สองพี่น้องหลังเขาวั้งซานกู่

สองพี่น้องหลังเขาวั้งซานกู่

last updateLast Updated : 2025-09-24
Language: Thai
goodnovel12goodnovel
Not enough ratings
78Chapters
51views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ลู่ฉางกัง ได้พบหีบไม้โบราณซึ่งเป็นสมบัติประจำตระกูล เมื่อเปิดออกมันได้พาเขาย้อนเวลาไปยังมิติยุคโบราณ และกลายเป็นเพียงเด็กชายวัยสิบหนาว ในมิติคู่ขนานเขาพบกับคนสำคัญที่ชาตินี้เขาก็ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เจออีก การย้อนเวลาครั้งนี้นอกจากจะทำให้เขาได้มีโอกาสแก้ไขหลายเรื่องราวที่เคยผิดพลาด แต่ยังช่วยเติมเต็มเสี้ยวความทรงจำที่ขาดหายไปเมื่อครั้งยังเด็ก

View More

Chapter 1

1 คุณชายตระกูลลู่

1

คุณชายตระกูลลู่

เสียงแง้มประตูให้เปิดออก ตามมาด้วยร่างของหญิงชรานางหนึ่ง ยามนี้เป็นเวลาเช้าตรู่อากาศจึงหนาวเย็นยะเยือก หยาดน้ำค้างเกาะอยู่ตามยอดหลิวแลดูอ่อนละมุนยิ่ง กลิ่นควันจากการเผาไหม้จาง ๆ ลอยมาเตะจมูก  พลันดวงตาพร่ามัวก็สะดุดเข้ากับวัตถุบางอย่างที่วางอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ หญิงชราเดินเชื่องช้าไปยังแคร่ไม้ไผ่ตัวนั้น เมื่อได้เข้ามาดูใกล้ ๆ ก็พบว่าสิ่งของซึ่งมองเห็นแต่ไกลคือถุงผ้าสีน้ำตาลใบหนึ่ง มือเหี่ยวย่นเอื้อมออกไปหยิบถุงผ้ามาเปิดดู  สิ่งที่อยู่ในถุงทำให้นางเบิกตาโตตะลึงค้าง..

"เชาถง! ปิงเหยียนออกมาดูนี่เร็วเข้า!"

...

...

นครฉงเทียน 2024

รถซูเปอร์คาร์สุดหรูเล่นพาดผ่านถนนคดเคี้ยวเชิงเขา หญิงสาวที่นั่งมาด้วยลดกระจกลงรับอากาศบริสุทธิ์ สายลมอ่อนสะพัดมาได้กลิ่นหอมของมวลต้นไม้ใบหญ้าผสมกับกลิ่นดินกรุ่นหลังฝนตกใหม่ ภูเขาตรงหน้าตั้งตระหง่านระฟ้า ความพิเศษของหุบเขาแห่งนี้คือขึ้นสลับสับหว่างสวยงามราวจับวาง หากไม่ติดว่านี่คือดินแดนมนุษย์ ผู้มาเยือนอาจหลงผิดคิดว่าเป็นดินแดนสวรรค์  

 "วั้งซานกู่" คือสถานที่ทางธรรมชาติสุดแสนมหัศจรรย์ นอกจากทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วยังมีลำธารไหลลงมาจากยอดเขา เป็นแหล่งน้ำสะอาดบริสุทธิ์ มีความใสกระจ่างจนมองเห็นฝูงปลาแหวกว่ายไปมา แม้กระทั่งก้อนกรวดเล็ก ๆ ที่ก้นลำธารก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

บรรยากาศในรถค่อนข้างอึดอัดอยู่ไม่น้อย เนื่องจากผู้โดยสารทั้งหมดไม่ได้ปริปากพูดคุยกันเลยแม้แต่คำเดียว กระทั่งรถเคลื่อนมาจอดยังตีนเขาซึ่งเป็นที่ดินแปลงใหญ่สุดลูกหูลูกตา ถือครองโฉนดที่ดินโดยทายาทตระกูลลู่ยาวนานหลายชั่วอายุคน

ตระกูลลู่คือตระกูลเก่าแก่ร่ำรวยมหาศาล ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และประเภทส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศ มากด้วยเงินทองและบริวาร เพราะอย่างนั้น ทายาทเพียงหนึ่งเดียวของรุ่นปัจจุบันอย่าง "ลู่ฉางกัง" ถึงได้หยิ่งยโสเพียงนี้

