“หึ” โกหกทั้งเพ นางเกลียดเขาเพียงเพราะเขาเป็นชินอ๋องซื่อจื่อ
“พระองค์จะเชื่อที่หม่อมฉันกล่าวหรือไม่ก็แล้วแต่ หม่อมฉันขอตัวเพคะ” นางจะลุกหนี แต่มือใหญ่ของเขาคว้าข้อมือของนางเอาไว้ก่อนจะดึงรั้ง
“เจ้ายังไปไม่ได้”
“ชินอ๋องซื่อจื่อ พระองค์จะเอาแต่ใจเช่นนี้ไม่ได้ พระองค์ไม่มีสิทธิ์มาห้ามหม่อมฉัน” ตัวซวยผู้นี้เหตุใดถึงได้หน้าหนาหน้าทน นางแสดงตัวว่าไม่อยากอยู่ใกล้มากถึงเพียงนี้ ก็ยังดื้อรั้น
“หึ” กล่าวถึงสิทธิ์หรือ หากตอนนั้นนางไม่เอ่ยปฏิเสธคำของฮ่องเต้และบิดาเขาด้วยท่าทางไร้เดียงสา วันนี้เขาและนางก็คงได้กลายเป็นคู่หมั้น
“ปล่อยหม่อมฉันนะเพคะ” ยิ่งนางพยายามแกะมือบุรุษผู้นี้เพียงใด มือนั้นยิ่งกำแน่นจนนางเจ็บ
“หากเจ้าไม่มานั่งคุยกับข้าดีๆ ข้าก็จะจับไว้เช่นนี้” ไม่ยอมปล่อย
“แต่หม่อมฉันเจ็บนะเพคะ” สิ้นเสียงที่นางกล่าวมือใหญ่ก็ปล่อยออกก่อนจะเปลี่ยนมาพันธนาการเอวคอดของนางไว้แล้วรั้งตัวนางให้เข้าไปใกล้มากกว่าเดิม
ตอนนี้จึงกลายเป็นเขานั่งกอดเอวนางที่ยืนอยู่ ใบหน้าของบุรุษรูปงามนิ่งเฉยจนยากจะคาดเดาอารมณ์
“ชินอ๋องซื่อจื่อได้โปรดปล่อยหม่อมฉันเถิดเพคะ หากพระองค์ทำเช่นนี้แล้วมีใครมาเห็นเข้าหม่อมฉันจะเสียหายเอาได้”
“...” ท่าทางนิ่งเฉยของอีกฝ่ายทำให้นางได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันก่อนจะพยายามเค้นน้ำตาเพื่อให้ดูน่าสงสาร
“ได้โปรดให้เกียรติหม่อมฉันด้วยเพคะ” จางชิงหนี่ว์ก้มหน้ามองใบหน้าบุรุษรูปงามแต่ทว่าหยาบคายด้วยดวงตาที่ฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำ ท่าทางราวกับดอกสาลี่ต้องฝนของนางทำให้มือใหญ่คลายออก แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อย เขาเปลี่ยนเป็นจับตัวนางให้นั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ มือใหญ่เปลี่ยนมาจับข้อมือนางไว้แทน
‘โถ่เอ๊ย! ไม่คิดจะหลงกลมารยาของสตรีเลยหรือ ใช่สิ...มารยาของข้าจะไปสู้มารยาดอกบัวขาวที่ท่านหลงใหลได้อย่างไร’ นั่นมันดอกบัวขาวชั้นเซียน ไม่ว่าบุรุษมากอำนาจและเก่งกาจเพียงใดก็ยังต้องกลายเป็นคนโง่เง่าตกหลุมพรางมารยาของสตรีเช่นสวี่ลู่ฟาง
“ชินอ๋องซื่อจื่อได้โปรดปล่อยข้อมือหม่อมฉันด้วยเพคะ หม่อมฉันไม่ลุกไปไหนแล้ว”
“อันฉี...เรียกข้าว่าอันฉีก่อน”
“...”
“เจ้าไม่อยากเอ่ยปากก็ไม่เป็นไร นั่งด้วยกันเช่นนี้แหละ”
“เฮ้อ...พระองค์อายุมากกว่าหม่อมฉันหลายปี จะให้เรียกนามเฉยๆ จะดูไม่เหมาะสมนะเพคะ” ชายผู้นี้รุ่นราวคราวเดียวกับพี่ชายนาง หากเรียกเช่นนั้นจะไม่ดูตีสนิทเกินไปหรือ
“เช่นนั้นเรียกข้า พี่อันฉี” จะให้เรียกพี่ชายเช่นเมื่อก่อนคงจะไม่ได้ ในเมื่อเจอกันครานี้เขาไม่ได้อยากเป็นพี่ชายนางแล้ว
“...”
