หวังเสี่ยวเซียนที่ตอนนี้เกิดอาการเซ็งสุดขีด เธอกำลังถ่ายวิดีโอของตัวเองอัพลงโซเชี่ยล หวังเสี่ยวเซียนทำวิดีโอจากการใช้ชีวิตแบบวิถีชนบทดั้งเดิม เธอเรียนจบปริญญาตรีสาขาพฤกษศาสตร์เพื่อมาปรับปรุงไร่ของเธอที่มีอยู่เพียงสามไร่ ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว คุณย่าเพิ่งจะเสียไปไม่นาน
รายได้จากการทำวิดีโอเดือนหนึ่งหลายแสนหยวน หากถามว่าเธอมีเงินไหมแน่นอนว่ามี แต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรหรือ เธอน่าจะถูกคนจ้างวานฆ่ามากกว่า เพราะจะมีโรงแรมขนาดใหญ่มาเปิดที่ชนบทบ้านของเธอหวังเสี่ยวเซียนเป็นผู้นำฝูงชนไปต่อต้านการก่อสร้าง จนกระทั่งถูกขู่มาหลายรอบ
"เฮ้อ ไอ้แสงเขียวๆที่ส่องฉันคงเป็นไรเฟิลสินะ แหม่จะฆ่าทั้งทีลงทุนขนาดนี้นับว่าชีวิตเจ๊นี่ราคาแพงใช่ย่อยเลยนะเนี่ย"
"คุณหนูเจ้าขา...ท่านไม่เป็นไรนะเจ้าคะ คงไม่ได้เสียใจจนเสียสติหรอกนะ"
เสียวฮวาบ่นอุบอิบเพราะกลัวคุณหนูของตนเองได้ยิน หวังเสี่ยวเซียนที่ตอนนี้ก็คือเซียวอี้เซียนได้แต่เดินมาหาสาวใช้ของร่างเดิมก่อนจะจับนางให้มองหน้า
"เสี่ยวฮวาน้อย...ข้าไม่ได้เสียใจแล้ว อีกอย่างไม่แต่งก็ดีเหมือนกัน จ้าวเฉิงเป็นบุรุษที่ไม่รู้จักพอ ทุกครั้งที่พาข้าไปอารามก็เพื่อตนเองจะได้เสพสุขกับสตรีอื่น เอาข้าไปบังหน้า"
"ห๊า..นี่มันๆ คุณหนูแล้วเหตุใดท่านยังอดทนเจ้าคะ"
"ท่านพ่อท่านแม่อยากให้ข้าแต่งข้าก็เลยยอม แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เสี่ยวฮวาเอาใบรายการสินสอดของสกุลจ้าวมาหน่อย"
สาวใช้ตัวน้อยนำสมุดบัญชีสินสอดมาให้กับคุณหนูของตน เซียวอี้เซียนรับมา เมื่อวานเขาแต่งงาน วันนี้คงยังหวานชื่น พรุ่งนี้อีกวัน มะรืนกลับบ้านเจ้าสาว หากให้จ้าวเฉิงตั้งตัวได้ต้องมาเอาสินสอดคืนแน่ๆ
สกุลจ้าวขึ้นชื่อเรื่องใจแคบ เช่นนั้นวันพรุ่งนี้น่าจะเหมาะที่สุด วันที่สามพวกเขาก้าวออกจากห้องหอก็น่าจะเกือบบ่าย นางคงขายของหมดแล้ว ก่อนจะถามสาวใช้ตัวน้อย
"เสี่ยวฮวา แล้วสมบัติบ้านเรามีอะไรบ้าง ให้ท่านพ่อบอกมา ข้าจะขายทอดตลาดหาเงินไปตั้งตัวที่เมืองอื่น เมืองหลวงแห่งนี้จอมปลอมเกินไป"
เสี่ยวฮวารับคำสั่งของคุณหนู จากนั้นก็รีบวิ่งไปหานายท่านเซียวบิดาของนาง ไม่นานในมือของเซียวอี้เซียนก็มีใบรายการทรัพย์สินของสกุลเซียวทั้งหมด ดูคร่าวๆจากสมบัติเหล่านี้ สามารถแปลเป็นเงินได้ถึงเจ็ดถึงแปดแสนตำลึง
