공유

ต่อไปก็จัดการกันเองเถิด

last update 최신 업데이트: 2025-08-22 16:15:27

ซ่างกวนเจิ้งไห่ก้าวเท้าออกมาหยุดอยู่ด้านหน้าบุตรชายกับหยางเฟิ่งเซียน เขาหันมาทางว่าที่ลูกสะใภ้เพื่อขอให้นางและพี่ชาย อย่าพูดถ้อยคำซ้ำเติมเกี่ยวกับเรื่องที่ผ่านมา จากนั้นไม่ลืมเอ่ยถึงความตั้งใจของตนต่อฮ่องเต้ด้วยเช่นกัน

“เซียนเอ๋อร์ถือว่าลุงขอร้องเจ้าเถิดนะ เรื่องราวเหล่านั้นอย่าได้รื้อฟื้นมันขึ้นมาอีกเลย”

ซ่างกวนเซียวจิ้งเห็นแววตาของบิดาที่ส่งมาถึงตน จึงพูดกับหยางเฟิ่งเซียนเพื่อขอร้องนางอีกคน “เซียนเอ๋อร์ขอเจ้าเห็นแก่ท่านพ่อของพี่ที่เป็นขุนนางมานาน โปรดอย่าทำลายกำลังใจเรื่องการฟื้นฟูแคว้นนี้เลยนะ อย่างไรเสียที่นี่ก็เป็นแคว้นบ้านเกิดของพี่กับท่านพ่อ ได้หรือไม่”

เมื่อเห็นว่าคนที่นางรักและเคารพร้องขอด้วยความจริงใจ หยางเฟิ่งเซียนจึงยินดีที่จะไม่พูดถึงเรื่องการทวงบุญคุณ “ในเมื่อท่านลุงกับพี่เซียวจิ้งขอร้องข้าถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็ให้แล้วกันไปเถิดเจ้าค่ะ ขอแค่อย่ามีใครคิดฟื้นฝอยหาตะเข็บอีกก็พอ เพราะข้าไม่รับรองว่าคนเหล่านั้นจะได้รับผลอย่างไรนะเจ้าคะ”

“ขอบใจเซียนเอ๋อร์ที่เห็นแก่หน้าของลุงมากนะ” ซ่างกวนเจิ้งไห่รู้สึกโล่งอกไปเปราะหนึ่งเมื่อหยางเฟิ่งเซียนยอมลงให้กับเรื่องดังกล่าว

แต่เกาฝูเจี้ยน
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

최신 챕터

  • ข้าคือทายาทของโรงปักผ้าอันดับหนึ่งแห่งเป่ยชาง   มีดอกบัวขาวอยู่ในตระกูลซือหม่า

    ในการออกเดินทางของตระกูลซ่างกวน หย่างไท่หมิงอยากให้ซ่างกวนเซียวจิ้งกับครอบครัว ขึ้นไปนั่งอยู่ด้านในรถม้าเสียก่อน เมื่อพ้นเขตเมืองหลวงค่อยออกมาขี่ม้าเช่นที่เคยทำ เนื่องจากมีบ่าวไพร่ติดตามไม่มาก ขบวนเดินทางครั้งนี้จึงใช้ม้าทั้งหมด เพื่อการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งระยะทางจากเมืองหลวงแคว้นหนานหยาง ไปถึงแคว้นชางเหอใช้เวลาเพียงครึ่งเดือนเท่านั้นเพียงแต่หยางไท่หมิงกับซูอันและสองพี่น้องตระกูลฟง ต้องแยกตัวกลับแคว้นเป่ยชางเมื่อมาถึงเขตชายแดน มีเพียงสองพี่น้องตระกูลหยางและผู้ติดตามอีกสิบคน ยังคงต้องไปกับซ่างกวนเซียวจิ้งตามความตั้งใจเดิมจากชายแดนแคว้นเป่ยชางมาถึงเมืองหลวงแคว้นชางเหอ ขบวนเดินทางของซ่างกวนเซียวจิ้งใช้เวลาอีกเจ็ดวัน ในที่สุดก็ผ่านประตูเมืองหลวงมาหยุดอยู่หน้าจวนขนาดใหญ่ ซึ่งที่นี่เป็นจวนของตระกูลซือหม่าคหบดีอันดับหนึ่งของแคว้นชางเหอเฉินเจ๋อลงจากหลังม้าทำหน้าที่ของตน โดยการบอกบ่าวด้านหน้าประตูให้ไปรายงานเจ้าของจวน “น้องชายรบกวนเจ้าไปรายงานนายท่านผู้เฒ่าว่า บุตรสาวเพียงคนเดียวมาขอพบ”“รอสักประเดี๋ยวข้าจะรีบไปรายงานท่านพ่อบ้านให้ขอรับ”“ขอบใจมาก”บ่าวคนที่พูดคุยกับเฉินเจ๋อเร่งกล

