“ขึ้นรถ… เดี๋ยวฉันจะไปส่งที่บ้าน… ”
เสี่ยรุตน์ถามเมื่อหญิงสาวเดินตามมาถึงรถเบนส์สีดำคันใหญ่ จอดอยู่ในลานจอดรถหลังร้านอาหาร
“เอ่อ… หนูขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่คุณช่วยใช้หนี้ แต่หนูคงไม่กลับบ้าน… ”
“ทำไมไม่กลับบ้าน… ”
“ถ้ากลับไปก็คงไม่พ้นโดนแม่เลี้ยงบังคับให้ขายตัวอีก… ”
“ทำไมแม่เลี้ยงเธอแย่จัง… ถ้าไม่กลับบ้านแล้วเธอจะไปอยู่ไหน… ”
น้ำเสียงแสดงความเป็นห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด
“…..”
น้ำหวานนิ่ง ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะตอนนี้ชีวิตของหล่อนไร้จุดหมาย
“ถ้ายังไม่มีที่ไปงั้นเธอไปพักที่บ้านฉันก่อน… ”
เสี่ยรุตย์คิดว่าไหนๆ ก็ตัดสินใจช่วยแล้ว ก็คงต้องช่วยกันต่อไป
‘เมตตาธรรม’ เป็นเหตุผลหนึ่ง แต่ลึกๆ ในใจจองเสี่ยรุตน์เท่านั้นที่รู้ดีว่าเพราะอะไรเขาจึงไม่ปล่อยให้หล่อนจากไปง่ายๆ
“แล้วคนที่บ้านเสี่ยจะไม่ว่าหรือคะถ้าพาหนูไปบ้าน… ”
“ฉันมีบ้านหลายหลัง… ไม่ต้องห่วง มาเถอะ… ขึ้นรถ”
คำพูดของเสี่ยรุตน์…
ทำให้น้ำหวานเปิดประตูรถ ตัดสินใจขึ้นมานั่งเคียงข้างร่างสูงใหญ่ของเสี่ย
ใช้เวลาไม่นาน…
เสี่ยรุตน์ก็พาหญิงสาวมาถึงบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว หลังใหญ่ อยู่ลึกเข้ามาในซอยท้ายสุดของหมู่บ้านในโครงการบ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมทะเลปากน้ำปราณบุรีซึ่งเป็นโครงการของเสี่ยเอง
“สวัสดีครับนาย… ”
เพียงแค่เห็นรถเบนส์สีดำคันใหญ่ของเสี่ยรุตน์ ลุงยามที่ดูแลความปลอดภัยอยู่หน้าประตูทางเข้าหมู่บ้านก็จำได้ รีบทำความเคารพแล้วเปิดไม้กั้นทาง
“ผมซื้อมาฝาก… ”
เสี่ยรุตน์ยื่นถุงให้ลุงยามเหมือนเช่นทุกครั้งที่เขาแวะเข้ามาในหมู่บ้านแห่งนี้ ข้างในมีข้าวกล่องที่สั่งมาจากร้านอาหาร
“ขอบคุณครับนาย… ”
ลุงยามยกมือไหว้ มองส่งรถเบนส์คันใหญ่แล่นเข้าไปด้านในของหมู่บ้าน มาจอดอยู่หน้าประตูรั้วสีขาว
เสี่ยรุตน์ลงมาไขกุญแจเปิดประตูบ้าน ขับรถเข้ามาจอดในบ้าน
“ในระหว่างนี้เธออยู่ที่นี่ไปก่อน… ”
เสี่ยรุตน์กล่าวกับหญิงสาวที่กำลังก้าวลงจากรถ
“เอ่อ… หนูไม่มีเงินจ่ายค่าเช่านะคะ”
มีความกังวลในน้ำเสียงของน้ำหวาน
“ฉันก็ไม่ได้บอกว่าจะคิดค่าเช่า… เอาเป็นว่าฉันให้เธออยู่ฟรี หลังนี้เป็นบ้านของฉันเอง… ”
บ้านเดี่ยวหลังนี้เป็นหลังเดียวที่ยังเหลืออยู่ในโครงการ อันที่จริงมีคนต้องการซื้อ แต่เสี่ยรุตน์นั่นเองที่ไม่ขาย เพราะชอบบรรยากาศด้านหลังบ้านที่ติดทะเล เป็นทิศที่พระอาทิตย์ขึ้น ทุกเช้าจะเห็นแสงตะวัน จึงเก็บเอาไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ
“แน่ใจนะคะที่ว่าจะให้หนูอยู่ฟรี”
น้ำหวานถามย้ำอีกครั้ง
“แน่ใจสิ… เอาเป็นว่าฉันจ้างเธอไว้เฝ้าบ้านหลังนี้ก็แล้วกัน ดีไหม… เธอช่วยดูแลบ้านให้ฉัน เดี๋ยวฉันจะจ่ายเงินเดือนให้ด้วย เธอจะได้ไม่ต้องเกรงใจว่าฉันให้อยู่ฟรี… ”
“จริงหรือคะ… ”
หญิงสาวแสดงอาการดีใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“จริง… ”
เสี่ยรุตน์ตอบ
“ขอบคุณค่ะเสี่ย… ”
น้ำหวานยกมือไหว้ แววตาซาบซึ้งขอบคุณชายผู้มีพระคุณ เพราะไม่เคยคาดคิดว่าในวันที่ชีวิตกำลังสิ้นหวังสุดๆ ถึงขั้นตัดสินใจยอมมาขายตัว
จะทำให้ได้มาเจอกับเสี่ยรุตน์คนนี้ แม้ตอนแรกเขาจะแสดงอาการหื่นกับหล่อนราวสัตว์ร้ายหมายขย้ำเหยื่อ แต่ใครจะคิดว่าภายใต้ดวงหน้าและแววตาที่แฝงความเร่าร้อนคู่เดียวกันนี้ หล่อนสัมผัสได้ถึงตัวตนอันแท้จริงอีกด้านที่ไม่โหดร้ายของเขา
“นี่ห้องนอนของเธอ… ”
เสี่ยรุตน์เปิดประตูห้อง…
พาหญิงสาวเดินเข้ามาในห้องกว้างขวาง ข้างในสะอาดสะอ้าน มีเครื่องนอนเตรียมไว้พร้อม ปลายเตียงมีโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า ดูจากสภาพก็รู้ว่าต้องมีคนคอยดูแลรักษาความสะอาดทุกวัน
“ปกติเสี่ยอยู่ที่บ้านหลังนี้หรือคะ… ”
น้ำหวานสงสัยจึงถาม
“ก็ไม่เชิง… นานๆ ฉันจะมาค้างที่นี่ แต่มีแม่บ้านของโครงการที่ฉันจ้างไว้เข้ามาดูแลทำความสะอาดให้ทุกวัน เห็นแล้วเป็นยังไง นอนได้ไหม บ้านอาจจะหลังเล็กไปนิดแต่บรรยากาศดี… ”
“นอนได้ค่ะ… บ้านไม่เล็กเลยนะคะ… สวยน่าอยู่มากค่ะ… ”
น้ำหวานนึกในใจว่าแม้จะเป็นบ้านชั้นเดียวแต่ก็กว้างขวางน่าอยู่กว่าบ้านที่หล่อนเคยอยู่ บ้านหลังขนาดนี้ราคาคงแพงมาก ต่อให้หล่อนทำงานหาเงินทั้งชาติก็ใช่ว่าจะซื้อบ้านแบบนี้ได้
“ดีใจที่เธอชอบ… ช่วยเล่าเรื่องของพ่อเธอให้ฉันฟังได้ไหม… ”
เสี่ยรุตน์อยากรู้เรื่องของ ‘นพดล’ ซึ่งเป็นเพื่อนเก่า น้ำหวานจึงเล่าทุกอย่างให้เขาฟังว่าเมื่อก่อนนพดลพ่อของหล่อนเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง รับงานก่อสร้างเรื่อยมา
แต่หลังจากแม่ของหล่อนตาย นพดลก็แต่งงานใหม่กับสาลี่ซึ่งตอนนี้มีฐานะเป็นแม่เลี้ยงของหล่อน
ตอนแรกๆ สาลี่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นคนดี แต่ไม่นานก็ออกลาย หล่อนผลาญเงินทองและทรัพย์สินของนพดลจนเกลี้ยงเพราะติดการพนันงอมแงม
และที่เลวร้ายไปกว่านั้น… ก็คือสาลี่แอบนอกใจนพดล
“แล้วตอนนี้พ่อของเธอเป็นไงบ้าง… ”
“พ่อติดคุกค่ะ… ”
เสียงของน้ำหวานเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเล่ามาถึงตรงนี้
“อะไรนะ… ”
เสี่ยรุตน์ตกใจ
“ทำไมติดคุก… ”
“พ่อฆ่าผู้ชายที่มาเป็นชู้กับแม่เลี้ยงค่ะ… ”
