จวนท่านนายอำเภอ
ท่านนายอำเภอซูหม่าอินที่มีอายุย่างเข้าเลขหกแล้วแต่งยังแข็งแรง นั่งจิบชาอยู่ภายในห้องโถงอย่างสบาย ๆ ส่วนผู้ที่มามอบของหมั้นก็กลับกันไปหมดแล้ว " นายท่าน เหตุใดท่านถึงรับของหมั้นไว้หล่ะขอรับ หากคุณหนูรู้เข้าคงต้องแย่แน่ ๆ เลยนะขอรับ " พ่อบ้านใหญ่ฉีเอ่ยถามผู้เป็นนาย ก็เขานั้นรู้จักนิสัยของคุณหนูของเขาเป็นอย่างดีว่านางคงไม่ยอมแน่ " ข้ารู้.....เดี๋ยวนางก็มาจัดการเองนั่นแหละ หากข้าเป็นคนออกปากเอง ก็เกรงว่าจะทำให้ผู้ใหญ่ต้องผิดใจกัน ให้นางเป็นคนจัดการเองจะดีกว่า คนนี้คนที่เท่าไหร่แล้วที่ส่งของหมั้นมา " " คนที่แปดขอรับนายท่าน " " เฮ้อ.....นี่ข้าไม่มีศัตรูไปทั่วทั้งอำเภอแล้วหรอกหรือ เดินไปทางไหนก็เจอแต่คนที่นางเอาของหมั้นไปคืนทั้งนั้น นางจะไม่เหลือทางให้คนแก่อย่างข้าเดินเลยหรืออย่างไรกัน " ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ยังมิวายมีคนส่งของหมั้นมาให้นางอย่างไม่ขาดสาย แต่งนางก็ไม่เห็นจะสนใจใครเลย หรืออาจจะเป็นเพราะนางยังคลายปมในใจของตนเองไม่ได้กันแน่นะ " ต้องมีซักคนที่จะทำลายกำแพงในใจของคุณหนูได้แน่ขอรับนายท่าน " " แล้วใครหล่ะที่จะทำได้ คนที่ดูเข้าท่าหน่อยก็ถูกนางไล่ตะเพิดไปจนหมด ข้าไม่ต้องรอจนแก่ตายไปก่อนหรอกหรือถึงจะได้อุ้มหลาน " " เอ่อ....อันนี้ข้าก็ตอบมิได้ขอรับ " ท่านนายอำเภอถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้าเขาก็แก่ตัวลงทุกวัน ก่อนตายหวังให้นางมีที่พึ่งที่มั่นคงก็พอแล้ว ซูหวินซีเดินเข้ามาในห้องโถงพร้อมกับบ่าวรับใช้อีกจำนวนหนึ่ง นางสั่งให้ขนหีบของหมั้นส่งกลับคืนเจ้าของในทันที โดยไม่ได้ถามความเห็นของผู้สูงวัยที่นั่งอยู่เลยแม้แต่น้อย " ท่านตาเจ้าคะ ท่านทานอะไรหรือยัง ให้ข้าไปทำให้ไหมเจ้าคะ " นางเอ่ยถามท่านนายอำเภอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและรินน้ำชาให้ท่านเหมือนทุกที " ซีซี ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว " " ยี่สิบเจ้าค่ะ " " แล้วเมื่อไหร่เจ้าตะออกเรือนเสียที " " โถ่.....ท่านตาข้ายังไม่อยากแต่งงาน แต่งแล้วดีตรงไหนกันไม่เป็นทุกเพราะสามีมีเมียน้อย ก็เป็นทุกเพราะความห่วงหาอาทรอยู่ดี " " แต่เจ้าไม่คิดที่จะมีลูกมีครอบครัวบ้างหรือ....ตาอยู่กับเจ้าไปตลอดไม่ได้หรอกนะ .....อย่างน้อย เจ้าก็น่าจะสงสารคนแก่อย่างข้าบ้าง มีหลานตัวเล็กออกมาให้ตาอุ้มสักครั้งก่อนตายไม่ได้หรืออย่างไรกัน " นางมองหน้าผู้สูงวัยอย่างเหนื่อยใจ ไม่ใช่ว่านางไม่เคยคิดนางก็อยากจะมีลูกเหมือนกัน แต่พ่อของลูกนางยังหาไม่เจอเลย " ท่านตา....หากข้ามีหลานให้ท่านได้แค่นั้นก็พอใช่ไหมเจ้าคะ " " ใช่....ตาจะได้ไม่เหงายิ่งมีหลาย ๆ คนยิ่งดี " " ได้...