ตอนที่ 1
แทบละลายเพราะสายตาบอส
“พนักงานคนใหม่ชื่ออะไร”
ภูเบศลูกชายท่านประธานบริษัทถามถึงหญิงสาวที่เขาเพิ่งเจอตอนที่มาถึงที่ทำงานในตอนเช้ากับหัวหน้าฝ่ายบัญชีด้วยอาการแสดงออกถึงความสนใจเป็นพิเศษ
“คนไหนคะ”
ยุพาถามตามซื่อเพราะเดือนนี้ที่แผนกของเธอมีพนักงานใหม่ถึงสองคน
“ก็คนนั้น เอ่อ...คนที่ตัวเล็ก ๆ อวบหน่อยๆ”
คนถามทำสีหน้าหงุดหงิดเมื่อรู้สึกว่าไม่อยากเจาะจงชัดเจนว่าคนที่เขากำลังถามถึงมีลักษณะอย่างไร
“ล้านนา ยุพาว่าคนที่คุณภูเบศหมายถึงน่าจะเป็นล้านนาค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
ลูกน้องสาวถามออกไปเพราะกลัวว่าพนักงงานใหม่จะทำอะไรให้เจ้านายเธอไม่พอใจหรือเปล่าแต่เมื่อมองสบตาคนตรงหน้า ยุพาก็รีบพาตัวเองออกจากห้องท่านรองประธานทันที
“ไม่รู้ใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้องกันแน่”
ภูเบศบ่นพึมพำมือเท้าเอวส่ายหัวไปมาในความช่างซักไซ้ของลูกน้องคนสนิท
ภาพของหญิงสาวในชุดพนักงานของบริษัทที่ดูเข้ารูปทำให้เห็นหุ่นอันอวบอิ่มได้อย่างชัดเจนยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเจ้านายหนุ่มที่สุดแสนจะเจ้าชู้เป็นตัวพ่อของสังคมนักธุรกิจวัยหนุ่มไม่ยอมออกไปจากความนึกคิดเสียที
ล้านหน้าเป็นพนักงานใหม่ของที่นี่ เธอเข้ามาทำงานได้เพียงแค่สามวันเท่านั้นและยังอยู่ในช่วงทดลองงานจึงทำให้ภูเบศไม่มีโอกาสได้เจอกับเธอจนเมื่อเช้าทั้งคู่ขึ้นลิฟท์มาด้วยกันจึงทำให้เจ้านายสุดหล่อมีโอกาสได้เห็นหน้าพนักงานสาวคนใหม่เป็นครั้งแรก
“ผู้หญิงอะไรหุ่นกับท่าทางสวนทางกันจริง ๆ ”
ชายหนุ่มนั่งคิดถึงท่าทางของพนักงานใหม่ที่ดูเรียบร้อย ขี้อายเมื่อต้องอยู่กับผู้ชายในลิฟท์สองต่อสองแต่รูปร่างที่ได้ส่วนเว้าส่วนโค้ง อกอวบที่ดูใหญ่กว่าตัว ใบหน้าเล็กรูปไข่ ปากอวบอิ่มดูแล้วน่าจูบยิ่งนักทำให้ภูเบศถึงกลับรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนไปหมดตามปกติของพ่อเสือหนุ่มที่เห็นเหยื่อแล้วอยากจะลากเอามากินเสียให้ได้
ความเจ้าชู้ของภูเบศเป็นที่รู้กันของพนักงานแต่ถึงเขาจะเจ้าชู้แค่ไหนก็ยังไม่เคยมีพนักงานของที่นี่คนไหนได้กินพ่อคาสโนว่าตัวพ่อสักคน
“เธอไปทำอะไรให้คุณภูเบศไม่พอใจมาหรือเปล่า”
ยุพาเดินออกจากห้องเจ้านายก็รีบเดินมุ่งหน้ามาหาลูกน้องคนใหม่ทันที
“ไม่นะคะ หนูยังไม่เคยเจอท่านเลยค่ะ”
หญิงสาวส่ายหัวปฎิเสธตั้งแต่มาทำงานที่นี่เธอยังไม่มีโอกาสได้เจอท่านรองประธานเพราะตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานเธอก็มีหน้าที่แค่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์คอยทำเอกสารให้ยุพาเท่านั้น
“ไม่เคยเจอแต่ทำไมนะคุณภูเบศถึงพูดถึงลักษณะเธอได้ถูกทุกอย่างแต่ก็ช่างเถอะ! เอาเป็นว่าถ้าได้เจอก็ทำตัวดี ๆ เพราะตอนนี้เธอยังไม่ผ่านช่วงทดลองงาน คุณภูเบศเวลาโมโหขึ้นมาไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น พนักงานที่นี่ต่างพากันกลัว บทเวลาจะใจดีก็ดีจนใจหายแต่พอเวลาร้ายขึ้นมาก็ไม่เอาใครเหมือนกัน”
ล้านนาได้ฟังแล้วเริ่มรู้สึกกลัวเจ้านายของเธอขึ้นมาทันทีเพราะตอนนี้หน้าตาของเขาเป็นอย่างไรเธอยังไม่เคยรู้กลัวว่าจะเผลอไปทำไม่ถูกใจเข้า
เวลาของมื้อกลางวันพนักงานส่วนใหญ่ก็จะกินอาหารที่ร้านอาหารของตึกเพราะมีให้เลือกหลายอย่างราคาถูกอีกทั้งไม่ต้องเดินออกไปตากแดด
“เธอรู้จักคุณภูเบศไหม เราอยากเห็นหน้าจัง”
ล้านนาตัดสินใจถามเพื่อนพนักงานที่มาทำงานที่นี่ก่อนเธอได้เกือบเดือน เธอหวังว่าบางทีส้มโออาจจะมีหนทางทำให้เธอได้เห็นหน้าเจ้านายผู้น่ากลัวของยุพาได้บ้าง
“รู้จักสิ หล่อมากหล่อมาย หล่อจนไม่น่าจะมาเป็นนักธุรกิจน่าจะไปเป็นนายแบบมากกว่า”
ส้มโอชมไปกดโทรศัพท์หารูปให้เพื่อนด้วยท่าทางยิ้มเล็กยิ้มน้อยเหมือนกำลังมีความสุขที่ได้พูดถึงคนในภาพที่เธอส่งให้เพื่อนได้ดู
“เฮ้ย!”
