“ฉันขอโทษนะมายด์” เขาพูดกับนลินภัสร์หลังจากที่พาเธอไปทำแผลและกำลังจะไปส่งหญิงสาวที่หอพัก
“คุณศรุตจะขอโทษมายด์ทำไมคะ มายด์สิต้องขอโทษคุณมากกว่าที่ทำให้ต้องเสียเวลามาส่งมาให้ที่หออีกทั้งที่น่าจะได้กลับไปพักแล้ว”
“ก็ฉันขอโทษที่ฉันบอกให้เธอไม่ต้องใช้หนี้แทนพี่ชายของเธอทำให้เขาต้องตามมาทวง แล้วเขาได้ไปเท่าไหร่” ศรุตรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนผิดและเห็นแก่ตัวมากที่ไม่ยอมให้นลินภัสร์ใช้หนี้แทนพี่ชายแต่กลับให้เธอใช้หนี้แทนยาของเธอ
“ในกระเป๋ามีไม่ถึงห้าพันหรอกค่ะ”
“งั้นก็หมายความว่าเดี๋ยวเขาจะต้องมาทวงคืนอีกใช่ไหม ฉันว่าเราไปแจ้งความไว้ก่อนดีกว่า แจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายไว้ก่อนและให้ตำรวจจัดการเรื่องนี้ต่อดีไหม”
“อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลยค่ะ เอาเป็นว่าจากนี้มายด์จะระวังตัวเองไม่ให้เจอกับเขาอีก”
“เธอคิดว่าเธอจะระวังตัวได้ดีแค่ไหนล่ะเดี๋ยวก็ได้ทำงานฟรีให้เขาเอาเงินไปอีกหรอก”
“ต่อไปมายด์จะให้ผู้จัดการร้านโอนเข้าบัญชีดีกว่าค่ะ ไม่เอาเงินสดอีกแล้ว”
“แต่ฉันว่านั่นมันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ”
“เอาไว้เดี๋ยวมายด์โทรไปคุยกับพี่แบงค์เองค่ะ จะบอกเขาว่าไม่ให้มายุ่งกับมายด์อีกถ้าเขายังมายุ่งมายด์จะแจ้งความตกลงตามนี้ได้ไหมคะ”
“ถ้างั้นก็ตามใจเธอแล้วกันนะ” ศรุตคิดว่าพูดไปนลินภัสร์ก็คงไม่ฟังแต่เรื่องนี้เขาคงจะปล่อยผ่านไปไม่ได้บางทีเขาจะต้องจัดการอะไรบางอย่างเพื่อที่ผู้ชายคนนั้นจะได้ไม่มายุ่งกับเธออีก
เมื่อขับรถมาถึงหอพัก ชยาภรณ์ก็นั่งอยู่บน รถจักรยานยนต์
“อ้าวน้ำทำไมยังไม่ขึ้นห้องล่ะเป็นอะไรหรือเปล่า”
“น้ำเดินผ่านห้องมายด์ เห็นประตูเปิดอยู่ก็คิดว่ามายด์กลับมาถึงก่อนน้ำแต่พอเปิดเข้าไปในห้องของมายด์ก็ถูกค้นข้าวของกระจัดกระจายหมดเลย”
“อะไรนะ ใครจะทำแบบนั้น”
“น้ำก็ไม่รู้เหมือนกันจะถามเจ้าของห้องตอนนี้ก็ติดต่อไม่ได้หอเราก็ไม่มีกล้องวงจรปิดด้วย”
“ฉันขอขึ้นไปดูห้องเธอหน่อยได้ไหม”
“ได้ค่ะ” ชยาภรณ์รีบพาชายหนุ่มเดินขึ้นไปบนห้องซึ่งอยู่เธอบริเวณชั้นสามส่วนนลินภัสร์นะรู้สึกเจ็บแผลมากหญิงสาวได้เดินตามหลังไปช้าๆ
“ห้องนี้ค่ะคุณศรุต” หยิงสาวบอกพร้อมเปิดประตูให้ชายหนุ่มเข้าไปด้านใน
ตอนนี้สภาพห้องของนลินภัสร์ดูไม่ได้เลยสักนิดข้าวของกระจัดกระจายทั้งโต๊ะทั้งเก้าอี้ล้มระเนระนาดไปหมด
“ทำไมห้องมายด์เละเทะขนาดนั้นคะ” นลินภัสร์ที่เดินตามมาทีหลังมองสภาพห้องของตัวเองแล้วถอนหายใจอย่างหนักเพราะทุกอย่างมันกระจัดกระจายจนไม่รู้จะเริ่มเก็บกวาดจากตรงไหน
