สัญชาตญาณของภาริตาก็บอกกับตัวเองเลยว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย เธอจะต้องหนีจากฝรั่งคนนี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นเธอซวยแน่ๆ นอกจากจะไม่ข่าวแล้วเธอยังจะโดนจับได้อีก ตอนนี้เธอต้องหาทางหนีทีไล่แล้วล่ะ ภาริตาคิดไปก็มองไปรอบๆทันที
“ไม่ได้ยินที่ผมถามเหรอว่าคุณตามเจ้านายของผมมาทำไม....คุณจะตอบมาดีๆหรือให้ผมเค้นเอาคำตอบจากคุณ...” บรูโน่เอ่ยถามด้วยเสียงเข้มแล้วเขาก็เข้าไปใกล้เธอ
“ฉันไม่ได้ตามเจ้านายของคุณสักหน่อย...ฉันแค่จะมาพักที่โรงแรมนี้...คุณอย่ามากล่าวหากันนะ...แล้วรับผิดชอบเลยนะที่คุณทำลายกระจกรถของฉันแตกน่ะ ไม่งั้นฉันแจ้งตำรวจจับคุณแน่” ภาริตาพูดไปก็มองซ้ายทีขวาทีอย่างเอาตัวรอด
“ถ้าคุณไม่ได้ตามเจ้านายผมจริง ผมจะรับผิดชอบให้ แต่ผมต้องตรวจให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ตามเจ้านายของผมมาจริง....พรึบ....เห้ย...ค้นรถของผู้หญิงคนนี้” บรูโน่พูดไปแล้วเขาก็เอามือจับแขนของเธอให้ออกห่างจากประตูรถ แล้วเขาก็สั่งลูกน้องให้ค้นรถของเธอทันที
“อือ..อย่ามาจับตัวฉันนะ...ปล่อย...พรึบ....นี่พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาค้นรถฉันห้ะ ฉัน ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ตามเจ้านายของพวกคุณ ทำไมฟังไม่เข้าใจห้ะ” ภาริตาด่าพวกฝรั่งที่เข้าไปค้นรถเธออย่างเสียงดัง
“กรุณาให้ความร่วมมือด้วย...ไม่อย่างนั้นคุณรู้ว่าผมจะทำอะไร...” บรูโน่อ้าแขนเสื้อของเขาให้เธอดูปืนที่เขาซ่อนอยู่ เขาก็เอ่ยขู่เธอทันที
ภาริตาเห็นปืนที่อยู่ในเสื้อของชายหนุ่มตรงหน้าก็กลืนน้ำลายลงคอทันที ถ้ากล้าเอาปืนมาขู่กันขนาดนี้แล้วเธอว่ามันอันตรายสำหรับเธอจริงๆแล้วล่ะ
“นายครับ กล้องโทรศัพท์เปิดค้างไว้อยู่ครับ...” ลูกน้องของบรูโน่ถือโทรศัพท์ของหญิงสาวออกมาให้บรูโน่ดู ซึ่งหน้าจอยังเปิดโหมดถ่ายรูปอยู่ ทำให้บรูโน่รู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ต้องแอบถ่ายรูปของเจ้านายของเขาไว้แน่ๆ
ภาริตาก็รู้ชะตากรรมของตัวเองทันทีเลยว่าถ้าชายหนุ่มเปิดเจอว่าเธอถ่ายอะไรเธอต้องไม่รอดแน่ๆ เอาไงดี วิ่งตอนนี้เลยแม่ง..พรึบ...
