LOGINเจโรมกลับมาที่โรงแรมและเริ่มคิดแผนอีกครั้งในเมื่อแผนการแรกไม่ได้ผลก็ต้องใช้แผนที่สอง และเมื่อแผนที่สองก็ยังไม่ได้ผล ก็ต้องใช้แผนที่สาม เขาคิดว่าศศิภัทรเป็นผู้หญิงที่เดาใจยากกว่าที่คิด เธอไม่ยอมแพ้แต่เขาก็จะทำให้เธอแพ้ให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
เพราะเป็นคนชอบเอาชนะเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเมื่อได้มาเจอคู่แข่งแบบนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกท้าทายมากขึ้น เขาจะให้เวลาตัวเองได้เล่นเกมกับเธออีกสักหน่อยและถ้าวันไหนเบื่อที่จะเล่นเจโรมก็จะใช้แผนสุดท้ายที่คิดว่ายังไงศศิภัทรก็คงต้องแพ้อย่างแน่นอน
เมื่อคิดแผนได้เจโรมโทรศัพท์หาเหมือนแพรทันทีเพื่อเริ่มแผนขั้นต่อไปในเย็นนี้ทันที
เจโรมให้เหมือนแพรขับรถไปใกล้บ้านบิดาของเขา จากนั้นก็แกล้งทำเป็นรถเสียกะเวลาให้รถของบิดาขับผ่านซึ่งเขาถามจากคนขับรถแล้วว่าท่านจะกลับบ้านเวลาไหน
หลังจากประชุมตลอดบ่ายคุณอนันต์ก็นั่งรถออกจากบริษัทของตนเองเพื่อกลับมาที่บ้าน วันนี้เขาเหนื่อยเกินกว่าจะออกไปทานข้าวข้างนอกกับศศิภัทรว่าที่ภรรยาสาว
“ซีซีเข้าใจค่ะ วันนี้ซีซีเองก็เหนื่อยค่ะ คุณอารีบกลับบ้านไปพักผ่อนนะคะ” น้ำเสียงที่ตอบกลับทางโทรศัพท์อ่อนหวานและไม่เคยแสดงความโกรธหรือไม่พอใจเลยสักครั้งที่เขาผิดนัด
“ขอบใจนะซีซีที่เข้าใจอานะ”
“ซีซีรู้ว่าคุณอาทำงานเหนื่อยแค่ไหน สุขภาพของคุณอาต้องมาก่อน แต่ซีซีหวังว่าวันที่เรานัดไปดูชุดแต่งงานคุณอาจะว่างนะคะ” ศศิภัทรอ้อนเสียงหวาน
“แน่นอน อาไม่มีทางลืมวันสำคัญหรอกนะ”
“ขอบคุณนะคะคุณอาที่ไม่ลืมเรื่องสำคัญของเรา วันนี้คุณอาพักผ่อนนะคะ ซีซีก็จะรีบพักเหมือนกันค่ะ”
คุณอนันต์วางสายจากศศิภัทรแล้วก็ยิ้มอย่างอย่างมีความสุข ตั้งแต่ได้รู้จักกับหญิงสาวเขาก็รู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น
เขาเป็นผู้ชายที่กำลังจะก้าวเข้าสูงคำว่าสูงวัยแต่หัวใจกลับกระชุ่มกระชวย ศศิภัทรเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่รู้จักกันมาหลายเดือนเธอไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเขาเลยแม้แต่อย่างเดียว แม้เขาจะพยายามเสนอแต่เธอก็ปฏิเสธ มันเลยทำให้คุณอนันต์รู้สึกประทับใจและติดต่อกับเธอบ่อยมากขึ้น
หญิงสาวห่วงใยในสุขภาพของเขาและคอยแนะนำอยู่ตลอด แม้รู้ว่าเธออาจจะทำเพราะหน้าที่แต่ก็ไม่เคยมีใครใส่ใจเขาเท่ากับศศิภัทรมาก่อน จนในที่สุดเขาก็ขอคบกับเธออย่างจริงจัง
