ถึงเวลาต้องจบปัญหาแล้ว
จี้เถา " โธ่ลูกแม่ อย่าร้องเลย " ชุ่ยเหริน " อย่างไรเสียเจ้าก็ข้ามมาอยู่ที่นี่แล้ว ไม่สามารถกลับไปได้แล้ว " จี้เถา " ใช่ ลูกอย่าได้กังวลว่าแม่จะไม่รักเจ้า " หนิงหลงเข้าโอบกอดจี้เถาอย่างทะนุถนอมที่มีแม่แสนดีกับนางเช่นนี้ ในขณะที่สามีกำลังนอนหลับนางได้พูดคุยหาหรือเรื่องสำคัญกับแม่และพ่อของนางอยู่ที่ห้องโถงใหญ่เป็นการส่วนตัว ไม่คิดว่าพรุ่งนี้จะต้องเดินทางเพื่อจบปัญหาที่ค้างคาเสียที จี้เถาและชุ่ยเหริน ก็ออกเดินทางเหมือนกัน หนิงหลง " ข้าว่าสตรีที่ถูกลักพาตัวไปตอนนี้พวกนางอาจจะถูกกักขัง คงจะใช้สตรีหลายพันคนเพื่อทำการใหญ่ " จี้เถา " เอาล่ะพ่อกับแม่จะกลับตำหนักไปเตรียมตัวเพื่อเดินทางไปวันพรุ่งนี้ " หนิงหลง " เจ้าค่ะท่านแม่ ท่านพ่อ " " แค่ก แค่ก " จื่อหาย " นี้มันเช้าแล้วรึ แล้วภรรยาข้าหายไปไหน " เพราะความกังวลจึงทำให้ไม่หลับไม่นอน มาเมื่อหลับตอนใกล้เช้า หนิงหลง " ท่านพี่ ท่านตื่นแลจี้เถา " ท่านพี่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะทำให้เศรษฐีหลายๆคนเดินทางออกจากที่นี่กันแล้ว " สองสามีภรรยาได้ยินแอบฟังชาวบ้านนินทาอย่างโจ่งแจ้ง ชุ่ยเหริน " มู่เฉินจะลากคนราชวงศ์ซางไปเป็นเฉลย " ในขณะที่สองสามียืนปรึกษากันอย่างเงียบๆก็ได้มีเสียงหญิงแม่หม้ายผู้หนึ่งร้องไห้จนตาแดงก่ำเรียกหาลูกสาวมา 3 วันแล้วจนแม่ค้าพ่อค้าในตลาดเริ่มชิน แม่ค้า " สงสัยจะกลายเป็นบ้าไปเสียแล้วถึงได้อาละวาด" ลูกค้า " ลูกสาวหายทั้งคนนะ คนเป็นแม่จากใจสลายมากแค่ไหนหากเป็นลูกของเจ้าล่ะเจ้าจะเป็นเช่นไร " จี้เถา " ท่านพี่ไปดูเสียเถิดว่าเกิดอะไรขึ้น " สองสามีภรรยาได้เดินเข้าไปถามแม่หม้ายผู้นี่ว่าเกิดอะไรขึ้นเหตุใดถึงได้ร้องไห้ฟูมฟายไม่ยอมหยุด จี้เถา " ลุกขึ้นก่อนเถอะเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่ ว่าเรื่องมันเป็นมาอย่างไร " ความเมตตาและจิตใจที่บริสุทธิ์แม่หม้ายกำลังสัมผัสได้จึงหยุดร้องไห้อย่างว่าง่ายทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผู้ใดมาพูดด้วยก็เหมือนมาซ้ำเติมนาง " ลูกสาวข้าหายตัวไปได้ 3 วั
เมื่อนางกำลังเรียกพลังร้ายกาจออกมาเส้นเลือดตามตัวก็เริ่มดำขึ้นดำขึ้น เหมือนว่านางกำลังจะใช้พลังให้สุดกำลังเพื่อกำจัดชุ่ยเหริน เมื่อพลังของนางนั้นชั่วร้ายเต็มที่แล้ว ร่างทรงปล่อยพลังพุ่งมายังชุ่ยเหรินทันที แต่ในขณะนั้นเหยียนเฉิงและจื่อหานได้เข้ามาในห้องโถงได้ทันเวลา เหยียนเฉิงได้ใช้พลังต่อต้านลั่วเอ๋อร์ หยุดนางไว้ได้แค่ชั่วคราว ลั่วเอ๋อร์ " ผู้ใดกันถึงต่อต้านพลังข้าได้" จื่อหาน " หยุดทำชั่วเถิด เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังถูกหลอกใช้ " ลั่วเอ๋อร์ " ข้าถูกหลอกใช้ พี่ชายเจ้าให้พลังมากมายแก่ข้าเช่นนี้ แสดงว่ากำลังช่วยข้าชำระแค้นอยู่อย่างไรเล่า " เหยียนเฉิง " เสียเวลาพูดกับนางเลยเจ้าพาฝ่าบาทออกไปก่อนทางนี้ข้าจะจัดการเอง " จื่อหาน " แต่ว่า " เหยียนเฉิง " ไปซะ ไป! " เหยียนเฉิงไล่จึงหายออกไปด้วยสิ่งที่ดุดันและน่ากลัว ลั่วเอ๋อร์ " สมุนอย่างเจ้าคิดจะสู้กับข้ารึ" นางเอกท้าทายพร้อมดูหมิ่นที่เป็นเเค่ลูกสมุนไม่มีทางขึ้นเป็นสมุนโหดร้ายขั้นที่ 1
ถึงเวลาต้องจบปัญหาแล้ว จี้เถา " โธ่ลูกแม่ อย่าร้องเลย " ชุ่ยเหริน " อย่างไรเสียเจ้าก็ข้ามมาอยู่ที่นี่แล้ว ไม่สามารถกลับไปได้แล้ว " จี้เถา " ใช่ ลูกอย่าได้กังวลว่าแม่จะไม่รักเจ้า " หนิงหลงเข้าโอบกอดจี้เถาอย่างทะนุถนอมที่มีแม่แสนดีกับนางเช่นนี้ ในขณะที่สามีกำลังนอนหลับนางได้พูดคุยหาหรือเรื่องสำคัญกับแม่และพ่อของนางอยู่ที่ห้องโถงใหญ่เป็นการส่วนตัว ไม่คิดว่าพรุ่งนี้จะต้องเดินทางเพื่อจบปัญหาที่ค้างคาเสียที จี้เถาและชุ่ยเหริน ก็ออกเดินทางเหมือนกัน หนิงหลง " ข้าว่าสตรีที่ถูกลักพาตัวไปตอนนี้พวกนางอาจจะถูกกักขัง คงจะใช้สตรีหลายพันคนเพื่อทำการใหญ่ " จี้เถา " เอาล่ะพ่อกับแม่จะกลับตำหนักไปเตรียมตัวเพื่อเดินทางไปวันพรุ่งนี้ " หนิงหลง " เจ้าค่ะท่านแม่ ท่านพ่อ " " แค่ก แค่ก " จื่อหาย " นี้มันเช้าแล้วรึ แล้วภรรยาข้าหายไปไหน " เพราะความกังวลจึงทำให้ไม่หลับไม่นอน มาเมื่อหลับตอนใกล้เช้า หนิงหลง " ท่านพี่ ท่านตื่นแล
มู่ฉิน “ ข้าไม่เชื่อว่าครั้งต่อไปเจ้าจะรอดมู" เฉินเดินเข้าไปยังตำหนักน้องชายที่เคยอยู่อาศัยเมื่อก่อน ทำข้าวของมีค่าพังไปทีละชิ้นพร้อมอยากจะเผามันให้ไหม้ทั้งหลัง ขันที “องค์ชาย ได้โปรดระงับโทษะ ข้าว่าน้องชายของท่านแค่โชคดี หากมีครั้งหน้าคงไม่โชคดีเช่นนี่ “ ขันทีพยายามพูดให้มู่เฉินระงับความโกรธ มู่เฉิน “ ไม่รู้มันจะเกิดมาทำไม “ มู่เฉินหยิบข้าวของสะสมที่ท่านพ่อนั้นมอบไว้ให้ ทำลายมันทิ้งจนไม่เหลือชิ้นดี ปัง? .... ขันทีที่เฝ้าอยู่หน้าประตูสะดุ้งตัวตื่นกลัวจนหน้าซีด เมื่อเห็นเวลาองค์ชายนั้นมีโทษะ มู่เฉิน “ข้าระบายอารมณ์เสร็จแล้ว ข้าจะลงไปเจรจาเรื่องการค้า “ บัดนี้แคว้นต่าง ๆ หลายเมือง ที่เดินทางมาไกลมาก กำลังรอให้มู่เฉินนั้นมาเจรจา พูดยังไม่ทันขาดคำมู่เฉินก็ปรากฎกายให้เห็นทันที มู่เฉิน “ ก่อนอื่นเลยข้าต้องขออภัยเหล่าขุนนางพ่อค้าทั้งหลายที่ไม่สามารถให้เข้ามาพักในวังหลวงได้ เนื่องจากช่วงนี้มีกบฏ คิดก่อการร้ายข้าจึงจำใจต้องให้แคว้นต่าง ๆ พักอ