แต่เรื่องของเก่าดูเหมือนพวกเขาจะไม่รู้เรื่อง มีไว้เพื่อครอบครองและรักษาไว้เท่านั้น แบบนี้ก็หวานนางสิ ขายให้หมด ไปแต่ตัวไม่ยึดติด อืมแบบนี้แหละดี
"เสี่ยวฮวาคืนนี้ไปหาขอทานมาหลายๆคนข้าจะให้พวกเขาช่วยทำงาน"
"คุณหนูคือว่า"
"อย่าสงสัยให้มากความไปได้แล้ว"
เมื่อเสี่ยวฮวาไปแล้ว เซียวอี้เซียนก็เริ่มเขียนใบโฆษณาชวนเชื่อ นางจะขายสินสอดในราคาขาดทุน แต่จะโก่งราคาสมบัติสกุลเซียว
เซียวหงมาหาบุตรสาว เห็นนางขีดๆเขียนๆก็ถอนหายใจ เสียงถอนหายใจไม่เบาเซียวอี้เซียนเงยหน้ามามองบิดาของตนก่อนจะวางพู่กันในมือแล้วลุกไปประคองเขา
"ท่านพ่อมาได้อย่างไรเจ้าคะ"
"ลูกกำลังทำอะไร เซียนเอ๋อร์สินสอดนั้นคืนพวกเขาไปเถอะ"
"ท่านพ่อ ที่ผ่านมาข้ายอมกล้ำกลืนทนเห็นเขาหลับนอนกับสตรีมากหน้า ทนฟังเสียงครวญครางยามพวกเขาร่วมรักกัน จ้าวเฉิงบอกว่าอีกหน่อยแต่งกับเขาเรื่องแบบนี้ย่อมหนีไม่พ้น เขาต้องสืบสกุลตอนนั้นข้าโง่เขลาเชื่อเขาทุกอย่าง ทั้งที่ความจริงแล้วนั่นต่างหากเป็นการเหยียดหยามข้า"
"มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ เฮ้อ พ่อผิดเองไม่ควรให้คนไปทวงถามเรื่องสัญญาแต่งงานเจ้ากับเขา พ่อคิดแค่ว่าสกุลจ้าวอาจจะดูแลลูกได้ดี เพราะท่านปู่เจ้าจากไปเราก็แทบจะไม่เหลืออะไร พ่อเป็นเพียงคนป่วยรับราชการก็ไม่ได้ แค่กๆๆ"
"เรื่องผ่านไปแล้วก็ช่างเถอะเจ้าค่ะท่านพ่อ จากนี้ไปข้าจะทำให้สกุลจ้าวอับอายจนเดินในเมืองหลวงไม่ไหว ที่กล้าทำให้จวนเซียวของเราต้องอัปยศ"
เซียวหงไปแล้วเขารู้สึกหนักอึ้งในใจ บุตรสาวคงเจ็บแค้นเมื่อวานถูกเจ้าบ่าวทอดทิ้ง นางผูกคอตายแต่กลับไม่ตาย มาวันนี้นางจะแก้แค้นแล้วอย่างไรเล่า สกุลเซียวมีค่าให้พูดถึงด้วยหรือ สกุลจ้าวเป็นถึงอำมาตย์ซ้าย
บิดาจากไปแล้ว ด้วยความที่ชาติก่อนไปช่วยพ่อของเพื่อนแถวๆตรอกค้าของเก่าบ่อยๆทำให้ได้วิชาดูหยกมองของโบราณมาบ้าง สินสอดของสกุลจ้าวล้วนแต่เป็นของไร้ค่า แต่สำหรับคนที่ไม่เคยมีแต่มีเงินอาจยอมจ่าย มีเพียงผ้าไหมกับปิ่นสามกล่องที่นับว่ามีราคา อ้อพระพุทธรูปหยกแกะสลักองค์นี้ โบราณแท้ๆ ราคาน่าจะอยู่ที่หนึ่งแสนตำลึง อันนี้ไม่ขายเอาไปโรงประมูล
