로그인ตอนที่ 7 ครอบครัวกู้
"อิงอิง มาหายาย" หลินฟาง เรียกหลานสาวทันทีที่มาถึง
"ยายจ๋า... ตาจ๋า... สวัสดีจ้า" อิงอิงวิ่งก้นสายดุ๊กดิ๊กไปหายายกับตาด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า
เจ้าหรูหันไปมองพ่อกับแม่พร้อมกับยิ้มทักทาย พ่อกับแม่ยังแข็งแรงดีและยังเข้าใจเธอเป็นอย่างมากเหมือนเดิม เธอโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวนี้ เพราะพ่อกับแม่รับฟังเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ลูกจะทำผิดแค่ไหน พ่อกับแม่จะใจเย็นแล้วค่อย ๆ ตักเตือนและสอนให้ลูกเข้าใจ
แต่คนเราไม่ได้โชคดีทั้งหมด เธอมีครอบครัวพ่อแม่ พี่ชายพี่สะใภ้ที่ดี แต่เธอกลับมีสามีที่พยายามตีตัวออกหาก ครอบครัวสามีไม่ต้อนรับ เพราะเธอไม่ใช่คนที่พวกเขาเลือกไว้เท่านั้นเอง
อาจเพราะเคยผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายแล้ว จึงคิดว่าแค่เรื่องครอบครัวสามีและสามีไม่ต้องการนั้นกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเธอไปเสียแล้ว เธอคิดเพียงว่าตัดสิ่งไม่ดีออกไปจากชีวิต เพื่อให้มีพื้นที่เพื่อรอรับสิ่งดี ๆ แบบนั้นมันจะดีกว่าอย่างแน่นอน
ในตอนแรกที่ทนเพราะคิดว่าจะสามารถสร้างครอบครัวเหมือนคนอื่นได้ แต่มันกลับไม่เป็นแบบที่เธอคิด และที่ต้องทนต่อมาเพื่อลูกทั้งนั้น แต่ตอนนี้ทั้งเธอและลูกสาวเข้มแข็งมากแล้ว
มันใกล้จะถึงเวลาแล้ว....
"หากน้องเล็กคิดจริงจัง พี่ว่า.... คุยกับพ่อกับแม่เลยไหม ยังไงพ่อกับแม่ก็ต้องรู้อยู่ดี และเชื่อเถอะว่า พ่อกับแม่เคารพการตัดสินใจของน้องเล็กเหมือนที่ผ่านมาแน่นอน" เจ้าหมิงเดินมาบอกน้องสาว ถ้าน้องสาวตัดสินใจแบบนั้นแล้ว อย่างไรเสียพ่อกับแม่ก็ต้องรู้อยู่วันยังค่ำ บอกไปเลยน่าจะดีที่สุด
"พี่ใหญ่ ฉันเป็นน้องที่ดี เป็นลูกที่ดีไหม" ตอนนี้เธอเริ่มลังเลว่าควรทำยังไง ทำแบบไหนดี
"น้องเล็กยังเป็นน้องที่ดีของพี่เสมอ ถึงจะดื้อบ้าง แต่น้องก็คือน้องของพี่ เป็นลูกที่ดีของพ่อและแม่ คนเราต้องมีผิดพลาดกันทั้งนั้นแหละ แต่ถ้าผิดพลาดแล้วก็รู้จักแก้ไข อย่าจมปลักอยู่กับที่" เขาไม่อยากให้น้องสาวต้องใช้ชีวิตอยู่แบบนั้น ทางสามีพร้อมหย่าตลอดเวลา ไม่ได้สนใจความรู้สึกของน้องสาวและหลานสาวเลยสักนิด
"ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันจะนอนที่บ้านใหญ่ เราจะได้คุยพร้อมกันทุกคน เพราะฉันตัดสินใจแล้ว อีกอย่างในช่วงแรก ๆ อิงอิงจะเป็นแบบไหน อาจจะต้องให้พี่ใหญ่พี่สะใภ้และทุกคนคอยช่วยดูด้วย" ถึงจะถามมาแล้วได้คำตอบที่ว่า ปกติเราก็อยู่กันสองคนอยู่แล้ว แต่มันก็ไม่มีอะไรยืนยันแน่นอนว่าลูกสาวจะไม่รู้สึกอะไร หากมีคนช่วยดูหลาย ๆ คนน่าจะดีกว่า
"พี่เป็นลุง และพี่ก็เป็นพ่อคนด้วยเช่นกัน พี่ช่วยดูแลหลานได้ อย่าได้ห่วง พี่พร้อมที่จะเลี้ยงทั้งน้องสาวและหลานสาว ครอบครัวเราต้อนรับน้องเสมอ หากอยากกลับมาอยู่บ้านก็กลับมาได้เลย ไปอยู่อย่างนั้น ถึงบ้านจะแน่นหนาแต่มันก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี" หากมีคนคิดไม่ดีกับน้องสาวแล้วเข้าไปทำร้ายจะทำยังไง
ก่อนหน้านี้ทุกคนรู้ว่าน้องสาวคือภรรยาของหัวหน้าเลยไม่มีคนอยากยุ่ง แต่หากหย่าร้างไปแล้วอาจเกิดอันตรายได้ ยังดีที่น้องสาวฉลาดพอที่จะทำให้คนไม่ชอบ คนในหมู่บ้านและครอบครัวของสามีล้วนเข็ดขยาดหวาดกลัวทั้งนั้น เพราะน้องสาวรวมความร้ายไว้ในตัวแทบทั้งหมด ทั้งปากร้าย ทั้งไม่ไว้หน้าใคร และกล้าที่จะตบตีกับทุกคนที่เข้ามารังแก มันเลยเหมือนเกราะกำบังและเหมือนหอกที่คอยทิ่มแทงน้องสาวไปด้วย
ไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของน้องสาวเขา แค่ได้ยินชื่อก็ไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วย ผู้หญิงก็หนีหาย ผู้ชายก็ส่ายหน้า ไม่กล้าเข้าหา ไม่มีใครอยากได้เป็นเพื่อนหรือภรรยา
"เราค่อยคุยกันตอนเย็นทีเดียว พี่ไปจับปลาได้แล้ว" พูดคุยกับคนในครอบครัวทุกครั้งก็มีความสุขทุกครั้ง ทุกคนพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างทั้งที่บางครั้งก็ทำผิดพลาด แต่ทุกคนก็คอยประคองคอยแนะนำ นี่คือสิ่งที่เธอตามหาและเธอก็ได้เจอในโลกนี้...
"แม่จ๋า คิดถึงแม่จังเลย... " เมื่อคุยกับพี่ชายเสร็จก็เดินออกมาหาแม่ พร้อมกับกอดแม่อย่างออดอ้อนอีกด้วย
"โตจนเป็นแม่คนแล้วก็ยังออดอ้อนเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน" หลินฟางพูดเหมือนต่อว่า แต่ยังโอบกอดลูกสาวเอาไว้พร้อมกับลูบหลังเบา ๆ
"ถึงจะโตแค่ไหน เป็นแม่คนยังไง ฉันก็เป็นลูกสาวสุดที่รักของแม่เสมอ คืนนี้ขอนอนด้วยนะ... " เจ้าหรูกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม สัมผัสกับความรักความอบอุ่นที่ได้จากคนเป็นแม่ที่ชีวิตก่อนไม่เคยได้สัมผัส... มันรู้สึกดีแบบนี้นี่เอง...