  • ข้าคือทายาทของโรงปักผ้าอันดับหนึ่งแห่งเป่ยชาง   ช่วยตระกูลซ่างกวนย้ายถิ่นฐาน

    ภายหลังกลับมาถึงจวนตระกูลซ่างกวน ผู้เป็นเจ้าของจวนรีบสั่งพ่อบ้านไปเรียกบ่าวไพร่ มาช่วยทำความสะอาดเรือนรับรอง เพื่อให้ครอบครัวของหยางเฟิ่งเซียนได้พักผ่อน ระหว่างที่นั่งรอบ่าวไพร่จัดการเรื่องเรือนรับรอง ภายในห้องโถงรับแขกจึงมีการสนทนาถึงสิ่งที่ซ่างกวนเจิ้งไห่คิดจะทำหลังจากนี้ เพราะหยางไท่หมิงกับซูอันต่างคิดคล้ายกันว่า ตระกูลซ่างกวนไม่อาจอยู่ที่แคว้นหนานหยางได้อีกแล้ว“นายท่านซ่างกวนกับฮูหยินคิดจะทำอย่างไรต่อหรือขอรับ ข้าว่าพวกท่านคงอยู่ใช้ชีวิตในแคว้นหนานหยางยากแล้วล่ะ แม้ฮ่องเต้จะรู้สึกผิดและเสียดายขุนนางดี ๆ แต่ขุนนางที่ฝักใฝ่ในอำนาจมักมีวิธีการชักจูงฮ่องเต้ได้เสมอนะ”“อืม ข้าเข้าใจสิ่งที่น้องหยางพูดมา ก่อนหน้าจะถึงงานเลี้ยงฉลอง ครอบครัวของเราได้หารือกันไว้ว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างที่คาดก็ไม่คิดจะอยู่ที่แคว้นหนานหยางอีก” ซ่างกวนเจิ้งไห่ตอบหยางไท่หมิงไปตามตรงซือหม่าฮูหยินกล่าวเสริมคำพูดของสามีอีกเล็กน้อย “พวกเราคุยกันไว้ว่าจะย้ายกลับไปตระกูลซือหม่าที่แคว้นชางเหอ เพื่อทำการค้าเนื่องจากบิดาของข้าเป็นวาณิชหลวงให้กับราชสำนักน่ะ”ซูอันได้ยินคำว่าวาณิชหลวงจากซือหม่าฮูหยินก็หูผึ่งทันที เพร

