หว่านหนิงมาหาท่านย่าที่เรือนของเขาตั้งแต่เช้า นางต้องการนำปลาเข้าไปขายในหมู่บ้าน แต่ไม่รู้จะต้องไปขายที่ตรงใด จึงได้มาถามกับป้าตู้ ตอนนั้นเขาเพิ่งออกมาจากห้องนอนพอดีจึงได้เห็นนางเข้า
“ท่านป้าตู้ ท่านพอจะบอกข้าได้หรือไม่ว่าควรจะไปขายที่ใดของหมู่บ้านเจ้าคะ” หว่านหนิงแบกถังน้ำมาด้วยสองถัง
ตัวของนางบอบบางจนแทบมิอาจจะยกถังน้ำทั้งสองมาด้วยตนเองได้
“อาเฉียงไปที่ใดเล่า เหตุใดปล่อยให้เจ้ายกของหนักเช่นนี้” ป้าตู้อดที่จะเอ่ยถามออกมาไม่ได้
“อย่าไปพูดถึงบุรุษสารเลวเช่นนั้นเลย ตั้งแต่เมื่อวานเขายังมิได้กลับเรือน” นางโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ
“อาหนิงเอ๋ยยยย” ป้าตู้อดที่จะเห็นใจนางไม่ได้
“ช่างเถิดเจ้าค่ะ ท่านพอจะบอกข้าได้หรือไม่”
“ไป ไปข้าจะพาไป” ป้าตู้จะเข้ามาช่วยหว่านหนิงนางยก แต่นางกลับปฏิเสธจะให้ป้าตู้พาไปแล้วยังจะขอให้นางช่วยยกอีกรึ
“ไม่ต้องเจ้าค่ะ ข้ายกเองได้ ท่านเพียงเดินนำทางก็พอ” หว่านหนิงกำลังจะยกถังน้ำที่มีปลาอยู่เต็มขึ้น
แต่ก็ถูกฝ่ามือหนาของตู้ลู่จื้อที่ไม่รู้ว่าเดินมาที่พวกนางตั้งแต่เมื่อใด แย่งยกตัดหน้านางก่อน
“ทะ ท่าน ข้ายกเองเจ้าค่ะ” นางที่กำลังจะแย่งมา แต่ถูกเขาเบี่ยงตัวหลบ
“ท่านย่านำทางเถิดขอรับ ข้าจะเดินไปส่งท่านกับนาง”
“แต่ว่า มันเป็นเรื่องของข้า จะให้พวกท่านมาลำบากไปด้วยได้อย่างไร” นางเม้มปากแน่น
“ท่านย่านำทางเถิดขอรับ” เขาไม่ได้ตอบนาง แต่หันไปบอกท่านย่าของเขาแทน
“เอาเถิดให้อาจื้อช่วยดีแล้ว เจ้าตัวเล็กเพียงเท่านี้ คงได้หยุดพักไปตลอดทาง”
“ขอบคุณพวกท่านมากเจ้าค่ะ ปลาส่วนของพวกท่านข้าเก็บไว้ให้แล้ว หากมีสิ่งใดให้ข้าช่วยพวกท่านบอกข้าได้เลยเจ้าค่ะ”
“เรื่องเพียงเท่านี้ เจ้าอย่าได้คิดให้มากความ ไปเร็วประเดี๋ยวชาวบ้านจะกลับไปเข้าครัวกันเสียก่อน”
ตู้ลู่จื้อไปส่งทั้งคู่ ก่อนที่เขาจะเดินกลับเรือนมา เมื่อกลับมาล้างเนื้อล้างตัวคิดจะออกไปดูทั้งสองว่าเป็นเช่นใดบ้าง หลี่เฉียงก็มาตามหว่านหนิงเสียก่อน
“เพ้ย” หลี่เฉียงสบถออกมา ก่อนจะปล่อยตัวตู้ลู่จื้อ แล้วเดินเข้าไปตามหาหว่านหนิงในหมู่บ้าน
หว่านหนิงกับป้าตู้ ที่นำปลามาขายที่กลางหมู่บ้าน ชาวบ้านให้ความสนใจปลาของนางอยู่ไม่น้อย ไม่รู้ว่านางใช้วิธีใดจับปลามาได้กันแน่
