“ทำไมถึงไม่ฆ่า ตอบซิ” เขากระซิบถามย้ำอีกครั้ง เผื่อจะได้คำตอบ“คุณรู้แล้ว... รู้คำตอบแล้ว” เธอตอบกลับเสียงเบา สั่นเครือเล็กน้อยเหมือนรู้สึกพ่ายแพ้ให้เขาอย่างราบคาบ ถึงแม้ว่าเขาจะวางแผนพาเธอมาเป็นนางบำเรอก็เถอะ “ฉันร้ายกับเธอขนาดนี้” เขาถามพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย“แล้วอย่าร้ายกับขวัญได้ไหมล่ะ”“เกลียดตัวกินไข่ เกลียดพ่อกินลูกอย่างนั้นเหรอ หืม”“แล้วทำไมต้องเกลียดขวัญด้วยล่ะ” แต่ก่อนเขาตอบได้ ตอนนี้เขาตอบไม่ได้ซะแล้ว เกลียดตัวเองจริงๆ เชียว คำถามนี้ไม่มีคำตอบนอกจากตัดจบด้วยการจูบปิดปากหวานเสียเลย“อื้อ! คุณขี้โกง” เธอเบือนหน้าหนีพลางเอ่ยอย่างงอนเง้าเมื่อเขาไม่ตอบ“ขี้โกงอะไร หืม” เขาแสร้งถามกลับและยิ้มกรุ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ไม่ตอบ เห็นแล้วเธอต้องเซ้าซี้ไหมเนี่ย“ขวัญขอได้ไหม” น้ำเสียงหวานออดอ้อนเชียว เขาคิด
“เด็กน้อย” สิ้นคำเขาก็กดจูบตรงกลีบนุ่ม ความร้อนจากปากทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อยจนขยับสะโพก ร่างกายไม่ได้รับสัมผัสเช่นนี้มานับอาทิตย์ ไม่อยากเชื่อว่าเธอจะปรารถนาถึงเพียงนี้ แค่เขาจูบแต่ยิ่งกว่าจูบ เมื่อลิ้นร้อนส่งออกมาปาดเลียกลีบนุ่ม จากล่างขึ้นบนสลับไปมาคล้ายจะหยอกเย้าให้ทรมานเล่น ทว่าร่างน้อยบิดเร้าเสียวซ่านจนขยำที่นอนเอาไว้ อีกมือก็กดศีรษะเขาเบาๆ กระทั่งเผลอคราง“ซี๊ด! อื้อ! อ๊ะ” เสียงครางหวานแผ่วเบาและเม้มปากเอาไว้เป็นบางจังหวะ และเสียวซ่านยิ่งกว่าเมื่อปลายลิ้นชำแรกสอดแทรกผ่านร่องรักฉ่ำหวาน ปาดเลียดุนดันเม็ดสวาทหนักหน่วง“อื้อ! โอ๊ย อ่า” เสียงหวานครวญครางโอดโอยเบาๆ พลางแอ่นสะโพกขึ้นลงรับจังหวะลิ้นที่กำลังเลียขึ้นลง สลับกับดูดน้ำหวานฉ่ำไหลอย่างคนช่ำชองประสบการณ์รัก สองมือจับขาทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ ให้ตั้งชัน ปากร้อนบรรจงขบดูดดื่มโลมเลียร่องรักระรัวเร่ง ร่างน้อยสั่นสะท้านเสียวซ่านดีดดิ้นด้วยความทรมาน อารมณ์ปรารถนาโลดแล่นพ
“เรื่อง?” เขาถามเสียงทุ้มนุ่ม ทว่าเธอกลับเอามือชี้ไปที่หน้าอกของเขา ก่อนจะจับมือข้างขวาแล้วบังคับให้แบมือ เธอจับเอาไว้แน่นแล้วลูบไปมา มันทำให้นึกถึงคืนนั้นที่เขากำมีดเอาไว้แน่น แต่จังหวะเดียวกันนั้นเขาก็ดึงมือกลับ“ต้องการให้มันเป็นแบบจริงเหรอ ถ้าอยากฆ่าฉันจริงๆ ฉันก็ยอมเธอแล้วไง ทำไมไม่ทำ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ปวดร้าวมากเลยทีเดียว จากนั้นจึงลุกขึ้นนั่งคุยกันดีๆ “ทำไม ฆ่าฉันเธอก็ปิดจ๊อบทุกอย่างได้ ได้เป็นอิสระ ได้กลับบ้าน ฉันไม่ให้ใครเอาเรื่องเธอก็ได้” เขากระซิบเบาลง“ขวัญไม่รู้ แล้วทำไมคุณต้องยอมด้วยล่ะ”“ฉันอยากเห็นสีหน้าคนใจร้าย อยากรู้ว่าถ้าฉันเจ็บ คนทำจะเป็นยังไงแต่ก็ได้รู้แล้ว มีอย่างที่อยากรู้เหมือนกัน” เขาพูดพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ กระทั่งหน้าผากแนบกัน“เกลียดมากไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ฆ่าเมื่อมีโอกาส” เขากระซิบเบากว่าเดิมเสียอีก“ขวัญ... ไม่รู้” เธอตอบได้แค่ไม่รู้พลาง
ผ่านไปเพียงห้านาที โดยประมาณเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ฉุดให้ของขวัญรีบเช็ดน้ำตา ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เคาะพอเป็นมารยาทเท่านั้น ประตูก็ถูกเปิดเข้ามาคือกมลนั่นเอง ของขวัญรีบฮึบแล้วกลืนน้ำตาเข้าไปไว้ในอก แต่มีหรือที่ผู้ใหญ่อย่างกมลจะดูไม่ออก ตาแดง จมูกแดงขนาดนี้“นายโทรตามให้มาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ กินอะไรหรือยัง” กมลถาม ก่อนจะเหลือบมองที่จานอาหาร“เขาจะไม่เข้ามาอีกแล้วเหรอคะ”“เห็นว่ามีงานด่วนค่ะ ถ้าเข้าก็คงจะค่ำๆ มั้งคะ” กมลตอบก่อนจะนั่งที่ขอบเตียง จ้องหน้าของขวัญก่อนจะกุมมือเธอเอาไว้“ดีขึ้นบ้างไหมคะ” ประโยคคำถามนี้มันแทนได้ทุกเรื่องเลย ซึ่งมันไม่ดีขึ้น ทำให้ของขวัญร้องไห้มาอย่างอัดอั้น“พี่มล... ขวัญ ขวัญไม่ไหวแล้ว ขวัญจะทำยังไงดีคะ” เธอถามพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น“พี่มลอยากถาม คุณขวัญทำอะไรนายเหรอคะ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน”“วันนั้นขวัญทำผิด เขาโกรธมากเลยรุนแรงกับขวัญ ขวัญเลยอาศัยจังหวะที่เขาหลับซ่อนมีดเอาไว้”“ถามจริงๆ จะฆ่าเขาให้ตายเลยเห
เจอพิษไข้รุมเร้าตั้งแต่เย็นวานนี้ ยาวมาจนตลอดทั้งคืน มาเช้าวันนี้ค่อยยังชั่วขึ้น ของขวัญปวดหัวน้อยลง ตัวเย็นแล้วพร้อมกับร่างกายที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ร้อนและเหนียวตัวพอสมควร กระทั่งเธอลืมตาขึ้นจึงเห็นว่าอยู่ในอ้อมกอดของเขา ถ้าจะขยับออกแล้วเขาจะตื่นหรือเปล่านะ ตอนนี้ไม่อยากให้เขาตื่น อยากเงยหน้ามองให้ชัดๆ เป็นครั้งแรก เขาตัดผมโกนหนวด สะอาดสะอ้าน ปากกระจับ จมูกโด่ง คิ้วหนาเข้ม แผงอกแน่น กล้ามแขนเป็นมัดใหญ่หล่อเกินจะมาเป็นนายใหญ่ของที่นี่ หล่อเกินที่เธอจะเอื้อมถึงและคู่ควร คิดแล้วก็น้ำตาไหลอีกครั้งพลางซบหน้ากับอกกว้าง ทว่าเธอกลับเหลือบเห็นแผลบนอก เป็นรอยเย็บซึ่งแผลยังดูใหม่อยู่ เหมือนเพิ่งจะหาย ใช่มันเป็นรอยที่เธอทำ เธอเอามีดแทงเขาดีที่มันไม่ลึก แต่เลือดที่เห็นยังคงติดตาอยู่“ขวัญขอโทษ” ของขวัญลอยๆ เบาๆ พลางเอามือลูบแผลนั่น ในจังหวะเดียวกันนั้นปราชญ์ขยับตัว คลายอ้อนกอดเหมือนเมื่อยแต่ไม่ได้ตื่น ทำให้เธอได้เป็นอิสระและดันตัวออกทันที ยิ่งทำให้เห็นชัดตรงต้นแขนที่เป็นรอยมีด เขาเย็บกี่เข็มกันเนี่ย เธอคิดพลางเอามือแตะแล้วลูบเบาๆ“อืม”
เขาคิดถามตัวเอง ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหาเสื้อกร้ามกับกางเกงขาสั้น เพื่อกลับมาแต่งตัวให้กับเธอ ชุดชั้นในไม่ต้องใส่ โนบราแบบนี้แหละ เขาทำได้เช่นนี้ก็ถือว่าบุญโขแล้วเพราะไม่เคยใส่เสื้อผ้าให้ใคร เก่งแต่ถอด เสร็จแล้วเขาก็กลับออกไปด้านนอก โดยมีกมลเตรียมอาหารเอาไว้ให้คนป่วยแล้วเรียบร้อย อีกทั้งหยูกยาอีกต่างหาก“เป็นยังไงบ้างคะนายพี่ว่าจะออกมาเอายา ก็เลยทำอาหารให้ซะเลย”“เข้าไปเห็นเป็นลมอยู่ในห้องน้ำ พี่มลไม่ต้องดูแลอะไรแล้ว” เขาบอกเสียงหม่นพร้อมกับสั่งการ“งั้นพี่จะไม่รบกวนแล้ว แต่ขออย่าง นายอย่าไปไหนอีกเลยนะคะ สงสารคนตัวเล็กตัวน้อย”“นี่ไม่มีใครสงสารผมใช่ไหม” เขาถามเสียงเรียบ แต่ไม่รับปากกมลแต่อย่างใด จากนั้นเขาก็เดินไปหาชรัน ซึ่งนั่งรออยู่ตรงโซฟารับแขก ลูกน้องบางส่วนต้องทยอยออกไปรวมถึงกมลด้วย เหลือไว้แต่ชรันคนสนิทเท่านั้น ทว่าปราชญ์ไม่ได้พูดอะไร แต่กลับเดินออกนอกบ้านหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ พ่นควันออกไปอย่างเครียดๆ“อย่างที่พี่มลบอก อย่าไปไหนอีกเลยนะครับ หนึ่งอาทิตย์น่าจะเพียงพอให