แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: ใบไม้
กู้ฉีหรานดูเหมือนจะสังเกตเห็นความผิดปกติของฉัน เขาชะงักไปครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยขึ้น

“หรือว่าเรากลับกันตอนนี้เลยดีไหม? ไปหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจกัน”

ฉันเงยหน้ามองเขา มุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อย “งั้นก็ไปล่องเรือยอชต์กันค่ะ ล่องเรือตอนกลางคืน แล้วก็ดูพระอาทิตย์ขึ้นของวันพรุ่งนี้ด้วยเลย”

หลังจากขึ้นรถ เขาก็เริ่มคุยกับฉันถึงแผนของวันพรุ่งนี้ “ผมเตรียมของขวัญวันเกิดเซอร์ไพรส์ให้คุณแล้วนะ รอให้จัดการธุระช่วงนี้เสร็จ แล้วเราค่อยวางแผนมีลูกกัน ดีไหม?”

ฉันเพียงแค่ฟังเงียบ ๆ สายตาทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง โดยไม่ตอบอะไร

รถเพิ่งจะออกตัว โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

เขารับโทรศัพท์ ขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงเจือความลำบากใจ

ฉันหันไปมองเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ถ้าคุณมีธุระก็ไปก่อนเถอะค่ะ”

เขาลังเลใจ “เสี่ยวจิ่น ผม...”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปรอคุณที่เรือยอชต์ก่อนก็ได้”

ฉันมองไม่เห็นว่าใครโทรมา แต่ฉันรู้ว่าคนที่จะทำให้เขามีสีหน้าแบบนี้ได้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้น

หลังจากขึ้นมาบนเรือยอชต์ตามลำพัง ฉันก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูโมเมนต์ในวีแชทของเจียงเหนียนเหนียน

ภาพที่เพิ่งโพสต์ใหม่ล่าสุดปรากฏขึ้น พร้อมกับแคปชันว่า “ในช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จก็มีคนอยู่เคียงข้าง เอาของว่างมื้อดึกมาส่งให้ แถมยังตั้งใจมาคุยเป็นเพื่อน ขอบคุณนะที่ดูแลฉันมาตลอด”

ใต้คอมเมนต์มีแต่คำเยินยอ “สามีเธอดีกับเธอจังเลย!” “นี่สินะถึงเรียกว่าตัวอย่างสามีที่รักภรรยาของจริง!”

แต่สายตาของฉันกลับถูกดึงดูดด้วยมือข้างหนึ่งในภาพถ่าย

ประคำข้อมือเม็ดโพธิ์เส้นนั้น ช่างคุ้นตาเหลือเกิน...มันเป็นของกู้ฉีหราน

ฉันโทรหาเขา แต่คนที่รับสายกลับเป็นเจียงเหนียนเหนียน

“ดึกป่านนี้แล้ว พี่สาวโทรมาหาฉันมีธุระอะไรเหรอคะ? คงไม่ใช่ว่าคิดจะตามหาฉีหรานหรอกนะ?” น้ำเสียงของเจียงเหนียนเหนียนเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย

“เลิกหวังเถอะค่ะ คืนนี้เขาไม่กลับไปหรอก ใครใช้ให้พี่สาวคนดีของฉันมัดใจผู้ชายไม่อยู่เองล่ะ? ฉันอุตส่าห์ส่งคนไปให้ถึงที่แล้ว พี่ยังรักษาไว้ไม่ได้เลย”

ฉันวางสายอย่างเย็นชา หันไปบอกพนักงานบนเรือว่า “ออกเรือได้เลยค่ะ”

“ไม่รอคนอื่นแล้วเหรอครับ?”