“จับตัวผู้หญิงคนนี้ไว้...พรึบ...บอกรหัสโทรศัพท์มา...เดี๋ยวนี้ ก่อนที่ผมจะกรอกลูกปืนใส่ปากของคุณ...” บรูโน่มือไวรีบคว้ามือของผู้หญิงคนนี้ได้ เขาก็ดันตัวเธอส่งไปให้ลูกน้องของเขาจับมือเธอไคว่ไปด้านหลังทันที ก่อนจะเอ่ยถามรหัสโทรศัพท์ของเธอ พร้อมกับเอาปืนมาจิ้มที่หน้าสวยๆของเธอแบบขู่
“4321” ภาริตาพูดด้วยเสียงสั่นเลยเพราะปืนจ่อหน้าแบบนี้เธอจะไม่บอกได้ยังไงล่ะ ทำไมเธอต้องมาซวยเจอคนพวกนี้ด้วยนะ
ได้ยินแค่นั้นบรูโน่ก็กดเข้าไปดูรูปถ่ายของหญิงสาวทันที เขาก็เห็นภาพล่าสุดที่เธอถ่ายคือภาพของเจ้านายของเขาและผู้หญิงตั้งแต่ออกจากคลับมา จนกระทั่งคลิปที่เจ้านายเขาเหมือนจะมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นในรถ จนกระทั่งทั้งสองลงจากรถไป บรูโน่ก็กดปิดหน้าจอทันทีแล้วมองหญิงสาวแบบจดจ้อง
“คุณเป็นใคร...มาถ่ายรูปเจ้านายของผมแบบนี้ทำไม ตอบมา...” บรูโน่เอ่ยถามไปแล้วเขาก็เอาปืนจ่อที่แก้มของเธอแบบข่มขู่ให้เธอกลัว
“ฉัน...ฉันเป็นนักข่าวค่ะ ฉันแค่จะมาทำข่าวของคุณแพม ผู้หญิงที่มากับเจ้านายของคุณเท่านั้น...ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันแค่ทำงานตามหน้าที่ของตัวเองเท่านั้น ฉันไม่ได้จะทำอะไรไม่ดีเลยนะคุณ...ปล่อยฉันเถอะนะ ฉันต้องดูแลครอบครัวของฉัน ถ้าฉันเป็นอะไรไป ครอบครัวฉันแย่แน่ๆ แม่ฉันก็ไม่ค่อยสบาย ลูกของฉันก็กำลังห้าเดือนเอง สามีก็มาตายจากไป ถ้าฉันตายไปพวกเขาต้องแย่แน่ๆ ลูกฉันยังกินนมแม่อยู่เลย ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ” ภาริตายกมือไหว้แล้วพูดไปอย่างโกหกให้ตัวเองดูน่าสงสาร เพราะนาทีนี้ต้องรอดเท่านั้น
“ถ้าเจ้านายผมไม่สั่งให้จับตัวคุณไว้ ผมก็คงจะปล่อยคุณไปอยู่หรอก ให้ผมรายงานเจ้านายของผมก่อนก็แล้วกัน ถ้าเขาปล่อยคุณไปผมก็จะปล่อย...เห้ย...เดี๋ยวฉันจะไปรายงานนายก่อน...นายเอาตัวผู้หญิงคนนี้ขึ้นรถแล้วรอฉันอยู่ที่นี่...” บรูโน่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาทันที เพราะเขาก็ไม่ได้อยากจะใจร้ายทำร้ายผู้หญิงที่เลี้ยงดูครอบครัวแบบนี้หรอก แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ก็เจ้านายของเขาสั่งให้จับตัวไว้ ถ้าไม่มีคำสั่งเขาก็ปล่อยตัวเธอไปไม่ได้ จากนั้นบรูโน่ก็เข้าไปในโรงแรมทันที
“ครับ...” ลูกน้องของบรูโน่ตอบรับแล้วก็จับมือของหญิงสาวไคว่หลังไว้แล้วพาเธอเดินอ้อมไปหลบมุม
