/ รักโบราณ / ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี / บทที่ 4 : แบ่งให้ข้าคนละคำก็พอแล้วเจ้าค่ะ

공유

บทที่ 4 : แบ่งให้ข้าคนละคำก็พอแล้วเจ้าค่ะ

last update 최신 업데이트: 2025-06-29 06:21:05

บทที่ 4 : แบ่งให้ข้าคนละคำก็พอแล้วเจ้าค่ะ

          “ไม่ได้นะเจ้าคะท่านแม่ นางยังมีลมหายใจอยู่เลย ข้าไม่อาจทิ้งนางได้ ท่านแม่มองดูสิเจ้าคะ แถวนี้มีคนดี ๆ ที่ไหนกันหากปล่อยนางเอาไว้เช่นนี้ คงถูกสัตว์ร้ายทำอันตรายเอาได้”

          สัตว์ร้ายไม่เท่าไรหรอก เกรงแต่มนุษย์ด้วยกันนี่แหละที่จะทำร้ายกันเอง นางเคยได้ยินเรื่องผู้ลี้ภัยหิวโหย ถึงขึ้นกินเนื้อเด็กทารกแรกเกิดด้วยซ้ำ

          “นังคนอกตัญญู ลูกตัวเองจะอดข้าวตายอยู่แล้วยังไม่สำนึก เกิดอยากเป็นคนใจดี เหตุใดข้าถึงได้แต่งสะใภ้เบาปัญญาเช่นนี้เข้าบ้าน สวรรค์หนอสวรรค์ เหตุใดถึงได้โหดร้ายกับข้านัก”

          นางเจียงร่ำร้องคล้ายคนถูกกระทำอย่างโหดร้าย หากไม่ติดว่ากำลังลี้ภัยอยู่ นางคงลงไปนั่งตบตีต้นขาอยู่บนพื้นแล้ว      

          ฉินซื่อเริ่มทำตัวไม่ถูก “ท่านแม่ข้าไม่ได้..”

          นางเจียงชี้นิ้วใส่นาง “เจ้าหุบปาก หากเจ้ายังไม่ทิ้งเด็กนั่นไปอีก อย่ามาเรียกข้าว่าแม่ !”

          ฉินซื่ออุ้มเด็กเดินไปหลบอยู่ข้างหลังของสามี ด้านข้างมีบุตรชายกับบุตรสาวยืนอยู่ พวกเขาเหมือนกำลังตกใจกับคำด่าทอของผู้เป็นย่า แต่กระนั้นฉินซื่อก็ส่งสายตาให้สามี ว่านางไม่สามารถปล่อยเด็กให้ตายอยู่ข้างทางได้

          “พี่ชางข้าทำไม่ได้จริง ๆ”

          เพราะตัวนางก็เป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยงเหมือนกัน จึงรู้สึกสงสารเด็กน้อยที่มีชะตากรรมเดียวกับตัวเองเช่นในอดีต

          ผู้เป็นสามีมองดูหน้าเด็กน้อยแล้วถอนลมหายใจเบา ๆ เขาตบปลอบหลังมือภรรยา

          “ท่านแม่ถือว่าข้าขอร้อง ให้เด็กคนนี้ร่วมเดินทางไปกับพวกเราด้วยเถอะขอรับ”

          หวงชางคุกเข่าลงให้มารดา เขาย่อมรู้พื้นเพของภรรยาเป็นอย่างดี อีกทั้งเด็กน้อยผู้นี้ก็ไม่สมควร ถูกทิ้งให้นอนตายอยู่ข้างทางจริง ๆ

          “เจ้าลูกเนรคุณ ! เจ้าไม่ฟังคำแม่อย่างข้าแล้วรึ วันนี้ข้าจะตีเจ้าให้ตายเสีย !” นางเจียงถลาเข้าไปตบตีบุตรชายด้วยความโกรธ

          “เจ้าใหญ่ไปห้ามแม่เจ้าที” หวงจงทนดูต่อไปไม่ไหวหันไปทางบุตรชายคนโต

          “ท่านแม่หากบ้านน้องสามอยากดูแลเด็กนั่น ก็ปล่อยเถอะขอรับ ขอเพียงแค่ไม่มาแบ่งเสบียงจากพวกเรา ไปให้เด็กนั่นเป็นพอ”