“โถ… ถึงกับฆ่ากันเชียวหรือ”
เสี่ยรุตน์ตกใจ ไม่คิดว่าชีวิตของเพื่อนเก่าจะพลิกผันตกอับไปได้ถึงเพียงนี้
จากนั้นน้ำหวานเล่าให้เสี่ยรุตน์ฟังว่าเมื่อสามปีที่แล้วพ่อของหล่อนต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดบ่อยๆ เพราะเป็นช่างรับเหมา
และในคืนหนึ่งที่กลับมาถึงบ้าน…
นพดลก็จับได้คาหนังคาเขา ว่าสาลี่กำลังระเริงสวาทอยู่กับชายชู้ที่เจอกันในบ่อนแล้วพามากลับมาหลับนอนถึงบ้าน
ภาพบาดตาบาดใจที่เห็นคาเตียงในห้องนอนของตัวเอง ทำเอานพดลสติหลุด บันดาลโทสะจนถึงขั้น คว้าปืนมายิงชายชู้ตายคาที่
นพดลปิดฉากความสัมพันธ์อันชั่วช้าของหญิงโฉดกับชายชู้ไปพร้อมกับอนาคตของตัวเองที่ต้องดับวูบลงด้วยเช่นกัน
หลังจากวันที่พ่อของน้ำหวานต้องเข้าไปชดใช้กรรมอยู่ในคุก ชีวิตของหล่อนก็พลิกผันไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อไม่มีเงินสาลี่จึงเอาบ้านไปจำนองไว้กับธนาคาร
แม้ฐานะการเงินจะย่ำแย่ลงทุกวัน แต่สาลี่ก็ยังไม่เลิกเล่นพนันซึ่งเป็นสันดานเดิม นับวันยิ่งทำแต่เรื่องเลวร้ายเสื่อมเสีย และสุดท้ายถึงขั้นบังคับให้น้ำหวานต้องมาขายตัวใช้หนี้
“ฉันเสียใจด้วยนะ… กับเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตเธอ… ”
และในขณะที่เสี่ยรุตน์กับน้ำหวานกำลังนั่งคุยกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้นที่โทรศัพท์มือถือของเสี่ยรุตน์
เขากดรับเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์คุ้นเคย
“อยู่ไหนคะพ่อ… ”
เป็นเสียงของลูกสาวที่กรอกมาจากต้นสายที่ชะอำ
“พ่ออยู่บ้านที่ปราณฯ… ว่าไงรสา… ”
เสี่ยรุตน์กรอกเสียงกลับไปหา ‘รสา’ หญิงสาววัยสี่สิบห้าปีซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของเขา บ้านในปราณฯ ที่ถูกเอ่ยถึงก็คือบ้านที่เสี่ยรุตน์พาน้ำหวานมาพักอยู่ในตอนนี้ “คืนนี้พ่อจะกลับบ้านไหมครับ”รสาหมายถึงบ้านที่ชะอำ เป็นบ้านหลังใหญ่ที่สามพ่อลูกอาศัยอยู่ด้วยกัน เสี่ยรุตน์ยังมีลูกสาวอีกคนอายุยี่สิบสามปี มือชื่อว่า ‘อันนา’“คืนนี้ไม่กลับ… ช่วงนี้พ่อจะค้างที่บ้านปราณฯ สักพัก… มีอะไรหรือเปล่า… ”รุตน์ย้อนถามลูกสาว“เปล่าค่ะ… หนูเห็นว่าใกล้เที่ยงคืนแล้วคุณพ่อยังไม่กลับ… ”“ไม่ต้องห่วงพ่อ ดูแลตัวเองด้วยนะ… ”คุยกันต่อมาอีกสองสามคำรุตน์ก็กดตัดสาย หันมาหาหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ“เดี๋ยวฉันขอตัวไปอาบน้ำสักครู่ ในตู้มีแต่เสื้อผ้าผู้ชาย เป็นเสื้อผ้าของฉันเอง คืนนี้เธอคงต้องใส่เสื้อผ้าผู้ชายไปก่อน… เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยไปหาซื้อเสื้อผ้า”“ค่ะ… ”น้ำหวานพยักหน้า มองตามแผ่นหลังกว้างของตนตัวใหญ่ที่กำลังก้าวออกไปจากห้อง ในเวลาต่อมาเมื่อรุตน์เข้ามาในอีกห้องที่อยู่ติดกัน… เขาถอดเสื้อผ้าจนเนื้อตัวเปลือยเปล่าล่อนจ้อน คว้าผ้าขนหนูสีน้ำตาลขึ้นมาพาดบ่าแล้วเดินเข้ามาในห้องน้ำภายใต้สายน้ำที่สาดลงมาจากฝักบัวสีเงินวาว เสี