  • ข้าคือทายาทของโรงปักผ้าอันดับหนึ่งแห่งเป่ยชาง   ต่อไปก็จัดการกันเองเถิด

    ซ่างกวนเจิ้งไห่ก้าวเท้าออกมาหยุดอยู่ด้านหน้าบุตรชายกับหยางเฟิ่งเซียน เขาหันมาทางว่าที่ลูกสะใภ้เพื่อขอให้นางและพี่ชาย อย่าพูดถ้อยคำซ้ำเติมเกี่ยวกับเรื่องที่ผ่านมา จากนั้นไม่ลืมเอ่ยถึงความตั้งใจของตนต่อฮ่องเต้ด้วยเช่นกัน“เซียนเอ๋อร์ถือว่าลุงขอร้องเจ้าเถิดนะ เรื่องราวเหล่านั้นอย่าได้รื้อฟื้นมันขึ้นมาอีกเลย”ซ่างกวนเซียวจิ้งเห็นแววตาของบิดาที่ส่งมาถึงตน จึงพูดกับหยางเฟิ่งเซียนเพื่อขอร้องนางอีกคน “เซียนเอ๋อร์ขอเจ้าเห็นแก่ท่านพ่อของพี่ที่เป็นขุนนางมานาน โปรดอย่าทำลายกำลังใจเรื่องการฟื้นฟูแคว้นนี้เลยนะ อย่างไรเสียที่นี่ก็เป็นแคว้นบ้านเกิดของพี่กับท่านพ่อ ได้หรือไม่”เมื่อเห็นว่าคนที่นางรักและเคารพร้องขอด้วยความจริงใจ หยางเฟิ่งเซียนจึงยินดีที่จะไม่พูดถึงเรื่องการทวงบุญคุณ “ในเมื่อท่านลุงกับพี่เซียวจิ้งขอร้องข้าถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็ให้แล้วกันไปเถิดเจ้าค่ะ ขอแค่อย่ามีใครคิดฟื้นฝอยหาตะเข็บอีกก็พอ เพราะข้าไม่รับรองว่าคนเหล่านั้นจะได้รับผลอย่างไรนะเจ้าคะ”“ขอบใจเซียนเอ๋อร์ที่เห็นแก่หน้าของลุงมากนะ” ซ่างกวนเจิ้งไห่รู้สึกโล่งอกไปเปราะหนึ่งเมื่อหยางเฟิ่งเซียนยอมลงให้กับเรื่องดังกล่าวแต่เกาฝูเจี้ยน

  • ข้าคือทายาทของโรงปักผ้าอันดับหนึ่งแห่งเป่ยชาง   ผู้ใดกล้าแย่งบุรุษของข้า!

    ทางด้านงานเลี้ยงให้กับฮ่องเต้พระองค์ใหม่ ได้เริ่มขึ้นในปลายยามโหย่วภายหลังเสร็จสิ้นพิธีการเมื่อวานนี้ เหล่าขุนนางที่ต่างพาฮูหยินและบุตรหลาน ที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับงดงามมาร่วมงานนี่ถือว่าเป็นงานเลี้ยงที่ทุกคนต่างยิ้มแย้มอย่างเต็มที่ แต่ไม่มีใครกล้าแต่งกายงดงามเกินหน้าฮองเฮา แม้จะมีคุณหนูในห้องหอหลายคน อยากทำเช่นนั้นเพื่อดึงดูดสายตาฮ่องเต้หนุ่มก็ตามเมื่องานเลี้ยงดำเนินไปได้เกือบครึ่งชั่วยาม สิ่งที่ซ่างกวนเซียวจิ้งเคยคาดเดาไว้กับหยางเฟิ่งเซียน ก็ได้เกิดขึ้นกับเขาจริง ๆ ยามที่พระสุรเสียงของฮ่องเต้เรียกเขาออกไปกลางท้องพระโรง“เซียวจิ้งเจิ้นต้องขอบใจท่านกับบิดามาก ที่ช่วยสนับสนุนและช่วยกำจัดขุนนางกังฉิน แน่นอนว่าผลงานของท่านทุกคนในที่นี้ย่อมประจักษ์ต่อสายตา ถือว่าเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่มากก็ว่าได้”“หามิได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเพียงทำตามหน้าที่ของขุนนางเท่านั้น ถ้าหากไม่มีขุนนางกังฉินแคว้นหนานหยางของเรา ย่อมพัฒนาไปสู่ความรุ่งเรืองได้อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ” ซ่างกวนเซียวจิ้งกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มิได้แสดงท่าทีดีใจกับคำชื่นชมของฮ่องเต้ เพราะรู้ว่ามีนัยยะแอบแฝงอยู่ก่อนแล้วเกาฝู