ในวันนั้นคุณอนันต์รู้สึกกังวลเพราะกลัวเธอปฏิเสธเนื่องจากเขาอายุมากแล้ว แต่เธอกลับตกลงและขอเขาหนึ่งข้อถ้าอยากจะคบกับเธอ นั่นก็คือการแต่งงานซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากเลยเพราะเขาผ่านการแต่งงานมาแล้วถึงสี่ครั้ง ถ้าจะมีครั้งที่ห้ามันก็คงไม่แปลกและตอนนี้เขาก็รอคอยให้วันนั้นมาถึง
ระหว่างนั่งใช้ความคิดมาตลอด รถยนต์คันหรูก็แล่นเข้ามาในซอย เขามองออกไปนอกประตูและเห็นรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ คุณอนันต์จำได้ทันทีว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังรถคันนั้นคือใคร
“จอดก่อนวินัย” คุณอนันต์บอกคนขับรถ
“ครับ” วินัยชะลอความเร็วของรถแล้วจอดริมทางถัดจากรถที่จอดอยู่ไปเพียงนิด
เหมือนแพรยิ้มเมื่อเห็นรถของคุณอนันต์จอดลงเพราะมันเป็นไปตามแผนที่เจโรมวางเอาไว้
“สวัสดีครับคุณแพรรถเป็นอะไรเหรอครับ” เขาทักทายเธอไปก่อน
“สวัสดีค่ะ รถแพรเสียคะ”
“เรียกช่างหรือยังครับ ให้ผมช่วยอะไรไหม”
“เรียกแล้วค่ะ แต่คงอีกสักพักทางอู่ถึงจะมาดูให้ คุณอนันต์มาทำอะไรแถวนี้เหรอคะ”
“บ้านผมอยู่ถัดจากตรงนี้ไปอีกนิดเดียวคุณแพรไปรอในบ้านก่อนดีไหม ตอนนี้ก็เริ่มจะค่ำแล้วผมว่าอยู่ตรงนี้คนเดียวมันอันตรายนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ แพรเกรงใจ”
“จะต้องเกรงใจอะไรกันล่ะครับ ไปเถอะ ถ้าทางอู่มาแล้วไม่เจอเขาก็คงโทรตามคุณแพรเอง”
“ขอบคุณค่ะ”
เหมือนแพรขึ้นมานั่งบนรถก่อนที่วินัยจะขับมายังบ้านหลังใหญ่
“บ้านน่าอยู่มากเลยนะคะ”
“ขอบคุณครับ”
เหมือนแพรเดินตามเขามายังห้องรับแขกและมองไปรอบๆ บ้านที่ตกแต่งอย่างหรูหรา เธอยิ้มให้กับสาวใช้ที่เอาน้ำและของว่างมาเสิร์ฟ
“คุณแพรพักอยู่แถวนี้เหรอครับ”
“เปล่าหรอกค่ะ แพรมาทำธุระแถวนี้ค่ะ”
คุณอนันต์ยังไม่ทันที่จะถามอะไรต่อเสียงโทรศัพท์ของเหมือนแพรก็ดังขึ้นเสียก่อน
“แพรขอรับสายก่อนนะคะน่าจะเป็นสายจากช่างค่ะ” เหมือนแพรเดินออกมาหน้าบ้านและตรงไปที่รถของตนเองตกลงกับช่างนิดหน่อยก่อนจะเดินกลับเข้ามาที่ห้องรับแขกอีกครั้ง
“ช่างว่ายังไงบ้างครับ”
“รถมีปัญหานิดหน่อย ช่างจะเอารถมาลากไปที่อู่” หญิงสาวถอนหายใจสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
“แย่เลยนะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ให้แพรเข้ามานั่งรอ แต่ตอนนี้แพรคงต้องขอตัวกลับก่อนที่จะค่ำไปกว่านี้”
“แล้วคุณแพรจะกลับยังไงครับ”
“เรียกบริการรับส่งค่ะ” หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าแอปพลิเคชันและเรียกบริการรถรับส่ง
