แชร์

4 ห้องแห่งอัลฟ่านิทรา

ผู้เขียน: yblack
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-17 13:41:45

ดาวิชรู้สึกตัวตื่นอีกทีในห้องนอนห้องหนึ่ง เขาเหลือบเห็นสายน้ำเกลือเสียบคาผิวที่หลังมือ ดูแล้วน่าจะเป็นห้องหนึ่งในคฤหาสน์ตระกูลจางนั่นล่ะ

ความทรงจำก่อนหน้าคือกำลังเดินกลับมาที่โรงครัว แล้วภาพก็ตัดไปเลย สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เดาได้ว่าเขาอาจเป็นลมหมดสติไป

ดาวยันตัวลุกขึ้นจากที่นอนแล้วชะโงกมองไปที่โต๊ะข้างเตียง เขาเห็นกริ่งเรียกคนรับใช้ กับกระดาษเอสี่พับครึ่งที่มีข้อความเขียนด้วยลายมือตัวใหญ่ ราวกับจะบอกให้เขารู้เผื่อตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอใคร

‘คุณดาวเป็นลมแถวโรงครัว พวกคุณชายเลยจัดให้หมอประจำตระกูลจางมาดูแลแล้วก็ให้น้ำเกลือค่ะ อ้อแล้วถ้าคุณดาวอยากได้อะไรกดกริ่งเรียกพี่โมได้เลยนะคะ’

หนุ่มจากเมืองไกลอ่านข้อความแล้วไม่อยากเชื่อ

‘พวกคุณชายจอมโหดเป็นห่วงกูด้วยเหรอวะ’

แต่พออ่านจนจบก็แอบยิ้ม อย่างน้อยในคฤหาสน์กว้างใหญ่และโอ่อ่าที่เขามาเป็นเมียที่คุณชายมาเฟียร้ายทั้งสามไม่ต้องการ ก็ยังมีน้ำใจเล็ก ๆ เหมือนหยดน้ำในทะเลทรายอันอ้างว้างจากแม่บ้านแตงโม จากผู้ช่วยส่วนตัวที่ชื่อเดช

อ้อ...แล้วก็ท่านปู่อีกคน

สิ่งเหล่านั้นทำให้ดาวมีกำลังใจขึ้นมา

พอได้นอนพักโอเมก้าก็รู้สึกแทบเป็นปกติแล้ว และตอนนี้ก็หิวด้วย พอมองนาฬิกาเห็นว่าเลยเวลาอาหารเย็นของคฤหาสน์แล้ว

ดาวลังเลว่าจะกดกริ่งดีหรือไม่ ขอให้พี่แตงโมหาอะไรให้กินหน่อย แต่พอคิดอีกทีก็เกรงใจ จึงคิดว่าจะไปหาอะไรกินเอง

‘เดินไปหาอะไรกินที่ครัวดีกว่า’

เขามองเข็มน้ำเกลือที่ต้นแขน แปลกใจนิดหน่อยว่าคนรวยนี่รวยถึงกับเรียกให้หมอมารักษาถึงบ้านได้ด้วย

‘เป็นคนรวยนี่ดีจริง’

ดาวตัดสินใจดึงเข็มน้ำเกลือออกเพราะคิดว่าตัวเองแข็งแรงพอแล้ว เขาใช้สำลีบนโต๊ะกดแผลไว้ ก่อนจะออกจากห้องอย่างเงียบเชียบ

+++++

ขณะเดินไปตามโถงทางเดิน เขาสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ

มีแสงประหลาดลอดจากห้องห้องหนึ่งที่บังเอิญแง้มประตูเปิดไว้ เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีเสียงดนตรีบรรเลงแนวผ่อนคลายสมอง หรือที่เรียกกันว่า ‘ไวต์นอยซ์’ เล็ดลอดออกมาด้วย

แสงประหลาดที่ว่าเปลี่ยนสีไปมา คล้ายไฟในสถานบันเทิงยามราตรี แต่สีสันสบายตาชวนให้ผ่อนคลาย และมันก็ดึงดูดหนุ่มโอเมก้าให้เดินเข้าไปหาอย่างไม่รู้ตัว

