LOGINสองวันต่อมาเจโรมก็เดินทางมายังประเทศไทยโดยไม่ได้บอกให้บิดารู้ล่วงหน้า ตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องเขาก็คิดแต่เรื่องของผู้หญิงที่บิดาจะแต่งงานด้วย เขาได้ชื่อและที่อยู่รวมถึงที่ทำงานของเธอมาแล้ว แต่ก่อนอื่นเจโรมต้องคุยกับบิดาก่อนที่จะไปเจอผู้หญิงคนนั้น
เมื่อเครื่องบินแตะพื้นของสนามบินสุวรรณภูมิก็เรียกรถให้ไปส่งที่บ้านของบิดาทันที
แท็กซี่จอดหน้ารั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ เจโรมกดออดและยืนรอไม่นานสาวใช้ก็วิ่งออกมา
“มาหาใครคะ” ” สาวใช้ถามไปตามระเบียบ เธอเพิ่งมาทำงานที่นี่ยังไม่นานจึงไม่รู้ว่าคนที่คุยอยู่ด้วยนั้นคือลูกชายคนเดียวของคุณอนันต์
“ฉันมาหาคุณอนันต์เขาอยู่บ้านหรือเปล่า”
“อยู่ค่ะ คุณจะให้หนูเรียนคุณท่านว่าใครมาขอพบคะ”
“ฉันเพิ่งรู้ว่าจะมาหาพ่อตัวเองก็ต้องนัดก่อน” เจโรมพูดอย่างหัวเสีย อากาศที่นี่มันร้อนจนเขาหงุดหงิด
“มีอะไรหรือเปล่าลัดดา” คนขับรถเห็นว่าสาวใช้ยืนคุยกับใครอยู่นานก็ตะโกนถามแล้วเดินมาใกล้ๆ
“อาวินัยมาก็พอดีเลย เปิดประตูให้ผมหน่อย” เจโรมตะโกนบอกคนขับรถของบิดาที่เขารู้จักดี
“อ้าว...คุณเจโรมจะมาทำไมไม่โทรให้ผมไปรับ ลัดดาแกรีบไปเปิดประตูเลยนะ นั้นน่ะคุณเจโรมลูกชายคุณอนันต์”
“หนูขอโทษค่ะ หนูจะรีบเปิดให้เดี๋ยวนี้ล่ะคะ หนูไม่รู้นี่คะว่าคุณเป็นลูกชายของคุณท่าน” สาวใช้ยกมือไหว้ก่อนจะรับไปเปิดประตูทันที
“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ”
“หนูช่วยลากกระเป๋าให้นะคะ”
เจโรมพยักหน้าก่อนจะเดินเข้ามาด้านในรั้วบ้าน
“สบายดีไหมครับอา”
“ผมสบายดี คุณเจโรมก็คงสบายดี”
“ครับผมสบายดี ผมขอตัวไปหาคุณพ่อก่อนนะครับ”
“คุณเจโรมจะใช้คันไหนครับผมจะเตรียมให้”
“ขอคันเดิมก็แล้วกันนะ มันคล่องตัวดี”
“ผมจะรีบจัดการให้ครับ”
เจโรมพูดจบก็เดินเข้าไปในบ้านและเห็นบิดาของเขากำลังจ้องแท็ปเล็ตอยู่ที่โซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่น คุณอนันต์ดูมีความสุขมากกว่าทุกครั้งที่เขาเห็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
“สวัสดีครับพ่อ”
“เจโรม มาได้ยังไง จะมาทำไมไม่บอกพ่อก่อน จะได้ให้คนไปรับที่สนามบิน นี่มาเยี่ยมพ่อหรือมาทำงาน”
“ทั้งสองอย่างครับ พ่อสบายดีไหม” เขายังไม่บอกท่านว่าที่มาครั้งนี้ก็เพื่อจะมาห้ามไม่ให้ท่านแต่งงาน
