข้างหน้า หญิงสาวต้องกรีดร้องด้วยความตกใจ

“ว้าย!!”

“คุณรามัน” เธอเรียกชื่อคนที่ทำให้ตกใจ

“จะเรียกทำไม อยากขึ้นไม่ใช่เหรอ เห็นมองตาละห้อยเชียว ที่ฉันพาเธอขึ้นก็เพราะไม่อยากจะให้คนอื่นเอาไปนินทาได้ว่าฉันดูแลเมียไม่ดี ไม่ต้องคิดล่ะว่าฉันเห็นใจเธอ เพราะไม่มีทาง”

บอกเสียงแข็งๆ ทั้งที่จริงแล้วไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเขาแต่งงาน และเธอคือเมียของเขา เพราะคนที่นี่ไม่ชอบยุ่งเรื่องของใคร ที่สำคัญเขาไม่จำเป็นต้องไปป่าวประกาศว่ามีเมียแล้ว ในเมื่อเมียคนนี้เขาไม่ต้องการ

เมื่อฟังคำของรามัน ช้องนางก็ลอบถอนหายใจ จะพูดดีกับหล่อนบ้างไม่ได้หรือไง ทำไมชอบพูดให้เจ็บช้ำใจอยู่เรื่อย แล้วเมินหน้าหนี หันไปมองชมความสวยงามของท้องฟ้าที่มีหมู่ดวงดาวประดับแซมยามค่ำคืนและบรรยากาศรอบๆ งานที่เต็มไปด้วยแสงสีของหลอดไฟหลากสี และมันก็เป็นจังหวะเดียวกับที่มีการแสดงพลุ ช้องนางถึงกับสะดุ้งตกใจ กระโดดไปนั่งตักคนตีหน้านิ่ง ซบใบหน้ากับอกกว้าง หล่อนนั้นกลัวเสียงดังของพลุ

ฝ่ายรามันก็ตกใจเช่นกัน ทว่าไม่ได้ตกใจเสียงพลุ แต่ตกใจที่จู่ๆ ช้องนางก็กระโดดมานั่งตักแถมยังซบใบหน้าลงที่อกแกร่ง

คนกลัวหลับตาแน่นไม่ยอมลืมตามามองแถมยังยกมือทั้งสองข้างปิดหู ไม่ชอบเลยเวลามีงานเทศกาลแล้วต้องจุดพลุ ยิ่งอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ก็ยิ่งกลัว รามันก้มลงมามองคนกลัวแล้วกระตุกยิ้ม เพราะช้องนางทำตัวเหมือนเด็กซะเหลือเกิน โตจนป่านนี้ยังกลัวเสียงพลุอยู่อีก

“กลัวอะไร กลัวพลุหรือ กลัวทำไม ดูสิสวยออก” เขากระซิบบอกให้ลืมตาเพื่อกลั่นแกล้ง แต่ช้องนางก็ยังคงหลับตาแน่น

“นางกลัวเสียงดัง นางไม่ชอบ” เธอบอกเสียงสั่น

“สวยจะตาย ลืมตาดูมันสิ” เขายังคงคะยั้นคะยอให้ลืมตา

“ไม่เอานางกลัว” ช้องนางปฏิเสธเสียงแข็ง ยิ่งได้ยินเสียงดังตู้มใหญ่ ก็ยิ่งกลัว กลัวจนกอดชายหนุ่มไว้แน่น

“ฮือๆ นางกลัว”

ชายหนุ่มนึกขำกับท่าทางของช้องนาง แล้วแกล้งให้หญิงสาวลืมตามองอีกหลายครั้ง หัวเราะร่าอย่างมีความสุข แต่สักพักก็เริ่มขำไม่ออก เพราะมีความรู้สึกบางอย่างกำลังวิ่งวนอยู่ในหัวใจ ทำไมหัวใจดวงแกร่งถึงเต้นรัวขนาดนี้ ยิ่งช้องนางกอดรัดแน่นขึ้น มันก็เต้นรัวมากขึ้น จนรู้สึกเหมือนว่ามันกำลังจะกระเด็นออกมา

“ปล่อยได้แล้วช้องนาง เขาเลิกจุดพลุแล้ว” เมื่อรู้สึกว่าตนเองกำลังจะห้ามหัวใจและร่างกายไม่ให้ แตะต้องคนกลัวไม่ได้ จึงรีบเอ่ยบอกเสียงเข้มเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังปั่นป่วน

แต่ทว่าช้องนางก็ยังคงหลับตาแน่น ไม่ยอมลืมตา ใจของหล่อนกำลังรู้สึกแปลกๆ ไม่แพ้ชายหนุ่ม เจ้าหล่อนรู้สึกว่าอ้อมกอดนี้แลอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกดีที่ได้อยู่แบบนี้ ช้องนางตกอยู่ในภวังค์แห่งความอบอุ่น

“ช้องนางฉันบอกว่าให้ลุกไปจากตักฉันได้แล้ว” เขาบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก็มีแต่คนมอง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กันไปหมด ใบหน้ารู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา แถมยังหัวเสียมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าบางคนหยิบกล้องเก็บภาพเอาไว้

“ช้องนางฉันบอกให้ลุก” คราวนี้มือร้อนออกแรงผลัก แล้วพบว่าเจ้าหล่อนนั้นหลับ หลับคาอกของตน!!

