ข่าวการเดินทางของเยี่ยเกาจงเป็นที่สนใจของชาวเมืองหลวงไม่น้อย จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่รู้ตื้นลึกหนาบางของเยี่ยเกาจง มานั่งคุยกันเสียงเบา ๆ พวกเขาไม่เชื่อว่า การที่ฮ่องเต้ส่งเยี่ยเกาจงออกจากเมืองหลวงเป็นเรื่องบังเอิญแต่อย่างใด ขุนนางที่เอาแต่ประโยชน์ส่วนตนเช่นนั้น หากไปพ้นเมืองหลวงอาจมีแผนการร้ายก็เป็นไ
“หากคุณหนูทำขายที่ร้านจริง ๆ ย่อมขายดีไม่ต่างกับอาหารอย่างอื่นแน่ พวกข้าเชื่อในฝีมือของท่านขอรับ”“คิ คิ ไอหยา พวกท่านก็อย่าชมข้ามากเกินไปนักเลย ประเดี๋ยวข้าก็ตัวลอยกันพอดี”“พวกเขาพูดถูกนี่นาชิงเอ๋อร์ของแม่ฝีมือล้ำเลิศ ใครได้กินอาหารฝีมือเจ้าล้วนติดใจหมดทุกราย รวมถึงแขกที่เพิ่งมาถึงด้วยอีกคนนะ”“หื
“ชิงเอ๋อร์จะลืมได้อย่างไรกันมีคนเป็นห่วงอยู่ทางนี้ ถ้าไม่มีจดหมายส่งมาถึงคงจะเป็นห่วงจนอกแตกตายแน่ ๆ”“รู้ตัวก็ดีแล้ว ว่าแต่เจ้าซูฉีเจวี่ยนนี่จะทำขายในร้านอาหารหรือไม่ พี่คิดว่ามันทานง่ายและอร่อยมากด้วยนะ แต่ถ้าขายแพงเกินไปคนอาจจะไม่ซื้อ”“ย่อมต้องมีรายการอาหารนี้เพิ่มเข้าไปในร้านอยู่แล้วเจ้าค่ะ ส่ว
การเปิดตัวขายซูฉีเจวี่ยนเป็นที่สนใจของลูกจ้างทั่วไปมาก เพราะราคาไม่แพงเกินไปแต่พวกเขาไม่ได้ซื้อทุกวัน เพียงแค่เก็บเงินสองสามวันค่อยมาต่อแถวซื้อไปทาน หรือสั่งจองไว้ก่อนแล้วเช้าวันที่มาทำงานก็พาคนในครอบครัวมาด้วย เพื่อรับซูฉีเจวี่ยนกลับไปที่บ้านให้คนอื่นได้ลองชิมบ้าง แม้แต่คนที่ไม่ชอบกินผักได้ลองแล้วย
“จะมาวันพรุ่งนี้จำนวนสามร้อยคนเจ้าค่ะ มีทั้งบุรุษและสตรีปะปนกันไปห้องพักก็พร้อมแล้ว ประตูเชื่อมเขตจวนด้านแปลงผักก็ใช้งานได้ดีเช่นกัน ชุดเครื่องนอนและสิ่งของจำเป็นถูกจัดวางไว้ครบเรียบร้อย เหลือเพียงแค่คนเข้ามาอยู่เท่านั้นเจ้าค่ะ ส่วนการอธิบายเรื่องของใช้คงต้องรบกวนพวกพี่ ๆ อีกครั้งนะเจ้าคะ”“คุณหนูวา
ขบวนเดินทางของผู้อื่นอาจจะล่าช้าค่อยเป็นค่อยไป แตกต่างกับขบวนของลู่ชิงที่ทุกคนใช้ม้าเป็นพาหนะ จึงเดินทางได้เร็วกว่าหลายเท่า ค่ำไหนนอนนั่นแม้จะเป็นเขตเมืองก็กางกระโจมนอนข้างทาง เพราะจะให้คนนับร้อยเข้าพักในโรงเตี๊ยมทั้งหมด เกรงว่าคนอื่นคงต้องนอนข้างทางแทน ตลอดการเดินทางแรก ๆ ดูจะไม่มีอะไรยุ่งยาก แต่เม
ลู่จื้อกับลู่เสียนรวมถึงทุกคน ที่กำลังช่วยกันกางกระโจมยังไม่ทันเสร็จ ต่างแปลกใจเมื่อเห็นสตรีทั้งสามขี่ม้ากลับมา ดูท่าทางจะรีบร้อนมากอีกด้วย ลู่จื้อวางของทุกอย่างในมือแล้ววิ่งไปหาลู่ชิงอย่างเป็นห่วง เมื่อเจ้าไป๋เซ่อหยุดอยู่กับที่จึงรับลู่ชิงลงทันที พร้อมกับคำถามที่ตนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น“น้องเล็กเจ้า
เจียวมิ่งกับก้งเจี้ยเมื่อเห็นสัญญาณ ก็ตามไปพบก้งคุนจากนั้นจึงปลอมตัวเป็นบ่าว เข้าไปช่วยยกอาหารดูแลความเรียบร้อยในงานเลี้ยง เพื่อฟังเรื่องราวต่าง ๆ ที่คนเหล่านี้พูดคุยกัน“ฮ่า ๆ ๆ วันนี้พวกเรามาฉลองให้กับความร่ำรวยล่วงหน้ากัน พรุ่งนี้ท่านนักพรตจิ้นไถจะทำพิธีบูชาเทพอีกครั้ง ข้าได้สั่งให้ทหารไปบอกชาวบ้
เป๊าะ!! “ยินดีต้อนรับแขกที่มาเยือนยามวิกาล ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามีกิจธุระอันใดที่นี่หรือ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะถึงเพียงนี้”“พวกข้าจะมีกิจธุระหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า หลีกไปถ้าไม่อยากเจ็บตัว พวกข้าแค่ต้องการพาคนไปจากที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องการทำร้ายใคร”“อ้ออ คนที่เจ้าต้องการคงจะเป็นเยี่ยเกาจงนั่นกระมัง คน
