로그인น้ำหนึ่งนอนที่ชั้นล่างกับสามี เพราะเข้าออกง่ายกว่า จึงทำให้ชั้นบน มีเพียงนาวินกับพลอยไพลินที่ใช้ห้อง
เธอยกมือขึ้นเคาะประตูห้องนอนของพลอยไพลิน และมั่นใจว่าอีกฝ่ายยังคงไม่นอน
พลอยไพลินเปิดประตูออก ก็เห็นฝ่ายนั้นยิ้มมาให้
“แม่ขอคุยด้วยหน่อยจ้ะ”
พลอยไพลินพยักหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงที่โซฟา
น้ำหนึ่งนั่งข้างคนตัวเล็ก แล้วจับมือเรียวมากุม
“พรุ่งนี้เราไม่ต้องไปเรียนใช่ไหมพลอย” เพราะเป็นวันอาทิตย์ แต่ถามเผื่อหากพลอยไพลินมีเรียนพิเศษที่ไหน
“ไม่มีค่ะ พลอยหยุดวันเสาร์อาทิตย์”
“งั้นดีเลย แม่จะได้พาหนูไปซื้อเสื้อผ้า แล้วก็ชุดนักเรียน พวกสิ่งของที่หนูต้องใช้”
“ขอบคุณนะคะ” พลอยไพลินซาบซึ้งในน้ำใจ จนน้ำตารื้นขึ้นมา
“ตามจริง ที่แม่ขึ้นมาหาหนู ไม่ใช่แค่เรื่องที่จะพาไปซื้อของหรอก”
“...”
“ลูกชายแม่ หนูคงเห็นแล้วว่าพี่เขาเป็นแบบไหน” นาวินค่อนข้างใจร้อน และชอบเอาแต่ใจตัวเอง แต่ถามว่าได้ใคร ก็พ่อของเขาไง คุณภาคินสมัยหนุ่ม ๆ ก็แบบนี้ ไม่ต่างจากนาวินเลย
พลอยไพลินพยักหน้า ดูจากท่าทางเธอพอเดาออก ว่าอีกคนค่อนข้างหวงความเป็นส่วนตัว รวมทั้งหวงข้าวของ และหวงพ่อกับแม่
“นั่นแหละจ้ะ แม่ก็เลยอยากมาคุยกับหนูก่อน หากไม่จำเป็น เราไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับพี่เขานะ เจอไม่ต้องทัก ไม่ต้องพูดคุยอะไรกันทั้งนั้น ต่างคนต่างอยู่ไปเลย
“พี่เขา...ดุมากเลยเหรอคะ” พลอยไพลินถามด้วยความกังวล เธอก็ไม่ได้ว่าจะไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว แต่ถ้ามันมีเหตุการณ์ไหนที่เธอบังเอิญไปยุ่งเกี่ยวแบบไม่ได้ตั้งใจ เธอจะได้ตั้งมือรับทัน
“ก็พอสมควรจ้ะ นาวินค่อนข้างขี้หงุดหงิดง่าย แล้วก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวาย เพราะฉะนั้น เราอยู่แต่ในส่วนเรานะ เพราะแม่ก็บอกพี่เขาไปแล้วว่า น้องจะไม่มายุ่งวุ่นวายแน่นอน”
พลอยไพลินพยักหน้า เธอจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และคิดว่าคงไม่เฉียดเข้าใกล้อย่างแน่นอน เพราะเธอกลัวอีกฝ่ายขึ้นสมอง
“โอเค แม่มีเรื่องอยากบอกหนูแค่นี้แหละ พักผ่อนเถอะจ้ะ” ลูบหัวคนตัวเล็กเบา ๆ ก่อนจะรั้งร่างบางเข้ามากอด ให้อีกคนรู้สึกอบอุ่น ว่าพลอยไพลินยังมีแม่คนนี้