“เธอนี่มันจริงๆ เลย ปากร้องบอกอยากมา แต่ดูสิ พอพามาดันหลับซะงั้น” แล้วต้องหงุดหงิดเป็นสองเท่า ก็ต้องอุ้มเจ้าหล่อนลงจากกระเช้าชิงช้า มีแต่ผู้คนจ้องมอง ซุบซิบนินทา ก็จะไม่ให้ทุกคนมองและซุบซิบได้อย่างไร ในเมื่อรามันนั้นไม่เคยข้องเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนเลยตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา แถมยังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้เข้าใกล้ เพราะรามันนั้นตวาดไล่ไปหมด

“คอยดูเถอะ ตื่นขึ้นมาฉันจะเล่นงานเธอ ช้องนาง” คาดโทษเอาไว้เสียงเขียว พร้อมอุ้มหญิงสาวตรงไปยังรถ วางร่างที่หลับสนิทยังเบาะหนา ก่อนจะขับรถกลับไปยังบ้านพัก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก   บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง07-08

    “ฮือ พ่อขา นางเหนื่อยแล้วค่ะ นางไม่อยากจะสู้แล้ว เขาไม่เคยมองนางในแง่ดีเลย มีแต่กล่าวหานาง เขาคงเกลียดนางมาก เขาคงไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีนางเป็นเมีย ฮือ...นางผิดหรือคะ ที่ทำเพื่อช่วยครอบครัว” น้ำตายังคงไหลริน หัวใจดวงน้อยมีแต่รอยแผล และมันคงยากที่จะเยียวยารามันไม่ได้ใส่ใจคนที่วิ่งร้องไห้ไป เขาเดินตรงไปสะสางงานต่อ พอได้เวลาอาหารค่ำก็กลับมา ก่อนจะยกคิ้วขึ้นสูงเมื่อไม่เห็นเมียตีทะเบียน ไหล่หนายกขึ้นสูงอย่างไม่ใส่ใจ คิดว่าหญิงสาวคงเรียกร้องความสนใจ อยากให้ง้อ แต่คนอย่างเขาไม่คิดที่จะง้อใคร ยิ่งเป็นเมียคนนี้ด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีทางป้าน้อยอยากจะเอ่ยถามถึงสาเหตุที่ช้องนางไม่ยอมมากินข้าว แถมพอหล่อนไปตามก็ต้องตกใจ เพราะดวงตาสวยบวมช้ำ ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา แต่ก็ไม่กล้าจะเอ่ยถามเพราะมันเป็นเรื่องของเจ้านาย“มีอะไรหรือเปล่าครับป้าน้อย” เมื่อเห็นว่าป้าน้อยทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ยอมพูดออกมา เสียงเข้มจึงต้องเอ่ยถาม“ทะเลาะอะไรกันคะ ทำไมหนูนางร้องไห้ไม่ยอมมากินข้าว”“ป้าอย่าไปสนใจเลยครับ นิสัยเด็กแบบนั

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก   บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง07

    “ฮือ พ่อขา นางเหนื่อยแล้วค่ะ นางไม่อยากจะสู้แล้ว เขาไม่เคยมองนางในแง่ดีเลย มีแต่กล่าวหานาง เขาคงเกลียดนางมาก เขาคงไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีนางเป็นเมีย ฮือ...นางผิดหรือคะ ที่ทำเพื่อช่วยครอบครัว” น้ำตายังคงไหลริน หัวใจดวงน้อยมีแต่รอยแผล และมันคงยากที่จะเยียวยารามันไม่ได้ใส่ใจคนที่วิ่งร้องไห้ไป เขาเดินตรงไปสะสางงานต่อ พอได้เวลาอาหารค่ำก็กลับมา ก่อนจะยกคิ้วขึ้นสูงเมื่อไม่เห็นเมียตีทะเบียน ไหล่หนายกขึ้นสูงอย่างไม่ใส่ใจ คิดว่าหญิงสาวคงเรียกร้องความสนใจ อยากให้ง้อ แต่คนอย่างเขาไม่คิดที่จะง้อใคร ยิ่งเป็นเมียคนนี้ด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีทางป้าน้อยอยากจะเอ่ยถามถึงสาเหตุที่ช้องนางไม่ยอมมากินข้าว แถมพอหล่อนไปตามก็ต้องตกใจ เพราะดวงตาสวยบวมช้ำ ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา แต่ก็ไม่กล้าจะเอ่ยถามเพราะมันเป็นเรื่องของเจ้านาย“มีอะไรหรือเปล่าครับป้าน้อย” เมื่อเห็นว่าป้าน้อยทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ยอมพูดออกมา เสียงเข้มจึงต้องเอ่ยถาม“ทะเลาะอะไรกันคะ ทำไมหนูนางร้องไห้ไม่ยอมมากินข้าว”“ป้าอย่าไปสนใจเลยครับ นิสัยเด็กแบบนั

