Home / โรแมนติก / ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก / บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง01-03

Share

บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง01-03

Author: r.mustang
last update Huling Na-update: 2025-12-09 22:31:21

“แกไปหาหนูรีมาเหรอ”

รามันพยักหน้าตอบและพ่นลมหายใจร้อนๆ ออกมา

“แล้วหนูรีเป็นไงบ้าง?” เขาถามด้วยความเป็นห่วง รู้ดีว่าเด็กน้อยคนนี้มีความสำคัญกับเพื่อนรักมากแค่ไหน เรียกว่าตอนนี้ที่หัวใจดวงแกร่งยังเต้นอยู่บ้าง ไม่ได้ด้านตายไปซะหมด ก็เพราะเด็กผู้หญิงคนนี้

“ยังเหมือนเดิม” รามันตอบเสียงเศร้า พลางนึกถึงความน่ารักของลูกสาวสุดรัก

“พ่อรามันขา อุ้มหนูรีหน่อยนะคะ หนูรีคิดถึงพ่อรามัน พ่อรามันเหนื่อยไหมคะ เดี๋ยวหนูรีจะนวดให้”

เมื่อนึกถึงเสียงออดอ้อน ใบหน้าเล็กที่ฉีกยิ้มทีไรก็เรียกรอยยิ้มบนใบหน้าคมได้ทุกครั้ง แต่ก็ต้องกำมือแน่นด้วยความโกรธแค้นเมื่อนึกถึงต้นเหตุที่ทำให้เสียงออดอ้อนนี้หายไป เหลือไว้แต่ความเศร้าและร่างที่เกือบไร้วิญญาณ สามปีเต็มแล้วสิที่ลูกสาวของเขาต้องนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา สามปีแล้วที่เขาไม่ได้ยินเสียงออดอ้อน ไม่ได้เห็นความน่ารักของเด็กคนนี้

แววตาที่เศร้าลงถนัดตาของเพื่อนรัก ทำให้กิจเดินไปตบบ่าเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ

“แกเชื่อฉันนะ อีกไม่นานหนูรีก็ฟื้นมา หนูรีเป็นเด็กน่ารัก นิสัยดี ฟ้าต้องเห็นใจ” พลางยกนาฬิกาขึ้นมาดู เพราะตนต้องไปเข้าเวรตรวจคนไข้

“ฉันไปก่อนนะเพื่อน มีตรวจคนไข้ ส่วนแกไปรับเมียแกได้แล้ว ป่านนี้หมอเวรเข้าไปตรวจเสร็จแล้ว”

“อย่าเพิ่งไป” รามันร้องเรียก ซึ่งกิจก็หันมามองหน้าแล้วเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงคำถามว่ามีอะไร

“คืนนี้แกจะไปที่ผับนั้นอีกไหมวะ นี่มันเกือบจะสิบปีแล้วนะที่แกไปที่นั่น แล้วแกก็ไม่ได้อะไรกลับมา ฉันว่าแกเปิดใจรับคนอื่นเข้ามาเถอะ ขืนอยู่แบบนี้มีแต่ทุกข์ใจ” รามันร้องถาม เพราะเพื่อนรักก็มีเรื่องให้คิด ให้ทุกข์ไม่ต่างไปจากตน

“ไปสิ ฉันจะไปทุกปี เผื่อว่าเธอคนนั้นจะกลับมาหาฉัน”

“แล้วแกจะรู้ได้ไงว่าเป็นเธอ ในเมื่อคืนนั้นแกจำอะไรไม่ได้สักอย่าง”

“ใช้หัวใจไง ฉันเชื่อว่าสักวันฉันต้องตามหาผู้หญิงคนนั้นพบ ฉันไปละ เดี๋ยวคนไข้จะรอ ส่วนแกไปรับเมียแกได้แล้ว” พูดจบก็เดินออกไป รามันก็พยักหน้ารับ ภาวนาให้เพื่อนรักพบคนที่ตนกำลังตามหาอยู่ไวๆ ก่อนจะเดินตรงไปรับช้องนาง เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องของหญิงสาว ก็พบว่าตอนนี้เจ้าหล่อนเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว และกำลังเดินออกมาจากห้องพอดี

“ทำไมไม่รอฉันก่อน ออกมาเองแบบนี้เดี๋ยวก็ได้เป็นลมเป็นแล้งไปอีก แล้วก็เป็นภาระให้คนอื่น” ถามปนดุใส่ แล้วเดินเข้าไปหาคนที่สะดุ้งตกใจ และทำท่าจะเซล้ม

“ฉันถามว่าทำไมไม่รอฉัน”

