공유

เตรียมขายสินสอด

last update 최신 업데이트: 2025-02-17 22:39:55

หวังเสี่ยวเซียนที่ตอนนี้เกิดอาการเซ็งสุดขีด  เธอกำลังถ่ายวิดีโอของตัวเองอัพลงโซเชี่ยล  หวังเสี่ยวเซียนทำวิดีโอจากการใช้ชีวิตแบบวิถีชนบทดั้งเดิม  เธอเรียนจบปริญญาตรีสาขาพฤกษศาสตร์เพื่อมาปรับปรุงไร่ของเธอที่มีอยู่เพียงสามไร่  ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว  คุณย่าเพิ่งจะเสียไปไม่นาน

รายได้จากการทำวิดีโอเดือนหนึ่งหลายแสนหยวน    หากถามว่าเธอมีเงินไหมแน่นอนว่ามี  แต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรหรือ   เธอน่าจะถูกคนจ้างวานฆ่ามากกว่า  เพราะจะมีโรงแรมขนาดใหญ่มาเปิดที่ชนบทบ้านของเธอหวังเสี่ยวเซียนเป็นผู้นำฝูงชนไปต่อต้านการก่อสร้าง  จนกระทั่งถูกขู่มาหลายรอบ  

"เฮ้อ  ไอ้แสงเขียวๆที่ส่องฉันคงเป็นไรเฟิลสินะ  แหม่จะฆ่าทั้งทีลงทุนขนาดนี้นับว่าชีวิตเจ๊นี่ราคาแพงใช่ย่อยเลยนะเนี่ย"

"คุณหนูเจ้าขา...ท่านไม่เป็นไรนะเจ้าคะ  คงไม่ได้เสียใจจนเสียสติหรอกนะ"

เสียวฮวาบ่นอุบอิบเพราะกลัวคุณหนูของตนเองได้ยิน  หวังเสี่ยวเซียนที่ตอนนี้ก็คือเซียวอี้เซียนได้แต่เดินมาหาสาวใช้ของร่างเดิมก่อนจะจับนางให้มองหน้า

"เสี่ยวฮวาน้อย...ข้าไม่ได้เสียใจแล้ว  อีกอย่างไม่แต่งก็ดีเหมือนกัน  จ้าวเฉิงเป็นบุรุษที่ไม่รู้จักพอ  ทุกครั้งที่พาข้าไปอารามก็เพื่อตนเองจะได้เสพสุขกับสตรีอื่น  เอาข้าไปบังหน้า"

"ห๊า..นี่มันๆ  คุณหนูแล้วเหตุใดท่านยังอดทนเจ้าคะ"

"ท่านพ่อท่านแม่อยากให้ข้าแต่งข้าก็เลยยอม  แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว  เสี่ยวฮวาเอาใบรายการสินสอดของสกุลจ้าวมาหน่อย"

สาวใช้ตัวน้อยนำสมุดบัญชีสินสอดมาให้กับคุณหนูของตน  เซียวอี้เซียนรับมา  เมื่อวานเขาแต่งงาน  วันนี้คงยังหวานชื่น  พรุ่งนี้อีกวัน   มะรืนกลับบ้านเจ้าสาว  หากให้จ้าวเฉิงตั้งตัวได้ต้องมาเอาสินสอดคืนแน่ๆ 

 สกุลจ้าวขึ้นชื่อเรื่องใจแคบ  เช่นนั้นวันพรุ่งนี้น่าจะเหมาะที่สุด  วันที่สามพวกเขาก้าวออกจากห้องหอก็น่าจะเกือบบ่าย  นางคงขายของหมดแล้ว  ก่อนจะถามสาวใช้ตัวน้อย

"เสี่ยวฮวา  แล้วสมบัติบ้านเรามีอะไรบ้าง  ให้ท่านพ่อบอกมา  ข้าจะขายทอดตลาดหาเงินไปตั้งตัวที่เมืองอื่น  เมืองหลวงแห่งนี้จอมปลอมเกินไป"

เสี่ยวฮวารับคำสั่งของคุณหนู   จากนั้นก็รีบวิ่งไปหานายท่านเซียวบิดาของนาง  ไม่นานในมือของเซียวอี้เซียนก็มีใบรายการทรัพย์สินของสกุลเซียวทั้งหมด   ดูคร่าวๆจากสมบัติเหล่านี้  สามารถแปลเป็นเงินได้ถึงเจ็ดถึงแปดแสนตำลึง

