ร่างเล็กได้แต่นั่งเม้มปากตัวเองแน่นเมื่อคนตัวใหญ่ได้ขยับใบหน้าออกไปจากตัวของเธอแล้ว ดวงตากลมโตของผักกาดจ้องมองราเชนทร์เพื่อครุ่นคิดหาทางออกจากตรงนี้ที่คิดยังไงก็คิดไม่ออกเพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับการที่ตัวเขาเองก็จ้องหน้าเธออยู่
“เข้ามาแล้วมันออกไปยากนะถ้ายังอาบน้ำให้ฉันไม่เสร็จ” เหมือนเขาจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่จึงเอ่ยขึ้นทำให้ผักกาดถึงกับกระพริบตาปริบๆ แล้วถอยหลังหนีเขาไปนั่งชิดขอบอ่างแทน
“หนูจะฟ้องพ่อกับแม่ว่าคุณทำตัวไม่ดีกับหนู!”
“ฉันเห็นเธอบอกพวกท่านกี่ครั้งก็ไม่เห็นพวกท่านจะมาสนใจเด็กดื้ออย่างเธอ”
“หนูไม่ได้ดื้อ!”
“ถ้าไม่ดื้อจริงพ่อกับแม่คงไม่ส่งให้มาทำงานที่นี่หรอกมั้ง” ราเชนทร์พูดอย่างไม่ได้สนใจเจ้าตัวเล็กที่นั่งทำหน้าบึ้งตึงใส่เขาอยู่ เพราะก่อนหน้านี้พ่อแม่ของผักกาดเคยทำงานอยู่ที่ไร่ของเขาตั้งแต่คบกันแรกๆ จนตั้งท้องและคลอดเจ้าผักกาดน้อยจึงขอลาออกเปิดกิจการเล็กๆ อย่างร้านบะหมี่แทนและเมื่อเจ้าผักกาดน้อยดื้อพวกเขาจึงตัดสินใจส่งเธอมาดัดนิสัยที่นี่อย่างไม่มีกำหนดให้เธอกลับ..เรื่องสุดท้ายเธอยังไม่รู้นะ
“พ่อเลี้ยงขา พ่อเลี้ยงพูดแบบนั้นก็เกินไปนะคะ..หนูดื้อที่ไหนกัน”
“เกินไปงั้นเหรอ เธอรู้มั้ยว่าน้ำเสียงแบบนี้ของเธอมันจะทำให้เธอไม่ปลอดภัยเอานะ”
“ไม่ปลอดภัย อืม..หนูไม่เห็นเข้าใจเลย” เธอพูดพร้อมกับหยัดกายลุกขึ้นยืน ทุกคำพูดที่พูดมันออกไปนั้นแน่นอนว่ากัดฟันพูดออกไปยิ่งอยู่ไปนานๆ พ่อเลี้ยงสุดหื่นนี่ก็ยิ่งหลอกล่อเธอด้วยวิธีต่างๆ จนเธอจนมุมแบบนี้ทุกที
“งั้นหนูผักอยากจะเข้าใจมันหรือเปล่าครับ?”
“หนูอยากเข้าใจมันค่ะ แต่ไม่อยากเข้าใจตอนนี้เลย..”
“ลงมา!!” เขากดเสียงให้ต่ำลงทันทีเมื่อเจ้าผักกาดน้อยกำลังจะก้าวขาออกจากอ่างอาบน้ำ เธอจึงหันกลับมามองเขาด้วยสายตาละห้อยและกลับมานั่งลงตามเดิม
“ไหนคุณบอกว่าถ้าหนูพูดกับคุณเพราะๆ น้ำเสียงหวานๆ คุณจะปล่อยหนูไง” เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำนิสัยเจ้าเล่ห์เจ้าเหลี่ยมใส่เธอแต่มันหลายครั้งจนนับไม่ถ้วนและเขาเองก็เคยพูดว่าเวลาที่เธออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ขอแค่พูดจาหวานๆ เอาอกเอาใจเขาเขาก็จะปล่อยเธอไป
“ฉันเคยพูดแบบนั้นเหรอไม่เห็นจำได้เลย”
“นี่!!”