ช้องนางนั้นตกใจ ไม่คิดว่าจะได้ยินเสียงคนใจร้าย ที่ไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็น จนเกือบจะเซล้ม แต่ทว่ารามันก็เข้ามาช่วยประคองไว้เสียก่อน เจ้าหล่อนไม่ได้ตอบคำถาม ได้แต่ก้มหน้า แต่เมื่อโดนถามอีกรอบก็ยอมปริปากตอบออกไป

“นางไม่คิดว่าคุณจะมารับนาง นึกว่า…”

“นึกว่าอะไร นึกว่าฉันลืมเธอไปแล้ว”

เลิกคิ้วเป็นคำถาม และเมื่อเห็นว่าหญิงสาวพยักหน้า เขาก็ตอบกลับไปด้วยวาจาที่เผ็ดร้อนเช่นเดิม ทั้งที่จริงเขานั้นไม่ได้ลืมเจ้าหล่อนสักนิด นึกเป็นห่วงอาการอยู่ทุกวัน แต่ไม่กล้าจะโทรมาถาม กลัวจะเสียฟอร์มที่วางไว้ และอีกอย่างเขานั้นก็ไม่ได้พักเลยตลอดเวลาสามวันที่ผ่านมา เพราะต้องรีบเคลียร์เอกสาร ที่สำคัญเขากลุ้มใจเรื่องของนารีนาถ

“ใครจะไปลืมเธอได้ช้องนาง ฮึ! เจ้าสาวที่ยอมแต่งงานเพราะเงิน ฉันไม่มีวันลืมได้หรอก”

เมื่อโดนวาจาร้ายกาจสาดกระหน่ำทำให้ใจเจ็บ ช้องนางก็ก้มหน้างุด ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตา ปล่อยให้เขาดึงข้อมือปนกระชากไปที่รถ จากนั้นรถคันโตก็พุ่งทะยานออกมาจากโรงพยาบาล

 “ใครจะไปลืมเธอได้ช้องนาง ฮึ! เจ้าสาวที่ยอมแต่งงานเพราะเงิน ฉันไม่มีวันลืมได้หรอก”

            เมื่อโดนวาจาร้ายกาจสาดกระหน่ำทำให้ใจเจ็บ ช้องนางก็ก้มหน้างุด ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตา ปล่อยให้เขาดึงข้อมือปนกระชากไปที่รถ จากนั้นรถคันโตก็พุ่งทะยานออกมาจากโรงพยาบาล  

| บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง |

            ขณะรถคันโตกำลังแล่นตรงกลับไปยังบ้านพัก ในรถก็มีแต่มีความเงียบ ไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมา จนมีเสียงหนึ่งดังขึ้นทำลายความเงียบงัน   

            กริ๊ง กริ๊ง

            เสียงโทรศัพท์เครื่องเก่าของรามันดังขึ้น มือหนาเอื้อมไปหยิบมันแล้วกดรับอย่างไวเพราะเป็นเบอร์คนสำคัญ แล้วก็เอ่ยถามไปสองสามประโยค ก่อนจะรีบวกรถกลับอย่างเร็ว คนนั่งอยู่ๆ ข้างแต่ได้แอบชำเลืองมอง ไม่รู้ว่าใครคือคนที่โทรมา แล้วตอนนี้เขากำลังจะไปที่ไหน       

            พอเครื่องยนต์ดับลง คนสีหน้าเรียบก็หันมาสั่งเสียงแข็ง

“รออยู่ในรถ ฉันจะไปทำธุระ” พูดจบ ก็ก้าวลงจากรถ 

            ช้องนางพยักหน้ารับ พร้อมกับมองตามไปยังสถานที่ที่เขาเดินเข้าไป แล้วก็แปลกใจไม่น้อย เพราะที่ที่เขามาคือสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ยิ่งแปลกใจเข้าไปกันใหญ่เพราะเพียงแค่ชายหนุ่มเดินเข้าไป เด็กๆ ต่างวิ่งกรูกันออกมา วิ่งมาล้อมหน้าล้อมหลัง ก่อนที่จะเห็นในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะไม่ได้เห็นมัน เขายิ้ม พระเจ้า อสูรยิ้มเป็นด้วย ช้องนางต้องขยี้ตาสองสามครั้ง เพราะไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น        

            รามันฉีกยิ้มให้กับพวกเด็กๆ ก่อนจะเดินนำเข้ามาในตัวอาคาร และพบกับพินิจ ผู้จัดการสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งเป็นคนที่โทรไปหาเขา เสียงเข้มรีบร้องถามถึงต้นเหตุที่ทำให้ต้องรีบบึ่งรถมา

“เด็กดื้ออยู่ที่ไหนครับ”     

            ไม่ทันที่พินิจจะเอ่ยตอบ เด็กดื้อที่รามันถามถึงก็วิ่งเข้ามาหาด้วยความดีใจ       

            “พ่อรามัน เย้ๆ พ่อรามันมาหาหนูนิดแล้ว”  