แต่ก็ไม่มีผู้ใดคิดจะเอ่ยถามนาง ทุกคนล้วนมีเส้นทางการทำมาหากินของตนเอง หว่านหนิงนางขายตัวละสามสิบอิแปะเท่านั้น เพียงไม่นานปลาที่นางนำมาทั้งสองถังก็ถูกซื้อไปจนหมด
การค้าครั้งนี้นางได้เงินมาถึงหกร้อยอิแปะ ถึงจะไม่มาก แต่หากนำมาขายเรื่อย ๆ นางก็จะมีเงินมากพอให้หาซื้อผ้าและเส้นด้ายมาไว้ปักผ้าตามที่นางต้องการ
“พรุ่งนี้จะมีมาอีกหรือไม่” สตรีวัยกลางคนที่ซื้อไม่ทันก็เอ่ยถามขึ้นมาอย่างมีความหวัง
“หากจับได้อีก ข้าต้องมาขายแน่นอนเจ้าค่ะ” นางยิ้มหวานเอ่ยตอบ
หากมีมาขายทุกวันจะไม่ดูน่าสงสัยเกินไปหรอกรึ ว่าเหตุใดนางถึงได้จับปลาได้ง่ายนัก ชาวบ้านที่หากินเก่งๆ ยังจับปลาเป็นๆ มาไม่ได้เช่นนาง
หว่านหนิงกับป้าตู้เก็บถังไม้แล้วพากันเดินกลับไปที่เรือน ระหว่างหว่านหนิงก็พบหลี่เฉียงที่เดินหานางอย่างร้อนใจ
“เจ้าไปทำอันใดในหมู่บ้าน” เขาเร่งฝีเท้าเข้ามาหานาง
หว่านหนิงนางไม่พูดสิ่งใดกับเขา เพียงแต่หันไปพูดคุยกับป้าตู้แทน
“ท่านป้าวันนี้ข้าขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ อีกประเดี๋ยวข้าจะนำปลาไปให้ท่านที่เรือน ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ” นางก้มหัวให้ป้าตู้
“ไปเถิด เจ้าคงยังมิได้กินอันใด ไม่ต้องรีบร้อน เรือนอยู่ติดกันเจ้าจะนำมาให้ข้าเมื่อใดก็ย่อมได้” ป้าตู้โบกมืออย่างไม่ใส่ใจ ดูท่าทางของหลี่เฉียงอีกไม่นานเรือนตระกูลหลี่คงได้มีเสียงทะเลาะกันออกมาแน่
หว่านหนิงถือถังน้ำกลับเรือน โดยไม่คิดจะสนใจหลี่เฉียงสักนิด แม้ว่าเขาจะมาแย่งของจากมือนางเพื่อไปถือ นางก็ไม่ยอมปล่อยมือจากถังน้ำง่ายๆ
“หนิงหนิง เจ้าอย่าได้ทำเช่นนี้ได้หรือไม่” หลี่เฉียงเอ่ยออกมา ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อยที่เขาหายไปทั้งคืนเช่นนี้
“...” นางยังคงเร่งฝีเท้ากลับเรือนโดยไม่สนใจคำพูดของเขา
“ข้าซื้อของมาเพิ่มให้เจ้าเยอะเลย ทั้งยังมีเงินกลับมาให้เจ้าอีกหลายสิบตำลึง” เสียงที่กระตือรือร้นของเขาทำให้นางยิ่งโมโห
หว่านหนิงกัดฟันแน่น ใบหน้าของนางแดงก่ำไปด้วยโทสะ หลี่เฉียงไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าคำพูดของเขายิ่งทำให้นางนึกรังเกียจเขามากกว่าเดิม
เมื่อทั้งคู่ถึงเรือน หลี่เฉียงรีบไปนำของที่ตนซื้อมาให้หว่านหนิงนางดู พร้อมทั้งยื่นถุงเงินที่เขาได้มาจากการเล่นพนันให้นาง เขามองนางด้วยดวงตาเป็นประกายหวังว่านางจะชื่นชมเขาสักประโยค
“...” แต่นางไม่คิดจะพูดสิ่งใด