‘แสงอะไรวะเนี่ย สวยเหลือเกิน เหมือนรุ้งที่สะท้อนบนฟองสบู่กลางแดดเลย’

แล้วคำคำหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว ‘สีเหลือบรุ้ง’ มันน่าสวยงามประมาณนี้ล่ะ

ห้องที่เป็นที่มาของแสงนั้นปิดไฟมืด ต้นตอของแสงเหลือบรุ้งสวยงามมาจากแท่งทรงกระบอกอันหนึ่งซึ่งดูเหมือนหลอดไฟขนาดใหญ่ มันปล่อยรังสีเหลือบรุ้งออกมาเป็นระลอก ๆ

แต่สิ่งที่ทำให้ดาวไม่อยากเชื่อคือบางอย่างที่อยู่รอบหลอดไฟนั่นต่างหาก

คุณชายมาเฟียทั้งสาม ผู้ชายปากร้ายและใจร้ายต่างนอนนิ่งอยู่บนเตียงเล็ก ๆ ที่วางรายรอบ มือประสานกันวางไว้บนอกอย่างเรียบร้อย

ลมหายใจของพวกเขาเบาและเป็นจังหวะ เหมือนคนนอนหลับ ราวกับกำลังนอนอาบแสงเหลือบรุ้งยังไงยังงั้น

ดาวคิดในใจแบบขำ ๆ ‘พวกคุณชายมาเฟียทำสปาผิวเหรอวะ’

ที่คิดแบบนั้นเพราะเขาเคยได้ยินว่าสปาความงาม หรือคลินิกความงาม มีการใช้แสงบางอย่างเพื่ออาบผิว หรืออาบหนังศีรษะเพื่อหวังผลบางอย่าง แต่ไม่คิดว่าจอมโหดมาดแมนทั้งสามจะเอาด้วย

และด้วยธรรมชาติของโอเมก้าในช่วงฮีท เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่าอัลฟ่าทั้งสามเองก็รัท กลิ่นกับสารเคมีที่ฟุ้งในอากาศดึงดูดเขาเข้าไปหากลุ่มคนที่นอนอยู่

ดาวแอบคิดว่า

‘ตอนคุณชายจอมโหดทั้งสามนอนหลับดูไร้เดียงสา ไม่มีพิษมีภัยเลย อยากให้นอนอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องตื่นเลยก็คงดี’

โอเมก้าเดินไปหาสามร่างที่นอนทีละก้าว ๆ โดยไม่รู้ตัว และทันใดนั้นเขาก็สะดุดบางอย่าง

กึก

เท้าเจ้ากรรมดันสะดุดสายของปลั๊กไฟของหลอดไฟเหลือบรุ้ง มันพันที่ข้อเท้าทำเอาเขาหกล้ม มือแกว่งไปปัดถูกหลอดไฟส่งผลให้มันฟาดลงกับพื้นอย่างแรง

เพล้ง

หลอดไฟที่ทำมาจากแก้วแตกเปรื่อง ไฟดับวูบลง แถมเสียงบรรเลงผ่อนคลายที่มาจากเครื่องก็ตกร่อง ตะกุกตะกักทันที กลไกที่ผลิตเสียงของหลอดไฟคงเสียหายไปด้วย

ดาวที่ก้นกระแทกกับพื้นไม่เจ็บแต่ตกใจมากกว่า โทษตัวเองที่เดินซุ่มซ่ามไม่ระวัง เขายังไม่ทันยืนขึ้น แค่ยันตัวเองขึ้นจากพื้น แสงเหลือบรุ้งอ่อนระโหยลำสุดท้ายสาดให้เห็นก่อนดับวูบ พอเห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นเขาก็แทบช็อก

‘ฉิบหายแล้วกู’

แต่ที่ฉิบหายกว่าคืออัลฟ่าที่เมื่อกี้หลับอยู่คงตื่นขึ้นมาทันที แถมส่งเสียงลั่นตามนิสัยเดิม

“ใครทำอะไรเสียงดังในห้องนี้วะ!”

