Beranda / แฟนตาซี / ขวัญรดาลูกแม่ค้า / ตอนที่ 8 ผ่านไปด้วยดี

Share

ตอนที่ 8 ผ่านไปด้วยดี

           ทางด้านของ...เจ้าทองหลังจากที่มนตรีเดินออกมาจากบ้าน วิญญาณของเด็กชายก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างขยันขันแข็งทันที

            เขาลอยตัวขึ้นสูงเล็กน้อย ซ่อนกายโปร่งแสงของตนไว้ในเงาของต้นไม้และชายคาบ้าน กลายเป็นเงาไร้ตัวตนที่เคลื่อนที่ตามบุรุษผู้เป็นเป้าหมายไปอย่างเงียบกริบ

            ค่ำคืนในซอยเล็ก ๆ นั้นเงียบสงัด มีเพียงเสียงหรีดหริ่งเรไรที่ประสานเสียงกันเป็นจังหวะ และเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของมนตรีที่ดังกระทบพื้นดินเป็นระยะ

            แสงจากตะเกียงในมือของชายหนุ่มสาดส่องไปเบื้องหน้าเพียงเล็กน้อย สร้างเงาตะคุ่มที่เต้นระริกไปมาตามการก้าวเดินชวนให้บรรยากาศดูว้าเหว่และอ้างว้างยิ่งนัก

            มนตรีเดินไปได้ไม่ไกลนัก เขาก็หยุดลงที่หน้าเพิงไม้ขนาดเล็กแห่งหนึ่งซึ่งเปิดไฟสีเหลืองสลัวเอาไว้ ที่นี่คือร้านขายของชำกึ่งร้านเหล้าเถื่อนที่เปิดตลอดคืนสำหรับเหล่าผู้ใช้แรงงานกะดึก

            "เจ๊...เหมือนเดิม" เขาเอ่ยขึ้นเสียงห้วน

            "เอ้า...จะไปทำงานแล้วยังจะกินอีกเรอะอามนตรี" หญิงชราเจ้าของร้านเอ่ยทักอย่างคุ้นเคย

            "เอาน่าเจ๊...ย้อมใจนิดหน่อย งานมันหนัก" เขาตอบกลับสั้น ๆ พร้อมกับยื่นเงินให้

            มนตรีรับขวดเหล้าขาวขนาดแบนมา เขาเปิดฝาแล้วกระดกมันเข้าปากไปอึกใหญ่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋ากางเกงแล้วออกเดินต่อไปทันที เจ้าทองที่ลอยตัวสังเกตการณ์อยู่บนหลังคาได้แต่ทำจมูกฟุดฟิด...

          'น้ำเหม็น ๆ แบบนั้นอร่อยตรงไหนกันนะ' กุมารน้อยคิดอย่างไม่เข้าใจพร้อมกับยกมือเกาหัวไปด้วย

            ยิ่งกุมารทองตัวน้อยลอยตามร่างของมนตรีที่เดินลึกเข้าไปในซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่งมากเท่าไหร่ บรรยากาศสองข้างทางก็ยิ่งเปลี่ยนไป

            เหล่าเสียงแมลงกลางคืนเริ่มเงียบลง ถูกแทนที่ด้วยเสียงฮึมฮัมของเครื่องจักรและเสียงร้องต่ำ ๆ ของสัตว์ที่ดังแว่วมาแต่ไกล และที่สำคัญคือกลิ่น...กลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ปะปนมากับกลิ่นสาบและกลิ่นฉุนของแอลกอฮอล์ราคาถูก

            ในที่สุดมนตรีก็มาถึงจุดหมาย...โรงเชือดแห่งนี้ตั้งอยู่ท้ายตลาด...และทันทีที่เจ้าทองลอยตัวผ่านประตูใหญ่เข้ามาตามแผ่นหลังของเขา

            วิญญาณของเด็กน้อยก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจมลงไปในบึงที่เต็มไปด้วยโคลนตมทางจิตวิญญาณ...พลังงานแห่งความเจ็บปวดและความกลัวตายของสัตว์มากมายมหาศาลถาโถมเข้าใส่ร่างโปร่งแสงของเด็กน้อยจนหนักอึ้งและอึดอัดไปหมด เสียงกรีดร้องโหยหวนของเหล่าสุกรที่ดังระงมอยู่ในคอกนั้น ไม่ได้ทำให้เขากลัว...แต่มันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดไปด้วย