ภาริตาคิดว่าเธอจะต้องหนีก่อนที่จะไปเจอเจ้านายของพวกเขา เพราะลูกน้องยังโหดขนาดนี้แล้วเจานายจะขนาดไหนล่ะ เธอไม่เอาชีวิตของเธอมาเสี่ยงแน่ๆ ภาริตาคิดได้ดังนั้นก็มองชายฝรั่งตัวใหญ่สองคนสลับกันไปมา แล้วเธอก็เอ่ยพูดออกไป
“พวกคุณดูดีกันจังเลยนะคะ...อยากจะหาอะไรทำสนุกๆฆ่าเวลากับฉันไหมคะ” ภาริตาแกล้งเอ่ยถามไปแล้วมองชายฝรั่งตรงหน้าไปแบบยั่วยวน
“หึ..เอาไหมวะ...นายกำลังอยู่กับผู้หญิง ฉันว่าคงอีกนานกว่านายจะลงมา ถ้าเราสนุกกับผู้หญิงคนนี้ก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง” ชายหนุ่มฝรั่งพูดเป็นภาษาอิตาเลี่ยน เพื่อเลี่ยงให้หญิงสาวฟังเข้าใจ
“น่าสนนะโว้ย...ผู้หญิงคนนี้ก็สวยน่าเอาซะด้วยว่ะ...เอาไหมวะ ทำเร็วๆฆ่าเวลาไปก่อน” หนุ่มฝรั่งพูดไปก็ยักคิ้วใส่กันทันที
แต่บังเอิญว่าภารตานั้นฟังออกเพราะเรียนนานาชาติมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเธอพูดอังกฤษ จีน เยอรมัน ฝรั่งเศสและอิตาเลี่ยนได้ ทำให้เธอรู้ว่าสองหนุ่มนั้นคล้อยตามเธอแล้ว เธอก็ยิ้มออกมาทันที
“ถ้าพวกคุณสนใจ งั้นก็ปล่อยฉันก่อนค่ะ แล้วเราค่อยมาสนุกกันที่เบาะหลังรถของฉัน...” ภาริตาพูดไปก็แกล้งส่ายก้นยั่วๆไป เพราะพวกผู้ชายมันแพ้มารยาผู้หญิงอยู่แล้ว ยิ่งผู้ชายแบบนี้ก็ยิ่งง่าย
“งั้นฉันเอาก่อนนะ แกดูต้นทางนะโว้ย...ถ้าฉันปล่อยตัวเธอแล้วอย่าคิดตุกติกนะ ไม่งั้นฉันยิงไส้เละแน่” ชายฝรั่งพูดเสียงเข้มๆบอกไปก็ปล่อยตัวหญิงสาวเป็นอิสระทันที
“ไม่ตุกติกหรอกค่ะ งั้นฉันขึ้นรถเลยนะคะ...” ภาริตาพูดบอกไปก็ค่อยๆขึ้นไปบนรถของเธอแล้วก็หันตัวกลับมาแล้วเห็นชายฝรั่งกำลังจะเข้ามาหาเธอ
“ถอดกางเกงก่อนเข้ามาสิ คุณตัวใหญ่ ถอดในนี้มันคงไม่สะดวกหรอก...เร็วสิคะ เราต้องทำเวลานะ...” ภาริตาพูดไปก็เอามือลูบไล้ขาของเธอแล้วค่อยๆรูดกระโปรงขึ้นมาให้ชายหนุ่มเห็นขาอ่อน
“หึ...แรดมาก...เดี๋ยวจะเอาให้หายแรดเลย..” ชายหนุ่มฝรั่งพูดไปก็รีบถอดกางเกงลงทันที
“ฝันไปเถอะว่าจะได้เอาคนอย่างฉัน...ปึก....” ภาริตาเห็นแบบนั้นก็ขัยบตับลุกมาแล้วถีบชายฝรั่งที่ยืนจ่อที่ประตูอย่างแรงเลย แล้วเธอก็รีบคว้าประตูรถของเธอปิดทันที ก่อนจะรีบไปที่เบาะคนขับแล้วกดล็อคประตูรถ แล้วเธอก็ปลดเกียร์แล้วรีบเหยียบรถออกไปทันที ถือว่าเป็นความโชคดีของเธอที่ไม่ได้ดับเครื่อง เลยทำให้เธอหนีออกมาได้
“โธ่โว้ย....เพราะแกเลยทำให้แม่นี่หนีไปได้ แกกับฉันตายแน่ๆ...” เสียงของเพื่อนฝรั่งอีกคนพูดออกมา ขณะที่เข้าไปช่วยเพื่อนลุกขึ้น เพราะถูกถีบที่กล่องดวงใจแบบเต็มๆ