“ฉันว่าน่าจะเป็นฝีมือของผู้ชายคนนั้น น่ะมายด์เธอคงไม่ปลอดภัยนะถ้าจะอยู่ที่นี่”
“น้ำเห็นด้วยกับคุณศรุตนะ ถ้ามายด์อยู่ห้องมันจะเป็นยังไง”
“เธอลองดูซิมายด์ว่าของมีค่าอะไรของเธอหายไปหรือเปล่าแล้วฉันจะพาไปแจ้งความ”
นลินภัสร์รีบตรงไปเปิดลิ้นชักที่โต๊ะเขียนหนังสือที่ล้มอยู่บนพื้นจากนั้นเอามือล้วงไปด้านในสุดแล้วยิ้มเมื่อเจอถุงใส่ทองที่ตนเองซ่อนไว้ จากนั้นก็เปิดลิ้นชักอีกชั้นมองกระป๋องเหล็กที่ตนเองเอาเงินใส่ไว้ด้านใน
“มีแค่เงินสดบางส่วนที่หายไปค่ะอย่างอื่นยังอยู่ครบ”
“โชคดีมากๆ เลยนะที่มายด์ฝากโน้ตบุ๊กไว้ที่ห้องของน้ำถ้ายังนั้นเขาต้องเอาไปแน่ๆ”
“เรื่องนี้ฉันว่ายังไงก็ต้องแจ้งความ แต่ตอนนี้มันดึกแล้วฉันว่าเธอสองคนไปพักก่อนดีกว่าพรุ่งนี้ใส่สายๆ ฉันจะมารับและพาไปแจ้งความ”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณศรุตเดี๋ยวมายด์ไปแจ้งความเองก็ได้”
“น้ำ” ศรุตคิดว่าพูดกับนลินภัสร์คงไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะเธอเอาแต่จะขัดใจเขาเลยเลือกที่จะคุยกับชยาภรณ์มากกว่าดูเหมือนหญิงสาวจะเกรงใจเขามาก
“อะไรคะคุณศรุต”
“ฉันฝากเธอด้วยนะ พรุ่งนี้ฉันจะมารับเธอสองคนไปแจ้งความ ส่วนเรื่องห้องฉันว่าเธอน่าจะอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้วมันอันตรายเกินไป เดี๋ยวฉันจะหาหอพักใกล้ๆ กับบริษัทให้เธออยู่ชั่วคราวไปก่อนดีไหม”
“ให้มายด์อยู่กับน้ำก็ได้นะคะ”
“เธอคิดว่าถ้ามายด์ไปอยู่กับเธอแล้วพวกนั้นจะตามไม่เจอหรือยังไงล่ะ ห้องเธอก็อยู่ใกล้กันแค่นี้เองไม่ใช่เหรอ”
“นั่นสิคะน้ำลืมไปสนิทเลย ถ้าอย่างนั้นน้ำฝากคุณศรุตหาที่พักให้มายด์หน่อยได้ไหมคะ”
“เดี๋ยวฉันจะจัดการให้แล้วกัน พรุ่งนี้หลังจากแจ้งความแล้วเธอก็เก็บของออกจากที่นี่”
“มายด์หาหอพักเองก็ได้ค่ะ คุณศรุตไม่ต้องลำบากหรอก”
“ฉันเองก็มีส่วนผิดเอาเป็นว่าฉันจะไถ่โทษด้วยการหาที่พักให้เธอก็แล้วกันนะ ตกลงตามนี้ คืนนี้ฉันง่วงมากๆ แล้วพรุ่งนี้เจอกันเก้าโมงนะ ไปก่อนนะน้ำถ้ายังไงฉันฝากด้วย”
“ค่ะคุณศรุตไม่ต้องห่วงค่ะเดี๋ยวน้ำจะดูแลอย่างดีเลย”
เมื่อคุณศรุตขับรถออกไปจากบริเวณหอพักแล้ว นลินภัสร์ก็ถือหมอนกับผ้าห่มเดินตามชยาภรณ์ไปที่ห้อง
“มายด์เราว่ามายด์กับคุณศรุตไม่ใช่แค่เจ้านายกับลูกน้องกันธรรมดาแน่ๆ มายด์ไว้กับเขารู้จักกันมาก่อนใช่มั้ย”
“ก็ที่มายด์เล่าให้ฟังไงว่าเขาว่ายายของมายด์เคยทำงานที่บริษัทของเขา”
“มันไม่ใช่เรื่องนั้นน่ะ มันเป็นเรื่องที่เขารู้ว่าผู้ชายคนนั้นมาทวงหนี้มันยังไงกันแน่เล่าให้น้ำฟังมาเถอะน้ำสัญญาจะไม่บอกใคร”
