LOGINสายลมพัดผ่านกายให้สบายตัว แต่แทนที่หยางอี้คังจะมีความสำราญใจ เขากลับถอนหายใจหนักๆ หลายหน ตอนนี้ชายหนุ่มมีความคิดมากมายหมุนวนในหัว
สำหรับซูกุ้ยฟาง นางไม่อยากให้เรื่องราวต้องเปลี่ยนไปมากกว่านี้ แปดบรรทัดที่นางจำได้คือ ชายผู้นี้แต่งงานกับสตรีที่เขาช่วยจากการถูกซื้อขายในตลาด เป็นสตรีที่ทำให้เขามีลูกหลานสืบสกุล และในอนาคตจะได้ลูกชายหัวปีและท้ายปี โดยคนโตจะเป็นหมอยาผู้ยิ่งใหญ่ช่วยเหลือคนทั่วหล้า ส่วนคนรองเป็นแม่ทัพประจำแคว้นเจ้าแทนบิดา ทั้งห้าวหาญและกล้าแกร่ง แล้วถ้าหากเขาได้อุ่นเตียงกับม่านลั่วลั่ว หญิงงามที่เข้ามาอยู่ในสกุลอย่างถูกต้อง ซูกุ้ยฟางจะต้องระเห็จไปอยู่ที่ใด คิดได้ดังนั้นนางคงต้องงัดทุกวิถีทางเพื่อกุมหัวใจและร่างกายของหยางอี้คัง และนางต้องเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งในเรือนหลังงามนี้
“หากท่านแม่ทัพต้องการผ่อนคลาย ผู้น้อยจะช่วยปรนนิบัติ”
“อุ่นเตียงเช่นนั้นรึ” เขาถามอย่างเปิดเผย
ดวงตาคู่สวยหวานของซูกุ้ยฟางเบิกโต แสร้งทำกิริยาขัดเขิน
“หามิได้...ยามนี้หากขึ้นเตียงคงไม่งาม แต่มีสิ่งสำราญอื่นที่กุ้ยฟางอยากช่วยท่านแม่ทัพ”
“เยี่ยงไร จงบอกข้าให้รับรู้”
ชายหนุ่มยิ้มหล่อเหลาให้หญิงสาว ยามนั้นหัวใจซูกุ้ยฟางแทบกระโจนออกมานอกอก นางนอนร่วมเตียงแม่ทัพหยางมาหลายคืน แต่ไม่ได้มีสิ่งใดลึกซึ้ง ถ้าครั้งแรกนี้จะมีความสัมพันธ์แสนวิเศษที่ไม่ใช่บนเตียง นางก็เห็นว่ามันย่อมเป็นเรื่องชวนให้หวามใจโดยแท้
ณ ห้องอาบน้ำของเรือนหลังงาม ตรงกลางมีถังอาบน้ำไม้ขนาดใหญ่ สามารถลงไปแช่ตัวได้สองคนอย่างสบาย ซูกุ้ยฟางจัดเตรียมทั้งเครื่องหอม ดอกไม้โรยไว้บนผิวน้ำ และนางยังเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เหลือน้อยชิ้นกว่าเดิม
หยางอี้คังสวมเพียงกางเกงขาสั้น และมีซูกุ้ยฟางคอยปรนนิบัติใกล้ๆ
“ผู้น้อยช่วยถูหลังให้ท่านและบีบนวดดีไหมเจ้าคะ”
“เกรงว่าเจ้าจะปวดเมื่อยตัวเสียเปล่าๆ รู้หรือไม่ข้าหนังหนามาก”
เขาเอ่ยเสียงเข้มกว่าปกติสักหน่อย เพราะสงสัยว่าเหตุใดซูกุ้ยฟางถึงยังแสดงปาหี่ได้เก่งถึงเพียงนี้ นางเป็นจิ้งจอกน้อยจอมเจ้าเล่ห์ หรือว่าสติที่มีถูกลบเลือนไปจริงๆ กระนั้นในส่วนลึกเขาพออ่านจิตใจนางได้ สตรีผู้นี้อยากให้เขาข่มเหง เพื่อหวังมีบุตรชายหัวปีท้ายปี และนั่นจึงเป็นเหตุให้เขาฝืนใจอุ่นเตียงกับนางไม่ลง กระนั้นเลือดในกายเขากลับพลุ่งพล่านอย่างหนัก ผิดจากทุกครั้งที่เขาเคยอดกลั้นได้
ดวงตาคมลอบมองหน้าอกหน้าใจของหญิงสาวที่ล่อตาล่อใจเหลือเกิน และยามนี้แท่งหยกเขาแข็งขัน หากผิดที่เขายังไม่ต้องการข่มเหงจิตใจนาง ด้วยล่วงรู้ว่าซูกุ้ยฟางตั้งใจใช้เล่ห์กลหลอกล่อเขา เพื่อหวังเพียงร่วมหลับนอน และคงใช้เรื่องนี้เป็นข้อต่อรองเลื่อนขั้นนางจากหญิงบำเรอเป็นภรรยาในภายภาคหน้า
“มิได้ หน้าที่ของกุ้ยฟางคือรับใช้ผู้เป็นสามี” หญิงสาวว่าแล้วก็อายม้วน พยายามหลบสายตาคมๆ ของอีกฝ่าย และสายตานางพลันได้เห็นรอยแผลเป็นที่แผ่นหลังเขา มองแล้วจึงนึกกลัวจับจิต
“แผลของท่าน!”
ซูกุ้ยฟางหลุดปากออกไป ยามนั้นเกิดความเงียบครอบงำในห้องอาบน้ำ
เสียงถอนหายใจแรงๆ ดังขึ้นอีกหน คราวนี้ซูกุ้ยฟางจับสัญญาณความเครียดได้
“ผู้น้อยขออภัยที่กล่าวเรื่องไม่สมควร”
“เยี่ยงนั้นรึ เจ้าแสร้งทำราวกับไม่ล่วงรู้ว่าแผลของข้าได้มาอย่างไร”
“หามิได้ ผู้น้อยคาดว่าคงเกิดจากการทำศึกสงคราม”
“ฮ่าๆๆ ข้าอาจมิเก่งกาจได้ฉายาว่าเป็นเทพสงครามแห่งแคว้นเจ้า แต่มีฝีมือนั้นพอตัว ไม่เคยได้รับบาดเจ็บหนักเจียนตายสักครั้ง ยกเว้นก็แต่เมื่อสิบกว่าปีก่อน ที่ถูกคนในตระกูลใหญ่ลงโทษอย่างไม่ยุติธรรม!”
ซูกุ้ยฟางได้ยินแล้วจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง นางไม่อยากให้บรรยากาศหอมหวานเปลี่ยนเป็นตึงเครียด
“ท่านแม่ทัพ ดื่มน้ำผึ้งเพื่อให้ชุ่มคอและผ่อนคลายดีไหมเจ้าคะ และยังมีของว่างที่ท่านชอบด้วย ทั้งเมล็ดถั่ว องุ่นแห้ง และแป้งจี่”
“ไม่ละ ข้ารู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่เจ้ายกของว่างและน้ำชามาให้ดื่มเมื่อครู่”
หญิงสาวได้ยินเช่นนั้นพลันเหงื่อแตกด้วยกลัวความผิดที่ตนกระทำ
“ถ้าอย่างนั้นท่านแม่ทัพให้ผู้น้อยช่วยทำให้สบายเนื้อสบายตัวเถิดเจ้าค่ะ” นางกล่าวแล้วจึงบีบนวดหัวไหล่เขาและขับร้องเพลงไปด้วย
สตรีที่มาจากตระกูลคหบดีขับกล่อมเพลงหวานหูให้แม่ทัพหนุ่มฟังอย่างสำราญใจ จนเขาถึงกับเคลิบเคลิ้ม ทั้งสัมผัสจากนางก็นุ่มนิ่มชวนให้เขาคิดเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากอยากจับนางกดและข่มเหงให้สาสมใจ
