LOGINเจโรมกลับมายังห้องทำงานที่โรงแรมด้วยความหงุดหงิด แผนการที่คิดไว้พังไม่เป็นท่า ศศิภัทรไม่ได้แสดงอาการหึงหวงหรือโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวสงบนิ่งและนั่นก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมกับคู่ต่อสู้ที่อ่านทางไม่ออก
‘ถ้าแผนแรกไม่ได้ผล ก็ต้องใช้แผนที่สอง ในเมื่อไม่หึงก็แปลว่าเธอไม่ได้รักพ่อของเขาจริง การกระทำทั้งหมดเป็นเพียงแค่การแสดงละคร เขาจะใช้เงินซื้อเธอตรงๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาอีกต่อไป’ เจโรมคิดในใจ
บ่ายวันต่อมาเจโรมขับรถไปรอศศิภัทรที่หน้าโรงพยาบาล ก่อนเวลาเลิกงานเล็กน้อยเมื่อเห็นหญิงสาวเดินออกมาจากโรงพยาบาลเขาก็รีบเดินเข้าไปหาเธอทันที
“สวัสดีครับคุณซีซี” เจโรมทักทายด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนความเจ้าเล่ห์ไว้
“สวัสดีค่ะ คุณเจโรมมาทำอะไรที่นี่คะ” เธอถามพลางมองไปรอบๆ ด้วยความรู้สึกแปลกใจที่เห็นเจโรมมาตามลำพัง
“ผมมารอคุณ”
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“มีธุระจะคุยกับคุณหน่อย”
“ธุระอะไรคะ ถ้าจะมาพูดให้ฉันเปลี่ยนใจไม่แต่งงานกับพ่อของคุณฉันว่าคุณเจโรมจะเสียเวลาเปล่านะคะ” เธอยิ้มหยันยิ่งรู้ว่าเขาห้ามมันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกสนุกและถึงวันที่แผนของเธอสำเร็จคงไม่ได้มีแค่คุณอนันต์คนเดียวที่เสียใจและสองพ่อลูกคงจะแค้นมาก แต่เรื่องศศิภัทรไม่สนใจเพราะถ้าจัดการเรื่องนี้เสร็จเธอก็จะลาออกจากที่นี่
“เรื่องที่ผมจะคุณกับคุณมันก็เกี่ยวกับเรื่องแต่งงานจริงๆ นั่นแหละแต่มีรายละเอียดบางอย่างที่ผมอยากตกลงกับคุณก่อนที่คุณจะกลายมาเป็นแม่เลี้ยงผม” พูดจบก็คว้าแขนเธอแล้วเดินไปยังรถของตนเองที่จอดอยู่ไม่ไกล
“ปล่อยแขนฉันก่อน”
“ถ้าปล่อยคุณจะเดินตามผมดีๆ ใช่ไหม แต่ผมดูแล้วคงไม่ คุณคงจะวิ่งหนีแล้วตะโกนให้คนช่วย เอาเลยสิตะโกนขอความช่วยเหลือเลย แล้วถ้าเขาถามผมก็จะบอกว่าเราสองคนเป็นผัวเมียกัน”
“จะบ้าเหรอใครเป็นเมียคุณ”
“นั่นสิโทษทีนะ คุณเป็นเมียพ่อผมต่างหากและผมก็ไม่มีรสนิยมเอาเมียพ่อมาเป็นเมียตัวเอง”
ศศิภัทรมองไปรอบๆ และเห็นว่าตอนนี้คนหน้าโรงพยาบาลเริ่มเยอะขึ้นเพราะเป็นเวลาเลิกงาน เธอจึงยอมเดินตามเขามาที่รถอย่างไม่เต็มใจ
“จะคุยอะไรก็รีบคุยมาเลย ฉันทำงานมาทั้งวันฉันเหนื่อยและอยากรีบกลับไปพัก” หญิงสาวถามเมื่อขึ้นมานั่งบนรถ เธอกอดอกจ้องหน้าเขาด้วยสายตาที่ขุ่นเคือง
“ผมเองก็เหนื่อย วันนี้งานยุ่งมากยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลย”
“งั้นก็รีบพูดมาสิคะ”
“ผมว่าหาอะไรกินก่อนดีกว่านะ”
“นี่คุณ....”