หากไม่มีเรื่องราวสะเทือนขวัญเมื่อสิบปีก่อน ฉางกังก็คงไม่ต้องแบกรับทุกอย่างลำพัง เขาเคยมีพ่อและแม่อยู่กันพร้อมหน้า ทว่าทุกอย่างผันผ่านราวกับฝัน อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดพรากทุกคนไปจนหมด ปัจจุบันนี้มีเพียงคุณย่าเพียงคนเดียวซึ่งเป็นครอบครัวที่เขาเหลืออยู่ 

ชายหนุ่มมองออกไปนอกกระจกรถ เห็นบ้านเรือนทรุดโทรมจำนวนกว่าร้อยหลังคาที่ตั้งอยู่หนึ่งหย่อม จึงรู้สึกขวางหูขวางตาเป็นอย่างมาก พร้อมกันนั้นหลากหลายคำถามผุดขึ้นมาในหัว

...เพราะอะไร...ทำไมคุณย่าถึงได้เมตตาคนกลุ่มนี้นักนะ

คุณย่าถึงขั้นอนุญาตให้คนจน ๆ เข้ามาสร้างบ้านเรือนอยู่อาศัยและให้ใช้ที่ดินทำกิน โดยคิดค่าเช่าเพียงเดือนละหนึ่งตำลึง  

...ฟังไม่ผิด...ค่าเช่าเพียงหนึ่งตำลึงต่อเดือน!

สิ่งเหล่านี้ขัดต่อหลักการทางความคิดของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก เขาคิดว่าหากต้องเสียอะไรไป ต้องได้ผลประโยชน์ตอบแทนมาอย่างคุ้มค่า แต่เท่าที่เห็นฉางกังคิดว่าคนพวกนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลยต่อตระกูลลู่ ก็แค่คนยากจนไร้ที่พึ่งพิงและไม่มีที่ไป หวังอาศัยบารมีของตระกูลลู่คุ้มกะลาหัว หากให้อยู่ต่อก็รังแต่จะสร้างความเสื่อมโทรมและทำลายทัศนียภาพของที่ดินผืนงามจนด้อยราคาลง

ดังนั้น จุดประสงค์หลักในการมาของฉางกังในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการออกคำสั่งขับไล่ชาวบ้านออกไปอยู่ที่อื่น เขาคิดว่าหากปราศจากบ้านเรือนโกโรโกโสแล้ว ที่ดินผืนนี้น่าจะงามกว่าเดิมหลายเท่า ถ้าจะขายต่อนายทุนสร้างเป็นรีสอร์ทก็ดูเข้าที หรือทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติก็ดูไม่เลว

ท่อนขายาวท่าทางกำยำก้าวลงจากรถ ภายใต้ชุดสูทสีกรมท่าดูหรูหรา ยังมีนาฬิกาเรือนโปรดที่ประมูลมาในราคาหลายสิบล้าน ดู ๆ ไปแล้วก็ช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้สง่าขึ้นไปอีก ใบหน้ามาดคมเข้มผุดผ่องสมกับที่เกิดในตระกูลบารมีสูงส่ง ผิวที่ขาวกระจ่างราวหยกน้ำค้างเมื่อกระทบแสงแดดยามเว่ยดูดีเกินจะบรรยายได้ ทว่าภายใต้รูปลักษณ์ที่สง่างามนี้ จิตใจของลู่ฉางกังกลับถูกฝังกลบไปด้วยความเย็นชาไร้ซึ่งความเห็นใจผู้อื่น

หญิงสาวที่นั่งมาด้วยก็เดินลงจากรถเช่นกัน นามของเธอคือ จางลี่อิน แฟนสาวที่คบกันมานานหลายปีของฉางกัง เธอคนนี้แต่งตัวเรียบง่ายไม่เวิ่นเว้อเหมือนชายหนุ่ม  

ตามมาด้วยเข่อซิง เลขาคนสนิทของฉางกังที่ลงจากรถเป็นคนสุดท้าย หลังจากที่ทั้งสามลงจากรถ ไม่นานก็มีชายวัย 60 หนาวคนหนึ่งเดินมาทางพวกเขา

