로그인ตอนที่ 6 แม่สอนลูกสาว
ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วหลังจากที่เธอพูดคุยเรื่องหย่ากับสามี
เขาหายไปตั้งแต่วันนั้นและยังไม่กลับมา ไม่แน่ใจว่าคำตอบจะเป็นแบบไหน แต่เจ้าหรูไม่รีบร้อน เธอใจเย็นรอได้เสมอช่วงเวลานี้เธอก็สอนลูกไปด้วย สิ่งที่แม่สอนลูกสาว ส่วนมากเป็นสิ่งที่สอนให้เข้มแข็ง กล้าแสดงออก หากเราไม่ได้ทำอะไรผิดอย่าได้กลัว จงกล้าที่จะพูดเพื่อปกป้องตัวเอง อย่ารอให้คนอื่นมาช่วย ทั้งที่รู้ว่าบางอย่างลูกยังไม่เข้าใจ แต่เธอก็พูดและอธิบายให้ฟัง และเน้นย้ำหากไม่เข้าใจหรืออยากรู้อะไรให้ถามได้เลย
ช่วงนี้ไม่ใช่แค่เรื่องแม่สอนลูกสาวเพียงอย่างเดียว แม่ต้องคอยถามเรื่องที่ลูกสาวบอกว่าหลิวเย่ไม่ใช่พ่อ แล้วยังบอกว่าพ่อของเธอคือใครอีกคนหนึ่ง เจ้าหรูพยายามถามแต่ยังไม่ได้คำตอบอยู่ดี
เจ้าหรูเลยคิดว่าลูกสาวอาจสร้างพ่อในจินตนาการขึ้นมา เพราะตอนเด็ก ๆ เธอก็สร้างพ่อแม่ในจินตนาการขึ้นมาเหมือนกัน เธอเลยไม่ได้ห้าม เพราะมันเป็นจินตนาการของเด็ก แต่สิ่งไหนที่มันมากไป เธอก็พยายามที่จะเตือนลูกมากกว่าการห้าม
สองแม่ลูกเดินจูงมือร้องเพลง ส่วนมากเป็นเพลงการ์ตูนที่มาจากโลกปัจจุบัน มีเพียงไม่กี่พยางค์ แต่สามารถร้องวนไปมาได้ ซึ่งลูกสาวก็ชอบมาก บางครั้งยังหยุดเดินแล้วเต้นส่ายก้นไปมาดุ๊กดิ๊ก คนเป็นแม่ก็ไม่เคยห้าม ชอบแบบไหนแสดงออกมาแบบนั้นได้เลย บางครั้งเธอก็เต้นไปตามจังหวะเสียงเพลงของลูก
"อิงอิงรู้มั้ย วันนี้เราจะไปทำอะไร" เธอบอกไว้แล้ว แต่อยากรู้ว่าลูกสาวจะจำได้ไหม
"ไปช่วยลุงใหญ่จับปลาจ้ะ" อิงอิงบอกแม่พร้อมกับทำท่าทางเหมือนปลา พลางเดินส่ายก้นดุ๊กดิ๊กไปมาอีกด้วย
"ไม่ได้ทำแบบนั้น.... ต้องทำแบบนี้" เจ้าหรูวางมือประกบกันแล้วก็ทำทางเหมือนปลาแล้วเดินส่ายไปมาให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง
เมื่ออิงอิงเห็นก็ทำตามแม่ทันที กลายเป็นสองแม่ลูกเต้นท่าปลาไปด้วย เดินไปด้วย หัวเราะไปด้วยกันอย่างสนุกสนาน...