“ทำไม กลัวพ่อจะรู้เหรอว่าออกมากับผม ผมไม่บอกคุณไม่บอกพ่อผมไม่รู้หรอกน่า อีกหน่อยคุณก็เป็นแม่เลี้ยงผมแล้วเราสนิทกันไว้ดีกว่านะว่ามั๊ยล่ะ” เขาอยากสนิทกับเธอมากกว่านี้เพื่อล้วงความลับว่าเธอวางแผนกำลังจะทำอะไร
“ฉันไม่อยากทำอะไรลับหลังท่าน”
“คุณซื่อสัตย์กับพ่อผมดีนะ แต่น่าเสียดายที่พ่อผมไม่ค่อยซื่อสัตย์กับคุณเท่าไหร่”
“ฉันไม่สนใจหรอกค่ะ ว่าก่อนแต่งงานท่านจะมีผู้หญิงกี่คนแต่ท่านสัญญากับฉันแล้วว่าหลังแต่งงานท่านจะมีแค่ฉันคนเดียว เพราะฉะนั้นอย่าพยายามให้ฉันเลิกล้มการแต่งงานเพราะความเจ้าชู้ของท่าน ฉันว่าผู้ชายเจ้าชู้ดูมีเสน่ห์ดีนะคะ” เธอยังคงยิ้มไปพูดไปจนเจโรมเผลอมอง
“ถึงวันหนึ่งคุณนั่นแหละที่จะเสียใจเพราะความเจ้าชู้เหมือนกับแม่ของผม ถ้าถึงวันนั้นผมก็คงช่วยอะไรคุณไม่ได้”
“คุณไม่จำเป็นต้องช่วยฉันหรอกค่ะเพราะฉันคิดว่ายังไงซะวันนั้นก็คงไม่มาถึง” ศศิภัทรพูดอย่างมั่นใจเพราะคนที่จะเสียใจก่อนจะเป็นคุณอนันต์บิดาของเขามากกว่า
“ดูคุณมั่นใจในตัวเองดีนะ” เขายิ้มเยาะก่อนจะจอดรถที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ดูอบอุ่นและมีบรรยากาศดีเหมาะสำหรับการคุยเรื่องสำคัญ
“สั่งอะไรทานก่อนไหม” เจโรมยื่นเมนูให้เธอ
“ไม่ค่ะ คุณมีอะไรก็ว่ามาเลย” ศศิภัทรปฏิเสธ
“ใจเย็นๆ สิครับคุณซีซี ผมขอสั่งอาหารก่อนนะ คุณทานได้ทุกอย่างไหม”
“ค่ะ” หญิงสาวรู้ว่าเขากำลังถ่วงเวลาและเธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาจะแก้เกมนี้ยังไง
เจโรมมองเมนูและสั่งอาหารไทยหลายจากนั้นก็วางเมนูลงแล้วมองเธอด้วยสายตาที่จริงจัง
“ระหว่างรออาหารผมจะเข้าเรื่องเลยก็แล้วกันนะ”
“ฉันก็รอคุณเข้าเรื่องอยู่นะคะคุณเจโรม”
เจโรมมีท่าทางหนักใจก่อนหยิบเช็คเปล่าออกมาจากกระเป๋าเสื้อและวางไว้บนโต๊ะ
“คุณอยากได้เท่าไหร่ เขียนตัวเลขลงไปได้เลย”
“คุณกำลังจะทำอะไรคะ” ศศิภัทรหน้าชาทันทีที่เห็นเช็ค เธอรู้สึกเหมือนถูกดูถูกอย่างแรง
“ผมจะจ่ายเงินให้คุณเพื่อที่คุณจะได้เลิกยุ่งเกี่ยวกับพ่อของผมซะที กรอกตัวเลขลงไปเลยเอาที่คุณอยากได้”
“คุณคิดว่าเงินจะซื้อได้ทุกอย่างงั้นเหรอคะคุณเจโรม”
“ที่คุณแต่งงานกับพ่อผมก็เพราะคุณต้องการเงินไม่ใช่เหรอ”
“ใครบอกคุณ”
“เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องบอกหรอกครับคุณซีซี ผู้หญิงที่แต่งงานกับคนอายุมากก็หวังเงินด้วยกันทั้งนั้น”