“รีบลุกแล้วขับตามสิวะ..เร็วเข้า...” ชายอีกคนพูดไปก็รีบประคองเพื่อนมาแล้วพากันไปที่รถของพวกเขา ก่อนจะรีบขับตามออกไปทันที
ด้านภาริตาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เธอหนีออกมาได้ เธอก็ไม่รีรอรีบเหยียบรถตรงไปยังบ้านของเพื่อนสนิทของเธอทันที เพราะสภาพรถของเธอตอนนี้ขับกลับบ้านไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเป็นเรื่องแน่ๆ
ด้านบรูโน่พอขึ้นมาชั้นที่เจ้านายพักก็มีลูกน้องคอยเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องของเจ้านายแล้ว เขาก็เข้าไปที่ห้องของเขาและเปาโลทันที
“เป็นยังไงบ้างวะ จับตัวคนที่ตามนายได้หรือเปล่า มันเป็นคนของใคร” เปาโลเห็นเพื่อนหนุ่มเข้ามาในห้องก็เอ่ยถามอย่างอยากรู้
“จับได้แล้ว...เธอบอกว่าเป็นนักข่าวที่ตามมาทำข่าวของผู้หญิงที่นายเรานอนด้วยน่ะ แต่ฉันจะสืบให้แน่ใจอีกทีว่าใช่จริงหรือเปล่า นายกับผู้หญิงคนนั้นเข้าไปนานหรือยัง...” บรูโน่ตอบไปก็เอ่ยถามเพื่อนทันที
“อืม...ป่านนี้นายของเราก็คงจะสวรรค์ชั้นเจ็ดแล้วล่ะมั้ง...ผู้หญิงคนนี้เล่นยั่วยวนนายตั้งแต่บนรถจนทนไม่ไหวซะขนาดนั้น...นายให้คนของเราจับผู้หญิงคนนั้นมาไว้ที่ห้องรอก่อนละกัน เพราะดูท่าคืนนี้จะยังอีกยาว...” เปาโลพูดออกไปเพราะคิดว่าคืนนี้เจ้านายคงจะอยู่กับดาราสาวทั้งคืน
“อืดๆ....อืดๆ....ฮัลโหล....อะไรนะ...พวกแกดูกันยังไงวะ...ไม่ได้เรื่องกันเลยสักคน...ไม่ต้องตามแล้ว กลับมาที่โรงแรม” บรูโน่กดรับสายแล้วพูดด้วยเสียงเข้มออกไป ก่อนจะกดวางสายไป
“อย่าบอกนะว่าผู้หญิงคนนั้นหนีไปได้น่ะ..” เปาโลเอ่ยถามไปแล้วมองเพื่อนหนุ่มแบบจดจ้อง
“อืม...ตัวแค่นั้นแต่สามารถหนีจากลูกน้องเราไปได้...ฉันประมาทผู้หญิงคนนี้เกินไปจริงๆ...” บรูโน่พูดออกไป เพราะเขาไม่คิดว่าเธอจะหนีไปได้
“แล้วทำไมแกไม่ให้ลูกน้องเราตามหาวะ..ถ้าไม่ได้ตัวมาให้นายล่ะก็ ซวยเลยนะโว้ย...” เปาโลพูดไปเพราะคำสั่งของเจ้านายคือที่สุดแล้ว
“ฉันยึดโทรศัพท์ของผู้หญิงคนนั้นมาแล้ว จะตามตัวก็คงไม่ยากหรอก...รอดูว่าเจ้านายจะว่ายังไงก็แล้วกัน ถ้าเป็นนักข่าวจริงก็แล้วไป เพราะหลักฐานยังอยู่ที่นี่ แต่ถ้าไม่ใช่นักข่าวงานนี้คงต้องตามหาตัวแล้วล่ะ” บรูโน่พูดบอกไปก็เอาโทรศัพท์ของหญิงสาวขึ้นมาแล้ววางไว้
“อืม...รอนายสั่งพรุ่งนี้ก็แล้วกัน...” เปาโลพูดไปเพราะตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้ เพราะผู้หญิงคนนั้นก็หนีไปแล้ว คงต้องรอดูว่าเจ้านายของพวกเขาจะว่ายังไง เพราะตอนนี้ลูก้ากำลังสนุกกับดาราสาวอยู่
สามสิบนาทีต่อมา ....