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
78 Chapters
1 คุณชายตระกูลลู่
1คุณชายตระกูลลู่เสียงแง้มประตูให้เปิดออก ตามมาด้วยร่างของหญิงชรานางหนึ่ง ยามนี้เป็นเวลาเช้าตรู่อากาศจึงหนาวเย็นยะเยือก หยาดน้ำค้างเกาะอยู่ตามยอดหลิวแลดูอ่อนละมุนยิ่ง กลิ่นควันจากการเผาไหม้จาง ๆ ลอยมาเตะจมูก พลันดวงตาพร่ามัวก็สะดุดเข้ากับวัตถุบางอย่างที่วางอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ หญิงชราเดินเชื่องช้าไปยังแคร่ไม้ไผ่ตัวนั้น เมื่อได้เข้ามาดูใกล้ ๆ ก็พบว่าสิ่งของซึ่งมองเห็นแต่ไกลคือถุงผ้าสีน้ำตาลใบหนึ่ง มือเหี่ยวย่นเอื้อมออกไปหยิบถุงผ้ามาเปิดดู สิ่งที่อยู่ในถุงทำให้นางเบิกตาโตตะลึงค้าง.."เชาถง! ปิงเหยียนออกมาดูนี่เร็วเข้า!"......นครฉงเทียน 2024รถซูเปอร์คาร์สุดหรูเล่นพาดผ่านถนนคดเคี้ยวเชิงเขา หญิงสาวที่นั่งมาด้วยลดกระจกลงรับอากาศบริสุทธิ์ สายลมอ่อนสะพัดมาได้กลิ่นหอมของมวลต้นไม้ใบหญ้าผสมกับกลิ่นดินกรุ่นหลังฝนตกใหม่ ภูเขาตรงหน้าตั้งตระหง่านระฟ้า ความพิเศษของหุบเขาแห่งนี้คือขึ้นสลับสับหว่างสวยงามราวจับวาง หากไม่ติดว่านี่คือดินแดนมนุษย์ ผู้มาเยือนอาจหลงผิดคิดว่าเป็นดินแดนสวรรค์ "วั้งซานกู่" คือสถานที่ทางธรรมชาติสุดแสนมหัศจรรย์ นอกจากทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วยังมีลำธารไหลลงมาจากยอดเขา เป็นแหล่ง
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
2 นั่งเต่า
2นั่งเต่า"คุณชายลู่ เป็นบุญตาที่ผมมีโอกาสได้เห็น"ชายผู้นี้มีชื่อว่าหยางเปียว เป็นคนที่คุณย่าว่าจ้างให้ดูแลที่ดินหลังเขาวั้งซานกู่ เปรียบเสมือนผู้นำหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ เขาเอ่ยขึ้นหลังจากเดินเข้ามาใกล้สักระยะสายตา ดวงตาของเขาเปี่ยมด้วยความดีใจแบบไม่ปิดบัง หากแต่มันกำลังจะเปลี่ยนไปในไม่ช้าเมื่อได้รับการตอบกลับจากบุคคลที่เขาเพิ่งเอ่ยชื่นชมเมื่อครู่“รีบพาฉันไปดูให้จบ ๆ ที่ดินโกโรโกโสแบบนี้ฉันไม่อยากจะเสียเวลานาน”ฉางกังพูดห้วน ๆ กับคนงานของคุณย่าจนอีกฝ่ายเก็บรอยยิ้มจริงใจแทบไม่ทัน เหลือไว้แต่เพียงรอยยิ้มฝืน ๆ ที่หากจะไม่ยิ้มก็ไม่ได้ แต่ก่อนที่จะได้เอ่ยอะไรต่อชายหนุ่มก็เดินนำหน้าไปก่อนด้วยความรำคาญใจลี่อินที่เห็นสีหน้าเจื่อนของชายแก่จึงรีบเดินมาขอโทษ เธอรู้นิสัยแฟนหนุ่มเป็นอย่างดีว่าเขาเป็นคนไม่สนโลกเพียงใด และรู้สึกอับอายแก่การกระทำของฉางกังเป็นอย่างมาก ในบางครั้งเธอได้พูดจาตักเตือนเขาไปบ้าง แต่ฉางกังก็ไม่ใส่ใจคำเตือนของเธอเลยสักนิด เขามักคิดว่าตนเองคือศูนย์รวมของจักรวาล และมั่นอกมั่นใจว่าตนเองสูงส่งอยู่เหนือกว่าทุกคน“คุณลุงคะ ขอโทษแทนลู่กังด้วยนะคะ เขาอารมณ์ไม่ดีค่ะ หวังว่าคุณลุงจะ
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
3 มิจฉาชีพ