  แต่เรื่องของเก่าดูเหมือนพวกเขาจะไม่รู้เรื่อง  มีไว้เพื่อครอบครองและรักษาไว้เท่านั้น  แบบนี้ก็หวานนางสิ  ขายให้หมด  ไปแต่ตัวไม่ยึดติด  อืมแบบนี้แหละดี

"เสี่ยวฮวาคืนนี้ไปหาขอทานมาหลายๆคนข้าจะให้พวกเขาช่วยทำงาน"

"คุณหนูคือว่า"

"อย่าสงสัยให้มากความไปได้แล้ว"

เมื่อเสี่ยวฮวาไปแล้ว  เซียวอี้เซียนก็เริ่มเขียนใบโฆษณาชวนเชื่อ  นางจะขายสินสอดในราคาขาดทุน  แต่จะโก่งราคาสมบัติสกุลเซียว

เซียวหงมาหาบุตรสาว  เห็นนางขีดๆเขียนๆก็ถอนหายใจ   เสียงถอนหายใจไม่เบาเซียวอี้เซียนเงยหน้ามามองบิดาของตนก่อนจะวางพู่กันในมือแล้วลุกไปประคองเขา  

"ท่านพ่อมาได้อย่างไรเจ้าคะ"

"ลูกกำลังทำอะไร  เซียนเอ๋อร์สินสอดนั้นคืนพวกเขาไปเถอะ"

"ท่านพ่อ  ที่ผ่านมาข้ายอมกล้ำกลืนทนเห็นเขาหลับนอนกับสตรีมากหน้า   ทนฟังเสียงครวญครางยามพวกเขาร่วมรักกัน  จ้าวเฉิงบอกว่าอีกหน่อยแต่งกับเขาเรื่องแบบนี้ย่อมหนีไม่พ้น  เขาต้องสืบสกุลตอนนั้นข้าโง่เขลาเชื่อเขาทุกอย่าง  ทั้งที่ความจริงแล้วนั่นต่างหากเป็นการเหยียดหยามข้า"

"มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ  เฮ้อ  พ่อผิดเองไม่ควรให้คนไปทวงถามเรื่องสัญญาแต่งงานเจ้ากับเขา  พ่อคิดแค่ว่าสกุลจ้าวอาจจะดูแลลูกได้ดี  เพราะท่านปู่เจ้าจากไปเราก็แทบจะไม่เหลืออะไร  พ่อเป็นเพียงคนป่วยรับราชการก็ไม่ได้  แค่กๆๆ"

"เรื่องผ่านไปแล้วก็ช่างเถอะเจ้าค่ะท่านพ่อ  จากนี้ไปข้าจะทำให้สกุลจ้าวอับอายจนเดินในเมืองหลวงไม่ไหว  ที่กล้าทำให้จวนเซียวของเราต้องอัปยศ"

เซียวหงไปแล้วเขารู้สึกหนักอึ้งในใจ  บุตรสาวคงเจ็บแค้นเมื่อวานถูกเจ้าบ่าวทอดทิ้ง  นางผูกคอตายแต่กลับไม่ตาย  มาวันนี้นางจะแก้แค้นแล้วอย่างไรเล่า  สกุลเซียวมีค่าให้พูดถึงด้วยหรือ  สกุลจ้าวเป็นถึงอำมาตย์ซ้าย

บิดาจากไปแล้ว  ด้วยความที่ชาติก่อนไปช่วยพ่อของเพื่อนแถวๆตรอกค้าของเก่าบ่อยๆทำให้ได้วิชาดูหยกมองของโบราณมาบ้าง  สินสอดของสกุลจ้าวล้วนแต่เป็นของไร้ค่า  แต่สำหรับคนที่ไม่เคยมีแต่มีเงินอาจยอมจ่าย  มีเพียงผ้าไหมกับปิ่นสามกล่องที่นับว่ามีราคา  อ้อพระพุทธรูปหยกแกะสลักองค์นี้  โบราณแท้ๆ  ราคาน่าจะอยู่ที่หนึ่งแสนตำลึง  อันนี้ไม่ขายเอาไปโรงประมูล 