โก้ก็ขับรถเข้ามาจอดในบ้านแล้วลงจากรถเขาก็ขนกระเป๋าเป้กล้องถ่ายรูปออกมา แล้วก็เดินไปที่ท้ายรถแล้วกดปิดประตูบ้าน แล้วอยู่ๆก็มีรถของภาริตาพุ่งเข้ามาจนโก้ร้องออกมาอย่างตกใจเลย
“เห้ยเจ้เบน...เจ้เกือบจะขับชนประตูบ้านผมแล้วนะ” โก้ร้องโวยวายทันที เพราะประตูอัตโนมัติมันค่อยๆเลื่อนปิด ดีนะที่ภาริตาไม่ชนน่ะ ก่อนจะเดินไปหาภาริตาฝั่งคนขับทันที
“แล้วนี่รถเจ้ไปโดนอะไรมาน่ะ ทำไมกระจกรถเจ้มันพังแบบนี้อ่ะ” โก้มองด้วยสีหน้าตกใจ เพราะกระจกเหมือนโดนคนทุบมาเลย
“ก็เพราะฉันตามถ่ายรูปของคุณแพมกับไอ้ฝรั่งคนนั้นไง รถฉันถึงได้พังแบบนี้ ไอ้หมอนั่นมันให้ลูกน้องมาจับฉันน่ะสิ แถมพวกนั้นยังพกปืนด้วย...ฉันโดนเอาปืนจ่อจนแทบจะฉี่ราดอยู่แล้ว ดีนะที่ฉันฉลาดเลยหนีรอดมาได้ ไม่งั้นคงกลายเป็นผีมาหลอกแกแทนแล้วล่ะ...” ภาริตาพูดบอกไปก็กดดับเครื่องแล้วเธอก็ลงจากรถทันที
“แต่คนแบบเจ้ตายยากจะตายไป นรกยังไม่รีบเอาเจ้ไปหรอก แล้วพวกมันทำอะไรเจ้ไหม...” โก้พูดแซวไปก็ถามอย่างห่วงใย
“เดี๋ยวเถอะไอ้โก้ แกอย่ามาจิกกัดฉันนะ...ถ้ามันทำอะไรฉันแล้วฉันจะมายืนคุยกับแกตรงนี้ไหมล่ะ...เสียดายที่มันยึดเอาโทรศัพท์ฉันไป ไม่งั้นคงได้ข่าวใหญ่แล้วล่ะ” ภาริตาพูดไป
“ยังจะกล้าทำข่าวของเขาอีกเหรอเจ้ มีปืนแบบนั้นผมว่าพวกมาเฟียแน่ๆเลย...ผมว่าเราอย่าไปยุ่งเลยเพื่อความปลอดภัยของเราเอง...” โก้พูดออกไปแบบจริงจัง เพราะถ้ามันอันตรายแบบนี้ก็ไม่ควรเสี่ยง
“อืม...ฉันก็คงไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงกับข่าวแค่นี้หรอก...แม่งเอ้ย...เสียทั้งโทรศัพท์ เสียทั้งค่าซ้อมรถ โอ้ย...ทำไมฉันซวยแบบนี้เนี่ย....” ภาริตาบ่นไปแล้วก็ทำหน้าบึ้งอย่างอดไม่ได้
“ดึกดื่นป่านนี้แล้วมาเสียงดังบ้านคนอื่นเขาทำไมเนี่ย...ไม่หลับไม่นอนหรือไง...” เสียงของลันนาพูดขึ้นพร้อมกับร่างบางที่เดินออกมาแบบง่วงๆในชุดนอนตัวยาวสีขาว
“ที่รัก....ช่วยเขาด้วย...เขาเกือบตายแล้วนะ...” พอภาริตาเห็นเพื่อนรักของตัวเองก็พูดอ้อนออกไปแล้วเดินเข้าไปกอดทันที
“แกไปทำอะไรมาอีกหึ.....โก้ เล่ามาเดี๋ยวนี้ว่ายัยเบนมันไปก่อเรื่องอะไรมาอีก..” ลันนาถอนกอดจากเพื่อนสาวมาแล้วหันมาถามน้องชายของเธอทันที
“เรื่องมันยาว ฉันจะเล่าให้แกฟังเอง ป่ะ เข้าบ้านกันเถอะ คืนนี้ฉันขอนอนกับแกนะ ฉันไม่อยากกลับไปนอนที่บ้านอ่ะ” ภาริตาพูดบอกไปแล้วก็กอดแขนเพื่อนสาวทันที
“อืม...ป่ะ เข้าไปคุยกันในบ้านเถอะ ” ลันนาบอกไปก็พาเพื่อนสาวเข้าไปในบ้าน