ข้าจะหาบุรุษที่เข้าตาสักคนมาผลิตหลานให้ท่านก็แล้วกัน " " ซีซี เจ้าหมายความว่าเจ้าจะแต่งงานหรือ " " เปล่าเจ้าค่ะ ข้าแค่บอกว่าจะมีหลานให้ท่านเท่านั้น แต่ข้ายังไม่อยากมีสามี " " เจ้าจะบ้าหรือ....ไม่มีสามีจะมีลูกได้อย่างไรกัน " ท่านนายอำเภอมองหน้าหลานสาวสุดที่รักด้วยความตกใจ ทั้งยังไม่ทราบว่านางกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ถึงได้พูดจาแบบนั้นออกมาได้ " ได้สิเจ้าคะ ท่านรอดูก็แล้วกัน ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ " " เจ้า...เจ้าอย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ ซูหวินซี ยัยเด็กนี่จะทำข้าอกแตกตายวันละร้อยรอบเลยหรืออย่างไรกันนะ " " นายท่านใจเย็น ๆ ขอรับ ดื่มชาก่อนขอรับ " พ่อบ้านฉีรีบรินน้ำชาให้กับเจ้านายของตนที่กำลังโมโหจนหน้าดำหน้าแดงอยู่ หากพูดถึงเรื่องแต่งงานกับคุณหนูเมื่อไหร่ก็จะจบลงแบบนี้ทุกครั้งไป ซูหวินซี นั่นหมุนถ้วยชาด้วยท่าทางครุ่นคิด ก่อนที่นางจะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ " หลี่เจิน " " เจ้าค่ะ คุณหนูท่านมีอะไรจะสั่งหรือเจ้าคะ " นางกวักมือเรียกให้สาวใช้คนสนิทเอียงหูมาใกล้ ๆ นาง ก่อนที่จะกระซิบบอกอะไรบางอย่างจนคนที่ได้ฟังยังตกใจมองนางตาโต " คุณหนู....ท่านจะทำแบบนั้นจริง ๆ หรือเจ้าคะ " " อืม....ไปหามาเถอะหน่า " " เจ้าค่ะ " นางมองสาวใช้ที่เดินออกจากห้องไป แล้วหันมาสนใจในการทดลองปรุงน้ำหอมกลิ่นใหม่ต่ออย่างตั้งใจซูหวินซี กำลังสกัดน้ำหอมอยู่ในเรือนของตนเองเหมือนทุกวัน " คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูจินมาหาเจ้าค่ะ " " ออ ให้นางไปรอที่เดิมนะเดี๋ยวข้าตามไป " " เจ้าค่ะ " หลี่เจินเดินออกไปหาแขกของคุณหนู แล้วพานางไปนั่งรอที่ศาลากลางสวนดอกไม้ ที่ประจำของพวกนาง เพียงไม่นานซูหวินซีก็เดินตามออกมา นางเห็นสตรีชุดสีน้ำเข้นั่งหันหลังอยู่ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความแปลกใจ เหตุใดนางถึงอยู่ในชุดมือปราบ " ฟู่หลง วันนี้ไม่ใช่เวรเจ้ามิใช่หรือ " " ออ ใช่ พอดีวันนี้เหล่ามือปราบทุกคนต้องไปทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมงานใหม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ที่นำหน่วยพยักฆ มาปราบโจรในครั้งนี้เป็นใคร " จินฟู่หลงเอ่ยถามสหายของตนด้วยรอยยิ้ม นางเป็นหนึ่งในมือปราบมือดีของอำเภอชิงเหอ แต่ผู้ที่ได้เข้าร่วมประชุมมีเพียงหัวหน้ามือปราบเท่านั้น " ข้าชักอยากจะรู้แล้วสิ ว่าผู้ใดกันที่ทำให้มือปราบฟู่หลงของพวกเรายิ้มได้ขนาดดี " " ข้าจะบอกให้ก็ได้ เขาเป็นผู้
