LOGIN@งานเปิดตัวบริษัท C 16.30 น.
เมื่อรถยนต์คันหรู จอดสนิทอยู่บริเวณโรงจอดรถ VIP ดีน ลูกน้องคนสนิทของคาร์เตอร์ ได้ลงจากลงและมาเปิดประตูให้กับผู้เป็นนาย
คาร์เตอร์ที่อยู่ในชุดสูทสีดำสนิท พร้อมกับผมที่ถูกจัดทรงไว้อย่างเป็นระเบียบ เพียงแค่นี้ก็ทำให้มาเฟียหนุ่มที่มีใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรเป็นที่สะดุดตาของบรรดาไฮโซสาวในงานได้ไม่ยาก
เหล่าบรรดาไฮโซสาวที่มากันในวันนี้ส่วนมากก็หวังที่จะได้ทำความรู้จักกับเขา แต่คาร์เตอร์เองที่มองว่าเรื่องนี้ไร้สาระและน่ารำคาญมาก เขาไม่เคยเปิดโอกาสให้ผู้หญิงคนไหนได้เข้าใกล้ และเขาเองก็ไม่เคยมีข่าวกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
มาเฟียหนุ่มลงจากรถและมุ่งหน้าเดินเข้าไปในงานพร้อมกับลูกน้องที่ติดตามมาอีกสี่คน สมศักดิ์ ผู้จัดการอาวุโสกึ่งเดินกึ่งวิ่งรีบเข้ามาต้อนรับคาร์เตอร์ด้วยความรวดเร็ว เพราะไม่คิดว่าเจ้านายหนุ่มจะเข้ามาในงานก่อนที่เวลาจะเริ่ม
“สวัสดีครับ คุณคาร์เตอร์”
“อืม”
คาร์เตอร์เพียงปรายตามองผู้จัดการอาวุโสเท่านั้น พนักงานทุกคนที่นี่ล้วนรู้ดีว่าเจ้านายหนุ่มของตัวเองเป็นคนยังไง ทุกคนเคยชินกับท่าทีเย็นชานี้ ที่รู้กันดีว่าคุณคาร์เตอร์ เป็นคนเงียบขรึมและน่ากลัวขนาดไหน
“เชิญครับ” ผู้จัดการอาวุโสผายมือไปยังด้านหน้าเดินนำเจ้านายหนุ่มไปนั่งยังโต๊ะVIP ประจำที่นั่งของประธานบริษัทฯ โดยที่ผู้จัดการอาวุโสเองก็เดินประกบข้างบริการเจ้านายหนุ่มอยู่ไม่ห่าง
ณ เวลา 17.00 น.
แสงไฟสปอตไลต์สาดแสงเป็นประกายไปบนเวที เมื่อพิธีกรสาวสวยเดินออกมาจากฉากหลังหรูหราอลังการ
“หูยย สวยยยย” จู่ๆ เสียงฮือฮาจากเหล่าผู้คนในงานดังขึ้น พร้อมกับเสียงของพิธีกรสาวที่เริ่มพูดขึ้นมาบนเวที
“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับทุกท่าน เข้าสู่งานเปิดตัวรถรุ่น xx ของบริษัท C ในวันนี้...”
น้ำเสียงสดใสของมิลินที่เปล่งออกมาทางไมค์ ทำเอาคาร์เตอร์ชะงักไปชั่ววินาที เสียงนั้นมันใสจนสะดุดหูเขาโดยไม่ทันตั้งตัว จนใบหน้าหล่อคมต้องละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์อย่างหงุดหงิดปนสงสัย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไปยังเวทีอย่างเลี่ยงไม่ได้
ทันทีที่สายตาของเขาปะทะกับใบหน้าหวานและรอยยิ้มสดใสของพิธีกรสาว—เจ้าของเสียงที่ทำให้เขาต้องเงยขึ้นมาดู คาร์เตอร์ถึงกับหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เหมือนโลกทั้งงานเงียบลงเหลือเพียงภาพของเธอคนเดียวที่อยู่กลางสายตาเขา…
วันนี้มิลินอยู่ในชุดราตรียาวสีขาวแต่งแต้มด้วยผ้าสีชมพู และมีเพชรประดับระยิบระยับ ชุดที่ถูกออกแบบมาหวานแต่แฝงไปด้วยความเซ็กซี่ เมื่อเกาะอกที่เธอสวมใส่ผ่าลงมากลางเนินอก เผยทำให้เห็นหน้าอกอวบใหญ่เกินขนาดโผล่พ้นออกมาล่อสายตาผู้ชายในงาน ประกอบกับกระโปรงที่ผ่าลากยาวมาถึงโคนขาอ่อนขาว ทำให้ผู้คนในงานเห็นขาเรียวสวย จนทำให้ผู้คนในงานต่างกันหยิบมือถือ และกล้องถ่ายรูปขึ้นมาเก็บภาพของเธอบนเวที
“ใคร...”