“มาถูตัวให้ฉัน แช่อยู่นานเดี๋ยวตัวจะเปื่อย”
“ตะ แต่”
“ผักกาดฉันไม่อยากดุเธอนะ” น้ำเสียงเข้มๆ ของราเชนทร์บอกพร้อมกับสายตาคมกริบที่จ้องมองคนตัวเล็กก่อนจะเอนศีรษะพิงขอบอ่างแล้วหลับตาลง ส่วนผักกาดก็ได้แต่จำใจไปนั่งถูตัวให้เขา ที่จริงเธอก็เคยมาถูตัวให้เขาหลายครั้งแล้วเพียงแต่ทุกครั้งเขาจะสวมใส่บ็อกเซอร์ไงแต่นี่มันไม่ได้สวมใส่อะไรเลย…แล้วเธอจะต้องถูมันให้เขาด้วยมั้ย? ไอ้นั่นน่ะ!
“ละ แล้วตรงนั้นต้อง..ถูด้วยมั้ย?” นิ้วชี้ยกขึ้นไปจิ้มปลายจมูกของคนตัวใหญ่เบาๆ จนเขาลืมตาขึ้นมามองเธอที่จ้องไปยังลำแก่นของเขาด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ ราเชนทร์จึงจับมือเธอให้ไปจับมันแทนการตอบว่าต้องถูมันด้วย
“ฉันยังไม่สนใจของของเธอ ฉะนั้นเธอก็อย่ามาสนใจของของฉันสิ”
“คุณยังกล้าพูดมาอีกนะ”
“ทำไม?”
“ก็ดูคุณสิ แล้วดูฉันฉันไม่ได้โชว์คุณหมดสักหน่อย”
“ถ้างั้นเธอก็ถอดให้หมดสิ ฉันจะได้สนใจของเธอ..เธอจะได้ไม่ต้องมาน้อยใจที่ฉันไม่ได้มองของเธอ”
“ใครน้อยใจ คุณอย่ามาพูดจาไร้สาระนะ”
“อืม รีบถูมันเถอะก่อนที่มันจะแข็งไปมากกว่านี้” ราเชนทร์ขบกรามตัวเองแน่น ตอนนี้เจ้าดุ้นเอ็นของเขามันเริ่มขยายตัวพองใหญ่ขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อถูกมือเล็กยังจับมันค้างไว้แบบนั้น ผักกาดจึงก้มหน้าลงไปมองมันด้วยมือที่สั่นก่อนจะบรรจงถูไถมันไปมา
พรึ่บ! แต่อยู่ๆ เขาก็จับมือเธอไว้แล้วขบกรามตัวเองแน่นเมื่อตอนนี้อารมณ์ของเขามันเหมือนจะระงับไว้ไม่อยู่แล้ว ใบหน้าคมเริ่มแดงก่ำไปทั้งหน้า ชายหนุ่มจึงหลับตาลงพร้อมกับกำมือตัวเองแน่นจนเห็นเส้นเลือดตามแขนที่นูนปูดขึ้นมา ผักกาดที่เห็นดังนั้นถึงกับต้องขยับตัวถอยหลังหนีอย่างรวดเร็วเมื่อคิดว่าตัวเองเริ่มจะไม่ปลอดภัยแล้ว
“จะไปไหนก็ไป”
“คุณไม่ต้องให้ฉันช่วยใช่มั้ยคะ?” ทั้งที่ปากถามออกไปแบบนั้นแต่ตัวกับลุกขึ้นไปยืนด้านนอกอ่างอาบน้ำแล้ว ราเชนทร์ที่ได้ยินคำถามของเธอเช่นนั้นก็ลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยแววตาที่เหมือนเสือร้ายที่หื่นกระหายอากขยุ้มเหยื่อเต็มที
“อยากช่วยเหรอ?” น้ำเสียงเรียบเย็นเอ่ยถามขณะที่มือของเขาขยับลงไปจับลำแก่นที่ใหญ่โตนั้นชักรูดขึ้นลงเบาๆ ทำเอาผักกาดที่เสนอตัวจะช่วยเขานั้นสั่นหัวให้เขาระรัว
“มะ ไม่ค่ะ”
“หึ ออกไป!!”