“หากไม่เรียกข้าก็จะจับมือเจ้าเช่นนี้แหละ แล้วคำราชาศัพท์เหล่านั้นก็ไม่ต้องกล่าวให้ยุ่งยาก”
“พี่อันฉีเจ้าคะ ได้โปรดปล่อยมือข้าเถิดเจ้าค่ะ” กล่าวจบก็ลอบกลอกตาขึ้นมองท้องฟ้าครู่หนึ่งพลางต่อว่าตนเองที่ไม่น่าออกจากจวนเลย
จะว่าไปลางไม่ดีตั้งแต่พี่ใหญ่ต้องรีบเข้าวังกะทันหันแล้ว เหตุใดตอนนั้นนางไม่ฉุกคิด
“อืม พูดเช่นนี้ค่อยรื่นหูหน่อย” เขากล่าวและปล่อยมือออกจากข้อมือนางแต่โดยดี
‘รื่นหูจวนท่านน่ะสิ ไปอยู่ให้ห่างจากข้าเลยนะเจ้าตัวซวย’ หากนางเอกรู้เข้าแล้วไม่พอใจ ไปยุแยงตัวร้าย สุดท้ายนางมิต้องถูกสังหารตามเดิมหรือ
พยายามหลีกเลี่ยงมาตั้งเก้าปี เหตุใดถึงได้มาพลาดเอาวันนี้ ไม่น่าเลยจริงๆ ชิงหนี่ว์
“เจ้าจะไม่บอกพี่จริงๆ หรือหนี่ว์เอ๋อร์ ว่าเหตุใดเจ้าถึงกันตัวเองให้ออกห่างจากพี่ ทันทีที่รู้ว่าพี่คือชินอ๋องซื่อจื่อ” น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยกับคำแทนตัวของเขาทำให้นางขนลุกพลันสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“ชินอ๋องซื่อจื่อ...เอ่อ พี่อันฉีได้โปรดแทนตัวเองว่าข้าเถิดเจ้าค่ะ ท่านกล่าวเช่นนี้ข้าไม่คุ้นเคย”
“ตอนเด็กๆ พี่ก็กล่าวกับเจ้าเช่นนี้”
“แต่ตอนนี้เราสองคนเติบใหญ่แล้วเจ้าค่ะ ทำเช่นเดิมคงจะมิเหมาะสม” อีกอย่างห่างเหินกันเก้าปีกว่า หรือจะกล่าวว่าเกือบจะสิบปีก็ได้ จะให้กลับไปเป็นเช่นวัยเด็กคงจะมิได้
แล้วนางก็ไม่อยากแสดงออกถึงความสนิทสนมกับบุรุษรูปงามที่สตรีเกือบทั้งแคว้นหมายปอง
“เหมาะไม่เหมาะ พี่ตัดสินเอง เอาเถิดอย่าได้สนใจผู้อื่นเลย” สักวันหนึ่งนางจะได้คุ้นเคยกับความสนิทสนมนี้
‘หากรู้ว่าจะเติบโตมาเป็นบุรุษเช่นนี้ นางคงไม่พาตัวเองไปใกล้เขาในตอนนั้น’
เพราะนางเอาแต่ลอบด่าอีกฝ่ายในใจจึงไม่ได้สังเกตเห็นแววตาล้ำลึกยากจะคาดเดาของเขา
การแต่งฮูหยินที่เร่งรีบของท่านราชครู มีคนมากมายที่อาจจะสงสัยว่าเหตุใดท่านราชครูจางเหว่ยถึงได้เร่งรีบตบแต่งเถ้าแก่เนี้ยร้านขายภาพวาดซือซือเข้าจวนจาง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีข่าวลือว่าคบหากัน หรืออาจจะเป็นเพราะได้เห็นบทเรียนจากการเล่าลือเรื่องของคุณหนูสวี่ ที่จู่ๆ คนเหล่านั้นบังเอิญลิ้นขาดกลายเป็นคนพูดไม่ได้ แต่โชคดีหนึ่งในนั้นมีคนเขียนอักษรได้ จึงได้เขียนเตือนคนรอบตัวไม่ให้เล่าลือเรื่องราวเกี่ยวกับเชื้อพระวงศ์หรือตระกูลที่ใกล้ชิดราชวงศ์ สุดท้ายจึงไม่มีใครกล้าเล่าลือหรือสงสัยถึงความเร่งรีบของท่านราชครู “พี่เหว่ย ท่านจะไม่เสียใจทีหลังห