“ในเมื่อคุณคิดว่าฉันแต่งงานกับท่านเพราะหวังเงิน เพราะฉะนั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องรับเงินที่คุณเสนอหรอกค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“พ่อคุณน่ะอายุมากแล้ว ท่านจะอยู่อีกกี่ปีกันเชียว ฉันยอมทนอยู่กับผู้ชายอายุคราวพ่อไม่นานทุกอย่างก็จะเป็นของฉัน” ศศิภัทรพูดอย่างแน่แน่ว เธอมองเห็นความโกรธในสายตาของเจโรม
“จะไม่โลภไปหน่อยเหรอครับคุณซีซี” เขาหัวเราะในลำคอเมื่อรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีความต้องการมากกว่าที่เขาประเมินไว้
“ไม่หรอกค่ะ คนเราหว่านพืชก็ย่อมหวังผลสิคะ”
“แต่พ่อบอกว่าคุณไม่สนใจเรื่องจดทะเบียน เพราะฉะนั้นคุณก็คงไม่มีสิทธิ์ในสมบัติของท่าน”
“ใช่ค่ะ เพราะฉันอยากให้พ่อของคุณตายใจไงคะ หลังแต่งงานแล้วฉันจะจดทะเบียนสมรสตอนไหนก็ได้ จริงไหมคะ” เธอมองหน้าเขาอย่างท้าทาย
“ถือว่าแผนของคุณรอบคอบดีนะซีซี แต่คุณไม่มีทางทำสำเร็จหรอกตราบใดที่ผมยังอยู่
“คุณคิดว่าคุณจะทำอะไรได้เหรอคะคุณเจโรม” ศศิภัทรยิ้ม
“ผมจะบอกคุณพ่อให้รู้ว่าคุณต้องการสมบัติของเขา”
“คุณคิดว่าคุณอนันต์จะเชื่อคุณเหรอคะ ทำเหมือนไม่รู้จักนิสัยพ่อตัวเอง” ศศิภัทรหัวเราะ
“คุณมันเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจ” เจโรมรู้สึกเหมือนกำลังแพ้เกมนี้”
“ก็แล้วแต่คุณจะคิดค่ะ มีแค่นี้ใช่ไหมที่จะคุยกับฉัน เชิญทานข้าวให้อร่อยนะคะ ฉันขอตัวก่อน”
“ผมจะทำให้คุณเสียใจ”
“แล้วฉันก็จะทำให้คุณเสียใจเช่นกันค่ะ”
ศศิภัทรลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากร้านทันที ทิ้งให้เจโรมยืนนิ่งอยู่คนเดียว
เขาจมอยู่กับความคิดของตนเองอีกครั้งและเริ่มคิดแผนใหม่ที่จะให้ศศิภัทรกับบิดาไม่ได้แต่งงานกัน
หลังจากทานอาหารกลางวันร่วมกันเสร็จแล้วเจโรมก็เป็นคนเริ่มต้นเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้กับมารดาของหญิงสาวฟัง แต่เขาไม่ได้บอกว่านอนกับศศิภัทรไปแล้วเพราะรู้ว่าเรื่องนี้เธอไม่ต้องการให้ทางบ้านรู้คุณยุภาพรนั่งฟังอย่างตั้งใจเธอไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่ชายหนุ่มพูดเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นหลักฐานที่ได้มาจากร้านจัดงานแต่งงานรวมถึงบัญชีเงินสดของน้องสาวที่เธอเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อนคุณยุภาพรก็เชื่อในสิ่งที่เขาพูดทั้งหมด“พ่อผมฝากผมมาขอโทษคุณน้าและน้องสาวที่ทำให้ต้องอยู่กับความทุกข์ใจมานานหลายปี อันที่จริงพ่อผมก็อยากมาเจอคุณน้าดีนะ ครับแต่ผมห้ามไว้เพราะกลัวว่าท่านอาจจะทำให้อาการของคุณน้าทรุดลง” เจโรมพุดอย่างจริงใจ เขารู้สึกเห็นใจครอบครัวของศศิภัทรมากที่ต้องดูแลน้ายุวดีหลังจากท่านผิดหวังจากบิดาของเขาจนต้องเข้ารีบการรักษาในโรงพยาบาล“คุณทำถูกแล้วล่ะคุณเจโรมตอนนี้น้องสาวของน้าก็ทำใจได้แล้วน้าคิดว่าไม่ให้เธอเจอกับคุณอนันต์น่าจะดีกว่า แล้วคุณก็ไม่ต้องไปพูดนะคะว่าเป็นลูกชายของคุณอนันต์น้าอยากให้วดีเธอลืมเรื่องราวทุกอย่าง ตอนนี้แค่อาการทางกายของเธอก็แย่มากแล้ว”“ผมเข้าใจครับคุณน้าถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ผมจะช่วยส่วนเ
เช้าวันเสาร์ศศิภัทรกับมารดาช่วยกันดูแลยุวดีให้ทานอาหารจากนั้นหญิงสาวก็ขอตัวมารดามายังร้านกาแฟ เธอเดินเข้ามาในร้านตอนนี้มีลูกค้าอยู่ไม่กี่โต๊ะ หญิงสาวเลือกโต๊ะที่ติดริมหน้าต่างเพราะคิดว่าถ้าพิมพ์ดาวเดินเข้ามาจะเห็นเธอได้ทันทีขณะที่กำลังก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือก็มีคนเดินเข้ามาในร้านแล้วมาหยุดตรงหน้าเมื่อหญิงสาวเงยหน้าขึ้นเธอก็ต้องตกใจเพราะคนที่ยืนอยู่ตอนนี้ไม่ใช่พิมพ์ดาวหากแต่เขาคือคนที่เธอคิดถึงมาตลอดหนึ่งเดือน“คุณเจโรม”“สวัสดีซีซีขอนั่งด้วยคนนะ”“ค่ะ” หญิงสาวตอบพลางพยักหน้า“สบายดีไหมซีซี”“สบายดีค่ะ คุณล่ะ”“ร่างกายผมสบายใจดีแต่ไม่สบายใจเท่าไหร่ คิดถึงคุณอยากเจอคุณมากรู้ไหม คุณล่ะ”“ก็เรื่อยๆ ค่ะ” ศศิภัทรตอบพลางก้มหน้า เธอไม่กล้าจะสบตาของเจโรมเพราะกลัวเขาจะเห็นความดีใจในแววตานั้น“ผมถามว่าคิดถึงผมหรือเปล่า”“ถ้าบอกว่าไม่คิดถึงก็คงจะเป็นการโกหก ซีซีก็คิดถึงคุณค่ะ”“คิดถึงแล้วจะบล็อกเบอร์โทรผมล่ะ”“ซีซีคิดว่าเราไม่จำเป็นจะต้องติดต่อกันอีก”“แต่เราคุยกันแล้วนะซีซี ตอนนี้ก็ครบหนึ่งเดือนผมจะมาฟังคำตอบว่าระหว่างเราจะเป็นยังไงต่อและผมก็ตัดสินใจได้แล้วว่า ผมเจ้าขอคบกับคุณเป็นแฟน”“อะไรนะ”
“พ่อรู้มั้ยการแต่งงานไม่ได้ถูกยกเลิก เธอยังคงเดินหน้าจัดงานแต่งงานต่อแล้วก็เสียใจมากที่วันงานไม่มีเจ้าบ่าว เธอเสียใจและอายมากถึงขั้นฆ่าตัวตาย”“อะไรนะนี่วดีฆ่าตัวตายอย่างงั้นเหรอ”“ครับ แต่เธอฆ่าตัวตายไม่สำเร็จจากนั้นก็เกิดอาการซึมเศร้าสุดท้ายก็ไปจบลงที่โรงพยาบาลจิตเวช”“มันจะเป็นไปได้ยังไง พ่อว่าเขาคุยกับเธอแล้วนะเราตกลงกันด้วยดี เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอยังจะเดินหน้าจัดงานแต่งงานต่อ แกลองไปถามหนูซีซีอีกทีนะว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ถ้าได้เจอกับเธอพ่อฝากขอโทษเธอด้วย