ล้านนาถึงกับตกใจเมื่อรู้ว่าผู้ชายที่เธอขึ้นลิฟท์มาด้วยเมื่อเช้าคือเจ้านายของเธอเองแต่ทำไมเขาถึงไม่ลงชั้นเดียวกับเธอนะ
“ตกใจอะไร” ส้มโอถามอย่างยากรู้
“ไม่มีอะไรแค่เชื่อเธอแล้วว่าหล่อจริง”
ความกลัวเริ่มทำให้ล้านนากินข้าวไม่อร่อยเธอพยายามคิดว่าตอนอยู่ในลิฟท์เธอได้ทำอะไรให้เจ้านายโมโหไหมเขาถึงได้ถามถึงเธอกับยุพา
สิ่งที่หญิงสาวกลัวที่สุดคือการไม่มีงานทำเพราะแม่ของเธอต้องใช้เงินในการรักษาตัวด้วยอาการป่วยเรื้อรังต่อเดือนเป็นเงินหลายบาท พ่อของเธอก็ไม่ค่อยแข็งแรงทำงานไม่ได้ทำได้แค่ช่วยเธอดูแลแม่และขับรถพาแม่ไปโรงพยาบาลเท่านั้น ล้านนาจึงทำทุกอย่างที่จะได้เงินเพื่อไปรักษาและดูแลพ่อกับแม่ให้ดีที่สุด
เช้าวันนี้ล้านนามาถึงที่ทำงานเป็นคนแรกเหมือนทุกวันเพราะเธอชอบที่จะได้มานั่งเล่นที่บริษัทมากกว่าการอยู่ที่ห้องเช่าแคบ ๆ และสุดแสนจะร้อนอบอ้าวแบบนั้น
“มาแต่เช้าเลยนะ”
เสียงทุ้มฟังดูมีความน่ายำเกรงดังมาจากด้านหลังทำเอาหญิงสาวที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่เพลิน ๆ เพียงคนเดียวถึงกลับสะดุ้งด้วยความตกใจ
“เอ่อ...ค่ะ คุณภูเบศมีอะไรให้ฉันรับใช้คะ”
คนพูดเสียงตะกุกตะกักติดขัดเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงคือเจ้านายที่เธอเพิ่งถูกเขาถามหาเมื่อวาน
“เสียงสั่นอะไรแบบนั้น ฉันดูดุจนเธอถึงกลับต้องพูดติดขัดเลยใช่ไหม”
ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำเนคไทสีแดงสองมือล้วงกระเป๋ามองหญิงสาวที่กำลังทำท่ากลัวเขาจนสั่นไปหมดด้วยสายตาที่หวานและดูเจ้าเล่ห์จนล้านนาไม่กล้าแม้แต่จะสบตาตอบ
“เปล่าค่ะ ฉันแค่ตกใจ”
“ชงกาแฟให้ฉันหน่อยเอารสแบบที่เธอชอบ ฉันดื่มฝีมือยุพาจนเบื่อแล้วอยากกินรสชาติใหม่ดูบ้าง”
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่คล้ายกับนายแบบฝรั่งเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานแล้ว หญิงสาวมองนาฬิกาอีกตั้งเกือบชั่วโมงกว่าที่พนักงานคนอื่น ๆ จะมาทำงาน ล้านนาไม่อยากเข้าไปอยู่กับเจ้านายแบบสองต่อสองในห้องทำงานเพราะสายตาที่เขามองเธอเมื่อครู่มันทำให้ล้านนารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะละลายอย่างบอกไม่ถูก
“รสชาติถูกใจ ชงกาแฟยังทำได้ถูกใจทำอย่างอื่นก็คงถูกใจแน่นอน”
ภูเบศพูดหยอดเพราะอยากรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าจะเล่นด้วยกับเขาไหมเพราะถ้าเธอพร้อมจะสนองเขาจะได้ไม่ต้องพูดอะไรมาก
“ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
พนักงานใหม่ลนลานกระสับกระส่ายเมื่อเจอคำพูดเจ้าชู้ เธอไม่อยากอยู่ในห้องนี้อีกแล้ว
“นั่งลง ฉันอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้แล้วก็ไม่ต้องปฎิเสธเพราะมันก็คือส่วนหนึ่งของงาน”
คนตัวเล็กไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาทำให้ตัวเธอเองสามารถออกจากห้องนี้ไปได้โดยที่ไม่ต้องผิดใจกับเจ้านาย