“เจ้าไม่ดีใจรึ ข้าช่วยเจ้าหาเงินได้เลยนะ” เขามองนางอย่างไม่เข้าใจ
“หลี่เฉียง ข้าจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น หากท่านไม่คิดจะหย่าก็ไม่เป็นอันใด เพียงแต่ข้ามิอาจอยู่ร่วมเรือนกับท่านได้” นางมองเขาด้วยสายตาเย็นชา
“จะ เจ้า เจ้าพูดอันใด” เขายังไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ถูกต้อง
“ก็ตามที่เจ้าได้ยิน ข้าให้ป้าตู้ช่วยดูเรือนในหมู่บ้านที่ปล่อยเช่าให้ข้าแล้ว” นางหันหลังเดินเข้าไปในห้องครัว ตั้งแต่เช้านางยังไม่ได้กินอะไรเลย
“ไม่ ไม่ หนิงหนิง ข้าไม่ให้เจ้าไป เจ้าไม่พอใจสิ่งใดก็บอกข้าเถิด” เขาเดินตามนางเข้าไปในครัวติดๆ
“ท่านเคยคิดหรือไม่ว่าสิ่งที่ท่านทำมันผิด ข้าเคยบอกท่านแล้วว่าอย่าได้กลับไปเล่นพนันอีก แต่ท่านก็ยังทำ ต่อให้ข้าไม่มีเงิน ข้าก็ไม่ต้องการเงินที่ได้มาจากการพนันของท่าน” หว่านหนิงเริ่มหมดความอดทน ดวงตาของนางแดงก่ำไปด้วยความโกรธ
มือทั้งสองกำแน่น ความจริงนางอยากจะทุบตีเขาให้นอนหยอดน้ำข้าวสักสามวัน แต่นางรู้ว่าถึงทำเช่นนั้น เขาก็ไม่มีทางเลิกเล่นการพนันได้ ทางที่ดีที่สุดคือหลีกหนีไปให้ไกลจากบุรุษเช่นนี้
“แต่ข้าอยากช่วยเจ้าหาเงิน” เขามองนางอย่างไม่เข้าใจ เขาไม่อยากให้นางต้องเหนื่อยจับปลาทุกวัน
“มันมีหลายหนทางในการหาเงิน วันนี้ท่านเล่นได้ แล้ววันต่อไปเล่าเคยคิดหรือไม่ หากท่านมีความคิดสักนิด ท่านจะรู้ว่าที่ผ่านมาบิดาของท่านต้องหมดเงินกับท่านไปมากเพียงใด” หากอยู่เฉยๆ นางยังจะนึกขอบคุณเขามากกว่า
หลี่เฉียงเม้มปากแน่น ข้อนี้เขาไม่อาจจะเถียงนางออกมาได้ เขาอ้าปากอยู่หลายหนเพื่อแก้ตัว แต่ก็ต้องกลืนคำพูดทั้งหมดลงคอไป
“หนิงหนิง ข้าขอโทษ”
“ครั้งที่แล้วท่านก็พูดเช่นนี้ เชื่อข้าต่อไปจะมีสตรีที่เหมาะสมกับท่านที่ไม่ใช่ข้า” หว่านหนิงนางหันไปจุดไฟเพื่อทำอาหาร
หลี่เฉียงภายในอกของเขาสั่นสะท้านขึ้นมา เมื่อรู้ว่าครั้งนี้เขาต้องเสียนางไปอย่างแน่นอน เขาพุ่งตัวเขาไปกอดหว่านหนิงจากด้านหลังไว้แน่น“ทะ ท่าน ท่านปล่อยข้าประเดี๋ยวนี้นะ” นางดิ้นอย่างไม่ยินยอม“หนิงหนิง ข้ายอมแล้ว ยอมทุกอย่าง แต่เจ้าอย่าได้ทิ้งข้าไว้ลำพังได้หรือไม่”“เหอะ ท่านก็ไปหาสตรีอื่นมาอยู่ด้วยสิ ในหมู่บ้านย่อมต้องมีสักคนที่หลงรูปของท่าน” นางยังคงดิ้นเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา“ไม่ หนิงหนิง