Share

บทที่ 5

เช้าวันต่อมา...

ก่อนที่แสงแรกของวันจะทันได้สาดส่องเข้ามาทางรอยรั่วของหลังคาสังกะสี...โสตประสาทของขวัญรดาก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นก่อนเป็นอันดับแรก

มันคือเสียงของกิจวัตรประจำวันที่เธอเคยได้ยินมาตลอดในวัยเด็ก...เสียงสับหยวกกล้วยเป็นจังหวะบนเขียงไม้เก่าเสียงครกกระทบสากที่ดังมาจากในครัวและเสียงกวาดบ้านที่ดังซ่า ๆ อยู่ไม่ไกล

ทั้งหมดนี้บ่งบอกว่าผู้หญิงสองคนในบ้าน...แม่และอาม่าของเธอได้เริ่มต้นวันใหม่อันแสนวุ่นวายของพวกท่านแล้ว

ขวัญรดาค่อย ๆ ปรือตาขึ้นอย่างเชื่องช้า กลิ่นหอมของกระเทียมเจียวที่แม่กำลังเตรียมไว้สำหรับทำข้าวต้มลอยมาเตะจมูก แต่แล้ว...เมื่อลมระลอกหนึ่งพัดโชยเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดแง้มไว้

กลิ่นหอมของอาหารก็ถูกแทนที่ด้วยกลิ่นอับชื้นปนกลิ่นฉุนอันเป็นเอกลักษณ์...ของกลิ่นขี้หมูจากเล้าของเถ้าแก่เส็งที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก

(เราไม่ได้ฝันไป...และเราได้กลับมายังอดีตแล้วจริง ๆ) ขวัญรดาคิดในใจพลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกระคนดีใจ เพราะสิ่งเหล่านี้คือชีวิตจริงในอดีตของเธอนั่นเอง

เด็กหญิงขยับตัวอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ปลุกน้องชายที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่ด้านข้างในมุ้งหลังเก่า ก่อนที่เธอจะมุดตัวออกจากมุ้งและเดินไปยังโอ่งน้ำขนาดเล็กที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของบ้านเพื่อล้างหน้าล้างตา

ในขณะที่เธอกำลังวักน้ำขึ้นล้างหน้าอยู่นั้นเอง...หางตาของเธอก็พลันเห็นเงาของใครบางคนยืนอยู่ที่ใต้ต้นไทรใหญ่หน้าบ้านที่ไร้ซึ่งรั้วกั้น

ขวัญรดาใจกระตุกเล็กน้อย...ก่อนที่เธอจะจ้องมองร่างเล็กตรงหน้านั้นให้ชัดเจนขึ้น ซึ่งเธอเห็นว่าเขาเป็นเด็กชายตัวค่อนข้างผอมอายุน่าจะอยู่ราว ๆ สามถึงสี่ขวบท่อนบนไม่สวมเสื้อ...ส่วนท่อนล่างของเขาสวมโจงกระเบนสีแดงเก่าคร่ำคร่า

และดูเหมือนว่าเด็กชายคนนั้นจะไม่ได้ยืนนิ่งอยู่เฉย ๆ แต่เขากำลังเดินตรงมาทางเธอเมื่อรับรู้ได้ว่าเธอเห็นเขา แต่มันเป็นการเดินที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก...เพราะมันดูเหมือนเป็นการลอยตัวเสียมากกว่า เนื่องจากเท้าเปลือยเปล่าของเขาไม่ได้สัมผัสพื้นดินเลย

และเพียงชั่วพริบตา เขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว

"เฮ้ย!"