“เจ้าช่างเป็นสตรีที่น่ามองอย่างไม่รู้เบื่อ”
“ผู้น้อยอยากเป็นเช่นนั้น สตรีที่ท่านแม่ทัพมองด้วยสายตาหวานซึ้ง” ซูกุ้ยฟางหว่านเสน่ห์เต็มที่ พอช่วยถูแผ่นหลังกว้างนางก็ทำมือซุกซนเอื้อมไปข้างหน้า แสร้งทำทีเผลอลูบแผงหน้าอกแน่นๆ ของเขา
“เจ้ากำลังกระทำสิ่งใด”
“คือ...อยากช่วยท่านแม่ทัพล้างเนื้อล้างตัว”
“แล้วอยู่ข้างนอกเช่นนั้นจะดีหรือ ลงมาอยู่ในอ่างด้วยกันกับข้าน่าจะสะดวกกว่า” เขาเอ่ยแล้วจึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
ในห้วงเวลานั้นซูกุ้ยฟางตะลึงพรึงเพริด ถึงจะเห็นเขาเปลือยกายบ่อยครั้ง แต่ในช่วงเวลาเช่นนี้ที่นางเองเริ่มมีอารมณ์หวามไหว จึงช่วยไม่ได้ที่จะมือไม้อ่อนและร่างกายร้อนรุ่มไปหมด
“อะ อุ๊ย ว้าย...ทะ ท่านแม่ทัพ”
ภาพต่อมาคือซูกุ้ยฟางเข้าไปอยู่ในอ่างอาบน้ำกับหยางอี้คัง และหน้าอกหน้าใจนางสัมผัสเข้ากายแกร่งซึ่งอุ่นจัด
“นี่เป็นแผนของเจ้ารึ นางจิ้งจอกน้อย”
“โอ้ ไฉนท่านแม่ทัพกล่าวหาข้าเช่นนี้”
“ฮ่าๆๆ ตั้งแต่โตเป็นหนุ่ม ข้าไม่เคยเห็นสตรีนางใดกล้าหาญและเจ้าเล่ห์เช่นเจ้า”
“ท่านแม่ทัพ!” ซูกุ้ยฟางแกล้งส่งเสียงดัง นางมองค้อนคนรูปหล่อ
“จะอาบน้ำกับข้าหรือว่าแค่อยากกอดกันอยู่อย่างนี้”
เมื่อถูกเขาเตือน นางจึงค่อยๆ ขยับตัวห่างจากกายแกร่ง หากมิวายทิ้งหางตาคอยชำเลืองมองเขา
“เจ้ามีกลวิธีใดที่จะช่วยทำให้ข้าผ่อนคลาย วานบอก”
“เมื่อครู่ผู้น้อยนวดให้ท่านแล้ว ต่อจากนี้เห็นจะเป็นการใช้วารีบำบัด”
เมื่อพายุแห่งความรักผ่านพ้นไป หยวนหยวนก็สะดุ้งตื่นในเวลาใกล้รุ่งสาง ซึ่งนางยังอยู่ในชุดเจ้าสาวสีแดงงดงาม หากยามนี้ข้างกันไม่ได้มีร่างของเส้าเฟิง ข้างนอกเกิดเสียงเอะอะ พร้อมเสียงม้า และการร้องตะโกนว่าพวกล่าหัวมนุษย์กำลังจะบุกเข้าเมืองจิง ความวุ่นวายต่างๆ สร้างความตกใจแก่หยวนหยวน และทั้งที่นางไม่อยากจากไปไหน แต่หลี่ซางก็พาหยวนหยวนฝ่ากองกำลังนักรบล่ามนุษย์ออกมาจากพื้นที่ซึ่งนองไปด้วยเลือดสำเร็จ เวลาผ่านไปเกือบสามวันสามคืน ซึ่งนอกจากหยวนหยวนยังมีสตรีนางอื่น และคนฝาแฝดวัย...