หืมหยกจักพรรดิเนื้อดีที่แกะเป็นรูปสิงโตนี้ แกะเพิ่มอีกหน่อยใส่รายละเอียดอีกนิด แปลงจากสิงโตเป็นกิเลน มีทั้งหมดสามชิ้นนี้น่าจะประมาณสามแสนตำลึง เอาไปแกะสลักใหม่ราคาพุ่งแน่ๆ เอาไว้ก่อน ไหนๆโสมชั้นต่ำกล้าเอามาเป็นสินสอด ดูท่าจวนจ้าวเองก็ไม่มีความรู้เรื่องหยกสักเท่าไหร่ที่เอามาให้จวนเซียวล้วนเป็นเครื่องประดับที่ตกรุ่น แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่ามันคือหยกเนื้อดี อวดดีว่าตนเองร่ำรวย เครื่องประดับที่ทำจากหยกเนื้อดีเซียวอี้เซียนเก็บไว้ต่างหากขายแต่หยกคุณภาพต่ำออกไป ต้องมีการเปลี่ยนแบบแกะสลักใหม่เพื่อเพิ่มราคา
วัตถุดิบมีแล้วอาศัยฝีมือที่คุณปู่สอนตอนเด็กๆ แกะสลักงานหยกกับแกะสลักงานไม้ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก นางเรียกหาสาวใช้ของตนทันที มาอยู่ที่นี่ไม่ต้องลำบากเหมือนนางเอกในนิยายที่เคยอ่านที่ต้องขึ้นเขาลงห้วยกว่าจะแยกบ้านได้จ่ายรายตอนจนไม่มีข้าวกิน นางมาที่นี่ครอบครัวรักใคร่กันดีเสียแต่ว่าบ้านกำลังจะถูกยึดเพราะไม่มีเงินไปจ่ายเงินกู้ที่เอามารักษาท่านย่า
สมบัติล้วนต้องขายทิ้งจะให้ถูกยึดบ้านก่อนไม่ได้ เพราะฉะนั้นขายสมบัติของจวนเซียวอาจถูกเจ้าของเงินกู้มาคุกคามเพราะพวกเขาคงไม่ให้กระเด็นออกไป แต่ขายสินสอดของสกุลจ้าวนั้นแตกต่าง เซียวอี้เซียนจึงเอาสมบัติของสกุลเซียวมาวางขายด้วยเสียเลย เมื่อถึงเวลาถูกยึดบ้านก็มีเพียงไม้กระดานแล้ว
"หลิวเย่วหลอกลวงเจ้าของร่างเดิมทำทีเป็นเพื่อนที่แสนดี เห็นนางกตัญญูต่อท่านย่าหาทางจ่ายค่ายาแสนแพง หมอที่พามาก็เป็นหมอของสกุลจ้าว สกุลหลิวให้คนมาปล่อยกู้เพื่อยึดจวนเซียวต่อให้เอาเงินไปจ่ายพวกมันก็ไม่คิดจะคืนบ้านให้อยู่แล้ว จ้าวเฉิงหลิวเย่วสองผัวเมียชั่วช้าอยากทำลายสกุลเซียวหรือฝันกลางวันหรือไง มาดูกันว่าพวกเจ้าจะได้อะไรไป เสี่ยวฮวาน้อย มานี่หน่อย"
เซียวอี้เซียนเรียกหาสาวใช้ทันที
ตำหนักเล็กหยางเทียนหลงที่ยามนี้ถูกเมียจับอาบน้ำเพราะทั้งตัวเขามีแต่กลิ่นสุรา เซียวอี้เซียนไม่ชอบกลิ่นแอลกอฮอล์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ยิ่งเป็นสุราที่หมักจากผลไม้นั้นยิ่งเวียนหัว ร่างสูงที่นั่งคุดคู่อยู่ในอ่างไม้มองเมียด้วยสายตาขอโทษ"พี่ไม่ควรดื่มจนเจ้าต้องมาลำบากเลยเซี่ยนเซี่ยน""อย่างอแงสิเพคะ...พระองค์เมาแล้วรั่วนัก จะเสร็จแล้วอยู่นิ่งๆ"เมาแล้วรั่วคืออะไรกัน..