จากนั้นภาริตาก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ลันนาและโก้ฟังแบบละเอียดยิบ เพราะถ้าเธอเป็นอะไรไปให้รู้ไว้เลยว่าพวกมาเฟียพวกนี้แน่นอน เธอก็ได้แต่หวังว่ามันจะจบแค่เท่านี้นะ เพราะเธอไม่อยากจะเสี่ยงอีกแล้ว
คะ..? สนใจฉันเหรอคะ...นี่คุณคงไม่ได้โดนน้องชายฉันหรือว่าคนอื่นยุมาหรอกใช่ไหมคะ” ลันนาได้ยินแบบนั้นก็อึ้งเลย ก่อนจะถามเขาไปทั้งที่ในใจนั้นรู้สึกเขินกับคำพูดของเขามาก คนอะไรพูดออกมาได้หน้าตาย แต่กลับทำให้เธอใจเต้นรัวได้ขนาดนี้“เปล่าครับ ผมเห็นคุณสนามบินครั้งแรกผมก็สนใจคุณแล้วครับ คนอื่นยุยังไงก็ไม่ขึ้นหรอกครับ ถ้าผมไม่สนใจจริงๆน่ะ..คุณลันนายินที่จะอยากรู้จักกันมากขึ้นไหมล่ะครับ..” บรูโน่ถามไปอีกครั้ง“ฉันก็อยากนะคะ แต่ว่าเราอยู่กันคนล่ะที่..มันจะไหวเหรอคะ” ลันนาตอบไปแบบเขินๆเลย“ไหวไม่ไหวก็ลองดูก่อนสิครับ ทดลองคุยกันช่วงที่น้องชายคุณไปอยู่กับผมก็ได้ครับ..ถ้าถึงตอนนั้นคุณกับผมไม่ได้เข้ากันได้ เราก็ต่างคนต่างถอย แต่ถ้าเราเข้ากันได้ดี ต่อให้ระยะมันไกลแค่ไหนผมก็ไม่หวั่นครับ” บรูโน่พูดบอกไปแบบจริงจัง“โอเคค่ะ เรามาลองดูก็ได้ค่ะ ฉันเองก็อยากจะรู้จัดคุณบรูโน่ให้มากกว่านี้เหมือนกันค่ะ” ลันนาตอบไปด้วยรอยยิ้มเขินอาย เพราะเธอเองก็ยอมรับว่าสนใจเขาเช่นกัน ในเมื่อเขาใจๆมาขอศึกษาดูใจแบบนี้ แล้วทำไมเธอต้องปฏิเสธด้วยล่ะ“ขอบคุณที่ให้โอกาสผมนะครับ...หวังว่าเราสองคนจะรู้จักกันมากกว่านี้นะครับ ส่วนเรื่องน
“เฮ้อ...ซ้ายก็หวาน ขวาก็หวาน แล้วคนโสดอย่างพวกเราจะเอายังไงล่ะทีนี้...ต้องมานั่งดูคนเขารักกันแบบนี้น่ะเหรอ...ไม่ได้การแล้วล่ะ กลับกรุงเทพคราวนี้ผมต้องมองหาใครสักคนที่สามารถทำให้ผมคบแบบจริงๆจังๆได้สักทีแล้วล่ะ” โก้นั่งอยู่กับพี่สาวแล้วพูดไป เพราะซ้ายก็คู่ของมัซซิโม่และอลิเซีย ส่วนขวาก็สเตล่ากับเปาโล แล้วไหนจะเจ้เบนกับคุณลูก้าอีก มันทำให้รู้สึกว่าเขาต้องการความรักขึ้นมาทันทีเลย“ก่อนที่แกอยากจะคบกับผู้หญิงแบบจริงจังๆน่ะ แกตั้งใจแล้วก็จริงจังกับการทำงานให้ดีก่อนจะดีกว่าไหมโก้...อีกหน่อยแกต้องขึ้นมาเป็นผู้บริหารแล้วนะ แกจะมาทำตัวชิวๆแบบนี้ไปตลอดไม่ได้ แกต้องโตได้แล้วนะโก้” ลันนาพูดกับน้องชายแบบจริงจังเลย“อะไรเนี่ยพี่...ผมพูดเรื่องความรักพูดเรื่องจะมีแฟน แต่พี่ดันวกเข้าเรื่องงานเรื่องบริษัทซะงั้น ทำไมชอบทำลายบรรยากาศจังเลยหึ...” โก้ว่าพี่สาวไปด้วยสีหน้าเซ็งๆ“ก็ฉันหวังดีกับแกนิ ที่ผ่านมาฉันให้อิสระแกได้ทำตามที่แกต้องการก็เพราะฉันรักแกนะโก้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นความรักที่ฉันทำลายอนาคตของแกไปด้วย...พ่อกับแม่ก็คงไม่อยากให้แกเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นกลับไปคราวนี้ไม่ต้องไปทำงานที่ฝ่ายสื่อแล้ว แ