ข้าต้องการเพียงแค่เจ้า” เขากอดนางไว้แน่นกว่าเดิม“ปล่อย ข้าหายใจไม่ออก หากท่านต้องการข้า ท่านคงไม่ทิ้งข้าไว้ผู้เดียวทั้งคืน ทั้งยังนำเงินที่ข้าหามาอยากยากลำบากไปเล่นพนัน” นางเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยใจยิ่งคิดว่าต้องจับปลาเมื่อวานมากเพียงใด นางก็ปวดใจมากขึ้น ความหวังที่จะได้มีเงินมาลงทุนซื้อผ้ามาปักขาย แต่เขากลับซื้อมาให้นางเพียงเล็กน้อย แล้วนำเงินที่เหลือไปเป็นทุนเล่นพนัน“หนิงหนิง ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว ให้โอกาสข้าได้หรือไม่” เขาซุกหน้าลงกับซอกคอของนาง“หลี่เฉียง ข้าเคยให้โอกาสท่านไปแล้ว คนเราไม่มีโอกาสแก้ตัวบ่อยครั้งนักหรอกนะ”หากมีโอกาสแก้ตัวจริง วันนั้นนางคงไม่ต่อว่าเทพชะตาเช่นนั้น และคงไม่ดื่
หว่านหนิงมาหาท่านย่าที่เรือนของเขาตั้งแต่เช้า นางต้องการนำปลาเข้าไปขายในหมู่บ้าน แต่ไม่รู้จะต้องไปขายที่ตรงใด จึงได้มาถามกับป้าตู้ ตอนนั้นเขาเพิ่งออกมาจากห้องนอนพอดีจึงได้เห็นนางเข้า“ท่านป้าตู้ ท่านพอจะบอกข้าได้หรือไม่ว่าควรจะไปขายที่ใดของหมู่บ้านเจ้าคะ” หว่านหนิงแบกถังน้ำมาด้วยสองถังตัวของนางบอบบางจนแทบมิอาจจะยกถังน้ำทั้งสองมาด้วยตนเองได้“อาเฉียงไปที่ใดเล่า เหตุใดปล่อยให้เจ้ายกของหนักเช่นนี้” ป้าตู้อดที่จะเอ่ยถามออกมาไม่ได้“อย่าไปพูดถึงบุรุษสารเลวเช่นนั้นเลย ตั้งแต่เมื่อวานเขายังมิได้กลับเรือน” นางโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ“อาหนิงเอ๋ยยยย” ป้าตู้อดที่จะเห็นใจนางไม่ได้“ช่างเถิดเจ้าค่ะ ท่านพอจะบอกข้าได้หรือไม่”“ไป ไปข้าจะพาไป” ป้าตู้จะเข้ามาช่วยหว่านหนิงนางยก แต่นางกลับปฏิเสธจะให้ป้าตู้พาไปแล้วยังจะขอให้นางช่วยยกอีกรึ“ไม่ต้องเจ้าค่ะ ข้ายกเองได้ ท่านเพียงเดินนำทางก็พอ” หว่านหนิงกำลังจะยกถังน้ำที่มีปลาอยู่เต็มขึ้นแต่ก็ถูกฝ่ามือหนาของตู้ลู่จื้อที่ไม่รู้ว่าเดินมาที่พวกนางตั้งแต่เมื่อใด แย่งยกตัดหน้านางก่อน“ทะ ท่าน ข้ายกเองเจ้าค่ะ” นางที่กำลังจะแย่งมา แต่ถูกเขาเบี่ยงตัวหลบ“ท่านย่านำทางเถ