3มิจฉาชีพเสียงหัวเราะเย้ยหยันดังทุ้มในลำคอ ริมฝีปากหยักโค้งขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคู่นั้นเย็นชาเสมอต้นเสมอปลายไร้ที่ติ ไม่รู้ว่าตอนนั้นฉางกังคิดอะไรอยู่ เมื่อเห็นลี่อินทำเช่นนั้นก็รีบก้าวลงจากรถตรงไปกระชากแขนหญิงสาวออกมาด้วยท่าทางฉุนเฉียว"คุณทำบ้าอะไร! คุณขับรถชนคนบาดเจ็บนะ ถ้าคุณไม่ช่วยฉันจะช่วยพวกเขาเอง"เธอตวาดเขาแล้วสะบัดแขนออกจากการจับกุม“คนพวกนี้เป็นมิจฉาชีพหรือเปล่าก็ไม่รู้ คุณออกให้ห่างเถอะเผื่อมีอันตราย”"ลู่กัง! คุณไม่เห็นเหรอว่าเขามีเลือดออก ดูสิ! มีคนบาดเจ็บเพราะคุณนะ"ฉางกังมองไปยังชาวบ้านทั้งสองแล้วเหยียดยิ้มอีกรอบ เขาคิดว่าชาวบ้านเหล่านี้คือมิจฉาชีพมากกว่าผู้ประสบภัย จึงดึงแขนของแฟนสาวพาขึ้นรถดังเดิมแล้วออกคำสั่ง"นั่งรอในนี้ผมจัดการเอง ดู ๆ ไปตาแก่นั่นก็ไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อยเลยนี่"บอกเพียงเท่านั้นก็เดินย้อนกลับมา ชายแก่พยุงตัวลุกขึ้นยืนข้างลูกสาว เล็งเห็นว่าอีกฝ่ายฐานะร่ำรวยและรถที่ฉางกังขับก็ราคาแพงมาก จึงกลัวว่าตนและลูกจะมีความผิด ดีไม่ดีอาจถูกเรียกร้องค่าเสียหายที่ทำรถหรูเป็นรอยจึงคุกเข่าก้มศีรษะขอโทษขอโพยยกใหญ่ "ขอโทษครับ ขอโทษจริง ๆ ลูกสาวผมเธอสติไม่ดี เธอว
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
4 อยากไปก็ไป
4อยากไปก็ไปหลิวเซียงฉินหรือคุณย่าหลิว ย่าแท้ ๆ ของฉางกังได้ให้ความช่วยเหลือจ้าวฟู่เฉิงซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ ของเข่อซิงเอาไว้ ย่าหลิวได้ไถ่ตัวฟู่เฉิงออกจากบ่อนการพนันพร้อมกับให้ชีวิตใหม่ ให้งานทำและให้อนาคตใหม่ พร้อมกันนั้นก็ได้ให้ฟู่เฉิงมอบสัตย์สาบานว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับการพนันอีกตลอดชีวิต กระทั่งฟู่เฉิงได้แต่งงานมีครอบครัวจึงถือกำเนิดเข่อซิงน้อยขึ้นมาเป็นพยานรัก ปัจจุบันนี้ฟู่เฉิงและภรรยาได้ปลดเกษียณแล้วให้เข่อซิงรับช่วงต่อ ตั้งแต่นั้นมาเข่อซิงจึงได้กลายเป็นคนสนิทของฉางกัง ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยให้ฉางกังทุกอย่าง รวมไปถึงเรื่องส่วนตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง อุปนิสัยของเข่อซิงเป็นคนซื่อตรงเรียบง่าย มีความจงรักและภักดีต่อผู้เป็นนาย ต่อให้ถูกด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรงก็ไม่เคยถือสา คิดเพียงว่าฉางกังเป็นเหมือนเพื่อนเหมือนพี่เหมือนน้อง และเปรียบเสมือนญาติของเขาอีกคน“ท่านประธานครับ...เอ่อ ท่านประธานว่าคุณลี่อินแรงเกินไปรึป่าวครับ”เข่อซิงที่ทนฟังคำพูดของผู้เป็นนายไม่ไหวจึงพูดขึ้นบ้าง หวังว่าจะดึงสติเขากลับคืนมา แต่สิ่งที่ได้รับจากฉางกังคือแววตาที่แปลความหมายได้ว่าด่าบรรพบุรุษ“ไม
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
