“พี่ชายเซียวกำลังปรับปรุงร้านค้าทั้งสองร้าน ป่านนี้คงใกล้จะเสร็จแล้วกระมังเจ้าคะ นำสินค้าไปเปิดขายที่เมืองหลวงย่อมดีแน่นอน การเดินทางอาจจะใช้เวลาสักหน่อยแต่ไม่เป็นปัญหา ต่อไปพวกท่านไม่ต้องเดินทางมารับสินค้าเองนะเจ้าคะ”“ไม่เป็นปัญหาอย่างไรหรือน้องเล็ก จากที่นี่ไปถึงเมืองหลวงก็ไกลอยู่พอสมควรนะ เจ้ามี
ก้งคุนปล่อยให้เจียวมิ่งนั่งอยู่กับพวกเต๋อหลิน ส่วนตัวเขากลับไปช่วยงานต่อ เพราะถึงอย่างไรเจียวมิ่งย่อมนำเรื่องที่คุยกันมาบอกพวกเขาสามคนอยู่ดี การได้นั่งดูสหายผู้มาจากเมืองหลวงทานอาหารเช่นนี้ ช่างคล้ายกับพวกตนตอนที่มาถึงตำบลหย่งฝูครั้งแรกจริง ๆ เมื่ออาหารทุกอย่างบนโต๊ะลงไปอยู่ในท้องของแต่ล่ะคนหมดแล้ว
“พวกเจ้าอุตส่าห์มารับสินค้าตั้งไกลข้ากับครอบครัวสมควรแล้วที่ต้องดูแลพวกเจ้า ยังต้องเดินทางอีกไกลอย่างไรก็ระมัดระวังตัวกันด้วย” ลู่เวินไม่ถือเป็นบุญคุณอะไร เขาคิดว่าพวกเต๋อหลินเป็นแขกมาเยือนจึงต้องดูแลอย่างดี“ขอรับ”“พี่เต๋อหลินกล่องนี้รบกวนท่านช่วยมอบให้ถึงมือของพี่ชายเซียวด้วยนะเจ้าคะ ห้ามแอบเปิดด
รอเพียงพวกเต๋อหลินนำสินค้ามาถึง ก็สามารถจัดวางสินค้าภายในร้านและเปิดกิจการได้ทันที ข้าจะรบกวนท่านพ่อช่วยอวยพรในวันเปิดกิจการและข้าได้ตั้งชื่อร้านค้าไว้ว่าสวีเฟิงฟู่ขอรับ” เซียวหนิงหลงบอกที่มาของขบวนสินค้าที่บิดาของตนสงสัย“อืม สินค้าของว่าที่ลูกสะใภ้จะวางขายที่เมืองหลวงแล้วงั้นรึ เช่นนั้นเจ้าต้องขาย
หลังจากไทเฮาเสด็จกลับมาถึงวังหลวง ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้จัดงานเลี้ยงอีกสองวันต่อจากนี้ เพื่อให้ไทเฮาได้พักผ่อน คลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกล เพราะพระองค์ก็ทรงมีพระชนมพรรษามากแล้วนั่นเองฮ่องเต้กับฮองเฮาจึงไปส่งไทเฮาถึงตำหนักหนิงจิ้งกง แต่ด้านหลังยังมีนางสนมตำแหน่งต่าง ๆ องค์ชายองค์หญิงอีกหลายพ
“อืม” แม้ใบหน้าจะเย็นชาเคร่งขรึมต่อหน้าผู้อื่น แต่พอได้ยินว่าลู่ชิงมีของฝากมาถึงตนก็ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย“นี่ขอรับซื่อจื่อ กล่องไม้นี้คุณหนูลู่ชิงถึงกับข่มขู่พวกข้าน้อยไว้เชียวขอรับ” เต๋อหลินวิ่งไปที่รถม้าหยิบเอากล่องไม้ออกมาได้ ก็วิ่งกลับมาหาเซียวหนิงหลง“ขอบใจมาก เจ้าไปทำงานต่อเถิด”“ขอรับ ข้าน้อย
จิ่งมู่อิงที่ยืนปรนนิบัติจิ่งไท่เฟยอยู่ด้านหลัง แอบใช้สายตาชำเลืองมองไปที่เซียวหนิงหลงอยู่บ่อยครั้ง แต่เซียวหนิงหลงไม่ได้สนใจจะมองตอบกลับไปแม้แต่น้อย ถึงอย่างไรนางยังคงมั่นใจว่าจิ่งไท่เฟยจะขอสมรสพระราชทานให้นางได้สำเร็จเมื่อการแสดงผ่านพ้นไปได้ไม่นาน ก็มีเสียงของขันทีด้านนอกประกาศการมาถึงของรัชทายาท
จิ่งมู่อิงที่ก่อนหน้านี้ยังมีความมั่นใจ เมื่อได้ยินคำประกาศกร้าวของเซียวหนิงหลง นางถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจปนกับความกลัว เพราะนางเคยได้ยินทหารพูดต่อ ๆ กันมาถึงความเหี้ยมโหดของเขา“เซียวซื่อจื่อมันจะมากเกินไปแล้วนะ เจ้ากล้าข่มขู่ทำร้ายหลานสาวอายเจียขนาดนี้เชียวรึ” จิ่งไท่เฟยแม้จะตกใจแต่ยัง
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”