+++++

ทั้งสามมีท่าทีงัวเงียเพียงเล็กน้อย ครั้นพอได้สติก็รีบยันตัวขึ้นจากเตียง หนึ่งในนั้นรีบเดินไปเปิดโคมไฟตั้งพื้นที่อยู่ไม่ไกล แสงสีส้มสาดให้เห็นทันทีว่าผู้บุกรุกคือใคร

พอพวกนั้นเห็นก็ย่างสามขุมมาหาโอเมก้าที่นั่งตัวสั่นงันงกอยู่บนพื้น

พอสองแฝดเห็นว่าเป็นใครแล้วอุทานลั่น “นังดาวเองเหรอ!”

ส่วนเจียเหาอึ้งพูดไม่ออก สุดท้ายก็หลุดเสียงพึมพำออกมาว่า “ฟื้นจากเป็นลมแล้วเหรอ”

“ชะ...ใช่ครับ”

ดาวไม่อยากเชื่อว่าเห็นแววสำนึกผิดอยู่ในดวงตาของทั้งสาม

แต่แล้วสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปทันที เมื่อฝาแฝดหันไปเห็นหลอดไฟปล่อยแสงเหลือบรุ้งที่นอนชะตาขาดบนพื้น ทั้งคู่ตะโกนลั่นเหมือนฟ้อง

“พี่เจียเหา มันทำหลอดรังสีรุ้งของเราแตก!”

 แล้วจางฉวน แฝดคนที่ไม่มีแผลเป็นที่หว่างคิ้วก็ร้องขึ้นเหมือนนึกได้

“หรือว่ามันจะรู้ว่าเรานอนบำบัดอยู่ในห้องนี้ มันเลยเข้ามาแกล้ง!”

จางหมิงที่มีแผลเป็นที่หว่างคิ้วตะโกนลั่นอย่างคนมีชนักความผิดปักหลัง “แกคิดจะแก้แค้นคืนเรื่องที่พวกเราทำกับแกไว้อย่างนั้นหรือ!”

ส่วนเจียเหาคุณชายใหญ่พูดลอดไรฟัน “แกไปรู้มาจากไหนว่าพวกเรานอนอาบรังสีอยู่ในห้องนี้”

ดาวเห็นความเข้าใจผิดชนิดกู่ไม่กลับเลยรีบอธิบาย “ปะ...เปล่านะ ใครจะรู้ว่าพวกคุณนอนอาบแสงอยู่ในห้องนี้ล่ะ ผมแค่เดินเข้ามาในห้องนี้โดยบังเอิญ ประตูมันปิดไม่สนิทผมเลยเปิดเข้ามาดูแล้วก็…”

“โกหกหรือเปล่าเนี่ย”

“ผมพูดจริง พวกคุณลองคิดดูสิ แล้วผมจะเข้ามาในห้องนี้เพื่อมาเตะหลอดไฟให้พังเพื่ออะไรล่ะ”

“ก็เพื่อเอาคืนพวกเราที่พยายามแกล้งแกไงล่ะ” จางฉวนตอบโต้ทันที แต่การพูดแบบนั้นทำให้รู้สึกว่าพวกเขาแกล้งดาวด้วยเหตุผลบางอย่าง ไม่ใช่ด้วยนิสัยหรือด้วยความพอใจ

“หือ เอาคืน? งั้นแปลว่าพวกคุณก็รู้ตัวใช่ไหมว่าทำไม่ดีไว้กับผมจริง ๆ”

คำถามในเชิงหลอกด่านั้นแทงใจดำทั้งสามคนได้ชะงัด แต่คนที่ว่องไวที่สุดคือคนที่ใจร้อนที่สุด เจียเหาปราดเข้ามาถึงตัวดาวแล้วทรุดตัวลง ใช้มือข้างหนึ่งบีบหัวไหล่ อีกแขนข้างสอดเข้ามารอบลำคอ

โอเมก้าอุทานด้วยความตกใจ “โอ๊ะ”

“คนชั้นต่ำอย่างแกไม่มีสิทธิ์มาพูดกับพวกฉันอย่างนี้นะ!”