พี่ชายส่งข่าวมาบอกว่าวันนี้จะมีการจับปลาที่คลองของหมู่บ้าน เขาอยากให้เธอกับลูกสาวไปที่นั่น ไม่ได้ให้ไปช่วยจับปลาแต่อย่างใด แต่เขาอยากให้น้องสาวกับหลานสาวไปดู เขาจะเป็นคนจับปลาเอง และขากลับเขาจะให้น้องสาวเอาปลากลับบ้านด้วยเท่านั้นเอง
ช่วงเวลานี้เจ้าหรูยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ถักผ้าพันคอไปขาย คนที่เอาไปขายให้เธอก็เป็นพี่ชายอีกนั่นแหละ ตอนนี้ทำอะไรมากไม่ได้ ต้องรอจนกว่าจะหย่าเรียบร้อยแล้วถึงจะขยับขยายหนทางทำกินได้
ไม่ใช่เจ้าหรูไม่คิดไตร่ตรองเรื่องหย่าให้ดี แต่เพราะเธอรู้ดีว่ามันไม่มีทางที่ทั้งสองจะกลายมาเป็นครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียวเหมือนครอบครัวคนอื่น วันหยุดสามีก็เข้าเมืองไปกับพรรคพวกของเขา ซึ่งมีคนรักของเขารวมอยู่ด้วย
พวกเขาไปมาหาสู่กันเป็นประจำโดยที่ครอบครัวทั้งสองคอยสนับสนุน และพวกเขาฉลาดมากพอที่จะไม่ไปไหนมาไหนด้วยกันเพียงลำพัง จะมีคนอื่นไปด้วยเสมอ หากมองในมุมของคนรักกันก็น่าเห็นใจ แต่เจ้าหรูคือคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เธอเลยไม่เห็นใจพวกเขา เพราะเธอเห็นใจตัวเองกับลูกมากกว่า
ถึงลูกจะไม่รับรู้เรื่องพ่อกับคนรัก แต่อิงอิงคือลูกและยังเป็นเด็กที่ควรได้รับความรักจากคนเป็นพ่อ แต่เขากลับไม่สนใจในเรื่องนี้เลย ถึงเขาจะจ่ายเงินให้เธอกับลูกทุกเดือน แต่เธอรู้ว่าจริง ๆ ที่เขาจ่ายเพราะต้องการรักษาหน้าตาของตัวเองมากกว่า เขากลัวมีคนเอาไปพูดว่าเขาไม่สนใจส่งเสียเลี้ยงดูลูกกับภรรยา
หลิวเย่ไม่ได้ให้เงินแค่เธอกับลูกเท่านั้น เขายังแบ่งให้พ่อแม่กับคนรักของเขา เรื่องนี้รู้กันทั้งสองครอบครัวนั่นแหละ ไม่ใช่เจ้าหรูไม่ปรับตัวเข้ากับพวกเขา แต่เพราะเธอทำอะไรก็ดูไม่ดีในสายตาของครอบครัวสามีเลย เธอถึงต้องร้ายให้ถึงที่สุดเพื่อป้องกันตัวเองและลูกของเธอ จนชื่อเสียงที่ตัวเองสร้างขึ้นมาดังไปทั่วหมู่บ้าน รวมกับที่มีคนใส่ร้ายด้วยเช่นกัน
"เฮ้อ!! " เจ้าหรูถอนหายใจออกมาทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องพวกนั้น
พวกเขารักษาความรู้สึกของตัวเอง แต่กลับไม่รักษาความรู้สึกของเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกเป็นหลานแม้แต่น้อย เจ้าหรูเข้าใจความรู้สึกนั้นเป็นอย่างดี ความรู้สึกที่อยากถูกพ่อและแม่รัก โหยหาความรักที่ไม่เคยได้สัมผัส เธอเข้าใจมันมากที่สุด
แต่ตอนนี้เจ้าหรูมีเรื่องที่คิดไม่ตกอยู่เรื่องหนึ่งคือ... ของวิเศษที่ถิงถิงบอกไว้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มา หรือเธอคือคนบาปหนา ผ่านมาจะสองอาทิตย์แล้วพรวิเศษก็ยังไม่มาสักที
"อ้าว มากันแล้วเหรอ" กู้เจ้าหมิง เอ่ยถามน้องสาวกับหลานสาวทันทีที่หันมาเจอ
"หากพี่ใหญ่เห็นฉัน... แปลว่าฉันมาแล้วจ้ะ" เจ้าหรูหันไปยกยิ้มมุมปาก พร้อมกับปรายตามองพี่ชายก่อนจะยักคิ้วให้ เป็นที่รู้กันว่าเธอกำลังยั่วโมโหพี่ชาย
"นิสัยเดิมไม่เคยเปลี่ยน" เจ้าหมิงส่ายหัวไปมากับท่าทางของน้องสาว
หากคนอื่นมองจะคิดว่าน้องสาวของเขาเป็นคนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แต่ความจริงแล้วเวลาอยู่กับครอบครัว น้องสาวจะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา นั่นคือชอบยั่วโมโหก่อกวนคนอื่นเก่งที่สุด!