คนตัวเล็กหลับตาพริ้มลง สัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น ถึงแม้เราจะเพิ่งเจอกัน แต่เธอรู้สึกได้จริง ๆ ว่าผู้อุปการะคนใหม่ของเธอ รักและเอ็นดูเธอจริง ๆ
น้ำหนึ่งผละออกแล้วยิ้มให้คนตัวเล็ก ก่อนจะลุกเดินไปที่ประตู โดยมีพลอยไพลินเดินไปส่ง จากนั้นปิดประตูล็อกห้องแล้วกลับมานอน
คืนแรกกับการนอนในสถานที่แปลกตา พลอยไพลินนอนไม่หลับ ถึงเตียงนอนจะกว้าง นอนสบาย แต่เธอก็ยังคงนึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ ที่บ้าน
ต่อให้มีแต่ความทรงจำเลวร้าย แต่เธอก็สบายใจทุกครั้งที่ได้กลับบ้าน
ต่อให้แม่เลี้ยงจะดุด่าว่าเธอสักเท่าไหร่ก็ตาม เธอก็ไม่อยากจากไปไหนอยู่ดี
แต่ครั้งนี้มันเกินไป ถึงกับจะเอาเธอไปขาย เธออยู่ไม่ได้แล้ว
นอนร้องไห้เงียบ ๆ เมื่อนึกถึงสิ่งที่ทำให้ตัวเองต้องจากบ้านมา นานเท่าไหร่ไม่รู้ เธอถึงผลอยหลับไป
มาสะดุ้งตื่นอีกทีตอนดึกเมื่อเจอฝันร้าย เธอวิ่งหนีจนเหงื่อโชกตัว
และใช่ ตอนนี้เธอรู้สึกเปียกตามตัวไปหมด จึงรั้งผ้าห่มออก รับเอาความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงาน
รู้สึกคอแห้งขึ้นมา จึงเดินออกจากห้อง ใช้แสงไฟที่ส่องสว่างอยู่ภายนอกมองทางเดินเพื่อลงไปในครัว
ชะงักไปเมื่อเห็นใครบางคนยืนอยู่ในนี้ด้วย ร่างกายกำยำมีเพียงกางเกงขายีนขายาวตัวเดียว ส่วนเสื้อไม่ได้สวม กำลังเปิดตู้เย็นแล้วมองมาทางเธอ
“ออสตินครับ ออสตินหลานปู่” ภาคินเรียกหลานชายที่เพิ่งคลอด นอนดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาอยู่เบาะ ว่าแล้วว่า เขาต้องได้หลานชายเลือดพวกเขามันแรง! เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะได้หลานสาวน้ำหนึ่งเอามือขึ้นนวดขมับ ตอนที่ได้ข่าวว่าลูกสะใภ้ได้หลานชาย เธอสตั๊นไปรอบหนึ่งแล้ว แต่พอเห็นหน้าหลาน แทบเอาตีนก่ายหน้าผากหน้าอะไรจะเหมือนพ่อกับปู่ขนาดนั้น! ได้แม่สักนิดสักหน่อยก็ไม่ได้นี่อะไร ได้พ่อยันความยาวของนิ้วเท้า อีน้ำหนึ่งกลุ้มใจไว้รอเลยนี่ไม่ใช่ว่าโตขึ้น จะนิสัยเหมือนพ่อกับปู่อีกหรอกนะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น อีน้ำหนึ่งขอลาก่องงงง@สามปีต่อมา“ตินไม่อยากมีน้อง!” เอามือกอดอกแล้วเมินหน้าไปทางอื่น ก็บอกว่าไม่อยากมี ไม่อยากมี คุณย่ายังมากล่อมอยู่นั่นแหละ“แต่น้องผู้หญิงน่ารักนะลูก” น้ำหนึ่งพยายามเกลี้ยกล่อมหลาน