            กุมารน้อยต้องรวบรวมพลังทั้งหมดที่มีเพื่อคงสภาพร่างของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะหลบไปนั่งขดตัวอยู่บนขื่อหลังคาที่สูงที่สุด และมองลงมายังภาพเบื้องล่างด้วยหัวใจที่หดหู่

            ซึ่งในตอนนี้เขาได้เห็นป๊าของพี่สาวเดินเข้าไปสมทบกับคนงานคนอื่น ๆ ที่กำลังดื่มเหล้าและส่งเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตนเอง

            แล้วงานบาปก็ได้เริ่มต้นขึ้น...เจ้าทองได้แต่มองภาพนั้นนิ่งระคนชวนอดสู ภาพของความตายที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า...เขาไม่เข้าใจว่าทำไมมนุษย์ถึงต้องทำเรื่องที่น่าเศร้าเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่ละสายตาไปไหน

            เพราะนี่คือภารกิจที่พี่สาวมอบหมายมา ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องเฝ้าดูการกระทำของป๊าต่อไป แม้ว่าภาพที่เห็นจะเต็มไปด้วยความโหดร้ายเกินที่เจ้าตัวจะรับได้ ซึ่งมีบ้างบางจังหวะที่เจ้าตัวได้ยกมือขึ้นมาปิดตา แต่ว่ากุมารทองตัวน้อยก็ยังคงเฝ้ารออย่างอดทน

            จนในที่สุด...แสงแรกของวันก็มาถึงพร้อมกับเสียงร้องของสัตว์ผู้โชคร้ายมากมายก็ได้หยุดลง ซึ่งดูเหมือนว่าความเงียบที่เข้ามาแทนที่เสียงกรีดร้องนั้นจะน่าขนลุกยิ่งกว่าเดิม

            เพราะมันเป็นความเงียบที่หนักอึ้งและเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่ยังคงคละคลุ้งอยู่ในอากาศ แสงไฟนีออนสีขาวซีดในโรงเชือดยิ่งขับเน้นให้ใบหน้าของเหล่าคนงานที่เหนื่อยล้าดูขาวเผือดราวกับศพไร้วิญญาณ

            บัดนี้งานบาปเหล่านี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว ก่อนจะตามมาด้วยงานชำระล้างที่กำลังเริ่มต้นขึ้น เสียงฉีดน้ำแรงดันสูงดังกระหึ่มไปทั่วพื้นคอนกรีตเพื่อชะล้างคราบเลือดและสิ่งสกปรกให้ไหลลงสู่รางระบายน้ำ

            ก่อนตามมาด้วยเสียงขูดโลหะดังขึ้นเป็นระยะจากการทำความสะอาดเครื่องมือและโต๊ะเหล็ก แรงงานชายทุกคนต่างทำงานกันอย่างเงียบเชียบและคล้ายจะเซื่องซึม

            ความบ้าคลั่งเมื่อกลางดึกได้มอดไหม้ไปพร้อมกับฤทธิ์สุรา เหลือเพียงความว่างเปล่าและความเหนื่อยล้าที่กัดกินลึกลงไปถึงจิตใจและป๊ามนตรีเองก็อยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากคนเหล่านี้เช่นกัน

            เสื้อผ้าของเขาเปรอะเปื้อนจนมองไม่เห็นสีเดิม เขาก้มหน้าก้มตาขัดล้างอุปกรณ์ของตนเองอย่างเงียบงัน ส่วนเจ้าทองที่นั่งขดตัวอยู่บนขื่อหลังคามาทั้งคืน วิญญาณของเด็กชายรู้สึกเหมือนมองเห็นแผ่นหลังที่กว้างใหญ่นั้นดูทรุดโทรมและห่อเหี่ยวลงอย่างเห็นได้ชัด

            "เฮ้อ... เสร็จซะทีโว้ย!" เสียงของไอ้เสือเพื่อนร่วมงานคนสนิทของมนตรีดังขึ้นทำลายความเงียบ "กูปวดหลังจวนจะหักเป็นสองท่อนอยู่แล้ว"