“มายด์ขอโทษนะน้ำที่ปิดบังน้ำกับวิมาตลอด”
แล้วนลินภัสร์ก็เล่าให้ชยาภรณ์ฟังว่าศรุตคือเจ้านี้ที่เธอเคยเล่าให้ฟังเมื่ออาทิตย์ก่อน
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโลกมันกลมขนาดนี้ มายด์ไม่รู้มาก่อนหรือเปล่าว่าตัวเองจะได้ฝึกงานที่บริษัทของเขา”
“ไหนๆ น้ำก็รู้เรื่องแล้วมายด์ก็ไม่อยากจะโกหก คือมายด์ไปขอผ่อนผันหนี้กับเขา และขอทำงานกับเขาที่บริษัทเพื่อเป็นการใช้หนี้ แต่พอเขารู้ว่าเราจะต้องฝึกงานเขาก็เลยอยากให้ไปฝึกงานกับเขาตั้งแต่ตอนนี้เพื่อที่จบมาจะได้ทำงานที่นั่นเลย”
“ถึงว่าล่ะอาจารย์ก็บอกอยู่ว่าบริษัทนี้ไม่เคยรับนักศึกษาฝึกงานเลย แถมยังให้เบี้ยเลี้ยงมากกว่าที่อื่นด้วยเป็นเพราะมายด์นี่เอง”
“ตอนแรกที่เขาบอกจะให้มาฝึกงานมายด์ก็ไม่เชื่อหรอกนะว่าเขาจะทำได้ เพราะมายด์ไม่เคยรู้เลยว่าเขาเรียนจบที่มหาวิทยาลัยเดียวกับเรา”
“แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะมายด์ไม่ได้ฝึกงานที่นี่และเรียนจบก็จะได้ทำงานที่นี่เลยไม่ต้องไปหางานให้เหนื่อย”
“มันก็ดีตรงที่มายด์ไม่ต้องหางานให้เหนื่อย แต่มันไม่ดีตรงที่เงินเดือนทุกเดือนหลังจากนี้มายด์จะต้องถูกเขาหักออก คงอีกหลายปีเลยกว่าจะใช้หนี้หมด อีกอย่างเท่าที่มายด์คุยกับเขาแล้วถ้าหากมายด์เป็นพนักงานประจำจริงๆ ก็คงไปทำงานที่ผับไม่ได้ รายได้ของมายด์หายไปเดือนหนึ่งก็เป็นหมื่นเลยนะ”
“แต่ถ้าเขามีที่พักให้ไม่ก็จะได้ไม่เสียค่าเช่าหอไง น้ำว่ามันดีนะเพราะอีกหน่อยน้ำก็ต้องย้ายออกจากที่นี่เหมือนกัน”
“มายด์ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะให้ไปอยู่ที่ไหน”
“อย่าพึ่งคิดอะไรมากเลยมายด์ พรุ่งนี้เราจะต้องตื่นเช้าไปแจ้งความอีกนอนกันดีกว่านะ ตอนนี้น้ำง่วงมากๆ”
“แล้วจะไม่อาบน้ำก่อนเหรอน้ำ”
“ไม่อาบแล้วมันง่วงจริงๆ มายด์จะอาบไหม”
“ถ้าเจ้าของห้องไม่อาบน้ำ มายด์ก็ไม่อาบหรอกพรุ่งนี้เดี๋ยวเราค่อยเอาเครื่องนอนไปซักกันนะ”
“นอนก่อนเถอะมายด์ตอนนี้น้ำง่วงมากจริงๆ
เมื่อได้เล่าเรื่องของตนเองให้เพื่อนฟังนลินภัสร์ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากเพราะตลอดระยะเวลาที่ไปฝึกงานเธอรู้สึกผิดมากที่ไม่ได้เล่าเรื่องของตัวเองให้กับเพื่อนรักฟัง
ตอนนี้เธอเล่าให้ชยาภรณ์ฟังไปคนหนึ่งแล้วก็เหลือแต่วิชัญญาซึ่งคิดว่าพรุ่งนี้จะโทรศัพท์ไปเล่าให้เพื่อนฟังทุกเรื่อง