ขอเถอะ ให้เธอมีหลานสาวสักคน เพื่อที่ว่า พี่ออสตินจะได้เป็นคนอ่อนโยนขึ้นมาบ้างออสตินเดินไปจับหมอนอิงหลัง แล้วปามันทิ้งลงด้านล่าง ก่อนจะเตะซ้ำจนมันปลิว แล้วเมินหน้าไปทางอื่นน้ำหนึ่งอ้าปากค้าง ก่อนที่สองมือกำเข้าหากันแน่น แล้วทำท่าจะทุบหลานแต่พอฝ่ายนั้นหันขวับมา เธอกลับรีบฉีกยิ้มหวานให้ทันที“ออสตินเซ็งคุณ
@หนึ่งเดือนต่อมาร้านค้าวัสดุก่อสร้างหยุดทำการหนึ่งวัน เนื่องด้วยลูกชายคนเดียวของเถ้าแก่ภาคินและคุณนายน้ำหนึ่งแต่งงานบริเวณพื้นที่กว่าเจ็ดไร่ กลายเป็นพื้นที่สำหรับจัดงานเลี้ยงแทบทั้งหมด และผู้คนที่มาในงาน ก็ค่อนข้างล้นหลามเถ้าแก่ภาคินเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แจกซองครั้งนี้ นับพันซองมีมหรสพให้ชมตอนกลางคืนคือหมอลำซิ่ง เลือกมาเองกับมือโดยแม่เจ้าบ่าว ซึ่งขณะนี้ ยืนทักทายแขกข้าง ๆ สามีด้านเจ้าสาวอย่างพลอยไพลิน อยู่ในชุดแต่งงานสีขาวแบบเกาะอก นั่งรับน้ำสังข์ข้าง ๆ เจ้าบ่าว รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย เพราะมันเป็นงานของเธอเองถึงผู้คนจะมาเยอะมาก แต่เธอแทบไม่รู้จักใครเลย ผิดกับพี่วิน รู้จักคนเยอะแยะไปหมด‘ยินดีด้วยนะวิน’“ขอบคุณครับ”‘ยินดีด้วยครับเถ้าแก่นาวิน’“ขอบคุณครับ”‘ยินดีด้วยครับเสี่ยวิน’“ขอบคุณครับ”พลอยไพลินพลอยรู้สึกภูมิใจในตัวสามี วาสนาของเธอจริง ๆ ที่ได้เป็นเมียพี่เขาอีกทั้งใครต่อใครยังเรียกเธอว่า ‘ลูกสะใภ้ร้านค้า’ ด้วย เขินเป็นบ้าเลย“ยัยพลอยฮือ ๆ”พลอยไพลินเงยหน้าขวับเมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคย ก็พบว่าเป็น...“นี่แกมีผัวแล้วจริง ๆ เหรอ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย!” มีนาน้ำตาอาบแก้มสองข
“หยุดเดินได้แล้วยัยแม่มด!”ภาคินเอามือนวดขมับ ตั้งแต่ลูกกลับมาถึงจนถึงป่านนี้ นับได้ก็หนึ่งชั่วโมง เมียเขายังไม่เลิกเดินสวนสนามเลย“จะให้หนึ่งนั่งนิ่งได้ยังไงคะ คุณไม่ได้ยินเหรอ คำที่ลูกเราพูด นาวินบอกว่า เดี๋ยวตกลงไปตายทั้งแม่ทั้งลูก หมายความว่าเรากำลังจะมีหลานกันใช่ไหมคะ”“ก็ใช่ไง”“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”ภาคินเอามืออุดหู กูว่าแล้วไง ยัยน้ำหนึ่ง ยัยแม่มดเอ๊ย!