            "เออ...นั่นดิ ช่วงตรุษจีนทีไรงานแม่งเยอะแบบนี้ทุกปี"  อีกคนบ่นพึมพำ "กลับไปกูจะนอนให้ลืมบ้านลืมช่องไปเลย" ตามมาด้วยเสียงกล่าวเสริมของใครอีกคน

            ซึ่งทุกคนที่เป็นมือเชือดทั้งหมดต่างก็เห็นด้วย และหลังจากที่พวกเขาช่วยกันทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย เหล่าคนงานก็พากันไปล้างเนื้อล้างตัวที่ห้องน้ำรวม

            ก่อนจะเดินออกมาในชุดเสื้อผ้าปกติ บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อยเมื่อพวกเขาได้ก้าวออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ของยามเช้าภายนอกโรงเชือด

            ในตอนนี้ตลาดเช้าที่อยู่ติดกันเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นแล้ว เสียงพ่อค้าแม่ค้าทักทายกันดังจอแจ กลิ่นน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ลอยมาตามลม ซึ่งเป็นโลกอีกใบที่แตกต่างจากนรกที่พวกเขาเพิ่งจากมาโดยสิ้นเชิง

            "เฮ้ยพวกมึง!" ไอ้เสือตะโกนขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงคึกคัก "ก่อนกลับไปนอน ไปเสี่ยงโชคกันหน่อยดีกว่า! เผื่อเจ้าพ่อเสือจะให้พรรับตรุษจีนนี้ ได้เงินก้อนโตมาตั้งตัวโว้ย!"

            คนงานบางคนส่ายหน้าอย่างอ่อนแรง "ไม่มีเงินแล้วโว้ยไอ้เสือ เมื่อคืนก็ลงขวดไปหมดแล้ว"

            แต่มนตรีที่กำลังจะแยกตัวกลับบ้านกลับหยุดชะงัก...คำว่าโชคและเงินก้อนโตมันช่างหอมหวานเหลือเกินสำหรับคนที่เหนื่อยล้าและสิ้นหวังอย่างเขา

            "ไปไหมวะไอ้ตรี! ไปวัดดวงกับกูหน่อย!" ผู้พูดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้เสือที่กำลังเดินมากอดคอของเขา "ใบเดียว สิบบาทเองเผื่อฟลุ๊คขึ้นมาจะได้เลิกทำงานเหนื่อย ๆ แบบนี้ซะที!"

            มนตรีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง...เงินสิบบาทสำหรับเขาไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลย เพราะมันคือค่าข้าวของลูกได้เกือบทั้งวัน... แต่แล้วภาพความเหนื่อยยากของภรรยาและแววตาที่เปลี่ยนไปของลูกสาวก็ผุดขึ้นมาในหัว...(บางที...บางทีนี่อาจจะเป็นทางออก...)

            "เออ...ก็ได้วะ" เขาตอบเสียงอ่อย

            เมื่อเจ้าเสือได้ยินคำตอบรับของเพื่อนสนิท จากนั้นทั้งสองคนก็ได้เดินตรงไปยังแผงลอตเตอรี่ขนาดเล็กที่มีหญิงชราคนหนึ่งนั่งขายอยู่ มนตรีล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ควานหาเหรียญและธนบัตรใบย่อย ๆ ที่พอจะเหลืออยู่จนครบสิบบาทก่อนยื่นเงินนั้นให้แม่ค้า

            "เอาใบไหนดีล่ะพ่อหนุ่ม"

            มนตรีส่ายหน้า "ใบไหนก็ได้ม่า...แล้วแต่ดวง"

            เมื่อแม่ค้าได้ยินแบบนี้ หญิงชราจึงได้หยิบลอตเตอรี่ใบหนึ่งยื่นส่งให้เขา มนตรีรับมันมาโดยไม่แม้แต่จะมองดูตัวเลข       เขาพับมันครึ่งหนึ่งอย่างลวก ๆ แล้วยัดใส่กระเป๋ากางเกงด้านข้าง...ซึ่งเป็นการกระทำที่เต็มไปด้วยความเคยชินและความสิ้นหวังมากกว่าความตื่นเต้น

            เจ้าทองที่ลอยตัวอยู่ไม่ไกลเบิกตากว้าง...ทั้งนี้เป็นเพราะภารกิจของเจ้าตัวน้อยได้สำเร็จไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว!