5 ยอดเยี่ยมจริง ๆ
ภาพในหัวของชายหนุ่มฉายอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ความคิดทั้งหมดจะอันตรธานหายไป แทนที่ด้วยเรื่องราวที่ดินหลังเขาวั้งซานกู่ เขาคิดมาตลอดทางแล้วว่าหากทำเป็นรีสอร์ทปรับสภาพพื้นที่กันดารเปลี่ยวผู้คนให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติคงจะสวยงามไม่น้อย และผลที่ตามมาจะต้องเป็นกำไรมหาศาล ฉางกังเดินตรงไปหาคุณย่าซึ่งนั่งรอให้เขากลับมาทานข้าวด้วยกันอยู่ที่โต๊ะอาหาร ฝ่ายคุณย่าเมื่อเห็นว่าหลานชายสุดที่รักได้กลับมาถึงแล้วก็แย้มยิ้มบาง ๆ พร้อมกล่าวทักทายเฉกเช่นปกติทุกวัน“อ้าว อากังกลับมาแล้วหรือ ย่าเตรียมของโปรดไว้ให้เยอะเลย มีแต่ของที่หลานชอบทั้งนั้น เอ๊ะ...นั่น...อากังหน้าไปโดนอะไรมา”เสียงแหบแห้งเอ่ยเรียกหลานชายเพียงคนเดียวพร้อมกับทักท้วงรอยแดงเด่นชัดที่ข้างแก้ม ฉางกังไม่ได้ตอบคำถามแต่ตรงดิ่งเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกัน รอยยิ้มของหญิงชราปรากฏบนใบหน้าเหี่ยวย่น เธอย้อนคิดดูว่านานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้มานั่งทานข้าวเย็นกับเธอแบบนี้ แม้ว่าในทุก ๆ วันหญิงชราจะเตรียมอาหารจานโปรดไว้รอเขากลับมาทานก็ตามที ส่วนมากฉางกังจะมาไม่ทันเวลาอาหารมื้อเย็น หรือบางครั้งถ้ามาถึงแต่หัววันเขาก็มักจะอ้างว่าทานอาหารนอกบ้
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
6 นักบวชใจบุญ
ในเมื่อเป็นอย่างนี้หว่านล้อมอย่างไรก็ไม่คงสำเร็จ ยกเม็ดเงินมาอ้างก็แล้ว ยกเหตุผลมาอ้างก็แล้ว ฉางกังจึงไม่อยากโต้แย้งกับคุณย่าอีก เขาจำใจยอมฟังคำคุณย่าเพราะกลัวว่าโรคประจำตัวคุณย่าจะกำเริบ อีกอย่างตัวเขาเองก็ไม่เหลือใครอีกแล้วในชีวิตนี้ หากต้องเสียคุณย่าไปอีกคนโลกใบนี้ก็คงจะกลายเป็นนรกบนดินดี ๆ นี่เองฉางกังเลือกที่จะไม่ได้พูดอะไรต่อแล้วตักข้าวเข้าปากเงียบ ๆ คุณย่าสังเกตอาการหลานชายพอจะเข้าใจความคิดเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง จึงพูดปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงชุ่มเย็น“คนที่นั่นมีน้ำใจกับย่าทุกครั้งที่ไปเยือน ต้นตระกูลของเราเคยอาศัยในบ้านหลังคามุงฟางเล็ก ๆ หลังเขาวั้งซานกู่ พอค้าขายกิจการรุ่งเรืองก็ขยับขยายออกมา แต่ผู้คนที่หลานเห็นว่ายังอาศัยที่เขาวั้งซานกู่พวกเขาไม่ได้โชคดีเหมือนตระกูลลู่ พวกเขายากจนและไม่สามารถตั้งหลักปักฐานในที่ดี ๆ กว่านั้นได้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะหยิบจับสิ่งใดแล้วประสบผลสำเร็จไปเสียหมดนะอากัง เราเองยังไม่ได้ขัดสนเงินทองถึงขนาดจะต้องขายที่กิน คนเราควรอยู่กันด้วยความเมตตา หากวันหนึ่งอากังไม่มีย่าคอยให้คำปรึกษาแล้วหลานก็ยังมีพวกเขาที่ยังคงจงรักภักดีกับตระกูลลู่อยู่ พวกเขาจะต้องตอบแทนน้ำใ