ฉันตอบเสียงเบา “ไม่ต้องรอแล้วค่ะ ฉันมาคนเดียว”

เรือยอชต์ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากฝั่ง แหวกผืนน้ำในความมืดมิดของรัตติกาล มุ่งหน้าสู่ทะเลลึก

ฉันยืนอยู่บนหัวเรือเพียงลำพัง แหงนมองหมู่ดาวบนท้องฟ้า สายลมทะเลพัดปะทะร่างจนหนาวเหน็บ แสงดาวส่องประกายระยิบระยับบนผิวน้ำ

ตลอดทั้งคืน เขาไม่ได้ปรากฏตัว

ฉันพิงตัวกับดาดฟ้าเรือ สายตาเหม่อมองผืนทะเลอย่างไร้จุดหมาย ในหัวพลันปรากฏภาพความทรงจำตลอดห้าปีที่ผ่านมา

ความอ่อนโยนของเขา การอยู่เคียงข้างของเขา คำสัญญาของเขา... ทุกช่วงเวลาเหมือนเศษแก้วที่บาดลึกเข้ามาในใจ แต่สุดท้ายก็กลับมาปะติดปะต่อได้เพียงภาพที่แหลกสลาย

ภาพลวงตาทั้งหมด ความจอมปลอมทั้งปวง ในตอนนี้มันช่างน่าสมเพชและน่าขำสิ้นดี

ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ฉันโทรหาเขาเป็นครั้งสุดท้าย

ครั้งนี้ โทรศัพท์ของเขาปิดเครื่องไปแล้ว

ฉันจ้องหน้าจอ ตั้งเวลาอัปโหลดไฟล์บันทึกเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์และหลักฐานวิดีโอตอนที่ฉันวาดภาพนั้น

หลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้น ฉันเดินไปที่ท้ายเรือ มองแสงรุ่งอรุณที่ขอบฟ้าเป็นครั้งสุดท้าย

จากนั้น ก็กระโจนลงไปในน้ำทะเลที่เย็นเฉียบ

อีกด้านหนึ่ง กู้ฉีหรานรีบร้อนออกมาจากบ้านเจียงเหนียนเหนียน ขณะที่เดินก็พูดไปด้วยว่า “ผมต้องไปแล้ว พรุ่งนี้วันเกิดเธอ ผมสัญญาว่าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเป็นเพื่อนเธอ”

เจียงเหนียนเหนียนขวางเขาไว้อย่างไม่พอใจ “อาหราน ตอนนี้ฉันก็ต้องการคุณเหมือนกันนะ...”

กู้ฉีหรานส่ายหน้า “ไม่ได้ วันนี้ไม่ได้เด็ดขาด”

ในตอนนั้นเอง ผู้ช่วยของเขาก็ตามหาเขาจนเจอ

“ท่านประธานครับ คุณผู้หญิงกระโดดลงทะเลครับ!”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้ามพันธนาการรัก สู่ชีวิติใหม่   บทที่ 10

    ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยการอ้อนวอนและความต่ำต้อย ราวกับว่าขอเพียงได้อยู่ข้างกายฉัน เขาก็พร้อมจะยอมทุกอย่างในตอนนั้นเอง โจวหยางก็เอ่ยขึ้น น้ำเสียงสงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความเฉียบคม “คุณกู้ครับ ถึงแม้ผมจะไม่ทราบเรื่องราวระหว่างพวกคุณ แต่ผมคิดว่า การที่จะอยู่ข้างกายคุณหรือไม่นั้น ก็คงต้องขึ้นอยู่กับความเห็นของเธอ คุณเอาแต่พูดถึงความรู้สึกของตัวเอง แต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่า จริง ๆ แล้วเธอต้องการอะไรกันแน่?”กู้ฉีหรานชะงักไป อ้าปากค้าง แต่กลับพูดอะไรไม่ออกฉันมองเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งแต่เด็ดเดี่ยว “กู้ฉีหราน ไม่ว่าจะอย่างไร ห้าปีนั้นมันก็ผ่านไปแล้ว ต่อให้ฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉันก็คิดว่า...คุณไม่ใช่ทางเลือกของฉันอีกต่อไปแล้ว”สีเลือดบนใบหน้าของเขาค่อย ๆ จางหายไป แต่ฉันยังคงพูดต่อ “อย่าบีบให้ฉันต้องมองว่าทุกสิ่งทุกอย่างในอดีตของเราเป็นความผิดพลาดเลย หรือว่าคุณอยากให้ฉันตายไปจริง ๆ ถึงจะยอมปล่อยฉันไปอย่างสมบูรณ์?”“อย่า!” เขาพูดขัดฉันขึ้นมาทันที ในแววตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง น้ำเสียงเจือไปด้วยการวิงวอน“เสี่ยวจิ่น ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้วจริง ๆ ขอแค่คุณอยู่ดีมีสุข อย่าจากผมไป