อีกสองคนซึ่งเป็นลูกของพี่ชายที่ล่วงลับของเส้าเฟิง รวมถึงสตรีตั้งครรภ์อีกหนึ่งซึ่งนางดูเหมือนจะเดินทางต่อไม่ไหว “เราจะไปที่ใดกัน!” หยวนหยวนถาม เสียงนางสั่นเครือ ใจพะวงถึงเส้าเฟิง และครอบครัวนางที่ต้องแยกกันก่อนหน้านี้ อีกทั้งกลุ่มชายหนุ่มที่มาพร้อมกับพวกนาง เสียชีวิตไปหมดแล้ว ดังนั้นจึงเหลือเพียงหลี่ซางที่พอจะเป็นเรี่ยวแรงสำคัญพาทุกคนหลบหนี การหลบซ่อนตัวในป่าหลายคืนทำให้เหนื่อยล้า ท้องก็ร้องหิวอยู่ตลอด ชีวิตนับแต่มาอยู่ที่เมืองจิง นางไม่เคยต้องลำบากถึงเพียงนี้ หลี่ซางมองหยวนหยวน นางเป็
ฝ่ายเส้าเฟิง เขาเป็นผู้นำรุ่นที่สามของหน่วยนักรบของคนเถื่อน รับจ้างทำงานทั้งทุกชนิดเน้นพวกคุ้มกันสินค้า มีหอกระจายข่าว และการค้าที่สร้างผลกำไรมหาศาลก็คือ ม้าศึกและม้าใช้ในการแข่งขัน รวมถึงสุนัขป่า สุนัขใช้งาน และมีไว้เพื่อการสงคราม ซึ่งได้รับความนิยมไปทั่วทั้งใต้หล้า นอกเหนือจากนั้น เขายังได้รับความไว้วางใจให้ป้องกันกำแพงจากข้าศึก จากเผ่านอกด้านอันประกอบด้วยห้าเผ่าใหญ่ ซึ่งหมายตายึดพื้นที่เมืองจิง ใช้เป็นฐานสำคัญในการตีเข้าเมืองหลวง ดังนั้นภาพที่ทุกคนเห็นคือ ชายหนุ่มผู้สง่างามนั่งอยู่บนหลังม้า ทั้งยังมีฝีมือในการรบยอดเยี่ยมหาตัวจับยาก แต่เดิมเขารับเลี้ยง--คนฝาแฝดไว้ ซึ่งเป็นลูกของพี่ชายต่างมารดา อีกฝ่ายจากไปก่อนวัยอันควร และพวกเขาสองคน-เป็นผู้ชายทั้งคู่ อยู่ในวัยซุกซน ทั้งมักจะคอยจับคู่ให้เขากับสตรีไปทั่ว กระทั่งพวกเขาได้พบหยวนหยวน จึงชอบนางเป็นพิเศษ จนกลายเป็นพ่อสื่อ และถึงหยวนหยวนจะเป็นหญิงสาวบ้านป่า ใช้ชีวิตในทุ่งหญ้า แต่นางอ่านออกเขียนได้ นั่นเป็นเพราะเมืองจิงมีนักโทษชั้นดีจากเมืองหลวง ถูกเนรเทศให้มาอยู่ที่นี่เนืองๆ นางเลยได้เรียนรู้หลายสิ่งจากคนพวกนี้ อ่านได้ ใช้พู่กั
เส้าเฟิงพบหยวนหยวนในอีกครั้งเมื่อนางออกมาเล่นน้ำในลำธารกลับกลุ่มเพื่อน ๆ ก่อนต้องหนีแตกกระเจิง ด้วยมีบุรุษต่างเมืองเข้ามาเกี้ยว ฝ่ายนั้นวางแผนชั่วลักพาตัวนางเหล่านี้ไปเป็นสะใภ้ไว้ใช้งาน ด้วยคิดว่าคนเมืองจิง คือชาวเขา เป็นกลุ่มคนด้อยค่ากว่าคนในเมืองอื่น ด้วยเมืองจิงมีนักโทษถูกเกณฑ์มาใช้แรงงาน รวมถึงเหล่าขุนนางที่ทำความผิด ก็ถูกเนรเทศมาไว้ที่นี่ เมื่อถูกไล่ต้อนจากคุณชายผู้ต่ำช้า