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
7. ฉางเกอคือใคร
…เพราะคุณ เพราะคุณนั่นแหละที่ทำให้ลูกต้องตาย…คุณเองก็ละเลยลูกเหมือนกัน ทำไมมาโทษว่าเป็นความผิดฉันคนเดียว…ก็หน้าที่ดูแลลูกเป็นของคุณ หากคุณดูแลลูกให้ดีลูกคงไม่เป็นแบบนั้น…ฉันดูแลลูกดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันเองก็เหนื่อยไม่แพ้คุณหรอก ...ฮึก ฮื่อ ฉางเกอ ฉางเกอ!เสียงใครทะเลาะกัน ฝันร้ายอีกแล้วหรือ… อ๋อ เสียงพ่อกับแม่นี่เอง สองคนนั้นตายเป็นผีไปนานแล้วก็ยังมาทะเลาะกันในฝันให้รำคาญหู เดี๋ยวนะ ฝัน ฝันหรือ…ฉางกังพึมพำกับตนเองในความคิด เขาจะฝันไปได้อย่างไรก็ในเมื่อยังไม่ได้เข้านอนเลย ทุกอย่างเขาจดจำได้หมด เพราะความอยากรู้อยากเห็นจึงถือวิสาสะเปิดกล่องไม้โบราณของคุณย่า จากนั้นก็มีแสงสว่างวูบวาบปรากฏขึ้นมาแล้วเขาก็ล้มฟุบลงไปกองกับพื้น แต่สิ่งที่ได้ยินล่ะ…เมื่อครู่นี้พ่อและแม่ของเขาพูดถึงใครกันแน่ ใคร ใครตาย…ฉางเกอคือใครคำถามนี้สร้างความมึนงงสับสนให้ฉางกังเป็นอย่างมาก พ่อกับแม่ยังจะมีลูกที่ไหนอีก ในเมื่อเขาเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลลู่...หัวใจของฉางกังพลันเต้นแรงแทบทะลุออกจากอก ยิ่งพยายามเพ่งมองเงาร่างของพ่อและแม่ที่กำลังเลือนรางไปยิ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดแทบหายใจไม่ออก ชายหนุ่ม
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
8 มีบางอย่างผิดพลาด
ปกติแล้ววันหยุดฉางกังไม่เคยอยู่ติดบ้าน อย่างน้อย ๆ ก็ขอให้ได้เข้าไปสอดส่องดูแลความเรียบร้อยภายในบริษัท วันนี้ไม่รู้ว่าชายหนุ่มนึกอะไรอยู่ เมื่อจัดการธุระส่วนตัวตนเองจนเสร็จสิ้นหลังมื้ออาหารเช้าเขาได้ถือหนังสือพิมพ์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับธุรกิจเดินเข้าไปในสวนและสอดส่ายสายตาเลือกหาที่นั่งเหมาะ ๆ เป็นชุดเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ใต้ต้นเทียนไถเอ่อร์ลี่ ต้นเทียนไถเอ่อร์ลี่ ต้นไม้ชนิดนี้จัดเป็นไม้หายากที่มีราคาแพง ฉางกังจำได้ว่าตั้งแต่ลืมตามองโลกก็เห็นมันตั้งตระหง่านอยู่ในสวนนี้แล้ว ห่างจากต้นเทียนไถ่เอ่อร์ลี่ไปไม่ถึงสามสิบก้าวคือต้นท้อ คุณย่ามักมีความเชื่อเกี่ยวกับต้นท้อว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ สามารถปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและขับไล่ภูติผีปีศาจไม่ให้มารบกวนได้ หากบางบ้านไม่มีพื้นที่สวนเพียงพอที่จะปลูกต้นท้อก็สามารถแขวนรูปวาดต้นท้อไว้ในบ้านได้เช่นกันต้นท้อต้นนี้คุณย่าเป็นคนปลูกเองกับมือ จากวันนั้นมาจนถึงตอนนี้อายุของมันจะน่าจะสิบเจ็ดปีเห็นจะได้ นับว่าตอนที่มันยังเป็นเบี้ยเล็ก ๆ ฉางกังอายุแค่สิบหนาว ปัจจุบันนี้เขาอายุยี่สิบเจ็ดแล้ว คิดมาถึงตอนนี้หว่างคิ้วของชายหนุ่มก็รู้สึกร้อนวูบวาบ เขาพับหนังสือพิมพ์