"เจ้าลูกคนนี้ โตขนาดนี้แล้วยังจะออดอ้อน" กู้เจ้าหยุน อุ้มหลานสาวเดินเข้ามาหาภรรยาและลูกสาวคนเล็กของตัวเอง
"แม่ไม่โต... เหมือนหนู" อิงอิงเห็นแม่ออดอ้อนยาย เธอก็โอบรัดคอของตา พร้อมกับออดอ้อนตาไม่ต่างกับแม่เลยแม้แต่นิดเดียว
แม่ทำได้... อิงอิงก็ต้องทำได้!! เพราะอิงอิงจะเก่งเหมือนแม่
"เหมือนกันทั้งแม่ทั้งลูก" เจ้าหยุนหัวเราะชอบใจที่เห็นทั้งลูกสาวและหลานสาวต่างกอดคอออดอ้อนเหมือนเด็กไม่มีผิด
คนเราพออายุเริ่มมากขึ้น พอมีลูกหลานมาออดอ้อน มันก็ทำให้รู้สึกดีได้โดยที่ไม่ต้องทำอะไรมากมายนัก
"กอดพ่อด้วย คิดถึงพ่อจ๋า... " เจ้าหรูผละออกจากอ้อมกอดแม่ ก่อนจะโผเข้ากอดพ่อเตรียมออดอ้อน
"เดี๋ยว! เดี๋ยว! คนอยู่เยอะ" เจ้าหยุนต้องเอามือดันหน้าผากลูกสาวคนเล็กไว้เพราะมีคนอยู่เยอะ บางอย่างไม่ควรทำในที่สาธารณะ หากอยู่บ้าน เขาก็ยอมให้ลูกสาวกอดออดอ้อนอย่างที่เจ้าตัวอยากทำอยู่แล้ว
สังคมของที่นี่หญิงชายไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือลูกสาว หากโตไปแล้วจะต้องรักษาระยะห่างให้ดี แต่ลูกสาวของเขาเคยชินกับการที่ออดอ้อนพ่อแม่อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ชอบลืมตัวอยู่แบบนี้ต้องคอยเตือนคอยห้ามอยู่ตลอด
"โอ้... ฉันลืม" เจ้าหรูรีบเบรกตัวโก่ง เธอลืมจริง ๆ อาจเพราะเธออยากสัมผัสอ้อมกอดจากคนเป็นพ่อ เธออยากรู้ว่ามันจะเป็นแบบไหนเลยลืมนึกถึงเรื่องนี้ไป เพราะปกติเท่าที่จำได้จากความทรงจำ ครอบครัวกู้ก็จะโอบกอดกันอยู่เป็นประจำ แม้กระทั่งเธอกับพี่ชายพี่สะใภ้ หรือลูกหลานทุกคนก็โอบกอดกันตลอด
"อย่าลืมบ่อย" หลินฟางเอ่ยเตือนลูกสาวพร้อมกับหัวเราะ เพราะลูกสาวของเธอมักจะลืมเป็นประจำอยู่แล้ว
"ถึงบ้านก่อนพ่อโดนกอดแน่" เจ้าหรูรีบบอกพ่อให้รับรู้ จะได้เตรียมตัวได้ทัน
"ใช่ ใช่ ตาโดนกอดแน่" อิงอิงก็เลียนแบบแม่ด้วยเช่นกัน
"คนนี้ คือกู้เจ้าหรูรุ่นเล็กใช่ไหม... " เจ้าหยุนบีบจมูกเล็กของหลานสาว พลางก้มลงหอมแก้มอย่างมันเขี้ยว
"ทำไมพี่สะใภ้ถึงยังไม่มา" เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอีกคนยังไม่มาจึงถามขึ้นอย่างแปลกใจ เพราะปกติต้องมาพร้อมกันตลอด
"ต้องพาลูกชายไปสมัครเรียนก่อน เดี๋ยวก็ตามมา" เจ้าหยุนเป็นคนบอก เพราะถึงเวลาที่หลานชายคนโตจะต้องสมัครเข้าเรียนแล้ว ดังนั้นต้องไปทำทุกอย่างให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วค่อยตามมาทีหลัง
"อาหญิง" เสียงตะโกนร้องเรียกมาแต่ไกล บ่งบอกถึงการมาของสองแสบหลานสาวกับหลานชายของเจ้าหรูนั่นเอง
"ได้ข่าวว่าคนบางคนไปสมัครเรียนแล้ว" เจ้าหรูหันไปถามหลานชายที่วิ่งเข้ามาหา