หยางเทียนหลงไม่สนใจคำตอบ เขาอยากรู้ว่าของขวัญที่นางจะให้คืออะไร กระทั่งเซียวอี้เวียนอาบน้ำให้เขาเรียบร้อยก็ส่งเสื้อคลุมให้ หยางเทียนหลงรับมาก่อนจะลุกขึ้นแล้วสวมเสื้อคลุมเดินออกไปยังห้องนอนเขานั่งลงบนเก้าอี้ เซียวอี้เซียนเช็ดผมให้เขาทีละปอยๆจนผมเริ่มหมาด หยางเทียนหลงจับมือบางเอาไว้แล้วรั้งให้นางมานั่งตักตนเอง เขาสบตากับดวงตาคู่สวยก่อนจะโน้มใบหน้าไปหาแล้วเริ่มทวงรางวัล"ไหนกันรางวัลของพี่ เหตุใดลึกลับนักเล่า""ทรงอยากได้รางวัลจริงๆหรือเพคะ""ก็เจ้าบอกว่ามีรางวัลให้""ทรงอยากได้อะไรจากหม่อมฉันเพคะ ไหนลองตรัสออกมาหน่อย อื้ออออ"หยางเทียนหลงจับปลายคางมนให้เงยหน้าสบตาก่อนจะจุมพิตนางอย่างอดใจไม่ไหว เขาจูบนางเนิ่นนานลิ้นร้อนเกี่ยวเรียวลิ
จินฝานยิ้มตามหลังให้กับภาพตรงหน้า ตั้งแต่ท่านอ๋องแต่งงานกับพระชายาจะเจอรอยยิ้มของงพระองค์บ่อยๆ นับเป็นเรื่องดี"เฮ้อ ผัวเมียเขาอุ้มมกับเข้าห้องไปแล้ว ข้าไปหาเสี่ยวฮวาน้อยบ้างดีกว่า ไม่รู้ว่าวันนี้อาการแพ้ท้องดีขึ้นหรือยัง"จินฝานเดินไปทางห้องพักของตน เมื่อเปิดเข้าไปเสี่ยวฮวาก็นั่งพิงหัวเตียงอย่างอ่อนแรง นางรอเขาไม่ยอมนอน"เด็กดีของอา...ดึกเพียงนี้เหตุใดยังไม่นอน อย่าลืมสิเจ้ามิได้ตัวคนเดียวแล้ว""ข้าอยากรอท่านนี่เจ้าคะ ท่านอา...ไม่มีท่านข้านอนไม่หลับ""หิวหรือไม่ อาเอาขนมมาจากจวนเซียวมากนัก นี่ขนมถั่วเขียวที่เจ้าชอบ พระชายาทรงเก็บเอาไว้ให้เจ้าเองเชียวนะ กินสักหน่อยนะคนดีของอา""อื้อ...พระชายาดีกับข้าที่สุดเลย"จินฝานยิ้มให้ก่อนจะป้อนขนมให้ภรรยา เสี่ยวฮวามองหน้าเขาแม้ว่าจินฝานจะสี่สิบห้าส่วนนางสิบห้าแต่นางกลับไม่รู้สึกว่าอายุนางกับเขาเป็นอุปสรรคสักนิด เขาทั้งอ่อนหวานอ่อนโยน เอาอกเอาใจคืนแรกของนางกับเขาก็มาจากวันที่นางป่วยแล้วพระชายาต้องรับมือกับสกุลจ้าวแสนเลวนั่น ท่านอาจึงมาดูแลในคืนนั้นพระชายากำลังวางแผนอยู่กับท่านอ๋อง นางป่วยเพราะถูกลมเย็นแต่ไม่อยากรบกวนจึงได้แต่ไปหาหมอในจวนเพื่อจั