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
9 ไม่อยากกินของหวาน
หลังอาทิตย์อัสดง ใจกลางนครฉงเทียนที่ไม่เคยหลับ ทั่วสารทิศต่างสว่างไสวด้วยแสงไฟ ตึกรามบ้านช่องสร้างขึ้นหนาแน่นเบียดเสียด ในโลกที่มีแต่ความวุ่นวาย ผู้คนต่างดิ้นรนแข่งขัน มีหลายคนที่ยังทำงานในวันหยุดเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ยอมเหน็ดเหนื่อยตั้งแต่เช้าจรดค่ำแลกค่าแรงไม่กี่หยวนต่อวันฉางกังมักคิดอยู่เสมอว่าหากมีเงินมากหน่อยก็สามารถเห็นโลกได้กว้างกว่าคนอื่น แม้แต่ปัญหาใหญ่ก็กลายเป็นปัญหาเล็กชั่วพริบตา หากไร้ซึ่งเงินแล้วนั้น ต่อให้เจอปัญหาเล็กก็กลายเป็นปัญหาใหญ่หลวงได้เช่นกัน มีหลายอย่างที่คนรวยได้มาอย่างง่ายดาย แต่คนจนแทบไม่กล้าฝันเสียด้วยซ้ำฉะนั้นแล้ว ฉางกังจึงคิดว่าใบเบิกทางที่ดีที่สุดในโลกนี้คือเงิน เงิน และเงินเท่านั้น...ดั่งคำเปรียบเปรยที่ว่า มีเงินก็สามารถใช้ผีให้โม่แป้งได้"อิ่มแล้วเหรอลูก"คุณย่าเอ่ยถามเมื่อหลานชายคนโปรดวางตะเกียบค้างบนขอบถ้วย เขาเงยหน้าขึ้นมองพลางยื่นมือไปหยิบน้ำเปล่ามาดื่มก่อนจะตอบกลับ"ครับ""ย่ายังมีของหวาน""ผมไม่อยากกินของหวานครับ""อ๋อ อย่างงั้นเหรอ"หญิงชราพยักหน้าช้า ๆ อย่างเข้าใจ ทว่าชายหนุ่มไม่ได้ลุกออกจากโต๊ะอาหารในทันที เขายังนั่งมองหน้าคุณย่าคล้าย
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
10 รีบพูดมา
นอกจากคิดว่าจักรวาลหมุนรอบตัว เขายังเป็นคนที่หลงตัวเองระดับสิบ ฉางกังขมวดคิ้วแน่นคว้าเอาโทรศัพท์มือถือมาจ้องมองที่หน้าจอ ยามชวีแล้ว (19.00-20.59 น.) ไม่รู้ว่าป่านนี้เธอทำอะไรอยู่ เขาลังเลว่าจะกดโทร.หาลี่อินอีกรอบดีหรือไม่ และแล้วก็ไม่อาจห้ามความรู้สึกที่มี แม้ใครจะมองว่าเสียหน้าเพราะตามตอแยผู้หญิงเขาก็ไม่สนใจอีกแล้ว“ฮัลโหล”ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนแล้ว เสียงปลายสายตอบกลับมาราบเรียบ น้ำเสียงของเธอดูไม่ได้เศร้าสร้อยแต่รู้สึกได้ถึงความเฉยชาอย่างเห็นได้ชัด“ลี่อิน”“มีอะไรก็รีบพูดมา”“ผม…เอ่อ"“ถ้าคุณไม่พูดฉันวางสายละนะ”“คุณไม่โกรธผมไม่ได้เหรอ ผมอุตส่าห์โทร.มาง้อแล้วนะ"ลี่อินหน้าชาไปชั่วขณะ นี่คือวิธีง้ออย่างจริงใจของเขาอย่างนั้นหรือ จากเดิมที่คิดว่าอารมณ์ร้อนเริ่มเย็นลงตอนนี้กลับเดือดพล่านขึ้นมาใหม่ หญิงสาวเค้นเสียงหัวเราะอย่างขมขื่น เสียงของเธอคล้ายกำลังหัวเราะเยาะตนเองเสียมากกว่า นึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาระหว่างเขาและเธอเป็นเช่นนี้เสมอ...ฉางกังไม่เปลี่ยนไปเลย จนถึงตอนนี้เขายังคงไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด“ถ้าใช้คำว่าอุตส่าห์ก็อย่าทำเลย มันคงฝืนใจคุณเกินไป ที่ฉันบอกว่าเราจบกันคือเรื่องจริ
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status