“เรียนจบที่ไหนมา บ้านอยู่ที่ไหนแล้วมีแฟนหรือยัง”
คำถามทำสุดท้ายทำเอาหญิงสาวชาวเหนือถึงกลับต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตากับท่านรองประธานด้วยความแปลกใจที่คำถามแบบนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานจริง ๆ ใช่ไหม
“ไม่ต้องมามองหน้าเป็นคำถามแบบนี้ที่ฉันต้องถามเธอว่ามีแฟนหรือยังเพราะบางทีที่นี่เราก็มีงานหรือต้องไปสังสรรค์กันบ้างในช่วงหลังเลิกงานก็เลยต้องถามไว้ก่อนเดี๋ยวเธอจะมีปัญหากับแฟน”
“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่มี”
หญิงสาวผู้กลัวการตกงานเป็นที่สุดรีบตอบแบบไม่สงสัยทันทีเพราะเธอกลัวว่าถ้าขืนเธอทำตัวมีข้อแม้มาก ๆ เธออาจจะไม่ผ่านช่วงทดลองงานก็ได้
ภูเบศได้คำตอบที่เขาอยากได้แล้ว คำถามต่อ ๆ ไปก็เป็นแค่เพียงข้ออ้างในการหาเรื่องคุยก็เท่านั้น
นาฬิกาบอกเวลาให้ชายหนุ่มรู้ว่าใกล้เวลาที่พนักงานคนอื่นจะมาถึง เขาจึงอนุญาตให้หญิงสาวตรงหน้ากลับไปทำงานได้เพราะไม่อยากให้พนักงานมาเห็นว่าเขาเรียกพนักงานใหม่เข้ามาคุยในห้องเป็นการส่วนตัว
ตอนที่ 2เธอทำให้ฉันรู้สึกสำคัญ ความใกล้ชิดระหว่างเจ้านายกับลูกน้องเริ่มมีมากขึ้นถึงแม้ว่าต่อหน้าคนอื่น ๆ ภูเบศจะไม่ได้แสดงอะไรออกมาเกินกว่าที่ควรจะเป็น “ฉันซื้อขนมมาฝากอยู่ตรงเครื่องถ่ายเอกสารนะ” ชายหนุ่มพูดลอย ๆ เมื่อล้านนาเดินสวนกับเขาตรงหน้าห้องของแผนกด้วยท่าทางเหมือนว่าความจริงแล้วเขาไม่ได้พูดกับเธอ ขนม ข้าวหรือแม้แต่กาแฟเขาก็หมั่นซื้อมาฝากลูกน้องคนนี้มาโดยตลอด ล้านนาเองเธอเริ่มรู้สึกกับภูเบศมากเกินกว่าเจ้านายเพราะลึก ๆ หญิงสาวก็แอบคิดว่าเจ้านายของเธอดูแลห่วงใยเธอมากกว่าพนักงานคนอื่น ๆ “ล้านนาแกคิดเข้าข้างตัวเองมากไป ผู้หญิงจน ๆ ไม่สวยอย่างแกใครเขาจะมาสนใจ” สาวน้อยในวัยเป็นสาวบานสะพรั่งพูดกับกล่องขนมในมือของเธอเพื่อเตือนตัวเองไม่ให้คิดไปไกลกว่านี้ “ทุกคนคะพรุ่งนี้ท่านรองประธานจะพาพวกเราไปเลี้ยงอาหารเพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกเราทำงานล่วงเวลากันมาหลายวัน มีใครไปไม่ได้ไหมเพราะอาจจะกลับดึกหน่อย” ยุพาเดินออกมาจากห้องของเจ้านาย เธอก็มีข่าวดีมาแจ้งให้ลูกน้องทุกคนในแผนกได้รู้ “หนูไม่ไปนะคะพี่ยุพา ลูกชายไม่ค่อย
ตอนที่ 3บอสขา...ใจเย็น “เธอตรวจบัญชีของเดือนที่แล้วและทำของเดือนนี้ด้วยให้เสร็จภายในวันนี้ พรุ่งนี้พี่ต้องเอาเสนอแผนกการเงิน ส่วนนี่เงินค่าจ้างเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นนะ” ยุพาส่งธนบัตรใบสีเทาให้ลูกน้องใหม่ของเธอเพื่อเป็นค่าจ้างที่เธอให้ล้านนาช่วยทำบัญชีให้ “ขอบคุณมากค่ะ ถ้ามีงานอะไรหรือใครจะจ้างหนูทำงานอื่นพี่ยุพาบอกได้เลยนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ด้วยความดีใจนาทีนี้อะไรที่ทำแล้วได้เงิน