“พ่อสบายดีแล้วแกกับแม่ล่ะสบายดีไหม”
“เราสองคนสบายดีครับ ดูท่าทางพ่ออารมณ์ดีมากมีเรื่องอะไรดีๆ หรือเปล่าครับ” เจโรมแกล้งถามทั้งที่รู้เหตุผลอยู่แล้วว่าเพราะอะไรบิดาถึงได้อารมณ์ดีแบบนี้
“นี่สาธิตยังไม่โทรไปฟ้องแกเหรอ” คุณอนันต์พูดพลางหัวเราะเพราะปกติคนสนิทขอเขามักจะคาบข่าวไปบอกลูกชายอยู่เป็นประจำ
“ผมอยากฟังจากปากของพ่อมากกว่า”
“สาธิตบอกอะไรแกไปแล้วบ้างล่ะ”
“เขาบอกแค่ว่าพ่อกำลังจะแต่งงาน ครั้งนี้เจ้าสาวเป็นใครล่ะครับสวนไหม ผมจะได้เจอกับเธอก่อนถึงวันแต่งไหม”
“แกอยากเจอว่าที่แม่เลี้ยงเหรอ”
“ก็ไม่เชิงหรอกแต่ไหนๆ ผมก็มาที่นี่แล้วก็อยากจะเจอเธอสักหน่อย ผมไม่รู้ว่าถึงวันแต่งงานผมจะว่างมาหรือเปล่า” ที่ผ่านมาเจโรมไม่เคยมางานแต่งงานของบิดาเลยสักครั้งเพราะไม่อยากให้เจ้าสาวของท่านต้องอึดอัดที่ลูกชายจากภรรยาคนแรกมาร่วมงานแต่งงานด้วย
“แกมีแผนอะไรหรือเปล่า” คุณอนันต์มองหน้าลูกชายที่มันดูเจ้าเล่ห์ไม่ต่างจากตนเอง
“ผมจะมีแผนอะไรล่ะครับพ่อ ผมรู้ว่านี่เป็นความสุขของพ่อ”
“แกจะไม่ห้ามพ่อเหรอเจโรม”
“ผมรู้ว่าห้ามไปพ่อก็คงไม่ฟังหรอกครับ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พ่อจะแต่งงาน” เจโรมทำเป็นไม่สนใจเพราะรู้ว่าห้ามไปท่านก็คงไม่ฟัง แต่ระหว่างนี้เขาจะต้องหาผู้หญิงสักเพื่อแยกบิดาออกจากพยาบาลสาวคนนั้น
“ถ้างั้นก็ดี แกบอกว่าอยากจะเจอเธอใช่ไหม”
“ครับ”
“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เย็นก็ไปที่ห้องอาหารของโรงแรมสิ พ่อนัดเธอไปทานข้าวที่นั่น”
“กี่โมงครับ”
“ประมาณหนึ่งทุ่ม พ่อหวังว่าถึงตอนนั้นแกคงว่ามาเจอเธอนะ”
“แน่นอนครับ ว่าแต่ก่อนเจอกันพ่อจะไม่เล่าให้ผมฟังหน่อยเหรอครับว่าเธอเป็นใคร”
“ดูแกสนใจผู้หญิงของพ่อคนนี้มากนะ” เขามองลูกชายด้วยความสงสัย
“ก็ผมเห็นว่าพ่อให้ความสำคัญและจริงจังกับการแต่งงานครั้งนี้มากผมก็เลยอยากจะรู้จักเธอสักหน่อย”
“มันก็จริงอย่างที่แกพูด ซีซีเธอแตกต่างจากคนอื่น เธอสวย อ่อนหวานและที่สำคัญเธอไม่สนใจทรัพย์สมบัติของพ่อเลย”
“พ่อแน่ใจได้ยังไงว่าเธอไม่เห็นแก่สมบัติของพ่อ”