          หวงจื้อเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลหวง เขาเห็นว่าหากชักช้ากว่านี้จะหาที่พักคืนนี้ไม่ได้ จึงได้เร่งให้ทุกคนออกเดินทางต่อ

          ได้ยินคำพูดของบุตรชายคนโตแล้ว นางเจียงจำต้องหยุดโวยวาย แต่ยังไม่ลืมจ้องบ้านสามด้วยความชิงชัง

          “จริงของพี่ใหญ่นะท่านแม่ หากน้องสามอยากมีภาระเพิ่ม ก็ต้องรับผิดชอบกันเอาเอง ห้ามมาเบียดเบียนเสบียงของส่วนกลางเด็ดขาด”

          “ใช่ ๆ” เสียงคนอื่น ๆ เห็นด้วยกับหวงเต๋อบุตรชายของรองของบ้าน เรื่องอื่นพวกเขาไม่ยุ่งได้ แต่เรื่องเสบียงอาหารนั้นต้องรักษาผลประโยชน์ของตนเองเอาไว้

          “ได้ ๆ พวกข้าจะไม่เบียดเบียนเสบียงส่วนกลางแน่นอน” ฉินซื่อรีบตอบรับด้วยเกรงว่าพวกเขาจะเปลี่ยนใจ

          “จำคำของเจ้าเอาไว้ให้ดี ๆ ล่ะสะใภ้สาม”

          “เจ้าค่ะท่านแม่”

          คนอื่นในครอบครัวต่างเดินทางกันต่อ เหลือเพียงบ้านสามที่กำลังป้อนน้ำให้เด็กน้อยอยู่ พร้อมกับใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดหน้าให้อย่างเบามือ

          หวงชางเป็นคนอุ้มหลินลู่ฉีขึ้นหลัง หาผ้ามามัดเอาไว้ไม่ให้นางเป็นอันตรายระหว่างเดินทาง ส่วนฉินซื่ออุ้มหวงจื่อเหยาบุตรสาวในวัยสี่ปี บุตรชายหวงจื่อถงอายุหกปีแล้ว เขาสามารถเดินได้ด้วยตัวเอง

          เดินทางกันต่อจนพระอาทิตย์ตกดิน จึงได้เจอวัดร้างแห่งหนึ่ง พวกเขาพากันพักค้างคืนที่นี่ เดิมทีทุกคนลี้ภัยมาจากหมู่บ้านจินเซ่ออำเภอชุ่นในเมืองหลี แต่ตระกูลหวงกลับขอแยกทางกับคนในหมู่บ้าน เพราะมีเป้าหมายจะไปหาญาติที่อยู่อำเภอหยางในเมืองลี่หยาง

          นางเจียงเห็นว่าหมู่บ้านจินเซ่อ ไม่อาจพลิกผืนดินให้ปลูกพืชพันธุ์ได้อีก จึงไม่คิดกลับไปอดตายกันที่นั่น นางหารือกับสามี และเลือกไปขอความช่วยเหลือจากญาติของนางที่อำเภอหยางแทน

          ขณะที่ทุกคนกำลังพักผ่อนเอาแรง สะใภ้ทั้งสามเตรียมเสบียงออกมาทำข้าวต้มให้ครอบครัวได้กินกัน ยามนี้ที่หลินลู่ฉีได้ตื่นขึ้นมา ตอนอยู่บนหลังของหวงชางนั้น นางถึงกับหลับสนิทจริง ๆ

          “น้องสาว” หวงจื่อเหยาจิ้มแก้มนางเบา ๆ

          “น้องสาวตื่นแล้ว” หวงจื่อถงไม่กล้าแตะเนื้อตัวนาง เขาทำเพียงแค่ก้ม ๆ มอง ๆ ด้วยความสงสัย

          “พี่ชายน้องสาวเป็นใบ้”

          หลินลู่ฉี “?!” เด็กคนนี้สติดีหรือไม่

          หวงจื่อถงตกใจไม่น้อยหลังได้ยินน้องสาวเอ่ยเช่นนี้ เพราะตั้งแต่เดินทางมา อีกฝ่ายไม่ได้พูดออกมาแม้แต่คำเดียว เขารีบคลานไปหาบิดา ที่เอนหลังอยู่บนกองหญ้าที่ตัดมาปูเป็นที่นอน

          “ท่านพ่อ ๆ น้องสาวคนใหม่เป็นใบ้”