 หืมหยกจักพรรดิเนื้อดีที่แกะเป็นรูปสิงโตนี้  แกะเพิ่มอีกหน่อยใส่รายละเอียดอีกนิด  แปลงจากสิงโตเป็นกิเลน  มีทั้งหมดสามชิ้นนี้น่าจะประมาณสามแสนตำลึง  เอาไปแกะสลักใหม่ราคาพุ่งแน่ๆ  เอาไว้ก่อน  ไหนๆโสมชั้นต่ำกล้าเอามาเป็นสินสอด  ดูท่าจวนจ้าวเองก็ไม่มีความรู้เรื่องหยกสักเท่าไหร่ที่เอามาให้จวนเซียวล้วนเป็นเครื่องประดับที่ตกรุ่น  แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่ามันคือหยกเนื้อดี    อวดดีว่าตนเองร่ำรวย   เครื่องประดับที่ทำจากหยกเนื้อดีเซียวอี้เซียนเก็บไว้ต่างหากขายแต่หยกคุณภาพต่ำออกไป   ต้องมีการเปลี่ยนแบบแกะสลักใหม่เพื่อเพิ่มราคา  

วัตถุดิบมีแล้วอาศัยฝีมือที่คุณปู่สอนตอนเด็กๆ  แกะสลักงานหยกกับแกะสลักงานไม้ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก  นางเรียกหาสาวใช้ของตนทันที  มาอยู่ที่นี่ไม่ต้องลำบากเหมือนนางเอกในนิยายที่เคยอ่านที่ต้องขึ้นเขาลงห้วยกว่าจะแยกบ้านได้จ่ายรายตอนจนไม่มีข้าวกิน  นางมาที่นี่ครอบครัวรักใคร่กันดีเสียแต่ว่าบ้านกำลังจะถูกยึดเพราะไม่มีเงินไปจ่ายเงินกู้ที่เอามารักษาท่านย่า  

สมบัติล้วนต้องขายทิ้งจะให้ถูกยึดบ้านก่อนไม่ได้  เพราะฉะนั้นขายสมบัติของจวนเซียวอาจถูกเจ้าของเงินกู้มาคุกคามเพราะพวกเขาคงไม่ให้กระเด็นออกไป  แต่ขายสินสอดของสกุลจ้าวนั้นแตกต่าง  เซียวอี้เซียนจึงเอาสมบัติของสกุลเซียวมาวางขายด้วยเสียเลย  เมื่อถึงเวลาถูกยึดบ้านก็มีเพียงไม้กระดานแล้ว

"หลิวเย่วหลอกลวงเจ้าของร่างเดิมทำทีเป็นเพื่อนที่แสนดี  เห็นนางกตัญญูต่อท่านย่าหาทางจ่ายค่ายาแสนแพง  หมอที่พามาก็เป็นหมอของสกุลจ้าว   สกุลหลิวให้คนมาปล่อยกู้เพื่อยึดจวนเซียวต่อให้เอาเงินไปจ่ายพวกมันก็ไม่คิดจะคืนบ้านให้อยู่แล้ว   จ้าวเฉิงหลิวเย่วสองผัวเมียชั่วช้าอยากทำลายสกุลเซียวหรือฝันกลางวันหรือไง  มาดูกันว่าพวกเจ้าจะได้อะไรไป   เสี่ยวฮวาน้อย   มานี่หน่อย"

เซียวอี้เซียนเรียกหาสาวใช้ทันที

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ซือหนิงนางเป็นเด็กที่น่าสงสาร