            รามันย่อตัวลงไปรับและอุ้มขึ้นมา

“ว่าไงครับเด็กดื้อ ทำไมไม่ยอมทานยาครับ” พูดจบก็หอมแก้มซ้ายขวา เด็กคนอื่นๆ ต่างก็เรียกร้องให้ชายหนุ่มอุ้มตนบ้าง           

            “พ่อรามันขา อุ้มหนูบ้างสิคะ หนูก็คิดถึงพ่อรามัน อุ้มหนูด้วยค่า” เด็กๆ ต่างออดอ้อน     

            “ครับ เดี๋ยวพ่อจะอุ้มทุกคน ว่าแต่ใครอยากฟังนิทานบ้างครับ”

            “ผมครับ หนูค่ะ” เด็กๆ ต่างแสดงท่าทางที่ตื่นเต้นดีใจ  และรีบวิ่งไปยังสนามหญ้าสุดกว้าง ที่ประจำสำหรับการเล่านิทานสุดสนุก 

            “หนูนิดอยากฟังนิทานไหมครับ ถ้าอยากฟังต้องทานยาก่อน โอเคไหมครับ” เด็กน้อยรับพยักหน้ารับยอมกินยา ก่อนที่จะรีบวิ่งไปนั่งรอตามเพื่อนๆ

            “ถ้าที่นี่ไม่ได้คุณรามันเข้ามาช่วย ผมก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ที่นี่จะเป็นยังไง ป่านนี้ก็คงถูกปิดไปแล้ว ผมขอบคุณจริงๆ นะ” พินิจเอ่ยขอบคุณอย่างซาบซึ้ง หากไม่ได้รามันยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะจำนวนเด็กก็มากขึ้นทุกปี เงินก็ต้องใช้มากขึ้น ไหนจะเรื่องเสื้อผ้า ไหนจะเรื่องอาหาร ทำให้เกือบจะปิดตัวลง แต่ก็โชคดีที่รามันยื่นมือเข้ามาช่วย  

            “ไม่เป็นครับ ผมยินดีช่วย” ชายหนุ่มยิ้มตอบ จากนั้นก็เดินไปหาพวกเด็กๆ        

            ช้องนางนั่งอยู่ในรถได้สักพัก เจ้าหล่อนก็จำเป็นต้องลงมาจากรถ เพราะมือถือคู่ใจของรามันดังหนึ่ง ดังติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้ต้องนำโทรศัพท์ไปให้เขา กลัวว่าคนโทรมาจะมีธุระสำคัญ จะรับเอง ก็กลัวว่าเขาจะหาว่ายุ่งวุ่นวาย เจ้าหล่อนเดินตรงเข้ามาในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และก็ได้พบกับพินิจ         

            “ฉัน…มาหาคุณรามันค่ะ” 

            “คุณรามันเล่านิทานให้เด็กๆ ฟังอยู่ที่สนามหญ้าด้านหลังนี่ละครับ เดี๋ยวผมพาไปครับ” เขาบอกก่อนจะเดินนำเธอไป แล้วอดแปลกใจไม่น้อยที่เห็นว่าวันนี้รามันนั้นพาผู้หญิงมาด้วย เพราะหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยเห็นชายหนุ่มข้องเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนเลย

            “ค่ะ”     

            เมื่อมาถึง ช้องนางก็เห็นว่าตอนนี้รามันกำลังถูกล้อมรอบไปด้วยพวกเด็กๆ ที่ต่างมีสีหน้าเปื้อนยิ้ม ต่างตั้งใจฟังนิทานที่กำลังถูกเล่า ช้องนางเห็นถึงกับฉีกยิ้ม ไม่คิดว่ารามันจะมีมุมนี้เหมือนกัน          

            “เด็กๆ ที่นี่รักคุณรามันมากเลยครับ เรียกคุณรามันว่าพ่อทุกคน โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงที่นั่งบนตัก ขี้อ้อนมากๆ เลยครับ” พินิจบอกพลางชี้ให้ดู

            “เขามาที่นี่บ่อยหรอคะ” เธอถามด้วยความอยากรู้     

            “ครับ มาบ่อย เพราะเด็กๆ จะเรียกหาตลอด ผมก็ต้องจะโทรไปบอก แล้วคุณรามันก็จะมาหาพวกเด็กๆ”   

            ขณะที่ช้องนางรับฟังเรื่องราว โทรศัพท์ก็แผดเสียงดังขึ้นอีกครั้ง เจ้าหล่อนจึงก้มลงไปมอง และก็เป็นเบอร์ที่โทรมาย้ำๆ แต่พอเงยหน้าขึ้นก็ต้องตกใจ เพราะตอนนี้รามันมายืนอยู่ข้างเธอเสียแล้ว แถมยังตีหน้ายักษ์ใส่อีกต่างหาก    

