ระหว่างนั่งดื่มกับเพื่อนศรุตก็มองไปทางนลินภัสร์อยู่หลายครั้ง เขาเก็บเอาคำพูดของปองคุณมาคิดเพราะถ้าหากจะให้นลินภัสร์ออกไปกับเสี่ยกระเป๋าหนักคนนั้นมันก็น่าเสียดายอย่างที่เพื่อนเขาพูดจริงๆ เพราะหญิงสาวนั้นตรงสเปกเขาทุกอย่าง แต่เพราะตอนนี้หญิงสาวยังเป็นนักศึกษาอยู่เขาก็เลยทำอะไรได้ไม่มากเนื่องจากรู้สึกเกรงใจอาจารย์ที่เขาอุตส่าห์ไปเสนอตัวขอรับนักศึกษามาฝึกงานที่บริษัทของตัวเอง
แต่ถ้ารอให้เธอเรียนจบมันก็ไม่แน่เพราะเงินสี่แสนบาทมันไม่ได้มากมายด์อะไรเลย ถ้าหากเขาจะยกหนี้ให้เธอเพื่อแลกกับการที่เธอมาเป็นผู้หญิงของเขา
หลังจากนั่งดื่มจนใกล้เวลาร้านปิดเพื่อนทั้งสองคนของศรุตก็เรียกผู้หญิงมาสองคนจากนั้นก็ขอตัวพากันออกไปต่อข้างนอก ส่วนเขาก็เดินออกมาจากนอกร้านแต่ไปยอมขับรถออกไป ชายหนุ่มนั่งอยู่บนรถมองไปทำประตูหน้าร้านเพื่อรอเวลาให้นลินภัสร์เลิกงาน
เขาอยากจะรู้ว่าหญิงสาวออกไปกับเสี่ยคนนั้นอย่างที่เพื่อนเขา พูดหรือเปล่า
แต่เมื่อเห็นเสี่ยคนนั้นเดินออกมาคนเดียวศรุตก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาสตาร์ทเครื่องยนต์แต่ยังไม่ยอมขับรถออกไปเพราะอยากจะมองจนมั่นใจว่านลินภัสร์นั้นไม่ได้ออกไปกับผู้ชายคนไหน
นลินภัสร์เดินออกมาหลังจากได้รับเงินจากเจ้าของร้านและเก็บเงินไว้กระเป๋าเธอยิ้มอย่างมีความสุขเพราะคืนนี้ได้เงินจากเสี่ยกระเป๋าหนักรวมแล้วก็หลายพันบาทอยู่เหมือนกัน
“ท่าทางคืนนี้จะได้เงินเยอะใช่มั้ยล่ะ”
เสียงทักทายทำให้นลินภัสร์ที่เดินก้มหน้าอยู่หยุดชะงักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง
“พี่แบงค์”
“พี่ดีใจนะที่ยังจำพี่ได้ แล้วเงินของพี่ที่ล่ะเมื่อไหร่จะให้หนี้สักที มันครบเวลาตามที่เราตกลงกันไว้แล้วนะมายด์”
“มายด์ไม่มีเงินให้พี่แบงค์หรอกนะคะ”
“ก็เห็นอยู่ว่าเมื่อกี้เธอเพิ่งเอาเงินใส่กระเป๋า แล้วจะมาโกหกพี่ทำไม ใช้หนี้แทนไอ้ไม้มาดีกว่าน่าอย่าให้พี่ต้องเสียวเวลาเลย”
“ใครน่ะมายด์” ชยาภรณ์กระซิบ
“เพื่อนของพี่ชายมายด์นะ เขามาทวงหนี้ของพี่ชายน่ะ น้ำไปรอที่รถนะ มายด์ขอคุยกับเขาแป๊บหนึ่งเดี๋ยวจะตามไป”
“อย่านานนะมายด์”
“อือ”
เมื่อเพื่อนเดินไปที่รถจักรยานยนต์แล้วนลินภัสร์ก็หันมาหน้ามาหาเพื่อนของพี่ชายที่อีกครั้ง