“ครับ?” ผู้จัดการอาวุโส งงกับคำถามของเจ้านายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าได้ไม่นาน ก็ต้องเข้าใจทันทีเมื่อมองเลยไปตามสายตาของคาร์เตอร์
“อ่อ...คุณมิลินครับ เธอมาเป็นพิธีกรแทนคุณเชอรี่ พอดีคุณเชอรี่เธอประสบอุบัติเหตุตกบันไดวันนี้ ผมต้องขออภัยที่ไม่ได้แจ้งการเปลี่ยนตัวพิธีกรให้คุณคาร์เตอร์ทราบก่อนนะครับ”
“เหรอ..”
“ครับ”
“..มิลิน..” คาร์เตอร์พึมพำชื่อเธอออกมาแทบไม่รู้ตัว ดวงตาคมยังคงมองพิธีกรสาวสวยแบบไม่ละสายตาแม้เขาเองก็ไม่เข้าใจว่ากำลังทำอะไรอยู่ รู้แค่ว่าสมองของเขาว่างเปล่าไปชั่วขณะ แต่ในความว่างเปล่านั้น…กลับมีบางอย่างที่ดึงสายตาเขาเอาไว้แน่นจนไม่สามารถหันหนีจากผู้หญิงคนนั้นได้เลย
ขณะที่มิลินกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนเวทีอยู่นั้น เธอสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของใครบางคนตลอดเวลา จนทำให้เธอต้องมองลงไปยังเวทีด้านล่าง ก่อนที่สายตาของมิลินและคาร์เตอร์จะสบตากัน
ตึกตึก...ตึกตึก...
..คาร์เตอร์..
มิลินรู้สึกหัวใจตัวเองเต้นไม่เป็นจังหวะ แวบแรกที่มิลินสบตาคมคู่นั้นเธอรู้สึกกลัว กลัวในแววตาคู่นั้นที่จ้องมองเธอออกมาอย่างเปิดเผย มันดูเยือกเย็นและไร้ความรู้สึก มันลึกลับจนยากที่จะค้นหา มันทำให้เขาดูอันตรายเหมือนที่ทุกคนพูดไว้ด้วยจริงๆ
มิลินรีบสลัดความคิดนั้นออกไปและกลับมาทำหน้าที่ของตัวเองต่อด้วยความคล่องแคล่วและมืออาชีพเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ถึงเวลาที่สำคัญแล้วนะคะ ขอเสียงปรบมือต้อนรับคุณคาร์เตอร์ขึ้นมาบนเวทีเพื่อเปิดงานได้เลยค่ะ”
เมื่อสิ้นสุดคำพูดของมิลินทุกคนในงานต่างร่วมกันปรบมือเสียงดังให้กับมาเฟียหนุ่ม
แต่ทว่า..
คาร์เตอร์ยังคงนั่งมองหน้าพิธีกรสาว ไม่ลุกขึ้นเดินตามคำเรียกเชิญของเธอ
“นายครับ…”
ดีน มือขวาคู่ใจของมาเฟียหนุ่มเอ่ยเรียกเมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติในท่าทางของเจ้านาย เขาหันตามสายตาคมกริบของคาร์เตอร์ไปยังเวทีทันที
พอเห็นว่าเจ้านายของตัวเองกำลังจ้องพิธีกรสาวอย่างไม่กะพริบ ดีนก็ไม่รู้สึกแปลกใจเท่าไร—เพราะแม้แต่เขาเองยังเผลอสะดุดกับความสวยหวานและรอยยิ้มสดใสเป็นธรรมชาตินั้น ความน่าดึงดูดของผู้หญิงคนนั้นมันชัดเจนจนไม่ว่าใครก็ต้องมองซ้ำ… และคาร์เตอร์ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นในครั้งนี้
“.....”