“ขึ้นรถ… เดี๋ยวฉันจะไปส่งที่บ้าน… ”เสี่ยรุตน์ถามเมื่อหญิงสาวเดินตามมาถึงรถเบนส์สีดำคันใหญ่ จอดอยู่ในลานจอดรถหลังร้านอาหาร“เอ่อ… หนูขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่คุณช่วยใช้หนี้ แต่หนูคงไม่กลับบ้าน… ”“ทำไมไม่กลับบ้าน… ”“ถ้ากลับไปก็คงไม่พ้นโดนแม่เลี้ยงบังคับให้ขายตัวอีก… ”“ทำไมแม่เลี้ยงเธอแย่จัง… ถ้าไม่กลับบ้านแล้วเธอจะไปอยู่ไหน… ”น้ำเสียงแสดงความเป็นห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด“…..”น้ำหวานนิ่ง ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะตอนนี้ชีวิตของหล่อนไร้จุดหมาย“ถ้ายังไม่มีที่ไปงั้นเธอไปพักที่บ้านฉันก่อน… ”เสี่ยรุตย์คิดว่าไหนๆ ก็ตัดสินใจช่วยแล้ว ก็คงต้องช่วยกันต่อไป ‘เมตตาธรรม’ เป็นเหตุผลหนึ่ง แต่ลึกๆ ในใจจองเสี่ยรุตน์เท่านั้นที่รู้ดีว่าเพราะอะไรเขาจึงไม่ปล่อยให้หล่อนจากไปง่ายๆ“แล้วคนที่บ้านเสี่ยจะไม่ว่าหรือคะถ้าพาหนูไปบ้าน… ”“ฉันมีบ้านหลายหลัง… ไม่ต้องห่วง มาเถอะ… ขึ้นรถ”คำพูดของเสี่ยรุตน์… ทำให้น้ำหวานเปิดประตูรถ ตัดสินใจขึ้นมานั่งเคียงข้างร่างสูงใหญ่ของเสี่ย ใช้เวลาไม่นาน…เสี่ยรุตน์ก็พาหญิงสาวมาถึงบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว หลังใหญ่ อยู่ลึกเข้ามาในซอยท้ายสุดของหมู่บ้านในโครงการบ้านจัดสรรแห่
“อื้อออ… ซี้ดดด… พะ… พอเถอะเสี่ย… ”สองมือของคนโดนเลียขยุ้มผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น แม้ปากจะร้องห้าม แต่ง่ามขาก็เผลอแอ่นร่อน เด้งรับด้วยความลืมตัว “ซี้ดดดด… อูย… ”ริมฝีปากของน้ำหวานห่อรัดเป็นวง ร่างแทบลอยตามจังหวะตวัดลิ้นของเสี่ยรุตน์จอมหื่น เขาเลียเก่งมาก ปลายลิ้นที่สอดไซ้ไชชอนรุกรานเข้าใส่กลีบสาว ทำเอาง่ามขาของน้ำหวานสั่นเกร็ง ไม่อาจกลั้นน้ำเสียวซึมซ่านออกมาตามแรงกระสันที่โดนเขาปลุกเร้าเร่าร้อนแพล่บ… แพล่บ… แพล่บ… แพล่บ…เสียงลิ้นของเสี่ยปาดรัวเข้าใส่กลีบสาวอย่างเมามัน เอามือแบะบีบแบ่งกลีบออกเป็นสองแล้วปาดลิ้นขยี้กลางร่องสลับไปมาทั้งสองกลีบ หล่อนยิ่งขมิบเขายิ่งมีอารมณ์“งืออออ… อ๊า… ”ลีลาลงลิ้นสุดร้ายกาจของเสี่ยสายเบิร์น ทำเอาหญิงสาวแอ่นเอวสะท้าน เสียงหายใจติดๆ ขัดๆ หนอกเนินสวาทแอ่นเด้งรับลำลิ้น ทะลวงร่องของหล่อนอย่างไม่ปรานีจนน้ำหล่อลื่นไหลเยิ้มออกมาอีกระลอก“อูยยยย… ”คนโดนเลียสูดปากเสียวด้วยความทรมาน เสี่ยหื่นยิ่งได้ใจ เงยหน้าขึ้นมองผ่านง่ามขาไปยังใบหน้าที่กำลังบิดเบ้ทรมานของหล่อน ยิ่งเห็นหญิงสาวเม้มปากเสียวเขายิ่งมีอารมณ์ รีบปาดลิ้นเข้าใส่กลีบสาวไม่ยั้ง เลียย้ำๆ สลับขย้ำซ้ำๆ ท