“ค่ะ..” หยิบเสื้อผ้ามาถือไว้แล้วก็เดินออกจากห้องน้ำมาสวมใส่เสื้อผ้าด้านนอกแล้วออกจากห้องนอนของเขาและรีบวิ่งไปยังหลังบ้านของพ่อเลี้ยงราเชนทร์ซึ่งมีบ้านหลังเล็กๆ มันเป็นบ้านที่เขาสร้างมันให้เธออยู่เพียงลำพังโดยเฉพาะ
ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดีเพราะถึงแม้มันจะเป็นบ้านที่มีอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างครบครันแต่เขากลับบังคับให้เธออยู่คนเดียวห้ามให้ใครเข้ามายกเว้นตัวเขากับโจอี้ และถึงแม้ถัดจากบ้านเธอไปอีกประมาณร้อยเมตรจะมีบ้านพักคนงานก็เถอะแต่เขาสั่งไม่ให้ใครเข้ามาบริเวณบ้านเธอ ซึ่งเหตุผลที่ถามเขาไปก็..ไม่มี เขาตอบมาแบบนี้! เธอล่ะอยากจะเอาหัวชนกำแพงตายให้กับความไม่มีเหตุผลของเขาจริงๆ
ก๊อกก๊อก! แต่ยังไม่ทันที่ผักกาดจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายที่เปียก เสียงประตูห้องก็ถูกเคาะดังขึ้น ร่างบางจึงหยิบผ้าขนหนูมาพาดบนหัวไหล่ไว้ก่อนจะเดินออกไปเปิดประตูก็เห็นว่าเป็นโจอี้ที่ยืนหน้าเข้มอยู่ที่หน้าบ้านของเธอ
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“พ่อเลี้ยงบอกว่าอย่าลืมเอาจำนวนสัตว์ทั้งหมดไปให้พ่อเลี้ยงและคืนนี้พ่อเลี้ยงต้องการให้คุณไปเป็นคู่ควงงานกินเลี้ยงที่บ้านคุณหญิงหทัยรัตน์ให้คุณเตรียมตัวรอด้วยครับ”
“ได้ไง! ฉันบอกไปตั้งแต่เมื่อวานเช้าแล้วนะว่าคืนนี้ฉันจะไปงานวันเกิดเพื่อน”
“อันนี้ผมก็ไม่ทราบครับ พ่อเลี้ยงบอกมาแบบนี้..ถ้าไงผมไม่กวนแล้วครับ” โจอี้พูดจบก็เดินออกไปส่วนผักกาดแน่นอนว่าเธอก็รีบวิ่งกลับไปยังบ้านของพ่อเลี้ยงทันที แล้วก็เห็นว่าเขากำลังเดินลงมาจากชั้นบนพอดิบพอดี สายตาคมกริบชำเลืองมองเธอแวบหนึ่งแล้วปลายตาไปมองทางอื่นเหมือนจงใจที่จะไม่สนใจเธอ
“หนูบอกแล้วไงว่าวันนี้หนูจะไปงานวันเกิดเพื่อน”
“ค่อยไปวันอื่น”
“พ่อเลี้ยงอย่ามาตลกกับหนู งานวันเกิดมันไม่ได้จัดวันไหนก็ได้สักหน่อย!” เธอยกมือขึ้นมาเท้าสะเอวแล้วบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ แต่ชายหนุ่มร่างสูงกลับไม่ได้สนใจอะไรเพียงแต่แบมือมาทางเธอ
“จำนวนสัตว์ทั้งหมด”
“อยู่ที่บ้านไม่ได้หยิบมา!”