“นายครับ!” ดีนเรียกเจ้านายหนุ่มเสียงดังขึ้น พร้อมสะกิดแขนเขาเบา ๆ
“เออ..อืม” คาร์เตอร์พึมพำรับเพียงแค่เบา ๆ ก่อนจะได้สติ เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง กระชับเสื้อสูทให้เข้าที่อย่างเรียบร้อย แล้วก้าวขึ้นไปบนเวทีด้วยสีหน้าเรียบนิ่งไร้อารมณ์ ท่าทางสง่าทรงพลัง ทำให้ใครก็ตามที่มองอยู่รู้สึกเกรงขามราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย.
"อ๊าาา อย่างนั้นแหละมิลิน...ตรงนั้น แรงๆ" มือหนาลูบไล้ที่เรือนผมสวยเบาๆ มิลินก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ละเลงลิ้นรัว ก่อนที่หญิงสาวจะลากเรียวลิ้นไล่ลงมาหยุดที่พวงไข่สวรรค์ เลียลิ้นวนหยอกล้อไปมา และจูบซับมันเบาๆ ที่พวงไข่ทั้งสองข้างและดูดมันจนเกิดเสียงลามก จ๊วบบบ “ซี๊ดดด....อย่าเล่นแบบนั้น อ๊าาส์...มันเสียว” คาร์เตอร์รวบผมสวยไปทางด้านหลัง เพื่อจะมองใบหน้าหวานได้อย่างชัดเจน บ๊วบบบ.. บ๊วบบบ..! "อ้าส์ ๆ อ้าส์ๆ" คาร์เตอร์ครางกระเส่าอย่างสุขสม พึงพอใจกับปากเนื้อนุ่มที่ที่หยอกล้อเล่นกับพวงไข่สวรรค์ เขาส่งมือหนาอีกข้างลงไปบีบขยำเข้าที่หน้าอกอวบใหญ่ผ่านเนื้อผ้าอย่างแรง ก่อนที่มือหนาจะดึงรั้งเสื้อและบราเซียร์ของเธอขึ้นมากองอยู่บนเนินอก จนหน้าอกใหญ่โผล่พ้นออกมาทั้งสองเต้า ส่ายกระเพื่อมล่อสายตาคม ริมฝีปากอวบอิ่มลากผ่านเนื้อเอ็นแข็งจากโคนถึงปลายหัวเห็ดก่อนจะอ้าปากกว้างครอบลงมาที่ท่อนเอ็นยักษ์อีกครั้ง หญิงสาวโยกหัวขึ้นลงเป็นจังหวะ ส่วนฝ่ามือบางอีกข้างก็กอบกุมเข้าที่ท่อนเอ็นใหญ่ชักรูดขึ้นลงไปพร้อมๆกัน "โอ้วส์ อูววส์
ติ้ง.... “ไง.....มีอะไรให้ผัวช่วยไหม?” “!!” เมื่อมิลินมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์ ที่มีข้อความปรากฏขึ้นมาทำให้เธอหยุดคิดไปชั่วขณะ หญิงสาวยืนกำมัดแน่น เดาได้ไม่ยากว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้มีใครที่อยู่เบื้องหลัง “ลิน หนูเป็นอะไรไปลูก” “.....” “พี่ลินคะ” มินนี่ที่เห็นพี่สาวของเธอเงียบไปก็เอื้อมมือไปเขย่าที่ต้นแขนของพี่สาวเบาๆ “อ๊ะ..พี่ไม่ได้เป็นอะไร แม่ค่ะพอดีลินพึ่งคิดได้ว่าเรามีทางหาเงิน 2ล้านมาใช้หนีให้แม่ได้แล้วค่ะ แม่กับมินไม่ต้องกังวลแล้วนะคะ” มิลินสวมกอดแม่และน้องสาวพร้อมกัน เพื่อหลบซ่อนแววตาที่ไหววูบ เธอคิดว่านี่คงจะเป็นฝีมือของคาร์เตอร์ที่ต้องการจะบีบเธอ “ลินหนูพูดอะไรออกมาลูก หนูจะไปหาเงินเยอะแบบนั้นได้ที่ไหน” พุดซ้อนกอดตอบพลางลูบหลังลูกสาวตัวเองเบาๆอย่างสงสัย มิลินไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เธอเพียงคิดถึงใบหน้าคนที่เธอโกรธแค้น คนที่อ้างว่าเป็นเจ้าชีวิตของเธอ “งั้นแม่กับมิน รอหนูแป็บนะคะ หนูขอไปคุยโทรศัพท์ก่อน” Rrrrrn Rrrrrn “หึ” คาร์เตอร์ที่นั่งจิบไวน์อยู่ในรถยนต์