หลงจู๊รู้ข่าวจากเสี่ยวเอ้อว่ามีชาวบ้านนำปลาเป็นๆ มาขายก็รีบเร่งมาตรวจดูของด้วยตนเองทันที“สวรรค์ ยังไม่ตายจริงด้วย” เขามองปลาที่ยังมีชีวิตอย่างพอใจ ปลาเช่นนี้หากขายในวันแรกไม่หมดก็ยังสามารถเก็บไว้ได้ เหลาอาหารย่อมต้องการเป็นอย่างมาก“ท่านรับซื้อหรือไม่” หลี่เฉียงเร่งถามทันที เขายังต้องไปซื้อของที่หว่านหนิงนางสั่งอีกมาก“ซื้อๆ อาต๋า เจ้ารีบนำปลาไปชั่งเร็วเข้า”หลี่เฉียงขวางทางไว้ไม่ให้เสี่ยวเอ้อเข้าไปยกของลงจากเกวียนวัว“ประเดี๋ยว ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลยว่าจะซื้อเท่าใด”“อ้อ ใช่ ๆ จินละแปดสิบอิแปะ เจ้าเห็นเป็นเช่นไร” หลี่เฉียงยกยิ้มอย่างพอใจ“ได้” เขาเดินหลบไปอยู่ด้านข้าง เพื่อเปิดทางให้เสี่ยวเอ้อยกปลาไปชั่งปลาหลายสิบตัวที่หว่านหนิงนางจับมาได้ แต่ละตัวมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่าหนึ่งจิน บางตัวเกือบสามจินเลยทีเดียว“ท่านหลงจู๊ ทั้งหมดหกสิบจินขอรับ”หลี่เฉียงรีบคำนวณอย่างไว ว่าเขาจะต้องได้เงินเป็นจำนวนเท่าใด เขาต้องได้เงินทั้งหมด ห้าตำลึงเงินกับอีกสองร้อยอิแปะ นับว่าไม่น้อยเลยทีเดียว ตอนแรกคิดว่าจะได้ไม่เกินสามตำลึงเสียอีกหลงจู๊ยื่นเงินส่งให้หลี่เฉียง พร้อมทั้งบอกเขาว่าหากจับมาได้อีกให้นำมาขายท
หลี่เฉียงออกไปจัดการเรื่องเช่าเกวียนวัวที่จะเข้าเมือง หว่านหนิงนางส่งเงินให้เขาไปก่อนสิบอิแปะ เพื่อนำไปจ่ายค่าเกวียนวัว ส่วนที่เหลือจะให้ในวันพรุ่งนี้“ท่านแวะซื้อข้าวสารในหมู่บ้านมาให้ข้าก่อนสักหนึ่งจิน พรุ่งนี้เช้าข้าจะได้ทำอาหารให้ท่านก่อนออกไปขายปลา”“ได้” หลี่เฉียงแบมือขอเงินเพิ่ม“เท่าใด”“ข้าก็ไม่รู้” เขาเคยซื้อของพวกนี้เสียที่ไหน“เช่นนั้นเอาไป แล้วเอากลับมาคืนด้วย” นางส่งถุงเงินที่เหลืออีกสามสิบตำลึงให้เขา“รู้แล้ว เงินเจ้าข้าไม่เอาหรอก” หลี่เฉียงเบ้ปากอย่างไม่พอใจ เงินไม่กี่สิบอิแปะเขาจะเอาไปทำไม“แล้วรีบกลับมาด้วย อย่าได้แวะที่ใดเด็ดขาด” นางเอ่ยเตือนเขาก่อนที่จะออกจากเรือนไปอาหารที่หว่านหนิงนางทำไว้เพียงพอให้กินได้ถึงมื้อเย็นนางจึงไม่ต้องเหนื่อยทำเพิ่ม เมื่อเก็บกวาดเรือนในส่วนที่เหลือต่อจากเมื่อวานแล้วพอหลี่เฉียงกลับมาที่เรือนพร้อมกับข้าวสารหนึ่งจิน แล้วนำถุงเงินที่ว่างเปล่ากลับมาคืน นางจึงได้รู้ว่าข้าวสารมีราคาจินละสามสิบอิแปะ“เห้อ สามสิบอิแปะ ได้มาหนึ่งจิน จะกินได้กี่วัน” นางมองข้าวสารในถุงที่หลี่เฉียงส่งมาให้นาง“เอาเถิด พรุ่งนี้ข้าจะซื้อในเมืองมาให้มากเสียหน่อย ของใน