“ตกลงมายด์จะใช้หนี้พี่ไหม ถ้าไม่เงินก้อนก็ผ่อนใช้หนี้ก็ได้”
“ก็มายด์บอกแล้วว่าไม่มี พี่แบงค์หลีกทางหน่อยค่ะมายด์จะกลับบ้าน”
“เธอจะกลับไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นนอกจากเธอจะใช้หนี้ฉันก่อนจากตอนแรกหนี้มันแค่สามหมื่นนะแต่พอรวมกับดอกเบี้ยแล้ว ก็ห้าหมื่นถ้วนจ่ายพี่มาอย่าให้พี่ต้องใช้กำลังเลย”
“มายด์ก็บอกพี่แบงค์แล้วนี่ว่าไม่มี ใครยืมก็ไปเอากับคนนั้นหลีกทางค่ะมายด์จะกลับบ้าน”
“มันจะไม่เห็นแก่ตัวไปเหรอมายด์ ใช้หนี้แทนพี่ชายมาเถอะน่าแล้วพี่จะไม่มายุ่งกับมายด์อีกเลย”
“พี่แบงค์ก็พูดเองว่าพี่ชายของมายด์เอาจากพี่ไปเพราะฉะนั้นพี่แบงค์ก็ไปตามกับพี่ไม้นู่นจะมาตามกับมายด์ทำไม”
“พูดกันดีดีไม่รู้เรื่องใช่ไหม จะต้องให้พี่ใช้กำลังใช่ไหม”
“ก็เอาสิถ้าพี่แบงค์ใช้กำลังมายด์จะตะโกนให้คนอื่นช่วยเดี๋ยวนี้แหละ”
“คิดว่าจะมีใครกล้าช่วยเหรอ การทะเลาะกันหน้าผับแบบนี้พวกเขาก็คิดว่าเป็นเรื่องผัวเมียทั้งนั้นแล้ว แขกแต่ละคนตอนนี้ก็เมาจนไม่รู้เรื่องไม่มีใครเขาสนใจหรอกนะส่งกระเป๋ามาให้พี่”
“ไม่ค่ะมายด์จะไม่ยอมพี่แบงค์เด็ดขาด มายด์ยังยืนยันคำเดิมใครยืมก็ไปทวงกับคนนั้น”
“พี่ถือว่าพี่เตือนแล้วนะมายด์”
“มายด์ไม่อยากยุ่งกับพี่แล้ว หลีกนะคะมายด์จะกลับ”
ชายหนุ่มไม่ยอมหลีกทางอีกทั้งเขายังดึงกระเป๋าถือของเธอและเปิดออกค้น หญิงสาวพยายามกระโดดเข้าแย่งแต่ก็สู้แรงเขาไม่ไหว เธอโดนเขาผลักจนกระเด็นล้มก้นกระแทกจากนั้นก็เปิดกระเป๋าและคว้าธนบัตรทั้งหมดของเธอไป
“พี่แบงค์พี่ทำอย่างนี้ไม่ได้นะเอาเงินคืนมาหญิงสาวพยายามตะโกนไล่หลังแต่เขาก็ไม่สนใจ และรีบเข้าไปในรถของตัวเองก่อนจะขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“เป็นอะไรหรือเปล่ามายด์” ศรุตเห็นทั้งสองยืนคุยกันยืนทะเลาะกันอยู่นานแต่เขาไม่ได้ออกมานอกรถเพราะคิดว่าน่าจะเป็นคนรู้จักแต่ไม่คิดเลยว่าผู้ชายคนนั้นจะขโมยเงินในกระเป๋าของเธอไปแถมยังผลักเธอจนล้มลงไปอีก
“คุณศรุตมาอยู่นี่ได้ยังไง” นลินภัสร์ถามขณะกำลังพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นศรุตเลยยื่นมือของตัวเองแล้วช่วยเธอให้ลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง
“ฉันมาเที่ยวไหนและคนอื่นเห็นว่าเธอทะเลาะกับผู้ชายคนนั้นเขาเป็นใครล่ะ”
“เพื่อนพี่ชายของมายด์เองค่ะ คนที่มายด์เล่าให้ฟัง มายด์ไม่คืนเงินให้เขา เขาก็เลยมาตาม”
“แล้วเธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“เจ็บก้นนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอกค่ะขอบคุณนะคะ ถ้างั้นมายด์ขอตัวกลับห้องก่อน”
“มายด์เป็นอะไรทำไมช้าจัง” ชยาภรณ์ยืนรอเพื่อนอยู่นานก็ไม่เห็นตามไปก็เลยเดินกลับมาตาม เธอมองผู้ชายตรงหน้าแต่ไม่กล้าถามว่าทั้งสองเป็นอะไรกัน
“เกินอุบัติเหตุนิดหน่อยนะ”
“แล้วเธอจะกลับยังไง”
“เดี๋ยวมายด์กลับกับเพื่อนค่ะ” นลินภัสร์เดินมาเดินไปหาชยาภรณ์ที่เก็บกระเป๋าถือของเธอมาส่งให้
“แล้วจะกลับกันยังไงล่ะ”
“น้ำขี่มอเตอร์ไซค์มาค่ะ เดี๋ยวมายด์นั่งซ้อนท้ายน้ำกับไป”
“เมื่อกี้บอกว่าเจ็บก้นแล้วจะนั่งมอเตอร์ไซค์ไหวเหรอ”
“ไหวค่ะหกล้มแค่นี้ไม่เป็นอะไรมากหรอก”
“แต่ฉันว่าไม่น่าจะนิดหน่อยนะเธอก้มลงดูเขาเธอสิ”
นลินภัสร์ก้มมองของตัวเองที่ตอนนี้มีเลือดซึมออกมาบริเวณหัวเข่าทั้งสองข้างน่าจะเป็นจังหวะที่ล้มแล้วเขาไปครูดกับคอนกรีต
“เลือดออกด้วยน้ำว่าเราไปหาหมอให้หมอทำแผลให้ดีกว่าไหมเกิดติดเชื้อขึ้นมาอันตรายนะ”
“ฉันเห็นด้วยกับเพื่อนเธอนะ เอาละเดี๋ยวฉันพาเธอไปหาหมอแล้วจะพาไปส่งที่หอพักส่วนเธอชื่ออะไรนะ”
“น้ำค่ะ”
“ฉันชื่อศรุตนะเป็นเจ้าของบริษัทที่พวกเธอฝึกงานอยู่”
“อะไรนะคะคุณคือคุณศรุตเหรอคะ” ชยาภรณ์ตกใจรีบยกมือไหว้แทบไม่ทัน
“ไม่ต้องไหว้ฉันหรอก ตอนนี้มันนอกเวลางาน เอาล่ะตกลงเดี๋ยวฉันจะพาเพื่อนของเธอไปทำแผลที่โรงพยาบาลจากนั้นจะพาไปส่งที่หอพักเธอ ขับมอเตอร์ไซค์กลับไปคนเดียวได้หรือเปล่า”
“ได้ค่ะไม่มีปัญหาเลยมายด์ไปทำแผลกับคุณศรุตนะ เดี๋ยวน้ำจะไปรอที่ห้อง”
“แต่มายด์ไม่อยากให้น้ำขี่มอเตอร์ไซค์ไปคนเดียวนะมันอันตราย”
“ไม่เป็นไรหรอกน่าเราขี่มาหลายคืนแล้ว เราขี่ไม่เร็วหรอกมายด์ก็รู้นี่”
“มายด์ว่าเราซื้อแค่อุปกรณ์ทำแผลดีมั้ยคะคุณศรุตมายด์ไม่อยากให้คุณเสียเวลา”
“ตอนนี้เธออาจจะยังไม่ได้รู้สึกเจ็บมากนะ แต่ฉันว่าพรุ่งนี้แผลเธอน่าจะต้องระบมไปให้หมอเขาทำแผลสักหน่อยดีกว่าจากนั้นครั้งต่อไปจะทำแผลเองฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ”
“แต่….”