@1 สัปดาห์ผ่านไป[Part มิลิน] ฉันกลับมาอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว นอกจากฉันจะกลับมาทำบุญให้กับพ่อที่ฉันรัก ฉันก็อยากจะหลบหน้าหนีคาร์เตอร์ด้วย และตลอดหนึ่งสัปดาห์ เขาก็โทรมาหาฉันตลอด บังคับให้ฉันกลับไปหาเขาตามสัญญา ไหนจะส่งข้อความมาข่มขู่ฉันทุกวัน “มิลิน…เธอต้องกลับมาหาฉันตามสัญญา” เสียงทุ้มของเขาแผ่วต่ำผ่านสายโทรศัพท์ แต่กลับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกกดทับ “ฉะ..ฉันยังไม่พร้อมจะกลับไปหา” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่พยายามยืนยันความตั้งใจของตัวเอง “หึ..เธอคิดว่าเธอจะรอดจากฉันงั้นเหรอ” เขาพูดติดตะกุกตะกักเล็กน้อย แต่สายตาที่ฉันจินตนาการในหัว…มันเย็นเฉียบและน่ากลัวจนทำให้ฉันกลืนน้ำลาย ฉันถอนหายใจหนัก รู้ว่าทุกคำพูดของฉันจะถูกเขาจดจำและฉันก็ไม่อาจบังคับให้ตัวเองกลับไปหาเขาตามสัญญาได้ ฉันจึงตัดสินใจ…ไม่รับสาย ไม่ตอบข้อความของเขาอีกเลย จนเมื่อสามวันก่อน ข้อความสุดท้ายจากเขาส่งเข้ามาในโทรศัพท์ของฉัน “นี่คือโอกาสสุดท้ายของเธอ…ที่เธอจะหันหลังให้กับฉัน…” และเขาก็ยังใจดีส่งคำขู่ทิ้งท้ายไว้ให้ฉันอีกนะ เฮ้อ
@ห้องทำงานคาร์เตอร์ “คุณคาร์เตอร์ฉันขอกลับห้องได้ไหม พอดีว่าฉันจะต้องกลับบ้านที่ต่างจังหวัด....” หลังจากที่คาร์เตอร์คุยงานกับดีนเสร็จ มิลินก็ตัดสินใจพูดความต้องการของตัวเอง เธอรู้สึกไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอจะต้องมานั่งขออนุญาตเรื่องการกลับบ้านของตัวเองด้วย “........” “คือมันสำคัญมากๆ ฉันนัดกับแม่ไว้แล้วว่าจะไปทำบุญให้กับพ่อ...” มิลินเผลอส่งสายตาเศร้าไปยังมาเฟียหนุ่มเมื่อเธอพูดถึงพ่อที่เธอรักซึ่งได้จากพวกเธอไปแล้ว “เฮ้อ....กี่วัน?” “สามวันค่ะ” “รีบกลับ” “อ๊ะ...คุณอนุญาตแล้วใช่ไหมคะ” มิลินดีใจจนเธอเผลอยิ้มกว้างออกมา ทำให้ตาคมจ้องมองไปยังรอยยิ้มสดใสนั่น นี่คงจะเป็นรอยยิ้มแรกตั้งแต่ที่เธออยู่กับเขามา “อืม...แต่ถ้าฉันสั่งให้เธอกลับมาเมื่อไร เธอก็ต้องกลับมา อย่าคิดหนี หรือ แข็งข้อกับฉัน และอย่ายุ่งกับผู้ชายคนอื่น ฉันไม่ชอบสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงไม่เชื่อง เข้าใจไหม?” คาร์เตอร์เอ่ยสั่งหญิงสาวเสียงเข้ม “ค่ะๆ ” มิลินตอบอย่างขอไปที ถึงแม้จะไม่ชอบใจในคำพูดของมาเฟียหนุ่มมากนัก แต่เธอก็เลือกที