ศรุตเองก็รู้สึกเสียใจไม่แพ้กันความเป็นคนปากแข็งของเขากำลังทำร้ายจิตใจคนที่เขารักและชายหนุ่มก็รู้สึกตัวแล้วว่าตอนนี้ตนเองได้ทำผิดพลาดกับนลันภัสร์มากๆ สิ่งที่เขาทำมันทำลายความรู้สึกของเธอและทำให้เธอต้องร้องไห้“ฉันขอโทษนะมายด์ ฉันไม่น่าทำแบบนี้กับเธอเลย ฉันจะฉีกสัญญาทั้งหมดนี้ทิ้ง” เขาพูดจบก็ฉีกสัญญาทิ้ง“ตอนนี้เป็นอิสระจากฉันแล้วนะ ฉันจะไม่รั้งเธอไว้ด้วยคำว่าลูกหนี้อีกต่อไป แต่ฉันอยากจะขอร้องให้เธออยู่กับฉันจะได้ไหม”นลันภัสร์เงียบรอฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่ออีกไหม ศรุตมองหน้าของเธอและใช้ปลายนิ้วโป้งเช็ดน้ำตาออก เขายิ้มแล้วจับมือเธออีกครั้ง“มายด์เธออยู่กับฉันแบบนี้นะ อยู่กับฉันตลอดไปได้ไหม ฉันคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธออยู่ด้วย เธอเป็นทุกอย่างของฉันนะมายด์”“คุณศรุตจะให้มายด์อยู่กับคุณแบบนี้ตลอดไปจริงๆ ใช่ไหมคะ”“ใช้สิชีวิตนี้ฉันคงหาผู้หญิงที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุขเหมือนเธอไม่ได้นะมายด์” ชายหนุ่มพูดแล้วถอนหายใจเขาไม่เคยรู้สึกประหม่าแบบนี้มาก่อนผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าช่วงนี้อิทธิพลกับหัวใจของเขาเอามากๆและคงจะใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้แน่ๆ ถ้าเดินออกไปจากชีวิตของเขา“มายด์ฉันรักเธอนะ” ในที่สุดเขาก็ตัดสิน
งานเปิดร้านเครื่องสำอางร้านใหม่ห้าสาขาผ่านไปได้ด้วยดี นลินภัสร์และศรุตช่วยกันทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต จนแทบจะไม่มีเวลาใกล้ชิดกันเลย แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกมีความสุขมากๆชายหนุ่มเข้าใจแล้วว่าความสุขของคนเรามันไม่ได้มีแค่บนเตียงเท่านั้น การที่มีคนอยู่ข้างๆ ได้เห็นรอยยิ้มของเธอในวันที่เหนื่อยต่างหากล่ะมันคือความสุขที่แท้จริงแต่นลินภัสร์ก็ทำให้เขาไม่พอใจเพราะเมื่อวานตอนที่ไปเปิดสาขาใหม่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง หญิงสาวพูดคุยกับเจ้าของห้างสรรพสินค้าด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรและทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องเก็บอารมณ์ไว้และพยายามคิดว่าสิ่งที่เธอทำลงไปนั้นเธอทำเพื่องานแต่แล้วศรุตก็ไม่พอใจมากขึ้นเมื่อมีช่อดอกไม้ช่อโตส่งมาให้นลินภัสร์“ดอกไม้นั่นของใครเหรอ” เขาเรียกหญิงสาวเข้ามาถามเมื่อกลับจากทานอาหารกลางวันและเห็นดอกกุหลาบสีแดงช่อโตวางอยู่บนโต๊ะทำงานของนลินภัสร์“ดอกไม้ของคุณวศินค่ะ”“เธอมายด์ถึงคุณวศินเจ้าของห้างที่เราเปิดร้านเครื่องสำอางเมื่อวานใช่มั๊ย”“ใช่ค่ะ”“ทำไมเขาต้องเอาดอกไม้มาให้เธอด้วยล่ะ”“เขาก็คงอยากจะแสดงความขอบคุณที่เราเข้าไปเช่าพื้นที่ของเขาค่ะ”“ถ้าเขาจะขอบคุณจร
เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นอิสระจากคำว่าลูกหนี้แล้วนลินภัสร์ก็มีความสุขมากเย็นนี้หญิงสาวเลยขอเป็นคนเลี้ยงอาหารเย็นกับศรุตที่ร้านอาหารประจำของทั้งสองคน“คุณศรุตค่ะมื้อนี้มายด์ก็เป็นคนเลี้ยงคุณนะคะ”“นึกยังไงดีเดี๋ยวจะเลี้ยงฉันล่ะ”“ก็มายด์อยากฉลองที่ตอนนี้มายด์ไม่ใช่ลูกหนี้ของคุณแล้ว”“ดูเหมือนเธอจะดีใจมากๆ เลยนะมายด์”“ก็แน่สิคะ มีใครบ้างล่ะอยากจะมีคำว่าลูกหนี้ติดตัว”“ฉันว่าเธอคิดมากเกินไปแล้ว ฉันไม่เคยมองว่าเธอมีคำนั้นติดตัวอยู่เลย ฉันมองเธอก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่ช่วยงานฉันได้ดีมากๆ และทำให้ฉันมีความสุขมากๆ”“ถึงคุณศรุตไม่พูดหรือใครไม่พูดแต่ความรู้สึกมันก็ติดอยู่ในใจมายด์ค่ะ แต่ตอนนี้มายด์รู้สึกดีมากๆ และมีความสุขที่สุดเลยค่ะ”“ฉันก็ดีใจนะที่เธอมีความสุข และยิ้มแบบนี้ฉันชอบรอยยิ้มของเธอมากๆ”“ต่อไปมายด์คงยิ้มได้มากขึ้น”“มันก็ดีนะ แต่ขอร้องนะอย่ายิ้มแบบนี้ให้กับใคร”“มายด์ก็ไม่เคยยิ้มแบบนี้ให้กับใครมายด์ยิ้มให้กับคุณศรุตคนเดียว”“ถ้าวันไหนเธอยิ้มแบบนี้ให้คนอื่นฉันคงรู้สึกเสียใจมากๆ”“มายด์สัญญาเลยว่าจะยิ้มแบบนี้ให้แค่คุณคนเดียวเท่านั้นค่ะแล้วคุณล่ะ”“ตั้งแต่รู้จักกันมาเธอเคยเห็นฉันยิ้มให้ผู
นลินภัสร์มาทำงานที่บริษัทของศรุตได้เกือบสามเดือนแล้วตอนนี้งานทุกอย่างกำลังเข้าที่หญิงสาวช่วยงานของชายหนุ่มได้ดีมากๆ ตอนนี้การเจรจากับทางเกาหลีก็ลงตัวตอนนี้บริษัทก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาก ศรุตคาดว่าภายในกลางเดือนก็จะเปิดร้านเครื่องสำอางได้พร้อมกันทั้งหมดห้าสาขาในกรุงเทพจากนั้นเขาก็จะขยายสาขาไปตามต่างจังหวัดเหมือนกับธุรกิจแรกของตนเองบ่ายวันหนึ่งขณะที่ชายหนุ่มกำลังนั่งทำงานอยู่เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นสามครั้งก่อนประตูจะเปิดออก“มีอะไรหรือเปล่ามายด์หรือฉันมีประชุม”“เปล่าหรอกค่ะ มายด์จะขออนุญาตคุณศรุตออกไปเจอพี่ไม้ได้ไหมคะ”“พี่ชายเธอน่ะเหรอ”“ใช่ค่ะ เมื่อกี้พี่ไม้โทรมาหา เขาบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยมายด์เลยให้เขามาเจอที่ร้านกาแฟข้างๆ บริษัทค่ะ”“เธออยากให้ฉันลงไปด้วยมั้ย”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มายด์ไม่ไปคนเดียวได้ ถ้าคุณศรุตมีงานด่วนก็โทรตามมายด์นะคะ”“ช่วงนี้ไม่น่าจะมีงานด่วนอะไร เธอใช้เวลากับพี่ชายให้เต็มที่ก็แล้วกันนะ จะคุยกันจนถึงเลิกงานเลยก็ได้ฉันไม่ว่าอะไร”“คงไม่คุยนานขนาดนั้นหรอกค่ะ มายด์ขอตัวก่อนนะคะ แล้วจะรีบกลับขึ้นมาเคลียร์งานค่ะ”หญิงสาวรีบเดินออกมาจากห้องและตรงไปที่ลิฟต์ เมื