"ลุงใหญ่คิดถึงเรา" อิงอิงหัวเราะคิกคักชอบใจ
"อิงอิงจำไว้ อย่าเหมือนแม่ แม่ดื้อมาก ชอบทำให้ยายบ่นและชอบทำให้ลุงปวดหัว" ลุงรีบสอนหลานสาว ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ทันเพราะหลานสาวก็แสบซนใช่ย่อย
"หนูเหมือนแม่จ๋า... เก่งเหมือนกัน! แต่หนูไม่ดื้อ" เธอก็เอาตัวรอดได้เช่นกัน พูดแต่เรื่องดีเข้าตัว พอพูดจบก็หัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข
อิงอิงชอบมาบ้านยายมากกว่าไปบ้านปู่กับย่า เพราะเวลาเข้าไปบ้านย่า หลายคนชอบมองเธอกับแม่ แต่ถ้ามาบ้านตาบ้านยาย ทุกคนจะทักทายเรียกชื่อเธอทั้งนั้น เธอเลยชอบมาที่นี่มากกว่า
"พี่ใหญ่... แล้วทุกคนไปไหนกันหมด" เจ้าหรูมองหาพ่อกับแม่และพี่สะใภ้ รวมถึงหลานชายหลานสาวอีกด้วย ปกติแล้วจะต้องมากันแล้ว
"เดี๋ยวก็คงตามมา พอดีพี่ออกมาก่อน" เจ้าหมิงก็ตอบน้องสาวไปพร้อมกับมองไปรอบ ๆ ตอนนี้เริ่มมีชาวบ้านทยอยออกมากันแล้ว
"ทำเหมือนทุกปีใช่ไหม"
"จับแล้วมาแบ่งกับคนในหมู่บ้าน แต่ละครอบครัวจะมีตัวแทนมาช่วยจับปลาแล้วรวมกันไว้ ก่อนที่หัวหน้าชุมชนจะเป็นคนแบ่งให้เท่า ๆ กัน ยังดีที่หมู่บ้านเรามีไม่กี่หลังคาเรือน" หากต่างคนต่างจับมีหวังได้ตีกันตาย
"พี่ใหญ่ ฉันมีเรื่องจะบอก" เจ้าหรูเดินไปกระซิบพี่ชาย เธอไม่มีความลับกับพี่ชาย เขารู้ดีว่าเธออยู่แบบไหน อยู่ยังไง เขาถึงไม่ค่อยชอบสามีเธอสักเท่าไหร่
"มีปัญหากันเหรอ" เจ้าหมิงมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
ถ้าน้องสาวมากระซิบบอกแบบนี้ทีไรจะต้องมีปัญหาตามมาทุกที น้องสาวไม่ใช่คนเลวร้าย แต่เป็นคนที่ไม่ยอมคนมากกว่า ทุกคนในหมู่บ้านที่นี่รู้ดี แต่ทุกคนในหมู่บ้านของน้องเขยกลับมองน้องสาวแตกต่างออกไป
เจ้าหมิงรู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แต่บางอย่างต้องให้คนในครอบครัวเป็นคนจัดการ เขาเคารพการตัดสินใจของน้องสาวเสมอ ทั้งที่เขาต้องการให้น้องสาวหย่าขาด แต่น้องสาวก็ยืนยันที่จะอยู่ และจากที่ฟังเหตุผล มันก็เป็นผลดีต่อหลานสาวด้วยเช่นกัน
"ฉันจะหย่า แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น หากพี่ว่างแล้วเราค่อยคุยกัน" ส่วนมากเธอจะต้องปรึกษากับพี่ชาย เพราะไม่อยากให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วง
"ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้พี่จะเป็นคนไปส่งเอง แล้วจะนอนเป็นเพื่อนด้วยดีไหม" เพราะรู้ว่าไม่สามารถพูดตรงนี้ได้ เขาจึงตัดสินใจว่าไปคุยที่บ้านน้องสาวเลยดีกว่า