หวงเหวินเทียนอมยิ้ม เพิ่งส่งสินสอดไปเมื่อวานนี้ อยากรีบแต่งเสียพรุ่งนี้เลย อยากนอนกอดนางเต็มทีแล้ว จากนั้นทั้งสองก้เดินเข้างานไปด้วยกันแต่น้องสาวของเขาที่ถูกฉกมากำลังถูกอีกคนปล้ำจูบอย่างโหยหา"ฮื้อๆๆๆ"หวงซือหนิงพยายามผลักเขาออกเพราะนางหายใจไม่ทัน คนบ้านี่เรี่ยวแรงเยอะเสียจริงๆ กระทั่งหลิวหย่งพอใจแล้วจึงยอมปล่อยนาง เสียงหวานใสเอ่ยตัดพ้อเขา"พี่ทำอะไรเนี่ย ที่นี่จวนคนอื่นนะเจ้าคะ อีกอย่างได้ยินว่าจวนเซียวมีองครักษ์ลับและองครักษ์เงาเกือบสามร้อยคนเฝ้าระวัง ข้าไม่อยากเป็นอาหารตาบุรุษเหล่านั้นนะ"หลิวหย่งกระชับอ้อมกอดเอ่ยออดอ้อนคนบนตัก"องครักษ์เหล่านั้นพี่รับผิดชอบเอง พี่จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าตรงไหนปลอดคนหื้ม หนิงหนิงคิดถึงพี่หรือไม่ พี่จากชายแดนมานานไม่มีวันไหนไม่คิดถึงเจ้า"คนตัวเล็กโอบแผ่นหลังหนาเอาไว้ก่อนจะซบหน้ากับอกแกร่ง หวงซือหนิงเอ่ยตอบกลับ"ข้าก็คิดถึงท่าน พี่หลิวหย่งข้าคู่ควรกับพี่จริงๆหรือ ท่านเป็นถึงท่านชาย ข้าเป็นแค่บุตรสาวนักโทษอย่างจ้าวเฟิงคนชั่วสกุลจ้าว""ยามนี้เจ้าแซ่หวง หรือต่อให้เจ้าแซ่จ้าวแล้วอย่างไร ตั้งแต่เกิดเจ้าก็ตายไปแล้ว เป็นฮูหยินของจ้าวเฟิงเองที่ส่งเจ้าลงปรโลกกั
เซียวอี้เซียนตื่นแต่เช้าเพราะวันนี้เป็นวันที่จวนเซียวจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับท่านปู่ของนาง ไม่ว่าภายนอกจะเป็นใครแต่เนื้อในนั้นนางรู้ดีที่สุดว่าเขาคือคุณตา ร่างบางขยับเบาๆเพราะไม่อยากให้คนที่นอนข้างๆตื่นขึ้นมา เมื่อคืนเขางอแงกวนนางทั้งคืนอ้างแต่ว่าคนอื่นมีลูกหมดแล้วแม้แต่จินฝาน เขาเองก็อายุมากแล้วอยากมีลูกบ้าง แต่นางยังไม่ทันลงจากเตียงวงแขนแข็งแรงก็กอดนางเอาไว้พร้อมเสียงงึมงำ"ยังเช้าอยู่เลยนอนกอดพี่อีกหน่อยเถอะนะ""ต้องไปดูโรงครัวเจ้าค่ะ อย่างอแงนะเพคะคนดี""แม่ครัวตั้งมากมาย เซี่ยนเซี่ยนพี่คิดถึงเจ้านะ เราห่างกันเกือบเดือนพี่รู้สึกเหมือนสิบปีเลยเชียว"ร่างอรชรถูกเขารั้งจนล้มลงมานอนเคียงข้าง เซียวอี้เซียนยกมือขึ้นลูบใบหน้าหล่อเหลาก่อนจะเอ่ยกับเขา"ทำตัวดีๆอย่างอแง คืนนี้หม่อมฉันมีรางวัลให้นะเพคะ""จริงหรือ..อะไรบอกได้ไหมพี่อยากรู้"เซียวอี้เซียนยิ้มให้เขาพร้อมกับจุมพิตที่ปลายจมูกโด่งก่อนจะส่ายหน้าให้ หยางเทียนหลงกระชับอ้อมกอดส่งสายตาเว้าวอนกลับมา ร่างบางลูบใบหน้าหล่อเหลาพร้อมกับบอกให้เขานอนต่อ"บรรทมต่อเถอะเพคะ หม่อมฉันจะไปทำของโปรดท่านปู่สักสามสี่อย่าง เย็นนี้มีงานเลี้ยงอยากให้ท่านกินอา