"เปิดเทอมผมก็ไปเรียนแล้ว" กู้เจ้าเหิง หลานชายวัยเจ็ดขวบใกล้แปดขวบ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงฉะฉานอย่างภาคภูมิใจที่ตัวเองจะได้ไปโรงเรียน
"หนูก็จะได้ไปเหมือนกันจ้ะ" กู้เจ้าเจิน หลานสาววัยหกขวบก็เอ่ยปากบอกเช่นเดียวกัน เพราะก่อนหน้านี้แม่ของเธอถามคุณครูที่โรงเรียนมาแล้ว
"พอถึงเวลาไปเรียนจริง ๆ ไม่ใช่ร้องไห้งอแงล่ะ" ซูเยว่ มองลูกสาวกับลูกชายพร้อมกับส่ายหน้าไปมา
"น่ากลัวจะเป็นแบบนั้น" เจ้าหรูก็เห็นด้วย เพราะส่วนมากเด็กตื่นเต้นเวลาที่จะได้ไปเรียน แต่พอถึงเวลาไปเรียนจริง ๆ กลับร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียน
"ใช่ไหม!! น่ากลัวแต่แบบมันมากกว่า" ซูเยว่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก
"พี่เจินเจิน พี่ชายเหิง หนูไปเรียนด้วยได้ไหม" เมื่อทุกคนไปเรียนเธอก็อยากไปเรียนด้วยเหมือนกัน
"ได้แน่นอนอยู่แล้ว ไปสามคนพี่น้องเลย" เจ้าเหิงรีบวิ่งเข้ามาหาน้องน้อย พร้อมกับตอบคำถามน้องไปด้วย
"ไปกับยายดีกว่า ยายจะพาไปดูเขาจับปลาทางด้านโน้น" หลินฟางเห็นหลานมาครบทั้งสามคนแล้วจึงชวนไปดูชาวบ้านจับปลาอีกฝั่งหนึ่ง ที่ตรงนั้นเด็ก ๆ สามารถลงไปเล่นได้ด้วย
"ไม่มาบ้านเลยนะ" เมื่อแม่สามีพาลูกกับหลานออกไปแล้ว ซูเยว่ก็เอ่ยปากต่อว่าเพื่อนทันที
เจ้าหรูกับซูเยว่เป็นเพื่อนสนิทกัน เล่นกันมาตั้งแต่เด็กและโตมาด้วยกัน ค่อนข้างรู้จักนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี ทั้งสองรู้ดีว่าแต่ละคนมีชีวิตแบบไหน
เจ้าหรูดีใจกับเพื่อนที่ได้แต่งงานกับพี่ชายของเธอ เพราะพี่ชายของเธอเป็นคนดีมาก ๆ รักครอบครัว รักลูก และเข้าใจภรรยา ซึ่งซูเยว่ก็คิดว่าตัวเองนั้นโชคดีที่ได้แต่งเข้ามาในตระกูลกู้ ทุกคนรักใคร่กลมเกลียวกันดี พ่อสามีแม่สามีก็ดีกับเธอมากด้วยเช่นกัน
"ฉันมีเรื่องจะบอก รับรองเรื่องนี้ใหญ่แน่ ๆ " เจ้าหรูหันไปกระซิบบอกเพื่อน หรือก็คือพี่สะใภ้ของเธอนั่นเอง
"ตอนนี้ฉันเป็นเพื่อนเธอ ไม่ใช่พี่สะใภ้ เล่ามาเลย อยากรู้จนตัวสั่นหมดแล้วเนี่ย! " เวลาอยู่กันสองคน เธอก็ยังเป็นเหมือนเดิม วางตัวเหมือนเดิม
พออยู่ด้านนอก เจ้าหรูจะต้องนับถือเธอมากกว่า เพราะพี่สะใภ้เปรียบเสมือนแม่อีกคน แต่พอเอาเข้าจริง ๆ มีแต่เจ้าหรูนั่นแหละที่จะเป็นแม่เธอมากกว่า พอคิดถึงเรื่องนี้ทีไรก็ได้แต่หัวเราะอย่างชอบใจ
"ถ้าอย่างนั้น... เย็นนี้เธอต้องเป็นคนทำน้ำแกงปลา ทำกับข้าวอร่อย ๆ ให้ฉันกิน ฉันถึงจะเล่า" เจ้าหรูต่อรองเพื่อน เพราะรู้ว่าเพื่อนไม่สามารถอดทนได้ ต้องรับปากทุกอย่างเพื่อที่จะได้ฟังเรื่องที่เธอจะเล่าอย่างแน่นอน