ขวัญรดาอุทานออกมาด้วยความตกใจ...เธอถอยหลังกรูดจนแผ่นหลังกระแทกเข้ากับผิวเย็นเฉียบของตุ่มน้ำดินเผาอย่างจัง หัวใจของเด็กหญิงเต้นรัวราวกับจะทะลุออกมาจากอก เหงื่อเย็น ๆ ผุดขึ้นเต็มแผ่นหลังจนเสื้อผ้าชื้นเหนอะหนะ

(ผี! นี่เราเจอผีจริง ๆ อย่างนั้นเหรอและตอนกลางวัน แสก ๆ แบบนี้ด้วย...มะ...มันจะเป็นไปได้ยังไง) เธอคิดอย่างสับสน

แม้ว่าวิญญาณของเธอจะเป็นคุณยายวัยแปดสิบห้ามาก่อน แต่การเห็นผีเป็นตัวเป็นตนชัดเจนระดับ Full HD ขนาดนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตทั้งสองชาติภพ ก็ทำให้เธอขวัญหนีดีฝ่อได้เหมือนกัน!

สัญชาตญาณสั่งให้เธอวิ่งหนี แต่ร่างกายของเด็กห้าขวบกลับแข็งทื่อ...เธอทำได้เพียงยืนตัวสั่นพิงตุ่มน้ำพร้อมกับพยายามนึกถึงบทสวดมนต์ที่เคยสวดมา ทว่า...มันกลับจำไม่ได้นอกจากนะโมตัสสะ...

ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเด็กชายตรงหน้าเองก็เหมือนจะตกใจกับท่าทีของเธอเช่นกัน เขายืนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างลังเล ราวกับกลัวว่าจะทำให้เธอแตกตื่นไปมากกว่านี้

เมื่อเห็นว่าวิญญาณตนนั้นไม่ได้มีท่าทีคุกคาม ความกลัวที่เคยพุ่งขึ้นสูงของขวัญรดาก็เริ่มถูกแทนที่ด้วยสติของหญิงชรา เธอบังคับให้ตัวเองหายใจเข้าลึก ๆ พยายามประเมินสถานการณ์ตรงหน้า

และตอนนั้นเองที่เธอได้สังเกตเห็นเด็กชายคนนั้นอย่างละเอียด...เขามีใบหน้าที่น่ารักน่าเอ็นดู แต่กลับซีดเซียวไร้สีเลือด ดวงตากลมโตคู่สวยนั้นคลอหน่วยไปด้วยความเศร้าสร้อย และที่สำคัญ...เขากำลังยกมือเล็ก ๆ ขึ้นกุมท้องของตัวเอง

"พี่สาว..." เสียงเล็กใสแฝงด้วยความแหบโหยดังขึ้นในหัวของเธอ "อย่ากลัวหนูเลย...หนูก็แค่หิว"

คำพูดนั้นเหมือนน้ำเย็นที่ดับความหวาดกลัวในใจของขวัญรดาลงได้อย่างชะงัด...พร้อมกับภาพของผีที่น่ากลัวได้สลายไปในทันที เหลือเพียงภาพของเด็กน้อยที่น่าสงสารร้องขอข้าวกินอยู่ตรงหน้า สัญชาตญาณความเป็นย่าทวดของเธอเริ่มทำงานแทนที่ความตกใจ

"เธอ...เป็นใคร" ขวัญรดาถามกลับไป แม้น้ำเสียงจะยังสั่นอยู่บ้างก็ตาม

"หนูชื่อทอง...เป็นกุมารจ้ะ" เด็กชายตอบพลางทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ "ไม่มีใครให้ข้าวกินมานานมากแล้ว หนูหิวมากเหลือเกิน"

เขามองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง "แต่หนูรู้... ว่าพี่สาวเห็นหนู ถะ...ถ้าพี่สาวหาอะไรให้หนูกินนะ...หนูจะช่วยพี่สาวเป็นการตอบแทน! หนูสามารถเรียกลูกค้าได้นะ! หนูทำให้ของขายดีได้! หรือว่าจะให้หนูไปไล่ผีตัวอื่นก็ยังได้อีกเหมือนกัน"

กุมารน้อยรีบเสนอขายความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ ราวกับกลัวว่าโอกาสเดียวของตัวเองจะหลุดลอยไป