ล้านนาพร้อมจะทำหมดเพราะบ้านของเธอกำลังจะพังต้องใช้เงินซ่อมยังโชคดีที่พ่อของเธอพอมีความรู้เรื่องช่างจึงทำเองได้แต่ยังหาเงินซื้ออุปกรณ์ซึ่งตอนนี้เธอไม่มีเงินเก็บเลยจึงต้องพยายามหารายได้พิเศษ “พี่จะพยายามหาให้แต่งานที่พี่ให้ทำห้ามคนอื่นรู้เด็ดขาดเพราะโทษของการเปิดเผยบัญชีเงินเดือนพนักงานคือไล่ออกสถานเดียว” วันนี้ภูเบศไม่เข้าบริษัทเพราะมีประชุมข้างนอก บริษัทในช่วงหลังเลิกงานจึงเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดที่ล้านนาจะทำบัญชีให้หัวหน้าเพราะไม่ต้องกลัวใครเห็น งานบัญชีไม่ใช่เรื่องยากสำหรับล้านนาถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้จบทางนี้มาโดยตรงแต่ก็เคยเรียนมาบ้างและก็ได้ผลการเ
ตอนที่ 4ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อรักคุณ “ถึงแล้ว” ล้านนาเผลอหลับมาตลอดทางเพราะเธอทั้งเหนื่อยจากงานและเพลียจากความรู้สึกผิดมารู้สึกตัวอีกทีก็ถึงที่พักแล้ว “คุณพาฉันมาที่ไหน” “ไม่ต้องถามแค่เธอรู้ว่าเธอมาที่นี่เพื่ออะไรก็พอ” คนตอบดูไม่มีเยื่อใยไม่มีความอบอุ่นแบบเดิมเหมือนที่ล้านนาแอบชอบมาตลอด ภูเบศกลายเป็นคนละคนกับที่หญิงสาวเคยคิดวาดภาพของเขาไว้ “อาบน้ำให้สะอาด ฉันจะไปอาบอีกห้อง” ชายหนุ่มโยนผ้าเช็ดตัวสีขาวให้สาวน้อยที่กำลังยืนงงแบบคนเพิ่งตื่นนอนก่อนที่เขาจะหันหลังเดินออกจากห้อง “เสื้อผ้า ฉันไม่มีชุดใส่” ชายหนุ่มหยุดเดินและหันกลับมาส่งยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ให้ สายตาของเขามันชวนให้คนตรงหน้ารู้สึกได้ถึงศึกหนักที่เธอจะต้องเจอในคืนนี้ “เธอมาที่นี่เพื่อทำให้ฉันพอใจ ดังนั้นเสื้อผ้าก็ไม่จำเป็น” หญิงสาวผู้เลือกชะตาชีวิตที่แสนเศร้าให้กับตัวเองนอนรอการมาของใครบางคนในสภาพที่เรือนร่างมีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กเท่านั้นที่ปกปิดตัวอยู่ ไฟในห้องถูกปิดลงทุกดวงเมื่อร่างสูงเดินก้าวเท้าเข้ามาในห้องนอน ที่
ตอนที่ 2 คนที่ต้องชดใช้ คุณอเนกกลับมาแล้ว ข้าวทิพย์ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดในโรงรถ หัวใจของเธอทั้งกลัว ทั้งเสียใจ เธอกลัวว่า ถ้าคนที่กำลังดูแลส่งเสียเธอทุกอย่างรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง ก่อนที่เขาจะกลับมา เขาอาจจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี สังคมของไทยมองอย่างไรในเรื่องแบบนี้ ผู้หญิงมักเป็นฝ่ายเสียหายเสมอ หญิงสาวจึงได้แต่เก็บความเจ็บช้ำอยู่แต่ภายใจและหลับไปกับหยดน้ำตา รุ่งเช้าวันใหม่ “ข้าวทิพย์เรื่องเรียนปรับตัวได้หรือยัง เห็นปีแรกเกรดไม่ค่อยดีเลย” ชายสูงอายุของบ้าน ถามหญิงสาวในการดูแลด้วยความเป็นห่วง เมื่อนั่งพร้อมหน้ากันสามคนบนโต๊ะอาหาร “ดีขึ้นค่ะ เทอมนี้เกรดน่าจะดีขึ้น” คนตอบได้แต่ก้มหน้าอยู่กับจานข้าว เพราะถ้าเธอแค่เพียงเงยหน้า เธอก็ต้องสบตากับคนที่นั่งตรงข้ามเธอ และตอนนี้ เขาก็จ้องมองใบหน้าของเธออยู่ตลอดเวลา “คราม คราม” “ครับคุณพ่อ” ขานรับออกอาการตกใจ ตื่นจากภวังค์ “พ่อเรียกตั้งหลายรอบแล้ว เป็นอะไรหรือเปล่าวันนี้ พ่อเห็นแกนั่งจ้องข้าวทิพย์มันไม่วางตา” อเนกสังเกตตั้งแต่ทุกคนมาพร้อมกันที่โต๊ะอาหารแล้ว แต่เข
