ว่าแล้วเขาก็เดินเข้าไปกระซิบกับเธอยิ้มๆ
“ผู้ชายที่มั่นหน้าขั้นเทพขนาดนี้ ทั้งเรียนเก่ง ทำงานเก่ง เรื่องผู้หญิงก็เก่ง แถมยังเป็นสายวาก จนเลื่องลือขนาดนี้บอกเลยว่าจุดอ่อนเนี่ยหายาก แต่แค่ทำให้เขาเสียความมั่นใจ เราก็ชนะแล้ว”“เสียความมั่นใจเหรอคะ แล้วคุณรันจะบอกขวัญทำไม เจ้านายตัวเองแท้ๆ”“ผมบอกแต่ก็ไม่ได้เฉลยนี่ครับว่าอะไร ไปค้นหาเอาเอง” “แล้วที่ว่าสายวากคือ”“ก็วากเก่งไงครับเห็นแล้วนี่ เคยพูดเพราะๆ กับลูกน้องเสียที่ไหน ดุขนาดที่ว่าคนงานเห็นแค่เงาก็ก้มหน้าแล้ว” “อยากเห็นเหมือนกันค่ะ แต่ขวัญก็ไม่ได้อยู่ในหมวดละเว้นหรอก” “หึๆ ไม่แน่ กินอะไรดีกว่าไหม ถ้าจะไปทำงานช่วยก็จะได้มีแรง เดี๋ยวหามาให้” “ค่ะ” เธอตอบเสียงหม่น ก่อนจะเดินไปที่นั่งที่โซฟารับแขก แต่จังหวะเดียวกันนั้นกมลก็ออกมาจากครัวพอดี โดยที่ชรันไม่ได้ไปเอาอะไรมาให้กิน ในมือกมลก็ถือถาดอาหารเช้า“อาหารมาแล้วค่ะ” “ท่าทางร่าเริงนะพี่มล&rdquเขาคิดถามตัวเอง ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหาเสื้อกร้ามกับกางเกงขาสั้น เพื่อกลับมาแต่งตัวให้กับเธอ ชุดชั้นในไม่ต้องใส่ โนบราแบบนี้แหละ เขาทำได้เช่นนี้ก็ถือว่าบุญโขแล้วเพราะไม่เคยใส่เสื้อผ้าให้ใคร เก่งแต่ถอด เสร็จแล้วเขาก็กลับออกไปด้านนอก โดยมีกมลเตรียมอาหารเอาไว้ให้คนป่วยแล้วเรียบร้อย อีกทั้งหยูกยาอีกต่างหาก“เป็นยังไงบ้างคะนายพี่ว่าจะออกมาเอายา ก็เลยทำอาหารให้ซะเลย”“เข้าไปเห็นเป็นลมอยู่ในห้องน้ำ พี่มลไม่ต้องดูแลอะไรแล้ว” เขาบอกเสียงหม่นพร้อมกับสั่งการ“งั้นพี่จะไม่รบกวนแล้ว แต่ขออย่าง นายอย่าไปไหนอีกเลยนะคะ สงสารคนตัวเล็กตัวน้อย”“นี่ไม่มีใครสงสารผมใช่ไหม” เขาถามเสียงเรียบ แต่ไม่รับปากกมลแต่อย่างใด จากนั้นเขาก็เดินไปหาชรัน ซึ่งนั่งรออยู่ตรงโซฟารับแขก ลูกน้องบางส่วนต้องทยอยออกไปรวมถึงกมลด้วย เหลือไว้แต่ชรันคนสนิทเท่านั้น ทว่าปราชญ์ไม่ได้พูดอะไร แต่กลับเดินออกนอกบ้านหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ พ่นควันออกไปอย่างเครียดๆ“อย่างที่พี่มลบอก อย่าไปไหนอีกเลยนะครับ หนึ่งอาทิตย์น่าจะเพียงพอให
ซึ่งก็เข้าใจได้แหละเป็นปกติของคนทำงาน และเช่นเดียวกัน ด้วยความเป็นลูกคุณหนู ร่างกายมันเกินจะทนกับความเหน็ดเหนื่อย ที่มันคงสะสมมานับอาทิตย์ เพราะตรากตรำทำงานหนักมาก ทำให้ของขวัญหน้ามืดเมื่อลุกขึ้นยืน ทุกอย่างหมุนติ้ว มืดและมีดาวระยิบระยับเต็มไปหมดเธอเป็นลมล้มลงไปนอนกับพื้นหญ้า“ว๊ายตายแล้ว นายรัน ยัยหนูขวัญเป็นลม” คนงานคนหนึ่งตะโกนขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปดู ชรันเห็นดังนั้นจึงวิ่งเข้าไปหาและประคองเอาไว้เช่นกัน“คุณขวัญ! ให้ตายสิ ทำงานต่อนะเดี๋ยวพาขึ้นไปข้างบนก่อน”“ค่ะค่ะ” ทุกคนรับคำ จากนั้นชรันจึงอุ้มของขวัญกลับไปที่บ้านเพื่อปฐมพยาบาล พัดวี เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าและเนื้อตัวให้ ก่อนจะเอายาดมมาจ่อจมูก“ตายจริง! คุณขวัญ!” กมลเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง“คงเหนื่อยน่ะ ฝากดูแลได้ไหม คนงานขนองุ่นอยู่จะลงไปคุมต่อ”“ค่ะค่ะ คุณรันไปเถอะ ว่าแต่...”“ว่าแต่อะไร”“ช่างเถอะค่ะ”“ถ้าฟื้นแล้วหาอะไรให้ดื่มด้วยล่ะ จะได้สดชื่น”&nb
“ยังไม่เห็นเหมือนกัน เอ็งถามทำไมเหรอ ไม่เห็นอ่ะดีแล้ว เราจะได้ทำงานสะดวก ไม่งั้นสั่นประสาทกันหมดน๊า นายยิ่งดุอยู่ด้วย” “หนูก็แค่... แปลกๆ ค่ะ คนสนิทก็ไม่เห็นสักคน” “ตั้งใจทำงานเถอะอีหนู เผื่อนายมาจะได้เห็นว่าขยัน จะได้ไม่ดุ” “ค่ะ” ของขวัญรับคำสั้นๆ ก้มหน้าทำงานต่อ ท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยงๆ เธอเหนื่อยแต่เริ่มชินกับความร้อน ทุกคนทนได้เธอก็ต้องทนได้ จนกว่าจะได้รับอิสระ จนว่าปราชญ์จะได้ในสิ่งที่ต้องการ เธอไม่ควรมีปากเสียงกับคนที่สามารถฆ่าเธอและครอบครัวให้ตายทั้งเป็นได้ด้วยความจน ซึ่งแน่นอนว่าเวลานี้ปราชญ์กำลังทำ ของขวัญทำงานอย่างขยันขันแข็ง เริ่มเก็บองุ่นเป็นแล้ว และไม่สร้างความเสียหาย ทำในฐานะลูกจ้างไม่ใช่เมียหรือนางบำเรอ แต่เธอไม่เห็นปราชญ์ทั้งวัน ขณะที่เธอกลับอยู่ในสายตาของปราชญ์ตลอดเวลา เพียงแค่เขาไม่ออกไปให้เห็นเท่านั้น ในเมื่อเธอเกลียด โกรธ อยากฆ่าให้ตาย ก็งดเจอกันก่อน ส่วนเรื่องเอาเธอมาเรียกค่าไถ่กับเพชรน่ะเขารอได้ รอมาหลายปี รออีกนิดจะเป็นไร เขาจะให้เธอนั่นแหละนำเครื่องเพชรมา ทว่าตอนนี้คงจะสบายใจมากกระมังที่ไม่เห็นหน้าเขา พอช่วงเย็นเ
ระหว่างทำชรันก็สังเกตสีหน้าของเจ้านายที่ไม่แสดงท่าทีอาการอะไรเลย ติดจะหมองเศร้าด้วยซ้ำ มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไม่โกรธ ชรันคิดพลางเย็บแผลที่ต้นแขนเสร็จ ก็มาที่หน้าอกมันลึกประมาณหนึ่งนิ้วแต่เป็นแค่ผิวหนังชั้นนอก เอายาชาทาๆ แล้วเย็บเสร็จก็มาทำแผลที่มือเป็นอันดับสุดท้าย ทว่าชรันก็อดถามไม่ได้“แล้วที่มือล่ะครับ ทำไมมีแผลที่มือด้วย”“แย่งมีดเขาน่ะ” ปราชญ์ตอบเสียงเบา ผิดปกติจากที่เคยเป็นเหลือเกิน“เธอยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหมครับตอนนี้”“คิดว่าฉันจะบันดาลโทสะฆ่าเธอหรือไง”“ก็ไม่แน่นะครับ มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง”“เธอคงอยากจะฆ่าฉันมั้ง ขู่ฆ่าไม่ใช่เหรอ” “ไม่คิดว่าจะทำจริงๆ แต่น่าแปลกที่นายพลาดท่า”“ฉันแค่อยากเห็นหน้าเขาตอนลงมือทำ รู้สึกยังไง ฉันรู้ว่าเขาโกรธมาก แต่แค่ไหนจึงจะพอใจเขา”“แล้วเป็นยังไงครับ” ชรันถามพลางทำแผลที่มือให้ กระทั่งเอาผ้าก็อตพันเอาไว้หลายรอบ ขณะเดียวกันปราชญ์ก็ไม่ได้ตอบคำถามนี้ เขานั่