          หวงชางลืมตาตื่นขึ้นในทันที “เจ้าว่าอะไรนะ”

          “น้องสาวคนใหม่ไม่พูดไม่จา สงสัยนางจะเป็นใบ้” หวงจื่อถงอายุเพียงหกปี เขาจึงตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก

          “จะเป็นไปได้อย่างไร” หวงชางสีหน้าซับซ้อนขึ้นมา หากเด็กคนนี้เป็นใบ้จริง เขาไม่ใช่ว่ากำลังเพิ่มปัญหาให้กับครอบครัวหรอกหรือ รีบลุกขึ้นขยับไปหาเด็กน้อยที่เพิ่งเก็บมา

          “นังหนูเจ้าพูดได้ไหม” เขาถามนางด้วยสีหน้าตกใจ

          หลินลู่ฉีเห็นหน้าคนที่อุ้มตัวเองมาค่อนวัน ก็คลายรอยยิ้มออกเล็กน้อย นางพยักหน้าลงเบา ๆ

          “ถงเอ๋อร์เจ้านี่พูดไม่คิด ทำเอาพ่อตกใจหมด” เขาหันไปเอ็ดบุตรชาย ก่อนหันกลับมาสนใจกับเด็กน้อยต่อ “เช่นนั้นเจ้าจำได้หรือไม่ว่าตัวเองเป็นใคร เหตุใดถึงถูกทิ้งไว้คนเดียว”

          หลินลู่ฉีไม่อยากโกหกด้วยการสร้างเรื่องราวขึ้นใหม่ นางจึงส่ายหน้าพร้อมเอ่ยเบา ๆ “ข้าจำไม่ได้” พร้อมจับตรงศีรษะเบา ๆ ตรงนั้นรู้สึกเจ็บอยู่ไม่น้อย

          หวงชางรีบตรวจดูศีรษะของนาง เห็นรอยปูดนูนขึ้นมา คล้ายกระแทกเข้ากับของแข็ง มิน่านางถึงนอนสลบไม่รู้สึกตัว เพราะศีรษะกระแทกเข้ากับของแข็งนี่เอง

          “จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ต่อไปข้าจะรับเลี้ยงดูเจ้าเองดีหรือไม่”

          “อื้ม” หลินลู่ฉีรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่ออยู่กับพวกเขา นางจึงตอบตกลงในทันที

          หวงชางรีบแนะนำตัวเอง พร้อมบุตรชายบุตรสาวทั้งสอง “เจ้าเรียกข้าว่าท่านลุง ส่วนนี่พี่จื่อถง พี่จื่อเหยา แล้วเจ้าล่ะชื่ออะไร”

          “เอ่อ” หากตอบทันทีจะน่าสงสัยไหมนะ นางพยายามใช้ความคิดอย่างหนัก ก่อนตอบออกไป “เอ่อ ข้าคลับคล้ายว่าจะชื่อหลินลู่ฉี”

          “หลินลู่ฉี ชื่อดี ๆ” หวงชางแค่รู้สึกว่าชื่อนี้เพราะมาก แต่ไม่ได้รู้ความหมายลึกซึ้งอันใด

          หวงจื่อถงดึงแขนเสื้อบิดา “ท่านพ่อข้าเรียกน้องสาวว่าฉีฉีได้หรือไม่”

          หวงชางหันไปลูบศีรษะน้อย ๆ ของเขา “ได้สิ ฉีฉีเจ้าเห็นด้วยไหม”

          “ได้” หลินลู่ฉีไม่เรื่องมาก นางปรายตาไปทางฉินซื่อที่เดินถือหม้อใส่ข้าวต้มมา

          “สะใภ้ใหญ่เจ้าดูดีแล้วใช่ไหม ตักให้เหมือนเดิมห้ามเพิ่มเด็ดขาด” เสียงนางเจียงดังไล่หลังมา

          “เท่าเดิมท่านแม่ ข้าตักเองกับมือ” จ้าวซื่อสะใภ้ใหญ่ของบ้านรีบเอ่ย

          ฉินซื่อไม่ใส่ใจมากนัก นางนั่งลงตรงหน้าสามี พร้อมนำชามของแต่ละคนออกมา ตักข้าวต้มใส ๆ ใส่ชามของแต่ละคน ระหว่างนั้นสามีของนาง ก็เล่าเรื่องของหลินลู่ฉีให้นางฟังไปด้วย