ทำเอาหญิงสาวตกใจ หล่อนพยายามจะขืนกายหนี ค่อยๆ ขยับจากตักลงมานั่งข้างๆเป็นจังหวะเดียวกับเจ๊หลินที่แอบมองอยู่ห่างๆ ถือโอกาสเดินเข้ามากระซิบข้างหูเสี่ยรุตน์ “คนนี้ห้ามพลาดนะคะเสี่ย… รับรองว่ายังสดยังซิง… ” เจ๊หลินคะยั้นคะยอเมื่อเห็นว่าเสี่ยถูกใจน้ำหวาน“เท่าไร… ”เสี่ยรุตน์ไม่คิดว่าตัวเองจะถามคำถามนี้ออกมา อยากจะนึกโทษเหล้า โทษความเมา โทษความเปล่าเปลี่ยวที่เก็บกดอยู่ในอารมณ์แต่ด้วยความเย้ายวนของหญิงสาวที่ได้เห็น ด้วยสัญชาตญาณของสัตว์นักล่าที่มีอยู่ในตัวผู้ชาย ก็ทำเอาพ่อม่ายอารมณ์เปลี่ยวที่ไม่ได้มีเซ็กส์มานานมากอย่างเขา รู้สึกคึกคักขึ้นมาอย่างประหลาด“คนนี้หมื่นห้าค่ะเสี่ย แพงหน่อย แต่รับประกันว่าซิงร้อยเปอร์เซ็นต์… ”เจ๊หลินตอบ ยืนยันคุณภาพสินค้า“ได้… ”เสี่ยรุตน์พยักหน้าไม่เกี่ยงราคา…“จัดให้ค่ะ… ”เจ๊หลินกระตุกยิ้มชอบใจ…หล่อนรีบปิดจ๊อบด้วยการเปิดอีกห้องที่อยู่ลึกเข้าไปด้านใน เป็นห้องเล็กๆ ที่รู้กันว่าเตรียมไว้บริการลูกค้าวีไอพีทั้งหลายข้างในมีเตียง มีตู้เย็นและห้องน้ำเอาไว้พร้อม ไม่ต่างจากห้องพักของโรงแรมขนาดเล็กในเวลาต่อมาเมื่อเข้ามาอยู่ภายในห้องด้วยกันสองต่อส
เพื่อนพ่อหนูขอขย่มผู้เขียน กาสะลองไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้นนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคลและสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนาอ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ……….นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนาทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรงท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง*เราเตือนท่านแล้ว*เพื่อนพ่อหนูขอขย่มสิงหาคม พุทธศักราช 2564 เวลาประมาณสี่ทุ่ม ภายในห้องคาราโอเกะของร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน “วันนี้เพิ่งมีเด็กใหม่เข้ามาค่ะ… สนใจไหมคะเสี่ยเดี๋ยวเจ๊จะเรียกมาให้… รับรองว่ายังสดยังซิง… ” เจ๊ ‘หลิน’ สาวใหญ่วัยสี่สิบ ผิวขาว เรือนร่างอวบอัด หน้าอกภูเขาไฟบั้นท้ายดินระเบิด เจ้าของร้านอาหารและคาราโอเกาะชื่อดังที่นักท่องราตรีรู้ดีว่าธุรกิจนี้เป็นแค่เพียงฉากบังหน้าเพราะว่าเบื้องหลัง… หล่อนคือแม่เล้าที่คอยหาเด็กสาวไว้บริการ