“ปากสามหาวแบบนี้สั่งสอนมันเลยพี่” สองแฝดสนับสนุนเชียร์สุดใจ

เจียเหาในฐานะหัวหน้าทีมจึงก้มหน้าลงมา แต่จู่ ๆ เขาก็ชะงักไปทันที เขาหลับตา สูดลมหายใจเข้าลึกหนึ่งเฮือก

“กลิ่นอะไรวะเนี่ย โคตรหอมเลย”

คู่แฝดแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไป “พี่เจียเหาเป็นอะไร”

พี่ชายใหญ่ส่ายหน้า “อึก ฉัน…รู้สึกมึนนิดหน่อย”

“หรือนังบ้านนอกมันทำอะไรใส่พี่

เจียเหาคลายนิ้วที่รอบลำคอเรียวของดาว เขาสลัดศีรษะไปมาสองสามทีเพื่อไล่ความมึนงง

สองแฝดล้อมวงเข้ามาบ้าง ก่อนจะย่อตัวลงมาหาต้นเหตุ แล้วจากนั้นทั้งสองก็ผงะหงาย

“กลิ่นนี่มัน…”

ที่แท้อัลฟ่าทั้งสามก็ถูกฟีโรโมนของโอเมก้าตกเข้าให้อย่างจัง แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือฟีโรโมนของดาว หนุ่มบ้านนอกคนนี้ ช่างรุนแรงเกินกว่าโอเมก้าคนอื่น ๆ ที่บรรดาคุณชายมาเฟียเคยพบมาในชีวิต

จางฉวนคือคนที่ได้สติก่อน ไม่รู้ด้วยสาเหตุใด เขาเสนอไอเดียหนึ่งขึ้นมา

“ไหน ๆ มันก็มาที่นี่เพื่อเป็นเมียพวกเราอยู่แล้วไม่ใช่เรอะ”

“เมียเมออะไรกันล่ะ ก็เป็นได้แค่ของเล่นคั่นเวลา เบื่อเมื่อไรก็เขี่ยทิ้ง” จางหมิงแสยะปากตอบ จากประโยคที่หนึ่งในคู่แฝดพูดสื่อได้ว่า ความเป็นเมียที่จะมอบให้โอเมก้าไร้สกุลคนนี้ได้ ก็แค่เมียชั่วครั้งชั่วคราว หาใช่เมียแต่งที่มีไว้เชิดหน้าชูตา

“นั่นละ ๆ” คู่แฝดจางฉวนเออออกับอีกคน ก่อนจะเอามือแตะไหล่พี่ชายใหญ่ในเชิงขอความเห็น “แต่ในเมื่อมันมาเพื่อเป็นเมียเรา งั้นทำไมเราไม่ลองยัดเยียดความเป็นผัวให้มันซะเลยล่ะ”

พี่ชายใหญ่เม้มปาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้น แล้วทั้งสามก็พยักหน้าให้กันอย่างสมรู้ร่วมคิด

ส่วนดาวได้แต่เบิกตากว้าง สัมผัสได้ชัดทีเดียวถึงความซวยที่จะบังเกิด

เจียเหาที่ร่างใหญ่ที่สุดอุ้มร่างเล็กพาดบ่าแล้วรีบเข้าไปในอีกห้องหนึ่งที่อยู่ติดกัน

ดาวได้แต่ร้องโวยวาย เอามือทุบแผ่นหลังกว้างหนาดังอั้ก ๆ แต่คนตัวใหญ่ไม่รู้สึกรู้สาแต่อย่างใด

โอเมก้าเมียที่กลายเป็นแค่ของเล่นชั่วคราวอยู่ในสภาพห้อยหัว มองเห็นภาพสองแฝดกลับหัวกลับหาง แต่ก็ยังเห็นว่าริมฝีปากของทั้งคู่แสยะยิ้ม แววตาหื่นกระหาย

‘ฉิบหายจริง ๆ ละสิทีนี้!’