ที่ว่าการอำเภอ งานเลี้ยงเล็ก ๆ ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายภายในจวน ส่วนมากจะเป็นหัวหน้ามือปราบและทหารที่จะมาปรึกษาหารือกันเท่านั้น งานเลี้ยงนี้จึงคล้ายกับการประชุมเสียมากกว่า ที่จะเป็นงานเลี้ยงต้อนรับเหล่าทหาร ซูหวินซี เดินตรวจดูความเรียบร้อย ของอาหารและเครื่องดื่มจนครบหมดทุกอย่างแล้วจึงเดินไปหาผู้ดูแลจวนคนสนิทของท่านตา ที่กำลังดูแลการจัดที่นั่งอยู่กับบ่าวรับใช้ " ท่านพ่อบ้านใหญ่เจ้าคะ " นางเอ่ยเรียกท่านพ่อบ้านใหญ่ที่ดูแลนางมาตั้งแต่เด็กด้วยความเคารพ นางนับถือท่านพ่อบ้านใหญ่เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง " คุณหนู ท่านจะกลับ แล้วหรือขอรับ " " ใช่เจ้าค่ะ จากนี้ข้าต้องรบกวนท่านพ่อบ้านแล้ว " " รบกวนอะไรกันขอรับ มันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้วท่านไม่ต้องเป็นห่วง .... ส่วนเจ้าหลี่เจิน ดูแลคุณหนูให้ดี ๆ นะ " ท่านพ่อกล่าวกับคุณหนูด้วยท่าทางนอบน้อม และหันไปสั่งหลานสาวของตนที่อยู่ด้านหลังของคุณหนูเสียงเข้ม " ทราบแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อบ้าน.......ทีกับคุณหนูมีเสียงหนึ่งเสียงสอง พอกับหลานตัวเองฟังแทบไม่ได้ " หลี่เจินแอบบ่นให้ท่า
เซียวเทียนเฟิง เดินทางมาถึงอำเภอชิงเหอพร้อมกับท่านแม่ทัพ แต่เขาแยกตัวออกมาพักที่โรงเตี๊ยมด้านนอกแทน หากจะให้คนที่รักอิสระอย่างเขาไปอยู่ที่เรือนรับรองกับเจ้าแม่ทัพจอมเผด็จการณ์นั่นคงจะไม่ไหว " เมิ่งฉี เจ้าว่าเราจะพักที่ไหนกันดี " เซียวเทียนเฟิง เอ่ยถามลูกน้องคนสนิทของตน เมื่อตอนนี้พวกเขาทั้งสองยืนอยู่ตรงหน้าโรงเตี๊ยมขึ้นชื่อทั้งสองแห่งของอำเภอชิงเหอที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน ฝั่งหนึ่งเป็นโรงเตี๊ยมชิงฮุยที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารรสเลิส ที่รวมเอาอาหารขึ้นชื่อของทุกเมืองมาไว้ที่เดียวกัน ส่วนอีกฝั่งเป็นจุดศูนย์รวมของผู้ที่ชื่นชอบการชิมชาชั้นเลิสที่รวบรวมเอาใบชาจากทั่วทุกสารทิศมารวมกันไว้ในโรงเตี๊ยมฟู่หลงแห่งนี้ " ข้าว่า โรงเตี้ยมฟู่หลง เหมาะแก่การพักผ่อนดีขอรับคุณชาย " " อืม ข้าเห็นด้วย ไปกัน " เซียวเทียนเฟิง เอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะเดินนำ ลูกน้องคนสนิทเข้าไปในโรงเตี๊ยมฟู่หลง เพียงแค่พวกเขาก้าวผ่านประตูของโรงเตี๊ยมเข้ามา กลิ่นหอมจาง ๆ ของน้ำชาก็โชยมาตามลม ทำให้ผู้ที่สูดดมเข้าไปพลันรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที แค่กลิ่นยังขนาดนี้ แล้วหากได้ลิ้ม
ซูหวินซี เดินตรวจดูรายการอาหารที่นางให้หลี่เจินไปซื้อมา เพื่อที่จะได้นำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนอยู่ในตอนนี้ แม้ว่านางจะไม่ได้ไปเอง แต่ก็ให้คนนำไปส่งให้อยู่ดี นางนำเงินส่วนตัวที่ได้กำไรจากการขายเครื่องหอมส่วนหนึ่งมาซื้อของใช้ที่จำเป็นและยารักษาโรคไปมอบให้แก่ชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนอยู่ " ซีซี มีอะไรให้ข้าช่วยไหม " " ไม่ " นางตอบโดยไม่หยุดคิดซักนิด และไม่หันไปมองให้เสียเวลาด้วยซ้ำว่าใครอาสามาช่วยนาง