“เดี๋ยวครับคุณแพร”
“มีอะไรคะ”
“ไม่ต้องเรียกหรอกครับ เดี๋ยวผมให้คนขับรถไปส่งคุณเอง”
“ขอบคุณนะคะ แต่แพรเกรงใจค่ะ แค่มานั่งรอที่นี่ก็ทำให้คุณเสียเวลามากแล้ว” หญิงสาวกล่าวอย่างเกรงใจ
“ไม่ต้องเกรงใจเลย ไหนๆ คุณก็มาถึงบ้านผมแล้ว ทานข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อยได้ไหม วันนี้ผมไม่อยากทานข้าวคนเดียว”
“คุณอนันต์อยู่คนเดียวเหรอคะ”
“ครับ ผมอยู่คนเดียว”
“แต่มันจะดีเหรอคะ ถ้าคุณซีซีเธอรู้คงไม่ดีแน่ที่คุณทานข้าวกับผู้หญิงคนอื่น”
“ซีซีเธอเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายครับ หรือที่คุณปฏิเสธเพราะไม่อยากทานข้าวกับคนแก่”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ คุณแก่ที่ไหนกันล่ะ แบบนี้เขาเรียกวัยผู้ใหญ่ค่ะ” เธอพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง
“ตกลงคุณแพรอยู่ทานข้าวกับผมนะครับ”
“ได้ค่ะ”
เหมือนแพรพยายามชวนคุณอนันต์คุยตลอดการทานอาหารค่ำบรรยากาศบนโต๊ะอาหารดูเป็นกันเองและผ่อนคลาย คุณอนันต์รู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้มากและเมื่อรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังหางานทำเขาก็รีบเสนอ
“สนใจมาทำงานกับผมไหมล่ะ อย่าตอบว่าเกรงใจอีกนะ”
“แต่แพรเกรงใจจริงๆ นี่คะ”
“ตอนนี้เลขาของผมกำลังอยากได้ผู้ช่วยพอดีเลยครับ ถ้าได้คุณแพรมาช่วยก็คงดี”
“คนอื่นคงจะมองว่าแพรเป็นเด็กเส้นนะคะ ให้แพรไปสมัครที่ฝ่ายบุคคลก่อนไหม”
“ไม่มีใครกล้าว่าหรอกครับ ตกลงไหม”
“แพรขอคิดดูก่อนนะคะ”
“ถ้าตัดสินใจได้แล้วไปหาผมที่บริษัทนะครับ ผมจะแจ้งเลขาไว้ว่าให้คุณเข้าพบผมได้ตลอด”
“ขอบคุณมากค่ะ”
“ผมหวังว่าเราจะได้ทำงานร่วมกัน” คุณอนันต์ยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะถ้ามีผู้หญิงสวยๆ อยู่ที่บริษัทด้วยเขาก็คงอยากจะไปทำงานทุกวัน
หลังจากทานอาหารกลางวันร่วมกันเสร็จแล้วเจโรมก็เป็นคนเริ่มต้นเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้กับมารดาของหญิงสาวฟัง แต่เขาไม่ได้บอกว่านอนกับศศิภัทรไปแล้วเพราะรู้ว่าเรื่องนี้เธอไม่ต้องการให้ทางบ้านรู้คุณยุภาพรนั่งฟังอย่างตั้งใจเธอไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่ชายหนุ่มพูดเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นหลักฐานที่ได้มาจากร้านจัดงานแต่งงานรวมถึงบัญชีเงินสดของน้องสาวที่เธอเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อนคุณยุภาพรก็เชื่อในสิ่งที่เขาพูดทั้งหมด“พ่อผมฝากผมมาขอโทษคุณน้าและน้องสาวที่ทำให้ต้องอยู่กับความทุกข์ใจมานานหลายปี