หว่านหนิงเห็นหลี่เฉียงออกมาจากห้องน้ำพร้อมทั้งเสื้อผ้าที่ซักเรียบร้อยแล้วของเขา นางก็อดที่จะนิ่งอึ้งไม่ได้ ถึงขนาดไม่ทิ้งเสื้อผ้าให้นางซักเอง คงจะโกรธนางไม่น้อยเลยทีเดียว“อาหารเสร็จแล้ว มาช่วยข้ายกเร็วเข้า” นางร้องเรียกเขาหลี่เฉียงก็เดินเข้ามาช่วยนางยกอาหารด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ไม่ได้ตื่นเต้นที่เห็นอาหารตรงหน้า“ท่านโกรธข้ามากเลยรึ” นางเอ่ยถามออกมาเมื่อเขาเอาแต่นั่งก้มหน้ากินไม่เอ่ยพูดกับนาง“อืม” เขาตอบรับเบาๆ“ข้าก็ขอโทษแล้วอย่างไร”“อืม”“เหอะ อยากจะงอนก็งอนไป” นางหยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจหลี่เฉียงจะเข้าใจคำว่างอนของนางได้อย่างไร เพียงแต่พอจะรู้ว่านางคงจะถากถางเขาอยู่แน่“ข้าถูกเปรียบเทียบกับอาเจิ้งตั้งแต่เล็ก เพราะข้าหัวไม่ดีสู้เขาไม่ได้ อยู่ในสำนักศึกษาก็ถูกเยาะเย้ย ข้าจึงหันไปติดพนันกับสุรา คนพวกนั้นจริงใจกว่าพวกบัณฑิตในสำนักศึกษาเสียอีก”หว่านหนิงมองเขาอย่างเห็นใจ หลี่เฉียงยังคงก้มหน้าก้มตากินอาหารของเขาต่อไปโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองนาง“ข้าว่าไม่ใช่เพราะท่านหัวไม่ดี เพียงแต่ท่านถูกเลี้ยงดูมาไม่ดีเสียมากกว่า อาเฉียงหากท่านเปลี่ยนแปลงตนเองได้ ก็จะไม่มีผู้ใดมาดูถูกท่านได้”หลี่เฉี
ป้าตู้นางกลับมาถึงเรือนพอดี จึงได้เข้ามาช่วยแก้ไขสถานการณ์ที่กระอักกระอ่วนหน้าเรือน“อาหนิงเจ้ามาเร็วเสียจริง” นางอดจะเย้าออกมาไม่ได้“ก็ข้ากลัวว่าท่านจะเปลี่ยนใจ” นางยิ้มจนตาหยี สองบุรุษที่ยืนอยู่ไม่ไกลมองรอยยิ้มของนางอย่างตกตะลึงเหมือนตู้ลู่จื้อจะรู้ตัวว่าตนกำลังทำสิ่งที่ไม่สมควร เพราะนางเป็นภรรยาของผู้อื่น สามีของนางก็ยังยืนอยู่ตรงนี้ด้วย“ฮ่า ฮ่า ข้าจะเปลี่ยนใจได้อย่างไร เจ้ารอประเดี๋ยวข้าจะรีบไปหยิบเงินมาให้” ป้าตู้รับปลาจากตะกร้าของหว่านหนิงแล้วเดินเข้าเรือนไป“เจ้าจับปลาได้อย่างไร” หลี่เฉียงเดินเข้ามากระซิบถามนางด้วยความอยากรู้“ท่านถอยไปหน่อย” นางยกมือขึ้นบีบจมูก พร้อมทั้งดันตัวเขาให้ออกห่าง“ข้าเหม็นมากเช่นนั้นรึ” หลี่เฉียงก้มลงดมเสื้อผ้าของตนเอง ก็ไม่เห็นจะเหม็นเหมือนที่นางรังเกียจ เพียงแค่สกปรกไปสักหน่อยก็เท่านั้น“ยังมีหน้ามาถาม” หว่านหนิงถลึงตาใส่เขา“หึหึ” ตู้ลู่จื้อหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางของหว่านหนิงที่กระทำกับหลี่เฉียง“เจ้าหัวเราะอันใด แล้วเหตุใดยังไม่เข้าเรือนไปอีก” เขาเดินมาบังตัวของหว่านหนิงไว้ให้พ้นจากสายตาของตู้ลู่จื้อ“ข้ารอปิดเรือน” เขาหยักไหล่อย่างไม