หยวนหยวนวิ่งหนีตายอย่างไม่คิดชีวิต นางอยู่ในป่าตั้งแต่จำความได้ ได้รับการดูแล โดยนายพราน จึงคล่องแคล่วว่องไว ทว่าคนชั่ว มากันนับสิบคน ต่างไล่ต้อนนางประหนึ่งหากจับเป็นไม่ได้ ก็ขอเอาศพไปกระทำเรื่องน่าขยะแขยง “แม่นาง เลือกเอาเถิด จะเป็นของคุณชาย หรือ อยากถูก ตัด แขน ตัด ขา แล้วดองเอาไว้ดูเล่นในอ่างดินเผา!” คนผู้หนึ่งเอ่ย พร้อมเล็งธนูไปหานาง แต่อีกคนยกมือห้าม ด้วยการทำตุ๊กตา -มนุษย์ โหดร้ายกับนาง-เนื้อบางแสนน่ารัก “ใบหน้านี้งดงาม ดวงตากลมโต เอาไว้ใช้อุ่นเตียงดีกว่า” คุณชายเสื้อน้ำเงินท่าทางมีฐานะกล่าว “เหตุใดต้องรอให้นาน เท่านี้ยิ่งดี เนื้อ หวาน ไร้จริตมารยา เมียคนก่อนข้าก็แต่งเข้าเ
“ข้าไม่ใช่คนฉลาด แต่ไม่ได้โง่เขลา ในเมื่อลูกของข้า ก็เป็นท่านที่ประสงค์อยากทำให้เขาเกิด หากกล่าวว่า ในภายภาคหน้าเขาจะเป็นโอรสสวรรค์ เรื่องนี้ไม่เท่ากับลบหลู่เบื้องสูงหรือ โทษนี้ถึงขั้นประหารชีวิต” หยวนหยวนกล่าวตรงๆ ไม่อ้อมค้อม และรู้สึกกระดากอาย นางตกเป็นของชายผู้นี้ คนที่กำลังบงการให้นางกระทำเรื่องชั่วช้า “ไม่ใช่ข้าที่ประสงค์ให้เขาเกิด แต่เป็นฟ้าลิขิตไว้ อี๋เหนียงผู้หนึ่ง ที่สามารถพลิกประวัติศาสตร์ของแคว้นหัวหยาง เจ้าไม่ต้องดิ้นรนทำสิ่งใด เพียงแค่เดินตามแผนที่มีคนวางให้ และทำให้ข้าพึงพอใจ สิ่งง่ายดายเพียงเท่านี้ คงไม่ยากเกินความสามารถ ที่สำคัญคุณหนูมั่นใจได้อย่างไรว่า... ผู้ที่จะขึ้นนั่งบัลลังก์ต่อจากฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน มีเพียงแต่เหล่าอ๋องในเมืองหลวง!” หยวนหยวนไม่ได้รู้เรื่องราวใดเกี่ยวกับองค์ชายในสมัยฮองเต้องค์ปัจจุบันของแคว้นหัวหยาง นอกจากคนที่นางเคยหน้าเมื่อวันก่อน ก็เห็นมีเพียงรัชทายาท และเหลียงเซียนซี ส่วนองค์ชายห้า เหลียงหูเกอก็ออกบวช “ดูเหมือนสิ่งที่เจ้ากล่าว ไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับข้าสักนิด” “คุณหนูโชคร้ายไปหน่อย ที่พลัดตำทะเลสาบดำ ในช่วงเวลา