            “คือนาง…นางเอาโทรศัพท์มาให้ค่ะ มีคนโทรมา” ช้องนางบอกเสียงสั่นพลางยื่นโทรศัพท์ให้ รามันรับโทรศัพท์มา ก่อนที่จะส่งสายตาคาดโทษหญิงสาว ที่กล้าลงมาจากรถ แล้วเดินห่างออกไปเพื่อรับโทรศัพท์

            พวกเด็กๆ ต่างก็วิ่งมารุมล้อมช้องนางกันยกใหญ่ ทำท่าอยากจะให้อุ้ม ช้องนางจึงต้องย่อตัวลงไปหา         

            “พี่สาวคนสวยเป็นใครหรือคะ เป็นแฟนของพ่อรามันเหรอคะ” หนูนิดร้องถามพร้อมกับแสดงสีหน้าอยากรู้

            “หนูนิดเซี้ยวใหญ่แล้วนะเรา ทำไมไปยุ่งเรื่องของพี่เขาแบบนั้น” พินิจดุเด็กน้อย 

            “ไม่เป็นไรค่ะ อย่าไปดุแกเลย แกยังเด็กอยู่” เมื่อตอบพินิจแล้ว ก็หันมาตอบเด็กน้อยตรงหน้า

“พี่เป็นแค่เพื่อนค่ะ พี่ไม่ใช่แฟนของพ่อหนูหรอก” เธอโกหกออกไป ไม่รู้ว่าเขาต้องการให้ตอบไปแบบไหน กลัวว่าถ้าตอบว่าเป็นแฟนแล้วเขาจะโกรธ เดี๋ยวก็พาลแปลงร่างเป็นอสูรใจร้ายอีก   

            “ว้า หนูอยากให้พี่คนสวยเป็นแฟนพ่อรามันจังค่ะ พ่อรามันจะได้มีแฟนเหมือนนางฟ้า” เด็กหญิงบอกพลางทำหน้าเศร้า           

            ช้องนางอมยิ้มในความน่ารักของเด็กผู้หญิงคนนี้ เชื่อแล้วว่าเจ้าหล่อนนั้นขี้อ้อน และน่ารัก          

            “กลับเข้าไปกินข้าวได้แล้วเด็กๆ ได้เวลาแล้ว เดี๋ยวกินเสร็จ จะได้ดูการ์ตูนกัน” พอเอ่ยจบ พวกเด็กๆ ต่างร้องเย้ดีใจ แล้ววิ่งกรูกันเข้าไปในห้องอาหาร        

            เมื่อส่งหนูนิดให้พินิจแล้ว ช้องนางเลือกที่จะเดินกลับไปรอรามันที่รถ แต่ก้าวเดินไปทันจะถึงรถ ก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมา จนทำท่าจะเซล้ม แต่ทว่าก็มีคนมาช่วยประคองเอาไว้    

            “เป็นอะไรมากไหมครับคุณ” ชายแปลกหน้าร้องถาม พร้อมกับช่วยพยุงไปนั่งพัก           

“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ” เธอขอบคุณด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับจะลุกขึ้น แต่ทว่าอาการหน้ามืดก็เกิดขึ้นอีกหน จนจะเซล้ม แต่ครั้งนี้คนช่วยพยุงกลับไม่ใช่ชายแปลกหน้า แต่กลับเป็นสามีหน้าเหี้ยม ที่ส่งสายตาดุดันมาให้ แถมยังตวัดสายตาไปมองชายแปลกหน้าอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

ชายคนนั้นก็หรี่ตามองด้วยความไม่เข้าใจ ว่าทำไมชายคนนี้ต้องผลักตนให้ออกห่างจากหญิงสาว แถมยังส่งสายราวกับว่าจะประกาศสงครามมาให้

“ผมช่วยเธอเอาไว้ครับ เธอเป็นลม”

“งั้นก็ขอบคุณครับ แต่ตอนนี้ไม่ต้องช่วยแล้ว ผมเป็นสามีเธอ ผมจะดูเธอเอง” เขาตวัดมามองช้องนางอีกหนด้วยแววตาดุดัน จนหญิงสาวต้องก้มหน้าหนี พลางนึกสงสัยว่าตัวเองทำผิดอะไร ทำไมเขาต้องมองด้วยสายตาแบบนี้อีกด้วย

รามันช้อนร่างเล็กขึ้นแล้วตรงดิ่งไปที่รถ วางลงบนเบาะรถ แล้วเดินวกกลับมาขึ้นรถ พอขึ้นมาได้ก็จัดการกระชากร่างนั้นเข้ามาใกล้ทันที