ตอนที่ 3จุดแตกหัก “ครามลูกคิดให้ดีนะ งานแต่งงานที่หนูแพรต้องการ มันใช้เงินถึงสิบล้าน และไหนจะสินสอดอีก เธอรักลูก หรือเธอรักอะไรกันแน่” “เงิน เราก็มีไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไม ผมจะทำอย่างที่แฟนผมต้องการไม่ได้ พ่อของแพรมีหน้ามีตา เป็นถึงอดีตรัฐมนตรี จะให้เธอมาจัดงานเล็ก ๆ ได้อย่างไรครับพ่อ” เสียงสองคนพ่อลูกคุยกันดังจนฟังคล้ายกับกำลังเถียงกันมากกว่า ทำให้ข้าวทิพย์ที่กำลังทำความสะอาดห้องพระอยู่ห้องข้าง ๆ ต้องมาแอบฟังด้วยความเป็นห่วง “เราให้สินสอดเขาสิบล้าน ไหนจะทองอีก เครื่องเพชรก็ไม่ใช่น้อย เรื่องการจัดงานมันควรจะเป็นเรื่องของฝ่ายเจ้าสาว ครามลูกรู้บ้างไหมว่า เงินสินสอดและทรัพย์สินทั้งหมดที่พ่อเตรียมไว้ให้ มันคือเกือบจะทั้งหมดที่เรามีเหลือตอนนี้แล้วนะ” อเนกตั้งใจจะปิดเรื่องที่บริษัทของเขากำลังย่ำแย่เอาไว้ แต่ในเมื่อครามไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย เขาจึงต้องยอมบอกความจริง “แล้วลูกลองคิด ถ้าหนูแพรเธอรู้ว่า เรากำลังแย่ เธอยังอยากแต่งงานกับลูกอยู่ไหม ถ้าอยากรู้ว่า ไอ้ที่คิดมาตลอดว่า ลูกรักเธอ และเธอก็รักลูก มันเป็นความจริงไหม ก็ลองไปบอกหนูแพรนะว่า
ตอนที่ 4ความทุกข์ที่ถาโถม ข้าวทิพย์เธอยอมเขาเอง เธอรักเขา หญิงสาวกลับมานอนที่ห้องและบอกตัวเองซ้ำ ๆ ตลอดเวลา สิ่งที่เกิดขึ้นเธอรู้อยู่เต็มอกว่า มันไม่ได้เกิดจากความรักของเขา แต่เธอรักเขาไปแล้ว ตอนนี้เขากำลังแย่ หญิงสาวจึงทั้งรัก ทั้งสงสาร โดยที่ลืมสงสารตัวเอง การที่เรารักคนที่เขาไม่ได้รักเรา มันเจ็บปวดแค่ไหน หญิงสาวเข้าใจดี เพราะเธอก็รักคราม โดยที่เขาไม่เคยหันชายตามาสนในเธอ กลับยังมารังแกย่ำยีทั้งหัวใจและร่างกายข้าวทิพย์ก็ยังให้อภัย และไม่มีวันไหนที่เธอจะรู้สึกไม่รักเขาเลย เธอจึงเข้าใจความรู้สึกดีว่า ครามเองก็คงยังรักแพรรำภา ถึงแม้จะรู้ทั้งรู้ ว่าอีกฝ่ายไม่ได้รักเขาจากหัวใจจริง ๆ ก็ตาม วันเวลาผ่านล่วงเลยไป ครามเริ่มทำใจได้ เขายังคงแอบนึกถึงแพรรำภาบ้าง เวลาที่ต้องอยู่คนเดียวแต่ทุกครั้งที่เขารู้สึกเหงา ข้าวทิพย์คือผู้หญิงที่เขาคิดถึง ห้องนอนของเธอข้างล่างก็ถูกใช้เป็นที่สำหรับทั้งสองคน “ตอนนี้บริษัทเรากำลังแย่มากเลยใช่ไหมครับ” ครามถามผู้เป็นพ่อบนโต๊ะอาหาร เพราะตัวเขาเองมีหน้าที่ดูแลฝ่ายบุคคลเลยไม่ค่อยรู้เรื่องเงินสำรองของบริษัท “ใช่ พ่อมองว