ลั่วเอ๋อร์ไม่สำนึก ในยามวิกาลที่คุกใต้ดินลมหนาวเย็นยะเยือกพลัดเข้ามาเรื่อย ๆ จนรุนแรงขึ้นทำให้ทหารที่ยืนเฝ้ามันต้องใส่เสื้อผ้า 2 ชั้น ลั่วเอ๋อร์ " เหตุใดวันนี้ถึงได้เย็นยะเยือกเช่นนี้ " นางนั่งกอดเข่าจนตัวสั่นเสื้อผ้ากันหนาวก็ไม่มีใส่ให้ปกคลุม ในขณะนั้นเหล่าทหารที่ยืนเฝ้าประตู จู่ ๆ ก็สลบลงไปอย่างไร้สาเหตุ เหลือเพียงความเงียบพร้อมกับความมืดมิดที่วังเวงอยู่รอบกาย ลั่วเอ๋อร์ " หนาวมาก ข้าจะหนาวตายหรือไม่ " หลังพูดบ่นพึมพำอยู่คนเดียวท่ามกลางอากาศที่เย็นจัด เมื่อเวลาผ่านไปได้ไม่นานความหนาวก็คลายตัวลง อย่างน่าอัศจรรย์ใจ แต่มีลมพัดที่รุนแรงขึ้นเข้ามาแทนที่อย่างกระทันหัน ลั่วเอ๋อร์ " คุกใต้ดินเหตุใดถึงลมแรงเช่นนี้ " เมื่อสิ้นสุดประโยคกระดาษแสงสีส้มก็ได้ล่องลอยมาอยู่ที่หน้ากรงขัง นางจึงหยิบกระดาษขึ้นมาแล้วอ่านดูอย่างช้าๆ (จดหมาย จาก มู่เฉิน ) ข้าเอง มู่เฉิน ข้าเพิ่งรู้ว่าท่านถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินวันนี้ข้าเลยอยากให้โอกาสท่านนั้นได้แก้แค้น เพียงแค่ท่านท่องตำราบทนี้
ลั่วเอ๋อร์ " อย่าให้ข้าออกไปได้ก็แล้วกัน ครั้งนี้ข้าจะทำให้เจ้าหายไปจากที่นี่ " ชุ่ยเหริน " หุบปาก ข้าไม่ยอมปล่อยเจ้าออกมาเป็นแน่ " ลั่วเอ๋อร์ " ฮ่า ๆ อย่างไรเสีย ฟางหรงลูกสาวของเรานั้นไม่มีความผิด ถึงขั้นต้องประหารชีวิต ท่านจะฆ่าลูกเลือดเนื้อเชื้อไขได้รึ " ชุ่ยเหริน " มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังกล้าโกหกข้าอีกรึ " ลั่วเอ๋อร์ " ท่านหมายความว่าอย่างไร " ชุ่ยเหริน " ก็หมายความว่านางไม่ใช่ลูกสาวข้าเลย " ลั่วเอ๋อร์ถึงกับตะลึงในคำตอบ ไม่คิดว่าชุ่ยเหรินจะรู้ความจริงแล้ว ลั่วเอ๋อร์ " ท่านพี่รู้ตั้งแต่เมื่อใด " ชุ่ยเหริน " ลูกสาวข้าบอกเอง " ลั่วเอ๋อร์ " ฮ่า ๆ ใช่ฟางหรงไม่ใช่ลูกสาวของท่าน ไม่คิดว่าข้าจะหลอกท่านได้นานขนาดนี้ " จี้เถา " สิ่งที่เจ้าต้องการ มันจะไม่มีทางเป็นของเจ้า ทั้งฐานะเงินทองชื่อเสียง การยอมรับ สุดท้ายแล้วเจ้ามันก็แค่ขอทานที่ข้าเก็บเข้ามา กำพืชเจ้านั้นต่ำช้า คิดอยากจะปีนขึ้นมาเป็นหงส์ แต่น่าเสียดายเจ้ามันเป็นแค่ของปลอม "
เด็กชายพยายามส่องตามซอกที่มีรูให้มองเห็น แต่ก็ไม่มีผู้ใดอยู่ในนี้เลยสักคนแล้วเสียงที่ว่านั้นไปไหนแล้ว " เหมียว ! เหมียว " ชายจึงมองออกไปอีกครั้งประสบกับจังหวะที่แมวสีดำได้วิ่งผ่านหน้าพร้อมกับเสียงร้องที่หลอนหู " ออกไป " เด็กชายตกใจเป็นใบหน้าซีดผือกทุกวินาทีเหมือนกำลังตกอยู่ในหมู่บ้านผีสิงตลอดเวลาไม่ให้มีเวลาได้คลายกังวลใจเลยแต่น้อย แต่ว่าคราวนี้ของจริงหรือจะมาในไม่ช้า ปีศาจ " กลิ่นมนุษย์ " จมูกที่ว่องไวยิ่งกว่าหมาป่าได้กลิ่นมนุษย์ก็เริ่มหายใจสูดเข้าสูดออกหาทิศทางของกลิ่นเหยื่อ จนกลิ่นมันชัดเจนมันมองมาที่บ้านผุพังมันแน่ใจแล้วว่าหลังนี้แหละมีมนุษย์ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในที่นี้ ปีศาจ " หลบอยู่ที่ใดออกมาเถิด " มันเดินหลังค่อม ๆ ก้ม ๆ ไปทุกบริเวณรอบ ๆ พร้อมน้ำเสียงที่เขย่าขวัญให้ผู้หลบซ่อนนั้นกลัวจนฉี่จะราด " ข้าจะอ้วก ไม่ไหวแล้ว " เสียงอาเจียนที่ดังลั่นทะลุออกมาในตู้เสื้อผ้าพร้อมกับตัวคนครึ่งนึงที่ยื่นหน้าอาเจียนของเสียลงพื้น ปีศาจ " เด็กชายผู้นี้กำลังเป็นหนุ่ม
หนิงหลง “ดูแหมือนว่าความมืดมันกำลังจะไปทีละหมู่บ้าน เราต้องเร่งเดินทางไปยังหมู่บ้านทางทิศเหนือ ตอนนี่เลย “ ปีศาจ “ เจ้ารนหาที่ตายรึ “ หนิงหลง “เจ้าหุบปาก เจ้าเคยเกิดเป็นมนุษย์ก็ควรเข้าใจในสิ่งที่ข้าต้องการจะทำ “ ปีศาจ “ข้าแค่กลัวว่าเจ้าจะเอาพลังที่ไหนมาสู้กับมัน “ เจ้าปีศาจยืนกอดหน้าอกด้วยความไม่พอใจ ที่นางนั้นไม่ฟังอะไรเลย หนิงหลง “ฟังนะ ข้าพอมีอยู่บ้าง “ หลังจากนั้นหนิงหลงก็พาปีศาจกับสามีเดินทางไปยังหมู่บ้านกลุ่มแรกที่กำลังเผชิญปัญหา แคว้นจิ้น “ท่านแม่ หือ ๆ อึก “ เด็กชายวัยเจ็ดขวบกำลังยืนร้องไห้ข้างศพที่ไร้ลมหายใจ ท่ามกลางปีศาจที่กำลังหัวเราะได้ใจเห็นเพียงมนุษย์เป็นเครื่องมือระบายอารมณ์ ปีศาจ “เจ้าหนูน้อย ต่อไปเจ้าจะไม่ร้องไห้แล้ว ฮ่า ๆ “ รอยยิ้มที่กว้างใหญ่ได้ฉีกออกจนเลือดไหลจนเด็กชายล้มลงไปกับพื้น “อย่าเข้ามานะ “ แขนน้อย ๆ ทั้งสองข้างพยายามค้ำพื้นดินเพื่อดันสะโพกถอยไปข้างหลังทีละน้อย พร้อมเสียงตะโกนเรียก “ช่วยด้วย ฮือ ๆ “
ณ .ราชวงศ์ซาง ขันที " ฝ่าบาทความมืดจางหายไปแล้วจะดูเหมือนว่าเหล่าปีศาจมันจะเข้ามาที่นี่ไม่ได้ " ก่อนหน้านี้ราชวังซางก็เจอเหตุการณ์เดียวกันกับที่หนิงหลงเจอ แต่ยังโชคดีที่ก่อนหนิงหลงจะออกไปข้างนอกนางได้ใช้พลังเป็นเป็นเกราะป้องกันไม่ให้ปีศาจนั้นบุกรุกทำร้าย จี้เถา " ท่านพี่ข้าไปหาลูกสาวข้าอยู่ที่ตำหนักก็ไม่เห็นมีผู้ใดเลยสามีนางก็ไม่อยู่มีแต่สาวใช้ ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย " ชุ่ยเหริน " ใจเย็นๆข้าว่าลูกสาวต้องปลอดภัย " จี้เถา " ท่านพี่ข้าว่าควรออกไปดูชาวบ้านเสียหน่อยไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง " ชุ่ยเหริน " พรุ่งนี้เราจะออกไป แต่ตอนนี้ข้าจะส่งขุนนางไปแทน " อันอัน " ฮองเฮาเพคะ พระชายากลับมาแล้วตอนนี้กำลังบาดเจ็บหนัก ไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่ " ผู้เป็นแม่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบไปตำหนักพร้อมกับสามี ทันที หัวใจสั่นคลอนวิ่งเข้าไปหาลูกสาวในห้องนอน ใบหน้าสีขาวซีดบอกเหล่านางกำนัลให้ตามหมอหลวงมาทันที ฝ่ามือที่อบอุ่นได้แต่จับคลำหน้าผากที่กำลังร้อนระอุเหมือนภูเขาไฟกำลัง