“พ่อเคยแต่งงานมาหลายครั้ง ผู้หญิงที่เข้ามาส่วนใหญ่จะพูดถึงการจดทะเบียนสมรสและไม่ต้องจัดงานแต่งก็ได้ พ่อรู้ว่าพวกเธอคงอายที่จะแต่งงานกับคนอายุมากอย่างพ่อ แต่ซีซีเธอไม่ต้องการจดทะเบียนสมรส เธอต้องการแค่งานแต่งที่หรูหราและประกาศให้คุณในสังคมรู้ว่าเธอกับพ่อแต่งงานกันแล้ว” คุณอนันต์เล่าไปยิ้มไปสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุข เขาไม่เคยเจอผู้หญิงแบบศศิภัทรมาก่อน มันเลยทำให้คนอายุมากอย่างเขารู้สึกได้รับการยอมรับแต่ถ้าถามว่าเขารักเธอหรือเปล่าคำตอบก็คือไม่เพราะตั้งแต่หย่าจากมารดาของเจโรมไปเขาก็ไม่เคยรักใครอีกเลย
“แปลกนะครับ ทำไมเธอถึงอยากให้คนอื่นรู้ ผู้หญิงวัยนี้แต่งงานกับคนอายุมากผมนึกว่าเธอจะอาย”
“เธอบอกว่ามันเป็นความฝันในวัยเด็กว่าอยากมีงานแต่งงานมันทำเธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิง” คุณอนันต์อธิบายตามที่ได้คุยกับศศิภัทรให้กับลูกชายฟัง
“เธอน่าสนใจดีนะครับ พ่อเจอกับเธอได้ยังไงเหรอ” เขายังคงถามต่อเพราะอยากรู้จักเธอในมุมมองของบิดา
“พ่อไปเจอเธอที่โรงพยาบาล เธอเป็นพยาบาลที่ดูแลพ่อตอนที่พ่อไปตรวจสุขภาพ” คุณอนันต์เริ่มอธิบาย
“เจอแค่นี้พ่อก็จะแต่งงานกับเธอเลยเหรอ”
“มันไม่ใช่แค่นั้นหรอก พอเธอรู้ว่าพ่อมีปัญหาสุขภาพอะไรบ้างก็ให้คำแนะนำอย่างดี”
“ผมว่านั่นมันหน้าที่ของเธอนะครับ”
“พ่อรู้ว่ามันคือหน้าที่แต่พ่อก็สนใจเธอและพอเราได้คุยกันพ่อก็เริ่มชอบเธอ”
“แล้วพ่อคิดว่าเธอชอบพ่อเหรอครับ”
“แน่นอนสิ ตอนนี้เราสองคนรักกัน แกลองคิดดูนะถ้าเธอไม่รักพ่อเธอจะยอมแต่งงานกับพ่อทำไม”
“มันก็จริงนะครับ” เจโรมทำเป็นเห็นด้วยแต่เขาจะต้องสืบให้ได้ว่าเพราะอะไรผู้หญิงที่อายุน้อยขนาดนั้นถึงมาแต่งงานกับบิดาของเขา
เช้าวันรุ่งขึ้นเจโรมและศศิภัทรก็ทานอาหารเช้าพร้อมกันจากนั้นเขาก็เตรียมตัวออกเดินทาง“ขอไปส่งคุณที่ท่าเรือได้ไหมคะ” ศศิภัทรยืนรอชายหนุ่มที่หน้าประตูเตรียมพร้อมจะเดินไปส่ง“แต่คุณต้องเดินกลับมาที่บ้านคนเดียวนะซีซี ไม่กลัวเหรอ”“นี่มันตอนกลางวันนะคะคุณเจโรม ซีซีไม่กลัวหรอกค่ะ”เจโรมยิ้มก่อนจะยื่นมือให้ศศิภัทรจับแล้วพากันเดินไปยังท่าเรือ“ผมจะรีบกลับมานะ”“ค่ะ”“ถึงแล้วจะโทรบอกได้ไหมคะ”“ได้สิ ผมจะโทรรายงานตลอดว่ากำลังจะทำอะไรดีไหม”“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่บอกว่าถึงแล้วก็พอ”“เป็นห่วงผมเหรอ”ศศิภัทรยิ้มให้แทนคำตอบแล้วเธอก็หยุดเดินเมื่อมาถึงท่าเรือ“ซีซี ดูแลตัวเองด้วยนะ”“ค่ะ คุณก็เหมือนกันนะคะ”“ผมไปล่ะ จะคิดถึงคุณนะ” เขาขยับเข้ามากอดแล้วหอบแก้มศศิภัทรทั้งสองข้าง“เดินทางปลอดภัยนะคะ”“ครับ ผมไปนะ ถ้าคุณถึงบ้านแล้วไลน์มาบอกด้วยผมน่าจะยังอยู่บนเรือคุยคงไม่สะดวก”“ได้ค่ะ” หญิงสาวโบกมือให้กับเขาจากนั้นเธอก็ยืนรอจนกระทั่งเรือแล่นออกไปจากเกาะศศิภัทรเดินลัดเลาะตามชายหาดเมื่อมาถึงบ้านก็ไลน์บอกเจโรมจากนั้นหญิงสาวก็รีบเข้าห้องเพื่อเก็บของที่จำเป็นลงกระเป๋าเธอคิดจะใช้โอกาสนี้หนีไปจากที่นี่ก่อนท
เมื่อรู้ว่าจะมีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกันอีกเพียงไม่กี่วันทั้งเจโรมได้ศศิภัทรก็เลิกจะเก็บความทรงจำและความรู้สึกดีๆ ไว้ เจโรมไม่พูดถึงเรื่องของเธอกับบิดาส่วนหญิงสาวก็ทำตัวน่ารักและ ไม่เคยทำให้เขารู้สึกลำบากใจเลยสักนิดความสัมพันธ์มันดีขึ้นแต่ในใจของทั้งสองกลับรู้สึกใจหาย“ซีซีคุณทำอะไรอยู่” เจโรมที่เพิ่งทำงานเสร็จเดินออกมาจากห้องทำงานก็เห็นหญิงสาวนั่งยิ้มอยู่กับโทรศัพท์อยู่บนโซฟาในห้องรับแขก“ซีซีคุยกับเพื่อนค่ะ คุณเจโรมทำงานเสร็จแล้วเหรอคะ”“เสร็จแล้วว่าจะชวนเธอไปเดินเล่นอยากไปไหม”“ก็ได้ค่ะ” หญิงสาววางโทรศัพท์ลงแล้วยิ้มก่อนจะจับมือของเจโรมที่ยื่นลงมาฉุดให้เธอลุกขึ้น ศศิภัทรรู้สึกอบอุ่นกับมือใหญ่ที่กุมมือเล็กของตนเองไว้ทั้งเดินลัดเลาะมาตามหาดทรายสีขาว เท้าเปล่าเหยียบลงบนผืนทรายให้คลื่นกระทบครั้งแล้วครั้งเล่า บรรยากาศราวกับคู่รักแต่ต่างก็รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้“ซีซีถ้าต้องอยู่ที่นี่คนเดียวคิดว่าอยู่ได้ไหม” เจโรมถามขึ้นเมื่อเดินมาได้สักพัก“อยู่คนเดียวเหรอคะแล้วคุณเจโรมจะไปไหน ซีซีไปด้วยได้หรือเปล่า” หญิงสาวคิดว่าถ้าต้องอยู่ที่นี่โดยที่เจโรมไม่อยู่ด้วยก็ต้องเหงาและว้าเหว่มากๆ“ผมมีธุระต้อง
ศศิภัทรก้มหน้ามองแล้วใช้มือยันผนังไว้แน่น สะโพกสั่นเกร็งไปกับการปรนเปรอที่ไม่เคยได้รับแบบนี้มาก่อน เจโรมดูดรวบเกสรเสียวและกลีบเนื้อสาวเข้าปากราวกับอาหารจานโปรด ทำซ้ำไปทำมาไม่นานนักเธอก็กรีดร้องลั่นห้องน้ำ“หวานมากซีซี”เขากระซิบก่อนจะเงยหน้ามองศศิภัทรที่ตอนนี้ใบหน้าเธอแดงซ่านเพราะความสุขสมที่เขามอบให้ ชายหนุ่มค่อยๆ วางขาของหญิงสาวลงจากนั้นเขาจับมือเล็กๆ ของเธอให้จับไปบนท่อนเอ็นของเขา“เจโรม...มันใหญ่”“เดี๋ยวมันก็เล็กจับให้อีกนิดได้ไหม”เขาประคองมือเล็กแล้วจับให้เธอรูดท่อนเอ็นของตนเองขึ้นลงเบาๆ จนรู้สึกว่ามันแข็งชูชันอย่างเต็มที่“แบบนี้ใช่ไหม”“อ่า....ถูกแล้วซีซี ช้าๆ...อ้า...”ชายหนุ่มครางสะท้านเมื่อมือเล็กทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย“ชอบไหม”“ชอบมากแต่พอก่อนนะซีซี คุณใช้มือเก่งแล้ววันต่อไปผมจะใช้ผมจะสอนให้คุณใช้อย่างอื่น แต่วันนี้ขอเข้าไปในตัวคุณก่อนแล้วกันผมเสียวสุดจะทนแล้ว”ศศิภัทรเข้าใจดีว่าสิ่งที่เจโรมพูดนั้นมันหมายถึงอะไรและถ้าหากวันนั้นเขาให้เธอทำแบบนั้นจริงๆ เธอก็ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า แต่หญิงสาวก็ไม่อยากจะคิดอะไรไปล่วงหน้าเพราะเรื่องมันยังไม่เกิด แต่สิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่
กลับมาจากภูเก็ตแล้วศศิภัทรก็เก็บของที่ซื้อมาเขาที่ เธอมองชุดว่ายน้ำก่อนจะตัดสินใจเลือกใส่ชุดสีขาวและรอเวลาให้พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าก่อนสวมชุดคลุมแล้วเดินออกมาจากห้องก็เห็นเจโรมกำลังนั่งหน้าเครียดสายตาจ้องไปยังจอแท็ปเล็ต“จะไปเล่นน้ำแล้วเหรอซีซี”“ค่ะแดดไม่มีแล้ว”“แล้วรอผมหน่อยสิผมจะไปเล่นด้วย”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะซีซีไปเล่นคนเดียวก็ได้คุณทำงานเถอะ”“ผมทำงานมาทั้งวันก็เครียดเหมือนกันนะ ได้ไปเล่นน้ำบ้างก็คงดีรอห้านาทีได้ไหมขอไปเปลี่ยนกางเกงก่อน”“ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวนั่งรอในห้องรับแขกขณะที่เจโรมก็รีบเดินกลับไปเปลี่ยนกางเกงเขาเดินออกมาจากห้องแล้วสวมแค่กางเกงว่ายน้ำและมีผ้าเช็ดตัวพาดอยู่บนบ่า“คุณจะใส่กางเกงว่ายน้ำลงไปตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอคะ” หญิงสาวถามแต่สายตาหันมองไปทางอื่น“ทำไมล่ะนี่มันบ้านผม ชายหาดมันก็ส่วนตัวนะ ผมไม่เห็นต้องอายใครเลยหรือที่เพราะคุณกลัวว่าจะหลงเสน่ห์ผมกันล่ะ” เขาหัวเราะเมื่อเห็นหญิงสาวมองไปทางอื่นแต่ใบหน้านั้นแดงระเรื่อ“ไม่อายก็ตามใจค่ะ ไปกันเถอะซีซีอยากเล่นน้ำแล้ว”ทั้งสองคนพากันมาเล่นน้ำบริเวณชายหาดเสียงหัวเราะสดใสของศศิภัทรทำให้เจโรมรู้สึกสบายใจ เขาไม่เคยได้เล่นน้ำแบบนี้
