ซึ่งมันก็มีเหตุผลจึงคิดไปทางเดียวกัน คือทำการค้าให้ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่านี้ แต่คงต้องรอหลังสงครามจบลงเสียก่อน ค่อยคิดเรื่องขยายร้านอาหารไปที่เมืองอื่น และยังต้องคิดก่อนว่าจะเปิดกิจการที่เมืองใดบ้าง ทุกอย่างต้องวางแผนให้รัดกุมในทุกขั้นตอนเมื่อหมดเรื่องกังวลใจแล้ว จึงหารือเรื่องการเพาะปลูกผักและทำหมูแดดเด
หลิ่วอานเห็นว่าลู่เวินยืนยันอย่างหนักแน่น จึงวางใจกับเรื่องนี้และเริ่มเคาะเกราะไม้ เพื่อส่งสัญญาณให้ชาวบ้านทุกคน รีบมายังลานกลานหมู่บ้าน หนึ่งเค่อต่อมาทุกครอบครัว ล้วนมารวมตัวกันครบทุกคน “ทุกคนเงียบ ๆ กันหน่อย ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามาประชุมร่วมกัน ตอนนี้มีคนต้องการจ้างงานพวกเจ้าทุกครอบครัว และการทำงานก
กองทัพที่มีหลายแสนนายของแคว้นฉู่ นำโดยแม่ทัพใหญ่เซียวชินอ๋อง ที่เคลื่อนทัพจากเมืองหลวง มายังชายแดนของเมืองหย่งจิน การเดินทางไกลครั้งนี้ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว เหลืออีกเพียงสองสัปดาห์เท่านั้น ทหารทุกนายจะได้พักผ่อนให้เต็มที่ ก่อนจะเริ่มทำศึกกับแคว้นตงหนานแม้จะเป็นการเดินทางที่เร่งรีบอยู่บ้าง แต่ทหารนับแ
เมื่อได้รู้ว่ามีวิธีเตรียมดินและการบำรุงดินก่อนเพาะปลูก พวกเขาก็จดจำเอาไว้เพื่อนำกลับไปทำในที่ดินของตนเองบ้าง และผลที่ได้ก็เป็นที่น่าพอใจมาก นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้มีผักสีเขียวสดใส ในที่ดินของครอบครัวเพื่อใช้ทำอาหาร ทุกคนจึงได้ทำตามวิธีนี้กันอย่างถ้วนหน้าการเพาะปลูกพืชผักจากการจ้างชาวบ้านแถบเมื
หน้าที่เก็บกวาดรวมถึงการทำความสะอาด เป็นของลู่จื้อกับลู่เสียน เพราะลู่ชิงกับมารดาทำอาหารไปแล้ว จึงสมควรนั่งพัก พูดคุยกับบิดา และพี่ชายเซียวไปก็พอ“ท่านพ่อเมื่อครู่ท่านกับพี่ชายเซียว กำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่หรือเจ้าคะ บอกพวกเราด้วยจะได้หรือไม่” ลู่ชิงที่สงสัยอยู่ก่อนแล้วรีบถามกับบิดาทันที“ไม่มีอะไ
ผ่านมาอีกหลายวันจนถึงวันที่ต้องเก็บเกี่ยวผัก ที่ปลูกเอาไว้ยังเมืองหย่งจินและตำบลหย่งฝู ชาวบ้านเตรียมมีดตัดผักและตะกร้าสานใบใหญ่มากมาย เพื่อนำมาใส่ผักรวมถึงใบของเซียงเจียว สำหรับรองด้านล่างของตะกร้าใส่ผัก เซียวหนิงหลงมอบหมายให้ตันเจียงกับเจียวมิ่ง นำวิธีของลู่ชิงไปใช้ที่แปลงผักเมืองหย่งจินส่วนตัวเขา
เมื่อเข้าปลายยามเซินผักที่เขียวขจีเต็มแปลงดิน ตอนนี้ได้จัดลงในตะกร้าทั้งหมดแล้ว ที่เมืองหย่งจินจะยกขึ้นเกวียนวัวเตรียมเอาไว้ด้านในกำแพงเมืองใกล้กับประตู ด้านตำบลหย่งฝูมีทั้งรถม้าและเกวียนวัว ที่ฝากเอาไว้ด้านในพื้นที่ของศาลาว่าการ ซึ่งยามเฉินของวันพรุ่งนี้เซียวหนิงหลงกับตันเจียง จะต้องออกเดินทางไปชาย
“สามีของน้าพูดถูกแล้วล่ะ อาเซียวอย่าได้คิดเช่นนั้นเลย พวกเราดีใจมากกว่าที่ได้ยื่นมือช่วยเหลือเจ้า” ฟางซินเองก็คิดไม่ต่างกับสามี ครอบครัวของตนเป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่อาจไปสู้รบกับทหารที่แข็งแกร่งได้ เพียงการช่วยเหลือเล็ก ๆ ก็ถือว่าได้ช่วยอย่างเต็มที่แล้ว“พี่ชายเซียวท่านต้องจัดการแคว้นตงหนานให้ได้นะขอรั
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”