  • ข้าคือทายาทของโรงปักผ้าอันดับหนึ่งแห่งเป่ยชาง   การเดินทางที่น่าตื่นเต้น

    ภายหลังออกจากตำหนักของไทเฮา สองพี่น้องตระกูลหยางก็ตรงไปยังกรมตุลาการ เพื่อพบฟงเหยาเหวินซึ่งทำงานอยู่ที่นี่ เมื่อไปถึงก็บังเอิญเป็นจังหวะที่ฟงเหยาเหวินเดินออกมาพอดี ทั้งสามคนจึงได้เอ่ยทักทายและเข้าไปนั่งคุยในห้องทำงานอย่างเป็นกันเองเป็นหยางซิวหรงที่เอ่ยแสดงความยินดีกับญาติผู้พี่ก่อนน้องสาว “ยินดีกับพี่เหยาเหวินด้วยนะขอรับ ที่ได้รับตำแหน่งรองเจ้ากรมตุลาการ สงสัยจะมีคนแอบอิจฉาท่านไม่น้อย”“เชอะ คนพวกนั้นอิจฉาพี่เหยาเหวินแล้วอย่างไร ตนเองทำงานในราชสำนักมาตั้งนานหลายปี แต่กลับไม่มีผลงานให้เสด็จปู่ชื่นชม หวังจะเลื่อนขั้นย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเจ้าค่ะ” “หึ ใช่ ๆ ๆ สิ่งที่เซียนเอ๋อร์พูดย่อมถูกต้องที่สุด ว่าแต่พวกเจ้าเถิดภารกิจสำเร็จด้วยดีใช่ไหม มีใครได้รับบาดเจ็บบ้างหรือไม่” ฟงเหยาเหวินรู้เรื่องนี้ดีไม่ต่างจากญาติผู้น้องทั้งสอง แต่ที่หยางเฟิ่งเซียนพูดก็ไม่ผิดหยางเฟิ่งเซียนรีบเข้าเรื่องที่ตนกับพี่ชายมาพบญาติผู้พี่ที่นี่ “มีข้ากับพี่ใหญ่ลงมือทุกอย่างไม่มีผิดพลาดเจ้าค่ะ และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เพียงแต่ว่าพวกเราอาจต้องไปแคว้นหนานหยางอีกครั้ง เพื่อสั่งสอนคนบางคนให้รู้จักหลาบจำเจ้าค่ะ”ฟงเหยาเ

  • ข้าคือทายาทของโรงปักผ้าอันดับหนึ่งแห่งเป่ยชาง   รับผิดไปซะเว่ยซื่อจื่อ

    เว่ยซื่อจื่อแม้รู้สึกขุ่นเคืองและไม่พอใจ ที่ถูกสองพี่น้องลากตนเองกับองครักษ์ เข้ามาในวังหลวงเพื่อพบฮ่องเต้อย่างที่หยางเฟิ่งเซียนพูดเอาไว้ แม้แต่ทหารที่เฝ้าอยู่หน้าประตูวังหลวง ยามที่เห็นสองพี่น้องก็ยอมเปิดทางอย่างง่ายดาย ไม่มีท่าทีการตรวจตราที่เคร่งครัดเช่นคนอื่นเลยสักนิด ตอนนี้เว่ยซื่อจื่อคล้ายจะรู้ถึงชะตากรรมของตนเองเสียแล้วภายหลังเขามาถึงด้านในวังหลวง หยางเฟิ่งเซียนย่อมพาคนไปยังตำหนักซือหนิงกงของไทเฮาทันที ตลอดทางเดินที่พบนางกำนัลหรือขันที พวกเขาหยุดทำความเคารพหยางเฟิ่งเซียนและหยางซิวหรงทุกคน ชิงฉางองครักษ์ส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ สังเกตเห็นพระนัดดาคนโปรดทั้งสอง เดินใกล้ถึงตำหนักซือหนิงกงเข้าไปทุกที เขาจึงเข้าไปถวายรายงานเรื่องนี้แก่ไทเฮาและฮ่องเต้ให้ทรงทราบ“ทูลฝ่าบาทคุณชาย คุณหนูจากตระกูลหยาง กำลังมุ่งหน้ามายังตำหนักของไทเฮา เพียงแต่มิได้มากันเพียงลำพังสองคนพ่ะย่ะค่ะ”“โอ๋ว หลานของเจิ้นกลับจากทำภารกิจแล้วหรือนี่ ถ้าพวกเขามาถึงปล่อยให้เข้ามาได้เข้าใจไหม”“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”ไทเฮาจากเดิมมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ยามที่ต้องแสร้งทำพระพักตร์ให้อ่อนโยน เพื่อสนทนากับเว่ยอ๋องผู้มาเยี่ยมเยียน เมื่อ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status