“ฉันไม่อยู่แป๊บเดียว อ่อยผู้ชายไปทั่วเลยนะ” ใจดวงแกร่งโกรธปุดๆ ตั้งแต่หล่อนตอบหนูนิดออกไปแล้วว่าเป็นเพื่อนกับเขา ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องพาลหงุดหงิดโมโห ยิ่งเห็นว่าช้องนางตกอยู่ในอ้อมกอดของชายแปลกหน้า ก็หงุดหงิดเข้าไปกันใหญ่

“ทำไมต้องมากล่าวหานางแบบนี้ นางไม่ได้อ่อยใคร นางหน้ามืด ผู้ชายคนนั้นเข้ามาช่วยก็เท่านั้น” เธอพยายามอธิบายอย่างใจเย็น แต่ดูท่าแล้วมันคงจะไม่ได้ผล

“โกหก อยากมากล่ะสิ ถึงอ่อยได้แม้กระทั่งคนแปลกหน้าขนาดนี้ ทำไมไม่บอกฉันล่ะว่าอยาก ฉันจะได้จัดให้” พูดจบก็กระชากหญิงสาวเข้ามาแล้วโน้มใบหน้าไปหา แนบริมฝีปากหนาบดขยี้ริมฝีปากเล็ก

ช้องนางขัดขืนสุดแรง ส่ายศีรษะเพื่อหลบหนีจากการลงโทษ แต่ทว่ามือหนาก็มาจับรั้งท้ายทอย จนหมดหนทางขัดขืน ต้องหันมาพึ่งกำปั้นน้อยๆ ระดมทุบตีอกแกร่ง แต่ก็ดันถูกเขารวบเอาไว้

ชายหนุ่มกระแทกกระทั้นจูบรสดุเดือด กัดบดริมฝีปากบนล่าง สอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากนุ่ม แต่ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นอ่อนละมุน เมื่อทนความหอมหวานตรงหน้าไม่ไหว ควานหาความหอมหวาน ไล่เกี่ยวตวัดลิ้นเล็กซึ่งคอยหลบหนี แต่คนมากประสบการณ์กว่าก็สามารถทำให้คนต่อต้านจำยอมจนได้ จนบางครั้งเจ้าหล่อนก็เผลอให้ความร่วมมือกับเขาไปด้วย

รามันไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่ตนกล่าวหาว่าหน้าเงิน เป็นโสเภณี จะให้ความหอมหวานจนแทบคลั่งได้ถึงขนาดนี้ อะไรที่มันหลับก็พานตื่นขึ้นมาหมด จนไม่คิดจะผละออกห่างสักนิด อยากจะกระชากแล้วพาขึ้นเตียงซะตอนนี้ แต่พอนึกถึงสิ่งที่ตนเคยประกาศกร้าวเอาไว้ ว่าจะไม่แตะต้องเจ้าหล่อน รามันก็รีบผละออกห่าง ตีหน้านิ่งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หญิงสาวก้มหน้างุด ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามอง ใบหน้านั้นแดงเห่อไปหมด ทั้งเจ็บ ทั้งอาย นึกด่าทอตนเองที่ไปให้ความร่วมมือกับเขา ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าเขานั้นใจร้ายและรังเกียจตัวของเธอขนาดไหน พอลอบมองก็เห็นเขาตีหน้านิ่ง แถมยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่พูดอะไรออกมา

ช้องนางก็ยิ่งเจ็บใจ ตอนนี้เขาคงนึกเหยียดหยามอยู่ เขาคงคิดว่าเธอง่าย แถมยังเผลอนึกถึงรสจูบของเขา จนต้องรีบสะบัดศีรษะไล่ความคิด

รามันพยายามทำเป็นนิ่ง ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่หัวใจมันกำลังเต้นผิดจังหวะ เต้นโครมครามไปหมด จนแทบจะทะลุออกมา แถมในหัวก็มีแต่ภาพของช้องนาง ยิ่งเมื่อนึกถึงรสจูบ ใบหน้าก็ยิ่งแดงก่ำ จนต้องแสร้งทำเป็นนิ่งเฉยเพื่อกลบเกลื่อน

ณ ผับแห่งหนึ่ง

“อ้าว คุณกิจมาอีกแล้วหรือครับ” เจ้าของผับรูปร่างท้วมเอ่ยถามแขกประจำ ที่ต้องพบเห็นทุกปีของวันนี้ พลางเดินตรงเข้าไปพูดคุย

คนถูกถามยิ้มตอบ

“ครับ ผมจะมาทุกปีละครับ จนกว่าผมจะเจอเธอ” เขาตอบก่อนจะพ่นลมหายใจร้อนๆ ออกมา เพราะปีนี้ก็ยังล้มเหลวเหมือนปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรเขาก็ไม่ถอย จะมาทุกปี จนกว่าจะพบสิ่งที่กำลังตามหา