@ห้องทำงานคาร์เตอร์ “ฉันอยากกลับบ้านแล้ว ฉันขอโทรศัพท์มือถือคืนด้วยค่ะ” “.....” คาร์เตอร์ไม่ตอบอะไรกลับไป นอกจากเคาะนิ้วมือเป็นจังหวะลงที่โต๊ะทำงาน และมองไปยังมิลิน ที่ยืนอยู่กลางห้องใหญ่ “นี่! คุณได้ยินฉันรึเปล่า ฉันต้องการของของฉันคืน!!” มิลินกระแทกเสียงจนดังลั่น เมื่อเขายังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติ่ง “ฉันคงจะใจดีกับเธอมากเกินไปสินะ....” น้ำเสียงราบเรียบของมาเฟียหนุ่มที่เปล่งออกมาทำให้มิลินรู้สึกเสียวสันหลังวาบทันที แต่เธอก็ยังคงต้องเก็บอาการเหล่านั้นไว้ “...ฉะ...ฉันก็แค่อยากได้โทรศัพท์ของฉันคืน ตอนนี้ฉันอยากโทรไปหาเพื่อนของฉันก่อน ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ยัยพราวเป็นยังไงบ้าง แล้วเพื่อนของคุณ...ทำอะไรเพื่อนของฉันรึเปล่า...” “หึ เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ค่อยไปห่วงคนอื่น" น่าขำสิ้นดีที่ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอจะไปช่วยเพื่อนรักจากไอ้ไบรอันต์และไอ้เซนได้ “ตะ...แต่ คุณก็ไม่มีสิทธิมาทำแบบนี้กับฉันนะ....” น้ำเสียงเย้ยหยันของคนตรงหน้า ยิ่งทำให้เธอรู้สึกขุ่นเคืองใจมากขึ้น “ฉันหรือที่ไม่มีสิทธิ ให้ฉัน...ทวนสิทธิให้เ
“อ๊าสสสสส์” เสียงคาร์เตอร์ปลดปล่อยน้ำกามสีขาวขุ่นพุ่งปรี๊ดเข้าไปในปากของมิลิน ทำให้น้ำรักที่มีอยู่มากเอ่อล้นออกมาจากมุมปากของเธอ และเปรอะเปื้อนไปทั่วคางลามไปถึงลำคอ แค่กๆ แค่กๆ มิลินเผลอกลืนน้ำรักของมาเฟียหนุ่ม เมื่อเขาถอดถอนความเป็นชายออกจากปากของเธอ หญิงสาวสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวและรสชาติของบุรุษชายที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน และความเหนียวหนืดของมัน ทำก็ให้เธอรู้สึกอยากจะอ้วก ก๊อกๆ ก๊อกๆ "เข้ามา" "! " มิลินรีบขดตัวเข้าไปในผ้าห่มสีดำผืนบางทันที เมื่อมาเฟียหนุ่มอนุญาตให้คนที่อยู่หน้าห้องเข้ามาได้ "นี่ครับของที่นายสั่ง เสื้อผ้าของคุณมิลิน" เจมส์มองไปยังเจ้านายหนุ่มที่กำลังหยิบผ้าขนหนูสีขาวมาพันรอบเอวหนาไว้ และชำเลืองมองหญิงสาวที่เอาผ้าห่มคลุมศีรษะไว้มิด ก่อนที่จะเดินเอาถุงกระดาษแบรนด์ดังในมือมาวางไว้ที่โต๊ะตามคำสั่งของผู้เป็นนาย "วันนี้มีงานสำคัญอะไรไหม" "วันนี้มีนัดประชุมกับฝ่ายบัญชี บ่ายสอง เรื่องงบประมาณโปรเจ็คใหม่ครับ" "แล้วงานที่กูให้ไอ้ดีนจัดการ เป็นไง" "เรียบร้อย