ซือหยางอุ้มเจ้านายของตนกำลังจะเดินจากไป แต่กลับมีปลายทวนวาววับมาจ่อที่คอ หลานฮวนเอ่ยเสียงเข้ม อยากมาก็มาอยากไปก็ไปหรือ เห็นจวนข้าเป็นอะไร เป็นเหลาสุรา หอนารีเช่นนั้นหรือ""คุณหนู....ท่านชายของข้าต้องไปหาหมอรบกวนท่านอย่าขวางทาง ช่วยหลีกทางด้วย""เจ้าพาเขาไปห้องข้างๆ เถาฮวาไปตามท่านหมอเฟิงมา ข้าก็อยากรู้ว่าเขาป่วยจริงไหม"หลานซิ่วเอ๋อร์ที่ตามออกมาจับชายเสื้อพี่สาวเอาไว้ก่อนจะเอ่ย"พี่ใหญ่...ดูแล้วเขาไม่ได้แกล้งท่านอย่าเอาแต่อารมณ์เลย""หึ...จะอุ้มเขาตากฝนอีกนานไหม ถ้าตายขึ้นมาอย่ามาโทษสกุลหลานของข้าเชียว"ซือหยางกัดฟันก่อนจะอุ้มลู่เสวียนไปห้องที่นางบอก จากนั้นก็ผลัดอาภรณ์ให้กับเขา เมื่อประมุขของตระกูลทราบเรื่องก็รีบมาทันที ท่านชายเคยถูกพิษเรื่องนี้ไม่มีคนรู้มากนักยกเว้นหลานจ้าน เพราะเขาคืออาจารย์ของฮ่องเต้และชินอ๋องพระอนุชานั่นเอง ลู่เสวียนเป็นบุตรบุญธรรมชินอ๋อง ไม่ว่าเรื่องใดๆที่เกิดเขาย่อมได้รู้ เฟิงเหยากำลังตรวจชีพจรให้กับลู่เสวียน ก่อนจะส่ายหน้าจากนั้นก็บอกให้คนไปต้มยา"นายท่านขอรับ ต้องให้ดื่มยาขับพิษเย็นออกจากร่างกายก่อนจึงจะสามารถฝังเข็มได้ขอรับ""ร้ายแรงมากไหมท่านหมอเฟิง""ท่านช
เซียวอี้เซียนลุกขึ้น ก่อนจะสวมกอดกับท่านปู่และหอมแก้มของท่านซ้ายขวาและยิ้มให้ จากนั้นก้จูงมือกับหยางเทียนหลงเดินออกมา แต่หยางเทียนหลงกลับไม่ชอบใจนัก เขารู้ว่านางดีใจที่มีญาติมาเพิ่ม แต่การกอดกันแบบนี้ในยุคสมัยของเขาถือว่าไม่สมควร สตรีอายุเจ็ดขวบก็ห้ามเข้าใกล้บุรุษแล้ว ถึงจะเป็นบิดาก็เถอะ"เซี่ยนเซี่ยน...ต่อไปอย่าสวมกอดและหอมแก้มปู่เจ้าอีก หากคนอื่นเห็นจะไม่ดี เจ้าคงไม่อยากให้เขาถูกคนในราชสำนักหยิบเรื่องนี้ไปเล่นงานหรอกนะ""เพคะ..หม่อมฉันลืมไป ขอบพระทัยที่ทรงตักเตือน""ไปเถอะ คิดถึงเจ้าจะแย่ เดือนนี้ทั้งเดือนวุ่นวายแต่เรื่องกบฏ ไม่มีเวลาจะนอนกอดเจ้าเลย""ทรงน่าสงสารยิ่งนักเพคะ คิกๆๆ"เซียวอี้เซียนหัวเราะก่อนที่จะถูกเขาอุ้มจนตัวลอย หยางเทียนหลงพานางเดินเข้าห้อง ทันทีที่ปิดประตูก็จูบนางด้วยความเสน่หา เซียวอี้เซียนยอมให้เขาดื่มด่ำจนพอใจ กระทั่งหยางเทียนหลงจูบนางเรียบร้อยก็เอ่ยปากกับนาง"เซี่ยนเซี่ยน...ลู่เสวียนลูกสองแล้วนะ พี่อยากมีกับเขาบ้าง""หะ ห๊า ตะ ใต้เท้าลู่หรือเพคะ ไปแต่งงานเมื่อไหร่แล้วฮูหยินของเขาเป็นมใครหรือเพคะ""หลานฮวนน่ะ ส่วนเรื่องพวกเขาไปไงมาไงนั้นอย่ารู้เลย รู้แค่ว่าเขานำ