การไปนอนบ้านน้องสาวเป็นเรื่องปกติ บางทีเขาก็พาลูกชายไปด้วย บางทีก็ไปทั้งครอบครัว หากเขาไม่ได้ไป พ่อหรือแม่จะต้องไปนอนเป็นเพื่อน ถึงจะไม่ได้ไปนอนทุกวัน แต่พวกเขาจะสลับแวะเวียนไปเสมอ เพราะบ้านที่น้องสาวอยู่ห่างไกลจากผู้คน
ถึงจะมีบ้านอยู่หลังหนึ่งที่ตั้งอยู่บนเนินเขาไม่ห่างกันมากนัก แต่บ้านหลังนั้นไม่มีคนอยู่ ครอบครัวเขาค่อนข้างเป็นห่วงที่ทั้งสองคนต้องอยู่บ้านกันตามลำพัง
"ลุงใหญ่จ๊ะ ตอนนี้หนูท่องหนังสือได้เยอะมากเลยนะ" อิงอิงบอกในสิ่งที่ตัวเองทำได้ให้ลุงใหญ่ได้รับรู้
"เก่งมาก... คืนนี้ลุงไปส่งแล้วพาป้ากับพี่ไปนอนด้วย จะไปดูว่าอิงอิงเก่งขึ้นจริงหรือเปล่า" เจ้าหมิงก้มลงหอมแก้มหลานสาว พร้อมกับอุ้มขึ้นมาแล้วโยนขึ้นบนอากาศ ทั้งสองชอบเล่นแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว เล่นทีไรเจ้าตัวเล็กก็หัวเราะชอบใจทุกที
"ร้องเพลงได้ด้วย มีภาษาต่างประเทศด้วย ต่อไปหนูจะพูดคุยกับชาวต่างชาติได้แล้ว" แม่บอกว่าถ้าเรียนภาษาต่างประเทศได้หลาย ๆ ภาษาจนสามารถพูดคุยสื่อสารได้ เธอจะมีโอกาสมากกว่าคนอื่น ทั้งที่เธอไม่ค่อยเข้าใจที่แม่บอกมากนัก แต่เธอก็อยากจะเรียนเพราะมันแปลกและสนุกมากด้วย
"แม่สอนหลายอย่าง แล้วหัวน้อย ๆ นี่จะจำได้หมดเหรอ" เจ้าหมิงจับหัวกลม ๆ ของหลานสาวโยกไปมา เขารู้ดีว่าน้องสาวชอบสอนสิ่งต่าง ๆ แปลก ๆ อยู่แล้วเลยไม่ได้แปลกใจอะไรมากนัก
"แม่บอกว่าจะสอนลูกสาว.... ให้ลูกสาวเป็นเหมือนแม่" อิงอิงเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ถ้าเธอเหมือนแม่ได้ เธอต้องเก่งมากแน่ ๆ แม่สามารถว่ายน้ำได้ แม่สามารถหุงข้าวได้ แม่สามารถปลูกผักได้ แม่ยังจับปลาได้ด้วย ทำกับข้าวอร่อยที่สุด ที่สำคัญแม่ถักผ้าพันคอสวยสุด ๆ ถักขายได้เงินอีกด้วย...
เจ้าหรูยิ้มอย่างภาคภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองสอนลูกสาว สิ่งที่เธอสอน ส่วนมากเธอเอามาจากโลกที่เธอจากมา หลายสิ่งหลายอย่างเธอก็นำมาผสมผสานกัน แล้วค่อย ๆ สอนลูกสาว มันเลยค่อนข้างแปลกใหม่ ทำให้เด็กไม่เบื่อที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และยังกระตุ้นให้เจ้าตัวเล็กอยากเรียนอยากรู้มากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
การรับบทบาทเป็นแม่ครั้งแรกในชีวิต มีสิ่งให้เรียนรู้มากมาย เธอพร้อมที่จะเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับลูกสาวตัวน้อยของเธอ และเธอมั่นใจว่าจะสอนลูกไปในทางที่ดีอย่างแน่นอน...