“ให้เด็กๆ ทาน้ำมันหอมอีกหน่อยเจ้าค่ะ” หลัวฟูบอกหยวนหยวน แต่ยามนี้ใจคอนางไม่สู้ดี กระทั่งสวมเสื้อผ้างามเรียบร้อย และประดับปิ่นกับดอกไม้ที่ผมเสร็จ เหลียงเซียนซีก็มาหยุดที่หน้าเรือน ก่อนเข้าไปรอนางที่เรือนส่วนตัว หยวนหยวนรีบตามไป ทว่าเมื่ออยู่เงียบๆ ในห้องโถงโถงรับรอง นางเห็นว่าคนที่นั่งหันหลังให้ มองอย่างไรก็ไม่อาจเป็นองค์ชายสาม “รังเกียจข้าเช่นนั้นหรือ” “ทะ ท่านมาที่นี่ได้อย่างไรอินปั๋ว!” นางเรียกเขาเสียงดังเช่นนั้น ยามนี้ทั้งตกใจ และหวาดกลัว หากมีผู้อื่นจับได้ ทั้งนางและคนผู้นี้ยังจะมีชีวิตรอดหรอกหรือ! “ข้าย่อมต้องมาหาคุณหนูแปด เพื่อตรวจสอบว่า สิ่งที่ฝากฝังไว้ให้เรือนกายเจ้า ยามนี้มันก่อกำเนิดชีวิตน้อยๆ หรือยัง” หยวนหยวนไฉนจะรู้สึกสนุกไปกับเขา นางตั้งใจถอยหนี ทว่าสองขากลับไม่เชื่อฟังคำสั่ง จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น แล้วเข้ามารั้งร่างบางแนบชิดกายแกร่ง อีกฝ่ายกระชากเสื้อนางออกเพียงครั้งเดียว สองเต้าอวบอัดก็เผยความงาม ต่อสายตาคมกริบ! หยวนหยวนพยายามเหลือเกินที่จะรวบรวมสติ แต่นางกำลังคลั่งในรสสิเน่หาอินปั๋ว นั่นคือสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ และเขาก็เหมือนอยาก
มือหนึ่งนั้นนวดเฟ้นหน้าอกทรงสวย ริมฝีปากบางที่อุ่นซ่านจูบไล้ไปตามซอกคอและแผ่นหลัง ส่วนอีกไล้ผิวกายลงไปช้าๆ กระทั่งแปะอยู่บนกลีบสีชมพูสวย “คนเถื่อน เจ้าข่มเหงผู้อื่นเช่นนี้หรือ” “โถ คุณหนู ข้าเพียงแค่อยากให้เราแนบสนิทกัน” เขาเอ่ยแล้วก็จูบแรงๆ ตามส่วนที่ไวต่อสัมผัส เมื่อนางครางเสียงหวานจัด นิ้วใหญ่ๆ ก็ทำหน้าที่ต่อ ด้วยการแทรกผ่านเข้าไปด้านในแอ่งเนื้องาม หยวนหยวนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง นางอยากร้องประท้วง แต่ร่างกายกับตอบสนอง และพร้อมให้เขาเปลี่ยนจากนิ้วมือ แล้วใช้ความเป็นชายเข้าอันใหญ่โตเคลื่อนเข้าไปสู่ความคับแน่นนั้นแทน หยวนหยวนตื่นขึ้นมาในรุ่งเช้าอีกวัน และต้องแปลกใจเมื่อเห็นเซี่ยงอี่ คอยรับใช้อยู่ใกล้ๆ “ขะ ข้ามาที่นี่ได้อย่างไร” นางตื่นตระหนก เรื่องเมื่อคืนแน่นอนไม่ใช่ความฝัน หยวนหยวนร่วมรักอย่างโลดโผนกับคนเถื่อนที่อ้างตนว่าชื่ออินปั๋ว ซึ่งสามหน้ากากสีดำ “ไฟไหม้เมื่อคืนน่ากลัวมากเจ้าค่ะ คนในจวนราชครู จึงต้องย้ายไปข้างนอกก่อน และเมื่อคืน คุณหนูได้รับการช่วยเหลือจากองค์ชายสาม!” “เป็นไปได้อย่างไร!” หยวนหยวนส่งเสียงดังทีเดียว