“กลับไปเอามา!”
“ไม่!!”
“ผักกาด!!”
“พ่อเลี้ยงต้องให้หนูไปงานวันเกิดเพื่อนก่อน” จากมือที่เท้าสะเอวก็ยกขึ้นมากอดอกยื่นข้อเสนอกับเขา ราเชนทร์จึงแค่นหัวเราะออกมาในลำคอก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงแล้วก้าวตรงไปหาร่างเล็กเรื่อยๆ จนเธอต้องถอยหลังหนีเขาจึงหยุดเดิน
“โจอี้พาคนไปนับจำนวนสัตว์ที่เหลือมา ส่วนผักกาดเรื่องกวาดขี้ไก่ขี้หมูเปลี่ยนให้มาเป็นหน้าที่เธอ”
“เดี๋ยวหนูไปหยิบมาให้” ได้ยินเช่นนั้นมีหรือคนอย่างผักกาดจะยอมไปกวาดขี้หมูขี้ไก่ เธอรีบวิ่งกลับไปที่บ้านแล้วหยิบเอกสารจำนวนสัตว์ที่เหลือทั้งหมดมาให้ราเชนทร์อย่างรวดเร็วจนเหงื่อตามใบหน้านั้นเริ่มผุดขึ้นมาจากการวิ่งไปกลับอยู่นี่แหละ!
“พ่อกับแม่เธอเป็นคนพูดกับฉันเองนะว่าหากเธอดื้อไม่เชื่อฟังจัดการยังไงก็ได้ แล้วเธอก็น่าจะรู้ว่าฉันชอบจัดการกับคนดื้อยังไง..”
“หนูไม่ได้ดื้อ!!”
“การที่คุณเถียงพ่อเลี้ยงแบบนี้ก็คือการดื้อกับพ่อเลี้ยงนะครับ” โจอี้ที่ยืนอยู่นั้นเอ่ยบอกหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนกระทืบเท้าตัวเองอยู่ด้านหน้าราเชนทร์ เธอจึงหันมาทำหน้ามุ่ยใส่เขาก่อนจะเดินกระแทกเท้ากลับบ้านตัวเองอย่างไม่เถียงอะไร เถียงไปก็ไม่เคยชนะพวกเขาแล้วจะเถียงไปทำไมให้เมื่อยปากล่ะ สู้ไปอาบน้ำให้ร่างกายเย็นสดชื่นดีกว่า
มาถึงบ้านของราชันย์ร่างสูงก็รีบเดินตรงเข้าไปในบ้านซึ่งก็เห็นว่าบิดาของเขากำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ส่วนภาวิณีย์นั้นนั่งปักดอกไม้ลงแจกัน พรึ่บ! เพล้ง!! เขาเดินไปหยิบแจกันจากมือภาวิณีย์ปาลงบนพื้นจนมันแตกกระจายท่ามกลางความตกใจของคนในบ้าน“แกทำบ้าอะไรของแกห้ะ!!”“ทำอะไรเหรอ!! ม๊าผมตายแล้วทุกคนยังมานั่งสบายอารมณ์อยู่ พอใจพวกคุณแล้วใช่มั้ย!!?” ราเชนทร์หันไปตะเบ็งเสียงใส่ผู้เป็นพ่อที่พอได้ยินประโยคของบุตรชายก็ใจหายขึ้นมาทันที ส่วนคนในบ้านนั้นต่างก็ตกใจไม่แพ้กัน“แกพูดอะไรของแก”“ม๊าผมตายแล้ว กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย!!”“เป็นไปได้ไง”“มันเป็นไปได้แล้ว!!!”“ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับพวกเรา ฉันไม่ได้สั่งคนไปฆ่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องก็ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องไปเดือดร้อนยุ่งเรื่องของครอบครัวนายนะ” ภาวิณีย์พูดแล้วก็เดินไปนั่งลงบนโซฟาหยิบแก้วชามาจิบดื่มอย่างสบายอารมณ์ ส่วนราเชนทร์นั้นก็ได้แต่ยืนมองหล่อนด้วยสายตาที่แข็งกร้าง มือหนากำเข้าหากันแน่น“ป๊าไม่รู้เรื่องอะไรเลย ชุตายตั้งแต่เมื่อไหร่?”“ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่เคยสนใจอะไรเลยไง ปากบอกว่ารักม๊าผมมากกว่าคุณภาแต่ไม่เคยสนใจอะไรผมกับม๊าเลยสักนิด!!!”“ยัยชุเป็
เมื่อมาถึงบ้านผักกาดก็รีบดึงมือของราเชนทร์ใหขึ้นไปบนห้องแล้วจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองและของเขาออกก่อนจะนั่งยองลงตรงหน้าของเขา มือเล็กจับแท่งเอ็นไว้ก่อนจะใช้ปลายลิ้นตวัดเลียมันอย่างช่ำชอง“ซี้ดดด! ผักกาด” ฝ่ามือกว้างขยุ้มลงบนเส้นผมของคนตัวเล็กเมื่อเธอกำลังใช้ปากครอบครองมันทั้งดุ้น“บ๊วบๆๆ อ้า!”“พ่อเลี้ยงอยากให้หนูขย่มให้มั้ยคะ!?” ผล่ะปากออกจากแท่งเอ็นเพื่อถามชายหนุ่มร่างสูงที่ตอนนี้ยืนหน้าแดงก่ำอยู่ เขาขบกรามตัวเองแน่นจนเห็นเส้นเลือดที่ปูดขึ้นมาตามคอแล้ว“แน่นอนว่าฉันอยากให้เธอขย่มให้ อ้าส์! แค่ปากของเธอมันก็ทำให้ฉันเสียวซ่านแล้วผักกาด!”“ถ้างั้นพ่อเลี้ยงขึ้นไปนอนนะ เดี๋ยวคืนนี้หนูจะบริการพ่อเลี้ยงทั้งคืนเลย” พูดพร้อมกับกัดปากยั่วยวนเพศตรงข้าม ราเชนทร์จึงกระตุกยิ้มอย่างพอใจกับการบริการครั้งนี้ของแฟนสาว จากนั้นเขาก็เดินไปนอนบนที่นอน ส่วนผักกาดก็รีบขึ้นไปนั่งคร่อมเขาโดยที่รับเอาแท่งเอ็นอุ่นเข้าไปในตัวเองด้วย“ฉันเพิ่งนึกได้ว่าเป็นฉันต่างหากที่ต้องทำ ฉันต้องลงโทษเด็กดื้ออย่างเธอ” พรึ่บ! แต่เพราะส่วนมากเขาจะชอบเป็นฝ่ายคุมเกมส์มากกว่าจึงจับร่างบางพลิกให้นอนลง ปึ่ก! แล้วเขาก็กระแทกกายเข้าใ
เมื่อได้ยินชมพูตอบแบบนั้นรุ่งฟ้าก็ได้แต่นั่งอ้าปากเหวอ “เธอมองผิดหรือเปล่าชมพู” แล้วเอ่ยถามชมพูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าเธอไม่ได้กินมันผิดจริงๆ แต่ชมพูยังคงพยักหน้าเป็นคำตอบว่าจริง เธอกินมันไปจริงๆ“มีอะไรกัน!?” ราเชนทร์ที่ไม่เข้าใจสิ่งที่สาวๆ คุยกันนั้นจึงถามขึ้น“ก็หนูกับลุงคลอสไปได้ยินพี่สายธาร พี่ลูกปัดและพี่ปุ๊กลุ๊คคุยกันว่าจะมอมยาจับพ่อทำผัว พวกหนูก็เลยจะไปจัดการให้ แต่ว่าน่าจะล่มไม่เป็นท่า…” ชมพูตอบพี่ชายด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วแล้วอ่อนลงในประโยคหลัง