            และหลังจากชายหนุ่มแยกกับเพื่อน มนตรีก็เดินโซซัดโซเซกลับบ้านตามลำพัง แสงแดดยามเช้าส่องกระทบใบหน้าของเขา แต่แววตานั้นกลับมืดมนและว่างเปล่า...

          'เอาละ... ได้เวลาไปรายงานพี่สาวแล้ว!' กุมารน้อยคิดในใจ ก่อนจะรีบรุดล่วงหน้ากลับไปยังบ้านไม้หลังเล็ก...ก่อนที่แผนการขั้นต่อไปจะเริ่มต้นขึ้น... 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   ตอนที่ 41 เส้นทางพรสวรรค์ของขวัญรดา

    หลายเดือนต่อมาในขณะที่การค้าของครอบครัวศิริเวชเจริญนั้นเป็นไปด้วยดี ในตอนนี้ช่อฟ้ากับสุ่นลั้งเริ่มสบายตัวมากขึ้น เนื่องจากคนทั้งคู่ได้ตัดสินใจแค่ทำของอยู่กับบ้านและให้ป้าพรกับป้าสมศรีเป็นคนออกไปขายแทนทางด้านดวงก็ยังคงทำหน้าที่พนักงานหาบของ...ของตนตามเดิม เพียงแค่...ตอนนี้เด็กหนุ่มไม่จำเป็นต้องเดินหาบตามบ้านอีกต่อไปแล้วทำเพียงแค่ออกไปขายตามตลาดนัดก็เพียงพอแต่สำหรับทางด้านงานของมนตรีที่กำลังช่วยเจ็กใช้ทำงานด้วยความขยันขันแข็งอยู่นั้น กลับได้เกิดปัญหาขึ้นบางอย่าง...เย็นวันหนึ่ง มนตรีกลับมาถึงบ้านด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งเครียดมากกว่าปกติ“เป็นอะไรไปป๊า” ช่อฟ้าเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงระหว่างมื้อเย็น“เฮ้อ! ก็เรื่องงานน่ะสิ” เขาถอนหายใจ “ลูกค้าคนล่าสุดเขาติมา... เขาว่าแบบบ้านของอาเจ็กมันซ้ำกับบ้านหลังอื่นในซอย...เขาอยากได้อะไรที่มันดูใหม่มากกว่านี้...แต่อาเจ็กแกก็มีแบบบ้านมาตรฐานอยู่ไม่กี่แบบ”ปัญหาเชิงธุรกิจนั้นทำให้ทุกคนในวงข้าวนิ่งเงียบไป...ขวัญรดาที่นั่งทำการบ้านอยู่ไม่ไกลได้ยินทุกอย่าง...และในตอนนี้จิตวิญญาณของคุณยายชาวสวนที่เคยใฝ่ฝันอยากจะเป็นสถาปนิกพ

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   ตอนที่ 43 กำเนิดนักร้องเสียงทองตัวน้อย

    สามปีผ่านไปทุกชีวิตในครอบครัวศิริเวชเจริญได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง...จากร้านหาบเร่และรถเข็นเล็ก ๆ ในวันวาน บัดนี้ร้านแม่ช่อฟ้าได้กลายเป็นร้านข้าวแกงเจ้าประจำของชุมชนที่ทุกคนต่างรู้จักและชื่นชอบกิจการของพวกเขาเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง เงินเก็บในสมุดบัญชีก็เริ่มมีมากขึ้นตามลำดับจากหยาดเหงื่อแรงกายของทุกคน และในตอนนี้ร้านข้าวแกงแม่ช่อฟ้าจากแม่ค้าตลาดนัดก็มีห้องแถวขนาดกลางเป็นของตัวเองเพิ่มขึ้นมาทางด้านของมนตรีชายหนุ่มก็ได้กลายเป็นหัวหน้าคนงานก่อสร้างที่ใช้ไว้วางใจและให้คุมงานสำคัญแทน ชายหนุ่มเลิกดื่มเหล้าอย่างเด็ดขาด และกลายเป็นเสาหลักที่อบอุ่นและแข็งแกร่งของครอบครัว ส่วนช่อฟ้ากับสุ่นลั้งก็กลายเป็นเถ้าแก่เนี้ยผู้เป็นที่ยอมรับนับถือของคนในตลาดทางด้านขวัญรดาในวัยสิบปี ในปีนี้ซึ่งเป็นการเปิดภาคเรียนใหม่เด็กหญิงกำลังจะขึ้นไปอยู่ชั้นประถมปีที่ 6 อย่างมีความสุข เธอเป็นนักเรียนดีเด่นที่เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วและในปีนี้... มนัสน้องชายตัวน้อยของเธอ...ก็ได้ก้าวเข้าสู่รั้วโรงเรียนเดียวกันในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นที่เรียบร้อย แม้ว่ามนัสจะไม่ได้มีพร