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก   บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง06

    ช้องนางสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ความคิด เหล่ไปมองเล็กน้อย เมื่อเจอสีหน้าเรียบเฉย แต่สายตานั้นช่างดูถูก เหยียดหยาม เจ้าหล่อนก็หันกลับมาทำกับข้าวต่อ ไม่อยากจะสบสายตาคู่คม ทำไมกันเขาถึงไม่ยอมมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยนบ้าง ทำไมต้องมองด้วยสายตาเหยียดหยามตลอด“เฮ้อ”“มัวแต่ถอนหายใจกับข้าวมันจะเสร็จไหม”“นางจะรีบทำค่ะ” เธอรีบตอบไม่อยากจะมีปัญหากับอสูรตนนี้ เดี๋ยวตอบช้าก็จะพาลมาหาเรื่องกันอีกจัดการลงมือทำกับข้าวต่อ ไม่ถึงสิบนาทีกับข้าวทุกอย่างก็พร้อมเสิร์ฟ คนนั่งรอก็ตีหน้านิ่ง จนช้องนางแอบหมั่นไส้ บางวันก็นิ่ง บางวันก็ดุอย่างกับยักษ์ คนอะไรช่างมีหลายอารมณ์เสียจริง“แล้วจะยืนหาพระแสงอะไร นั่งลงมากินข้าวสิ พิรี้พิไรอยู่ได้”“ค่ะ” ตอบรับแล้วลอบถอนหายใจ ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะเอาชนะใจอสูรไร้หัวใจได้สักที หรือว่าชาตินี้จะไม่มีหนทาง คิดแล้วก็กลุ้มใจ ได้แต่ภาวนาให้ตัวเองหาวิธีเอาชนะใจชายคนนี้ได้เสียทีกาลเวลาค่อยๆ เปลี่ยนผัน จากชั่วโมงเป็นวัน วันเป็นเดือน ช้องนางมาอยู่ที่นี่ในสถานะเมียกึ

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก   บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง05

    ตั้งแต่วันที่ปะทะคารมกับช้องนางอย่างดุเดือด กระชากเจ้าหล่อนเข้ามาจูบอย่างเร่าร้อน รามันก็พยายามเลี่ยงไม่เข้าใกล้ ทำใบหน้าเรียบตึงใส่ บางครั้งก็เสแสร้งทำเป็นไม่เห็น ทั้งๆ ที่เจ้าหล่อนยืนอยู่ตรงหน้า เหตุผลก็เพราะหัวใจแกร่งมันดันเต้นผิดจังหวะเวลาอยู่ใกล้ๆ รู้สึกอยากจะครอบครองริมฝีปากบางนั้นอีกครั้ง จนต้องข่มใจไม่ให้เข้าใกล้กระทั่งวันนี้วันที่โรสนั้นโทรมา อยากจะคุยกับลูกสะใภ้คนโปรด ทำให้เขาต้องเข้าใกล้ โดยเจ้าหล่อนกำลังวุ่นกับการทำครัว“แม่ฉันอยากจะคุยด้วย” ยื่นโทรศัพท์ไปให้ แต่เมื่อเห็นว่าช้องนางยื่นมือมารับ ก็ชักโทรศัพท์กลับแล้วก้มลงกระซิบบอกวาจาร้ายกาจข้างหูขาว“ตอบคำถามให้มันดีๆ ละ คงรู้นะที่ฉันพูดหมายความว่ายังไง รู้ใช่ไหมหากตอบไม่ดีจะเจออะไร” ขู่เสียงเหี้ยมช้องนางพยักหน้าหงึกหงักรับ ใครจะกล้าพูดขัดใจอสูรเช่นเขา ขืนทำมีหวังอสูรผู้โหดเหี้ยมได้กลับมาอีก ขอให้มันเงียบสงบแบบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่าน เพราะหล่อนจะได้ไม่ต้องเจ็บช้ำใจ ไม่ต้องฟังวาจาเหยียดหยาม“สวัสดีค่ะคุณหญิง”“เดี๋ยวจะตีให้ตายเลย ต้องเรียกว่า