“ชอบที่สุดเลย...อ่า...วันนี้คุณเต้นได้ยั่วมากเลย..คืนนี้ตอนเข้าหอผมขอแบบนี้อีกรอบนะ...แบบที่คุณกับผมไม่ต้องใส่เสื้อผ้ากัน...” ลูก้าเอามือโอบกอดเธอด้วยรอยยิ้มแล้วพูดบอกไปแบบหื่นๆ เพราะตอนนี้ทุกคนมองอยู่เขาไม่กล้าทำอะไรกับเธอ รอให้คืนนี้อยู่ในห้องด้วยกันก่อนเถอะ เขาจะให้เธอเต้นใส่เขาทั้งคืนเลย“หื่นจริงๆเลยนะคะ...ได้เลยค่ะ คืนนี้เบนจะเต้นแบบนี้ให้คุณอีกรอบ...อ้ะ....” ภาริตาตอบไปก็เต้นร่อนเอวแล้วขย่มใส่ตักของเขาไปตามจังหวะเพลงที่ร้องโอ้ๆไปแบบรัวๆเลย“อืม...เบน....” ลูก้าก็กัดฟันครางชื่อภาริตาไปแบบอดทนกับการขย่มของเธอที่นั่งขย่มอย่างสนุกสนานบนตัวเขาแล้วเธอก็ลุกขึ้นจากตักของเขาแล้วก็ลุกขึ้นก่อนจะเต้นยั่วยวนไล้ลงมานั่งยองๆแล้วก็หันก้นใส่หน้าเขาแล้วสั่นตูดให้ จนลูก้าต้องกลืนน้ำลายมองเธอเต้นเลยทีเดียว เพราะเขาเห็นซับในที่เธอใส่เลยจนเขาต้องเอามือไปขับก้นของเธอไม่ให้มันโป๊ไปมากกว่านี้“ฮ่าๆ...ดูหน้าไอ้ลูก้ามันสิวะ...ฮ่าๆ....โดนเมียมันเต้นยั่วจนมันหน้าแดงหมดแล้ว...ฮ่าๆ..” มัซซิโม่ก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจเลยที่เห็นลูก้าโดนภาริตาแกล้งแบบนี้“ผมหัวเราะไม่ออกเลยครับ แฟนผมก็เต้นแรดเอาเรื่องเลย....เฮ
พอพิธีรดน้ำสังข์เสร็จแล้วก็เริ่มเฉลิมฉลองกันด้วยการทานอาหารและฟังเพลงจากนักร้องที่มาร้องในงาน ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกริมทะเลแบบนี้ ทุกคนก็ยิ้มแย้มและมีความสุขกันมากๆ“คุณนั่งทานไปก่อนนะคะ เดี๋ยวเบนไปเข้าห้องน้ำแปปนึงค่ะ...สเตล่าไปส่งฉันหน่อยสิ...ฉันกลัวจะถอดชุดไม่ได้” ภาริตาบอกไปเมื่อเสร็จพิธีทุกอย่างในช่วงเช้าแล้วเรียบร้อย ก็ถึงเวลาเธอจะเซอร์ไพร์สลูก้าแล้ว“ได้เลยค่ะคุณเบน...ไปกันเลยไหมคะ” สเตล่าได้ยินแบบนั้นก็รีบลุกออกมาจากโต๊ะอาหารทันที“ฉันไปด้วยแก...ฉันก็อยากจะเข้าห้องน้ำเหมือนกัน...” ลันนาก็พูดบอกไปแล้วรีบลุกไปหาภาริตาทันที“งั้นเดี๋ยวพวกเรากลับมานะคะ...คุณรอฉันแปปนะคะ...จุ๊บ...” ภาริตาพูดไปก็ยิ้มให้ทุกคน ก่อนจะหันมาบอกลูก้าแล้วจุ๊บที่ปากของเขาแบบออดอ้อน“รีบมานะ...” ลูก้ามองเธอด้วยรอยยิ้มรักใคร่เลย แล้วเขาก็มองเธอเดินออกไปกับสเตล่าและลันนาไปจนสุดสายตา จนมัซซิโม่ที่นั่งอยู่ข้างๆถึงกับมองแล้วส่ายหน้าไปมาทันที“เมียไปเข้าห้องน้ำแค่นี้แกจะมองอะไรนักหนาวะลูก แกจะไม่ให้เมียแกคาดสายตาเลยหรือไงวะ..แต่งงานแล้วนะโว้ย ยังไงเขาก็เป็นของแก ไม่มีใครมาเอาเขาไปหรอก...” มัซซิโม่พูดไปแบบอดไม