ถึงจะไม่เข้าใจว่ายาปลุกเซ็กส์คืออะไรแต่ดูจากสีหน้ารุ่งฟ้าแล้วน่าจะไม่ใช่เรื่องดี“แล้วเธอก็กินไปเหรอ?” ภามถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าสาวๆ พวกนี้ไม่ก่อความวุ่นวายให้คนอื่นแต่เหมือนจะก่อความวุ่นวายให้ตัวเองซะงั้น รุ่งฟ้าพยักหน้าให้เบาๆ ก่อนจะกลืนน้ำลายดังอึกจนทุกคนหันมามองเธอ“เป็นอะไร!?” คลาสถามขึ้นเมื่อรุ่งฟ้าเริ่มจะนั่งไม่อยู่นิ่ง เธอส่ายหน้าให้เขาเบาๆ แล้วพ่นลมหายใจออกช้าๆ ตอนนี้ภายในกายของเธอเริ่มจะร้อนลุ่มขึ้นมาแล้ว“ยาปลุกเซ็กส์เป็นยังไงเหรอ?”“อยากลองดูล่ะ เธอได้ควบม้าทั้งคืนอ่ะ” ราเชนทร์ตอบหญิงสาวข้างกายอย่างทีไปทีแต่ผักกาดถึ
จากนั้นเจ้าของงานอย่างคุณวาสนานักธุรกิจสาวชื่อดังก็ขึ้นเวทีเพื่อกล่าวเปิดงานพูดคุยกับแขกในงานตึกตักๆ เสียงวิ่งของชมพูดังขึ้นมาพร้อมกับร่างเล็กมาหยุดฝีเท้าที่ด้านหน้าของผักกาด“พี่ผักแย่แล้ว!”“อะไรคะ?” ผักกาดที่นั่งอยู่บริเวณโต๊ะทานอาหารนั้นถามขึ้นเมื่อเห็นชมพูวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมกับคลอสที่เดินตามหลังมาอีกที“พี่สายธารค่ะ เขาจะจับพ่อทำผัว”“น้องชมพู พูดอะไรคะเนี่ย?”“จริงๆ หนูกับลุงคลอสไปได้ยินมา” ตอบด้วยสีหน้าที่จริงจนผักกาดต้องหันไปมองคลอสเชิงถามว่าจริงเหรอ ซึ่งคลอสก็พยักหน้าให้ก่อนจะเดินไปนั่งข้างน้องสาว“พี่พาชมพูไปเข้าหองน้ำมาเลยได้ยินสายธารคุยกับลูกปัดว่าจะมอมยาพ่อเลี้ยงจับมาทำผัว”“จริงเหรอ?”“หน้าพี่ชายเธอดูไม่น่าเชื่อถือลยหรือไง” คลอสถามน้องสาวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เมื่อเห็นว่าเจ้าผักจะไม่ค่อยเชื่อคำพูดของเขาสักเท่าไหร่“ก็เชื่อ นี่…ไปหาอะสนุกๆ ทำกันปะ” ผักกาดหันไปมองรุ่งฟ้ากับชมพูสลับกัน ดวงตากลมโตฉายแววซุกซนออกมาทันที“ฉันไม่มาเล่นไร้สาระกับเธอหรอกนะ”“อ่า ถ้างั้นเรื่องเธอพี่ชายฉันพูดออกไปช่วยไม่ได้นะ”“ก็ได้! จะทำอะไรว่ามา”“เธอกับชมพูไปตามดูสายธารเดี๋ยวฉันไปหาสองพี่น