ศรุตเอ่ยขอด้วยเสียงแหบพร่านลินภัสร์มองใบหน้าของเขาแล้วก็พยักหน้าเธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะมอบความสุขให้กับเขาเหมือนที่เขามอบให้เธอมาจนนับครั้งไม่ถ้วน“แต่มายด์ไม่เคย....”“ฉันจะสอนเธอเองนะ”ชายหนุ่มนอนลงบนเตียงก่อนจะดึงให้นลินภัสร์มาคุกเข่าอยู่กลางหว่างขาแล้วจับมือเรียวของเธอไปวางบนแท่งร้อนที่ตั้งตระหง่านชูชันตรงหน้านลินภัสร์หน้าร้อนผ่าวนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นสัดส่วนความเป็นชายของเขาใกล้และชัดเจนกว่าทุกครั้ง มือเล็กสั่นระริกก่อนจะชักขึ้นลงไปตามมือใหญ่ที่โอบอยู่ด้านบนอีกทีหญิงสาวขยับมือไปตามจังหวะแล้วเงยหน้ามองเพราะอยากจะรู้ว่าตนเองทำถูกไหม“ดีมากมายด์ แบบนั้น ช้าๆ ไม่ต้องรีบ อื้ม...”เมื่อเขาปล่อยมือออกหญิงสาวก็ขยับไปตามจังหวะ เธอเงยหน้ามองเขาเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเจ้านายหนุ่มแดงก่ำก็รู้ว่าตนเองมาถูกทาง ศรุตมองท่าทางของคนรักแล้วได้แต่ครางอยู่ในลำคอ หญิงสาวมองตาเขาอีกครั้งด้วยสายตาที่ยั่วยวน“ใช้ปากให้ฉันหน่อยนะมายด์”นลันภัสร์สุดลมหายใจข้าปอดก่อนจะก้มลงใช้ริมฝีปากสัมผัสส่วนปลายที่ปริ่มน้ำอย่างแผ่วเบา“ซี๊ดดด......มายด์....”เมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มนลินภัสร์ก็มั่นใจมากขึ้นเธอใช
“คุณศรุตมีอะไรจะคุยกับมายด์คะ”“มานั่งตรงนี้ก่อนสิ”“ดูอะไรอยู่เหรอคะ”“ฉันกำลังหาที่พักบนเกาะเสม็ดนะ เราจะไปเที่ยวกันเย็นวันศุกร์นี้ มายด์อยากพักที่ไหนล่ะ”“มายด์แล้วแต่คุณเลยค่ะ”“แล้วแต่ฉันได้ยังไงล่ะ เราพักด้วยกันนะฉันให้เธอเลือก”นลินภัสร์หยิบแท็บเล็ตขึ้นมาดูที่พัก หญิงสาวลากปลายนิ้วผ่านหน้าจอไปไม่นาก็ตกลงเลือกบ้านพักหลังหนึ่งที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว“พักหลังนี้ได้ไหมคะ”“ได้สิ เดี๋ยวฉันจองเลยนะ เราจะไปกันบ่ายวันศุกร์ออกจากบริษัทเร็วหน่อยให้ไปถึงท่าเรือก่อนค่ำ”“ค่ะ แค่นี้ใช่ไหมคะที่จะคุยกับมายด์ ถ้างั้นมายด์ขอตัวก่อนนะคะ”“จะรีบไปไหน” เขาคว้าเอวคอดแล้วให้เธอนั่งบนตักในจังหวะที่เธอกำลังจะลุกพอดี“คุณศรุต...ปล่อยมายด์เถอะค่ะมายด์จะกลับห้อง”“จะกลับไปทำไม ไปนอนห้องฉันนะ”“แต่นี่ไม่ใช่วันศุกร์” เพราะเธอกับเขาตกลงกันไว้แล้วว่าจะนอนด้วยกันในวันที่รุ่งขึ้นไม่ต้องไปทำงานเท่านั้น“ให้ฉันรอถึงวันศุกร์ฉันคงได้ขาดใจตายกันพอดีนะมายด์ ศุกร์ที่แล้วเธอก็บอกว่าเป็นประจำเดือน นี่มันผ่านมาหลายวันแล้วฉันคิดว่าเธอจะหายแล้วใช่ไหม”“ค่ะ”“แล้วให้ฉันไม่ได้เหรอ อย่าใจร้ายกับฉันเลยนะมายด์” ศรุตมองหญิงสาวด้