กระทั่งกลางดึก ของขวัญรวบรวมกำลังค่อยๆ ลุกขึ้นเพื่อไม่ให้ปราชญ์รู้สึกตัว แล้วลุกจากเตียงไปแต่งตัว ก่อนจะเดินกลับมาที่เตียง แล้วหยิบบางอย่างที่ซ่อนเอาไว้ใต้หมอนออกมาช้าๆ ความโกรธความเสียใจในความโหดร้ายของเขา ทำให้เธอบันดาลโทสะ ด้วยการถือมีดพกในท่าเตรียมจะกดลง ชั่ววินาทีเธอตัดสินใจกดมีดลงไปบนหน้าอก ทว่าเขาลืมตาขึ้นแล้วเบี่ยงตัวไปทางขวามือ มีดปักลงไปบนต้นแขนแทนฉึก! มีดปักต้นแขนโดยที่เขาไม่ส่งเสียงออกมาเลยแม้แต่แอะเดียว เขากัดฟันแน่นมองหน้าเธอที่กล้าหยิบมีดมาทำร้ายเขาได้ พอเห็นว่าไม่ตอบโต้เธอกลับดึงมีดออก หมายจะปักไปที่กลางอก แต่เขาเอื้อมมือขวามาจับที่ตัวมีดแทนเพื่อไม่ให้เธอปักลงเธอไม่ได้อยากให้เขาตายแต่อยากสนองความร้ายกาจของเขา เธอพยายามกดมีดแต่เขาต้านเอาไว้ เขาจะสู้ก็ได้แต่อยากเห็นสีหน้าคนใจร้าย เขาจับมีดแน่นจนบาดมือ พร้อมกับเลือดไหลตามปลายมีดหยดลงมาใส่หน้าอก เท่านั้นแหละเธอก็ได้สติแต่ยังไม่ทันหยุดกดมีด จังหวะเดียวกันเขาก็ปล่อยมือจนปลายมีดกดลงไปบนเนื้อหน้าอกฉึก! ปลายมีดจมลงไปในผิวเนื้อประมาณหนึ่งนิ้ว เธอเห็นมีดปักหน้าอกเขาพร้อมกับหยดเลือดไหลเต็มไปหมด ตอนน
“หึๆ อยากให้ฉันเจ๊งเหรอ ต้องฝึกสกิลให้สูงกว่านี้ แต่ถ้าอยากให้ฉันเจ็บเหรอ ทำฉันนี่แต่ยากหน่อยนะ เพราะฉันเจ็บจนชินชาแล้ว” สิ้นคำเขาก็จับมือทั้งสองข้างของเธอ ขึงเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว อีกข้างเขาก็ขยับลงไปปลดกางเกงแล้วรูดซิบลงในทันที“จะทำอะไร อย่านะ” เธอห้ามปรามเพราะกลัวเขาทำรุนแรง ซึ่งเขาไม่ได้ทำมันนานแล้ว“เธออยากได้ต่างหาก เพราะเธอรู้ว่าถ้าทำให้ฉันโกรธแล้ว ฉันเอาดุ เธอมันซาดิสต์”“ไม่! ไม่ได้ชอบซาดิสต์ จะบ้าเหรอ อื้อ” ยังไม่ทันจบคำดีเขาก็ฉกจูบที่ปากอิ่ม มือหนาอีกข้างก็งัดแท่งร้อนออกมารูดรัวๆ จนมันขยายลำตัวใหญ่และแข็งตั้ง เรียกได้ว่าอารมณ์เขากระตุ้นได้ไม่ยากแค่อยู่ใกล้เธอเท่านั้นแหละ“อื้อ” เธอดีดดิ้นบิดหนี แต่กลับกลายเป็นว่าแอ่นสะโพกขึ้นลงเชื้อเชิญ ขณะที่เขาแทรกตัวอยู่ระหว่างเรียวขา แล้วดันให้แยกขาห่างออกจากกัน“เธอรู้ว่าฉันมีอารมณ์ได้ง่ายมาก เลยกระตุ้นด้วยวิธีนี้ หิวมากใช่ไหม” เขาถอนจูบกัดฟันพูดอย่างเดือดดาล และแท่งร้อนจดต่อตรงกลีบสาว แล้วดุนดันบดเบียดสอดแหย่เข้า