“ทำไมเธอชอบมีข้อแม้จังเลยนะ ฉันว่ารีบไปเถอะนี่มันดึกมากๆ แล้วนะดูสิเพื่อนเธอก็เริ่มง่วงแล้วเหมือนกัน”
“มายด์ไปกับคุณศรุตเถอะนะเดี๋ยวน้ำขับรถไปรอที่ห้อง”
เมื่อสองเสียงยืนยันจะให้เธอไปโรงพยาบาลนลินภัสร์ก็เลยปฏิเสธไม่ได้หญิงสาวเดินตามมาที่รถจากนั้นเขาก็พาเธอไปทำแผลที่โรงพยาบาลซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก
ศรุตเองก็รู้สึกเสียใจไม่แพ้กันความเป็นคนปากแข็งของเขากำลังทำร้ายจิตใจคนที่เขารักและชายหนุ่มก็รู้สึกตัวแล้วว่าตอนนี้ตนเองได้ทำผิดพลาดกับนลันภัสร์มากๆ สิ่งที่เขาทำมันทำลายความรู้สึกของเธอและทำให้เธอต้องร้องไห้“ฉันขอโทษนะมายด์ ฉันไม่น่าทำแบบนี้กับเธอเลย ฉันจะฉีกสัญญาทั้งหมดนี้ทิ้ง” เขาพูดจบก็ฉีกสัญญาทิ้ง“ตอนนี้เป็นอิสระจากฉันแล้วนะ ฉันจะไม่รั้งเธอไว้ด้วยคำว่าลูกหนี้อีกต่อไป แต่ฉันอยากจะขอร้องให้เธออยู่กับฉันจะได้ไหม”นลันภัสร์เงียบรอฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่ออีกไหม ศรุตมองหน้าของเธอและใช้ปลายนิ้วโป้งเช็ดน้ำตาออก เขายิ้มแล้วจับมือเธออีกครั้ง“มายด์เธออยู่กับฉันแบบนี้นะ อยู่กับฉันตลอดไปได้ไหม ฉันคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธออยู่ด้วย เธอเป็นทุกอย่างของฉันนะมายด์”“คุณศรุตจะให้มายด์อยู่กับคุณแบบนี้ตลอดไปจริงๆ ใช่ไหมคะ”“ใช้สิชีวิตนี้ฉันคงหาผู้หญิงที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุขเหมือนเธอไม่ได้นะมายด์” ชายหนุ่มพูดแล้วถอนหายใจเขาไม่เคยรู้สึกประหม่าแบบนี้มาก่อนผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าช่วงนี้อิทธิพลกับหัวใจของเขาเอามากๆและคงจะใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้แน่ๆ ถ้าเดินออกไปจากชีวิตของเขา“มายด์ฉันรักเธอนะ” ในที่สุดเขาก็ตัดสิน
งานเปิดร้านเครื่องสำอางร้านใหม่ห้าสาขาผ่านไปได้ด้วยดี นลินภัสร์และศรุตช่วยกันทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต จนแทบจะไม่มีเวลาใกล้ชิดกันเลย แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกมีความสุขมากๆชายหนุ่มเข้าใจแล้วว่าความสุขของคนเรามันไม่ได้มีแค่บนเตียงเท่านั้น การที่มีคนอยู่ข้างๆ ได้เห็นรอยยิ้มของเธอในวันที่เหนื่อยต่างหากล่ะมันคือความสุขที่แท้จริงแต่นลินภัสร์ก็ทำให้เขาไม่พอใจเพราะเมื่อวานตอนที่ไปเปิดสาขาใหม่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง หญิงสาวพูดคุยกับเจ้าของห้างสรรพสินค้าด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรและทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องเก็บอารมณ์ไว้และพยายามคิดว่าสิ่งที่เธอทำลงไปนั้นเธอทำเพื่องานแต่แล้วศรุตก็ไม่พอใจมากขึ้นเมื่อมีช่อดอกไม้ช่อโตส่งมาให้นลินภัสร์“ดอกไม้นั่นของใครเหรอ” เขาเรียกหญิงสาวเข้ามาถามเมื่อกลับจากทานอาหารกลางวันและเห็นดอกกุหลาบสีแดงช่อโตวางอยู่บนโต๊ะทำงานของนลินภัสร์“ดอกไม้ของคุณวศินค่ะ”“เธอมายด์ถึงคุณวศินเจ้าของห้างที่เราเปิดร้านเครื่องสำอางเมื่อวานใช่มั๊ย”“ใช่ค่ะ”“ทำไมเขาต้องเอาดอกไม้มาให้เธอด้วยล่ะ”“เขาก็คงอยากจะแสดงความขอบคุณที่เราเข้าไปเช่าพื้นที่ของเขาค่ะ”“ถ้าเขาจะขอบคุณจร
เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นอิสระจากคำว่าลูกหนี้แล้วนลินภัสร์ก็มีความสุขมากเย็นนี้หญิงสาวเลยขอเป็นคนเลี้ยงอาหารเย็นกับศรุตที่ร้านอาหารประจำของทั้งสองคน“คุณศรุตค่ะมื้อนี้มายด์ก็เป็นคนเลี้ยงคุณนะคะ”“นึกยังไงดีเดี๋ยวจะเลี้ยงฉันล่ะ”“ก็มายด์อยากฉลองที่ตอนนี้มายด์ไม่ใช่ลูกหนี้ของคุณแล้ว”“ดูเหมือนเธอจะดีใจมากๆ เลยนะมายด์”“ก็แน่สิคะ มีใครบ้างล่ะอยากจะมีคำว่าลูกหนี้ติดตัว”“ฉันว่าเธอคิดมากเกินไปแล้ว ฉันไม่เคยมองว่าเธอมีคำนั้นติดตัวอยู่เลย ฉันมองเธอก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่ช่วยงานฉันได้ดีมากๆ และทำให้ฉันมีความสุขมากๆ”“ถึงคุณศรุตไม่พูดหรือใครไม่พูดแต่ความรู้สึกมันก็ติดอยู่ในใจมายด์ค่ะ แต่ตอนนี้มายด์รู้สึกดีมากๆ และมีความสุขที่สุดเลยค่ะ”“ฉันก็ดีใจนะที่เธอมีความสุข และยิ้มแบบนี้ฉันชอบรอยยิ้มของเธอมากๆ”“ต่อไปมายด์คงยิ้มได้มากขึ้น”“มันก็ดีนะ แต่ขอร้องนะอย่ายิ้มแบบนี้ให้กับใคร”“มายด์ก็ไม่เคยยิ้มแบบนี้ให้กับใครมายด์ยิ้มให้กับคุณศรุตคนเดียว”“ถ้าวันไหนเธอยิ้มแบบนี้ให้คนอื่นฉันคงรู้สึกเสียใจมากๆ”“มายด์สัญญาเลยว่าจะยิ้มแบบนี้ให้แค่คุณคนเดียวเท่านั้นค่ะแล้วคุณล่ะ”“ตั้งแต่รู้จักกันมาเธอเคยเห็นฉันยิ้มให้ผู
นลินภัสร์มาทำงานที่บริษัทของศรุตได้เกือบสามเดือนแล้วตอนนี้งานทุกอย่างกำลังเข้าที่หญิงสาวช่วยงานของชายหนุ่มได้ดีมากๆ ตอนนี้การเจรจากับทางเกาหลีก็ลงตัวตอนนี้บริษัทก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาก ศรุตคาดว่าภายในกลางเดือนก็จะเปิดร้านเครื่องสำอางได้พร้อมกันทั้งหมดห้าสาขาในกรุงเทพจากนั้นเขาก็จะขยายสาขาไปตามต่างจังหวัดเหมือนกับธุรกิจแรกของตนเองบ่ายวันหนึ่งขณะที่ชายหนุ่มกำลังนั่งทำงานอยู่เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นสามครั้งก่อนประตูจะเปิดออก“มีอะไรหรือเปล่ามายด์หรือฉันมีประชุม”“เปล่าหรอกค่ะ มายด์จะขออนุญาตคุณศรุตออกไปเจอพี่ไม้ได้ไหมคะ”“พี่ชายเธอน่ะเหรอ”“ใช่ค่ะ เมื่อกี้พี่ไม้โทรมาหา เขาบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยมายด์เลยให้เขามาเจอที่ร้านกาแฟข้างๆ บริษัทค่ะ”“เธออยากให้ฉันลงไปด้วยมั้ย”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มายด์ไม่ไปคนเดียวได้ ถ้าคุณศรุตมีงานด่วนก็โทรตามมายด์นะคะ”“ช่วงนี้ไม่น่าจะมีงานด่วนอะไร เธอใช้เวลากับพี่ชายให้เต็มที่ก็แล้วกันนะ จะคุยกันจนถึงเลิกงานเลยก็ได้ฉันไม่ว่าอะไร”“คงไม่คุยนานขนาดนั้นหรอกค่ะ มายด์ขอตัวก่อนนะคะ แล้วจะรีบกลับขึ้นมาเคลียร์งานค่ะ”หญิงสาวรีบเดินออกมาจากห้องและตรงไปที่ลิฟต์ เมื