หลังจากทางอาหารค่ำแล้วเจโรมก็พาศศิภัทรมายังผับแห่งหนึ่งเขาเลือกโต๊ะที่ติดกระจกมองออกไปเห็นท้องทะเลกว้าง จากนั้นจึงสั่งเครื่องดื่มมาสองแก้วเสียงดนตรีคลาสสิกคลอเบาๆ ในบรรยากาศที่อบอุ่น เจโรมมองใบหน้าของศศิภัทรที่มองออกไปด้านนอกอย่างเหม่อลอย“ถ้าผมจะชวนคุณไปที่สิงคโปร์อยากไปไหม” เจโรมชวนคุยเรื่องที่ค้างอยู่เมื่อเห็นหญิงสาวเงียบไปนาน“น่าสนใจนะคะ แต่คิดว่าไม่ดีกว่าคะ” ศศิภัทรหันมาตอบก่อนจะมองออกด้านนอกต่อ“อ้าวทำไมล่ะ ยังเหลือเวลาอีกตั้งหลายวันเลยนะ”“ข้อแรกก็คือฉันไม่มีพาสปอร์ตส่วนอีกข้อหนึ่งก็คือฉันไม่อยากให้เราสองคนสนิทกันมากค่ะ”“ทำไมถึงไม่อยากสนิทกับผมล่ะหรือเพราะยังคิดเรื่องพ่อของผมอยู่”“เปล่าค่ะซีซีไม่ได้คิดเรื่องนั้นแล้วแต่ซีซีคิดว่าเราสองคนไม่ควรจะไปไหนมาไหนด้วยกัน ถ้าพ่อคุณรู้คุณอาจจะมีปัญหากับพ่อได้”“เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาหรอกพ่อผมเป็นคนรักใครรักจริงแต่พอท่านตัดใจแล้วท่านก็คงไม่คิดอะไรเรื่องของเราหรอกมั้ง” เจโรมเองก็ไม่รู้ว่าถ้าบิดารู้ท่านจะโกรธเขาหรือเปล่า“เห็นไหมคุณยังไม่มั่นใจเลยว่าพ่อของคุณจะคิดอะไรไหม”“มันก็จริงอย่างที่คุณพูดนั่นแหละซีซี ผมไม่รู้เลยว่าพ่อจะโกรธผมมากแค
เจโรมเคลียร์งานตรงหน้าเสร็จหลังจากผ่านไปเกือบชั่วโมง พอเงยหน้าขึ้นมาก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนโซฟาตอนนี้หลับไปแล้วเขาเดินมาใกล้ๆ แล้วมองใบหน้าสวยของหญิงสาวก่อนจะยิ้ม ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในใจ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันบนเกาะหลายวัน ศศิภัทรพยายามจะหนีและเขาก็รั้งเธอไว้เพราะไม่อยากให้เธอไปยุ่งวุ่นวายกับงานแต่งงานของบิดาแต่ลึกๆ ในใจเป็นตัวเขาเองมากกว่าที่อยากจะรั้งเธอไว้ใกล้ๆ เจโรมต้องส่ายศีรษะสลัดความคิดของตัวเองออกเพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ตนเองกับศศิภัทรจะคบหากันถ้าบิดารู้ก็คงจะโกรธมากที่เขาทำให้ว่าที่เจ้าสาวของทานกลายมาเป็นภรรยาของเขาเจโรมหวังว่าบิดาจะเข้าใจว่าที่เขาทำทุกอย่างก็เพราะไม่อยากให้ท่านมีภรรยาอายุน้อยขนาดนี้“ซีซีตื่นได้แล้ว” ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆ ก่อนจะเรียกเธอเบาๆหญิงสาวก่อนจะขยี้ตาและตกใจรีบขยับหนีเมื่อเห็นว่าตอนนี้เจโรมนั่งใกล้เธอมาก“กลัวผมขนาดนั้นเลยเหรอ” เขาถามแล้วหัวเราะ“ไม่ได้กลัวสักหน่อยก็แค่ตกใจ คุณทำงานเสร็จแล้วใช่ไหม”“เสร็จแล้วไปซื้อของกันดีกว่านะ จะไปล้างหน้าก่อนไหม”“ไม่เป็นไรค่ะไปเลยก็ได้”เจโรมพาเธอมายังห้างสรรพสินค้าที่มีสินค