  • ข้ามพันธนาการรัก สู่ชีวิติใหม่   บทที่ 9

    แต่กู้ฉีหรานกลับไม่สนใจคำพูดของเจียงเหนียนเหนียนเลยแม้แต่น้อย สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่ฉันไม่ละไปไหนน้ำเสียงของเขาเจือไปด้วยการอ้อนวอน “เสี่ยวจิ่น ฟังผมนะ ผมเสียใจจริง ๆ ผมผิดเองที่ไม่เคยเห็นค่าคุณ ขอร้องล่ะ ให้โอกาสผมอีกครั้งได้ไหม”“โอกาสเหรอ?” ฉันหัวเราะเยาะ สายตาเย็นชา “กู้ฉีหราน ตอนนี้คุณยังคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์มาพูดคำนี้กับฉันอีกเหรอ?”“ผมรู้ว่าผมผิด ผมไม่ควรละเลยคุณ ไม่ควรเชื่อคำพูดของคนอื่น ความผิดทั้งหมดเป็นของผมเอง ผมยินดีที่จะแก้ไข ขอร้องล่ะ ยกโทษให้ผมเถอะนะ...”น้ำเสียงของเขาค่อย ๆ แผ่วลง จนแทบจะเป็นการขอร้อง “ขอแค่คุณยอม ผมยอมทำทุกอย่าง”เมื่อเจียงเหนียนเหนียนเห็นดังนั้นก็ร้อนรนจนหน้าถอดสี เธอสะกดกลั้นความโกรธแล้วพูดแทรกขึ้น “อาหรานคะ พี่เคยบอกว่าพี่รักฉันคนเดียว พี่...”“หุบปาก!” กู้ฉีหรานพูดขัดเธอขึ้นมาอย่างเย็นชา ในแววตาเต็มไปด้วยความเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ฉันพูดกับเธอชัดเจนไปนานแล้ว ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร มันก็ไม่เกี่ยวกับฉันอีกต่อไป”เจียงเหนียนเหนียนราวกับถูกตบหน้าอย่างแรง สีหน้าซีดเผือดในทันที เธอตะโกนอย่างไม่ยอมแพ้ “อาหรานคะ พี่จะทำกับฉันแบบนี้ไม่ไ