“หนึ่งดีใจจังเลยค่ะคุณคิน หนึ่งจะได้อุ้มหลานแล้ว” เดินมานั่งข้างสามี แล้วเอาใบหน้าซบอก พลางเอาแขนกอดเอวอีกฝ่ายแน่น“คุณไม่ดีใจเหรอคะ” ผละใบหน้าออกมองสามี เมื่อไม่เห็นว่าอีกฝ่ายมีอาการอย่างเธอ นี่เรากำลังจะมีหลานกันเลยนะ“จะให้กรี๊ดแบบเธอมั้ยล่ะ”“ไม่ต้องค่ะ ฮ่า ๆ ให้หนึ่งกรี๊ดคนเดียวก็พอค่ะ”“ดีใจสิ ดีใจมาก” ภาคินเอ่ยออกมาก่อนจะอมยิ้ม แล้วรั้งเมียเข้ามากอด ในที่สุด เขากับเมียก็จะมีหลานกันสักทีไม่มีลูกคนเล็ก แต่มีหลานก็ยังดี นึกถึงตอนที่เลี้ยงนาวินวัยแบเบาะแล้วเอ็นดูมาก“เธอว่า เราตั้งชื่อหลานว่าอะไรดี ‘ออสติน’ ดีไหม” ภาคิน นาวิน ออสติน คล้องจองทั้งเขาและลูกชายเลย“คุณคินขา...เรายังไม่รู้เลยนะคะ ว่าหลานจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย” ไม่
“พี่วิน พลอยเดินเองได้ค่ะ” ก่อนมาที่นี่ เขาพาเธอแวะไปที่หอพัก อุ้มเธอขึ้นบันไดไปเก็บเสื้อผ้า ก่อนจะอุ้มเธอลงมานั่งรอที่รถส่วนพี่เขา เดินขึ้นไปถือกระเป๋ากว่าหลายใบลงมาอีกรอบกลับมาถึงบ้าน ก็ยังมาอุ้มเธออีกแล้วนั่น พ่อกับแม่กำลังมองมา ทำไมถึงไม่เกรงใจท่านทั้งสองบ้างเลย“อย่าดิ้น เดี๋ยวก็ตกลงไปตายทั้งแม่ทั้งลูก” ตำหนิคนบนแขนไม่จริงจังมากนัก เพราะช่วงนี้ พลอยไพลินค่อนข้างอ่อนไหว พูดแรงไม่ได้หญิงสาวเงียบปาก เพราะกลัวตกลงไปตาย จำยอมให้พี่วินอุ้มเดินขึ้นบนบ้านทว่า...เขากลับอุ้มเธอเดินผ่านห้องของตัวเองไป“พะ...พี่วิน ทำไมไม่ไปส่งพลอยที่ห้องคะ”“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะย้ายมาอยู่ที่นี่ เราอยู่ห้องนี้ด้วยกัน”“แต่พลอย...”“ดื้อเหรอ”นาวินวางอีกคนลงบนเตียงนอน แล้วคลานไปคร่อม จนใบหน้าของเราทั้งคู่ใกล้ชิดกัน จมูกโด่งถูไถไปกับจมูกเชิดรั้นเบา ๆพลอยไพลินเบี่ยงหน้าไปทางอื่น เพราะรู้สึกเขิน ทำไมพี่วินถึงได้อ่อนโยนขนาดนี้ หรือพี่เขาจะไม่สบายนาวินหอมแก้มนิ่มเบา ๆ ขณะเดียวกันสองมือก็สอดประสานกันกับมือเรียวเข้าด้วยกัน แล้วกดมันลงไปกับที่นอนพลอยไพลินรู้เลยว่าอีกคนจะทำอะไร จึงรีบห้าม“พะ...พลอยท้อ
นาวินลากแขนพลอยไพลินเดินออกจากห้องตรวจ พาขึ้นรถแล้วขับกลับบ้านระหว่างทาง หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นมาตลอด จนทนขับรถต่อไปไม่ไหวเทียบรถจอดที่ข้างทาง ก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมานั่งบนตัก แล้วรั้งเธอเข้ามากอด อีกคนยิ่งร้องไห้เข้าไปใหญ่มือหนาลูบแผ่นหลังปลอบ เขารู้ว่าพลอยไพลินเสียใจกับเรื่องนี้ผิดจากเขา ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนั้นสักนิด เพราะวัยของเขามันพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมีย หรือเรื่องลูก เขาไม่ได้ตกใจเลย ที่พลอยไพลินมีลูกกลับกันดีใจด้วยซ้ำ และคนที่ต้องดีใจกว่าเขา คือพ่อกับแม่แน่นอนสองผัวเมียบ่นอยู่ตลอด ว่าเขาไม่มีแฟนสักที อยากอุ้มหลานจะแย่พลอยไพลินร้องจนไม่มีน้ำตาออกมา ในที่สุดก็นิ่งไป เหลือเพียงเสียงสูดน้ำมูกค่อย ๆ ผละออกจากคอคนพี่ แล้วทำท่าจะลงจากตัก เพื่อให้พี่เขาได้ขับรถต่อ แต่นาวินยังไม่ยอมให้ไป“คุยกันก่อน”“...”“ทำไมถึงปล่อยให้ยัยนั่นพูดอยู่คนเดียว ทำไมไม่เถียงกลับบ้าง ทีเวลาต่อปากต่อคำกับผัว ทำไมดูเก่งกว่านี้หืม”“...”“อย่าให้คนอื่นมันมาว่าเราได้สิ ว่าผัวเธอไม่เลี้ยงดู บอกออกไปสิ ว่าฉันรวยมาก รวยจนเธอไม่ต้องทำงานไปสิบชาติยังได้เลย!”“...”“จำที่แม่ฉันเคยบอกไม่ได
“ชื่ออะไรคะ” ถามพร้อมขณะที่ดูประวัติในหน้าจอคอมไปด้วย อยากแน่ใจว่าตรงกับคนไข้ที่เข้ามารับบริการจริง ๆ“พลอยไพลินค่ะ”“อายุสิบแปดปี?” เหลือบมองหน้าอีกคนเล็กน้อยอย่างขอคำตอบ ว่าเธอดูไม่ผิดจริง ๆ หรือข้อมูลไม่ได้ตกหล่น“ค่ะ”“ผลตรวจค่ะ” บอกพร้อมยื่นเอกสารผลตรวจให้ดู พลอยไพลินจึงหยิบมันมาไล่สายตาดูเอกสาร ก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงด้านล่าง“ตั้งครรภ์ค่ะ”พลอยไพลินใจเต้นแรงเมื่อได้ยินคุณหมอบอกอย่างนั้น ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เธออ่านผลตรวจพอดีสรุปว่า เธอท้องจริง ๆ“คุณแม่วัยใสอีกแล้วสินะ” หมอสาวทิ้งแผ่นหลังลงไปกับพนักพิงเก้าอี้ พลางเอามือกอดอก มองหน้าคนไข้ ก่อนจะส่ายหัวออกมาไม่ใช่คนแรกที่เธอเจอ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะชิน ทำหน้าแบบนี้กันทั้งนั้นคิดไม่ถึง?ไม่คิดว่าตัวเองจะท้อง?แต่อยากถามมาก ถ้าไม่อยากท้อง ทำไมถึงไม่ป้องกันแต่แรกยาคุมอันไม่กี่สิบบาท ทำไมไม่ซื้อมากิน!พลอยไพลินเม้มปากเมื่อได้ยินคุณหมอบอกอย่างนั้น ไม่ผิดที่อีกฝ่ายจะเข้าใจว่าเธอเป็นคุณแม่วัยใส เพราะเธออายุสิบแปดปีเองถึงเดือนหน้า เธอจะสิบเก้าปีเต็มแล้วก็ตาม แต่คงให้ความรู้สึกไม่ต่างกันมากนักหรอกเธอเรียนจบแค่ม.6 งานการเป็นหลักเป็นแห