พ่อไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนั้นแต่พ่อคิดว่าพ่อกับเธอคุยกันจบแล้วจึงไม่ได้ติดตามข่าวสารของเธออีกเลยเธอ คงเสียใจมาก ตอนนั้นพ่อเองก็เสียใจเหมือนกันที่เลิกกับเธอ เป็นเพราะเหตุผลนี้หรือเปล่าที่หนูซีซีถึงอยากจะแต่งงานกับพ่อ”“พอเดาถูกแล้วครับ ซีซีอยากจัดงานแต่งงานใหญ่โตกับพ่อให้พ่อเชิญแขกอีกมาเยอะๆ แล้วเธอจะทำให้พ่ออับอายเหมือนอย่างน้าสาวของเธอครับ แต่แผนของเธอก็ไม่สำเร็จเพราะผมเข้ามาแทรก”“เพราะแบบนี้เองหนูซีซีถึงยอมแต่งงานกับพ่อทั้งที่อายุห่างกันมากขนาดนี้ เธอมีแผนนี่เอง ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าหน้าตาใสซื่ออย่างนั้นจะคิดทำเรื่องใ
เมื่อครบหนึ่งเดือนเจโรมก็รีบบินมาเมืองไทย เขาลงจากเครื่องก็รีบให้คนขับรถพามาส่งที่หอพักของศศิภัทรทันที แต่เมื่อมาถึงก็ต้องผิดหวังคนดูแลหอพักแจ้งว่าหญิงสาวย้ายออกไปจากที่นี่นานแล้วชายหนุ่มรีบหยิบโทรศัพท์กดโทรหาแต่โทรเท่าไหร่ก็โทรไม่ติดเขาไม่รู้ว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาวเพราะไม่ได้ตามสืบเรื่องราวของเธอต่อ เขาจึงโทรศัพท์ไปหาคุณสาธิตเพื่อขอที่อยู่ที่บ้านของหญิงสาวขณะที่เจโรมผมกำลังจะกลับขึ้นรถก็บังเอิญว่าเพื่อนของศศิภัทรเดินมาพอดี เขาจำเธอได้เพราะเคยเจอมาแล้วครั้งหนึ่ง“สวัสดีครับคุณพิมพ์ดาว”“สวัสดีค่ะ”“ผมชื่อเจโรม ผมเคยเจอตอนที่คุณมากับซีซี”“สวัสดีค่ะมีธุระอะไรเหรอคะ”“ผมมาหาซีซีแต่คนดูแลหอพักบอกว่าซีซีย้ายออกไปแล้ว คุณพอจะรู้มั้ยว่าซีซีย้ายไปอยู่ที่ไหน”“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ซีซีไม่ได้บอกที่อยู่ใหม่”“แต่คุณกับเธอเป็นเพื่อนสนิทกันนะครับ แปลกจังที่เธอไม่บอกคุณ”“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าทำไมซีซีถึงไม่บอก”“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมไปตามเธอที่บ้านก็ได้แม่ของเธอน่าจะรู้ว่าเธอย้ายไปอยู่ที่ไหน”“ไม่ได้นะคะคุณจะไปบ้านซีซีไม่ได้เด็ดขาด” พิมพ์ดาวรีบร้องห้าม“ทำไมล่ะ
ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วที่ศศิภัทรกลับมาอยู่ที่บ้านเธอเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านและโรงพยาบาลเพื่อคอยดูแลน้าสาวซึ่งตอนนี้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่แผนกอายุรกรรมของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแม้จะได้รับยานอกบัญชีที่มีราคาแสนแพงแต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเลยตอนนี้สภาพจิตใจของน้าสาวเธอดีขึ้นมากและไม่พูดถึงคุณอนันต์อีกนั่นก็ทำให้ศศิภัทรและมารดาของเธอสบายใจมาก