  • ข้ามพันธนาการรัก สู่ชีวิติใหม่   บทที่ 8

    ยังไม่ทันสิ้นเสียง เธอก็พุ่งเข้ามาทันทีฉันใช้สัญชาตญาณปกป้องเด็ก ๆ ที่อยู่ข้างหลัง ทำให้หลบไม่ทัน ถูกมือของเธอคว้าเสื้อไว้แน่น เล็บของเธอข่วนแขนฉันจนเป็นรอยเลือดหลายรอย“หยุดนะ!” ฉันตวาด แต่เธอกลับเหมือนคนบ้า อารมณ์สูญเสียการควบคุมโดยสิ้นเชิง และผลักฉันล้มลงกับพื้นอย่างแรงพวกเด็ก ๆ กรีดร้องด้วยความตกใจโจวจวิ้นน้ำตาคลอเบ้า แต่ก็ยังแอบวิ่งเข้ามาใช้กำปั้นเล็ก ๆ ต่อยเธอไปหนึ่งที “อย่ามาตีคุณครูนะ!”เจียงเหนียนเหนียนชะงักไปเมื่อถูกต่อย จากนั้นก็ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ไอ้เด็กเวร แม้แต่แกก็กล้าแตะต้องฉันเหรอ?”เธอเงื้อมือขึ้นจะตบโจวจวิ้น ฉันรีบลุกขึ้นพุ่งเข้าไปปกป้องเขาไว้ และรับฝ่ามือนั้นแทนเขาอย่างจังความเจ็บปวดแสบร้อนแล่นไปทั่วหัวไหล่ แต่ฉันก็ยังคงปกป้องเด็ก ๆ ไว้แน่น พร้อมกับตะคอกเสียงดัง “พอได้แล้ว! เจียงเหนียนเหนียน ถ้าเธอยังเป็นแบบนี้อีก ก็รอให้กฎหมายมาจัดการเธอเถอะ!”เธอหัวเราะเยาะ ในแววตาเต็มไปด้วยการดูถูก “เจียงจิ่น เธอหนีได้ชั่วคราว แต่หนีไม่ได้ตลอดไปหรอก! วันนี้แหละฉันจะทำให้เธอต้องชดใช้!”ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังมาจากหน้าประตูโจวหยางพุ่งเข้ามาเขาไม่

  • ข้ามพันธนาการรัก สู่ชีวิติใหม่   บทที่ 7

    ”ลองดูเถอะครับ ภาพวาดของคุณมีค่าพอที่จะให้คนอื่นได้เห็นมากกว่านี้”คืนนั้น ฉันหยิบพู่กันที่ไม่ได้จับมานานออกมาบนผ้าใบ ท้องทะเลค่อย ๆ ปรากฏขึ้นอย่างช้า ๆ บนท้องฟ้าเป็นแสงแรกของยามรุ่งอรุณ ผิวน้ำระยิบระยับสะท้อนเงาของฉันเมื่อฉันตวัดพู่กันเป็นครั้งสุดท้าย ฉันก็พลันเข้าใจในทันทีว่า ภาพวาดนี้ไม่ได้วาดเพื่อเขา ไม่ได้วาดเพื่อใคร แต่เพื่อตัวฉันเองในวันแสดงภาพวาด ผลงานของฉันได้รับการยอมรับอย่างสูงจากคณะกรรมการพรสวรรค์ที่ถูกทอดทิ้งมานานหลายปี ในที่สุดก็ได้ปรากฏสู่สายตาชาวโลกอีกครั้งฉันคิดว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่กลับไม่คาดคิดว่า “การกลับมา” ครั้งนี้จะทำลายชีวิตอันสงบสุขของฉันลงโดยสิ้นเชิงวันหนึ่งขณะที่กำลังสอน ฉันกำลังอธิบายเรื่องการจับคู่สีให้กับเด็ก ๆภายในสตูดิโอ แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา เด็ก ๆ กำลังระบายสีกันอย่างเงียบเชียบ บรรยากาศทั้งหมดเต็มไปด้วยความสงบสุขที่ห่างหายไปนานทันใดนั้น ประตูสตูดิโอก็ถูกผลักเปิดออกอย่างแรง และมีคนหนึ่งพุ่งเข้ามา“เจียงจิ่น!”ฉันเงยหน้าขึ้น และตกตะลึงในทันทีคนที่พุ่งเข้ามาคือเจียงเหนียนเหนียน เธออุ้มท้องโต ใบหน้าซ