“ท่านแม่ทัพข้าน้อยเสียงอวิ๋นขอรับ”“เสียงอวิ๋น เข้ามาแล้วปิดประตูซะ”“ขอรับ” แอ๊ดด กึก“มีเรื่องอันใด ยามนี้เจ้าต้องดูแลการฝึกอยู่ที่ค่ายทหารมิใช่หรือ ถ้าเกิดปัญหาแค่ส่งทหารมาแจ้งให้ข้าทราบก็พอกระมัง”“เมื่อยามเว่ยข้าน้อยได้รับจดหมายที่มาจากใต้เท้าเยี่ย จึงนำมันมาให้ท่านแม่ทัพโดยตรง เรื่องนี้ข้าน้อย
ขุนนางฉ้อฉลถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูง ขุนนางบางกลุ่มที่เพิ่งจะรวมตัว และคิดจะสร้างอำนาจให้ตนเอง จำต้องหยุดความคิดนั้นเอาไว้ทันที เมื่อการประหารเจ็ดชั่วโคตรของตระกูลฉุนเกิดขึ้นต่อจากตระกูลเหลียวกลุ่มอำนาจตระกูลใหญ่ยังถูกตรวจสอบ เพื่อค้นหาหลักฐานที่ซุกซ่อนไว้ออกมาจนได้ แล้วพวกตนท
ฉุนจิ้งหานและคนในตระกูลเดินพ้นประตูมาได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งก้อนหิน ผักเน่า ๆ ต่างลอยมากระทบตามร่างกายทันที เพราะชาวบ้านที่ได้ยินการประกาศถึงความผิดของฉุนจิ้งหาน ทำให้พวกเขารับไม่ได้กับเรื่องที่สนับสนุนให้มีการก่อกบฏโป๊ะ โป๊กก โอ๊ยยย“ขุนนางชั่วคิดจะทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนกันหมด แต่ตนเองกับครอบครัวอยู
“กระหม่อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเถิด ในที่สุดขุนนางชั่วในราชสำนักก็ถูกกำจัดไปอีกหนึ่ง เจ้าเองก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเล่า เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาประเดี๋ยวงานที่ยังค้างอยู่จะไม่เสร็จเอาได้”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”ซ่งจูเก๋อที่ถูกคนสนิทปลุกขึ้นมากลางดึก ย่อมตกใจระคนแปลกใจที่ชิ
“ขอรับท่านพ่อ”“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”“ฉุนจิ้งหาน เจ้ามันร้ายเงียบจริง ๆ แม้แต่เปิ่นหวางยังมองข้ามเจ้า หลังจากนี้คงต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมเสียแล้ว”ชุนชานกับปาเซี่ยไม่อยู่เฝ้าเฉย ๆ พวกเขาช่วยกันแยกของมีค่า ที่เป็นของเก่าแก่ของราชวงศ์แยกไว้ต่างหากกับทองคำแท่ง เซียวหนิงหลงไปพบแม่ทัพเสวี่ยบอกเล่า
จนสะดุดตาเข้ากับกล่องไม้ใบที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังห้อง มันมีแม่กุญแจล็อคไว้อย่างดี ชุนชานจึงถือออกมารอให้ชินอ๋องมาถึง ค่อยให้เจ้านายเปิดด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้สำรวจดูเครื่องประดับและของตกแต่งอีกหลายอย่าง ที่ควรจะอยู่ในวังหลวงมากกว่าอยู่ที่นี่อีกหลายชิ้น ปาเซี่ยที่ใช้ความเร็วจนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
ชุนชานกับปาเซี่ยคอยติดตามจับตาดู การกระทำในแต่ละวันของฉุนจิ้งหาน ว่าไปที่ใด นัดเจอกับผู้ใดบ้างหรือไม่ หรือแม้กระทั่งยามที่ทำงานอยู่ ได้เรียกใครเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวไหม ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉุนจิ้งหานยังคงทำเช่นเดิมไม่มีสิ่งใดผิดปกติแต่ในเย็นวันหนึ่งในยามซวี ฉุนจิ้งหานได้ออกจากจวนตรงไปยังร้านขา
“ลูกพี่ท่านจะเสียงสั่นไปทำไม ก็แค่เด็กหนุ่มหน้านิ่งเพิ่งจะเริ่มฝึกวรยุทธ์กระมัง ที่แม่ทัพหลู่พูดเช่นนั้นเพราะเกรงใจ ที่เป็นบุตรชายของชินอ๋องก็เท่านั้น ถ้าอายุน้อยเท่านี้ฝีมือเก่งกว่าระดับแม่ทัพ คงสังหารคนได้มากมายแค่เพียงกระพริบตาแล้วล่ะ ลูกพี่อย่าไปเชื่อข่าวลือให้มากจะดะ ฉัวะ!! อ่ะ มะ ไม่จริง ตุบ”