ขวัญรดาฟังอย่างเงียบ ๆ ความกลัวหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงความรู้สึกทึ่งและสงสารจับใจ เธอพยักหน้าช้า ๆ

"ตกลง" เธอตอบเสียงเบา "เดี๋ยวฉันจะหาอะไรมาให้กิน... แต่ตอนนี้เธอต้องไปซ่อนก่อน เดี๋ยวแม่กับอาม่าฉันมาเห็น"

"จริงนะ! พี่สาวสัญญาแล้วนะ!" ดวงตาของเจ้าทองเปล่งประกายขึ้นมาทันที

"อืม สัญญา"

"เย้! งั้นหนูจะรออยู่ตรงต้นไทรนะพี่สาว! อย่าลืมหนูนะ!" พูดจบ ร่างโปร่งแสงของเด็กน้อยก็สลายวับหายไปในอากาศ โดยที่เจ้าตัวคงลืมไปแล้วว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมองเห็นเขา

ขวัญรดาปล่อยลมหายใจที่กลั้นไว้โดยไม่รู้ตัวออกมาเฮือกใหญ่ ขาของเธอยังคงสั่น...มือเล็กของเธอยกมือขึ้นทาบอกเพื่อระงับอาการใจเต้นของตัวเอง

"ขวัญ! มากินข้าวต้มได้แล้วลูก!"

เสียงเรียกของแม่ดังขึ้น ทำให้ขวัญรดาสะดุ้งอีกครั้ง เธอรีบขานรับแล้วเดินเข้าไปในบ้านด้วยหัวใจที่ยังคงเต้นระรัวกับเหตุการณ์เมื่อครู่ แต่ในขณะเดียวกัน...สมองของเธอก็เริ่มวางแผนการบางอย่าง

หลังจากที่มื้อเช้าอันแสนอบอุ่นจบลง ทุกคนในบ้านก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง

ช่อฟ้ากับอาม่าช่วยกันเก็บล้างถ้วยชาม ในขณะที่มนตรีผู้เหนื่อยล้าจากการทำงานและการเผชิญหน้ากับเถ้าแก่เส็งเมื่อคืน ก็ขอตัวเข้าไปงีบหลับเพื่อเอาแรงเตรียมตัวไปทำงานที่โรงเชือดอีกรอบในช่วงเย็นวันนี้...

ซึ่งงานของเขาค่อนข้างจะหนักเป็นพิเศษ เพราะช่วงนี้ใกล้ถึงเทศกาลตรุษจีนเต็มที

ขวัญรดาเห็นว่าเป็นโอกาสดี เธอรอจนไม่มีใครสนใจ ก่อนจะค่อย ๆ ตักข้าวต้มที่ยังพอเหลือติดก้นหม้อใส่ถ้วยเล็ก ๆ แล้วแอบย่องออกจากบ้านไปอย่างเงียบเชียบ

เธอวางถ้วยข้าวต้มไว้ที่ใต้ต้นไทรใหญ่ ตามที่กุมารน้อยตนนั้นได้บอกไว้ "ฉันเอาข้าวมาให้ตามสัญญาแล้วนะ... กินให้อิ่มล่ะ" เธอกระซิบกับสายลม ก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้าบ้านราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ช่วงสายของวันนั้น ขวัญรดาได้รับหน้าที่ให้ดูแลน้องชายตัวเล็ก ในขณะเดียวกันอาม่าก็นั่งอยู่บนแคร่หน้าบ้าน...พร้อมกับนำเสื้อผ้าเก่า ๆ ของคนในครอบครัวออกมากองไว้เพื่อเตรียมปะชุน เข็มในมือของหญิงวัยกลางคนขยับขึ้นลงอย่างชำนาญ ซ่อมแซมรอยขาดอย่างใส่ใจเพื่อยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าทุกตัวให้ได้นานมากที่สุด

ขวัญรดานั่งมองภาพนั้นอย่างเงียบงันในหัวของเธอกำลังขบคิดหาหนทางทำมาหากินอย่างหนักหน่วง ภาพของแม่ที่ต้องเดินหาบปี๊บเศษอาหารที่ทั้งหนักและส่งกลิ่นเหม็น ภาพที่ต้องก้มหน้าก้มตาล้างคอกหมูที่สกปรก...