          “ฉีฉีช่างน่าสงสารนัก น่าเสียดายที่พวกเราไม่มียาทาแก้ฟกช้ำ เจ้ากินข้าวของข้าก็แล้วกัน” ฉินซื่อยื่นถ้วยข้าวต้มไปตรงหน้าของเด็กน้อย แต่ถูกสามีดันถ้วยของนางออก แทนที่ด้วยถ้วยของเขาเอง

          “ได้อย่างไรอาอี้ เจ้าเหนื่อยมาทั้งวัน หากไม่ได้กินข้าวเกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีแรงเดิน ให้นางกินของข้าดีกว่า”

          หวงจื่อถง “เอาของข้าก็ได้ขอรับ”

          หวงจื่อเหยา “อื้อ” นางไม่รู้เรื่องอะไรหรอก ยื่นถ้วยตามพี่ชายเท่านั้น

          หลินลู่ฉีมองคนโน้นทีคนนี้ที นางกระแอมเบา ๆ ทุกคนจึงหยุดหันมามองนางกันหมด

          “ขะข้ากินข้าวไม่เยอะ แบ่งให้ข้าคนละคำก็พอแล้วเจ้าค่ะ” นางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ ในใจเกิดความละอายไม่น้อย ที่ต้องแสร้งทำเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสาเช่นนี้

          ฉินซื่อตาประกายขึ้นในทันที “จริงด้วยฉีฉีพูดถูก มามาพวกเราสี่คนแบ่งข้าวให้นางคนละคำดีกว่า” นางจัดการแบ่งข้าวต้มให้ทุกคนได้กินกัน

          หลินลู่ฉีมองดูข้าวต้มน้ำใส ๆ หาเม็ดข้าวแทบไม่เจอ น้ำตาคลอเบ้าออกมาด้วยความหดหู่ อาหารเลิศหรูเมื่อก่อนกลายเป็นเรื่องเพ้อฝันไปเสียแล้ว

          “ไม่ต้องร้อง ๆ ค่อย ๆ กิน” ฝ่ามืออบอุ่นของฉินซื่อลูบแผ่นหลังของนางเบา ๆ

          “ขอบคุณท่านป้าเจ้าค่ะ” นางค่อย ๆ กลืนเข้าต้มลงท้องไป ในช่วงเวลาโหดร้ายนี้ ยังมีแสงสว่างน้อย ๆ จากครอบครัวนี้อยู่

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี   บทที่ 8 : เจียงชุน

    บทที่ 8 : เจียงชุน หลินลู่ฉีทนสังขารของเด็กสามขวบไม่ไหว นางหลับบนหลังของหวงชางไปตลอดเส้นทาง รู้ตัวอีกทีก็ถึงหน้าเรือนของท่านยายเจียงแล้ว แม้จะอยู่ในชนบทแต่เรือนของท่านยายเจียงกลับสร้างด้วยอิฐ ซึ่งแตกต่างจากบ้านของชาวบ้าน ที่ส่วนใหญ่สร้างด้วยดิน หมู่บ้านหยางฮัวมีคนสร้างบ้านด้วยอิฐเพียงสองหลังเท่านั้น คือของผู้ใหญ่บ้านกับท่านยายเจียง หลินลู่ฉีมองสำรวจด้วยสายตาคร่าว ๆ หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ด้านหน้าภูเขา มีราวห้าสิบหลังคาเรือนเท่านั้น คงมีชาวบ้านราว ๆ สองร้อยกว่าคน ท่านยายเจียงแลดูจะตกใจ กับจำนวนลูกหลานเหลนที่มาพึ่งพาเกือบยี่สิบคน ทว่าท่านกลับให้การต้อนรับเป็นอย่างดี “ท่านน้าข้าลี้ภัยมาพึ่งใบบุญของท่าน ไม่คิดว่าจะถูกตระกูลหม่า ขับไล่ออกมาเหมือนหมูเหมือนหมาเช่นนี้” นางเจียงร้อ

  • ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี   บทที่ 7 : ไปให้พ้น ! ที่นี่ไม่มีอนุภรรยาแซ่เจียง