“น้องผักสวยจังเลยนะครับวันนี้” เสียงของภามเดินตรงเข้ามาหาผักกาดแล้วเอ่ยชมคนตัวเล็กที่กำลังยืนตักเค้กจากจานในมือเข้าปาก เธอจึงหันไปฉีกยิ้มหวานให้ภามใบหน้าคมหล่อเข้ม ผมดกดำถูกเซ็ตไว้อย่างลงตัว ชุดที่เขาสวมใส่เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวสวมทับด้วยเสื้อสูทสีครีมกางเกงขายาวสีเดียวกับเสื้อสูท รองเท้าหนังคู่แพงนั้นถูกขัดจนเงาวับเมื่อมองสำรวจความหล่อของเขาเสร็จแล้วผักกาดก็รีบเคี้ยวและกลืนเค้กลงท้อง“พี่ภามก็ดูดีนะคะ”“ต้องนิดนึงครับ…น้องตัวเล็กชื่ออะไรนะครับ?”“ชมพูค่ะ พี่ผักเป็นแฟนพ่อนะคะอย่าคิดจะมาจีบ” ชมพูเอ่ยตอบภามด้วยน้ำเสียงสดใส ดวงตากลมโตจ้องมองคนตรงหน้าเขม็งจนภามกับผักกาดถึงกับต้องหัวเราะออกมาเบาๆ“พี่ไม่จีบหรอกครับ”“อ้าว! ไม่จีบเหรอคะ?”“หื้ม เรามีแฟนแล้วพี่จะไปจีบได้ไง”“ก็เห็นพี่ชอบเข้ามาทักทายมาพูดด้วยเลยคิดว่าจะมาจีบ” หญิงสาวร่างเล็กถามด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ อุตส่าห์หลงตัวเองว่าที่เขาเข้ามาหาก็เพราะว่าจะกลับมาจีบเธอใหม่ ไม่ได้อยากกลับไปคบแต่คิดว่าตัวเองสวยขึ้นไง แบบเออ…หลงตัวเองอ่ะ ฮิฮิ!“แค่คิดถึงเลยเข้ามาทัก อีกอย่างผักเป็นคู่หมั้นของพ่อเลี้ยงนี่นา”“พี่ก็รู้เหรอคะ?”“ทุกคนก็รู้นี่ครับ”“จ
เมื่อได้ยินแฟนสาวพูดออกมาเช่นนั้นแล้วราเชนทร์ก็ถึงกับนั่งยิ้มกริ่มออกมาคนเดียว ส่วนผักกาดเธอก็ลุกขึ้นไปปัดกวาดทำความสะอาดบ้านของตัวเองต่อจนเสร็จเรียบร้อยก็เห็นราเชนทร์ยังคงนั่งยิ้มอยู่ไม่หยุด“มานั่งยิ้มอะไรอยู่นี่ควรจะกลับไปนอนพักมั้ยคะ?” “อืม หกโมงก็อาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยนะ”“โอเคค่ะ”“ครับ…” ตอบรับด้วยรอยยิ้มแล้วก็เดินออกไป“พิลึกคนจริง นึกจะมาอารมณ์ดีก็มาอารมณ์แบบไม่ต้องมีเรื่องมีราว” พูดกับตัวเองแล้วก็เดินไปเอนตัวนอนบนโซฟาเพื่อพักผ่อนรอไปงานในอีกไม่กี่ชั่วโมงเวลา 19:17 น.ตอนนี้ผักกาดยืนอยู่หน้ากระจกในชุดเดรสสายเดี่ยวกระโปรงสั้นเหนือเข่าขึ้นมาสีชมพูอ่อน ใบหน้าเรียวถูกแต่งเติมเพียงเล็กน้อย ผมยาวดัดลอนและปล่อยลงมากลางหลัง เมื่อพอใจกับความสวยของตัวเองแล้วเธอก็หยิบรองเท้ามานั่งสวมที่โซฟาก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาสะพายแล้วเดินตรงไปยังบ้านหลังใหญ่“เมียใครสวยจังเลย” และเมื่อผักกาดก้าวขาเข้าไปในตัวบ้าน เสียงทุ้มของราเชนทร์ก็ดังขึ้น สายตาคมจับจ้องไปที่ร่างเพรียวระหงษ์อย่างไม่ละสายตาจนผักกาดต้องเดินไปยืนข้างโจอี้“เขาเป็นอะไรคะ?”“ผมถาม เขาบอกว่าคุณผักน่ารักกับเขาครับ”“นะ หนูน่ารั