ตอนที่ 5กำลังใจที่ไม่แสดง ครามเดินไปเดินมาอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยความกระวนกระวายใจ เพราะเขารู้ตัวว่าเขาเป็นคนทำให้ข้าวทิพย์ต้องเป็นแบบนี้ “คุณเป็นสามีของคนไข้ใช่ไหมคะ” พยาบาลเดินออกจากห้องฉุกเฉินมาถามครามทันที เขาเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉินนี่นานแล้ว “เอ่อ... ใช่ครับ” ชายหนุ่มลังเล แต่ในเวลานี้เขาคิดว่ามันต้องมีอะไรไม่ดีแน่ ๆ นางพยาบาลถึงได้ออกมาถามแบบนี้ “เชิญพบคุณหมอด้านในเลยค่ะ” ครามรีบเดินตามนางพยาบาลเข้าไป คุณหมอสีหน้าเครียด “ตอนนี้คนไข้ตั้งครรภ์ได้ประมาณ 12 สัปดาห์ โชคยังดีนะครับที่เด็กไม่เป็นอะไร แต่คืนนี้ หมอคงต้องให้คนไข้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที” ครามเขารู้สึกชาไปทั้งตัว ‘ข้าวทิพย์ท้องหรือนี่’ ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเขาต้องดีใจหรือรู้สึกอะไรไหม เขาทำอะไรไม่ถูกเลยแต่ด้วยเวลานี้ เธอมีเขาเพียงคนเดียว ชายหนุ่มจึงเดินไปหาเธอที่เตียง “เป็นอย่างไรบ้าง” ชายหนุ่มเอ่ยถามโดยที่ไม่กล้าแม้แต่จะสบตา “ปวดท้องค่ะ แต่ค่อย ๆ ดีขึ้นแล้ว” “ข้าวทิพย์... เธอท้องกับใคร” ครามไม่
ตอนที่ 6พยายามง้อ ครามกลับมาที่โรงพยาบาล เพื่อมาเฝ้าและดูแลข้าวทิพย์ หญิงสาวถูกพามานอนพักที่ห้องรวม ครามจึงต้องนอนเฝ้าอยู่ใต้เตียง เพราะไม่มีที่นอนให้สำหรับคนเฝ้า “คุณคราม คุณครามคะ” ข้าวทิพย์ตื่นขึ้นมาเห็นว่า ชายหนุ่มนอนหลับอยู่ใต้เตียงเธอ ด้วยสภาพที่น่าสงสาร เขามีเพียงแค่เสื้อคลุมแทนผ้าห่ม และท่านอนทับแขนตัวเองอยู่ เมื่อรู้สึกตัว เพราะได้ยินเสียงหญิงสาวเรียก ครามก็รีบลุกขึ้นมาหาคนบนเตียงทันที“ทิพย์จะเอาอะไร หิวน้ำเหรอ” “คุณกลับบ้านไปเถอะค่ะ เช้าแล้ว เดี๋ยวหมอก็มา เลือดหยุดไหลแล้ว วันนี้ก็คงได้กลับบ้าน คุณไม่ต้องมาลำบากนอนแบบนี้หรอก” “ทิพย์ ผมขอโทษ” ครามไม่รู้จะแก้ตัวด้วยคำไหน คงไม่มีคำใดดีเท่ากับคำว่าขอโทษที่ออกจากหัวใจ “เรื่องอะไรคะ ถ้าหมายถึงที่ คุณถามว่าฉันท้องกับใคร คุณถามถูกแล้วค่ะ เพราะการที่ฉันยอมให้คุณข่มเหงแบบนั้น มันแสดงว่าฉันเป็นคนใจง่าย ก็ไม่แปลกที่คุณจะคิดว่า ฉันก็คงง่ายกับคนอื่นด้วยเหมือนกัน” ข้าวทิพย์พูดจบ ยังไม่ทันที่ครามจะได้ตอบอะไรคุณหมอกับพยาบาลก็เดินมาที่เตียงเพื่อดูอาการทันที คุณหมอตรวจเช
ตอนที่ 12บอสใหม่ของโรงแรม วันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงเด็กน้อยคลอดออกมาเป็นหลานชายที่แสนจะตัวใหญ่มาก ทั้งที่แม่ก็ตัวนิดเดียว หน้าตาน่าชังบอกไม่ถูกเลยว่าเหมือนพ่อหรือแม่มากกว่ากัน ปู่กับตาก็เถียงว่าเหมือนตัวเอง หลานชายคนแรกพากันตื่นเต้นทั้งสองบ้าน “ต้องเลี้ยงบ้านนี้นะ บ้านผมไม่เคยมีลูกชายไว้คนต่อไปโตจะให้บ้านปู่ย่าเอาไปช่วยเลี้ยง” อนุสรณ์เขาอยากมีลูกชายแต่แม่ของใบหยกชอบที่จะมีลูกคนเดียวมากกว่า พอมีหลานชายแบบนี้อนุสรณ์ก็แสดงความหวงทันที “คนแรกเพิ่งคลอด วางแผนแบ่งคนที่สองกันแล้ว เดี๋ยวคอยดูคนอยากเลี้ยงวิ่งตามหลานไม่ทันห้ามโยนมานะ ทางนี้จะรอคนที่สองเด็กผู้หญิงเลี้ยงง่ายกว่าแน่ ๆ เพราะตอนตาภูวิ่งตามกันแทบ ไม่ทันไปโรงพยาบาลเกือบทุกเดือนต้องมีแตกมีหักเพราะความซน”