    จ้าวอันป๋อออกจากคุกหลวงก็ตรงกลับจวนในทันที เขาต้องหาทางเร่งกระพือข่าวเรื่องที่เมืองหลวงกำลังจะจมน้ำ หากชาวบ้านแตกตื่นยิ่งเป็นผลดีต่อพวกเขา ใครจะรู้ว่าเมื่อมาถึงจวนกลับเจอเข้ากับภาพที่เขาไม่คาดฝัน คนในจวนถูกจับมารวมที่ลานหน้าบ้าน ทหารองครักษ์ใช้ดาบจ่อคอทุกคนเอาไว้ หนึ่งในนั้นสวมชุดเกราะสง่างาม เป็นจ้าวเหวินหลานชายคนรองของน้องชายเขานั่นเอง สายตาเหลือบไปมองก็เห็นจ้าวเฟิงหลายชายของเขากับจ้าวเฉิงที่นอนอยู่ไม้กระดาน ชายชรามองไปยังใบหน้าที่สวมชุดเกราะให้ความรู้สึกถึงใครบางคน หวงจิ้งไห่ หย่งอันโหวคนนั้น เหตุใดใบหน้าถึงได้ละม้ายคล้ายจ้าวเหวินยามสวมชุดทหารเช่นนี้ แต่ทว่านี่ไม่ใช่เวลามานึกถึงคนที่ตายไปแล้ว เขาอยากรู้ว่าทหารองครักษ์มาที่จวนสกุลจ้าวทำไมก่อนจะเอ่ยถามออกไป "เหวินเอ๋อร์ เจ้าเป็นคนของฝ่าบาทหรือ แล้ววันนี้พาทหารมามากมายสกุลจ้าวทำสิ่งใดผิดกันบอกปู่ใหญ่ได้หรือไม่" จ้าวเฟิงพยายามที่จะลุกขึ้นแต่เขากลับถูกกระบี่ของทหารองครักษ์จ่อเอาไว้ ทหารผู้นั้นกดกระบี่ลึกลงมาจนมีเลือดซึมบริเวณปลายกระบี่ เยี่ยหรันเห็นดังนั้นจึงได้เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น "ไอ้เนรคุณ สกุลจ้าวเลี้ยงดูหมาป่าตา

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ข้าควรโกรธใครกันแน่

    คุกราชสำนักจ้าวอันถูกจองจำอยู่ในกรงเหล็กกล้าอย่างดี แสงสลัวของคบเพลิงเพียงไม่กี่ดวงสะท้อนบนพื้นหินสีดำมนิทที่เย็นเยียบ เสียงโซ่ตรวนหนักพันธนาการข้อมือข้อเท้าเขาไว้แน่น“ให้ตาย...มารดามันเถอะ” จ้าวอันสบถเสียงต่ำ ฟันขบแน่นด้วยความคั่งแค้นเหตุใดไทเฮาจึงเสด็จไปที่นั่นได้กัน ทุกอย่างราวกับว่ามีผู้วางแผนล่อลวงให้เขาติดกับ ไป๋จินหวน...อีกเพียงนิดเดียว...นางจะเป็นของเขาแล้วเชียวแต่นางเด็กเลว เซียวอี้เซียนนั่น ช่างขัดหูขัดตายิ่งนัก!เสียงรองเท้ากระทบพื้นหินสะท้อนก้องในโถงคุกเงียบสงัด จ้าวอันป๋อ ก้าวเข้ามาทางเดินซึ่งมีเพียงแสงคบเพลิงส่องสว่างตามทาง เขากวาดตามองกรงเหล็กตรงหน้า น้องชายผู้โง่งมของตนถูกใส่ตรวนหนัก นั่งอยู่กลางเงามืด มีเพียงเงาลูกกรงที่สะท้อนแสงไฟยาวเป็นทาง จ้าอันป๋อเอ่ยเรียกน้องชายด้วยเสียงเหนื่อยหน่าย“เจ้ารอง” จ้าวอันเงยหน้ามองพี่ชาย สีหน้าขุ่นเคืองแต่ก็เอ่ยรับ“พี่ใหญ่...ท่านมาแล้ว”จ้าวอันป๋อมองน้องชายอย่างผิดหวังไอ้น้องโง่...เมื่อไรเจ้าจะมีสมองกับเขาบ้างนะ เขาเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงความเย็นชา“เจ้าทำอะไรลงไป เหตุใดไม่รอบคอบ ไป๋จินหวนนางงดงามก็จริง...แต่สตรีงามกว่านางใช่ว