“ส่วนหนูเบน...วันนี้เป็นวันสำคัญของหนู ลุงดีใจนะที่หนูได้แต่งงานกับคนที่หนูรัก...ลุงขอให้หนูเบนพบเจอแต่ความสุขนะลูก...” ธำรงบอกไปก็รดน้ำสงข์ให้กับภาริตาไป เพราะภรรยาของเขาพูดไปเยอะแล้ว จนเขาไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว“ขอบคุณค่ะ...ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมานะคะ..พ่อ...” ภาริตาตอบไปแล้วเรียกธำรงว่าพ่อ เพราะที่ผ่านมาเขาทำหน้าที่แทนพ่อของเธอได้ดีมากๆ จนเธอเคารพและรู้สึกอยากจะเรียกเขาว่าพ่อแทนคำขอบคุณที่เขาเลี้ยงดูเธอมา“หนูเบน...อืม...ลุงดีใจจริงๆที่ได้ยินหนูเรียกลุง...ไม่สิ เรียกพ่อแบบนี้...ต่อไปเรียกแบนี้อีกนะลูก” ธำรงพูดออกไปด้วยสีหน้าดีใจแบบสุดๆที่ภาริตาเรียกเขาว่าพ่อส่วนเยาวเรสที่ยืนรอสามีอยู่ก็ยิ้มอย่างดีใจเช่นกันที่ลูกสาวยอมเรียกสามีของเธอว่าพ่อแล้ว เพราะที่ผ่านมาเธอไม่เคยบังคับลูกให้เรียกเลย เธออยากให้ลูกเรียกเองตามความรู้สึก“ค่ะ ต่อไปเบนจะเรียกพ่อบ่อยๆค่ะ...ขอบคุณนะคะที่ดูแลเบนมาตลอด...” ภาริตาบอกไปก็ยกมือไหว้ไปแบบซาบซึ้ง“อืม...มันเป็นหน้าที่ของพ่อคนนี้อยู่แล้วล่ะ..พ่อขอให้เบนมีความสุขกับชีวิตแต่งงานนะลูก...” ธำรงบอกไปแล้วเขาก็ยิ้มอย่างมีความสุขเลย ก่อนจะรดน้ำสังข์ให้ภาริตาแล้วเขา
เช้าวันใหม่ภาริตาก็ใส่ชุดไทยสีแดงตัดกับขอบทองอย่างสวยสง่าเลย ส่วนลูก้าก็ใส่ชุดไทยสีขาวจงกระเบนเข้ากับเสื้อสูทอย่างดูดีเลย เพราะต้องการให้ทำพิธีแบบไทยก่อนที่จะทำพิธีแบบฝรั่งในช่วงเย็น ช่วงเช้าจึงจะทำพิธีสู่ขอแบบไทย“ว้าวที่รัก....คุณสวยมากๆเลย...” ลูก้าเห็นภาริตามเดินมาในชุดไทยก็มองแบบอึ้งๆเลย เพราะเธอใส่ชุดแบบนี้แล้วดูสวยและน่ามองมากๆเลย“คุณก็ชมฉันตลอดเลย คุณเองก็หล่อมากๆเหมือนกันค่ะ ไม่คิดเลยว่าฝรั่งแบบคุณใส่ชุดไทยแล้วจะหล่อแบบนี้...” ภาริตาไปหยุดที่หน้าเขาแล้วพูดชมเขาไป ก่อนจะมองสบตากับเขา“จุ๊บ.....อือ....อื้อ...คุณลูก้า เดี๋ยวลิฟต์เลอะนะคะ แค่จุ๊บก็พอสิคะ...” ภาริตาก็จุ๊บปากตอบเขา แต่เขากลับจูบแบบดูดดื่มเลยจนเธอต้องถอยตัวออกมาแล้วว่าเขา“หึๆ โทษทีก็คุณมันน่าจูบอ่ะ..ผมชอบคุณลุคนี้มากเลย...สวย...คม...เซ็กซี่แบบมีอะไรให้ค้นหา...เดี๋ยวเสร็จพิธีแล้วให้ผมหน่อยนะ...” ลูก้าบอกไปก็พยักหน้าใส่เธอแบบขอร้องเลย“คุณนี่มันหื่นจริงๆเลยนะคะ...อดใจหน่อยสิคะ เอาไว้เราเข้าหอกันคืนนี้ ฉันจะจัดให้คุณแบบถึงพริกถึงขิงเลยค่ะ” ภาริตาพูดบอกไปแล้วยิ้มให้เขาไป“โอเค ถ้าคุณพูดแบบนี้แล้วคืนนี้ผมจะตั้งตารอเลย