ตอนที่ 11ของขวัญที่ล้ำค่า เย็นนี้ใบหยกกลับบ้านด้วยท่าทีที่ดูเงียบเหมือนเธอกำลังรู้สึกอะไรบางอย่างที่ทั้งอนุสรณ์และภูษิตต่างไม่เข้าใจ มื้อเย็นบรรยากาศมีเพียงแค่เสียงพูดคุยของพ่อตากับลูกเขยส่วนลูกสาวเอาแต่นั่งเงียบและกินได้น้อยมาก “เป็นอะไรหรือเปล่าลูก ทำไมดูหน้าไม่ดีเลย เครียดเรื่องที่โรงแรมอะไรไหม มีอะไรให้พ่อกับภูช่วยก็บอก” อนุสรณ์ลึก ๆ ก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องงานแต่ก็ไม่กล้าถามตามที่คิดจึงเลี่ยงถามเรื่องงานที่โรงแรมน่าจะดีกว่า “ไม่ค่ะพ่อ หยกแค่เบื่อ ๆ อาหารและช่วงนี้รู้สึกเหมือนอยากจะนอนอย่างเดียว หยกขอตัวไปอาบน้ำแล้วเข้านอนก่อนนะคะ” ใบหยกเดินขึ้นไปบนห้องแล้วก็เหลือแต่พ่อตากับ
ตอนที่ 10 ความจริง อนุสรณ์แอบดูความสัมพันธ์ของลูกสาวกับลูกเขยอยู่ห่าง ๆ เขาเริ่มสังเกตได้ว่าใบหยกไม่มีความไว้ใจให้สามีแต่เขาก็ยังติดที่สัญญากับภูษิตไว้แล้ว แต่ครั้นจะไม่พูดเลยก็กลัวว่าครอบของทั้งคู่จะไปไม่ถึงสุดทาง “ใบหยกมาคุยกับพ่อหน่อย” วันนี้หญิงสาวไม่ไปทำงานเพราะเธออาเจียรแต่เช้าและช่วงนี้รู้สึกอ่อนเพลียตลอด “ไม่สบายหรือท้อง” คนเป็นพ่อไม่อ้อมค้อมเพราะอาการแบบนี้แม่ของใบหยกก็เป็น ทำไมคนอาบน้ำร้อนมาก่อนจะดูไม่ออก “หยกท้องค่ะคุณพ่อ”คนท้องไม่มีประโยชน์อะไรที่จะโกหก หญิงสาวจึงพูดความเป็นจริง“แล้
ตอนที่ 9 พยายาม หุ้นทั้งหมดที่ภูษิตสัญญาไว้ว่าจะให้กับภรรยาเขาตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างก่อนที่จะถึงวันเกิดของเธอ “ขอบคุณมากนะคะ ที่พี่ทำตามสัญญา ไว้หยกจะมีของขวัญให้พี่เหมือนกันเอาไว้ค่อยรู้พร้อมของขวัญวันเกิดที่พี่จะให้หยกก็แล้วกัน” วันนี้ภูษิตไม่ได้ไปที่โรงแรมของภรรยา เขาไปโรงแรมของเขา ชายหนุ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับรัชพลฟังถึงการที่ภรรยาของเขาเปลี่ยนไป “ภูจะเกี่ยวกับวันนั้นไหม ที่เดียร์มาหานายที่นี่ พนักงานที่ร้านอาหารเล่าให้ฟังว่าเมียนายเดินมานั่งโต๊ะด้านหลังนายและทำท่าไม่ให้พนักงานทักเธอ พนักงานคนนั้นก็เลยไม่สบายใจมาบอกเรา แต่เราไม่เห็นนายมีปัญหาอะไรกับใบหยกเลยไม่ได้เล่าให้ฟัง” ภูษิตพย
ตอนที่ 8เอาคืน ภูษิตแทบจะบินกลับบ้านด้วยความคิดถึงภรรยาและ อดแปลกใจไม่ได้ที่ใบหยกทำไมไม่บอกกับเขาว่าเธอจะกลับมาแถมตอนนี้ยังไม่ยอมรับโทรศัพท์อีก “คุณพ่อครับทำไมใบหยกกลับก่อนกำหนดไม่บอกผมเลย ทั้งที่รู้ว่าผมก็รออยู่” ภูษิตถามพ่อตาแต่เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เพราะถามเสร็จเขาก็วิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนที่อยู่ชั้นสองทันที ใบหยกกำลังยืนเก็บเสื้อผ้าและของฝากต่าง ๆ ที่เธอซื้อมาอยู่ “คิดถึงจังเลย ผมโทรศัพท์หาคุณ คุณก็ไม่รับรู้ไหมว่าผมทั้งคิดถึงทั้งเป็นห่วงเลย” ชายหนุ่มโอบกอดภรรยาทั้งหอมแก้มหอมหน้าผากและกลับมายืนกอดแน่นเหมือนเดิ