ตอนที่ 10 สำรวจตลาดเจ้าหรูพาทั้งสองเด็กน้อยขึ้นเขาไปตัดต้นไผ่เพื่อนำมาทดลองใช้เครื่องผลิตกระดาษ ในรายละเอียดการใช้งานเครื่องระบุว่าสามารถใช้ต้นไม้อะไรก็ได้ แต่ก็ยังมีข้อแม้ว่าจะใช้ได้เพียงต้นไม้ชนิดนั้นเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นต้นไม้อย่างอื่นได้อีกเจ้าหรูตัดสินใจใช้ต้นไผ่ เพราะมันมีเยอะมากมาย และยังสามารถพบเจอได้ง่าย ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มีต้นไผ่เกิดขึ้นมากมาย บนภูเขา ตามท้องนา หรือในหมู่บ้านก็มีต้นไผ่อยู่ทั่วทุกที่ รับรองว่าเธอไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอนผลการทดลองใช้ต้นไผ่เพียงหนึ่งลำ สามารถผลิตกระดาษอย่างดีได้ถึง 100แผ่น แต่หากคุณภาพกระดาษลดลงมาก็จะได้จำนวนกระดาษเพิ่มขึ้นเป็น 200 แผ่น แต่ต้องอยู่กับขนาดของลำต้นที่ใช้ด้วยเช่นกันส่วนการใช้ต้นไผ่นั้น... สามารถใส่ลงได้ทั้งต้น ไม่ต้องเอาใบออก เพราะส่วนใบจะนำไปผลิตยางลบกับดินสอได้ด้วย
ตอนที่ 9ลู่ทางหาเงินตอนนี้เจ้าหรูอยู่ในโกดังขนาดใหญ่ โกดังแห่งนี้มีสิ่งของมากมาย สิ่งของเหล่านั้นมาจากโลกต่างๆที่ถิงถิงไปเยือน แล้วนำมาเก็บไว้ในสถานที่แห่งนี้พรวิเศษที่มาจากสร้อยไข่มุกยังไม่ปรากฏ ถิงถิงให้เธอมาหาสิ่งของต่าง ๆ จากโกดังแห่งนี้เผื่อมีสิ่งไหนสามารถเอาไปสร้างอาชีพได้จึงต้องพากันเดินสำรวจก่อนตัดสินใจถิงถิงบอกว่าโกดังแห่งนี้อยู่ในมิติของนายหญิง ต้องมีถิงถิงเป็นคนพาเข้าออก คนนอกไม่สามารถเข้าออกได้ แม้แต่นายท่านยังไม่สามารถเข้ามาได้เลย เจ้าหรูไม่รู้หรอกว่านายท่านคือใคร และไม่ได้ถามต่อด้วยเช่นกัน เล่าให้ฟังแค่ไหนก็ฟังแค่นั้นเอง"เวลาในนี้กับเวลาข้างนอกเท่ากันไหม" เพราะลูกนอนหลับอยู่ข้างนอก เธอจะได้คำนวณเวลาได้ถูก ไม่อยากให้ลูกตื่นมาแล้วไม่เจอใคร"ถิงถิงหยุดเวลาไว้เจ้าค่ะ เราออกไป
ตอนที่ 8ผู้มาเยือนสองแม่ลูกกลับมาอยู่บ้านตัวเองได้เกือบสามวันแล้วเรื่องที่เธอจะหย่ากับสามี เธอได้บอกพ่อ แม่ พี่ชาย พี่สะใภ้แล้ว ทุกคนให้เธอเป็นคนตัดสินใจเอง พวกเขาจะคอยอยู่ข้าง ๆ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจแบบไหนหรือยังไงซึ่งมันเป็นแบบนี้มาตลอด พ่อแม่ไม่เคยซ้ำเติม มีแต่คอยให้กำลังใจและพร้อมจะช่วยเหลือเสมอเจ้าหรูไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองเรียกเงินจากครอบครัวสามี เพราะเธอรอก่อนว่าทางสามีจะว่าอย่างไร จะตกลงไหม เธอไม่ได้ใจเย็น รอแบบไม่มีระยะเวลากำหนด แต่เธอมีกำหนดเวลาไว้แล้วต่างหากหากว่าพวกเขาคนใดคนหนึ่งดีกับลูกสาวของเธอบ้าง เธอจะไม่ทำถึงขนาดนี้ แต่ครอบครัวหลิวกลับไม่สนใจความรู้สึกของลูกสาวเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่สนใจไม่ว่า บางครั้งยังพูดจาไม่ดีใส่อิงอิงอีกด้วย"อิงอิง ลูกอยู่ไหน" เมื่อมอ