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ดึงพ่อสามีมาเล่นสะคร

    หลังจากการประชุมจ้าวอันถูกส่งไปอยู่ยังคุกของราชสำนักซึ่งมีไว้สำหรับขุนนางที่ประพฤติผิดโดยเฉพาะ จ้าวอันป๋อเดินออกมาพร้อมกับขุนนางของตน หวังคุณซึ่งเป็นบิดาของหวังกุ้ยเฟยแม้ว่าจะเกษียณไปแล้วแต่ยังคงมาร่วมประชุม เขาเดินออกมาพร้อมจ้าวอันป๋อ เมื่อมาถึงหน้าประตูทางออกหลิวหย่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับคำนับหยางเทียนหลง เอ่ยเสียงดังกังวาน"ท่านอ๋อง..กระหม่อมได้เสบียงเพียงพอตามที่แจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ"หยางเทียนหลงพยักหน้าก่อนจะเอ่ยกับหลิวหลางและหลิวเว่ย"ใต้เท้าหลิวต้องขอบคุณสกุลหลิวยิ่งนักที่บริจาคเสบียงครั้งนี้ทำให้แก้วิกฤตได้ทัน ชาวบ้านพอได้อยู่รอดมิต้องอดอยาก""ท่านอ๋องเกรงใจไปแล้ว ขุนางราชสำนักยามเมื่อบ้านเมืองประสบภัยย่อมต้องช่วยเหลือ อย่างที่พระชายาของพระองค์กล่าวเอาไว้""หืม...น้องหญิงของข้ากล่าวอันใดกับพวกท่านหรือ""พระนางบอกว่า กษัตริย์และขุนนางนั้นอยู่ได้มิใช่เพราะตระกูลใหญ่โตหรือมีเงินทองมากมาย แต่อยู่ได้เพราะราษฎร ยามใดที่ราษฎรอยู่ดีมีสุข บ้านเมืองก็สงบ ในเมื่อเก็บภาษีก็เท่ากับว่าราษฎรเป็นคนจ่ายเบี้ยหวัดให้พวกเรา เช่นนั้นยามที่ทำหน้าที่ก็ควรให้คุ้มค่ากับที่พวกเขาจ่ายภาษีมาพ่

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ยกหินทุบเท้าตนเอง

    หยางเทียนหลงมองหน้าจ้าวอันป๋อ ชายชรากำมือแน่นคนของเขาส่งข่าวมาว่าไอ้น้องโง่นั่นไปลวนลามไป๋จินหวนฮูหยินของเซียวหง ที่สำคัญยังทำต่องหน้าพระพักตร์ไทเฮาอีก เรื่องนี้ไม่ใช่ล้อเล่น กฎหมายเป่ยฉินนั้นระบุชัด ห้ามผู้มีอำนาจข่มเหงภรรยาผู้อื่น ความคิดของจ้าวอันป๋อต้องหยุดไปชั่วขนะเมื่อเซียวหงเดินออกมาด้านหน้าก่อนจะคุกเข่ากราบทูลฮ่องเต้"ฝ่าบาท กระหม่อมเซียวหงรักษาการเจ้ากรมโยธามีเรื่องกราบทูลให้พระองค์ช่วยคืนความเป็นธรรมแก่กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ"ฮ่องเต้มองหน้าเขาก่อนจะพยักหน้า "ใต้เท้าเซียว...ลุกขึ้นแล้วค่อยพูดเถิด""ขอบพระทัย ฝ่าบาทกระหม่อมขอร้องเรียนจ้าวอัน อำมาตย์ซ้ายข้อหาประพฤติตนมิชอบ ลวนลามภรรยาขุนนาง อีกทั้งยังบังคับจิตใจนางพ่ะย่ะค่ะ"ทันทีที่เซียวหงพูดจบขุนนางทั้งสองฝั่งก็เริ่มวิจารย์ จ้าวอันป๋อเดินมาหาเขาก่อนจะเอ่ย"เซียวหง เจ้าบอกว่าน้องชายข้าลวนลามภรรยาผู้อื่นหมายความว่าอย่างไร ใส่ร้ายขุนนางผู้ใหญ่ความผิดนี้เจ้ารับไหวหรือ"เซียวหงมองหน้าจ้าวอันป๋องก่อนจะหันกลับมายืนหลังตรงศรีษะค้อมไปด้านหน้า สองมือประสานมั่นคงเอ่ยวาจากราบทูลต่อ"ฝ่าบาท ฮูหยินกระหม่อมกับท่านแม่ติด