ตอนที่ 7รู้ใจตัวเอง คืนที่สามของการไม่อยู่ของภรรยาทำให้ชายหนุ่มนอนทบทวนทุกเรื่องที่เกิดจากที่คิดว่าตัวเองแต่งงานกับหญิงสาว เพียงเพราะต้องการล้วงความลับและทำเพื่อผลประดยชน์ของโรงแรมตัวเอง แต่ตอนนี่เขาแน่ใจแล้วว่าเขาหลงรักเธอตั้งแต่แรกเพียงแต่การหาผลประโยชน์จากเธอมันเป็นผลพลอยได้เท่านั้น ภูษิตเริ่มรู้สึกแล้วว่าตัวเองกำลังคิดผิด ผลประโยชน์เหล่านั้นไม่มีค่าเท่ากับความรักที่ใบหยกมีให้เขาและไม่มีคุณค่าเท่ากับความไว้ใจที่พ่อตามอบให้เขาเข้าไปดูแลโรงแรม ชายหนุ่มตัดสินใจว่าเย็นนี้เขาจะพูดความจริงทุกเรื่อง ให้อนุสรณ์ฟังและของให้พ่อตาให้อภัยเขา ช่วงเวลาอาหารมื้อเย็นเมื่อภูษิตเห็นว่าพ่อตากิ
ตอนที่ 6รู้สึกผิด “พี่ภูกลับมาแล้ว วันนี้หยกทำกับข้าวเย็นเลยนะคะ คุณพ่อก็ไม่ยอมกินก่อนบอกว่าจะรอพี่ภู อยากกินข้าวพร้อมหน้ากัน” ภูษิตกำลังคิดจะขอหย่ากับภรรยาในขณะที่ครอบครัวของเธอดีกับเขาทุกอย่าง “คุณพ่อครับ คุณแม่ผมฝากน้ำพริกมาให้พอดีวันนี้ผมแวะไปที่บ้านมา” ชายหนุ่มส่งถุงใส่กล่องน้ำพริกให้พ่อตาก่อนที่อนุสรณ์จะส่งให้ลูกสาวเอาไปจัดจาน เมื่ออยู่กันสองคนอนุสรณ์จึงมีบางอย่างอยากพูดกับลูกเขยโดยที่ไม่อยากให้ลูกสาวได้ยิน “ภูตอนนี้ที่โรงแรมมีปัญหามาก พ่อก็เว้นปล่อยให้ใบหยกเธอดูแลมานาน ถ้าจะเข้าไปตอนนี้ก็ลังเธอจะรู้สึกว่าพ่อไม่ไว้วางใจ เอาเป็นว่าพ่อจะบอกหยกว่าพ่
ตอนที่ 5ทุกอย่างสำเร็จ ใบหยกขายหุ้นให้กับสามีในราคาที่ถูกมากและแน่นอน เธอไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ผู้เป็นพ่อฟังเพราะเธอคิดว่าพ่อคงไม่เห็นด้วย แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอไม่อยากมีปัญหากับสามี ตอนนี้รัชพลจัดการเรื่องการแสดงจนครบทุกอย่าง เมนูอาหารในช่วงชมการแสดงก็เป็นเมนูที่มากกว่าของทางนู้นแถมราคาถูกกว่า ลูกค้าฝรั่งเริ่มออกปากชมจนภูษิตเองก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังชนะโดยที่เขาลืมไปเลยว่าการชนะครั้งนี้คือการชนะภรรยาที่รักเขามากถึงได้ยอมเขาทุกอย่างแบบนี้ “พอเถอะเพื่อน เรื่องที่จะหาเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ให้บริษัททัวร์ นายก็ตัดสินใจมาเลย ตอนนี้ภาพนายในสายตา
ตอนที่ 4เข้าทางพ่อตา อนุสรณ์ไม่อยู่หลายวันลูกเขยที่จ้องล้วงข้อมูลก็สามารถเก็บไปได้มากแต่ยังไม่ได้ที่สำคัญและเขาคิดว่าจะต้องหารทางเข้าไปที่ห้องทำงานของพ่อตาให้ได้ ในเมื่อเขารู้แล้ว ว่าแฟ้มรายละเอียดอยู่ตรงไหน แผนแรกที่ภูษิตทำคือการให้รัชพลไปติดต่อชาวพื้นเมืองเพื่องจองคิวล่วงหน้าและให้ค่าจ้างในราคาที่แพงกว่าโรงแรมของ ใบหยกให้ซึ่งก็สำเร็จเพราะโรงแรมของใบหยกทำแค่สัญญาต่อเดือน ทางภูษิตจึงทำสัญญาสามเดือนเลย “มีการแสดงจากแค่ห้าที่ แบบนี้ไม่ได้นะ นายต้องไปหามาเพิ่มถ้ามีแค่นี้ คนที่เขามาพักนานอย่างพวกฝรั่งเบื่อตายเลย เพราะคืนหนึ่งก็ใช้การแสดงจากสองที่แล้ว” ร