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ของเล่นที่คุณชายไม่รัก (4P, ฮาเร็มผัวร้ายกลายเป็นโบ้, จบดี)   31 ตอนจบ หนึ่งเดียวในดวงใจ

    ที่ห้องส่วนตัวของดาว หนุ่มโอเมก้าเดินกลับมาหาสามอัลฟ่าคุณชายที่แทบนั่งไม่ติดด้วยความกระวนกระวายพอเห็นหน้าเจ้าของห้องก็รีบถามทันที“เป็นไง เธอเข้าใจพวกเราแล้วใช่ไหม”ดาวพยักหน้าเร็ว ๆ “ครับ”ภรรยาเดินมานั่งเก้าอี้ที่หนึ่งในแฝดรีบสละให้ทันที พอนั่งลงดาวเขาก็ยังก้มหน้านิ่ง ไร้คำพูดคำจาสามคุณชายทนไม่ไหว รีบผลัดกันถามภรรยาของพวกเขา“เป็นยังไงบ้างล่ะดาว ท่านปู่ว่าอย่างไรบ้าง”“เธอรู้เรื่องราวทั้งหมดจากปากคุณปู่แล้วใช่ไหม”“ถ้าเธอได้รู้จะได้เข้าใจที่มาที่ไปของพวกเราทั้งหมด…ว่าทำไมเราถึงไม่ชอบเธอในตอนแรก”เมียที่กลายเป็นของเล่นตอบแต่ไม่เงยหน้า “สำหรับเรื่องนั้นท่านปู่จางอี้เทาเล่าให้ผมฟังแล้วเหมือนกันครับ”ดาวทราบแล้วและเข้าใจเหตุผลว่าทำไมทั้งสามถึงอาละวาดและตามมาข่มเหงเขาแทบแย่เมื่อรู้ว่าเมียแต่งของพวกตนเป็นโอเมก้า แต่ถ้าพูดอย่างยุติธรรม การกลั่นแกล้งก็คือการกลั่นแกล้ง ไม่อาจซักฟอกให้เป็นสิ่งถูกต้องได้นั่นคือสิ่งที่ดาวคิด แต่แล้วก็ถอ

  • ของเล่นที่คุณชายไม่รัก (4P, ฮาเร็มผัวร้ายกลายเป็นโบ้, จบดี)   30 อัศวินขี่ม้าขาวผ่านหน้าจอ

    สามคุณชายยอมให้ดาวใช้เวลาส่วนตัวคุยกับท่านปู่จางอี้เทาโดยพวกเขาไม่เข้ามารบกวนสองแฝดออกตัวว่า‘เผื่อเมียของเราอาจมีเรื่องลับ ๆ อยากคุยกับท่านปู่’‘หรือในทางกลับกันท่านปู่ก็อาจมีอะไรลับ ๆ อยากบอกหลานสะใภ้ก็ได้’‘เอ๊ะ คุณสองคนพูดอย่างนี้แปลว่าอะไรแน่!’ ดาวทำเสียงดุใส่ เขาแปลกใจตัวเองเหมือนกันที่สถานะระหว่างเขากับสามคุณชายดูจะสลับบทกันอย่างไรบอกไม่ถูกส่วนเจียเหาได้แต่ยิ้มบาง ๆ ก้มหน้าแล้วกอดไหล่น้องชายแฝดเดินหลบมุมไปเงียบ ๆดาวรู้ว่า ก่อนหน้านั้นคุณชายใหญ่เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้อี้เทาฟังคร่าว ๆ แล้วว่า ที่คฤหาสน์หลานสะใภ้ได้ยินเรื่องที่ปู่เล่าให้พวกหลาน ๆ ฟัง และไม่พอใจอย่างรุนแรงจนหนีกลับบ้านดาวได้ยินแล้วทำท่าขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน อยากชูกำปั้นใส่ด้วยที่คุณชายยังใช้คำว่าหนีกลับบ้านไม่เลิก มันฟังเหมือนดาวเป็นแค่เด็กเอาแต่ใจไม่มีผิดตอนนี้ในโทรศัพท์ของเจียเหามีหน้าคุณปู่อยู่ในนั้น ใบหน้าของท่านยังใจดีอย่างเคย[หนูดาวสบายดีไหม][สบายดีครับ แล้วท่านปู่ละครับ]หนุ่มน้อยโอเมก้าว่าที

  • ของเล่นที่คุณชายไม่รัก (4P, ฮาเร็มผัวร้ายกลายเป็นโบ้, จบดี)   29 ธรรมเนียมการขอโทษที่ยอมรับได้

