เซียวหนิงหลงกับกองทัพเริ่มออกเดินทางกลับเมืองหลวงได้เกือบสองสัปดาห์แล้ว เขาได้รับจดหมายที่เจียวมิ่งส่งมาบอกเล่าเรื่องการทำการค้าของลู่ชิงกับครอบครัว เพียงสงครามสงบได้ไม่ถึงสัปดาห์ นางก็มีสินค้าใหม่ส่งให้เถ้าแก่หงนำไปขายแล้ว ไหนจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเพิ่มอีก ยามนี้ยังมีแผนการขยายร้านเพิ่มที่เมืองหย่งจิ
“เจ้าหน้าที่กำลังไปแจ้งท่านเจ้าเมืองน่ะ อีกประเดี๋ยวคงจะออกมาแล้ว” ลู่เวินหันมาตอบฟางซินที่ตอนนี้พาลูก ๆ มายืนอยู่ด้านหลังของตนทุกคนแล้วทุกคนรออยู่ที่หน้าประตูไม่ถึงหนึ่งจิบชา เจ้าหน้าที่คนเดิมก็วิ่งกลับมาพร้อมกับแจ้งว่า ท่านเจ้าเมืองเชิญทุกคนเข้าไปพบ ที่ห้องโถงรับแขกของที่นี่ เจียวมิ่งให้ก้งเยว่ติ
“พวกเราตัดสินใจซื้อร้านนี้ ตามที่ท่านเจ้าเมืองแนะนำเลยขอรับ เรื่องเอกสารต้องรบกวนท่านเจ้าเมืองแล้ว” ลู่เวินเริ่มจะตื่นเต้นกับการได้กลับมาอยู่ในแวดวงการค้าอีกครั้ง แม้ว่าการค้าที่เริ่มต้นใหม่นี้จะเกี่ยวกับการทำอาหารก็ตาม“นี่เป็นเงินสำหรับซื้อร้านค้าเจ้าค่ะ ท่านเจ้าเมืองอุตส่าห์ลดราคาให้กับพวกเรา เช่
เพราะเสียงของฟางซินกับก้งเยว่ดังขึ้นพร้อมกัน ทำให้ลู่เวินรีบหยุดรถม้าทันที เพื่อจะถามกับทั้งสามคนที่อยู่ด้านใน ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงได้เรียกชื่อของลู่ชิงด้วยเสียงที่ดังเช่นนี้“เกิดอะไรขึ้นน้องหญิง ชิงเอ๋อร์เป็นอะไรเหตุใดถึงได้เรียกเสียงดังขนาดนี้” ลู่เวินเปิดผ้าม่านที่ปิดประตูรถม้าขึ้นเพื่อถามเรื่องร
“หุบปาก!! อย่าได้พูดมากอีกไม่งั้นข้าจะตบให้คว่ำเสียนี่ ข้าจะปล่อยเจ้าเพื่อแลกเศษเงินแค่เล็กน้อยไปทำไม แค่ข้าเอาพวกเจ้าไปส่งให้นายท่านก็ได้เงินเป็นกอบเป็นกำไม่รู้กี่เท่า รีบเดินเข้าอย่าได้คิดหาวิธีมาเกลี้ยกล่อมข้าเสียให้ยากเลย”“นี่อาจ้งครั้งนี้พวกเราสองคนหาสตรีไปส่งนายท่านได้ไม่น้อยเลยนะ ส่วนที่ได้ม
และจะออกเดินทางนำสตรีเหล่านี้ไปส่งให้กับเจ้านายที่รออยู่ สหายของข้าอีกคนติดตามพวกมันไปแล้ว ข้าจึงรีบมารายงานท่านเพื่อขอกำลังทหารไปช่วยพวกนาง พร้อมกับจับตัวคนร้ายมาสอบสวนขอรับ” เจียวมิ่งรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างทางให้เจ้าเมืองไป๋ได้ทราบ“นี่มันจะมากเกินไปแล้ว! บ้านเมืองเพิ่งจะสงบจากสงคราม พวก
“ชิงเอ๋อร์ แสดงว่าที่เจ้าขอแม่เข้ามิติในตอนกลางคืนเป็นเพราะเหตุนี้หรือไม่ หากเจ้าอยู่ในมิติจะไม่ได้ยินเสียงรบกวนพวกนั้นจึงจะนอนหลับได้สนิท” ฟางซินที่ตื่นมาดูลู่ชิงทุกวันตอนกลางดึก ก็สงสัยมาได้พักใหญ่แล้ว“ใช่เจ้าค่ะท่านแม่ หากข้ายังนอนอยู่ข้างนอกล่ะก็คงนอนไม่หลับ และยังรบกวนเวลานอนของท่านแม่ด้วยเจ้า
“ท่านเจ้าเมืองขอรับ ข้าคิดว่าแค่พูดดี ๆ คงไม่ได้ผลเท่าใดนัก คงต้องมีตัวอย่างให้เห็นเสียก่อน บางทีอาจจะช่วยกระตุ้นพวกเขาได้บ้างขอรับ เจ้าสองคนก่อนก็แล้วกัน เจียวมิ่งช่วยข้าลากไปที่หลุมหน่อยสิ” ก้งคุนผู้เป็นมือขวาในการทรมานนักโทษ ทนไม่ไหวกับพวกชั่วนี้เสียแล้ว“ตุบ!! ตุบ!!”“เอาล่ะ รบกวนทหารทุกท่านช่วย
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”