"แหม! แหม! แหม! เธอคงบอกแม่ไปแล้วสิว่าจะทำแกงปลา" ซูเยว่รู้ทัน เพื่อนของเธอจะเป็นแบบนี้เสมอ ถึงปากจะบอกว่าให้เธอเป็นคนทำอาหาร แต่พอถึงเวลาจริง ๆ เจ้าหรูก็จะเข้าไปช่วยอยู่ในครัวตลอด นอกเสียจากว่ามีเรื่องที่ต้องจัดการเท่านั้นแหละ
"จำไม่ได้ว่าบอกใครไป แต่ฉันทำไม่อร่อยเท่าเธอ เย็นนี้ฝากท้องน้อย ๆ ของเพื่อนกับหลานด้วยนะ ซูเยว่คนสวย" เมื่อรู้ว่าเพื่อนรู้ทันก็หันไปออดอ้อนเพื่อนเหมือนเช่นเคย
"หน้าเธอมันเหวี่ยง ไม่ต้องมาออดอ้อน ฉันขนลุก" เมื่อเห็นท่าทางสวนทางกับหน้าตาของเพื่อน เลยดันหัวเพื่อนออกไปให้ไกล
หากไม่รู้จักหรือสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก คงไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเจ้าหรูเป็นผู้หญิงที่น่ารัก ออดอ้อนเก่ง เป็นผู้หญิงตัวเล็กตัวน้อย เพราะว่าหน้าตาเหมือนคนพร้อมจะมีเรื่องตลอดเวลา แค่ปรายตามอง ยกยิ้มนิด ๆ เท่านั้นแหละ... ผู้คนก็กลัวแล้ว
เพื่อนของเธอมีหน้าตาเป็นอาวุธ คนอื่นเลยไม่ค่อยกล้ามาหาเรื่อง แต่หารู้ไม่ว่าเจ้าหรูช่างอ้อน ถ้าได้ออดอ้อนใคร ยากที่คนคนนั้นจะกล้าปฏิเสธ
"ใช่!! หน้าฉันสวยมาก เธอไม่เห็นเหรอ" เชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ มั่นใจว่าตัวเองสวย
"เออ เออ เย็นนี้ฉันทำกับข้าวเอง อยากกินอะไรก็บอกแล้วกันยัยตัวร้าย" ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่กลับยกยิ้มอย่างพอใจ เพราะมีคนหน้าร้ายแต่ออดอ้อนเหมือนเด็กน้อยซุกอยู่ตรงหน้าอกของเธอไม่ห่างไปไหน หากยังไม่รับปากก็คงต้องอยู่แบบนี้อีกนาน
ถึงแม้เจ้าหรูจะมีสามีเฮงซวย แต่เธอมีครอบครัวที่ดี พร้อมจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ แล้วแบบนี้เธอจะกลัวอะไร เธอจะสนใจใส่ใจเฉพาะคนที่รักและหวังดีกับเธอ ส่วนคนที่ไม่รักไม่ได้ดีกับเธอ เธอจะไล่ตะเพิดออกไปให้ไกลจากชีวิตเลยคอยดู...
ตอนที่ 10 สำรวจตลาดเจ้าหรูพาทั้งสองเด็กน้อยขึ้นเขาไปตัดต้นไผ่เพื่อนำมาทดลองใช้เครื่องผลิตกระดาษ ในรายละเอียดการใช้งานเครื่องระบุว่าสามารถใช้ต้นไม้อะไรก็ได้ แต่ก็ยังมีข้อแม้ว่าจะใช้ได้เพียงต้นไม้ชนิดนั้นเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นต้นไม้อย่างอื่นได้อีกเจ้าหรูตัดสินใจใช้ต้นไผ่ เพราะมันมีเยอะมากมาย และยังสามารถพบเจอได้ง่าย ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มีต้นไผ่เกิดขึ้นมากมาย บนภูเขา ตามท้องนา หรือในหมู่บ้านก็มีต้นไผ่อยู่ทั่วทุกที่ รับรองว่าเธอไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอนผลการทดลองใช้ต้นไผ่เพียงหนึ่งลำ สามารถผลิตกระดาษอย่างดีได้ถึง 100แผ่น แต่หากคุณภาพกระดาษลดลงมาก็จะได้จำนวนกระดาษเพิ่มขึ้นเป็น 200 แผ่น แต่ต้องอยู่กับขนาดของลำต้นที่ใช้ด้วยเช่นกันส่วนการใช้ต้นไผ่นั้น... สามารถใส่ลงได้ทั้งต้น ไม่ต้องเอาใบออก เพราะส่วนใบจะนำไปผลิตยางลบกับดินสอได้ด้วย