ฮองเฮาพบปะสหาย ภายในจวนท่านราชเลขาฯจาง วุ่นวายไม่น้อยเมื่อมีผู้สูงศักดิ์มาเยือนโดยได้นัดหมายกันล่วงหน้า “ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ” ชินอ๋องที่เพิ่งลงจากรถม้าแสดงความเคารพโอรสสวรรค์และฮองเฮา “ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ” พระชายาสกุลจางที่ลงรถม้ามาภายหลังทำความเคารพอีกฝ่ายเช่นกัน “ตามสบายเถิด พวกเจ้าเป็นสหายของเราใช้คำธรรมดาสามัญเถิด”
“เจ้าโอบอุ้มบุตรชายของเราให้แน่นๆ ส่วนเจ้าพี่จะจับให้แน่นๆ เอง” กล่าวจบเขาก็ใช้วิชาตัวเบาโอบอุ้มพานางและบุตรชายกลับตำหนัก ทันทีที่ถึงตำหนักโจวหลี่หมิงถูกส่งตัวให้ซานจี สาวใช้ประจำตัวคนใหม่ของนางที่ทางพระสวามีหามาให้ แน่นอนว่านางมิใช่สาวใช้ธรรมดา เพราะสตรีผู้นี้คือองครักษ์เงาที่ถูกฝึกมาอย่างหนักเพื่อดูแลดวงใจของท่านอ๋อง “นำไปซื่อจื่อไปมอบให้แม่นมแล้วเจ้าไปพัก ข้าจะดูแลพระชายาเอง” บุรุษที่ชื่นชอบการปรนนิบัติฮูหยินกล่าว “แงๆ” แม้จะดีดดิ้นเพียงใด แต่บุตรชายมีหรือจะต่อต้านบิดาได้ “ท่านพี่ หากลูกไม่อยากไป...” ไม่มีมาร
เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ ดวงตาเมล็ดซิ่งทอดมองผืนดินที่เขียวชอุ่มไปด้วยพืชผัก ที่ดินผืนนี้นางใช้เงินที่ได้จากการวาดภาพขายมาซื้อเก็บไว้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับบ่าวรับใช้ผู้ภักดีทั้งสอง ก่อนหน้าที่นางจะแต่งเข้าตำหนักอ๋องไม่นาน นางก็จัดการให้จื่อรั่วและจื่อเป่าที่ความสัมพันธ์คืบหน้าไปอย่างรวดเร็วได้เข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกันก่อนจะคืนสัญญาทาสแล้วให้ทั้งสองคนย้ายมาปลูกจวนอยู่บนที่ผืนนี้ “พระชายาท่านนั่งพักดื่มน้ำก่อนเถิดเพคะ รอแดดร่มลมตกค่อยออกไปเดินดูด้านนอก”&
“เช่นนั้นก่อนจะลงโทษน้อง ท่านพี่กินข้าวก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ” “มิต้อง” กล่าวจบเขาก็รั้งนางเข้าไปแนบชิด มือใหญ่จับยึดคางเรียวเอาไว้ริมฝีปากร้อนกดลงบนกลีบปากบาง ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนางอย่างเอาแต่ใจ ในขณะที่มือช่วยปลดเปลื้องอาภรณ์ให้นางอย่างรวดเร็ว ช่างใจร้อนเสียจริง... ดวงหน้าหวานแดงก่ำด้วยความเขินอาย เมื่อพระสวามีของตนที่เพิ่งถอนจุมพิตเร่าร้อนเมื่อครู่ จับจ้องนางราวกับหมาป่าหิวกระหาย “น้องหญิงของพี่เลิศรสกว่าอาหารใดๆ” กล่าวจบเขาก็ช้อนเรือนร่างเปลือยเปล่าเข้าหลังฉากกั้น ว่ากันว่าฮองเฮาชื่นชอบการแช่น้ำร้อน ภายในตำหนักจึงมีบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่อยู่ติดห้องบรรทม 
ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) นัยน์ตาดำของบุรุษสูงศักดิ์จับจ้องใบหน้าของสตรีที่ตนรักอย่างไม่ละสายตา มือใหญ่ช่วยคีบอาหารใส่ชามให้นางอย่างเอาใจ “ท่านพี่กินบ้างเถิดเจ้าค่ะ อย่ามัวแต่คีบให้ข้าเลยเจ้าค่ะ” แม้ยามนี้ทั้งสอ