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   ตอนที่ 42 ข้ามชั้นแบบงง ๆ

    “ใช่! ห้องของคุณนั่นแหละ” ครูใหญ่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดครูวิทยายังคงยืนอึ้งกับการตัดสินใจที่รวดเร็วของผู้บริหาร แต่ก็รีบพยักหน้ารับคำ “ครับท่าน...ถ้าเช่นนั้นผมขอตัวไปแจ้งผู้ปกครองของเด็กก่อนนะครับ”ภายในห้องพักรับรองด้านนอก มนตรีและใช้กำลังนั่งรอผลคำตอบด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ ส่วนขวัญรดานั้นแม้ภายนอกของเธอจะยังคงนิ่งแต่ในใจก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้เช่นกันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าสำหรับคนรอ...ความเงียบในห้องรับรองถูกกดทับด้วยความตึงเครียด มนตรีนั่งไม่ติดที่ เขาขยับตัวไปมา ลูบท้ายทอยตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าส่วนใช้แม้จะพยายามรักษาท่าทีให้สุขุม แต่การที่เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเป็นระยะ ๆ ก็บ่งบอกว่าเจ้าตัวเองก็กำลังลุ้นไม่แพ้กันมีเพียงขวัญรดาที่ยังคงนั่งนิ่ง... แต่หากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าปลายนิ้วเล็ก ๆ ของเธอกำลังจิกอยู่ที่กระโปรงนักเรียนจนแน่นและในที่สุดเสียงเปิดประตูห้องพักรับรองแห่งนี้ก็ดังขึ้น ทำให้ร่างของผู้ใหญ่ทั้งสองคนสะดุ้งเล็กน้อยและรีบลุกขึ้นยืนโดยอัตโนมัติครูวิทยาเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ยากจะคาดเดา... มันเป็นสีหน้าที่ผสมปนเป

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   ตอนที่ 40 เข้าสู่เส้นทางตลาดนัด

    และแล้วสามวันต่อมา...ซึ่งเป็นวันเสาร์ก็มาถึง วันนี้บ้านสวนหลังนี้คึกคักกันตั้งแต่ตีสามเลยทีเดียวเพราะเป็นวันที่ครอบครัวศิริเวชเจริญจะไปเปิดศึกที่ตลาดนัดลานต้นมะขามซึ่งบรรยากาศในครัววันนี้ได้แตกต่างออกไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง เพราะนอกจากหม้อแกงและขนมหวานที่คุ้นเคยแล้ว วันนี้ยังมีเมนูใหม่แกะกล่องที่สุ่นลั้งและช่อฟ้าบรรจงทำขึ้นเป็นพิเศษอีกด้วย...นั่นคือรายการหมูพะโล้สูตรโบราณที่เคี่ยวจนน้ำเข้าเนื้อส่งกลิ่นหอมของเครื่องเทศจีนไปทั่ว และหมูสามชั้นต้ม ที่ต้มจนเปื่อยนุ่ม ราดด้วยน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวรสเด็ดกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่มนตรีเป็นคนปรุงเองกับมือ ซึ่งเมนูเหล่านี้แทบจะไม่มีใครทำขายตามตลาดนัดทั่วไป เพราะเป็นอาหารที่ต้องใช้เวลาและความใส่ใจในการทำสูง ส่วนฝ่ายขนมหวาน...ขวัญรดาก็ได้แสดงฝีมือในฐานะ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์เป็นครั้งแรก“แม่จ๋า...ทับทิมกรอบของเรา...ลองทำใส่แก้วพลาสติก ใส ๆ แบบนี้ดีไหมจ๊ะ” เธอนำเสนอ “เราจัดเรียงเป็นชั้น ๆ ให้เห็นเม็ดทับทิมสีแดงสด ตัดกับขนุนสีเหลืองทอง...มันจะดูน่ากินขึ้นเยอะเลย”ความคิดในการจัดวางสินค้าให้น่าสนใจนั้น เป็นสิ่งที่ใหม่มากสำหรับคนในยุค

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   ตอนที่ 39 ความดวงดีของนายดวง?