เธอทนเห็นภาพเหล่านั้นต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เนื่องจาก งานที่หนักหนาสาหัสแต่กลับได้ค่าตอบแทนเพียงน้อยนิด มันไม่คุ้มค่ากับสุขภาพและศักดิ์ศรีของแม่เลย

แล้วสายตาของเธอก็เผลอมองเข้าไปในบ้าน...เห็นร่างของพ่อที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเสื่อ ทันใดนั้น...ภาพในความทรงจำจากอนาคตก็ฉายซ้อนขึ้นมาอย่างเจ็บปวด...ภาพของพ่อในวาระสุดท้ายที่ผ่ายผอม ภาพลำคอที่ถูกเจาะเป็นรูเพื่อต่อท่อช่วยหายใจ...

เด็กหญิงกำหมัดเล็ก ๆ ของตนเอาไว้แน่น...ไม่! เธอจะไม่มีวันยอมให้อนาคตที่น่าเศร้าแบบนั้นเกิดขึ้นอีก!

"พี่สาว..." ในขณะที่เธอกำลังคิดหาหนทางทำมาหากินอยู่นั้น เสียงเล็กใสก็ได้ดังขึ้นในห้วงความคิด ทำให้ขวัญรดาต้องหันไปมองข้างตัว

เจ้าทองปรากฏตัวขึ้นในสภาพร่างโปร่งแสง นั่งยอง ๆ อยู่ข้างเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตอนนี้เขาดูมีเรี่ยวแรงและสดใสขึ้นมาก ดวงตากลมโตกำลังมองมาที่เธออย่างสงสัย

"ทำไมพี่สาวทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างนั้นล่ะ" กุมารน้อยเอียงคอถาม "มีอะไรให้หนูช่วยรึเปล่า"

ขวัญรดาหันไปมองอาม่าที่ยังคงก้มหน้าก้มตาอยู่กับงานเย็บผ้า แล้วจึงหันมากระซิบกับสหายคนใหม่เสียงเบา

"ฉันกำลังคิดอยู่...ว่าจะทำยังไงให้แม่ไม่ต้องไปทำงานที่เล้าหมูอีก"

"งานที่เล้าหมูไม่ดีเหรอ" เจ้าทองถามอย่างไม่เข้าใจ

"มันเป็นงานที่หนักและได้เงินน้อยเกินไป" ขวัญรดาตอบ "ฉันอยากให้แม่ได้ทำงานที่ดีกว่านี้...เราต้องหาเงินให้ได้มากกว่านี้"

"หาเงินเหรอ..." เจ้าทองทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ให้หนูไปหยิบเงินของคนอื่นมาให้พี่สาวเอามั้ย!"

"ไม่ได้นะเจ้าทอง!" ขวัญรดารีบปรามเสียงเข้ม "นั่นมันขโมย จะเป็นบาปเอานะ!"

"โอ๊ะ...หนูขอโทษ" กุมารน้อยทำหน้าจ๋อย "ถ้างั้นเราจะทำยังไงกันดีล่ะพี่สาว"

คำถามนั้นทำให้ขวัญรดานิ่งไป...นั่นสิ แล้วเธอจะทำยังไงดี ในเมื่อตอนนี้เธอเป็นแค่เด็กห้าขวบที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากความทรงจำจากอนาคต ระบบแมวกวักที่ยังไม่เข้าใจวิธีการใช้ดีพอและกุมารน้อยผู้หิวโหยที่นั่งอยู่ข้างเธอในตอนนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   บทที่ 96