  • ข้ามพันธนาการรัก สู่ชีวิติใหม่   บทที่ 6

    เขาเริ่มหวนรำลึกถึงความหลัง แต่ฉันกลับค่อย ๆ เดินจากไปไกล“คุณครูครับ คุณครูกำลังดูอะไรอยู่เหรอครับ?” โจวจวิ้น เด็กชายตัวน้อยที่อยู่ข้าง ๆ ชะโงกหน้าเข้ามาดูด้วยความสงสัยฉันรีบปิดหน้าจอโทรศัพท์ แล้วพูดเสียงเบา “ไม่มีอะไรจ้ะ ภาพวาดลายเส้นของเธอยังไม่เสร็จเลยนะ รีบไปวาดต่อเถอะ”“คุณครูครับ” เขาเอียงคอถามฉัน “คุณครูไม่สบายใจหรือเปล่าครับ?”ฉันชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา “ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ เธอคิดมากไปแล้ว”โจวจวิ้นวิ่งจากไป ฉันจ้องหน้าจอโทรศัพท์ในมืออย่างเหม่อลอยใช่ ฉันไม่สบายใจแต่ไม่ใช่เพราะคนเหล่านั้น แต่เป็นเพราะข่าวพวกนี้ดึงฉันกลับไปสู่อดีตที่เต็มไปด้วยคำโกหกและการทรยศหักหลังวันหนึ่ง ขณะที่ฉันกำลังสอนเด็ก ๆ อยู่ในสตูดิโอ ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาเขายืนอยู่ที่ประตู ในมือถือช่อดอกไม้ขนาดใหญ่“สวัสดีครับ ผมเป็นอาของโจวจวิ้น ผมชื่อโจวหยางครับ”“นี่สำหรับคุณครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ระมัดระวัง “จวิ้นจวิ้นชอบเรียนกับคุณครูมาก นี่เป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากผมครับ”ฉันเหลือบมองดอกไม้เหล่านั้น พยักหน้า แต่ไม่ได้รับมา แล้วพูดเรียบ ๆ ว่า “ฉันไม่รับของขวัญค่ะ”เขาชะงักไปเล็กน้

  • ข้ามพันธนาการรัก สู่ชีวิติใหม่   บทที่ 5

    ไม่มีใครรู้ว่าฉันซ่อนตัวอยู่ที่ไหน และก็ไม่มีใครรู้ว่า จริง ๆ แล้วฉันเตรียมใจที่จะอยู่คนเดียวไปจนแก่เฒ่าแล้วตอนที่ย้ายมาเมืองนี้แรก ๆ ฉันปฏิเสธที่จะพูดคุยกับใครไม่ว่าจะซื้อของ จ่ายค่าเช่าบ้าน หรือแม้แต่จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ฉันจะพยายามใช้คำพูดที่สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ผู้คนคิดว่าฉันเป็นคนเย็นชาและแปลกประหลาด นานวันเข้าก็เลยไม่มีใครสนใจฉันอีกซึ่งก็ตรงกับความต้องการของฉันพอดีฉันใช้เงินเก็บเปิดสตูดิโอสอนวาดภาพเล็ก ๆ ที่สอนเฉพาะเด็ก ๆครั้งหนึ่งฉันเคยคิดว่าพรสวรรค์ของฉันมีไว้เพื่อยืนอยู่ใต้แสงสปอตไลท์ในงานแสดงภาพวาด มีไว้เพื่อรับเสียงปรบมือและคำชื่นชมจากผู้คนนับไม่ถ้วนแต่ตอนนี้ ฉันแค่อยากจะวาดเส้นสายง่าย ๆ อย่างเงียบ ๆ และสอนเด็กไร้เดียงสาสักสองสามคนหนึ่งเดือนต่อมา คนจากบริษัทบริการแกล้งตายโทรมาบอกฉันว่า “ช่วงนี้กู้ฉีหรานกำลังตามหาคุณอยู่ครับ”“ตามหาฉันเหรอ?” ฉันหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดอย่างเย็นชา “ฉันตายไปแล้ว เขาจะมาตามหาฉันทำไม?”“เขาไปที่แกลเลอรีของคุณ แล้วก็พยายามติดต่อเพื่อนเก่า ๆ ของคุณด้วยครับ” พนักงานกล่าว “แต่วางใจได้เลย มาตรการป้องกันของเราแน่นหนามาก เขาไม่มีทางหาอะไรเจอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status