    หลังจากที่นายดวงเดินออกมาจากท้ายวัดและมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ ซึ่งตรงกันข้ามกับเส้นทางที่ช่อฟ้ากำลังจะไปขายข้าวราดแกงของตนและขนมกับพรในเวลานั้นเด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่าการขายขนมของตนวันนี้เป็นเพราะความโชคดีของตนหรือว่าเพราะตุ๊กตาแมวกวักหน้ายิ้มกันแน่ เพราะทันทีที่ปากของเขาร้องตะโกนเรียกลูกค้าไปได้เพียงแค่ครั้งเดียว... และยังไม่ทันจะจบประโยคดีว่า...“ขนมจ้า! ขนมอร่อย ๆ มาแล้วจ้า! ปลากริมไข่...”“พ่อค้า! เดี๋ยว! หยุดก่อน!”เสียงเรียกจากหญิงวัยกลางคน...ได้ดังขึ้นจากหน้าบ้านหลังหนึ่ง ดวงรีบวางหาบลงทันที หญิงคนนั้นเดินเข้ามาดูขนมในหาบด้วยความสนใจก่อนจะขอซื้อปลากริมไข่เต่าไปลองชิมหนึ่งถ้วยและทันทีที่นางได้ชิมขนมเข้าไปคำแรก... ดวงตาของหญิงวัยกลางคนก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ!“อร่อย! อร่อยมาก! ไม่เคยกินปลากริมไข่เต่ารสชาตินี้มาก่อนเลย!” หล่อนกล่าวชมอย่างจริงใจ “พ่อหนุ่ม...ทำของอร่อยขนาดนี้ ทำไมไม่ไปขายที่ตลาดนัดเช้าตรงลานมะขามล่ะ ที่นั่นคนเยอะมากเลยนะ ของอร่อย ๆ แบบนี้ต้องขายดีแน่นอน”“ตลาดนัดเช้าเหรอครับป้า” ดวงทวนคำอย่างสนใจ“ใช่! เขามีก

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   ตอนที่ 38 ก้าวแรกของการเป็นเถ้าแก่

    และครอบครัวศิริเวชเจริญก็ไม่ปล่อยให้แผนการเป็นเพียงแค่ความฝัน...เพราะเช้าวันรุ่งขึ้นมนตรีก็ใช้ทักษะช่างของตนสร้างป้ายไม้แผ่นใหม่ที่ดูสวยงามและแข็งแรงขึ้นมากกว่าเดิมและนอกจากที่เขาจะเขียนชื่อร้านแม่ช่อฟ้าและรายการอาหารคาวหวานที่ขายหน้าร้านแล้ว ที่มุมหนึ่งของป้ายยังมีข้อความเล็ก ๆ ที่เขียนไว้อย่างชัดเจนว่า: “รับสมัครคนช่วยงานทำขนมและคนหาบขนมขาย (มีส่วนแบ่งให้)”ซึ่งป้ายประกาศนี้ของเขาก็ได้สร้างความประหลาดใจและความสนใจให้กับลูกค้าและเพื่อนบ้านในชุมชนเป็นอย่างมาก...พร้อมกับทุกคนต่างคิดเหมือนกันว่า...กิจการของครอบครัวนี้กำลังจะขยับขยายอีกแล้ว!เวลาผ่านไปไม่กี่วัน...ก็มีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่กำลังว่างงานทยอยเดินทางมาสมัครกับสุ่นลั้งที่บ้านสวนเป็นจำนวนมาก ผิดจากแต่ก่อนที่ไม่เคยมีใครกล้าย่างกรายเข้ามาแถวนี้เพราะความกลัว ทว่าบัดนี้บ้านสวนหลังนี้กลับคึกคักขึ้นมากทีเดียวหญิงวัยกลางคนทำหน้าที่เป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง หล่อนสอบถามประวัติความเป็นมาของคนที่มาสมัครรวมถึงเหตุผลและเคยผ่านงานอะไรมาบ้างเพื่อดูถึงความขยันขันแข็งและคว

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status