ศรุตเอ่ยขอด้วยเสียงแหบพร่านลินภัสร์มองใบหน้าของเขาแล้วก็พยักหน้าเธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะมอบความสุขให้กับเขาเหมือนที่เขามอบให้เธอมาจนนับครั้งไม่ถ้วน“แต่มายด์ไม่เคย....”“ฉันจะสอนเธอเองนะ”ชายหนุ่มนอนลงบนเตียงก่อนจะดึงให้นลินภัสร์มาคุกเข่าอยู่กลางหว่างขาแล้วจับมือเรียวของเธอไปวางบนแท่งร้อนที่ตั้งตระหง่านชูชันตรงหน้านลินภัสร์หน้าร้อนผ่าวนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นสัดส่วนความเป็นชายของเขาใกล้และชัดเจนกว่าทุกครั้ง มือเล็กสั่นระริกก่อนจะชักขึ้นลงไปตามมือใหญ่ที่โอบอยู่ด้านบนอีกทีหญิงสาวขยับมือไปตามจังหวะแล้วเงยหน้ามองเพราะอยากจะรู้ว่าตนเองทำถูกไหม“ดีมากมายด์ แบบนั้น ช้าๆ ไม่ต้องรีบ อื้ม...”เมื่อเขาปล่อยมือออกหญิงสาวก็ขยับไปตามจังหวะ เธอเงยหน้ามองเขาเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเจ้านายหนุ่มแดงก่ำก็รู้ว่าตนเองมาถูกทาง ศรุตมองท่าทางของคนรักแล้วได้แต่ครางอยู่ในลำคอ หญิงสาวมองตาเขาอีกครั้งด้วยสายตาที่ยั่วยวน“ใช้ปากให้ฉันหน่อยนะมายด์”นลันภัสร์สุดลมหายใจข้าปอดก่อนจะก้มลงใช้ริมฝีปากสัมผัสส่วนปลายที่ปริ่มน้ำอย่างแผ่วเบา“ซี๊ดดด......มายด์....”เมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มนลินภัสร์ก็มั่นใจมากขึ้นเธอใช
“คุณศรุตมีอะไรจะคุยกับมายด์คะ”“มานั่งตรงนี้ก่อนสิ”“ดูอะไรอยู่เหรอคะ”“ฉันกำลังหาที่พักบนเกาะเสม็ดนะ เราจะไปเที่ยวกันเย็นวันศุกร์นี้ มายด์อยากพักที่ไหนล่ะ”“มายด์แล้วแต่คุณเลยค่ะ”“แล้วแต่ฉันได้ยังไงล่ะ เราพักด้วยกันนะฉันให้เธอเลือก”นลินภัสร์หยิบแท็บเล็ตขึ้นมาดูที่พัก หญิงสาวลากปลายนิ้วผ่านหน้าจอไปไม่นาก็ตกลงเลือกบ้านพักหลังหนึ่งที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว“พักหลังนี้ได้ไหมคะ”“ได้สิ เดี๋ยวฉันจองเลยนะ เราจะไปกันบ่ายวันศุกร์ออกจากบริษัทเร็วหน่อยให้ไปถึงท่าเรือก่อนค่ำ”“ค่ะ แค่นี้ใช่ไหมคะที่จะคุยกับมายด์ ถ้างั้นมายด์ขอตัวก่อนนะคะ”“จะรีบไปไหน” เขาคว้าเอวคอดแล้วให้เธอนั่งบนตักในจังหวะที่เธอกำลังจะลุกพอดี“คุณศรุต...ปล่อยมายด์เถอะค่ะมายด์จะกลับห้อง”“จะกลับไปทำไม ไปนอนห้องฉันนะ”“แต่นี่ไม่ใช่วันศุกร์” เพราะเธอกับเขาตกลงกันไว้แล้วว่าจะนอนด้วยกันในวันที่รุ่งขึ้นไม่ต้องไปทำงานเท่านั้น“ให้ฉันรอถึงวันศุกร์ฉันคงได้ขาดใจตายกันพอดีนะมายด์ ศุกร์ที่แล้วเธอก็บอกว่าเป็นประจำเดือน นี่มันผ่านมาหลายวันแล้วฉันคิดว่าเธอจะหายแล้วใช่ไหม”“ค่ะ”“แล้วให้ฉันไม่ได้เหรอ อย่าใจร้ายกับฉันเลยนะมายด์” ศรุตมองหญิงสาวด้