    บทที่ 7 : ไปให้พ้น ! ที่นี่ไม่มีอนุภรรยาแซ่เจียง หลินลู่ฉีอยากลงเดินเพื่อให้หวงชางได้เบาหลังบ้าง แต่พอนางเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ทิ้งระยะห่างจากคนตระกูลหวงเสียแล้ว โทษใครได้ขานางสั้นเกินไปจริง ๆ “เจ้าอยากเดินนักเป็นอย่างไรล่ะ” หวงจื่อถงจิ้มจมูกเล็ก ๆ ของนาง “มาขี่หลังข้า ให้ท่านพ่อได้พักบ้าง” เขาย่อตัวลงหวังให้น้องสาวตัวน้อยได้ขี่หลัง หลินลู่ฉีมองดูร่างผอมแห้งของเขาแล้วหนักอึ้งในใจ นางเงยหน้าขึ้นมองหวงชางกับฉินซื่อ “ให้พี่ชายของเจ้าลองดู ไหวหรือไม่เดี๋ยวก็รู้” หวงชางยิ้มระหว่างมองสบสายตากับเด็กน้อย เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ไม่ถึงครึ่งลี้หวงจื่อถงก็ไม่ไหวเสียแล้ว เป็นหวงชางที่ต้องแบกหลินลู่ฉีต่อไป ส่

  • ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี   บทที่ 9 : เช่าเรือนท่านยายหมี่

    บทที่ 9 : เช่าเรือนท่านยายหมี่ ไม่ช้านางหูก็กลับมาพร้อมข่าวดี ท่านยายหมี่ยินดีให้เช่าเรือนส่วนหนึ่ง เรื่องค่าเช่าแล้วแต่ผู้ใหญ่บ้านจะกำหนดให้ นางไม่เรื่องมาก ขอแค่มีรายได้เข้ามาบ้างก็เป็นพอ คืนนี้สามารถเข้าไปอาศัยอยู่ที่เรือนของนางได้เลย “ท่านยายจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าให้ข้าตั้งหนึ่งเดือน ข้าไม่รู้จะตอบแทนท่านยายอย่างไรดี ขอบคุณท่านยายมากขอรับ” หวงชางคุกเข่าลง โขกศีรษะคำนับให้ท่านยายเจียง “เหลวไหลอันใด รีบลุกขึ้นได้แล้ว เจ้าเป็นหลานชายข้า เงินแค่ไม่กี่สิบอีแปะข้าจะออกให้ไม่ได้รึ” ท่านยายเจียงโบกมือใส่เขาคล้ายโมโห นางไม่ได้บอกคนตระกูลหวง ว่าตัวเองมีรายได้จากช่องทางไหน แต่แอบกำชับผู้ใหญ่บ้านก่อนออกมา ไม่ให้บอกเรื่องให้เช่าที่นาเกือบร้อยหมู่กับญาติของนาง&nb

  • ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี   บทที่ 6 : ฉีฉีมองเห็นบ้างไหม

    บทที่ 6 : ฉีฉีมองเห็นบ้างไหม เมื่อรู้ว่ามีภัยอันตรายเข้ามาใกล้ พวกเขารีบเก็บของ พากันคลำทางในความมืดไปจากตรงนี้ เพราะเป็นคืนเดือนมืดทุกคนจึงต้องจับมือเดินตามหลังกันไป “ข้ามองไม่เห็นทางแล้วท่านพ่อท่านแม่ หากก้าวพลาดอาจได้รับบาดเจ็บได้” หวงจื้อเป็นคนนำทางเขาเกิดกลัวขึ้นมา “เจ้าใหญ่เงียบ ๆ หน่อย ข้าได้ยินเสียงคนตามหลังพวกเรามาแล้ว พวกมันจุดคบเพลิงด้วย รีบไป ๆ” หวงจงเร่งบุตรชาย หลังจากเห็นแสงไฟอยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก ทว่าหวงจื้อกลับไม่กล้าเดินต่อ พวกเขาไม่มีคบเพลิงและข้างหน้าก็ล้วนแต่เป็นป่าเขา “ท่านพ่อสามีข้ามองไม่เห็นทาง ให้คนอื่นมานำทางเถอะ” จ้าวซื่อรีบดึงแขนสามีมาหลบอยู่ด้านหลังนางเจียง&nbs

  • ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี   บทที่ 5 : พี่ชายเจ็บหรือไม่