ตอนที่ 9ลู่ทางหาเงินตอนนี้เจ้าหรูอยู่ในโกดังขนาดใหญ่ โกดังแห่งนี้มีสิ่งของมากมาย สิ่งของเหล่านั้นมาจากโลกต่างๆที่ถิงถิงไปเยือน แล้วนำมาเก็บไว้ในสถานที่แห่งนี้พรวิเศษที่มาจากสร้อยไข่มุกยังไม่ปรากฏ ถิงถิงให้เธอมาหาสิ่งของต่าง ๆ จากโกดังแห่งนี้เผื่อมีสิ่งไหนสามารถเอาไปสร้างอาชีพได้จึงต้องพากันเดินสำรวจก่อนตัดสินใจถิงถิงบอกว่าโกดังแห่งนี้อยู่ในมิติของนายหญิง ต้องมีถิงถิงเป็นคนพาเข้าออก คนนอกไม่สามารถเข้าออกได้ แม้แต่นายท่านยังไม่สามารถเข้ามาได้เลย เจ้าหรูไม่รู้หรอกว่านายท่านคือใคร และไม่ได้ถามต่อด้วยเช่นกัน เล่าให้ฟังแค่ไหนก็ฟังแค่นั้นเอง"เวลาในนี้กับเวลาข้างนอกเท่ากันไหม" เพราะลูกนอนหลับอยู่ข้างนอก เธอจะได้คำนวณเวลาได้ถูก ไม่อยากให้ลูกตื่นมาแล้วไม่เจอใคร"ถิงถิงหยุดเวลาไว้เจ้าค่ะ เราออกไป
ตอนที่ 8ผู้มาเยือนสองแม่ลูกกลับมาอยู่บ้านตัวเองได้เกือบสามวันแล้วเรื่องที่เธอจะหย่ากับสามี เธอได้บอกพ่อ แม่ พี่ชาย พี่สะใภ้แล้ว ทุกคนให้เธอเป็นคนตัดสินใจเอง พวกเขาจะคอยอยู่ข้าง ๆ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจแบบไหนหรือยังไงซึ่งมันเป็นแบบนี้มาตลอด พ่อแม่ไม่เคยซ้ำเติม มีแต่คอยให้กำลังใจและพร้อมจะช่วยเหลือเสมอเจ้าหรูไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองเรียกเงินจากครอบครัวสามี เพราะเธอรอก่อนว่าทางสามีจะว่าอย่างไร จะตกลงไหม เธอไม่ได้ใจเย็น รอแบบไม่มีระยะเวลากำหนด แต่เธอมีกำหนดเวลาไว้แล้วต่างหากหากว่าพวกเขาคนใดคนหนึ่งดีกับลูกสาวของเธอบ้าง เธอจะไม่ทำถึงขนาดนี้ แต่ครอบครัวหลิวกลับไม่สนใจความรู้สึกของลูกสาวเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่สนใจไม่ว่า บางครั้งยังพูดจาไม่ดีใส่อิงอิงอีกด้วย"อิงอิง ลูกอยู่ไหน" เมื่อมอ
ตอนที่ 7ครอบครัวกู้"อิงอิง มาหายาย" หลินฟางเรียกหลานสาวทันทีที่มาถึง"ยายจ๋า... ตาจ๋า... สวัสดีจ้า" อิงอิงวิ่งก้นสายดุ๊กดิ๊กไปหายายกับตาด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าเจ้าหรูหันไปมองพ่อกับแม่พร้อมกับยิ้มทักทาย พ่อกับแม่ยังแข็งแรงดีและยังเข้าใจเธอเป็นอย่างมากเหมือนเดิม เธอโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวนี้ เพราะพ่อกับแม่รับฟังเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ลูกจะทำผิดแค่ไหน พ่อกับแม่จะใจเย็นแล้วค่อย ๆ ตักเตือนและสอนให้ลูกเข้าใจแต่คนเราไม่ได้โชคดีทั้งหมด เธอมีครอบครัวพ่อแม่ พี่ชายพี่สะใภ้ที่ดี แต่เธอกลับมีสามีที่พยายามตีตัวออกหาก ครอบครัวสามีไม่ต้อนรับ เพราะเธอไม่ใช่คนที่พวกเขาเลือกไว้เท่านั้นเองอาจเพราะเคยผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายแล้ว จึงคิดว่าแค่เรื่องครอบครัวสามีและสามีไม่ต้องการนั้นกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเธอไปเส
ตอนที่ 6 แม่สอนลูกสาวผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วหลังจากที่เธอพูดคุยเรื่องหย่ากับสามีเขาหายไปตั้งแต่วันนั้นและยังไม่กลับมาไม่แน่ใจว่าคำตอบจะเป็นแบบไหน แต่เจ้าหรูไม่รีบร้อน เธอใจเย็นรอได้เสมอช่วงเวลานี้เธอก็สอนลูกไปด้วย สิ่งที่แม่สอนลูกสาว ส่วนมากเป็นสิ่งที่สอนให้เข้มแข็ง กล้าแสดงออก หากเราไม่ได้ทำอะไรผิดอย่าได้กลัว จงกล้าที่จะพูดเพื่อปกป้องตัวเอง อย่ารอให้คนอื่นมาช่วย ทั้งที่รู้ว่าบางอย่างลูกยังไม่เข้าใจ แต่เธอก็พูดและอธิบายให้ฟัง และเน้นย้ำหากไม่เข้าใจหรืออยากรู้อะไรให้ถามได้เลยช่วงนี้ไม่ใช่แค่เรื่องแม่สอนลูกสาวเพียงอย่างเดียว แม่ต้องคอยถามเรื่องที่ลูกสาวบอกว่าหลิวเย่ไม่ใช่พ่อแล้วยังบอกว่าพ่อของเธอคือใครอีกคนหนึ่ง เจ้าหรูพยายามถามแต่ยังไม่ได้คำตอบอยู่ดีเจ้าหรูเลยคิดว่าลูกสาวอาจสร้างพ่อในจินตนาการขึ้นมา เพราะตอนเด็ก ๆ
ตอนที่ 5 สามีที่น่ารังเกียจผ่านมาสามวันแล้วที่เจ้าหรูมาอยู่ที่โลกใบนี้ สามวันที่เฝ้ารอว่ามีสิ่งของอะไรติดตัวมาบ้าง แต่ทุกอย่างก็ยังเงียบไม่มีปฏิกิริยาตอบรับหรือผิดปกติอะไรเลย แต่เธอก็ยังใส่สร้อยไข่มุกติดตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะจำที่ถิงถิงเคยบอกไว้ว่า... บางครั้งพรวิเศษอาจปรากฏช้า เธอเลยเฝ้ารอเวลาอย่างใจจดใจจ่อวันแรกที่เจ้าหรูพาลูกสาวไปหัดว่ายน้ำ เธอรู้ว่ามีคนมายืนดูเธอสองคนแม่ลูกเล่นน้ำ แต่ที่เธอทำตัวปกติเหมือนไม่รับรู้การมีอยู่ของเขา เพราะเขาไม่มีค่ามากพอที่จะทำให้เธอหยุดเล่นสนุกกับลูก รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของลูกสาวมีค่ามากกว่าการที่เธอจะหยุดทักทายเขาหากเดาไม่ผิด เธอคิดว่าคนรักของเขาคงไปบอกข่าวเกี่ยวกับเรื่องเธอและลูก เขาถึงออกมาดู แต่เมื่อมาเห็นแล้วว่าเธอกับลูกอยู่ดีมีความสุข เขาก็กลับไปทันที และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ไม่เห็นเขาออกมาที่นี่อีกเลยเจ้าหรูจะพาลูกสาววิ่งออกกำลังกายในทุกเช้า และต่อด้วยฝึกท่าทางต่าง ๆ ที่เธอเคยเรียนมา ศิลปะการป้องกันตัวทั้งหลายที่เคยเรียนมา เธอก็เอาออกมาฝึกกับลูกสาว ถึงแม้ลูกสาวจะยังเล็ก แต่หากฝึกไปเรื่อย ๆ มันต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ดีที่อิงอิงตัวน้อย