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก   บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง04

    “ผมไม่ห้ามคุณหรอกครับ ผมเองก็ต้องขอโทษคุณด้วยซ้ำ นี่ถ้าวันนั้นกล้องวงจรของผับผมไม่พัง ป่านนี้คุณคงรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ยังไงผมก็ขอให้คุณเจอเธอเร็วๆ นะครับ ผมเอาใจช่วย" เขาตบบ่าเบาๆ แล้วจากไปหัวใจแกร่งกระตุกวูบทุกครั้งเมื่อก้าวเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ภาพเหตุการณ์เมื่อแปดปีก่อนแวบเข้ามาในหัว ยังคงจำเสียงร้องเจ็บปวดของผู้หญิงคนนั้นได้ดี เขารู้ดีว่าตัวเองเลวแค่ไหน พอเหล้าเข้าปากจนเมามาย ทำให้เขาพร่าพรหมจรรย์ของผู้หญิงคนหนึ่ง แถมพอตื่นขึ้นมาก็จำอะไรแทบไม่ได้ กระทั่งหน้าตาของเจ้าหล่อน เขาก็ยังคงจำไม่ได้“มาคนเดียวหรือคะ ให้หนิงนั่งเป็นเพื่อนไหม”หลุดออกจากภวังค์ความคิดเมื่อได้ยินเสียงหวาน ก่อนจะหันไปมอง แล้วพบว่าผู้หญิงคนหนึ่งกำลังอยู่ในอาการเมามาย ส่งยิ้มหวานฉ่ำมาให้ แถมยังลูบไล้ไปตามร่างกาย“ไม่เป็นไรครับ ผมขอนั่งคนเดียวดีกว่า”“ทำไมล่ะคะ ก็หนิงอยากจะนั่งด้วยนี่คะ ยิ่งนั่งที่ตักด้วยยิ่งดี” พลันขยับมานั่งข้างๆ“งั้นก็ตามใจครับ” ในเมื่อปฏิเสธแล้ว อีกฝ่ายก็ยังคงตื๊อ เขาก็ไม่อยากจะปฏิเสธให้เสียหน้า ริมฝีปากหนาต้องเม้มแน่น ตั้งแต่มานั่งตรงนี้ เขาก็รู้สึกเหมือนมีคนกำลังจับจ้อง จนรู้สึ

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก   บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง01-03

    “แกไปหาหนูรีมาเหรอ”รามันพยักหน้าตอบและพ่นลมหายใจร้อนๆ ออกมา“แล้วหนูรีเป็นไงบ้าง?” เขาถามด้วยความเป็นห่วง รู้ดีว่าเด็กน้อยคนนี้มีความสำคัญกับเพื่อนรักมากแค่ไหน เรียกว่าตอนนี้ที่หัวใจดวงแกร่งยังเต้นอยู่บ้าง ไม่ได้ด้านตายไปซะหมด ก็เพราะเด็กผู้หญิงคนนี้“ยังเหมือนเดิม” รามันตอบเสียงเศร้า พลางนึกถึงความน่ารักของลูกสาวสุดรัก“พ่อรามันขา อุ้มหนูรีหน่อยนะคะ หนูรีคิดถึงพ่อรามัน พ่อรามันเหนื่อยไหมคะ เดี๋ยวหนูรีจะนวดให้”เมื่อนึกถึงเสียงออดอ้อน ใบหน้าเล็กที่ฉีกยิ้มทีไรก็เรียกรอยยิ้มบนใบหน้าคมได้ทุกครั้ง แต่ก็ต้องกำมือแน่นด้วยความโกรธแค้นเมื่อนึกถึงต้นเหตุที่ทำให้เสียงออดอ้อนนี้หายไป เหลือไว้แต่ความเศร้าและร่างที่เกือบไร้วิญญาณ สามปีเต็มแล้วสิที่ลูกสาวของเขาต้องนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา สามปีแล้วที่เขาไม่ได้ยินเสียงออดอ้อน ไม่ได้เห็นความน่ารักของเด็กคนนี้แววตาที่เศร้าลงถนัดตาของเพื่อนรัก ทำให้กิจเดินไปตบบ่าเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ“แกเชื่อฉันนะ อีกไม่นานหนูรีก็ฟื้นมา หนูรีเป็นเด็กน่ารัก นิสัยดี ฟ้าต้องเห็นใจ” พลางยกนาฬิกาขึ้นมาดู เพราะตนต้องไปเข้าเวรตรวจคนไข้“ฉันไปก่อนนะเพื่อน มีตรวจคนไข้ ส่วนแกไปรับเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status