ตอนที่ 7ครอบครัวกู้"อิงอิง มาหายาย" หลินฟางเรียกหลานสาวทันทีที่มาถึง"ยายจ๋า... ตาจ๋า... สวัสดีจ้า" อิงอิงวิ่งก้นสายดุ๊กดิ๊กไปหายายกับตาด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าเจ้าหรูหันไปมองพ่อกับแม่พร้อมกับยิ้มทักทาย พ่อกับแม่ยังแข็งแรงดีและยังเข้าใจเธอเป็นอย่างมากเหมือนเดิม เธอโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวนี้ เพราะพ่อกับแม่รับฟังเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ลูกจะทำผิดแค่ไหน พ่อกับแม่จะใจเย็นแล้วค่อย ๆ ตักเตือนและสอนให้ลูกเข้าใจแต่คนเราไม่ได้โชคดีทั้งหมด เธอมีครอบครัวพ่อแม่ พี่ชายพี่สะใภ้ที่ดี แต่เธอกลับมีสามีที่พยายามตีตัวออกหาก ครอบครัวสามีไม่ต้อนรับ เพราะเธอไม่ใช่คนที่พวกเขาเลือกไว้เท่านั้นเองอาจเพราะเคยผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายแล้ว จึงคิดว่าแค่เรื่องครอบครัวสามีและสามีไม่ต้องการนั้นกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเธอไปเส
ตอนที่ 6 แม่สอนลูกสาวผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วหลังจากที่เธอพูดคุยเรื่องหย่ากับสามีเขาหายไปตั้งแต่วันนั้นและยังไม่กลับมาไม่แน่ใจว่าคำตอบจะเป็นแบบไหน แต่เจ้าหรูไม่รีบร้อน เธอใจเย็นรอได้เสมอช่วงเวลานี้เธอก็สอนลูกไปด้วย สิ่งที่แม่สอนลูกสาว ส่วนมากเป็นสิ่งที่สอนให้เข้มแข็ง กล้าแสดงออก หากเราไม่ได้ทำอะไรผิดอย่าได้กลัว จงกล้าที่จะพูดเพื่อปกป้องตัวเอง อย่ารอให้คนอื่นมาช่วย ทั้งที่รู้ว่าบางอย่างลูกยังไม่เข้าใจ แต่เธอก็พูดและอธิบายให้ฟัง และเน้นย้ำหากไม่เข้าใจหรืออยากรู้อะไรให้ถามได้เลยช่วงนี้ไม่ใช่แค่เรื่องแม่สอนลูกสาวเพียงอย่างเดียว แม่ต้องคอยถามเรื่องที่ลูกสาวบอกว่าหลิวเย่ไม่ใช่พ่อแล้วยังบอกว่าพ่อของเธอคือใครอีกคนหนึ่ง เจ้าหรูพยายามถามแต่ยังไม่ได้คำตอบอยู่ดีเจ้าหรูเลยคิดว่าลูกสาวอาจสร้างพ่อในจินตนาการขึ้นมา เพราะตอนเด็ก ๆ
ตอนที่ 5 สามีที่น่ารังเกียจผ่านมาสามวันแล้วที่เจ้าหรูมาอยู่ที่โลกใบนี้ สามวันที่เฝ้ารอว่ามีสิ่งของอะไรติดตัวมาบ้าง แต่ทุกอย่างก็ยังเงียบไม่มีปฏิกิริยาตอบรับหรือผิดปกติอะไรเลย แต่เธอก็ยังใส่สร้อยไข่มุกติดตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะจำที่ถิงถิงเคยบอกไว้ว่า... บางครั้งพรวิเศษอาจปรากฏช้า เธอเลยเฝ้ารอเวลาอย่างใจจดใจจ่อวันแรกที่เจ้าหรูพาลูกสาวไปหัดว่ายน้ำ เธอรู้ว่ามีคนมายืนดูเธอสองคนแม่ลูกเล่นน้ำ แต่ที่เธอทำตัวปกติเหมือนไม่รับรู้การมีอยู่ของเขา เพราะเขาไม่มีค่ามากพอที่จะทำให้เธอหยุดเล่นสนุกกับลูก รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของลูกสาวมีค่ามากกว่าการที่เธอจะหยุดทักทายเขาหากเดาไม่ผิด เธอคิดว่าคนรักของเขาคงไปบอกข่าวเกี่ยวกับเรื่องเธอและลูก เขาถึงออกมาดู แต่เมื่อมาเห็นแล้วว่าเธอกับลูกอยู่ดีมีความสุข เขาก็กลับไปทันที และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ไม่เห็นเขาออกมาที่นี่อีกเลยเจ้าหรูจะพาลูกสาววิ่งออกกำลังกายในทุกเช้า และต่อด้วยฝึกท่าทางต่าง ๆ ที่เธอเคยเรียนมา ศิลปะการป้องกันตัวทั้งหลายที่เคยเรียนมา เธอก็เอาออกมาฝึกกับลูกสาว ถึงแม้ลูกสาวจะยังเล็ก แต่หากฝึกไปเรื่อย ๆ มันต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ดีที่อิงอิงตัวน้อย