    “กูเองก็เห็นด้วย” เมฆก็ได้เอ่ยเสริมออกมาบ้าง“บางทีเจ้าลายมันอาจจะชอบน้องเขาก็ได้นี่ หรือไม่มันก็รู้สึกผิดที่กัดน้องเขาไปเมื่อวาน” ปฐพีพยายามบอกปัด ก่อนจะทำงานของตนต่อไป ส่วนเจ้าลายที่กำลังอยู่ในอ้อมแขนของขวัญรดาก็หาได้สนใจความคิดของมนุษย์ทั้งสามแต่อย่างใดและเมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองต่างมองมาทางเธอ

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   บทที่ 95

    หลายวันต่อมา ขวัญรดาที่กำลังประหม่าเรื่องของปฐพีก็ได้ถูกลูกตื้อของเพื่อนสาวเอ่ยร้องขอให้เธอไปเป็นเพื่อนที่คณะเกษตรฯ“เธอสองคนไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะขวัญ นะเจ้าจอมนะ ๆ” กิ่งเพื่อนสาวร่างเล็กเอ่ยขอร้องเพื่อนทั้งสองด้วยสายตาอ้อนวอน“พอดีฉันมีชีทเรียนต้องเอาไปให้เพื่อนที่เรียนอยู่คณะเกษตรฯ น่ะ... ไปคนเดี

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   บทที่ 94

    และในขณะที่บทสนทนาของทุกคนกำลังออกรสอยู่นั้นเอง... เจ้าจอมที่นั่งหันหน้าออกไปยังทางเดินก็พลันเบิกตากว้าง...“เฮ้ย! พวกแก...” เธอกระซิบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “นั่นใช่พี่ดิน คณะเกษตรไหมคำกล่าวนี้ของเธอทำให้ทุกคนยกเว้นขวัญรดาที่นั่งหันหลังอยู่ ต่างหันไปมองตามการพยักพเยิดของเจ้าจอมเป็นตาเดียวกัน“โห! ตัว

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   บทที่ 93

    เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นขี่รถจากไปแล้ว ช่อฟ้าและสุ่นลั้งที่ยืนรออยู่บนชานเรือนก็รีบเดินลงมาสมทบทันที“ขวัญ! เป็นยังไงบ้างลูก เจ็บมากไหม!” ช่อฟ้าตรงเข้ามาจับมือลูกสาวพลางดูแผลที่นิ้วของเธอด้วยความเป็นห่วง“หนูไม่เป็นไรแล้วจ้ะแม่ แผลเล็กนิดเดียวเอง” ขวัญรดาตอบพร้อมกับรอยยิ้มออกมา ซึ่งทุกคนเองก็โล่งใ

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   บทที่ 92

    เมื่อสายตาของเจ้าตัวเหลือบไปเห็นตะกร้าในมือของ ลูกสาว... และยิ่งไปกว่านั้น... คือร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มคนเดียวกับที่เคยไปส่งลูกสาวที่บ้าน...“ป๊าจ๋า...” ขวัญรดารีบเป็นฝ่ายอธิบายออกมาก่อนที่พ่อจะเข้าใจผิด “คือว่าเจ้าลาย... หนูหมายถึงแมวของพี่ปฐพีเขาน่ะค่ะ พอดีทางหอพักเลี้ยงสัตว์ไม่ได้ ช่วงนี้ฝนต

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   บทที่ 91

    คำว่า “รับออกแบบจัดสวน” เหมือนจะไปสะกิดบางอย่างในใจของทั้งคู่โดยไม่รู้ตัว ปฐพีกับขวัญรดาเลยเผลอมองสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง... และช่วงเวลาสั้น ๆ นี้กลับเพียงพอที่จะทำให้เพื่อน ๆ รอบข้างจับสังเกตได้ทันที“เฮ้ย... มึงว่าไอ้ดินมันสนใจน้องเขาหรือเปล่าวะ” ภัทรเอ่ยกระซิบกับเมฆ พลางเหลือบมองเพื่อนตัวเองอย่างไม่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status