    สามคุณชายเอ่ยเสียงลั่นเกือบพร้อมกันว่า “แล้วเราต้องขอโทษยังไงเธอถึงจะเชื่อล่ะ”แล้ว ณ ตอนนั้นสะใภ้จากสงขลาไม่รู้นึกอย่างไร เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วโพล่งไปว่า“ตามธรรมเนียมคนบ้านผม ถ้าเราอยากให้คนที่เราตั้งใจขอโทษรู้ว่าเราสำนึกผิดจริง ๆ จากใจ ไม่มีทางอื่นเว้นแต่เราต้องกราบขอโทษแทบเท้าคนสำคัญของเขา”สามอัลฟ่าได้ยินแล้วถึงกับทำตาเบิกโพลง “ฮะ?! นั่นหมายถึง…”ดาวิชพยักหน้าแล้วเม้มปากล่าง “หมายถึงเท้าพ่อกับแม่ของผม”คราวนี้ถึงตาสามคุณชายไฮโซถึงกับอึ้งไปนานเลยแต่แล้วก็มีเสียงขัดจังหวะ เมื่อพ่อกับแม่ร้องบอกอย่างร่าเริงว่า“อาหารเย็นพร้อมแล้วมากินข้าวกันเถอะ”+++++อีกไม่นานอาหารง่าย ๆ ข้าวสวยร้อน ๆ น้ำพริกกับผัก และกับข้าวอีกสามสี่จาน–ยำกุ้งหวาน ปลาเล็กปลาน้อยทอดกรอบ กับไข่เจียวใบโหระพาฟูนุ่มก็พร้อมเสิร์ฟ“กินสิขรับคุณ ๆ อาจไม่ถูกปากนัก เพราะของสดที่เอามาทำก็ของพื้น ๆ ชาวประมงแถวนี้ พวกเราจับเอง เหลือก็เอาแบ่งกันกิน

  • ของเล่นที่คุณชายไม่รัก (4P, ฮาเร็มผัวร้ายกลายเป็นโบ้, จบดี)   28 ผู้มาเยือนที่บ้านน้อยริมทะเลสาบ

    ดาวกลับมาอยู่ที่อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา บ้านเกิดของเขาได้เกือบหนึ่งเดือนแล้วการตัดสินใจแค่ไม่กี่นาทีส่งผลให้ชีวิตของดาวเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ความเป็นอยู่ที่นี่สงบเงียบเรียบร้อย จนหนุ่มโอเมก้าไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือชีวิตเดียวกับตอนที่เป็นของเล่นของสามคุณชายที่คฤหาสน์และวันธรรมดาวันหนึ่ง ระหว่างที่พ่อกับแม่นั่งกินข้าวกลางวัน ส่วนดาวล้างจาน พ่อกับแม่ถามคำถามกับลูกเพราะเพิ่งนึกได้“ดาวเอ๊ย ตกลงแกไม่ได้ทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วเหรอ”ลูกชายหรี่ก๊อกน้ำแล้วหันมาตอบ “เปล่าแล้วจ้ะแม่”พ่อกับแม่มองด้วยสีหน้านิ่งอย่างสงสัย แต่ไม่ถามอะไรที่กดดันอย่างเช่น ‘แล้วจะทำอะไรต่อ’ ทั้งคู่รู้ดีกว่าลูกชายของพวกตนไม่ใช่คนหลักลอยเหลวไหลคราวนี้เป็นตาพ่อถามบ้าง “เอ้อ พ่อว่าจะถามเรื่องค่ารักษาของพ่อ หนูไปเอาเงินมาจากไหน”“อ๋อ” ดาวชะงัก แต่ก็รีบแก้ตัวว่า “หนูไปคุยกับหมอและเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลมาแล้วจ้ะ ใช้สิทธิบัตรทองได้ ของแม่ก็เหมือนกันนะ ไม่ต้องกังวล”พ่อกับแม่กลืนอาหา

  • ของเล่นที่คุณชายไม่รัก (4P, ฮาเร็มผัวร้ายกลายเป็นโบ้, จบดี)   27 หลายเรื่องเกิดขึ้นพร้อมกัน