แต่สิ่งที่เป็นกังวลตอนนี้ก็เป็นสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมไปเรื่อยๆ คุณหมอบอกให้ทั้งสองคนทำใจว่าอีกไม่นานคนไข้ก็คงจะต้องจากไป“ซีซีพรุ่งนี้วันหยุดของแม่ แม่จะมาดูแลน้าวดีเองนะ หนูพักผ่อนอยู่บ้านเถอะ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ หนูไม่ได้เหนื่อยอะไรมากเรามาอยู่กับน้าสองคนก็ได้นะคะ น้าวดีจะได้ไม่เหงา ดีมั้ยคะน้า” หญิงสาวหันไปถามยุวดีที่นอนอ่อนแรงอยู่บนเตียง“ขอบใจนะซีซี” ยุวดีพยายามฝืนยิ้ม“ซีซีแล้วเมื่อไหร่หนูจะกลับไปทำงานน่ะลูก ลางานมานานเป็นเดือนแบบนี้ทางโรงพยาบาลเขาจะไม่ว่าเอาเหรอ”“แม่คะอันที่จริงหนูลาออกแล้ว”“อะไรนะลูก ทำไมถึงลาออกล่ะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”“เปล่าหรอกค่ะแม่ที่หนูลาออกเพราะหนูจะไปสมัครทำงานที่โรงพยาบาลแห่งใหม่ แต่พอดีแม่บอกว่าน้าป่วยหนูก็เลยยังไม่เป
“คุณไปไหนมาเหรอซีซี” เจโรมเริ่มถามเมื่อศศิภัทรขึ้นมานั่งบนรถ“ออกไปกินข้าวกับเพื่อนค่ะ แล้วคุณล่ะ”“ผมตั้งใจมาหาคุณ อันที่จริงอยากจะมาหาตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่เคลียร์งานอยู่”“แล้ววันนี้งานเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยคะ”“เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมคิดถึงคุณมากนะซีซี” ชายหนุ่มจับมือถือไว้อยากจะกอดเธอมาก่อนแต่ก็รู้สึกเกรงใจเพราะกลัวคนอื่นจะมาเห็น“คุณมาที่นี่เพื่อที่จะบอกว่าคิดถึงแค่นั้นเหรอคะ”“เปล่าผมอยากมาเห็นหน้าคุณด้วย ผมนอนไม่หลับเลยนะซีซีตั้งแต่ไม่มีคุณอยู่ด้วยมันทรมานมากๆ”“คุณเจโรมคะเราคุยกันแล้ว ซีซีเชื่อว่าเวลาจะทำให้เราสองคนลืมเรื่องทุกอย่างได้”“คุณคิดว่าจะลืมมันได้จริงๆ เหรอ”“ซีซีก็ไม่รู้หรอกค่ะ แต่ก็จะพยายามให้มาก เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ค่ะ คุณเข้าใจใช่ไหม”“ผมเข้าใจแต่ผมอยากให้เวลาซีซีลองทบทวนความรู้สึกของตัวเองนะ ว่าที่ผ่านมาเราสองคนรู้สึกยังไงแล้วผมจะมาฟังคำตอบหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน”“เอางั้นก็ได้ค่ะ” หญิงสาวตอบไปอย่างมั่นใจเพราะคิดว่าระยะเวลาหนึ่งเดือนเธอน่าจะลืมเขาได้“ขอบคุณครับที่ให้โอกาส”“แต่ระหว่างนี้คุณอย่าติดต่อซีซีมาได้ไหม ถ้าครบหนึ่งเดือนซีซีจะให้คำตอบกับ