“ไม่เบื่อหรือครับ มาทุกปีแต่ก็ไม่ได้อะไรกลับไป ผมว่าคุณน่าจะตัดใจเสียดีกว่านะครับ คุณมาที่นี่จะสิบปีอยู่แล้ว แต่คุณก็ไม่เคยได้เจอเธอ แถมหน้าตาหรือชื่อของเธอคุณก็ไม่รู้ แล้วแบบนี้คุณจะหาเธอเจอได้ยังไงครับ แล้วถ้าเจอกัน คุณจะรู้ได้ไงครับว่าเป็นเธอ” เสี่ยใหญ่ร้องถามและเห็นใจในความพยายาม เพราะกิจมานั่งเฝ้าคอยแบบนี้ทุกปี

“ผมไม่ตัดใจหรอกครับ ยังไงผมก็จะมาทุกปี ถึงแม้ว่ามันจะล้มเหลว แล้วที่เสี่ยถามว่าผมจะรู้ได้ไงว่าเป็นเธอ ผมก็ตอบไม่ได้ครับ ผมคิดว่าสักวันพรหมลิขิตคงชักนำให้ผมเจอเธอและรู้ว่าเธอคือผู้หญิงคนนั้น เสี่ยคงไม่ห้ามผมมาที่นี่ใช่ไหมครับ เพราะยังไงผมก็จะมาครับ”

“ผมไม่ห้ามคุณหรอกครับ ผมเองก็ต้องขอโทษคุณด้วยซ้ำ นี่ถ้าวันนั้นกล้องวงจรของผับผมไม่พัง ป่านนี้คุณคงรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ยังไงผมก็ขอให้คุณเจอเธอเร็วๆ นะครับ ผมเอาใจช่วย" เขาตบบ่าเบาๆ แล้วจากไป

 

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก   บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง07-08

    “ฮือ พ่อขา นางเหนื่อยแล้วค่ะ นางไม่อยากจะสู้แล้ว เขาไม่เคยมองนางในแง่ดีเลย มีแต่กล่าวหานาง เขาคงเกลียดนางมาก เขาคงไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีนางเป็นเมีย ฮือ...นางผิดหรือคะ ที่ทำเพื่อช่วยครอบครัว” น้ำตายังคงไหลริน หัวใจดวงน้อยมีแต่รอยแผล และมันคงยากที่จะเยียวยารามันไม่ได้ใส่ใจคนที่วิ่งร้องไห้ไป เขาเดินตรงไปสะสางงานต่อ พอได้เวลาอาหารค่ำก็กลับมา ก่อนจะยกคิ้วขึ้นสูงเมื่อไม่เห็นเมียตีทะเบียน ไหล่หนายกขึ้นสูงอย่างไม่ใส่ใจ คิดว่าหญิงสาวคงเรียกร้องความสนใจ อยากให้ง้อ แต่คนอย่างเขาไม่คิดที่จะง้อใคร ยิ่งเป็นเมียคนนี้ด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีทางป้าน้อยอยากจะเอ่ยถามถึงสาเหตุที่ช้องนางไม่ยอมมากินข้าว แถมพอหล่อนไปตามก็ต้องตกใจ เพราะดวงตาสวยบวมช้ำ ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา แต่ก็ไม่กล้าจะเอ่ยถามเพราะมันเป็นเรื่องของเจ้านาย“มีอะไรหรือเปล่าครับป้าน้อย” เมื่อเห็นว่าป้าน้อยทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ยอมพูดออกมา เสียงเข้มจึงต้องเอ่ยถาม“ทะเลาะอะไรกันคะ ทำไมหนูนางร้องไห้ไม่ยอมมากินข้าว”“ป้าอย่าไปสนใจเลยครับ นิสัยเด็กแบบนั

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก   บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง07

    “ฮือ พ่อขา นางเหนื่อยแล้วค่ะ นางไม่อยากจะสู้แล้ว เขาไม่เคยมองนางในแง่ดีเลย มีแต่กล่าวหานาง เขาคงเกลียดนางมาก เขาคงไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีนางเป็นเมีย ฮือ...นางผิดหรือคะ ที่ทำเพื่อช่วยครอบครัว” น้ำตายังคงไหลริน หัวใจดวงน้อยมีแต่รอยแผล และมันคงยากที่จะเยียวยารามันไม่ได้ใส่ใจคนที่วิ่งร้องไห้ไป เขาเดินตรงไปสะสางงานต่อ พอได้เวลาอาหารค่ำก็กลับมา ก่อนจะยกคิ้วขึ้นสูงเมื่อไม่เห็นเมียตีทะเบียน ไหล่หนายกขึ้นสูงอย่างไม่ใส่ใจ คิดว่าหญิงสาวคงเรียกร้องความสนใจ อยากให้ง้อ แต่คนอย่างเขาไม่คิดที่จะง้อใคร ยิ่งเป็นเมียคนนี้ด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีทางป้าน้อยอยากจะเอ่ยถามถึงสาเหตุที่ช้องนางไม่ยอมมากินข้าว แถมพอหล่อนไปตามก็ต้องตกใจ เพราะดวงตาสวยบวมช้ำ ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา แต่ก็ไม่กล้าจะเอ่ยถามเพราะมันเป็นเรื่องของเจ้านาย“มีอะไรหรือเปล่าครับป้าน้อย” เมื่อเห็นว่าป้าน้อยทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ยอมพูดออกมา เสียงเข้มจึงต้องเอ่ยถาม“ทะเลาะอะไรกันคะ ทำไมหนูนางร้องไห้ไม่ยอมมากินข้าว”“ป้าอย่าไปสนใจเลยครับ นิสัยเด็กแบบนั