    “นั่นเลยเป็นที่มาตั้งแต่ก่อนพ่อแกจะตาย เราถึงเฝ้าเพียรพยายามหาคนที่ใช่ และมันไม่ง่ายเลย เราใช้เวลานานหลายปี หลายคนที่คุณสมบัติใช่แต่เขาไม่ร้อนเงิน ไม่มีเหตุผลที่จะยอมลำบากมาแต่งงานเป็นสะใภ้ตระกูลจาง มีหนูดาวนี่ละลงตัวที่สุด เป็นดอกบัวขาวอย่างที่เรามองหา แถมฐานะที่บ้านยังขัดสน”ชายชราเว้นช่วงเพื่อให้ความจริงตกตะกอนในสมองทึบ ๆ ของสามหลายชาย ก่อนจะย้ำด้วยประโยคอันเด็ดขาดและเสียงดังว่า“แกคิดว่าจะหาโอเมก้าคุณสมบัติเพียบพร้อมอย่างนี้ได้ง่าย ๆ หรือไง!”สามคุณชายพูดอุบอิบ รู้สึกผิดหวังอะไรสักอย่างกับตัวผู้ให้กำเนิด “แล้วทำไมพ่อกับแม่ไม่เคยบอกพวกเราเรื่องนี้เลย”“พ่อแกเคยมาปรึกษาฉัน แล้วเราก็ตกลงว่า จะดีกว่าถ้าปล่อยให้เรื่องนี้เป็นความลับ”สามคนถามโดยพร้อมเพรียง “ทำไมล่ะครับ”“การรู้จุดด้อยของตัวเองเร็วเกินไปส่งผลไม่ดีต่อความมั่นใจ โดยเฉพาะในช่วงที่แกเปลี่ยนจากวัยรุ่นกลายเป็นวัยผู้ใหญ่เต็มตัว พ่อแกรู้ว่าสักวันตำแหน่งหลงโถวของเขาจะต้องถูกส่งต่อให้พวกแกคนใดคนหนึ่ง ดังนั้นย่อมไม่ดีแน่ถ้า

  • ของเล่นที่คุณชายไม่รัก (4P, ฮาเร็มผัวร้ายกลายเป็นโบ้, จบดี)   26 ที่แท้ก็แค่อัลฟ่ายีนด้อย

    เจียเหาในฐานะพี่ใหญ่รวบรวมความกล้าเอ่ยถามท่านปู่ตรง ๆ“ดะ…ดาวเอาเรื่องนี้มาบอกคุณปู่เหรอครับ”“เปล่า ฉันรู้เอง ดังนั้นพวกแกอย่าเอาเรื่องนี้ไปโทษเขาล่ะ เขาไม่ได้เอามาฟ้องฉัน”ตอนแรกอี้เทากระหยิ่มในใจ แผนการโยนหินถามทางกับสามคุณชายปากแข็งน่าจะสำเร็จ ชายชราแค่ลองปะติดปะต่อเรื่องเอาเองแล้วเอ่ยโพล่งออกไป ซึ่งพอเห็นปฏิกิริยาของสามคุณชายเลยฟันธงว่าน่าจะเข้าใจถูกในประเด็นที่ทั้งสามคงตกลงอะไรบางอย่างกับดาวเกี่ยวกับสถานะความเป็นเมียแต่อี้เทาเป็นคนยุติธรรม เขาอยากให้ทั้งสามคุณชายเป็นผู้ใหญ่ เป็นลูกผู้ชายตัวจริงที่กล้ายอมรับเองว่าพวกตนทำอะไรไว้ทั้งสามนั่งตัวลีบแต่ยังปากแข็งไม่ยอมรับเวลาผ่านไป เข็มนาฬิกาของนาฬิกาคุณปู่ หรือนาฬิกาโบราณตั้งพื้นเรือนใหญ่ดังติ๊ก ๆ อย่างต่อเนื่องขนาดอี้เทาเป็นคนอารมณ์เย็นยังหมดความอดทน“ไอ้พวกหลานโง่ นี่ฉันทนพวกแกไม่ไหวแล้วนะ!”สามคนทำหน้าซีด แต่ยังปากแข็งไม่ยอมพูดสักคำท่านปู่จางอี้เทาทนไม่ไหวอีกจึงกระชากเสียงถามหลานชายจอมมึน“แกรู้ไหมว่า

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status