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   ฟ้องร้องสกุลหลิว

    ท้องพระโรงท้องพระโรงอันโอ่อ่ากว้างขวางตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ม่านแพรปักดิ้นทองอร่ามสะท้อนแสงจากโคมไฟระย้าที่ห้อยลงมาจากเพดานสูงตระหง่าน แสงสีทองอบอุ่นสาดส่องลงมาต้องพื้นหินอ่อนขัดมันวับ จนปรากฏเงาสะท้อนของเสามังกรที่แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงเบื้องบนบัลลังก์ที่ประดับประดาด้วยหยกและทองคำ ฮ่องเต้ทรงประทับในชุดฉลองพระองค์สีทองที่ปักลวดลายมังกรห้ากรงเล็บอย่างวิจิตรบรรจง เปล่งประกายรัศมีแห่งอำนาจ ดวงพระเนตรคมกริบกวาดมองไปทั่วท้องพระโรงเบื้องล่างบัลลังก์ ขุนนางแบ่งออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน ด้านซ้ายคือกลุ่มของจ้าวอันป๋อ อำมาตย์ซ้ายผู้ พร้อมด้วยคนของสกุลหวังและกลุ่มขุนนางเก่าแก่ ทุกคนสวมชุดขุนนางสีเข้ม ใบหน้าของพวกเขาบ่งบอกถึงความเคร่งขรึมส่วนทางด้านขวา ยืนตระหง่านด้วยท่าทีสงบนิ่งคือ หยางเทียนหลง เสนาขวาฮั่วอ้าวป๋าย เซียวหงรักษาการเจ้ากรมโยธา หลิวหลางและหลิวเว่ยสองพี่น้องตระกูลหลิว จ้าวอันป๋อในชุดอำมาตย์สีม่วงเข้ม เขาก้าวมาหยุดอยู่กลางท้องพระโรง ท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ที่จับจ้องมา ก่อนจะคุกเข่าลงเบื้องหน้าบัลลังก์อย่างนอบน้อมพร้อมก้มศีรษะลงจรดพื้น"ทูลฝ่าบาท กระหม่อมจ้าวอันป๋อมีเรื่องร้

  • ข้านะหรือคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ   หลานซิ่วเอ๋อร์การละคร

    จากนั้นหยางเทียนหลงก็เอ่ยถามความเห็นนางเกี่ยวกับเรื่องของจางลี่เฟยอีกครั้ง"น้องหญิง เจ้ารู้เรื่องของสนมจางแล้ว""เพคะ นางตั้งครรภ์ไม่ผิดแน่ เรื่องนี้ทางสำนักราชวงศ์ประกาศว่านางเป็นโรคติดต่อร้ายแรงจำต้องให้ออกจากวังมารักษาตัวเพคะ""เจ้าว่านางจะทำเช่นไรต่อไป""นางคงต้องหาทางเอาเด็กออกแน่นอนเพคะ หม่อมฉันไม่อยากให้อารามศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีมลทิน แต่หากนางอยู่ที่อื่นก็ไม่วางใจ""นางแอบมีใจให้กับรัชทายาท แต่เขากลับแต่งฉีฮุ่ยหมิ่นเข้ามา""นางชอบไท่จื่อแล้วอย่างไร นางแต่งให้ฝ่าบาทตั้งแต่อายุสิบสองแต่งเพราะจะได้ไม่ต้องถูกประหาร จะว่าหม่อมฉันใจร้ายก็ดีโหดเหี้ยมก็ช่าง นางอยู่ในวังเป็นสนมด้วยนิสัยของนางไม่รู้ว่าเอาชีวิตนางกำนัลกับขันทีไปเท่าไหร่แล้ว จางลี่เฟยคนนี้หาใช่คนดี"หยางเทียนหลงพยักหน้าก่อนจะถามเรื่องที่จูเหวินไปจัดการก่อนหน้าที่จะมาพบเขา"เรื่องที่ซื่อจื่อไปจัดการเป็นหลิวเย่วที่บอกเจ้าหรือ""เพคะ นางบอกว่าที่เรือนนั้น เป็นเรือนที่ทางสกุลจ้าวแนะนำให้คนพวกนั้นมาเช่าเอาไว้ เมื่อไปถึง คุณชายจู... เอ่อ... ซื่อจื่อ ก็พบว่าในเรือนนั้นมีอาวุธมากมายราวกับคลังแสงเลยเพคะ มีคนคอยเฝ้าอย่างแน่นหนา"หย

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status