อันที่จริงพ่อผมก็อยากมาเจอคุณน้าดีนะ ครับแต่ผมห้ามไว้เพราะกลัวว่าท่านอาจจะทำให้อาการของคุณน้าทรุดลง” เจโรมพุดอย่างจริงใจ เขารู้สึกเห็นใจครอบครัวของศศิภัทรมากที่ต้องดูแลน้ายุวดีหลังจากท่านผิดหวังจากบิดาของเขาจนต้องเข้ารีบการรักษาในโรงพยาบาล“คุณทำถูกแล้วล่ะคุณเจโรมตอนนี้น้องสาวของน้าก็ทำใจได้แล้วน้าคิดว่าไม่ให้เธอเจอกับคุณอนันต์น่าจะดีกว่า แล้วคุณก็ไม่ต้องไปพูดนะคะว่าเป็นลูกชายของคุณอนันต์น้าอยากให้วดีเธอลืมเรื่องราวทุกอย่าง ตอนนี้แค่อาการทางกายของเธอก็แย่มากแล้ว”“ผมเข้าใจครับคุณน้าถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ผมจะช่วยส่วนเ
เช้าวันเสาร์ศศิภัทรกับมารดาช่วยกันดูแลยุวดีให้ทานอาหารจากนั้นหญิงสาวก็ขอตัวมารดามายังร้านกาแฟ เธอเดินเข้ามาในร้านตอนนี้มีลูกค้าอยู่ไม่กี่โต๊ะ หญิงสาวเลือกโต๊ะที่ติดริมหน้าต่างเพราะคิดว่าถ้าพิมพ์ดาวเดินเข้ามาจะเห็นเธอได้ทันทีขณะที่กำลังก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือก็มีคนเดินเข้ามาในร้านแล้วมาหยุดตรงหน้าเมื่อหญิงสาวเงยหน้าขึ้นเธอก็ต้องตกใจเพราะคนที่ยืนอยู่ตอนนี้ไม่ใช่พิมพ์ดาวหากแต่เขาคือคนที่เธอคิดถึงมาตลอดหนึ่งเดือน“คุณเจโรม”“สวัสดีซีซีขอนั่งด้วยคนนะ”“ค่ะ” หญิงสาวตอบพลางพยักหน้า“สบายดีไหมซีซี”“สบายดีค่ะ คุณล่ะ”“ร่างกายผมสบายใจดีแต่ไม่สบายใจเท่าไหร่ คิดถึงคุณอยากเจอคุณมากรู้ไหม คุณล่ะ”“ก็เรื่อยๆ ค่ะ” ศศิภัทรตอบพลางก้มหน้า เธอไม่กล้าจะสบตาของเจโรมเพราะกลัวเขาจะเห็นความดีใจในแววตานั้น“ผมถามว่าคิดถึงผมหรือเปล่า”“ถ้าบอกว่าไม่คิดถึงก็คงจะเป็นการโกหก ซีซีก็คิดถึงคุณค่ะ”“คิดถึงแล้วจะบล็อกเบอร์โทรผมล่ะ”“ซีซีคิดว่าเราไม่จำเป็นจะต้องติดต่อกันอีก”“แต่เราคุยกันแล้วนะซีซี ตอนนี้ก็ครบหนึ่งเดือนผมจะมาฟังคำตอบว่าระหว่างเราจะเป็นยังไงต่อและผมก็ตัดสินใจได้แล้วว่า ผมเจ้าขอคบกับคุณเป็นแฟน”“อะไรนะ”
“พ่อรู้มั้ยการแต่งงานไม่ได้ถูกยกเลิก เธอยังคงเดินหน้าจัดงานแต่งงานต่อแล้วก็เสียใจมากที่วันงานไม่มีเจ้าบ่าว เธอเสียใจและอายมากถึงขั้นฆ่าตัวตาย”“อะไรนะนี่วดีฆ่าตัวตายอย่างงั้นเหรอ”“ครับ แต่เธอฆ่าตัวตายไม่สำเร็จจากนั้นก็เกิดอาการซึมเศร้าสุดท้ายก็ไปจบลงที่โรงพยาบาลจิตเวช”“มันจะเป็นไปได้ยังไง พ่อว่าเขาคุยกับเธอแล้วนะเราตกลงกันด้วยดี เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอยังจะเดินหน้าจัดงานแต่งงานต่อ แกลองไปถามหนูซีซีอีกทีนะว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ถ้าได้เจอกับเธอพ่อฝากขอโทษเธอด้วย พ่อไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนั้นแต่พ่อคิดว่าพ่อกับเธอคุยกันจบแล้วจึงไม่ได้ติดตามข่าวสารของเธออีกเลยเธอ คงเสียใจมาก ตอนนั้นพ่อเองก็เสียใจเหมือนกันที่เลิกกับเธอ เป็นเพราะเหตุผลนี้หรือเปล่าที่หนูซีซีถึงอยากจะแต่งงานกับพ่อ”“พอเดาถูกแล้วครับ ซีซีอยากจัดงานแต่งงานใหญ่โตกับพ่อให้พ่อเชิญแขกอีกมาเยอะๆ แล้วเธอจะทำให้พ่ออับอายเหมือนอย่างน้าสาวของเธอครับ แต่แผนของเธอก็ไม่สำเร็จเพราะผมเข้ามาแทรก”“เพราะแบบนี้เองหนูซีซีถึงยอมแต่งงานกับพ่อทั้งที่อายุห่างกันมากขนาดนี้ เธอมีแผนนี่เอง ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าหน้าตาใสซื่ออย่างนั้นจะคิดทำเรื่องใ
เมื่อครบหนึ่งเดือนเจโรมก็รีบบินมาเมืองไทย เขาลงจากเครื่องก็รีบให้คนขับรถพามาส่งที่หอพักของศศิภัทรทันที แต่เมื่อมาถึงก็ต้องผิดหวังคนดูแลหอพักแจ้งว่าหญิงสาวย้ายออกไปจากที่นี่นานแล้วชายหนุ่มรีบหยิบโทรศัพท์กดโทรหาแต่โทรเท่าไหร่ก็โทรไม่ติดเขาไม่รู้ว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาวเพราะไม่ได้ตามสืบเรื่องราวของเธอต่อ เขาจึงโทรศัพท์ไปหาคุณสาธิตเพื่อขอที่อยู่ที่บ้านของหญิงสาวขณะที่เจโรมผมกำลังจะกลับขึ้นรถก็บังเอิญว่าเพื่อนของศศิภัทรเดินมาพอดี เขาจำเธอได้เพราะเคยเจอมาแล้วครั้งหนึ่ง“สวัสดีครับคุณพิมพ์ดาว”“สวัสดีค่ะ”“ผมชื่อเจโรม ผมเคยเจอตอนที่คุณมากับซีซี”“สวัสดีค่ะมีธุระอะไรเหรอคะ”“ผมมาหาซีซีแต่คนดูแลหอพักบอกว่าซีซีย้ายออกไปแล้ว คุณพอจะรู้มั้ยว่าซีซีย้ายไปอยู่ที่ไหน”“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ซีซีไม่ได้บอกที่อยู่ใหม่”“แต่คุณกับเธอเป็นเพื่อนสนิทกันนะครับ แปลกจังที่เธอไม่บอกคุณ”“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าทำไมซีซีถึงไม่บอก”“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมไปตามเธอที่บ้านก็ได้แม่ของเธอน่าจะรู้ว่าเธอย้ายไปอยู่ที่ไหน”“ไม่ได้นะคะคุณจะไปบ้านซีซีไม่ได้เด็ดขาด” พิมพ์ดาวรีบร้องห้าม“ทำไมล่ะ
ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วที่ศศิภัทรกลับมาอยู่ที่บ้านเธอเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านและโรงพยาบาลเพื่อคอยดูแลน้าสาวซึ่งตอนนี้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่แผนกอายุรกรรมของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแม้จะได้รับยานอกบัญชีที่มีราคาแสนแพงแต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเลยตอนนี้สภาพจิตใจของน้าสาวเธอดีขึ้นมากและไม่พูดถึงคุณอนันต์อีกนั่นก็ทำให้ศศิภัทรและมารดาของเธอสบายใจมาก