    บทที่ 5 : พี่ชายเจ็บหรือไม่ กระนั้นวาจาถากถางจากนางเจียง ก็ยังลอยมาตามสายลม คำว่าตัวอัปมงคล ตัวกินล้างกินผลาญ ด่าลามไปถึงครอบครัวของหวงชางทุกคน ด่าจนหลินลู่ฉีรู้ประวัติความเป็นมาของพวกเขาไม่มากก็น้อย นางเจียงกับหวงจงนั้นแม้จะเป็นปู่ย่าคนแล้ว แต่อายุเพียงแค่สี่สิบปลาย ๆ เท่านั้น บุตรชายทั้งสามคนอายุยังไม่ถึงสามสิบสักคน บุตรสาวเพียงคนเดียวนั้นน่าจะเพิ่งผ่านวัยปักปิ่นมา หลินลู่ฉีรู้ว่าคนอื่นไม่ยินดี ที่หวงชางกับฉินซื่อให้นางร่วมเดินทางไปด้วย ระหว่างทางจึงได้ยินวาจาเย้ยหยันอยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นกระทั่งหลาน ๆ ของพวกเขาเอง ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องวิ่งมากลั่นแกล้งนางอยู่เรื่อย ดีที่หวงจื่อถงอยู่ข้างกาย เขาคอยตะโกนบอกบิดามารดาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดปากเสียงกันอยู่ร่ำไป กระทั่งลงไม้ลงมือกันก็มี “นังตัวซวยพวกเจ้าเห็นหรือยัง พอมีนางเข้ามาหลาน ๆ ของข้าก็ตีกันเสียแล้ว” นางเจียงลูบหลังปลอบหลานชายสุดที่รักของตน หวงชุนฟงคือบุตรชายคนโต ที่เกิดจากหวงจื้อกับจ้าวซื่อ “ท่านแม่ฟงเอ๋อร์อายุเท่าไรแล้ว ยังมารังแกฉีฉีของพวกเรา นางก็แค่เด็กสองสามขวบเองนะเจ้า

  • ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี   บทที่ 4 : แบ่งให้ข้าคนละคำก็พอแล้วเจ้าค่ะ

    บทที่ 4 : แบ่งให้ข้าคนละคำก็พอแล้วเจ้าค่ะ “ไม่ได้นะเจ้าคะท่านแม่ นางยังมีลมหายใจอยู่เลย ข้าไม่อาจทิ้งนางได้ ท่านแม่มองดูสิเจ้าคะ แถวนี้มีคนดี ๆ ที่ไหนกันหากปล่อยนางเอาไว้เช่นนี้ คงถูกสัตว์ร้ายทำอันตรายเอาได้” สัตว์ร้ายไม่เท่าไรหรอก เกรงแต่มนุษย์ด้วยกันนี่แหละที่จะทำร้ายกันเอง นางเคยได้ยินเรื่องผู้ลี้ภัยหิวโหย ถึงขึ้นกินเนื้อเด็กทารกแรกเกิดด้วยซ้ำ “นังคนอกตัญญู ลูกตัวเองจะอดข้าวตายอยู่แล้วยังไม่สำนึก เกิดอยากเป็นคนใจดี เหตุใดข้าถึงได้แต่งสะใภ้เบาปัญญาเช่นนี้เข้าบ้าน สวรรค์หนอสวรรค์ เหตุใดถึงได้โหดร้ายกับข้านัก” นางเจียงร่ำร้องคล้ายคนถูกกระทำอย่างโหดร้าย หากไม่ติดว่ากำลังลี้ภัยอยู่ นางคงลงไปนั่งตบตีต้นขาอยู่บนพื้นแล้ว ฉินซื่อเริ่มทำตัวไม่ถูก “ท่านแม่ข้าไม่ได้..” นางเจียงชี้นิ้วใส่นาง “เจ้าหุบปาก หากเจ้ายังไม่ทิ้งเด็กนั่นไปอีก อย่ามาเรียกข้าว่าแม่ !” ฉินซื่ออุ้มเด็กเดินไปหลบอยู่ข้างหลังของสามี ด้านข้างมีบุตรชายกับบุตรสาวยืนอยู่ พวกเขาเหมือนกำลังตกใจกับคำด่าทอของผู้เป็นย่า แต่กระนั้นฉินซื่อก็ส่งสายตาให้สามี ว่านาง

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status