แค่ฟังเสียงนางก็รู้แล้วว่าเขาเป็นใคร จะเป็นใครไปได้นอกจาก ' ซานเป่าโจ ' สหายที่เคยวิ่งเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนโต ที่ตอนนี้เขาเป็นถึงมือปราบหนุ่มที่สาว ๆ ในอำเภอชิงเหอแห่งนี้ต่างก็หมายปอง " เจ้าจะไม่คิดซักนิดเลยหรือ " " คิดทำไม ข้ามิกล้ารบกวนเวลาอันมีค่าของท่านมือปราบซานหรอกเจ้าค่ะ " " สตรีทุกคนในอำเภอนี้ล้วนอยากให้ข้าช่วยกันทั้งนั้น มีแต่เจ้านี่แหล่ะ ที่ชอบผลัก ไสไร่ส่งข้า " นางหยุดดูรายการของในมือแล้วหันมามองหน้าสหายอย่างจริงจัง " เจ้าดูนั่น " นางชี้นิ้วไปที่สะพานฝั่งตรง
เมืองหลวง จวนตระกูลไป๋ ท่านโหวไป๋ซ่างเจินกลับมาที่จวนของตนในช่วงสาย เขาเดินตรงไปยังห้องตำรา แล้วมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าภาพเหมือนของสตรีนางหนึ่ง ที่มีใบหน้างดงามราวกับเทพธิดา นางคือ ไป๋ฮูหยิน หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือเยว่เฟยซิน มารดาผู้ให้กำเนิด ' ไป๋มู่จิน ' บุตรชายคนเดียวของเขา นางจากไปตั้งแต่ ไป๋มู่จิน อายุได้เพียงสองขวบเท่านั้นหลังจากนั้นเขาก็โตมากับแม่นมของเขาที่เป็นบ่าวรับใช้คนสนิทของเยว่เฟยซิน ความสัมพันธ์พ่อลูกของพวกเขาไม่ค่อยดีนัก เพราะในตอนนั้นหลังจากที่เยว่เฟยซินจากไป ฮูหยินผู้เฒ่าก็ยกตำแหน่งฮูหยินใหญ่ให้ฮูหยินรองที่นางเป็นคนตกแต่งเข้ามาให้กับไป๋ซ่างเจิน ทำให้เขาและบุตรชายห่างเหินกันนับตั้งแต่นั้นมา และเมื่อไป๋มู่จิน ได้รับตำแหน่งแม่ทัพ เขาก็แยกตัวออกไปอยู่ที่จวนของตนเองและไม่เคยกลับมาที่จวนตระกูลไป๋อีกเลย " ซินเอ๋อ เจ้าไม่น่าจากข้าไปเร็วเยี่ยงนี้เลย ข้ากับเขายังมิอาจมีโอกาสได้คุยกันดี ๆ เลยสักครั้ง หากเจ้ายังอยู่ก็คงดีกว่านี้ ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน " ไป๋ซ่างเจิน ยืนจ้องมองภาพเสมื
เมืองหลวง & จวนแม่ทัพ ค่ำคืนที่เงียบสงบ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านดวง สายลมเย็นพัดผ่านร่างบุรุษ ชุดดำใบหน้าคมเข้มรูปร่างสูงโปร่งดวงตาคมจมูกโด่งสัน ที่ฝึกเพลงดาบประจำตระกูลอยู่กลางลานบ้าน โดยมีลูกน้องคนสนิทนาม ' เสี่ยวฮัว ' ยืนเฝ้าผู้เป็นนายอยู่ไม่เคยห่างกาย เขาคือมัจจุราชเดินดินที่มีหน้าตาเปรียบเสมือนลูกรักของพระเจ้า หรือที่สหายของเขาชอบเรียกเขาว่าเพชรฆาตหน้าหยก ที่มีตำแหน่งเป็นถึงแม่ทัพใหญ่แดนเหนือ ' ไป๋มู่จิน ' เป็นลูกชายคนเดียวของท่านโหว ' ไป๋ซ่างเจิน ' คนส่วนใหญ่ต่างหลีกหนีไปให้ไกล แม้แต่ญาติพี่น้องก็ไม่เว้น เพราะหากใครทำผิด เขาก็ลงโทษตามกฎ โดยไม่มีข้อยกเว้น ส่วนเรื่องอิสตรียิ่งแล้วใหญ่ เพียงแค่เจอสายตาเย็นชาของเขา พวกนางก็วิ่งหนีแทบไม่ทัน แต่หากเขาได้สนใจอะไรเข้าแล้วละก็ เขาจะไม่ยอมรามือง่าย ๆ จนกว่าจะได้ของสิ่งนั้นมาครอบครอง " เฮ้อ....กลับมาเมืองหลวงทั้งที ใยเจ้าถึงยังเอาแต่ซ้อมดาบอยู่