แต่สิ่งที่เป็นกังวลตอนนี้ก็เป็นสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมไปเรื่อยๆ คุณหมอบอกให้ทั้งสองคนทำใจว่าอีกไม่นานคนไข้ก็คงจะต้องจากไป“ซีซีพรุ่งนี้วันหยุดของแม่ แม่จะมาดูแลน้าวดีเองนะ หนูพักผ่อนอยู่บ้านเถอะ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ หนูไม่ได้เหนื่อยอะไรมากเรามาอยู่กับน้าสองคนก็ได้นะคะ น้าวดีจะได้ไม่เหงา ดีมั้ยคะน้า” หญิงสาวหันไปถามยุวดีที่นอนอ่อนแรงอยู่บนเตียง“ขอบใจนะซีซี” ยุวดีพยายามฝืนยิ้ม“ซีซีแล้วเมื่อไหร่หนูจะกลับไปทำงานน่ะลูก ลางานมานานเป็นเดือนแบบนี้ทางโรงพยาบาลเขาจะไม่ว่าเอาเหรอ”“แม่คะอันที่จริงหนูลาออกแล้ว”“อะไรนะลูก ทำไมถึงลาออกล่ะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”“เปล่าหรอกค่ะแม่ที่หนูลาออกเพราะหนูจะไปสมัครทำงานที่โรงพยาบาลแห่งใหม่ แต่พอดีแม่บอกว่าน้าป่วยหนูก็เลยยังไม่เป
“คุณไปไหนมาเหรอซีซี” เจโรมเริ่มถามเมื่อศศิภัทรขึ้นมานั่งบนรถ“ออกไปกินข้าวกับเพื่อนค่ะ แล้วคุณล่ะ”“ผมตั้งใจมาหาคุณ อันที่จริงอยากจะมาหาตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่เคลียร์งานอยู่”“แล้ววันนี้งานเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยคะ”“เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมคิดถึงคุณมากนะซีซี” ชายหนุ่มจับมือถือไว้อยากจะกอดเธอมาก่อนแต่ก็รู้สึกเกรงใจเพราะกลัวคนอื่นจะมาเห็น“คุณมาที่นี่เพื่อที่จะบอกว่าคิดถึงแค่นั้นเหรอคะ”“เปล่าผมอยากมาเห็นหน้าคุณด้วย ผมนอนไม่หลับเลยนะซีซีตั้งแต่ไม่มีคุณอยู่ด้วยมันทรมานมากๆ”“คุณเจโรมคะเราคุยกันแล้ว ซีซีเชื่อว่าเวลาจะทำให้เราสองคนลืมเรื่องทุกอย่างได้”“คุณคิดว่าจะลืมมันได้จริงๆ เหรอ”“ซีซีก็ไม่รู้หรอกค่ะ แต่ก็จะพยายามให้มาก เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ค่ะ คุณเข้าใจใช่ไหม”“ผมเข้าใจแต่ผมอยากให้เวลาซีซีลองทบทวนความรู้สึกของตัวเองนะ ว่าที่ผ่านมาเราสองคนรู้สึกยังไงแล้วผมจะมาฟังคำตอบหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน”“เอางั้นก็ได้ค่ะ” หญิงสาวตอบไปอย่างมั่นใจเพราะคิดว่าระยะเวลาหนึ่งเดือนเธอน่าจะลืมเขาได้“ขอบคุณครับที่ให้โอกาส”“แต่ระหว่างนี้คุณอย่าติดต่อซีซีมาได้ไหม ถ้าครบหนึ่งเดือนซีซีจะให้คำตอบกับ







