เซียวหนิงหลงอยู่ช่วยรัชทายาท จัดการตัวปัญหาที่ถูกส่งมาก่อกวน ด้วยการเพิ่มโทษที่รุนแรงและโหดเหี้ยมขึ้นทีละขั้น คนงานบางคนถึงกับฝันร้ายไม่กล้าทำในสิ่งที่ถูกจ้างวานมา เพราะยังรักชีวิตตนเองอยู่จึงรีบรวมตัวขอกลับบ้านไม่ต้องการทำงานที่นี่อีกและเป็นไปตามที่ได้พูดไว้ว่า เซียวหนิงหลงจะอยู่เมืองหย่งชุoแค่เพี
“ฮึบ ท่านแม่เจ้าคะอยู่ข้างนอกลูกสาวของท่านคนนี้เรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้เชียวนะ แต่ตอนนี้อยู่ในบ้านและไม่มีคนแปลกหน้า ท่านแม่ให้อภัยสักครั้งนะเจ้าคะ นะ ๆ ๆ ๆ”“น้องเล็กมั่นใจใช่หรือไม่ ว่าตนเองเรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้น่ะ หรือว่าตอนนั้นจะเป็นอีกคนนึงที่สลับร่างเป็นนางมารร้าย เพราะอารมณ์โมโหมากจนเกินไปนะ”
ปรากฏว่ามันยังคงมีรสชาติเดิม จึงทำให้ทุกคนรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก เมื่อมาถึงเขตเมืองหลวง ลู่ชิงพาทุกคนไปที่บ้านหลังใหม่ ยามนี้มันถูกสร้างจนเสร็จเรียบร้อย ซึ่งวันนี้ชุนชานกับปาเซี่ยได้มาดูช่างหลวงเก็บรายละเอียด ของตัวบ้านแต่ละหลังอีกครั้งพอเห็นว่าลู่เวินกับบุตรชายทั้งสอง ขี่ม้านำเข้ามาโดยมีรถม้าจำน
“พวกเจ้านี่บอกกี่ครั้งแล้วไม่ต้องใช้คำราชาศัพท์กับข้า ดื้อกันทั้งบ้านจริง ๆ เชิญ ๆ ๆ เข้าไปนั่งด้านในดีกว่า”“แล้วนั่นทำไมถึงมีรถม้าสองคัน พวกท่านนำสิ่งใดมากันหรือสวีฮูหยิน”“อ่อ รถม้าคันเล็กด้านหลังนั่น เป็นผลไม้ที่ชิงเอ๋อร์นำมาจากแดนเหนือ เพื่อเป็นของฝากให้ทุกท่านเจ้าค่ะ”“จริงรึ!! นอกจากเฉ่าเหมยแ
“ตอนนี้คงอยู่ระหว่างเดินทางกลับ เพราะลุงให้อารักขารัชทายาทไปถึงแดนใต้อย่างปลอดภัย และช่วยทำภารกิจเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น”“อ่อ เป็นเช่นนี้นี่เองเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”และตอนนั้นเองที่ม่อหลัน นำบ่าวรับใช้ถือถาดผลไม้เข้ามา ทุกคนจึงได้หยุดพูดคุยกันและได้ลองทานผลไม้ ที่มีมากกว่าเฉ่าเหมยเพียงอย่างเดียว นั่นท
เซียวเยว่เล่อรีบปรับอารมณ์ก่อนจะถึงประตูทางเข้าวังหลวง และบอกลู่ชิงรวมถึงลู่จื้อกับลู่เสียน ไม่ต้องกังวลกับข่าวลือพวกนั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตนในการเอาคืนเอง“พี่ลู่จื้อ พี่ลู่เสียน เสี่ยวชิงพวกท่านไม่ต้องคิดมาก ก็แค่สตรีหน้าด้านไร้ยางอาย คิดจะสร้างข่าวลือเพื่อใช้เป็นหนทาง ส่งตัวของนางเข้ามาเป็นส
“คารวะท่านหญิงเซียวขอรับ วันนี้มาเข้าเฝ้าฝ่าบาทกับผู้ใดหรือขอรับ ข้าน้อยจะได้รายงานจ้าวกงกงได้ถูกขอรับ”“อ่อ วันนี้ข้าพาคู่หมั้นของซื่อจื่อ รวมถึงพี่ชายทั้งสองของนาง นำของฝากจากแดนเหนือมาถวายให้เสด็จลุงน่ะ รบกวนท่านช่วยรายงานให้ด้วยนะ”“ขอรับ รบกวนท่านหญิงและทุกท่านรอสักประเดี๋ยว ข้าน้อยจะรีบไปรายงา
“ลุกขึ้น ๆ ๆ รอให้เสร็จเรื่องที่เสี่ยวชิงร้องขอ พวกเราค่อยไปนั่งคุยด้านในนะ”“เพคะ /พ่ะย่ะค่ะ”“พี่ต่งไช่ พี่ต่งซวิน รบกวนพวกท่าน ช่วยตรวจสอบอาหารว่างอีกครั้ง ขอย้ำว่าต้องตรวจอย่างละเอียดนะเจ้าคะ” แค่คำที่ลู่ชิงเน้นย้ำกับพวกเขาสองคน ย่อมแปลความหมายได้ว่า ในอาหารว่างชามนี้ต้องมีบางอย่างผิดปกติ“ขอรับ
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”