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก   บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง06

    ช้องนางสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ความคิด เหล่ไปมองเล็กน้อย เมื่อเจอสีหน้าเรียบเฉย แต่สายตานั้นช่างดูถูก เหยียดหยาม เจ้าหล่อนก็หันกลับมาทำกับข้าวต่อ ไม่อยากจะสบสายตาคู่คม ทำไมกันเขาถึงไม่ยอมมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยนบ้าง ทำไมต้องมองด้วยสายตาเหยียดหยามตลอด“เฮ้อ”“มัวแต่ถอนหายใจกับข้าวมันจะเสร็จไหม”“นางจะรีบทำค่ะ” เธอรีบตอบไม่อยากจะมีปัญหากับอสูรตนนี้ เดี๋ยวตอบช้าก็จะพาลมาหาเรื่องกันอีกจัดการลงมือทำกับข้าวต่อ ไม่ถึงสิบนาทีกับข้าวทุกอย่างก็พร้อมเสิร์ฟ คนนั่งรอก็ตีหน้านิ่ง จนช้องนางแอบหมั่นไส้ บางวันก็นิ่ง บางวันก็ดุอย่างกับยักษ์ คนอะไรช่างมีหลายอารมณ์เสียจริง“แล้วจะยืนหาพระแสงอะไร นั่งลงมากินข้าวสิ พิรี้พิไรอยู่ได้”“ค่ะ” ตอบรับแล้วลอบถอนหายใจ ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะเอาชนะใจอสูรไร้หัวใจได้สักที หรือว่าชาตินี้จะไม่มีหนทาง คิดแล้วก็กลุ้มใจ ได้แต่ภาวนาให้ตัวเองหาวิธีเอาชนะใจชายคนนี้ได้เสียทีกาลเวลาค่อยๆ เปลี่ยนผัน จากชั่วโมงเป็นวัน วันเป็นเดือน ช้องนางมาอยู่ที่นี่ในสถานะเมียกึ

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก   บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง05

    ตั้งแต่วันที่ปะทะคารมกับช้องนางอย่างดุเดือด กระชากเจ้าหล่อนเข้ามาจูบอย่างเร่าร้อน รามันก็พยายามเลี่ยงไม่เข้าใกล้ ทำใบหน้าเรียบตึงใส่ บางครั้งก็เสแสร้งทำเป็นไม่เห็น ทั้งๆ ที่เจ้าหล่อนยืนอยู่ตรงหน้า เหตุผลก็เพราะหัวใจแกร่งมันดันเต้นผิดจังหวะเวลาอยู่ใกล้ๆ รู้สึกอยากจะครอบครองริมฝีปากบางนั้นอีกครั้ง จนต้องข่มใจไม่ให้เข้าใกล้กระทั่งวันนี้วันที่โรสนั้นโทรมา อยากจะคุยกับลูกสะใภ้คนโปรด ทำให้เขาต้องเข้าใกล้ โดยเจ้าหล่อนกำลังวุ่นกับการทำครัว“แม่ฉันอยากจะคุยด้วย” ยื่นโทรศัพท์ไปให้ แต่เมื่อเห็นว่าช้องนางยื่นมือมารับ ก็ชักโทรศัพท์กลับแล้วก้มลงกระซิบบอกวาจาร้ายกาจข้างหูขาว“ตอบคำถามให้มันดีๆ ละ คงรู้นะที่ฉันพูดหมายความว่ายังไง รู้ใช่ไหมหากตอบไม่ดีจะเจออะไร” ขู่เสียงเหี้ยมช้องนางพยักหน้าหงึกหงักรับ ใครจะกล้าพูดขัดใจอสูรเช่นเขา ขืนทำมีหวังอสูรผู้โหดเหี้ยมได้กลับมาอีก ขอให้มันเงียบสงบแบบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่าน เพราะหล่อนจะได้ไม่ต้องเจ็บช้ำใจ ไม่ต้องฟังวาจาเหยียดหยาม“สวัสดีค่ะคุณหญิง”“เดี๋ยวจะตีให้ตายเลย ต้องเรียกว่า

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก   บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง04

    “ผมไม่ห้ามคุณหรอกครับ ผมเองก็ต้องขอโทษคุณด้วยซ้ำ นี่ถ้าวันนั้นกล้องวงจรของผับผมไม่พัง ป่านนี้คุณคงรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ยังไงผมก็ขอให้คุณเจอเธอเร็วๆ นะครับ ผมเอาใจช่วย" เขาตบบ่าเบาๆ แล้วจากไปหัวใจแกร่งกระตุกวูบทุกครั้งเมื่อก้าวเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ภาพเหตุการณ์เมื่อแปดปีก่อนแวบเข้ามาในหัว ยังคงจำเสียงร้องเจ็บปวดของผู้หญิงคนนั้นได้ดี เขารู้ดีว่าตัวเองเลวแค่ไหน พอเหล้าเข้าปากจนเมามาย ทำให้เขาพร่าพรหมจรรย์ของผู้หญิงคนหนึ่ง แถมพอตื่นขึ้นมาก็จำอะไรแทบไม่ได้ กระทั่งหน้าตาของเจ้าหล่อน เขาก็ยังคงจำไม่ได้“มาคนเดียวหรือคะ ให้หนิงนั่งเป็นเพื่อนไหม”หลุดออกจากภวังค์ความคิดเมื่อได้ยินเสียงหวาน ก่อนจะหันไปมอง แล้วพบว่าผู้หญิงคนหนึ่งกำลังอยู่ในอาการเมามาย ส่งยิ้มหวานฉ่ำมาให้ แถมยังลูบไล้ไปตามร่างกาย“ไม่เป็นไรครับ ผมขอนั่งคนเดียวดีกว่า”“ทำไมล่ะคะ ก็หนิงอยากจะนั่งด้วยนี่คะ ยิ่งนั่งที่ตักด้วยยิ่งดี” พลันขยับมานั่งข้างๆ“งั้นก็ตามใจครับ” ในเมื่อปฏิเสธแล้ว อีกฝ่ายก็ยังคงตื๊อ เขาก็ไม่อยากจะปฏิเสธให้เสียหน้า ริมฝีปากหนาต้องเม้มแน่น ตั้งแต่มานั่งตรงนี้ เขาก็รู้สึกเหมือนมีคนกำลังจับจ้อง จนรู้สึ

  • ก็แค่เมียแต่งที่ไม่รัก   บทที่ 3 มุมที่แตกต่าง01-03

    “แกไปหาหนูรีมาเหรอ”รามันพยักหน้าตอบและพ่นลมหายใจร้อนๆ ออกมา“แล้วหนูรีเป็นไงบ้าง?” เขาถามด้วยความเป็นห่วง รู้ดีว่าเด็กน้อยคนนี้มีความสำคัญกับเพื่อนรักมากแค่ไหน เรียกว่าตอนนี้ที่หัวใจดวงแกร่งยังเต้นอยู่บ้าง ไม่ได้ด้านตายไปซะหมด ก็เพราะเด็กผู้หญิงคนนี้“ยังเหมือนเดิม” รามันตอบเสียงเศร้า พลางนึกถึงความน่ารักของลูกสาวสุดรัก“พ่อรามันขา อุ้มหนูรีหน่อยนะคะ หนูรีคิดถึงพ่อรามัน พ่อรามันเหนื่อยไหมคะ เดี๋ยวหนูรีจะนวดให้”เมื่อนึกถึงเสียงออดอ้อน ใบหน้าเล็กที่ฉีกยิ้มทีไรก็เรียกรอยยิ้มบนใบหน้าคมได้ทุกครั้ง แต่ก็ต้องกำมือแน่นด้วยความโกรธแค้นเมื่อนึกถึงต้นเหตุที่ทำให้เสียงออดอ้อนนี้หายไป เหลือไว้แต่ความเศร้าและร่างที่เกือบไร้วิญญาณ สามปีเต็มแล้วสิที่ลูกสาวของเขาต้องนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา สามปีแล้วที่เขาไม่ได้ยินเสียงออดอ้อน ไม่ได้เห็นความน่ารักของเด็กคนนี้แววตาที่เศร้าลงถนัดตาของเพื่อนรัก ทำให้กิจเดินไปตบบ่าเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ“แกเชื่อฉันนะ อีกไม่นานหนูรีก็ฟื้นมา หนูรีเป็นเด็กน่ารัก นิสัยดี ฟ้าต้องเห็นใจ” พลางยกนาฬิกาขึ้นมาดู เพราะตนต้องไปเข้าเวรตรวจคนไข้“ฉันไปก่อนนะเพื่อน มีตรวจคนไข้ ส่วนแกไปรับเ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status